"ถ้าไม่อยากอายคนอื่นก็ไปกับฉัน" ใบหน้าคมหันมามองร่างบางที่ยืนหน้าซีดอยู่ข้างตัวก่อนจะเอ่ยกับเธอเสียงแข็ง
"เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ" เจ้าเอยคิดว่าหากเธออยู่ตรงนี้นานคงไม่ดีแน่จึงเอ่ยกับเพื่อนทั้งสองให้หยุดการกระทำและเดินตามเหนือเมฆไปที่รถแต่โดยดี
ทิ้งให้สองสาวยืนมองหน้ากันอย่างตกใจที่ดูท่าเหนือเมฆกับเพื่อนของพวกเธอดูจะสนิทกันมากกว่าคนรู้จักกันธรรมดา
"นี่เอยไปสนิทกับคุณเหนือตั้งแต่เมื่อไร"
"นั่นสิ"
ทางด้านเหนือเมฆเมื่อพาร่างบางขึ้นรถด้วยกันมาได้เขาก็เหยียบคันเร่งไม่ผ่อนด้วยความโมโหตรงดิ่งไปที่บ้านอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะคุยกับเจ้าเอยให้รู้เรื่องว่าที่จู่ๆเธอดันมาหลบหน้าเขาเป็นเพราะอะไร
"พี่เธอหายดีแล้วคิดจะชิ่งหนีฉันหรือไง" เหนือเมฆจอดรถได้ก็ตวาดใส่หญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆสะดุ้งเฮือกแต่เธอก็ยังไม่ยอมปริปากพูดจาอะไร
"จะเงียบอีกนานไหม" ยิ่งเห็นอีกฝ่ายเอาแต่เงียบเขาก็ยิ่งโมโห
"ถ้าคุณเหนือจะแต่งงานก็เลิกยุ่งกับเอยเถอะค่ะ" เจ้าเอยยอมปริปากพูดเสียงอ่อนเพราะเธอไม่อยากให้เขามายุ่งอะไรกับเธออีกแม้นก่อนหน้าจะรับปากยอมเป็นของเล่นเขาเองก็เถอะหากเขาและเธอยังไม่เลิกเจอกันก็รั้นแต่จะทำให้ใจของเธอเจ็บปวดไม่จบไม่สิ้น
"ไม่...ฉันบอกเธอแล้วไงว่าเธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน"
เหนือเมฆไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าหญิงสาวรู้ข่าวมาจากไหนก็แม่ของเขาเล่นส่งข่าวให้นักข่าวแทบทุกจะสำนักขนาดนั้นแต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นเพราะหญิงสาวเป็นคนยอมที่จะเป็นคนของเขาเองแล้วจะมาเลิกดื้อๆกลางคันในวันที่เขาหลงเธอแบบนี้ไม่ได้เธอเป็นของรักของหวงของเขาและเขาจะไม่มีวันเสียเธอไปตอนนี้แน่
"...." เจ้าเอยคร้านจะฟังคนเอาแต่ใจเธอปลดเข็มขัดนิรภัยได้ก็รีบเปิดประตูวิ่งหนีชายหนุ่มออกไปทันที
"..เจ้าเอย" เหนือเมฆรีบลงจากรถตามหญิงสาวไปเขาสาวเท้าไม่กี่เก้าก็ประชิดร่างบางรวบอุ้มเข้าไปในบ้านยิ่งเธอพยศเขาเท่าไรเขาก็ยิ่งอยากจะเอาชนะเธอมากเท่านั้น
"ปล่อยย..เอย"
"ไม่...อยากให้ฉันใจร้ายใช่หรือเปล่าห้ะ"
"อย่ามายุ่งกับเอย.." สาวเจ้าตวาดเสียงสั่น
"เป็นอะไรของเธอ" เหนือเมฆขึงร่างบางไว้กับผนัง
"เอยไม่อยากเป็นของเล่นของคุณแล้ว...ปล่อยเอยไปเถอะค่ะ" เสียงหวานของหญิงสาวแม้นจะดูแข็งกระด้างไปบ้างแต่ในทุกคำที่เธอพูดมาล้วนมาจากความอ่อนแอในหัวใจลึกๆแล้วเธอไม่อยากอยู่ห่างเขาแม้นสักวินาทีแต่ด้วยสถานะของเขาตอนนี้คือมีเจ้าของตัวจริงแล้วเธอไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นชู้ของใคร
"ไม่อยากเป็นก็ต้องเป็น"
พลั้กกก
"อ๊ายย.." ว่าจบก็ลากร่างบางขึ้นห้องนอนด้วยความโมโหก่อนจะเหวี่ยงเธอลงบนเตียงนุ่มกระโจนร่างใหญ่ทาบทับขึงเธอเอาไว้
วันนี้เขาจะสั่งสอนเด็กดื้อให้รู้สำนึกว่าเธอไม่มีสิทธิ์ต่อรองหรือพยศอะไรกับเขาเพราะถึงอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ
"ห่างผัวไม่เท่าไรพยศเก่งจังเลยนะ"
"ปล่อยย.."
แคว้กกกก
ชุดนักศึกษาชิ้นน้อยถูกคนเอาแต่ใจฉีกกระชากจนขาดวิ่นก่อนจะลงมือมอบบทรักบทสวาทที่ไม่ค่อยจะนุ่มนวลเท่าไรนักให้หญิงสาวโทษฐานที่เธอคิดจะหนีหน้าเขา
"พอได้แล้ว..ฮือๆๆ" เสียงกรีดร้องโหยหวนให้คนบ้าคลั่งหยุดการกระทำป่าเถื่อนโดยที่เธอไม่สมยอมดังอยู่แทบทุกนาทีแต่ก็ไม่ได้เป็นสิ่งทัดทานคนตัวโตให้หยุดการกระทำได้
กว่าศึกสวาทจะจบก็ปาไปฟ้ามืดร่างบางถูกชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตของเขาแทนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นจนใส่ไม่ได้แล้วจึงพาเธอไปส่งที่บ้าน
รถคันหรูสีดำจอดอยู่ไม่ไกลจากหน้าบ้านของเจ้าเอยนักเพราะรู้ดีว่ามีคนอยู่ในบ้านก่อนที่หญิงสาวจะลงจากรถไปเขาได้ถามย้ำกับเธอข้อหนึ่งให้มั่นใจว่าต่อไปนี้เขาจะได้เจอเธอหากเธอไม่รับปากก็จะได้รู้กันว่าเขาจะไม่ใจดีกับเธออีกต่อไป
"รับปากกับฉันว่าจะไม่หนีหน้าฉันอีก"
"ไม่" ดวงตากลมโตที่แดงก่ำคลอเคล้าไปด้วยน้ำตาหันมามองคนข้างๆด้วยความโกรธเคืองก่อนจะลงจากรถไปด้วยความทุลักทุเลเพราะถูกคนตัวโตสูบพลังงานไปจนแทบเดินไม่ไหว
"ได้..แล้วเธอจะมาว่าฉันใจร้ายไม่ได้" เหนือเมฆนั่งกัดฟันกรอดครู่หนึ่งก่อนจะลงตามหญิงสาวไปและดึงมือเธอเข้าไปในบ้านพร้อมกันวันนี้เขาจะทำให้เธอเจ็บปวดเพื่อลงโทษที่เธอกล้าที่จะไม่ฟังคำสั่งของเขา
"คุณจะทำอะไร" เจ้าเอยตัวชาวาบเมื่อคนตัวโตลากเธอเดินดุ่มๆเข้าไปในบ้าน
"ทำไมคุณเหนือมากับเอยล่ะคะ" อินทิราที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับลูกสาวตัวกลมหน้าทีวีกับสามีของเธอเห็นเหนทอเมฆจูงเจ้าเอยที่หน้าตามีแต่น้ำตาจึงรีบลุกขึ้นมาถามด้วยสีหน้าที่ตกใจ
"เอยมาหาพี่" อิทธิกรเองก็ตกใจไม่ต่างกันที่ชายหนุ่มจับมือแขนน้องสาวเขาเข้ามาและดูท่าน้องของเขาจะไม่ได้เต็มใจเท่าไร
"....." เหนือเมฆไม่คิดว่าอินทิราจะอยู่ที่นี่เพราะรู้ว่าเธอเลิกกับอิทธิกรแล้วแต่เด็กทารกตัวกลมนั่นก็เป็นสิ่งที่ให้คำตอบเขาได้ว่าทำไมทั้งคู่จึงกลับมาอยู่ด้วยกันและนั่นไม่ใช่ประเด็นที่เขาจะสนใจในตอนนี้
ที่เขาเข้ามาก็เพื่อทำให้ทุกคนในที่นี้โดยเฉพาะอิทธิกรได้รับรู้ว่าน้องสาวตนทำอะไรมาบ้าง...ใช่เขาจะผิดสัญญากับเจ้าเอยเพราะเธอหลบหน้าผิดสัญญากับเขาก่อน
"..ที่ฉันเข้ามาที่นี่ก็เพื่อจะมาบอกนายว่า"
"คุณเหนือหยุด.." เจ้าเอยตวาดคนตัวโตเสียงฝาดแต่มีหรือเขาจะหยุด
"ที่นายได้ผ่าตัด...ได้หมอรักษาดีๆเพราะเงินของฉันที่แลกกับตัวน้องนายไงล่ะ" ว่าจบก็สะบัดมือหญิงสาวทิ้งหันหลังกลับเดินหนีทุกคนไปด้วยความสะใจ
"เอย.." อินทิราถึงกับยืนแน่นิ่งเธอคิดเอาไว้เหมือนกันว่าทำไมหญิงสาวจึงมีเงินรักษาอิทธิกรทั้งที่ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเธอแต่ก็ไม่เคยคิดจะถามจนวันนี้ความจริงก็ปรากฎเธอรู้สึกสงสารน้องสาวเหลือเกิน
"ฮือๆๆ.." เจ้าเอยร้องให้เจียนจะขาดใจเมื่อเห็นสีหน้าของอิทธิกรที่ดูจะผิดหวังจนหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่จริงใช่ไหมเอย..บอกพี่สิ" อิทธิกรน้ำตาตกเค้นเสียงถามน้องสาวตัวเองเสียงสั่นเครือ
"ฮือๆๆ" ร่างบางถึงกับนั่งฟุบลงสะอึกสะอื้นกับฟื้นปวดหัวใจจนไม่รู้จะปวดยังไง
"อย่าพึ่งเค้นน้องตอนนี้เลยค่ะ" อินทิราที่กำลังอุ้มลูกสาวตัวกลมที่มองทุกคนตาแป๋วเธอเขยิบเข้าไปยืนใกล้ๆคนเป็นสามีก่อนจะยื่นมือแตะบ่าให้เขาใจเย็นๆเพราะตอนนี้เจ้าเอยคงไม่อยากจะพูดอะไรและเจ็บปวดไม่น้อย
"เอย..." อิทธิกรกำมือแน่นเดินหนีเข้าไปในห้องด้วยอาการที่ทั้งน้องสาวและภรรยาก็ดูไม่ออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน"โอบคะ" อินทิราหน้าเสียเพราะเหตุการณ์ตอนนี้เริ่มตรึงเครียดเธอเลือกที่จะปลอบเจ้าเอยก่อนที่จะเข้าไปหาอิทธิกรเพราะรู้ว่าเจ้าเอยต้องการกำลังใจมากที่สุด"เอยขอโทษเอยไม่มีทางเลือก..ฮือๆๆ" เสียงสะอื้นพร่ำขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวังแต่ตอนนั้นเธอต้องรักษาชีวิตของพี่ชายเธอเอาไว้"เอย" อินทิราสงสารเจ้าเอยจับใจที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอายุแค่นี้จะต้องมาแบกรับอะไรที่มันหนักหนาสาหัสครู่ต่อมาหลังจากที่อินทิราปลอบใจเจ้าเอยพักใหญ่และให้เธอเข้าห้องไปพักผ่อนแล้วจึงเข้ามาหาคนเป็นสามี"คุณอย่าโกรธน้องเลยนะคะ""ผมไม่ได้โกรธเอยแต่ผมโกรธตัวเอง..โกรธที่ทำให้เอยต้องเสียศักดิ์ศรีให้คนแบบนั้น" ตอนนี้เขาไม่ได้โกรธเจ้าเอยเลยสักนิดแต่เจ็บใจมากกว่าที่เปฌนต้นเหตุทำให้น้องสาวต้องมาเจอเรื่องที่น่าเจ็บปวดเช่นนี้22.00 น."....." เจ้าเอยยังคงยืนมองท้องฟ้ายามค่ำคืนเธอข่มตานอนไม่ลงเพราะมีเรื่องกังวลใจอยู่พอสมควร"เอย""พี่โอบ.." "พี่ขอโทษเอย...ต่อไปนี้พี่จะไม่ยอมให้คนแบบนั้นมายุ่งกับเอยอีก" อิทธิกรตัดสินใจเข้ามาหาเจ
“ฉันเหนื่อยจะโวยวาย” มือหนายกกุมขมับหนึบสีหน้าของเขาตอนนี้ไม่สู้ดีนักคิดย้อนกลับไปว่าหากเขารู้แต่แรกว่าคนผิดตัวจริงเป็นใครเขาคงไม่ต้องไปยุ่งกับเจ้าเอยแถมตอนนี้เหมือนใจของเขาเองจะถลำลึกไปกับเธอแล้วด้วย..ความรู้สึกแบบนี้เขาไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยจริงๆแม้ก่อนหน้าจะคิดว่าตัวเองชอบอินทิรามากแต่ก็ไม่มีความรู้สึกอยากได้อยากครอบครองเท่าเจ้าเอยเลยสักนิดตอนนี้ในใจลึกๆยังแอบคิดว่าหรือเขาจะรักเธอเข้าให้แล้วถึงได้วุ่นวายใจที่เธอต้องการจะไปจากเขาแบบนี้“คิดอะไรของนาย..มีอะไรคุยกับฉันได้ฉันเพื่อนนายนะ” แทนไทดูออกว่าเพื่อนของเขากำลังมีอะไรที่กำลังกังวลใจอยู่ไม่น้อยเขาจึงอยากทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีหากเพื่อนเขาได้ระบายออกมาบ้างว่าปัญหาในใจคืออะไรเผื่อเขาจะชี้แนะทางออกให้ได้หากไม่ได้แค่รับฟังให้เพื่อนของเขาสบายใจขึ้นก็ยังดี“คือ..ฉันกับเจ้าเอย..” เหนือเมฆตัดสินใจเล่าเรื่องราวของเขากับเจ้าเอยให้แทนไทได้ฟังเขายอมรับว่าคราแรกเขาทำไปเพราะอยากเอาชนะอิทธิกรให้เจ็บปวดแต่ตอนนี้เรื่องราวกลับย้อนกลัมาทำให้เขาเจ็บปวดเสียเองเพราะรู้ว่าเจ้าเอยต้องการจะตีตัวออกห่าง“นี่แกรักคนเป็นแล้วหรอกวะ” แทนไทยืนอึ้
“ผมว่าคุณแม่คงไม่อยากได้คนที่ได้ชื่อว่าฆาตกรมาเป็นลูกสะใภ้จริงหรือเปล่าครับ...แต่ผมขอบอกเลยว่าผมรับไม่ได้”“ที่หนูพลอยต้องตัดสินใจทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะเราหรือยังไง” วารุณีคิดว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้พีรยาตัดสินใจกระทำการแบบนี้คงไม่พ้นต้นเหตุเกิดจากความเจ้าชู้ของลูกชายเธอเป็นแน่จึงแอบสงสารพีรยาอยู่บ้างแต่จะให้เธอเป็นสะใภ้เข้ามาในบ้านอันนี้เธอคงไม่ยอมแล้ว“ผมไม่เถียงนะครับว่าเธออาจจะโกรธเกลียดวิเวียนเพราะผมแต่เธอก็ไม่ควรจะฆ่าใครเป็นผักเป็นปลาใจคอเธอมันโหดเหี้ยมเกินผู้หญิงแล้วครับคุณแม่” เหนือเมฆรู้ว่าส่วนหนึ่งเป็นความผิดของเขาคราแรกเขาคิดว่าพีรยาจะเลิกยุ่งกับเขาเพราะเห็นว่าอย่างไรเขาก็ไม่สนใจแต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะใจคอโหดเหี้ยมจนสั่งฆ่าเพื่อนสนิทตัวเองได้“แม่จะคุยกับทางนั้นเพื่อยกเลิกงานแต่งแต่แม่ก็ต้องรีบหาผู้หญิงคนใหม่ให้เราอยู่ดี” วารุณีเอ่ยออกมาตามที่เธอตั้งใจแม้นเธอจะเสียสะใภ้คนนี้ไปแต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะหาผู้หญิงให้ลูกชายเธอไม่ได้“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณแม่ถึงอยากเร่งเร้าให้ผมแต่งงานนักหนา” เหนือเมฆเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าอ่อนใจ“แม่ก็แค่อยากอุ้มหลานอยากเห็นเราเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีไงตาเหนือ”
16.00 น.วัดxx"เจอกันอีกแล้วนะครับ" ปกรณ์เข้ามาที่วัดในช่วงวันหยุดเมื่อออกจากไหว้พระในโบสถ์ได้เขาก็เห็นหญิงสาวคนที่อยากเจอนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาริมสระน้ำจึงรีบเดินปรี่เข้ามาคุยกับเธอ"คุณกร" สาวเจ้ายิ้มร่าเมื่อวันนี้บังเอิญได้มาเจอกับปกรณ์อีกครั้งหลังจากที่นั่งคุยกันได้พักใหญ่ปกรณ์ก็ถือโอกาสชวนสาวน้อยไปทานข้าวเพราะเขาอยากหาโอกาสนี้ชวนเธอมานานแล้วร้านอาหาร"เอยได้ยินข่าวมาบ้างคุณกรคงเครียดมากเลยสินะคะ" เจ้าเอยได้ยินข่าวของพีรยามาบ้างจึงเอ่ยถามปกรณ์ด้วยความเห็นอกเห็นใจเพราะรู้ดีว่าหากเกิดปัญหาขึ้นจากคนในครอบครัวคงทำให้ปกรณ์เครียดไม่น้อย"ครับแต่ตอนนี้โอเคขึ้นมากแล้ว" ปกรณ์ยิ้มอ่อนเอ็นดูหญิงสาวไม่น้อยที่เธอมีกะใจที่ห่วงคนนอกอย่างเขา"ดีแล้วล่ะค่ะ" สองหนุ่มสาวในร้านอาหารที่คุยกันหัวร่อต่อกระซิกอยู่ในสายตาของเหนือเมฆทั้งหมดนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะเขาตามเธอมาตั้งแต่อยู่ที่วัดแล้วเอี๊ยดดไม่นานนักทั้งสองก็ทานอาหารกันเรียบร้อยปกรณ์ที่กำลังจะเคลื่อนรถออกจากลานจอดก็มีรถหรูคันหนึ่งขับมาตัดหน้าจนเขาต้องเบรกกะทันหัน“ว้ายย..” สาวเจ้าร้องตกใจและหน้าเสียเล็กน้อย"ไม่ค่ะ..." เจ้าเอยส่ายหั
"อืม.." สาวเจ้าแอบมีเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขาบ้าแต่เมื่อมีสติเธอจึงรีบดิ้นหนีด้วยแรงที่มีให้มากที่สุดจนหลุดจากพันธนาการได้เพี๊ยะ มือเรียวยกฟาดใบหน้าคมจนเกิดรอยแดงทันทีที่สิ้นเสียงกระทบ"ดื้อกับฉันนักใช่ไหม""ปล่อยย..อื้ออ" เหนือเมฆอุ้มร่างบางมานอนกอดก่ายขึงเอาไว้แน่นบนเตียงนุ่มสองมือหนาประสานมือเรียวขึงเอาไว้แน่นไม่ให้เธอปัดป่ายไปไหนได้ริมฝีปากหนาซุกไซร้ลำคอระหงส์ดูดึงจนเป็นรอยแดงแสดงความเป็นเจ้าของไล่มาที่ริมฝีปากบางเขาบดจูบเร่าร้อนกว่าคราแรกส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมริมฝีปากบางก่อนจะตวัดลิ้นของคนพยศมาดูดดึงเล่นในปากทำเอาร่างบางอ่อนระทวยดั่งขี้ผึ้งรนไฟเมื่อสัมผัสวาบหวามค่อยๆทวีคูณขึ้นเรื่อยๆแม้นสมองจะสั่งให้ลืมและต่อต้านเขาอย่างไรแต่ร่างกายและใจเจ้ากรรมกลับเผลอไผลไปกับคนเอาแต่ใจอย่างง่ายดายตามคนที่ลวงล่อด้วยรสสัมผัสที่คุ้นเคย"อืม..." เหนือเมฆที่เห็นสาวเจ้ายอมเขาแต่โดยดีแล้วมือหนาก็ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของหญิงสาวออกและค่อยๆปลดบราเกาะอกครึ่งตัวสีเนื้อออกจนสองเต้างามเผยและรีบกอบกุมด้วยสองมือหนาบีบเค้นขยำเล่นด้วยความคิดถึงในขณะที่ริมฝีปากหนายังบดจูบอย่างเร่าร้อนอยู่ไม่คลายร่างบางแ
"ฉันจะรับผิดชอบเอยทุกอย่างนายไม่ต้องห่วง"เหนือเมฆไม่คิดจะโต้ตอบอิทธิกรเพราะรู้ว่าตัวเองผิดเขายกมือหนาปาดเลือดที่ริมฝีปากและรีบขอรับผิดชอบเจ้าเอยกับอิทธิกรอย่างลูกผู้ชาย"ฉันสัญญาว่าจะดูแลเจ้าเอยอย่างดีและจะไม่มีเรื่องผู้หญิงอีกแน่นอนแล้วฉันจะพาคุณแม่มาสู่ขอให้เร็วที่สุดนายไม่ต้องห่วง" ว่าจบก็เดินหันหลังกลับไปที่รถ"......" อิทธิกรยืนกำมือแน่นน้ำตาคลอตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกซึ่งเรื่องนี้อิทธิกรก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะยังไงเหนือเมฆก็ต้องรับผิดชอบเจ้าเอยในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาจนน้องของเขาตั้งท้องแล้ววันต่อมา"ทำไมทำแบบนี้นะเอย" อิทธิกรกำจดหมายของเจ้าเอยเอาไว้แน่นเมื่อรู้ว่าน้องสาวขอหนีปัญหาไปทำใจไม่เข้าใจว่าเจ้าเอยไม่รู้หรืออย่างไรว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะเป็นห่วงแค่ไหน"อย่าพึ่งเครียดไปเลยค่ะโอบเอยบอกเองนี่คะว่าสบายใจแล้วจะกลับมาให้เวลาเอยหน่อยนะคะ"อินทิราเชื่อว่าเจ้าเอยคงจะไม่ทำอะไรที่ทำร้ายตัวเองแน่นอนหากสบายใจขึ้นคงจะกลับมาเอง"เฮ้อ" มือหนายกกุมขมับหนึบตั้งแต่เมื่อคืนเขาก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะเป็นห่วงความรู้สึกเจ้าเอยก่อนหน้าเขาคิดว่าจะไม่มีเรื่องอะไรแล้วแท้ๆ11.00
ห้างสรรพสินค้า"แกว่าเอยอยู่ที่ไหน" ทรายแก้วเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้ากับเกวรินทร์ในช่วงหลังเลิกเรียนสองสาวในชุดนักศึกษาตอนนี้กังวลกับเรื่องราวของเจ้าเอยอยู่ไม่น้อยไม่รู้ว่าสภาพจิตใจของเจ้าเอยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"เอยคงอยู่ในที่ปลอดภัยนั่นแหละแกก็รู้นี่ว่าเอยคงไม่ทำอะไรที่มันทำร้ายตัวเองหรอกสบายใจแล้วน่าจะกลับมา" เกวรินทร์แม้นจะห่วงความรู้สึกของเจ้าเอยอยู่มากแต่เธอก็ยังเชื่อลึกๆว่าคนอย่างเจ้าเอยคงไม่ทำเรื่องอะไรที่เป็นภัยแก่ตัวเองตอนนี้คงอยากพักใจพักสมองอยู่คนเดียวเท่านั้น"ไปกับพวกผม" ระหว่างที่สองสาวเดินคุยกันอยู่พรางๆจู่ๆก็มีฝรั่งตัวโตใส่ชุดดำสองคนเดินมาประกบพวกเธอก่อนจะเอ่ยสั่งเป็นภาษาไทยเสียงดังฟังชัดจนทรายแก้วตกใจยืนนิ่งอึ้งทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้จักมาก่อนว่าทั้งสองเป็นใครหรือพวกเขาอาจจะจำคนผิดก็เป็นได้ในส่วนของเกวรินทร์นั้นเธอจำได้ดีว่าสองคนนี้เป็นใครทั้งตกใจไม่น้อยไม่คิดว่าพวกเขาจะตามเธอมาถึงที่นี่ได้"อะไรกันคะพวกเราไม่รู้จักพวกคุณน่าจะจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ" ทรายแก้วเอ่ยตอบคนทั้งสองด้วยรอยยิ้มอ่อนเป็นมารยาท"ตำรวจคะ" เกวรินทร์ชี้ไม้ชี้มือก่อนจะตะโกนว่ามีตำรวจเมื่อชายทั้งสอง
"ไม่มีอะไรค่ะแค่อยากมีเงิน" ว่าจบดวงตาน้อยๆก็หลุบมองต่ำอย่างเหนื่อยใจหากเธอรวยกว่านี้สักหน่อยคงไม่ยากเลยที่จะจัดการปัญหาของเพื่อนรักเธอได้ไม่ว่าจะเป็นออกค่ารักษาพี่ชายของเจ้าเอยและออกค่าคนงานให้เกวรินทร์หากเธอมีเงินเธอจะช่วยโดยไม่คิดเลย"จะเอาเท่าไร...จะให้ยืม" แทนไทยิ้มอ่อนเขาเสนอจะช่วยหญิงสาวโดยไม่ต้องคิดเพราะอย่างทรายแก้วเรียนอยู่แค่ปีหนึ่งเงินที่ต้องการตอนนี้คงๆม่ถึงห้าแสนเขามีให้เธอได้ยืมหรือให้ได้เลยสบายๆ"จ..จริงหรอกคะ?" คนตัวเล็กที่แก้มสองข้างป่องเพราะมีอาหารเต็มปากรีบเคี้ยวอาหารและรีบกลืนก่อนจะรีบถามชายหนุ่มตรงหน้าให้แน่ใจอีกครั้งว่าที่เขาพูดกับเธอเขาพูดจริงหรือพูดเล่น"อืม...เราก็รู้ว่าพี่มีเงิน""....." ทรายแก้วดีใจที่แทนไทจะช่วยเธอจริงๆแต่คำพูดของเขาเมื่อครู่ก็ทำให้เธออดว่าเขาว่าอวดรวยในใจไม่ได้"คิดอะไรอยู่หรือเปล่า" แทนไทจ้องมองคนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องมองเขานิ่งจนเขามองออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ"อ่อเปล่าค่ะ.." ทรายแก้วรีบส่ายหัวหงึกหงัก"จะเอาเท่าไรว่ามา""สองแสนค่ะ""ซื้อของแบรนด์เนมหรอก" แทนไทคิดเอาไว้ไม่ผิดคาดว่าเธอน่าจะขอไม่เกินห้าแสนแต่ก็อยากรู้คำตอบว่าเ