มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
ในช่วงเย็นของมหาลัยดังในตอนนี้เหล่านักศึกษาต่างก็เดินกันประปรายไม่ได้ครึกครื้นเหมือนช่วงเช้าเพราะบางคนก็มีเรียนกันแค่ช่วงบ่าย
"วันนี้ฉันปวดสมองมากเลยเอย" ทรายแก้วหญิงสาวปีหนึ่งของคณะบริหารร่างบางอ้อนแอ้นนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนยกแก้วน้ำปั่นขึ้นดื่มอึกใหญ่อย่างชื่นใจคุยกับเพื่อนสาวหน้าหวานตรงหน้าหลังจากที่เรียนกันมาทั้งวัน
ทรายแก้ว หญิงสาววัย 18
เป็นลูกสาวเจ้าของร้านขนมหวานเล็กๆอยู่ชานเมืองสมุทรปราการตอนนี้พักอยู่หอพักหญิงในมหาลัยกลับบ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์เธอทำแบบนี้มาตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่กรุงเทพแล้ว
ทรายแก้วหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งผิวขาวเหลืองใบหน้าเรียวรูปไข่ตาโตคิ้วเข้มปากนิดจมูกหน่อยผมสีน้ำตาลยาวสลวยถึงกลางหลังหญิงสาวเป็นคนค่อนข้างซนอยู่พอสมควรรู้จักกับเจ้าเอยและเกวรินทร์ตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่โรงเรียนเดียวกันและเป็นเพื่อนรักกันมาจนถึงทุกวันนี้
"นี่ก็ได้พักแล้วไง" เจ้าเอยอมยิ้มอ่อนก่อนจะยกหนังสือขึ้นมาอ่านต่อนิดหน่อยระหว่างที่รอเพื่อนอีกคนของเธอไปซื้ออะไรมากินกันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ
"มาแล้วๆ.." เกวรินทร์กองห่อขนมที่เธอไปหอบซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อในมหาลัยเต็มโต๊ะจนแทบไม่มีที่วาง
เกวรินทร์ หญิงสาววัย 18
หญิงสาวเป็นคนผอมแห้งสูง160 ผิวสีน้ำผึ้งใบหน้ากลมแก้มป่องผมสีน้ำตาลเข้มหยักศกยาวถึงกลางหลังคิ้วบางได้รูปตากลมหางตาเฉี่ยวเหมือนลูกแมวจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากบางเป็นกระจับ
หญิงสาวเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพคั้งแต่ ม.ปลายค่อนข้างเป็นผู้หญิงที่แก่นแก้วไม่ค่อยยอมคนเท่าไรแต่ก็ซื่อเกินกว่าจะทันเล่ห์เหลี่ยมของคนเมืองบางคนอยู่ดี
"นี่ใครจะกินหมดกัน" เจ้าเอยมองเกวรินทร์ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
"นั่งกินนั่งคุยกันไปยาวๆไง” เกวรินทร์พูดพร้อมยกห่อขนมซองโตแกะเข้าปากด้วยใบหน้าระรื่น
RrrrrRrrrr
“สวัสดีค่ะ..อะไรนะคะ.."
“เป็นอะไรเอย” ทรายแก้วและเกวรินทร์ต่างละมือจากขนมมองหน้าเจ้าเอยด้วยความสงสัยเพราะหลังจากที่เจ้าเอยวางหูจากสายเมื่อครู่ได้ก็หน้าซีดหน้าเซียวนิ่งอึ้งไม่ยอมพูดอะไร
“พี่โอบเกิดอุบัติเหตุในสนามแข่งกำลังโคม่า” ริมฝีปากบางเอ่ยเสียงสั่นก่อนน้ำตาหยดน้อยจะเริ่มไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสายสองสาวที่นั่งฟังอยู่ก็มีสีหน้าตกใจไปตามๆกันเมื่อรู้ข่าว
เจ้าเอยคิดเอาไว้แล้วว่าอิทธิกรพี่ชายของเธอจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นสักวันเธอขอให้เขาเลิกอาชีพนี้แต่พี่ชายเธอก็ไม่ยอมเลิกเสียทีอ้างแต่ว่าสามารถหาเงินจากทางนี้ได้มากกว่างานประจำ
วันต่อมา
เหนือเมฆชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทราคาแพงเดินดุ่มๆเข้ามาในคลับของนักแข่งที่น่านน้ำน้องชายของเขาสร้างเอาไว้
เหนือเมฆออกจากโรงพยาบาลหลังจากเยี่ยมน่านน้ำได้ก็ตรงเข้ามาที่นี่เพื่อมาหาเหล่าเพื่อนๆของน่านน้ำสอบถามว่าเรื่องที่น้องของเขาเกิดอุบัติเหตุในสนามแล้วโคม่าเป็นเพราะอะไร
"เกิดอะไรขึ้น" สายตาดุดันจ้องมองมายังชายหนุ่มกับอีกหนึ่งสาวตรงหน้าที่เอาแต่นั่งก้มหน้างุดไม่ยอมตอบอะไร
"น่านกับพี่โอบแข่งรถกันค่ะไม่รู้ว่ารถของพี่โอบผิดพลาดอะไรรถของพี่โอบถึงเสียหลักชนน่านจนเละกันทั้งคู่แบบนี้" เป็นมีนาที่เป็นเพื่อนสนิทและคู่ขาบางครั้งของน่านน้ำเอ่ยโพร่งออกมาขณะที่ทุกคนเอาแต่นิ่งเงียบ
"อืม..ฉันจะได้จัดการให้ถูกตัว" เหนือเมฆกำมือแน่นที่รู้ว่าความผิดพลาดเกิดจากอิทธิกรจากเดิมที่เขาไม่ชอบหน้าชายหนุ่มเพราะอิทธิกรได้ใจผู้หญิงที่เขาเฝ้าตามจีบไปครานี้เขายิ่งรู้สึกเกลียดที่อิทธิกรทำให้น้องชายของเขาต้องเจ็บปางตาย
“เข้าใจพูดดีนี่” หลังจากที่เหนือเมฆเดินออกไปแล้วมาร์คชายหนุ่มร่างสูงนักแข่งรถคู่หูของน่านน้ำตั้งแต่สมัยเรียนเปรยสายตามองมีนาด้วยสายตามีเลศนัยก่อนจะเดินออกจากห้องไป
22.00
หลังเลิกเรียนวันนี้เกวรินทร์และทรายแก้วก็ขลุกรวมกันอยู่ที่บ้านหลังสีขาวริมแม่น้ำของเจ้าเอยเพราะกลัวเพื่อนตัวเองอยู่คนเดียวแล้วจะฟุ้งซ่าน
"ฮือๆๆ.. ฉันจะเอาเงินที่ไหนมาผ่าตัดพี่ชายฉัน" เจ้าเอยมืดแปดด้านนั่งร้องให้ตัวโยนมาพักใหญ่ในห้องนอนหลังจากที่เธอเห็นสภาพพี่ชายนอนมีแต่สายระโยงระยางเต็มตัวก็หดหู่ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ก็ยังไม่หาย
"ฉันกับเกวจะลองยืมเงินคนที่บ้านให้พวกท่านน่าจะพอมีบ้าง" ทรายแก้วคุยกับเกวรินทร์คุยกันตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าจะใช้วิธีนี้ช่วยพี่ชายของเจ้าเอย
"ฉันขอบใจพวกแกมากเลยแต่ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกฉันรู้ว่าทางบ้านแกสองคนก็ลำบากมากอยู่เหมือนกัน" เจ้าเอยรู้เจตนาดีของเพื่อนๆแต่เธอก็อยากให้เพื่อนๆของพวกเธอเก็บเงินเอาไว้เพราะรู้ว่าทางบ้านของเพื่อนเธอทั้งสองก็มีปัญหาเรื่องการเงินอยู่เหมือนกัน
"ลองให้พี่อินช่วยดีหรือเปล่า" ทรายแก้วเสนอขึ้นมาเพราะรู้ว่าเงินหกเจ็ดแสนค่าผ่าตัดอิทธิกรคุณหนูไฮโซอย่างอินทิราคงจะช่วยได้เพราะคนเป็นแฟนกันคงต้องช่วยกันอยู่แล้ว
"พี่โอบบอกเลิกพี่อินไปนานแล้ว" เมื่อพูดถึงอินทิราเจ้าเอยก็ก้มหน้างุดเพราะการเลิกลาของพี่ชายเธอและอินทิราเป็นเรื่องที่ไม่ดีนักและตอนนี้ทั้งคู่ก็เลิกกันมาเป็นปีแล้วด้วย
"อ้าว.. ทำไมล่ะ" ทั้งเกวรินทร์และทรายแก้วก็ตกใจไปตามๆกันเพราะยังคิดว่าทั้งสองคนยังคบกันอยู่
"พ่อแม่ของพี่อินมาขอร้องให้พี่โอบเลิกกับลูกสาวเค้าเพื่อที่จะให้พี่อินมีอนาคตที่ดี" เรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลยที่เจ้าเอยยอมปริปากบอกเพื่อนทั้งสองของเธอ
"แล้วพี่โอบก็ยอมอย่างนั้นหรอก" เกวรินทร์ขมวดคิ้วเป็นปมไม่คิดว่าเรื่องกีดกันความรักแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว
"พี่โอบรักพี่อินเกินกว่าจะฉุดพี่อินลงมาอยู่ด้วย" เจ้าเอยเอ่ยเสียงอ่อนจะว่าไปชีวิตรักของพี่ชายเธอก็น่าสงสารตั้งแต่เลิกกับอินทิราไปพี่ชายเธอก็ไม่สนใจใครอีกเลย
"นี่พี่อินก็ไม่รู้สาเหตุนี้ใช่ไหม" ทรายแก้วเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนเพราะเชื่อว่าหากอินทิรารู้ก็คงไม่ยอมไปจากอิทธิกรง่ายๆ
"อืม.." เจ้าเอยพยักหน้าเบาๆ
วันต่อมา"โอบ.." อินทิราหญิงสาววัย30ปียืนมองคนในห้องกระจกด้วยแววตาไหววูบแม้นอิทธิกรจะไล่ให้เธอเลิกกับเขาแต่ทุกวันนี้เธอก็ยังทำใจลืมเขาไปไม่ได้เสียทีจากที่รู้เรื่องเขาไม่นานเธอก็ตัดสินใจรีบบินกลับมาที่เมืองไทยกะทันหันเพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าของเขาอีก"พี่อิน.." เจ้าเอยเดินเอ้อระเหยมาที่โรงพยาบาลในช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเมื่อมายืนหน้าห้องไปซียูได้เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นอินทิรายืนอยู่ที่นี่ก่อนจะรีบเข้าไปทัก"เอย" อินทิรายกมือเรียวปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะยิ้มอ่อนให้น้องสาวที่แสนน่ารักที่ไม่ได้เจอกันนาน"พี่อินกลับจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อไรคะ" เจ้าเอยกับอินทิรามานั่งคุยกันที่ลานสวนหย่อมของโรงพยาบาล"พี่รู้ข่าวโอบพี่ก็กลับมาเลยเอยต้องการให้พี่ช่วยเหลืออะไรหรือเปล่าพี่ยินดีช่วยนะเอย" อินทิราไม่ติดใจเรื่องเก่าก่อนที่อิทธิกรร้ายกับเธอเพราะยังมีใจเป็นห่วงอิทธิกรอยู่ไม่น้อยและเธอก็ยินดีช่วยครอบครัวของอิทธิกรเสมอ"เอ่อ.. ไม่มีอะไรหรอกค่ะเอยจัดการทุกอย่างได้ขอบคุณพี่อินมากๆเลยนะคะที่ยังเป็นห่วงพวกเรา" เจ้าเอยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะฝืนยิ้มออกมาปฏิเสธอินทิราเพราะคิดว่าหากพี่ชายเธอรู้ว่าเธอให้อินทิรายื
“ไม่นะ..มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ” หลังจากวางสายได้สาวเจ้าก็สะอึกสะอื้นตัวโยนก่อนจะตัดสินใจวิ่งออกไปข้างนอกพร้อมกระเป๋าก่อนจะกดมือถือโทรหาเหนือเมฆอย่างไม่ลังเลตอนนี้ชีวิตพี่ชายเธอสำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้นแม้กระทั่งศักดิ์ศรีของเธอ“สวัสดีครับ..” เหนือเมฆที่ขับรถออกมาจอดไม่ไกลจากบ้านของเจ้าเอยมากนักเมื่อเห็นมีสายเข้ามาจึงรู้ทันทีว่าเป็นเบอของเจ้าเอยแต่ก็ยังเอ่ยกับสายที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่รู้"เอยเองนะคะคุณเหนือ..คุณจะให้เงินรักษาพี่ชายเอยจริงๆใช่หรือเปล่าคะ" ทางด้านเจ้าเอยตอนนี้วิ่งออกนอกบ้านมาด้วยโทรคุยไปด้วย"อืม..จนกว่าจะหายดีเลยล่ะ""เอย...ตกลงค่ะ""ดี...ฉันจอดรถอยู่ตรงซอยXXมาหาฉันเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ" ว่าจบก็กดวางสายก่อนจะนั่งรออย่างใจเย็นไม่นานนักดวงตาคมก็มองกระจกข้างด้วยสีหน้าพึงพอใจที่เห็นร่างบางวิ่งเข้ามาหาก๊อกๆๆ เจ้าเอยวิ่งมาเคาะกระจกรถราคาแพงของเหนือเมฆด้วยอาการเหนื่อยหอบเพราะรีบวิ่งมาสุดชีวิต"ขึ้นมากับฉัน" เหนือเมฆลดกระจกลงก่อนจะบอกให้หญิงสาเข้ามานั่งคุยกันในรถ“คุณเหนือช่วยพาเอยไปทำเรื่องที่โรงพยาบาลก่อนได้หรือเปล่าคะ” เสียงหวานพูดขึ้นมาด้
"......" ร่างบางยืนเงียบด้วยใบหน้าห่อเหี่ยวครู่หนึ่งก่อนจะลากกระเป๋าที่เขาเตรียมมาให้เธอไปที่หน้าห้องน้ำและเข้าไปจัดการตัวเองตามคำสั่งที่เขาบอกด้วยความลำบากใจ"หา..." มือน้อยที่ค้นกระเป๋าเสื้อผ้าที่ชายหนุ่มเตรียมมาให้เธอถึงกับแทบจะร้องให้เพราะในกระเป๋าไม่มีเสื้อผ้าในแบบคนปกติใส่ในชีวิตประจำวันเลยสักชิ้นมีแต่ชุดนอนวาบหวิวหลากสีที่เธอเห็นแล้วก็อายจนหน้าแดง"ชุดนี้ละกัน" เมื่อเลือกอยู่พักใหญ่จึงได้ชุดเดรสสายเดี่ยวตัวยาวสีขาวที่คลุมทั้งตัวก็จริงแต่ก็เป็นซีทรูที่บางจนเห็นทะลุปรุโปร่งหญิงสาวเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับชุดซีทรูบางกับอีกชุดที่เป็นชุดชั้นในวาบหวิวสีดำที่ดูจะปกปิดของสงวนมิดชิดดีกว่าตัวอื่นและผ้าขนหนูผืนขาวสองผืนอีกผืนคิดว่าเอาไว้เช็ดตัวและอีกผืนเธอจะเอาไว้ใช้คลุมตอนนี้คงจะแก้ขัดเขินของเธอได้พอสมควร"หึ่.." ดวงตาคมจับจ้องร่างบางพักใหญ่เมื่อสาวเจ้าเข้าห้องน้ำไปได้เขาก็สบถขำอย่างพึงพอใจใจจริงเขาไม่ได้คิดอยากจะช่วยชีวิตของอิทธิกรแม้แต่น้อยเพราะไม่ชอบหน้าด้วยเรื่องหมางใจกันแต่ก่อนทั้งตอนนี้อิทธิกรยังทำน้องเขาเจ็บปางตายอีกแต่คิดไปคิดมาการที่จะปล่อยให้อิทธิกรตายมันก็คงจะทรมานน้อยไปหากอิ
"เอ่อ..." ร่างบางเขยิบห่างคนตัวโตเล็กน้อยตอนนี้ทั้งหน้าทั้งตัวชาวาบไปหมดเพราะเข้าใจคำถามของเขาว่าต้องการอะไร"เธอเคยมีอะไรกับใครมาก่อนหรือเปล่า" ว่าจบก็ผลักร่างบางนอนราบไปกับเตียงใช้แขนแกร่งกดตัวเธอเอาไว้"ไม่ค่ะ.." ใจของเจ้าเอยตอนนี้เต้นแรงโครมครามแข่งกับเสียงฟ้าเสียงฝนที่กำลังกระหน่ำจนแทบออกมาอยู่ข้างนอกและรีบหันหน้าหนีคนที่กำลังยื่นใบหน้าคมเข้มเข้ามาใกล้"ดูไปดูมาเธอก็น่ารักไม่น้อยเลยไม่มีใครจีบเธอบ้างหรือไง" ดวงตาคมไล่มองใบหน้าหวานใกล้ๆเขายอมรับความจริงที่ว่าเธอดูน่ารักไม่น้อยเพราะมีทั้งดวงตาที่กลมโตขนตาที่งอนยาวปากนิดจมูกหน่อยแก้มพองมีรักยิ้มนับว่าเป็นของเล่นชิ้นโบว์แดงที่เขาจะมีเอาไว้เลยก็ว่าได้แล้วก็อยากจะรู้นักว่าหญิงสาวที่ดูน่ามองคนนี้จะไม่มมีใครเข้ามาจีบบ้างหรืออย่างไร"ไม่ค่ะเอยไม่ได้สนใจใคร" เจ้าเอยตอบไปตามความจริงเธอไม่ได้คิดจะสนใจใครเพราะอยากตั้งใจเรียนให้มันจบแล้วเรื่องคนรักก็ค่อยว่ากันอีกที"ดีแล้ว..งั้นฉันจะลองดูซิว่าเธอจะสะอาดเอี่ยมอ่องอยู่อย่างที่ปากพูดหรือเปล่า" จมูกโด่งไล่ดอมดมลำคอระหงส์กลิ่นหอมอ่อนๆของเธอทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายบวกกับปลุกอารมณ์ไปในคราเดียวมื
"เอ่อ.." ใบหน้าหวานตกใจพอสมควรกับขนาดของคนตัวโตเธอรีบหันหน้าหนีเพราะอายเกินกว่าจะจ้องมันอยู่แบบนี้ทั้งยังไม่อยากจะคิดว่าหากมันเข้าไปอยู่ในตัวของเธอจะทรมานหรือจะมีความสุขอย่างที่เธอเคยได้ยินคนอื่นพูดกัน"อืม..." ชายหนุ่มโน้มตัวกอดร่างบางอีกรอบบดจูบเธอพักใหญ่ก่อนจะค่อยๆดันเจ้าแท่งร้อนบดเบียดร่องสวาทที่ปิดสนิทและค่อนข้างแห้งผาดอย่างยากลำบาก"อื้อ..." ร่างบางเริ่มอยู่ไม่สุขเมื่อรู้สึกเจ็บเหมือนมีใครกำลังเอามีดมากรีดของสงวนของเธอ"อดทนไว้ก่อน" เหนือเมฆกัดฟันเอ่ยเสียงกระเส่าเพราะเขายังไม่สามารถดันตัวตนของเขาเข้าไปข้างในตัวเธอได้แถมความคับแน่นของหญิงสาวก็บีบรัดแท่งร้อนของเขาจนปวดหนึบ"อ..อ๊ายยยย...อือ..ออกไปก่อนค่ะ" ไม่นานนักคนตัวโตก็จัดการบดเบียดแท่งร้อนจนสุดลำได้สำเร็จความเจ็บจุกแผ่ซ่านไปทั่วตัวหญิงสาวจนเธอกรีดร้องออกมาจนสุดเสียงน้ำตาหยดน้อยไหลพรากมือน้อยที่กำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อครู่คลายออกเพราะหมดแรงที่จะเกาะก่ายด้วยความเจ็บที่มากเกินจะบรรยาย"อืม.." ดวงตาคมก้มมองจุดเชื่อมต่อเห็นหยดเลือดแดงฉานไหลออกมาแค่รู้ว่าเธอบริสุทธิ์อย่างที่พูดก็รู้สึกภูมิใจและสบายใจไปในคราเดียวกันเมืื่อรู้ว่า
"ขอบคุณตัวเธอเองเถอะ...ฉันได้เธอส่วนเธอได้ชีวิตพี่ชายเธอถือว่าหายกัน" มือหนาจับมือของหญิงสาวทีากำลังยกมือไหว้เขาเหนือหัวเหมือนไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ลดมือลง"...จริงด้วยค่ะงั้นเอยก็ไม่ต้องขอบคุณคุณเหนือสินะคะ..." เรื่องข้อแลกเปลี่ยนของเขาเธอเองก็ลืมไปชั่วขณะมัวแต่ดีใจที่เงินของเขาช่วยพี่ชายเธอได้"อืม...หิวหรือเปล่า" "ไม่ค่ะ" ใบหน้าหวานส่ายหัวหงึกหงัก"ไม่หิวก็ต้องหิวอาหารวางรออยู่ที่โต๊ะแล้ว" "ถ้าจะบังคับให้เอยกินข้าวจะถามเอยทำไมล่ะคะ" สาวเจ้าบุ้ยหน้าเหลือกตามองคนตัวโตอย่างไม่เข้าใจหากเขาคิดจะบังคับแล้วจะถามเธอเพื่ออะไร"ยอกย้อนฉันหรอก" ว่าจบก็อุ้มร่างบางออกไปข้างนอกเพื่อจะไปนั่งทานข้างเช่นเดิม"เปล่านะคะ... " แขนเรียวตวัดรัดลำคอของเหนือเมฆทั้งริมฝีปากบางยังบ่นอู้อี้ที่เขาหาว่าคำถามของเธอคือคำที่ยอกย้อน เหนือเมฆยังคงให้หญิงสาวนั่งตักของเขาอีกเช่ยเคยเพียงแต่ตอนนี้เธอมีแรงตักอาหารทานเองได้แล้วเขาไม่จำเป็นต้องป้อน"ทานนี่สิ" ชายหนุ่มยื่นช้อนตักผัดผักใส่ในจานของหญิงสาวเพราะเห็นเธอทานแต่ข้าวเปล่ากับไข่เจียวเท่านั้น"เอยไม่ชอบผักค่ะ" เมื่อเห็นผักอยู่ในจานใบหน้าหวานก็หน้ามุ่ย
"อืม...คุณเหนือ" เมื่อพาร่างบางเข้าห้องมาได้เขาก็จัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออกก่อนจะห่มร่างของเขาและเธอด้วยผ้านวมผืนหนาเริ่มซุกไซร้ดอมดมซอกคอระหงส์วางมือหนาบีบเค้นเต้างามจนร่างบางรู้สึกตัวตื่นมาอีกครั้ง"เธอยั่วฉันเองนะ" เสียงแหบพร่าก่ายกระซิกข้างใบหน้านวลขณะที่มือหนาตวัดชั้นในตัวจิ๋วของหญิงสาวออกให้พ้นทางก่อนจะแทรกลำขาแกร่งกลางขาเรียวทั้งสอง"อื้มม...คุณเหนือ..เอยยังไม่หายเจ็บค่ะ" ใบหน้าหวานหันหน้าหนีเมื่ออีกฝ่ายบดจูบคืนนี้เธอง่วงเต็มทนทั้งยังไม่หายเจ็บที่ของสงวนจึงงอแงเล็กน้อย"แต่ฉันต้องการ" ว่าจบก็สอดใส่แท่งร้อนผงาดชูชันเข้าช่องทางรักโดยที่ยังไม่ทันได้เล้าโลมร่างบางนานเท่าไรส่งผลให้ความเจ็บแผ่ซ่านทั่วตัวหญิงสาวจนต้องกรีดร้องออกมาเสียงหลง"อ.. อ๊ายย... อืม.." เสียงกรีดร้องระบายความเจ็บถูกกลืนด้วยริมฝีปากหนาที่เริ่มบดจูบหญิงสาวอีกรอบพร้อมขยับสะโพกแกร่งไปในคราเดียวกัน"อื้อ.." มือเรียวจิกลำแขนแกร่งหนึบน้ำตาคลอเบ้าเพราะความเจ็บเมื่อคนตัวโตยกขาเรียวข้างหนึ่งของเธอพาดบ่าและกระแทกสะโพกรัวเป็นจังหวะเร่าร้อน"ฮือๆๆ.." ตอนนี้เจ้าเอยเอาแต่ร้องให้แต่เสียงก็ยังอยู่ในลำคอของอีกฝ่ายที่บดจูบเธอ
หลังจากทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้วเหนือเมฆก็พาหญิงสาวขี่หลังเดินออกมาที่หลังบ้านไม่ไกลนักก็เจอลำธารที่ค่อนข้างมีทิวทัศน์ที่สวยงามสดชื่นแก่สายตาของคนที่มอง"ไม่คิดว่าหลังบ้านจะมีลำธารสวยๆแบบนี้ด้วยนะคะ" ดวงตากลมโตมองวิวทิวทัศน์แถวนี้ไม่ละวางสายตาเพราะเมื่อมาถึงที่นี่ทำให้ตัวเธอนั้นผ่อนคลายอยู่ไม่น้อย"อยากเล่นน้ำหรือเปล่า" ชายหนุ่มหันน้าถามคนที่อยู่ข้างหลัง"ค่ะ" ใบหน้านวลพยักหน้าหงึกหงัก"ฉันให้เวลาเล่นไม่นานนะเดี๋ยวเธอจะไม่สบายแล้วต้องให้ฉันดูแลอีก" ว่าจบก็ปล่อยร่างบางลงในน้ำที่ไม่ค่อยลึกมากให้เธอนั่งเล่นให้สบายอารมณ์ตอบแทนที่เธอเอาอกเอาใจเขาเมื่อตอนทานข้าวเช้า"ค่ะ...คุณเหนือมาเล่นด้วยกันสิคะ" ร่างบางค่อยๆเดินลงมาในแอ่งน้ำใสลึกประมาณเหนือเอวบางเธอมาเล็กน้อยโดยมีชายหนุ่มเดินตามแนวโขดหินมานั่งอยู่ใกล้ๆเธอไม่ห่างด้วยความอยากให้เขาลงมาเล่นกับเธอด้วยจึงดึงแขนชายหนุ่มลงน้ำขณะที่เขาเผลอเอาแต่มองธรรมชาติรอบๆ"ไม่.."ตู้มม.. ชายหนุ่มไม่ทันปฏิเสธขาดคำตัวเขาก็เอียงล่วงหล่นมาอยู่ในน้ำเรียบร้อยแล้ว"เจ้าเอย" คนตัวโตรีบยืนให้อยู่ยกมือหนาปาดน้ำที่ชุ่มอยู่บนหน้าและผมก่อนจะดุสาวเจ้าเสียงแข