"ขอบคุณตัวเธอเองเถอะ...ฉันได้เธอส่วนเธอได้ชีวิตพี่ชายเธอถือว่าหายกัน" มือหนาจับมือของหญิงสาวทีากำลังยกมือไหว้เขาเหนือหัวเหมือนไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ลดมือลง
"...จริงด้วยค่ะงั้นเอยก็ไม่ต้องขอบคุณคุณเหนือสินะคะ..." เรื่องข้อแลกเปลี่ยนของเขาเธอเองก็ลืมไปชั่วขณะมัวแต่ดีใจที่เงินของเขาช่วยพี่ชายเธอได้
"อืม...หิวหรือเปล่า"
"ไม่ค่ะ" ใบหน้าหวานส่ายหัวหงึกหงัก
"ไม่หิวก็ต้องหิวอาหารวางรออยู่ที่โต๊ะแล้ว"
"ถ้าจะบังคับให้เอยกินข้าวจะถามเอยทำไมล่ะคะ" สาวเจ้าบุ้ยหน้าเหลือกตามองคนตัวโตอย่างไม่เข้าใจหากเขาคิดจะบังคับแล้วจะถามเธอเพื่ออะไร
"ยอกย้อนฉันหรอก" ว่าจบก็อุ้มร่างบางออกไปข้างนอกเพื่อจะไปนั่งทานข้างเช่นเดิม
"เปล่านะคะ... " แขนเรียวตวัดรัดลำคอของเหนือเมฆทั้งริมฝีปากบางยังบ่นอู้อี้ที่เขาหาว่าคำถามของเธอคือคำที่ยอกย้อน
เหนือเมฆยังคงให้หญิงสาวนั่งตักของเขาอีกเช่ยเคยเพียงแต่ตอนนี้เธอมีแรงตักอาหารทานเองได้แล้วเขาไม่จำเป็นต้องป้อน
"ทานนี่สิ" ชายหนุ่มยื่นช้อนตักผัดผักใส่ในจานของหญิงสาวเพราะเห็นเธอทานแต่ข้าวเปล่ากับไข่เจียวเท่านั้น
"เอยไม่ชอบผักค่ะ" เมื่อเห็นผักอยู่ในจานใบหน้าหวานก็หน้ามุ่ยอีกรอบก่อนจะหันหน้าไปบอกกับคนตัวโตว่าเธอไม่ชอบ
"เธอโตป่านนี้แล้วยังทานผักไม่เป็นอย่างนั้นหรอก"
"เอยทานได้ค่ะแต่เอยไม่ชอบมันทานกับข้าวไม่อร่อย"
"ของอร่อยของเธอคืออะไร"
"ไก่ทอดค่ะ"
"อย่างอื่นล่ะ"
"ผลไม้กับขนมหวานค่ะ"
ดวงตาคมมองหญิงสาวด้วยสายตาที่คนมองเดาอารมณ์ไม่ออกโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
"ทำไมมองเอยแบบนั้นคะจะบอกว่าเอยเหมือนเด็กๆใช่หรือเปล่า..ไม่แปลกหรอกค่ะที่คุณเหนือจะคิดแบบนั้นเพราะพี่โอบก็บ่นกับเอยแบบนี้ตลอด" เจ้าเอยพอจะเข้าใจได้ว่าตอนนี้ในใจชายหนุ่มคิดอะไรอยู่เพราะใครที่รู้จักเธอก็ชอบบ่นแบบนี้เหมือนกันไม่เว้นแม้กระทั่งเพื่อนรักทั้งสอง
"ฉันจะบอกว่าเธอชอบพูดมาก" ริมฝีปากหนาอมยิ้มอ่อนที่เห็นว่าหญิงสาวรู้ความคิดแต่ทว่าเขาก็ไม่ได้บอกมันออกไปว่าสิ่งที่เธอคิดมันถูก
"ถ้าคุณเหนือรำคาญเอยเงียบก็ได้ค่ะ" คนถูกว่ารีบหันหน้ากลับมาสนใจจานข้าวของเธอต่อหากเขารำคาญนักเธอก็จะนั่งทานข้าวเงียบๆก็ได้
ตกดึก
ครื้นน.. ซ่าาาา
"ทำอะไรของเธอ" เหนือเมฆนอนตะแคงหันหน้ามามองหญิงสาวในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งของเขาที่กำลังนั่งพนมมือ
"สวดมนต์ก่อนนอนไงคะคุณเหนือเคยสวดบ้างหรือเปล่า" สาวเจ้าหันมาถามคนที่นอนอยู่ข้างๆตาแป๋ว
"ไม่"
"คุณเหนือต้องหัดลองสวดบ้างนะคะเผื่อจะทำให้คุณเหนือใจเย็นขึ้น"
"ฉันจะเป็นยังไงก็เรื่องของฉันไม่ต้องมาสอน" เหนือเมฆบุ้ยปากเล็กน้อย
"เอยไม่ได้สอนค่ะเอยแค่บอกเฉยๆ" ใบหน้าหวานเริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยเข้าใจชายหนุ่มดูท่าเขาจะอคติกับคำพูดของเธอเหลือเกินทั้งที่เธอก็เอ่ยแนะนำเขาดีๆ
"มันต่างกันตรงไหน"
"ต่างสิคะเพราะว่า.."
"ถ้าเธอไม่หยุดพูดฉันจะให้เธอนอนห้องมืดๆ" ชายหนุ่มยกมือชี้ใบหน้าหวานทั้งเอ่ยเสียงปนดุเล็กน้อยขณะที่สาวเจ้าพูดยังไม่ทันจบประโยคะร้อมส่งสายตาไปที่โคมไฟหัวเตียง
"ไม่พูดแล้วค่ะ" เมื่อเจอคำขู่นี้เจ้าเอยถึงกับต้องเงียบรีบพนมมือกราบที่หมอนแล้วล้มตัวลงนอนทันที
วันต่อมา
"ดีขึ้นหรือยัง" เหนือเมฆเอ่ยทักหญิงสาวที่พึ่งเดินออกมาจากห้องนอนในช่วงเช้า
"ค่ะ"
"ไปทำอาหารให้ฉันเมื่อวานฉันจัดการให้เธอแล้ว.. " ร่างสูงเดินจูงมือหญิงสาวเข้ามาในครัวที่อยู่โซนฝั่งขวาในสุดของบ้าน
"อ.. เอยทำอาหารไม่เป็นค่ะ" สาวเจ้าเงยหน้ามองคนตัวโตอย่างกล้าๆกลัวๆ
"อะไรนะ" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาก่อนจะมีสีหน้าแสดงความสงสัย
"ปกติพี่โอบจะทำให้เอย.. เอยเลยทำไม่เป็นค่ะแต่เอยพอจะเจียวไข่ได้อยู่นะคะ" เจ้าเอยไม่อยากให้เขาอารมณ์ไม่ดีเธอคิดว่าเธอน่าจะพอทำเป็นอยู่หนึ่งอย่างจึงบอกคนตรงหน้าไปก่อนที่จะถูกดุและอาจจะถูกหาว่าเป็นภาระอีกครั้ง
"ทำอะไรได้ก็ไปทำ" สายตาของเหนือเมฆมองหญิงสาวอย่างไม่เชื่อใจนักก่อนจะเดินออกจากครัวไป
"ค่ะ"
หลังจากที่ร่างสูงเดินออกไปได้เจ้าเอยก็หยิบไข่ไก่จากแผงสี่ฟองตอกใส่ถ้วยหกเลอะเทอะเล็กน้อยเพราะเธอพึ่งจะเคยเข้าครัวทำกับข้าวเป็นครั้งแรก
"ก็ไม่ได้ยากนี่นา" มือเรียวหยิบช้อนส้อมตีไข่ให้เข้ากันและเห็นว่าการทำไข่เจียวมันก็ไม่ได้ยากอะไรมากไม่รู้ว่าทำไมพี่ชายเธอถึงไม่เคยยอมสอนให้เธอทำบ้าง
"ต่อไปก็ตีแล้วก็ใส่เกลือ.. หรือแม็กกี้กันนะ... รวมเลยละกัน" เมื่อตีไข่จนเข้ากันดีแล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาปรุงรสเมื่อตัดสินใจเลือกเครื่องปรุงอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เธอจึงเททั้งสองอย่างลงไปในถ้วยอย่างละช้อน
"ต้องใช้ไฟเท่าไรล่ะ" หญิงสาวพอจะเปิดเตาไฟฟ้าได้เพราะเคยอุ่นอาหารบ้างบางครั้งแต่เธอก็ไม่รู้อีกว่าการทำไข่เจียวต้องใช้กำลังไฟเท่าไรจึงเริ่มวางกระทะเทน้ำมันพอประมาณและปรับอุณหภูมิตั้งไฟอ่อนๆไว้ก่อน
"หรือว่าต้องเพิ่มไฟ" ใบหน้าหวานเริ่มมีความลังเลเล็กน้อยก่อนจะเพิ่มไฟให้แรงและเทไข่ในถ้วยลงในกระทะ
ฉ่าาา.. "โอ้ยๆ" น้ำมันร้อนฉ่ากระเด็นใส่มือของหญิงสาวเนื่องจากเธอเทไข่ในถ้วยแรงเกินไปเมื่อไข่ลงกระทะจนหมดได้หญิงสาวจึงรีบล้างมือโดยเร็วเพราะกลัวว่าเนื้อเธอจะพองขึ้นมา
"หอมดีเหมือนกันนะ...ม..ไหม้งั้นหรอก" สาวเจ้าสูดดมกลิ่นไข่เจียวในกระทะที่คละคุ้งไปทั่วครัวอย่างสบายอารมณ์ขณะที่ล้างมือเมื่อล้างเสร็จจึงรีบกลับไปดูไข่เจียวในกระทะปรากฎว่าตอนนี้ไขาเจียวที่เธอหวังว่ามันจะเหลืองอร่ามน่าทานกลับไหม้จนดำควันโขมงลอยขึ้นเหนือกระทะ
"เอกสารในเมลผมอ่านเรียบร้อยนะครับคุณเพชรจัดการอนุมัติได้เลย" ทางด้านเหนือเมฆที่ยืนคุยงานกับพชรในมือถืออยู่ด้านนอกเมื่อวางสายได้เขาก็รีบเดินเข้ามาในครัวทันทีเพราะรู้สึกว่าได้กลิ่นไหม้ออกมาจากในครัว
"ทำไมมีกลิ่นไหม้" ร่างสูงเข้ามาประชิดตัวหญิงสาวระหว่างที่เธอกำลังเทไข่เจียวไหม้เกรียมในกระทะลงถังขยะ
"คือเอยไม่รู้ว่าต้องใช้ไฟเท่าไรค่ะตอนแรกมันไม่ร้อนเอยก็เลยเร่งไฟให้แรงขึ้น..แต่แล้วมันก็ไหม้"
"มือนั่นทำไมแดงแบบนั้น" ดวงตาคมเห็นมือหญิงสาวเห่อแดงจึงรีบดึงกระทะออกจากมือของเธอ
"น้ำมันกระเด็นใส่นิดหน่อยค่ะ"
"ถอย.. เดี๋ยวฉันทำเองใช้เธอคงไม่ได้กินข้าวกันพอดี" เหนือเมฆส่ายหัวเบาๆก่อนจะหยิบกระทะใบใหม่ตั้งบนเตาเทน้ำมันและเริ่มตอกไข่ใส่ถ้วยตีด้วยความชำนาญปรุงรสด้วยแม็กกี้เล็กน้อยก่อนจะดูว่าน้ำมันร้อนพอแล้วจึงค่อยๆเทไข่ลงในกระทะ
"อย่ามายืนเกะกะได้ไหมไปนั่งรอด้านนอก" เหนือเมฆไล่ให้หญิงสาวออกไปข้างนอกเพราะไม่รู้ว่สเธอจะมายืนตัวติดกับเขาเพื่ออะไร
"เอยอยากดูนี่คะว่าต้องทำยังไง" สาวเจ้าเอ่ยตาแป๋ว
"เฮ้อ..ไปหยิบจานมา" ชายหนุ่มแอบบ่นอิทธิกรในใจไม่เข้าใจว่าทำไมอิทธิกรถึงไม่ยอมสอนให้น้องสาวช่วยเหลือตัวเองในทุกๆด้านเป็นก่อนจะใช้เธอไปหยิบจาน
"ค่ะ.."
ปึก เพล้งงง หญิงสาวรีบเปิดตู้เคาเตอร์อีกฝั่งหยิบจานดระเบื้องใบใหญ่ออกมาด้วยความที่รีบจะเดินให้ถึงชายหนุ่มโดยเร็วจึงไม่ทันระวังขาโต๊ะที่ตั้งกลางห้องเตะเข้าเต็มๆจึงทำให้จานกระเบื้องในมือหล่นตกแตก
"เจ้าเอย.. " เหนือเมฆหลับตาถอนหายใจข่มใจไม่ให้ดุอีกฝ่าย
"ขอโทษค่ะ...นี่ค่ะ" หญิงสาวรีบรนรานหยิบจานใบใหม่ส่งให้ชายหนุ่มและรีบก้มเก็บจานที่หล่นแตกด้วยมือเปล่า
"อย่าพึ่งเก็บ" ดวงตาคมมองการกระทำของหญิงสาวอยู่ตลอดและรู้ว่ายังไงเธอก็น่าจะรีบเก็บจานที่แตกแน่นอนจึงรีบห้ามเอาไว้แต่ดูท่าจะไม่ทันเพราะมือเรียวมีเลือดหยดออกมาแล้ว
"อ๊ายย.." หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อถูกเศษจานกระเบื้องบาดจนปวดหนึบ
"ฉันคิดไม่ผิดจริงๆ" ชายหนุ่มรีบนำไข่เจียวใส่จานและดึงมือเรียวไปล้างน้ำสะอาดก่อนจะพามานั่งทำแผลด้านนอก
"สรุปคือฉันต้องมานั่งดูแลเธอคุ้มค่ากับเงินที่ฉันจ่ายหรือเปล่าเนี่ย" ชายหนุ่มนั่งทำแผลให้หญิงสาวพรางบ่นอุกที่เขาต้องมานั่งดูแลเธออีกครั้ง
"ขอโทษค่ะ" ใบหน้าหวานบุ้ยปากเล็กน้อยก้มหน้างุดเธอไม่ได้อยากเป็นภาระของเขาแต่ที่เป็นอยู่คือเหตุสุดวิสัยจริงๆ
23.30 น.
"คุณเหนือจะดูบอลอีกนานหรือเปล่าคะเอยง่วงแล้ว" เจ้าเอยนั่งหาวมาพักใหญ่เพราะต้องถ่างตาดูบอลเป็นเพื่อนกับเหนือเมฆตามคำสั่ง
"อีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะจบ" เหนือเมฆเอ่ยกับหญิงสาวขณะที่สายตายังจับจ้องอยู่กับการดูบอลทีมโปรด
ฟึ่บบ
หลังจากที่สาวเจ้าบ่นง่วงไม่นานนักร่างบางก็ล่วงผลอยอยู่บนตักของชายหนุ่ม
"เฮ้อ...ยัยเด็กอนามัย" ใบหน้าคมก้มมองหญิงสาวในคราแรกอย่างไม่พอใจก่อนจะเปลี่ยนแววตาเป็นประกายเมื่อเสื้อตัวโคร่งของเขาที่เธอใส่มันหลวมเสียจนทำให้เขาเห็นอะไรๆเป็นเนินขาวอวบอิ่มโผล่ล่อสายตา
ทั้งเนื้อนวลขาอ่อนที่ชายเสื้อปิดเอาไว้หมิ่นเหม่ทำให้เขาใจเต้นแรงจนต้องรีบปิดทีวีและรีบอุ้มร่างบางเข้าห้องไปทันที
"เธอทำให้ฉันดูบอลไม่จบเธอต้องรับผิดชอบ"
"อืม...คุณเหนือ" เมื่อพาร่างบางเข้าห้องมาได้เขาก็จัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออกก่อนจะห่มร่างของเขาและเธอด้วยผ้านวมผืนหนาเริ่มซุกไซร้ดอมดมซอกคอระหงส์วางมือหนาบีบเค้นเต้างามจนร่างบางรู้สึกตัวตื่นมาอีกครั้ง"เธอยั่วฉันเองนะ" เสียงแหบพร่าก่ายกระซิกข้างใบหน้านวลขณะที่มือหนาตวัดชั้นในตัวจิ๋วของหญิงสาวออกให้พ้นทางก่อนจะแทรกลำขาแกร่งกลางขาเรียวทั้งสอง"อื้มม...คุณเหนือ..เอยยังไม่หายเจ็บค่ะ" ใบหน้าหวานหันหน้าหนีเมื่ออีกฝ่ายบดจูบคืนนี้เธอง่วงเต็มทนทั้งยังไม่หายเจ็บที่ของสงวนจึงงอแงเล็กน้อย"แต่ฉันต้องการ" ว่าจบก็สอดใส่แท่งร้อนผงาดชูชันเข้าช่องทางรักโดยที่ยังไม่ทันได้เล้าโลมร่างบางนานเท่าไรส่งผลให้ความเจ็บแผ่ซ่านทั่วตัวหญิงสาวจนต้องกรีดร้องออกมาเสียงหลง"อ.. อ๊ายย... อืม.." เสียงกรีดร้องระบายความเจ็บถูกกลืนด้วยริมฝีปากหนาที่เริ่มบดจูบหญิงสาวอีกรอบพร้อมขยับสะโพกแกร่งไปในคราเดียวกัน"อื้อ.." มือเรียวจิกลำแขนแกร่งหนึบน้ำตาคลอเบ้าเพราะความเจ็บเมื่อคนตัวโตยกขาเรียวข้างหนึ่งของเธอพาดบ่าและกระแทกสะโพกรัวเป็นจังหวะเร่าร้อน"ฮือๆๆ.." ตอนนี้เจ้าเอยเอาแต่ร้องให้แต่เสียงก็ยังอยู่ในลำคอของอีกฝ่ายที่บดจูบเธอ
หลังจากทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้วเหนือเมฆก็พาหญิงสาวขี่หลังเดินออกมาที่หลังบ้านไม่ไกลนักก็เจอลำธารที่ค่อนข้างมีทิวทัศน์ที่สวยงามสดชื่นแก่สายตาของคนที่มอง"ไม่คิดว่าหลังบ้านจะมีลำธารสวยๆแบบนี้ด้วยนะคะ" ดวงตากลมโตมองวิวทิวทัศน์แถวนี้ไม่ละวางสายตาเพราะเมื่อมาถึงที่นี่ทำให้ตัวเธอนั้นผ่อนคลายอยู่ไม่น้อย"อยากเล่นน้ำหรือเปล่า" ชายหนุ่มหันน้าถามคนที่อยู่ข้างหลัง"ค่ะ" ใบหน้านวลพยักหน้าหงึกหงัก"ฉันให้เวลาเล่นไม่นานนะเดี๋ยวเธอจะไม่สบายแล้วต้องให้ฉันดูแลอีก" ว่าจบก็ปล่อยร่างบางลงในน้ำที่ไม่ค่อยลึกมากให้เธอนั่งเล่นให้สบายอารมณ์ตอบแทนที่เธอเอาอกเอาใจเขาเมื่อตอนทานข้าวเช้า"ค่ะ...คุณเหนือมาเล่นด้วยกันสิคะ" ร่างบางค่อยๆเดินลงมาในแอ่งน้ำใสลึกประมาณเหนือเอวบางเธอมาเล็กน้อยโดยมีชายหนุ่มเดินตามแนวโขดหินมานั่งอยู่ใกล้ๆเธอไม่ห่างด้วยความอยากให้เขาลงมาเล่นกับเธอด้วยจึงดึงแขนชายหนุ่มลงน้ำขณะที่เขาเผลอเอาแต่มองธรรมชาติรอบๆ"ไม่.."ตู้มม.. ชายหนุ่มไม่ทันปฏิเสธขาดคำตัวเขาก็เอียงล่วงหล่นมาอยู่ในน้ำเรียบร้อยแล้ว"เจ้าเอย" คนตัวโตรีบยืนให้อยู่ยกมือหนาปาดน้ำที่ชุ่มอยู่บนหน้าและผมก่อนจะดุสาวเจ้าเสียงแข
"เอ่อ.." ใบหน้าหวานแสดงออกถึงความรู้สึกกังวลอยู่พอสมควร"ฉันว่ามันน่าจะไม่เจ็บมากเหมือนก่อนหน้าแล้วล่ะ" "หรอกคะ""อืม..เชิ่อฉันสิ" มือหนาลูบแก้มนวลเบาๆก่อนจะเริ่มถอดเสื้อผ้าของเธอและเขาออกคนตัวโตบดจูบริมฝีปากบางอย่างเร่าร้อนลิ้นร้ายทำงานระรัวตวัดฉกชิมความหวานจากโพรงปากลมหายใจหอบถี่แสดงถึงความร้อนระอุพลุ่งพล่านที่อยู่ในกายมือหนาจับยกร่างบางลุกขึ้นนั่งบนตักกอดรัดเอวคอดเอาไว้แน่นขณะที่ริมริมฝีปากหนายังบดจูบเร่าร้อนอยู่ไม่ขาด"อื้อ.." เจ้าเอยดันใบหน้าคมออกห่างก่อนซบหัวทุยกับอกแกร่งสูดลมหายใจเข้าปอด"จะต้องสอนกันอีกสักกี่ครั้ง" เหนือเมฆโน้มตีววางร่างบางนอนราบบนเตียงบ่นอู้อี้เสียงกระเส่าที่ผ่านมาแค่สองสามวันเธอก็ลืมเสียแล้วว่าเวลาเขาบดจูบเธอจะต้องหายใจเช่นไร"อืม" ร่างบางบิดเร่าแอ่นอกมือน้อยจิกหมอนนุ่มจนแทบขาดเมื่อริมฝีปากหนาไล่จูบตั้งแต่ริมฝีปากลวมาที่ลำคอระหงส์ต่อด้วยดูดดึงสองเต้างามอย่างมูมมามก่อนจะมาถึงหน้าท้องน้อยจนตอนนี้ใบหน้าหวานส่ายไปมาหลับตาปี๋ควบคุมร่างกายไม่อยู่"อ.. อ๊ายย.." มือหนาสัมผัสถึงความฉ่ำแฉะของร่องสวาทเห็นว่ามันมีน้ำออกมามากพอที่ทำให้เธอลดอาการเจ็บลงจึงค่อยๆแทร
อาทิตย์ต่อมา22.00 น.หลังจากเลิกงานได้เหนือเมฆก็ดิ่งตรงมาที่คลับหรูที่แทนไทเพื่อนของเขาเป็นเจ้าของในโซนวีไอพีตอนนี้มีแดเนียลแทนไทและเหนือเมฆที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนมาด้วยกันแทนไทเป็นลูกเจ้าของบริษัทนำเข้าปิโตรเคมีแต่เขาเลือกที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจกลางคืนเพราะรักสนุกและแสงสีในตอนกลางคืนมากกว่ากลางวันแดเนียลเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกาธุรกิจครอบครัวคือทำปิโตรเคมีและที่นี่ได้ก็เพราะตอนนี้อกหักรักคุดจึงเดินทางมาหาเพื่อนๆและพักผ่อนรักษาแผลใจเขาค่อนข้างเป็นคนสุขุมไม่ค่อยชอบเข้าสังคมและคนอื่นค่อนข้างเข้าถึงยากพอสมควร"เฮ้ยๆๆ..เบาๆเป็นอะไรของแกวะ" แดเนียลรีบรั้งมือเหนือเมฆเอาไว้เพราะเห็นว่าตั้งแต่มาถึงก็อารมณ์เสียและเอาแต่ดื่มไม่พูดไม่จา"เบื่อๆ" ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะบ่นออกมาเบาๆ"ให้ฉันเรียกมาสักคนสองคนไหม" แทนไทรู้ดีว่าเพื่อนเขามาที่นี่ทีไรขาดเรื่องนี้ไม่ได้จึงหมายจะเรียกเด็กสาวในที่นี้สักคนสองคนมาปรนนิบัติเพื่อนของเขา"ไม่ฉันขอตัว" เหนือเมฆลุกยืนเต็มความสูงต่อหน้าแทนไทก่อนปฏิเสธและจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว"อ้าว..จะรีบไปไหนของมัน" ทั้งแดเนียลและแทนไทต่างก็มองตามหลังเพื่อนของพว
"ผมไม่ไปครับ...คุณแม่คิดว่าคุณแม่มาหาผมที่นี่แล้วจะพาผมไปได้อย่างนั้นหรอกครับ" ใบหน้าคมมีสีหน้าที่ค่อนข้างเอือมระอาเพราะเขาเคยบอกกับแม่เขาไปแล้วว่าที่ยอมหมั้นเพราะเห็นว่าเป็นผลดีต่อธุรกิจเท่านั้นและไม่ได้อยากสานสัมพันธ์กับพีรยาจริงจัง"นี่ก็ห้าโมงแล้วได้เวลาเลิกงานพอดีผมขอตัวกลับนะครับ" ว่าจบก็ลุกหนีคนเป็นแม่อย่างไม่ค่อยจะมีมารยาททำให้วารุณีต้องเอ่ยคำสั่งเด็ดขาด"ถ้าเรายังไม่ค่อยใส่ใจหนูพลอยอีกแม่จะเร่งงานแต่งให้เร็วขึ้น""จะแต่งหรือไม่แต่งผมก็ไม่เคยสนใจเธออยู่ดีครับ" เหนือเมฆรู้ว่าแม่ของเขาไม่ได้แค่ขู่แต่เขาก็ยืนยันว่าอย่างไรเขาก็จะไม่มีวันสนใจพีรยาและเดินหนีแม่ของเขาไปอย่างรวดเร็ว"ตาเหนือ" วารุณีขมวดคิ้วจนผูกโบว์ที่ลูกชายของเธอได้ดั่งใจทุกอย่างแต่มีอย่างเดียวที่ไม่ได้อย่างใจเห็นก็แต่เรื่องผู้หญิงที่เธอเลือกให้นี่แหละทางด้านเจ้าเอยตอนนี้เธอก็เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่สุดหรูของชายหนุ่มแล้วใบหน้าหวานมองซ้ายมองขวาก็ค่อนข้างแปลกใจเพราะบ้านออกใหญ่โตแต่ไม่มีคนเฝ้าเสียอย่างนั้น"......" สาวเจ้านั่งจับมือถือชั่งใจว่าจะโทรหาชายหนุ่มแต่เธอก็ไม่กล้าเพราะกลัวว่าจะรบกวนเขาหากเขาให้เธอมาหา
ครู่ต่อมาพีรยาเดินออกจากลิฟท์มุ่งหน้ามาที่ห้องของเหนือเมฆสีหน้าระรื่นเพราะเป็นครั้งแรกที่เขาเชิญให้เธอมาที่นี่ติ้ดด แกร๊กก เมื่อมาถึงหน้าห้องของเขาได้เธอก็ใช้คีย์การ์ดที่เหนือเมฆฝากคนดูแลเอาไว้ให้แตะเปิดประตูเข้ามาโดยที่ไม่ได้เคาะก่อน"เหนือ..." ภาพตรงหน้าเมื่อหญิงสาวเปิดประตูเดินเข้ามาไม่กี่ก้าวทำให้เธอต้องหยุดชะงักเพราะไม่คิดว่าจะมาเจอสิ่งที่ทำให้เธอปวดหัวใจตอนนี้"พลอย..." ร่างบางเปลือยเปล่าที่กำลังนั่งคร่อมขย่มคนบนโซฟาหันหลังกลับมาดูผู้มาใหม่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกเพราะเธอไม่คิดว่าพีรยาจะเข้ามาในห้วงเวลาสวาทของเธอและเหนือเมฆ"ถ้ารอได้ก็รอ" เหนือเมฆรวบกอดวิเวียนไม่ให้ลงจากตัวของเขาก่อนจะเอ่ยกับพีรยาเสียงเรียบเรื่องวันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะวันนี้เขาจงใจให้พีรยาได้เห็นเผื่อเธอจะเลิกไล่ตามเขาเสียที"หึ่.." พีรยากำมือแน่นหายใจหอบถี่กัดฟันกรอดเธอพยายามไม่โวยวายก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว"คุณเหนือไม่ตกใจหรอกคะ" แม้นวิเวียนจะตกใจที่พีรยาเห็นเธอแต่ก็แอบสะใจที่วันนี้พีรยาได้รู้เสียทีว่าเธอมีสัมพันธ์กับเหนือเมฆด้วยเพราะแอบหมั่นไส้ในพฤติกรรมเย่อหยิ่งจองหองทำตัวเหนือคนอื่นของพีรยามานาน
“อ่อ..นี่เจอวิเวียนบ้างหรือเปล่าเธอไม่ได้มาทำงานหลายวันแล้วพี่ก็ติดต่อไม่ได้” ปกรณ์เห็นว่าไหนๆวันนี้เขาก็มาหาน้องสาวของเขาที่นี่แล้วก็ถือโอกาสถามเรื่องวิเวียนเสียเลยช่วงนี้งานของเขาก็ยุ่งเลขาก็ดันหายไปนานอีก“อ่อ..พลอยก็ติดต่อเธอไม่ได้เหมือนกันค่ะ..ถ้าเพื่อนพลอยหายไปนานขนาดนี้พี่กรหาเลขาคนใหม่เถอะค่ะ” พีรยารู้อยู่แก่ใจแล้วว่าวิเวียนหายไปและที่วิเวียนหายไปเป็นฝีมือของเธอเองโทษฐานที่หญิงสาวหักหลังเธอหลังจากวันที่วิเวียนเหยียบสนามบินที่ประเทศไทยเธอก็สั่งให้คนของเธอจัดการวิเวียนไม่ให้เหลือชื่อแล้ว“พี่ว่าก็ต้องเป็นแบบนั้น” ปกรณ์เห็นว่าเขาก็คงต้องหาคนมาเป็นเลขาใหม่ตามที่น้องของเขาบอกเพราะเขาก็ไม่อยากรับคนที่ไม่มีความรับผิดชอบมาทำงานอีกเหมือนกัน22.00 น.เจ้าเอยนอนพลิกซ้ายพลิกขวาในมือถือโทรศัพท์มองจ้องหวังว่าเหนือเมฆจะติดต่อมาหาเธอเพราะเขาขาดการติดต่อกับเธอไปหลายวันแล้ว“ทำไมต้องอยากให้เค้าโทรหาด้วยล่ะ” เมื่อคิดไปคิดมาเธอก็ต้องตำหนิตัวเองเพราะเริ่มที่จะใส่ใจอีกฝ่ายมากเกินไปทั้งที่สถานะของเธอเป็นแค่ของเล่นลับๆของเขาเท่านั้นวันต่อมาโรงพยาบาลXXX“เมื่อไรจะฟื้นซะทีคะพี่โอบ” วันนี้เป็นอีกวันที
“เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะฉันไม่ระวังเอง” เจ้าเอยรีบโบกไม้โบกมือปัดไม่ให้อีกฝ่ายรับผิดชอบอะไรเพราะเธอไม่ระวังเองต่างหาก“ไม่ครับยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบ” ชายหนุ่มยิ้มอ่อนยืนยันว่ายังไงเขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งยังอยากรู้จักสาวสวยหน้าหวานคนนี้มากกว่านี้อีกด้วยเพราะรู้สึกถูกชะตากับเธอตั้งแต่แรกเห็นชั่วโมงต่อมาและแล้วปกรณ์ก็จัดการพาหญิงสาวไปซื้อมือถือใหม่จนได้แถมเครื่องที่เขาซื้อให้หญิงสาวก็ราคาแพงหูฉี่จนเจ้าเอยเกรงใจอยู่ไม่น้อย“ขอบคุณมากเลยนะคะ” สาวเจ้านั่งคุยกับปกรณ์อยู่ที่ศาลาริมสระน้ำเธอเอ่ยขอบคุณเขาเป็นครั้งที่สิบเห็นจะได้“ยินดีครับ..แล้วคุณเอยมาที่นี่บ่อยหรอกครับ” ปกรณ์เอ็นดูสาวน้อยตรงหน้าเป็นพิเศษยิ่งอยู่ใกล้กับเธอนานเท่าไรเขาก็ยิ่งเห็นความน่ารักของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ“ไม่ค่อยบ่อยหรอกค่ะช่วงปิดเทอมนี่ก็พึ่งจะมาวันนี้ค่ะคุณกรล่ะคะ”“ผมก็นานๆจะมาทีครับวันนี้ก็นำปัจจัยมาถวายหลวงพ่อให้บูรณะศาลาใหม่”“ดูท่าคุณกรชอบทำบุญเหมือนกันนะคะ”“พอดีเมื่อก่อนที่คุณตาผมยังไม่เสียท่านชอบมาทำบุญที่วัดนี้แล้วก่อนท่านจะเสียก็ฝากฝังให้ผมช่วยเหลือวัดนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”“อ๋อ..อย่างนี้นี่เอง”เมื่อคุยกั