Share

ตอนที่14 เกินไป

ครู่ต่อมา

พีรยาเดินออกจากลิฟท์มุ่งหน้ามาที่ห้องของเหนือเมฆสีหน้าระรื่นเพราะเป็นครั้งแรกที่เขาเชิญให้เธอมาที่นี่

ติ้ดด แกร๊กก เมื่อมาถึงหน้าห้องของเขาได้เธอก็ใช้คีย์การ์ดที่เหนือเมฆฝากคนดูแลเอาไว้ให้แตะเปิดประตูเข้ามาโดยที่ไม่ได้เคาะก่อน

"เหนือ..." ภาพตรงหน้าเมื่อหญิงสาวเปิดประตูเดินเข้ามาไม่กี่ก้าวทำให้เธอต้องหยุดชะงักเพราะไม่คิดว่าจะมาเจอสิ่งที่ทำให้เธอปวดหัวใจตอนนี้

"พลอย..." ร่างบางเปลือยเปล่าที่กำลังนั่งคร่อมขย่มคนบนโซฟาหันหลังกลับมาดูผู้มาใหม่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกเพราะเธอไม่คิดว่าพีรยาจะเข้ามาในห้วงเวลาสวาทของเธอและเหนือเมฆ

"ถ้ารอได้ก็รอ" เหนือเมฆรวบกอดวิเวียนไม่ให้ลงจากตัวของเขาก่อนจะเอ่ยกับพีรยาเสียงเรียบเรื่องวันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะวันนี้เขาจงใจให้พีรยาได้เห็นเผื่อเธอจะเลิกไล่ตามเขาเสียที

"หึ่.." พีรยากำมือแน่นหายใจหอบถี่กัดฟันกรอดเธอพยายามไม่โวยวายก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

"คุณเหนือไม่ตกใจหรอกคะ" แม้นวิเวียนจะตกใจที่พีรยาเห็นเธอแต่ก็แอบสะใจที่วันนี้พีรยาได้รู้เสียทีว่าเธอมีสัมพันธ์กับเหนือเมฆด้วยเพราะแอบหมั่นไส้ในพฤติกรรมเย่อหยิ่งจองหองทำตัวเหนือคนอื่นของพีรยามานานแล้ว

"ไม่นี่.." เหนือเมฆส่ายหัวด้วยสีหน้าระรื่นก่อนจะพลิกร่างบางให้อยู่ใต้ร่างแล้วเขาเป็นคนขย่มเธอแทน

23.00 น.

"มันเกินไปหน่อยแล้วนะเหนือ...อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะยอมเลิกยุ่งกับคุณง่ายๆคุณรู้จักฉันน้อยไป" พีรยานั่งดื่มไวน์ราคาแพงกลางดึกเธอคับแค้นใจที่เหนือเมฆมีสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทเธอไม่น้อยก่อนหน้าเขาจะมีข่าวกับผู้หญิงสักกี่คนเธอไม่เคยสนแต่ครั้งนี้เป็นสิ่งที่เธอทำใจยากอยู่พอสมควรเพราะเขาดันมีสัมพันธ์กับคนที่เธอไว้ใจ

"แล้วเธอจะได้รู้วิเวียนว่าคนที่หักหลังฉันจะต้องเจอกับอะไร" ว่าจบมือเรียวก็กำแก้วไวน์แน่นในเมื่อวิเวียนหักหลังเธอได้ต่อจากนี้เธอก็จะไม่เห็นวิเวียนเป็นเพื่อนอีกต่อไป

วันต่อมา

สามสาวนั่งกันอยู่ในบ้านของเจ้าเอยทำอะไรทานกันในเย็นของวันปิดเทอม

"เราก็จะไม่ได้เจอกันพักใหญ่เลยสิคิดแล้วก็เหงาจัง" เจ้าเอยเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าหดหู่เล็กน้อยพาเพื่อนๆเธอหน้าหงอยตามกันไปด้วย

"โทรคุยกันบ่อยๆก็ได้นี่นา" เกวรินทร์ยื่นมือแตะบ่าเจ้าเอยกับทรายแก้วเบาๆ

"ไม่ติดว่าฉันห่วงพี่โอบฉันจะไปช่วยงานในสวนแกแล้วนะเกว" ตอนนี้ทั้งทรายแก้วและเจ้าเอยรู้ดีว่าสวนผลไม้ของพ่อแม่เกวรินทร์กำลังมีปัญหาเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าคนงานจึงทำให้ผลผลิตเก็บไม่ทัน

"นั่นสิ..ถ้าฉันไม่ติดว่าย่าป่วยก็จะขอท่านไปช่วยแกเหมือนกัน" ทรายแก้วคิดเอาไว้ว่าช่วงปิดเทอมเธอจะขอพ่อแม่ของเธอไปช่วยเกวรินทร์แต่ติดที่ย่าของเธอมาป่วยกะทันหันล้มในห้องน้ำเดินไม่ได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอจึงต้องอยู่ช่วยดูแลเพราะพ่อแม่เธอค่อนข้างยุ่งกับที่ร้าน

"ขอบใจพวกแกมากๆเลยที่ห่วงฉันแต่ฉันว่าไม่นานเดี๋ยวอะไรๆก็ดีขึ้น" เกวรินทร์รวบกอดเพื่อนทั้งสองด้วยความขอบคุณแค่เพื่อนเธอคิดจะช่วยเธอก็ดีใจมากแล้ว

หลายวันต่อมา

11.00 น.

เพนท์เฮ้าส์XXX

“ทำไมไม่รอกลับพร้อมตาเหนือล่ะหนูพลอย” วารุณีได้ข่าวว่าพีรยากลับมาที่เมืองไทยก่อนเหนือเมฆเธอจึงมาหาหญิงสาวถึงเพนท์เฮ้าส์ว่าเหตุใดพีรยาจึงกลับมาก่อนที่ลูกชายเธอจะกลับ

“พลอยแค่มีบางอย่างที่รับไม่ได้ค่ะคุณแม่” พีรยาเอ่ยเสียงอ่อนก่อนจะก้มหน้างุด

“อะไรหรอกลูก” วารุณียื่นมือเรียวจับไหล่ของว่าที่ลูกสะใภ้เธอด้วยสีหน้ากังวล

18.00 น.

“ฉันจะจัดงานแต่งงานหนูพลอยกับลูกเราให้เร็วที่สุดค่ะ” วารุณีเอ่ยโพร่งกับนภดลคนเป็นสามีถึงเรื่องที่ครุ่นคิดมาตั้งแต่เมื่อกลางวัน

“ควรจะถามความสมัครใจของลูกก่อนหรือเปล่า” นภดลมองวางช้อนมองหน้าภรรยาของเขาด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเป็นกังวลแค่ตอนที่หมั้นกว่าลูกชายของเขาจะยอมก็เกลี้ยกล่อมแล้วเกลี้ยกล่อมอีกว่าเป็นผลดีอย่างไรต่อธุรกิจ..เขารู้ว่าหากตอนนี้จะบังคับให้ลูกชายของเขาแต่งงานอีกเจ้าตัวคงจะไม่ยอมดีๆแน่

“ฉันไม่ถามแล้วค่ะ..ลูกเราใช้ได้ที่ไหนไปมีสัมพันธ์แม้กระทั่งเพื่อนสนิทหนูพลอยแม่นั่นก็เหลือเกินรู้ว่าเป็นคู่หมั้นของเพื่อนก็ยังไม่เลิกยุ่ง...ไม่รู้ว่าเรื่องนี้ถ้าบ้านหนูพลอยรู้จะตำหนิอะไรเราบ้าง” วารุณีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เพราะนึกถึงเรื่องที่พีรยาเล่าให้เธอฟังเธอก็ยังโมโหลูกชายเธอไม่หาย

“ลูกกลับมาแล้วคุณก็ค่อยคุยกับลูกเองก็แล้วกัน” นภดลไม่อยากจะยุ่งเรื่องนี้สักเท่าไรด้วยเข้าใจลูกชายของเขาพอสมควร

22.00 น.

สนามบินXXX

“คุณวิเวียนครับ”

“เรียกฉันหรอกคะ” ร่างบางที่กำลังจะกดมือถือเรียกแท็กซี่ให้มารับที่สนามบินหลังจากที่กลับจากอเมริกาเธอต้องละมือเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนเรียก

“ครับ...คุณเหนือให้พวกผมมารับคุณกลับไปที่คอนโดครับเชิญครับรถจอดรออยู่แล้ว”

“อ๋อ..ค่ะ” วิเวียนยิ้มให้ชายชุดดำตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินตามเขาไปด้วยใบหน้ายิ้มกริ่มเพราะน้อยครั้งนักที่เหนือเมฆจะใส่ใจเธอ

สามวันต่อมา

เพนท์เฮ้าส์

“ทำไมทุกคนถึงอยากจะเร่งงานแต่งนักนี่เหนือเมฆยอมอย่างนั้นหรอก” ปกรณ์ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาผิวขาวอมชมพูอายุ 35 เป็นประธานบริษัทอสังหายักษ์ใหญ่เป็นคนค่อนข้างสุขุมอบอุ่นเขาเป็นพี่ชายคนเดียวของพีรยา

วันนี้เขามีเรื่องต้องเข้ามาหาน้องสาวของเขาถึงที่เพราะพึ่งรู้เรื่องจากคนเป็นแม่ว่างานแต่งของน้องสาวของเขากับเหนือเมฆจะจัดขึ้นกะทันหัน

“ไม่ยอมก็ต้องยอมค่ะในเมื่อผู้ใหญ่ต้องการ” พีรยาหย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามกับพี่ชายของเธอก่อนจะเอ่ยตอบกลับหน้าตาเฉย

“แน่ใจหรอกว่าเป็นความต้องการของผู้ใหญ่อย่างเดียว” ปกรณ์ดูออกว่าหากน้องสาวของเขาไม่ยอมเสียอย่างมีหรืองานนี้จะเกิดขึ้นได้ที่งานแต่งต้องกระชับให้เร็วขึ้นเช่นนี้คงไม่พ้นฝีมือน้องสาวของเขาเป็นแน่

“พี่กรจะพูดอะไรคะ” พีรยามองหน้าพี่ชายของเธออย่างเอือมระอาเพราะเธอรู้ว่าเขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องที่เธอจะต้องหมั้นต้องแต่งกับเหนือเมฆนัก

“พี่ว่าคนอย่างน้องสาวพี่หากไม่อยากทำอะไรแล้วคนอื่นคงบังคับไม่ได้....พี่เข้าใจว่าความรักความชอบมันห้ามกันไม่ได้พี่แค่อยากให้เราเลือกคู่ชีวิตที่ถูกคนเพราะพี่คิดว่าคนอย่างเหนือเมฆไม่มีทางคิดจะให้เกียรติเราแน่นอน” ปกรณ์เอ่ยเตือนน้องสาวของเขาด้วยความรักและเป็นห่วงน้องสาวของเขามีคนมากหน้าหลายตาให้เลือกมากมายแต่ไม่เข้าใจทำไมต้องมาปักใจกับเหนือเมฆคนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้แถมระยะเวลาที่หมั้นหมายกันมาเหนือเมฆก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจน้องสาวของเขาและให้เกียรติเลยดูจากข่าวที่คั่วกับผู้หญิงไม่เว้นว่าง

“พลอยเลือกแล้วขอพลอยทำตามใจตัวเองนะคะ” พีรยายังยืนยันหน้าตาเฉยว่าคนอย่างเธอไม่มีทางเปลี่ยนใจเพราะมั่นใจว่าคนอย่างเธอเอาเหนือเมฆอยู่แน่นอน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status