16.00 น.
วัดxx
"เจอกันอีกแล้วนะครับ" ปกรณ์เข้ามาที่วัดในช่วงวันหยุดเมื่อออกจากไหว้พระในโบสถ์ได้เขาก็เห็นหญิงสาวคนที่อยากเจอนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาริมสระน้ำจึงรีบเดินปรี่เข้ามาคุยกับเธอ
"คุณกร" สาวเจ้ายิ้มร่าเมื่อวันนี้บังเอิญได้มาเจอกับปกรณ์อีกครั้ง
หลังจากที่นั่งคุยกันได้พักใหญ่ปกรณ์ก็ถือโอกาสชวนสาวน้อยไปทานข้าวเพราะเขาอยากหาโอกาสนี้ชวนเธอมานานแล้วร้านอาหาร
"เอยได้ยินข่าวมาบ้างคุณกรคงเครียดมากเลยสินะคะ" เจ้าเอยได้ยินข่าวของพีรยามาบ้างจึงเอ่ยถามปกรณ์ด้วยความเห็นอกเห็นใจเพราะรู้ดีว่าหากเกิดปัญหาขึ้นจากคนในครอบครัวคงทำให้ปกรณ์เครียดไม่น้อย
"ครับแต่ตอนนี้โอเคขึ้นมากแล้ว" ปกรณ์ยิ้มอ่อนเอ็นดูหญิงสาวไม่น้อยที่เธอมีกะใจที่ห่วงคนนอกอย่างเขา
"ดีแล้วล่ะค่ะ"
สองหนุ่มสาวในร้านอาหารที่คุยกันหัวร่อต่อกระซิกอยู่ในสายตาของเหนือเมฆทั้งหมดนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะเขาตามเธอมาตั้งแต่อยู่ที่วัดแล้ว
เอี๊ยดด
ไม่นานนักทั้งสองก็ทานอาหารกันเรียบร้อยปกรณ์ที่กำลังจะเคลื่อนรถออกจากลานจอดก็มีรถหรูคันหนึ่งขับมาตัดหน้าจนเขาต้องเบรกกะทันหัน
“ว้ายย..” สาวเจ้าร้องตกใจและหน้าเสียเล็กน้อย
"ไม่ค่ะ..." เจ้าเอยส่ายหัวเบาๆก่อนจะเบิกตาโพรงตกใจเมื่อเห็นเหนือเมฆเดินลงจากรถมาเคาะกระจกเสียงดัง
ปึกๆๆ
"ลงมา.." เหนือเมฆเปิดประตูปลดเข็มขัดลากหญิงสาวออกมาข้างนอกสีหน้าของเหนือเมฆตอนนี้ค่อนข้างเดือดดาลไม่น้อยเพราะโมโหที่หญิงสาวไปทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นทีกับเขาเอาแต่หลบหน้า
"ทำอะไรของนาย" ปกรณที่เห็นเช่นนั้นก็เกิดความไม่พอใจพอสมควรรีบออกจากรถมาขวางหน้าเหนือเมฆเอาไว้เขาไม่รู้ว่าเหนือเมฆรู้จักกันได้อย่างไรและมีปัญหาอะไรกันแต่หากเหนือเมฆมากระทำบุ่มบ่ามแบบนี้กับหญิงสาวเขาก็มีสิทธิ์ปกป้องเธอ
"อย่ามายุ่งกับเมียฉัน" ดวงตาคมจ้องมองคนตรงหน้าก่อนจะโพร่งคำพูดออกมาด้วยความโมโหปกรณ์หน้าเสียเล็กน้อยยอมรับว่าตกใจกับคำพูดของเหนือเมฆเช่นกันแต่เขาก็ยังทำนิ่งและดูปฏิกิริยาของเจ้าเอยว่าอยากให้เขาช่วยเธอหรือไม่
"ปล่อยนะ..เอยไม่ใช่เมียคุณ" เจ้าเอยอายจนหน้าชาเพราะตอนนี้คนที่เดินออกมาลานจอดรถต่างก็มองมายังพวกเธอเป็นตาเดียว
"ผู้หญิงเค้าไม่อยากไปด้วยนายอย่าบังคับจิตใจเธอเลย" ปกรณ์รีบดึงหญิงสาวกลับมาและพาเธอขึ้นรถทันทีเพราะรู้แล้วว่าเธอคงไม่พอใจที่เหนือเมฆจะลากเธอไปแบบนี้เท่าไร
“โถ่เอ้ย...” บรู๊นนน เหนือเมฆเห็นว่าตอนนี้คนเริ่มมุงดูและ รปภ.ก็เริ่มวิ่งกันมาแล้วจึงจำได้ต้องกลับไปที่รถและขับออกไปอย่างคนหัวเสีย
สวนสาธารณะ
ปกรณ์เลือกที่จะมานั่งคุยกับหญิงสาวที่สวนสาธารณะก่อนจะพาเธอกลับบ้านเพราะเห็นเธอค่อนข้างเครียดไม่น้อยจึงอยากให้เธอได้ผ่อนคลายเสียก่อน
"คุณเอยรู้จักกับเหนือเมฆตั้งแต่เมื่อไรครับ"
"...พูดไปก็น่าอายนะคะ..เอยยอมเป็นของเล่นของเค้าเพื่อแลกกับเงินมารักษาพี่ชายของเอย..." เจ้าเอยก้มหน้างุดเธอค่อนข้างรู้ว่าสิ่งที่เธอทำมันน่าอายแต่ก้ไม่ได้ปฏิเสธที่จะเล่าให้ปกรณ์ฟังเพราะเธอเห็นเหมือนเขาเป็นพี่ชายคนหนึ่งไปแล้ว
"มันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยครับเราทำเพื่อคนที่เรารัก..แล้วคุณเอยรู้สึกอะไรกับเหนือหรือเปล่าครับ" ปกรณ์ยกมือแตะบ่าหญิงสาวก่อนจะพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มอ่อน
"จะว่าไม่ก็ไม่ได้แต่ตอนนี้เอยพยายามตัดใจจากเค้าตั้งแต่รู้ว่าเค้ากำลังจะแต่งงาน"
"แต่ตอนนี้เหนือไม่มีพันธะอะไรแล้วนะครับ"
"เอยรู้ค่ะ...แล้วเอยก็คิดว่าเค้าก็คงจะเห็นเอยเป็นแค่ของเล่นอยู่วันยังค่ำยังไงเอยเลิกยุ่งกับเค้าก็จะดีกว่า"
"ดีแล้วล่ะครับ..” คำตอบของหญิงสาวเหมือนเป็นเสียงสวรรค์ที่เขาอยากจะได้ยินเพราะเขาอยากให้เธอตีตัวออกห่างเหนือเมฆเพราะรู้ว่าผู้ชายอย่างเหนือเมฆเจ้าชู้อยู่พอสมควรอีกอย่างตอนนี้เขาก็เอ็นดูเธอมากกว่าน้องสาวไปแล้วเหลือแค่รอเวลาให้เขาได้รู้จักเธอนานกว่านี้แล้วเขาค่อยบอกกับเธอ
“คุณเอยจะว่าอะไรหรือเปล่าถ้าผมอยากจะไปมาหาสู่คุณเอยบ่อยๆ"
"ไม่เป็นไรเลยค่ะถ้าคุณกรเหงาก็มาเที่ยวบ้านเอยได้เรื่อยๆเลยนะคะ..." เจ้าเอยไม่ได้ปฏิเสธเธอยินดีด้วยซ้ำที่จะมีคนไปมาหาสู่บ่อยๆเพราะเธอเชื่อว่าคนที่บ้านก็ต้องชอบนิสัยของปกรณ์เช่นเดียวกับเธอ
"จริงหรอกครับวันหน้าผมต้องหาโอกาสเข้าไปแล้วสิ" ปกรณ์ยิ้มกริ่มเขารู้ว่าหญิงสาวคงไม่ได้คิดอะไรมากที่ตอบตกลงเขามาแบบนั้นแต่สำหรับเขาเห็นว่านี่เป็นด่านเริ่มต้นที่เขาจะเข้าหาเธอได้เต็มที่กว่าแต่ก่อน
วันต่อมา
19.00 น.
"อืม..." เจ้าเอยสะลึมสะลือตื่นมาบนเตียงนุ่มทั้งที่เธอกำลังอยู่ในชุดนักศึกษา
"..คุณเหนือ.. " เธอค่อยๆพยุงตัวลุกนั่งคิดว่าก่อนหน้าที่เธอจะอยู่ที่นี่เกิดอะไรขึ้นแล้วก็จำได้ว่าขณะที่เธอกำลังลงรถโดยสารที่หน้าปากซอยเข้าบ้านจู่ๆเธอก็เห็นเหนือเมฆยืนขวางอยู่ตรงหน้าแล้วเธอก็เป็นลมไป
"ตื่นแล้วหรอก" ร่างสูงที่ไม่สวมเสื้อโชว์มีเพียงกางเกงยีนส์สีดำราคาแพงใส่เอาไว้โชว์แผงกล้ามเดินเข้ามาในห้องนอนของเขา
เจ้าเอยที่พอจะลุกไหวก็รีบขยับร่างบางออกจากเตียงหมายจะวิ่งหนีออกไปจากห้องนี้ทันทีคราแรกเธอคิดว่าเจาจะเลิกยุ่งกับเธอแล้วเสียอีกไม่คิดว่าจะตามเธอไม่เลิกแบบนี้
"จะไปไหน" คนตัวโตรีบปรี่ขวางประตูก่อนจะรวบกอดร่างบางเอาไว้แน่นเขาจะไม่ยอมให้เธอหนีเขาไปไหนเด็ดขาดเพราะอุตส่าห์ทำตัวเป็นโจรข้างถนนดักฉุดเธอมาที่บ้านได้แล้ว
"เอยจะกลับบ้าน..ที่บ้านคงเป็นห่วงที่หายมาแบบนี้"
"ไม่ต้องห่วงที่บ้านของเธอหรอกฉันจัดการได้"
"แต่เอยจะกลับ" ใบหน้าหวานเงยมองหน้าใบหน้าคมด้วยสายตาไม่พอใจกับความเอาแต่ใจของเขามากๆ
"ทำไมไม่ยอมทำตัวดีๆกับฉันแบบเมื่อก่อนตอนนี้ฉันไม่มีเจ้าของแล้วเธอก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมสิ" เหนือเมฆสบถออกมาเสียงแข็งเขาอยากได้ยัยเด็กน่ารักคนเดิมของเขากลับมาอยากให้เธออ้อนอยากให้เธอเอาใจไม่ใช่เอาแต่อยากจะหนีเขาไปอยู่แบบนี้
"ไม่..เป็นเหมือนเดิมไม่ได้ในเมื่อคุณผิดสัญญากับเอยแล้วคุณทำให้พี่โอบรู้ว่าเอยทำอะไรลงไปดังนั้นเอยขอให้ทุกอย่างจบ"
"ไม่...ยังไม่จบ"
"เห็นแก่ตัว"
"อื้อ.." สิ้นเสียงฝาดของหญิงสาวริมฝีปากบางก็ถูกบดจูบอย่างเร่าร้อนเพราะความโหยหาของคนตัวโต
"อืม.." สาวเจ้าแอบมีเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขาบ้าแต่เมื่อมีสติเธอจึงรีบดิ้นหนีด้วยแรงที่มีให้มากที่สุดจนหลุดจากพันธนาการได้เพี๊ยะ มือเรียวยกฟาดใบหน้าคมจนเกิดรอยแดงทันทีที่สิ้นเสียงกระทบ"ดื้อกับฉันนักใช่ไหม""ปล่อยย..อื้ออ" เหนือเมฆอุ้มร่างบางมานอนกอดก่ายขึงเอาไว้แน่นบนเตียงนุ่มสองมือหนาประสานมือเรียวขึงเอาไว้แน่นไม่ให้เธอปัดป่ายไปไหนได้ริมฝีปากหนาซุกไซร้ลำคอระหงส์ดูดึงจนเป็นรอยแดงแสดงความเป็นเจ้าของไล่มาที่ริมฝีปากบางเขาบดจูบเร่าร้อนกว่าคราแรกส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมริมฝีปากบางก่อนจะตวัดลิ้นของคนพยศมาดูดดึงเล่นในปากทำเอาร่างบางอ่อนระทวยดั่งขี้ผึ้งรนไฟเมื่อสัมผัสวาบหวามค่อยๆทวีคูณขึ้นเรื่อยๆแม้นสมองจะสั่งให้ลืมและต่อต้านเขาอย่างไรแต่ร่างกายและใจเจ้ากรรมกลับเผลอไผลไปกับคนเอาแต่ใจอย่างง่ายดายตามคนที่ลวงล่อด้วยรสสัมผัสที่คุ้นเคย"อืม..." เหนือเมฆที่เห็นสาวเจ้ายอมเขาแต่โดยดีแล้วมือหนาก็ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของหญิงสาวออกและค่อยๆปลดบราเกาะอกครึ่งตัวสีเนื้อออกจนสองเต้างามเผยและรีบกอบกุมด้วยสองมือหนาบีบเค้นขยำเล่นด้วยความคิดถึงในขณะที่ริมฝีปากหนายังบดจูบอย่างเร่าร้อนอยู่ไม่คลายร่างบางแ
"ฉันจะรับผิดชอบเอยทุกอย่างนายไม่ต้องห่วง"เหนือเมฆไม่คิดจะโต้ตอบอิทธิกรเพราะรู้ว่าตัวเองผิดเขายกมือหนาปาดเลือดที่ริมฝีปากและรีบขอรับผิดชอบเจ้าเอยกับอิทธิกรอย่างลูกผู้ชาย"ฉันสัญญาว่าจะดูแลเจ้าเอยอย่างดีและจะไม่มีเรื่องผู้หญิงอีกแน่นอนแล้วฉันจะพาคุณแม่มาสู่ขอให้เร็วที่สุดนายไม่ต้องห่วง" ว่าจบก็เดินหันหลังกลับไปที่รถ"......" อิทธิกรยืนกำมือแน่นน้ำตาคลอตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกซึ่งเรื่องนี้อิทธิกรก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะยังไงเหนือเมฆก็ต้องรับผิดชอบเจ้าเอยในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาจนน้องของเขาตั้งท้องแล้ววันต่อมา"ทำไมทำแบบนี้นะเอย" อิทธิกรกำจดหมายของเจ้าเอยเอาไว้แน่นเมื่อรู้ว่าน้องสาวขอหนีปัญหาไปทำใจไม่เข้าใจว่าเจ้าเอยไม่รู้หรืออย่างไรว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะเป็นห่วงแค่ไหน"อย่าพึ่งเครียดไปเลยค่ะโอบเอยบอกเองนี่คะว่าสบายใจแล้วจะกลับมาให้เวลาเอยหน่อยนะคะ"อินทิราเชื่อว่าเจ้าเอยคงจะไม่ทำอะไรที่ทำร้ายตัวเองแน่นอนหากสบายใจขึ้นคงจะกลับมาเอง"เฮ้อ" มือหนายกกุมขมับหนึบตั้งแต่เมื่อคืนเขาก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะเป็นห่วงความรู้สึกเจ้าเอยก่อนหน้าเขาคิดว่าจะไม่มีเรื่องอะไรแล้วแท้ๆ11.00
ห้างสรรพสินค้า"แกว่าเอยอยู่ที่ไหน" ทรายแก้วเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้ากับเกวรินทร์ในช่วงหลังเลิกเรียนสองสาวในชุดนักศึกษาตอนนี้กังวลกับเรื่องราวของเจ้าเอยอยู่ไม่น้อยไม่รู้ว่าสภาพจิตใจของเจ้าเอยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"เอยคงอยู่ในที่ปลอดภัยนั่นแหละแกก็รู้นี่ว่าเอยคงไม่ทำอะไรที่มันทำร้ายตัวเองหรอกสบายใจแล้วน่าจะกลับมา" เกวรินทร์แม้นจะห่วงความรู้สึกของเจ้าเอยอยู่มากแต่เธอก็ยังเชื่อลึกๆว่าคนอย่างเจ้าเอยคงไม่ทำเรื่องอะไรที่เป็นภัยแก่ตัวเองตอนนี้คงอยากพักใจพักสมองอยู่คนเดียวเท่านั้น"ไปกับพวกผม" ระหว่างที่สองสาวเดินคุยกันอยู่พรางๆจู่ๆก็มีฝรั่งตัวโตใส่ชุดดำสองคนเดินมาประกบพวกเธอก่อนจะเอ่ยสั่งเป็นภาษาไทยเสียงดังฟังชัดจนทรายแก้วตกใจยืนนิ่งอึ้งทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้จักมาก่อนว่าทั้งสองเป็นใครหรือพวกเขาอาจจะจำคนผิดก็เป็นได้ในส่วนของเกวรินทร์นั้นเธอจำได้ดีว่าสองคนนี้เป็นใครทั้งตกใจไม่น้อยไม่คิดว่าพวกเขาจะตามเธอมาถึงที่นี่ได้"อะไรกันคะพวกเราไม่รู้จักพวกคุณน่าจะจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ" ทรายแก้วเอ่ยตอบคนทั้งสองด้วยรอยยิ้มอ่อนเป็นมารยาท"ตำรวจคะ" เกวรินทร์ชี้ไม้ชี้มือก่อนจะตะโกนว่ามีตำรวจเมื่อชายทั้งสอง
"ไม่มีอะไรค่ะแค่อยากมีเงิน" ว่าจบดวงตาน้อยๆก็หลุบมองต่ำอย่างเหนื่อยใจหากเธอรวยกว่านี้สักหน่อยคงไม่ยากเลยที่จะจัดการปัญหาของเพื่อนรักเธอได้ไม่ว่าจะเป็นออกค่ารักษาพี่ชายของเจ้าเอยและออกค่าคนงานให้เกวรินทร์หากเธอมีเงินเธอจะช่วยโดยไม่คิดเลย"จะเอาเท่าไร...จะให้ยืม" แทนไทยิ้มอ่อนเขาเสนอจะช่วยหญิงสาวโดยไม่ต้องคิดเพราะอย่างทรายแก้วเรียนอยู่แค่ปีหนึ่งเงินที่ต้องการตอนนี้คงๆม่ถึงห้าแสนเขามีให้เธอได้ยืมหรือให้ได้เลยสบายๆ"จ..จริงหรอกคะ?" คนตัวเล็กที่แก้มสองข้างป่องเพราะมีอาหารเต็มปากรีบเคี้ยวอาหารและรีบกลืนก่อนจะรีบถามชายหนุ่มตรงหน้าให้แน่ใจอีกครั้งว่าที่เขาพูดกับเธอเขาพูดจริงหรือพูดเล่น"อืม...เราก็รู้ว่าพี่มีเงิน""....." ทรายแก้วดีใจที่แทนไทจะช่วยเธอจริงๆแต่คำพูดของเขาเมื่อครู่ก็ทำให้เธออดว่าเขาว่าอวดรวยในใจไม่ได้"คิดอะไรอยู่หรือเปล่า" แทนไทจ้องมองคนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องมองเขานิ่งจนเขามองออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ"อ่อเปล่าค่ะ.." ทรายแก้วรีบส่ายหัวหงึกหงัก"จะเอาเท่าไรว่ามา""สองแสนค่ะ""ซื้อของแบรนด์เนมหรอก" แทนไทคิดเอาไว้ไม่ผิดคาดว่าเธอน่าจะขอไม่เกินห้าแสนแต่ก็อยากรู้คำตอบว่าเ
"ไปอยู่ที่คอนโด...นี่เธอหนีไปอยู่ที่คอนโดปกรณ์งั้นหรอก" ใบหน้าคมมีสีหน้าไม่พอใจกะทันหันเมื่อพึ่งจะรู้ว่าหญิงสาวนั้นหนีไปอยู่กับคนที่เขาไม่อยากจะให้เธออยู่ใกล้ "ค่ะ..ก็เอยไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนนี่คะจะไปรบกวนเพื่อนๆเอยก็ไม่กล้าเพราะรู้ว่าเดี๋ยวทุกคนก็ตามเอยเจอ""เอาอันนั้นทิ้งกินอันนี้แทน""ทำไมล่ะคะ""ไว้ใจปกรณ์มากเลยหรือไงคิดยังไงกับเค้าบอกฉันมารักปกรณ์หรือเปล่า" เหนือเมฆจ้องหญิงสาวเขม็ง"เอยคิดกับคุณกรแค่พี่ชายค่ะไม่ได้รักเค้า""แล้วเธอรักใคร" เจ้าเอยยังไม่ยอมตอบได้แต่ยืนหน้าแดงเพราะไม่ค่อยกล้าที่จะพูดกับคนตรงหน้าเท่าไร“ฉันถามทำไมไม่ตอบ” เหนืเมฆเริ่มกัดฟันแต่ยังพยายามข่มอารมณ์"...รัก..." มือเรียวยกจิ้มไปที่หน้าอกข้างซ้ายของเหนือเมฆก่อนจะฟุบกอดซุกใบหน้านวลไปที่อกแกร่ง"เกือบที่ฉันจะฟิวส์ขาดแล้วนะยัยตัวเล็ก" คนที่กำลังจะโมโหผ่อนลมหายใจลงยิ้มร่ารวบกอดหญิงสาวเอาไว้แน่นหากเธอบอกกับเขาช้ากว่านี้อีกนิดเดียวมีหวังเขาได้ระเบิดอารมณ์เป็นแน่หลายวันต่อมา วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แถมเป็นวันเกิดของแดเนียลเหนือเมฆจึงอาสาจัดสถานที่บ้านเป็นการฉลองวันเกิดและถือโอกาสนี้ชวนเพื่อนๆเขาและเพื้อ
เธอไม่คิดว่านิโคลัสจะมาอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ในหัวสมองของเธอตอนนี้กำลังตีกันไปหมดว่าเขามาได้อย่างไรและเขามาที่นี่ทำไมและเมื่อเขาเจอเธอแล้วจะจัดการกับเธออย่างไรตอนนี้เกวรินทร์หน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้มเหงื่อเม็ดน้อยบนหน้าผากเริ่มไหลซิกลงมากะทันหัน"เธอ!" นิโคลัสกะว่าจะไม่สนใจเรื่องของหญิงสาวที่ขโมยเงินและทำร้ายเขาอยู่แล้วเชียวแต่เมื่อมาเจอเธอที่นี่วันนี้เขาคิดว่าจำเป็นต้องสะสางเสียหน่อย"เกว" ทรายแก้วมองหน้าเกวรินทร์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกเพราะเธอจำหน้าชายสองคนที่เคยเข้ามาล้อมเธอกับเกวรินทร์ได้จึงรู้ได้ทันทีว่าคนที่กำลังจ้องเกวรินทร์เขม็งคือคนที่เพื่อนเธอขโมยเงินเขามา"อะไรกันครับ" แดเนียลโพร่งถามอาของเขาเหมือนที่ทุกคนก็อยากจะถามเพราะเห็นว่านิโคลัสจ้องเกวรินทร์ไม่วางสายตา"มานี่""เอ่อ.. ปล่อยฉันก่อนค่ะ" นิโคลัสลากเกวรินทร์ออกไปนอกบ้านโดยที่ไม่สนสายตาของคนอื่นที่กำลังจ้องมองด้วยความตกใจ"ด..เดี๋ยวค่ะ" ทรายแก้วและเจ้าเอยกำลังจะวิ่งตามออกไปแต่ถูกโอดินและลูคัสคนสนิทของนิโคลัสขวางเอาไว้ก่อน"ทุกคนไม่ต้องตามครับ" "นี่มันเรื่องอะไรกัน" แดเนียลรู้เอ่ยถามลูคัสและโอดินด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นั
หลายวันต่อมาวันนี้วารุณีเข้ามาหาลูกชายและลูกสะใภ้ที่บ้านเพราะรู้ว่าเจ้าเอยย้ายมาอยู่ที่บ้านลูกชายเธอได้เป็นอาทิตย์แล้วตอนนี้ในห้องครัวของบ้านเต็มไปด้วยข้าวของมากมายที่วารุณีซื้อเอามาเพื่อเป็นของบำรุงให้ลูกสะใภ้ของเธอ"ถ้าเรายังกินของคาวไม่ค่อยได้ก็พยายามกินวิตามินที่แม่ซื้อมาให้เยอะๆล่ะแล้วผลไม้นั่นก็กินบ่อยๆนะลูกของดีๆทั้งนั้น""..ค่ะคุณแม่...เอ่อ..พี่โอบทำงานเป็นยังไงบ้างคะ""เห็นพ่อเราให้รับผิดชอบงานใหญ่อยู่นะลูกตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรนับว่าพี่เราก็เก่งใช้ได้""รู้แบบนี้เอยก็สบายใจค่ะ"หลายวันต่อมา.. เหนือเมฆรีบเคลียงานสำคัญให้เสร็จสิ้นก่อนจะให้พชรดูแลบริษัทเพราะเขาต้องการพาภรรยาตัวน้อยของเขามาฮันนีมูนหลังจดทะเบียนเติมความหวานให้กันและกันและแล้ววันนี้เขาก็ได้พาหญิงสาวมาที่ภูเก็ตมาพักที่บ้านพักของพ่อเขาที่ซื้อเอาไว้ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มๆพื้นที่ของบ้านค่อนข้างกว้างเงียบสงบและติดริมทะเลวิวสวยงามใครเห็นที่นี่เป็นต้องหลงส่วนตัวเขาเองก็ชอบที่นี่ไม่น้อยจึงอยากให้เจ้าเอยมาเห็นที่นี่"เอยอยากอยู่ที่นี่นานๆจังเลยค่ะ" ร่างบางยืนกอดคนเป็นสามีแหงนหน้ายิ้มแป้นอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ที่เป็นจุดชมว
"เจ็บใจหรือเปล่าล่ะ.. เหนือเมฆไม่มีวันเลิกเจ้าชู้ได้หรอกนะรู้เอาไว้ซะด้วย”พีรยาผลักเจ้าเอยจนเธอเซเล็กน้อยทั้งยังจีบปากจีบคอพูดย้ำให้เจ้าเอยได้เจ็บใจ ในส่วนของเจ้าเอยเธอไม่มีแรงโต้ตอบอะไรทำได้แค่ยืนปาดน้ำตากับภาพที่เห็น"มานี่.." พีรยาดึงมือเจ้าเอยให้เดินตามเธอขึ้นมาจนมาถึงผาชัน"พาเอยมาที่นี่ทำไม""รู้หรือเปล่าที่ฉันต้องการฆ่านังวิเวียนเพราะอะไร" พีรยาผลักเจ้าเอยต้อนไปที่ผาชันจนสาวเจ้าเริ่มหน้าซีดเผือดกลัวหญิงสาวตรงหน้าจับใจ"คุณพลอย" "เพราะมันเอากับเหนือเมฆยังไงล่ะ...รู้หรือยังว่าเหนือเมฆเอาผู้หญิงไม่เลือกหน้ารู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทคู่หมั้นของตัวเองก็ยังไม่เว้น""ฮือๆๆ..." ยิ่งได้ฟังที่วิเวียนพูดความเสียใจและความกลัวก็ประดังประเดกันเข้ามาจนเจ้าเอยปล่อยโฮสะอึกสะอื้นตัวโยนเรื่องนี้เหนือเมฆไม่เคยเล่าให้เธอฟังแม้แต่น้อยผิดที่เธอเองจริงๆที่ให้ใจและไว้ใจเหนือเมฆเร็วเกินไปเพี๊ยะ"โอ้ยย.. ""คนอย่างแกมันมีดีกว่าฉันตรงไหน" พีรยายิ่งเห็นเจ้าเอยทำท่าทางอ่อนแอเธอก็ยิ่งหมั่นไส้เธอวาดแขนเป็นวงกว้างฟาดมือเรียวใบที่ใบหน้าเจ้าเอยจนเธอล้มลงพลั้กกก"อ๊ายยยยย..." ไม่ทันที่เจ้า