“ผมว่าคุณแม่คงไม่อยากได้คนที่ได้ชื่อว่าฆาตกรมาเป็นลูกสะใภ้จริงหรือเปล่าครับ...แต่ผมขอบอกเลยว่าผมรับไม่ได้”
“ที่หนูพลอยต้องตัดสินใจทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะเราหรือยังไง” วารุณีคิดว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้พีรยาตัดสินใจกระทำการแบบนี้คงไม่พ้นต้นเหตุเกิดจากความเจ้าชู้ของลูกชายเธอเป็นแน่จึงแอบสงสารพีรยาอยู่บ้างแต่จะให้เธอเป็นสะใภ้เข้ามาในบ้านอันนี้เธอคงไม่ยอมแล้ว
“ผมไม่เถียงนะครับว่าเธออาจจะโกรธเกลียดวิเวียนเพราะผมแต่เธอก็ไม่ควรจะฆ่าใครเป็นผักเป็นปลาใจคอเธอมันโหดเหี้ยมเกินผู้หญิงแล้วครับคุณแม่” เหนือเมฆรู้ว่าส่วนหนึ่งเป็นความผิดของเขาคราแรกเขาคิดว่าพีรยาจะเลิกยุ่งกับเขาเพราะเห็นว่าอย่างไรเขาก็ไม่สนใจแต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะใจคอโหดเหี้ยมจนสั่งฆ่าเพื่อนสนิทตัวเองได้
“แม่จะคุยกับทางนั้นเพื่อยกเลิกงานแต่งแต่แม่ก็ต้องรีบหาผู้หญิงคนใหม่ให้เราอยู่ดี” วารุณีเอ่ยออกมาตามที่เธอตั้งใจแม้นเธอจะเสียสะใภ้คนนี้ไปแต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะหาผู้หญิงให้ลูกชายเธอไม่ได้
“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณแม่ถึงอยากเร่งเร้าให้ผมแต่งงานนักหนา” เหนือเมฆเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าอ่อนใจ
“แม่ก็แค่อยากอุ้มหลานอยากเห็นเราเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีไงตาเหนือ” เหตุผลที่วารุณีอยากให้ลูกของเขาแต่งงานนักหนาเรื่องแรกก็อยากให้ลดความเจ้าชู้ลงแต่จริงๆแล้วเธออยากจะมีหลานอุ้มอย่างคนอื่นใจจะขาดต่างหาก
“คุณแม่ใจเย็นกับเรื่องนี้หน่อยจะได้หรือเปล่าครับผมมีแน่ครับครอบครัวแต่ไม่ใช่จะเอาผู้หญิงที่ไหนก็ได้ที่ถูกใจแค่คุณแม่เท่านั้นมาเป็นเมีย” เหนือเมฆค่อนข้างอ่อนใจกับความคิดของคนเป็นแม่ไม่น้อย
“ถ้าแม่ไม่หาคนดีๆให้...เราก็ยังคงควงผู้หญิงไม่เลือกหน้าอยู่อีกล่ะสิ”
“ผมรับปากครับคุณแม่ว่าผมจะไม่ยอมให้มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกแล้วคุณแม่เชื่อผมนะครับ” เหนือเมฆเข้าไปกอดคนเป็นแม่ก่อนจะให้สัญญาเพราะตอนนี้ความคิดของเขามันได้เปลี่ยนไปมากแล้วขอแค่ให้แม่ของเขารอดูเวลาหลังจากนี้เท่านั้นว่าเขาจะสามารถทำตามอย่างที่พูดได้หรือเปล่า
19.30 น.
“คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับผมจะจัดการให้ข่าวนี้เงียบที่สุดและจะช่วยน้องให้ได้ครับ” ปกรณ์จัดการให้ทนายขอประกันตัวพีรยาเอาไว้แล้วยังไงเขาก็จะช่วยเหลือน้องให้ถึงที่สุดที่เข้ามาหาพ่อกับแม่ของเขาในตอนนี้ก็เพื่ออยากทำให้ท่านทั้งสองสบายใจว่าเขาจะไม่ยอมทิ้งให้น้องสาวของเขาต้องเข้าคุกเด็ดขาด
“ฝากน้องด้วยนะลูกตอนนี้แม่ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแล้ว” พิลาวรรณเอ่ยกับลูกชายสะอึกสะอื้นวันนี้ทั้งวันเธอเป็นลมไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบเพราะเรื่องที่พีรยาทำเรื่องเอาไว้
“พ่อผิดเองที่ตามใจยัยพลอยมากเกินไป” ไตรภพเอ่ยออกมาอย่างอ่อนใจเขาผิดเองที่เลี้ยงลูกสาวอย่างตามใจอยากได้อะไรก็หามาให้ทุกอย่างจนทำให้ลูกของเขาเป็นแบบนี้
“อย่าโทษตัวเองเลยครับคุณพ่อทุกอย่างที่คุณพ่อทำไปก็เพราะรัก” ปกรณ์เข้าใจคุณพ่อของเขาดีเพราะเขาเองก็เลี้ยงน้องสาวมาอย่างตามใจเช่นกัน
22.00 น.
ปกรณ์กลับจากบ้านพ่อกับแม่ก็ตรงดิ่งมาที่บ้านของธันวาเพื่อนสนิทของเขาที่เป็นทนายความทันทีเพื่อหารือว่าจะช่วยพีรยาอย่างไรเพราะตอนนี้ปกรณ์รู้สึกเครียดมากที่สุด
“ไม่ต้องเครียดไปฉันว่าคดีนี้ฉันพอจะรับมือไหวเพราะวิเวียนก็ไม่ได้เสียชีวิต” ธันวาเอ่ยปลอบเพื่อนของเขาที่มาถึงก็เอาแต่ดื่มเขาดูออกว่าตอนนี้ปกรณ์เครียดมากเพราะหากไม่มากคงไม่คิดจะดื่มหนักขนาดนี้
“ขอบใจมากธัน” ปกรณ์หันมามองหน้าธันวาตาแดงก่ำเขารู้สึกขอบคุณเพื่อนของเขาไม่น้อยที่รับปากว่าจะช่วยให้ถึงที่สุดคำพูดของธันวาเหมือนเป็นยาดีที่ช่วยให้เขารู้สึกมีแรงต่อสู้ขึ้นมาบ้าง
หลายวันต่อมา
ตอนนี้พีรยารอดคดีได้เพราะได้ทนายเก่งๆมาช่วยสถานการณ์ทุกอย่างเป็นไปตามที่เหนือเมฆคิดเขารู้อยู่แล้วว่ายังไงพี่ชายและพ่อแม่ของพีรยาก็ไม่ยอมให้ลูกสาวคนเดียวติดคุกให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแน่นอนและเขาก็สบายใจได้ว่าพีรยาจะไม่มายุ่มย่ามกับเขาอีกด้วยรู้ว่าตอนนี้เธอบินไปอยู่ที่อเมริกาตามเดิมแล้ว
23.00 น.
สามหนุ่มเหนือเมฆแดเนียลและแทนไทนั่งดื่มกันอยู่ที่คลับของแทนไทเช่นเดิมที่ประจำ
“วิเวียนฉันส่งให้ไปอยู่ที่บ้านต่างจังหวัดของฉันเพราะคิดว่าที่นั่นน่าจะปลอดภัยสำหรับเธอหวังว่าแกจะไม่ไปยุ่งกับเธออีกล่ะ”
“รู้แล้วล่ะน่า” แทนไทสะกิดบอกกับเหนือเมฆให้เขาได้รับรู้ว่าตอนนี้วิเวียนอยู่ในที่ปลอดภัยและไม่ลืมจะย้ำให้เพื่อนของเขาได้จำว่าหากคิดจะเลิกเจ้าชู้แล้วก็ควรจะเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นนอกจากคนที่ตัวเองเลือก
“แล้วเรื่องงานแต่งตกลงยกเลิกแล้วใช่ไหม” แดเนียลเห็นว่าคดีของพีรยาจบแล้วเขาอยากรู้ว่าเรื่องงานแต่งของเหนือเมฆและพีรยาผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านว่าอย่างไร
“อืม..ทางนั้นโทรมาขอยกเลิกเองคงรู้ตัวนั่นแหละ” เหนือเมฆว่าจบก็อมยิ้มกริ่มด้วยสีหน้าพึงพอใจต่อจากนี้เขาก็ไม่มีพันธะอะไรแล้วและถึงเวลาที่เขาจะทวงของรักของหวงของเขาให้กลับมาเป็นของตัวเองให้ได้
วันต่อมา
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสอิทธิกรตื่นมาดูแลลูกสาวของเขาแต่เช้าเพราะช่วงนี้เขาดีขึ้นเต็มร้อยแล้วก็เลยอยากจะดูแลลูกเองบ้างเพื่อให้ภรรยาของเขาได้พักผ่อนเพราะตอนนี้เธอเริ่มซูบผอมลงมาก
"แอ้ๆ.."
"...ว่ายังไงคะหนูทักทายพ่อหรอกลูก..." ชายหนุ่มอุ้มเด็กหญิงตัวกลมวัยเจ็ดเดือนกว่าหยอกล้อเล่นอยู่บนเตียงข้างๆกับอินทิราที่กำลังนอนหลับอยู่
"อืม...ทำไมไม่เรียกฉันล่ะคะ" หญิงสาวสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงของลูกบวกกับแสงแดดที่ส่องผ่านม่านมาถูกใบหน้า
"ผมไม่อยากกวนคุณอีกอย่างผมก็อยากดูแลลูกเองด้วย" อิทธิกรยื่นมือลูบใบหน้านวลของภรรยาอันเป็นที่รักเบาๆ
"ขอบคุณนะคะ" คนพึ่งตื่นยิ้มปลื้มปริ่มเพราะห้วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาที่เธอรู้สึกมีความสุขจนไม่อาจจะบรรยายได้
ช่วงสายของวัน
"น้องอาย..ทำไมช่างน่าหมั่นเขี้ยวแบบนี้คะ..นี่แน่ะ" วันนี้เป็นวันหยุดของเจ้าเอยซึ่งปกติแล้วหากไม่มีธุระที่จะต้องออกไปไหนเธอก็ขลุกอยู่กับหลานสาวตัวกลมตลอดที่เธอร่าเริงได้เร็วขึ้นก็เพราะมีครอบครัวและเพื่อนที่ดีคอยอยู่ข้างๆ
"แอ้..เฮ่อๆๆๆ.." เจ้าก้อนกลมที่นอนกลิ้งคว่ำกลิ้งหงายอยู่ถูกคนเป็นอาหอมฟัดไปที่พุงย้วยๆก็หัวเราะร่าเสียงดังลั่นบ้านทำเอาคนเป็นพ่อและแม่ที่นั่งอยู่ไม่ห่างต่างก็พลอยอมยิ้มตามไปด้วย
"หัวเราะเสียงใหญ่จังเลย...เราเป็นผู้หญิงต้องหัวเราะเสียงเบาๆรู้ไหมคะ"
"แอ้ๆ.. "
"ดูท่าอาหลานจะคุยกันรู้เรื่องนะคะ" อินทิราหันไปคุยกับอิทธิกรในขณะที่เขากำลังนั่งอยู่หน้าจอโน๊ตบุ้คส่งเรซูเม่สมัครงาน
"นั่นสิ.." อิทธิกรมองไปยังน้องสาวของเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มยิ่งเห็นครอบครัวมีแต่เสียงหัวเราะเขาก็สุขใจขึ้นเยอะ
16.00 น.วัดxx"เจอกันอีกแล้วนะครับ" ปกรณ์เข้ามาที่วัดในช่วงวันหยุดเมื่อออกจากไหว้พระในโบสถ์ได้เขาก็เห็นหญิงสาวคนที่อยากเจอนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาริมสระน้ำจึงรีบเดินปรี่เข้ามาคุยกับเธอ"คุณกร" สาวเจ้ายิ้มร่าเมื่อวันนี้บังเอิญได้มาเจอกับปกรณ์อีกครั้งหลังจากที่นั่งคุยกันได้พักใหญ่ปกรณ์ก็ถือโอกาสชวนสาวน้อยไปทานข้าวเพราะเขาอยากหาโอกาสนี้ชวนเธอมานานแล้วร้านอาหาร"เอยได้ยินข่าวมาบ้างคุณกรคงเครียดมากเลยสินะคะ" เจ้าเอยได้ยินข่าวของพีรยามาบ้างจึงเอ่ยถามปกรณ์ด้วยความเห็นอกเห็นใจเพราะรู้ดีว่าหากเกิดปัญหาขึ้นจากคนในครอบครัวคงทำให้ปกรณ์เครียดไม่น้อย"ครับแต่ตอนนี้โอเคขึ้นมากแล้ว" ปกรณ์ยิ้มอ่อนเอ็นดูหญิงสาวไม่น้อยที่เธอมีกะใจที่ห่วงคนนอกอย่างเขา"ดีแล้วล่ะค่ะ" สองหนุ่มสาวในร้านอาหารที่คุยกันหัวร่อต่อกระซิกอยู่ในสายตาของเหนือเมฆทั้งหมดนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะเขาตามเธอมาตั้งแต่อยู่ที่วัดแล้วเอี๊ยดดไม่นานนักทั้งสองก็ทานอาหารกันเรียบร้อยปกรณ์ที่กำลังจะเคลื่อนรถออกจากลานจอดก็มีรถหรูคันหนึ่งขับมาตัดหน้าจนเขาต้องเบรกกะทันหัน“ว้ายย..” สาวเจ้าร้องตกใจและหน้าเสียเล็กน้อย"ไม่ค่ะ..." เจ้าเอยส่ายหั
"อืม.." สาวเจ้าแอบมีเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขาบ้าแต่เมื่อมีสติเธอจึงรีบดิ้นหนีด้วยแรงที่มีให้มากที่สุดจนหลุดจากพันธนาการได้เพี๊ยะ มือเรียวยกฟาดใบหน้าคมจนเกิดรอยแดงทันทีที่สิ้นเสียงกระทบ"ดื้อกับฉันนักใช่ไหม""ปล่อยย..อื้ออ" เหนือเมฆอุ้มร่างบางมานอนกอดก่ายขึงเอาไว้แน่นบนเตียงนุ่มสองมือหนาประสานมือเรียวขึงเอาไว้แน่นไม่ให้เธอปัดป่ายไปไหนได้ริมฝีปากหนาซุกไซร้ลำคอระหงส์ดูดึงจนเป็นรอยแดงแสดงความเป็นเจ้าของไล่มาที่ริมฝีปากบางเขาบดจูบเร่าร้อนกว่าคราแรกส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมริมฝีปากบางก่อนจะตวัดลิ้นของคนพยศมาดูดดึงเล่นในปากทำเอาร่างบางอ่อนระทวยดั่งขี้ผึ้งรนไฟเมื่อสัมผัสวาบหวามค่อยๆทวีคูณขึ้นเรื่อยๆแม้นสมองจะสั่งให้ลืมและต่อต้านเขาอย่างไรแต่ร่างกายและใจเจ้ากรรมกลับเผลอไผลไปกับคนเอาแต่ใจอย่างง่ายดายตามคนที่ลวงล่อด้วยรสสัมผัสที่คุ้นเคย"อืม..." เหนือเมฆที่เห็นสาวเจ้ายอมเขาแต่โดยดีแล้วมือหนาก็ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของหญิงสาวออกและค่อยๆปลดบราเกาะอกครึ่งตัวสีเนื้อออกจนสองเต้างามเผยและรีบกอบกุมด้วยสองมือหนาบีบเค้นขยำเล่นด้วยความคิดถึงในขณะที่ริมฝีปากหนายังบดจูบอย่างเร่าร้อนอยู่ไม่คลายร่างบางแ
"ฉันจะรับผิดชอบเอยทุกอย่างนายไม่ต้องห่วง"เหนือเมฆไม่คิดจะโต้ตอบอิทธิกรเพราะรู้ว่าตัวเองผิดเขายกมือหนาปาดเลือดที่ริมฝีปากและรีบขอรับผิดชอบเจ้าเอยกับอิทธิกรอย่างลูกผู้ชาย"ฉันสัญญาว่าจะดูแลเจ้าเอยอย่างดีและจะไม่มีเรื่องผู้หญิงอีกแน่นอนแล้วฉันจะพาคุณแม่มาสู่ขอให้เร็วที่สุดนายไม่ต้องห่วง" ว่าจบก็เดินหันหลังกลับไปที่รถ"......" อิทธิกรยืนกำมือแน่นน้ำตาคลอตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกซึ่งเรื่องนี้อิทธิกรก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะยังไงเหนือเมฆก็ต้องรับผิดชอบเจ้าเอยในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาจนน้องของเขาตั้งท้องแล้ววันต่อมา"ทำไมทำแบบนี้นะเอย" อิทธิกรกำจดหมายของเจ้าเอยเอาไว้แน่นเมื่อรู้ว่าน้องสาวขอหนีปัญหาไปทำใจไม่เข้าใจว่าเจ้าเอยไม่รู้หรืออย่างไรว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะเป็นห่วงแค่ไหน"อย่าพึ่งเครียดไปเลยค่ะโอบเอยบอกเองนี่คะว่าสบายใจแล้วจะกลับมาให้เวลาเอยหน่อยนะคะ"อินทิราเชื่อว่าเจ้าเอยคงจะไม่ทำอะไรที่ทำร้ายตัวเองแน่นอนหากสบายใจขึ้นคงจะกลับมาเอง"เฮ้อ" มือหนายกกุมขมับหนึบตั้งแต่เมื่อคืนเขาก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะเป็นห่วงความรู้สึกเจ้าเอยก่อนหน้าเขาคิดว่าจะไม่มีเรื่องอะไรแล้วแท้ๆ11.00
ห้างสรรพสินค้า"แกว่าเอยอยู่ที่ไหน" ทรายแก้วเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้ากับเกวรินทร์ในช่วงหลังเลิกเรียนสองสาวในชุดนักศึกษาตอนนี้กังวลกับเรื่องราวของเจ้าเอยอยู่ไม่น้อยไม่รู้ว่าสภาพจิตใจของเจ้าเอยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"เอยคงอยู่ในที่ปลอดภัยนั่นแหละแกก็รู้นี่ว่าเอยคงไม่ทำอะไรที่มันทำร้ายตัวเองหรอกสบายใจแล้วน่าจะกลับมา" เกวรินทร์แม้นจะห่วงความรู้สึกของเจ้าเอยอยู่มากแต่เธอก็ยังเชื่อลึกๆว่าคนอย่างเจ้าเอยคงไม่ทำเรื่องอะไรที่เป็นภัยแก่ตัวเองตอนนี้คงอยากพักใจพักสมองอยู่คนเดียวเท่านั้น"ไปกับพวกผม" ระหว่างที่สองสาวเดินคุยกันอยู่พรางๆจู่ๆก็มีฝรั่งตัวโตใส่ชุดดำสองคนเดินมาประกบพวกเธอก่อนจะเอ่ยสั่งเป็นภาษาไทยเสียงดังฟังชัดจนทรายแก้วตกใจยืนนิ่งอึ้งทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้จักมาก่อนว่าทั้งสองเป็นใครหรือพวกเขาอาจจะจำคนผิดก็เป็นได้ในส่วนของเกวรินทร์นั้นเธอจำได้ดีว่าสองคนนี้เป็นใครทั้งตกใจไม่น้อยไม่คิดว่าพวกเขาจะตามเธอมาถึงที่นี่ได้"อะไรกันคะพวกเราไม่รู้จักพวกคุณน่าจะจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ" ทรายแก้วเอ่ยตอบคนทั้งสองด้วยรอยยิ้มอ่อนเป็นมารยาท"ตำรวจคะ" เกวรินทร์ชี้ไม้ชี้มือก่อนจะตะโกนว่ามีตำรวจเมื่อชายทั้งสอง
"ไม่มีอะไรค่ะแค่อยากมีเงิน" ว่าจบดวงตาน้อยๆก็หลุบมองต่ำอย่างเหนื่อยใจหากเธอรวยกว่านี้สักหน่อยคงไม่ยากเลยที่จะจัดการปัญหาของเพื่อนรักเธอได้ไม่ว่าจะเป็นออกค่ารักษาพี่ชายของเจ้าเอยและออกค่าคนงานให้เกวรินทร์หากเธอมีเงินเธอจะช่วยโดยไม่คิดเลย"จะเอาเท่าไร...จะให้ยืม" แทนไทยิ้มอ่อนเขาเสนอจะช่วยหญิงสาวโดยไม่ต้องคิดเพราะอย่างทรายแก้วเรียนอยู่แค่ปีหนึ่งเงินที่ต้องการตอนนี้คงๆม่ถึงห้าแสนเขามีให้เธอได้ยืมหรือให้ได้เลยสบายๆ"จ..จริงหรอกคะ?" คนตัวเล็กที่แก้มสองข้างป่องเพราะมีอาหารเต็มปากรีบเคี้ยวอาหารและรีบกลืนก่อนจะรีบถามชายหนุ่มตรงหน้าให้แน่ใจอีกครั้งว่าที่เขาพูดกับเธอเขาพูดจริงหรือพูดเล่น"อืม...เราก็รู้ว่าพี่มีเงิน""....." ทรายแก้วดีใจที่แทนไทจะช่วยเธอจริงๆแต่คำพูดของเขาเมื่อครู่ก็ทำให้เธออดว่าเขาว่าอวดรวยในใจไม่ได้"คิดอะไรอยู่หรือเปล่า" แทนไทจ้องมองคนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องมองเขานิ่งจนเขามองออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ"อ่อเปล่าค่ะ.." ทรายแก้วรีบส่ายหัวหงึกหงัก"จะเอาเท่าไรว่ามา""สองแสนค่ะ""ซื้อของแบรนด์เนมหรอก" แทนไทคิดเอาไว้ไม่ผิดคาดว่าเธอน่าจะขอไม่เกินห้าแสนแต่ก็อยากรู้คำตอบว่าเ
"ไปอยู่ที่คอนโด...นี่เธอหนีไปอยู่ที่คอนโดปกรณ์งั้นหรอก" ใบหน้าคมมีสีหน้าไม่พอใจกะทันหันเมื่อพึ่งจะรู้ว่าหญิงสาวนั้นหนีไปอยู่กับคนที่เขาไม่อยากจะให้เธออยู่ใกล้ "ค่ะ..ก็เอยไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนนี่คะจะไปรบกวนเพื่อนๆเอยก็ไม่กล้าเพราะรู้ว่าเดี๋ยวทุกคนก็ตามเอยเจอ""เอาอันนั้นทิ้งกินอันนี้แทน""ทำไมล่ะคะ""ไว้ใจปกรณ์มากเลยหรือไงคิดยังไงกับเค้าบอกฉันมารักปกรณ์หรือเปล่า" เหนือเมฆจ้องหญิงสาวเขม็ง"เอยคิดกับคุณกรแค่พี่ชายค่ะไม่ได้รักเค้า""แล้วเธอรักใคร" เจ้าเอยยังไม่ยอมตอบได้แต่ยืนหน้าแดงเพราะไม่ค่อยกล้าที่จะพูดกับคนตรงหน้าเท่าไร“ฉันถามทำไมไม่ตอบ” เหนืเมฆเริ่มกัดฟันแต่ยังพยายามข่มอารมณ์"...รัก..." มือเรียวยกจิ้มไปที่หน้าอกข้างซ้ายของเหนือเมฆก่อนจะฟุบกอดซุกใบหน้านวลไปที่อกแกร่ง"เกือบที่ฉันจะฟิวส์ขาดแล้วนะยัยตัวเล็ก" คนที่กำลังจะโมโหผ่อนลมหายใจลงยิ้มร่ารวบกอดหญิงสาวเอาไว้แน่นหากเธอบอกกับเขาช้ากว่านี้อีกนิดเดียวมีหวังเขาได้ระเบิดอารมณ์เป็นแน่หลายวันต่อมา วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แถมเป็นวันเกิดของแดเนียลเหนือเมฆจึงอาสาจัดสถานที่บ้านเป็นการฉลองวันเกิดและถือโอกาสนี้ชวนเพื่อนๆเขาและเพื้อ
เธอไม่คิดว่านิโคลัสจะมาอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ในหัวสมองของเธอตอนนี้กำลังตีกันไปหมดว่าเขามาได้อย่างไรและเขามาที่นี่ทำไมและเมื่อเขาเจอเธอแล้วจะจัดการกับเธออย่างไรตอนนี้เกวรินทร์หน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้มเหงื่อเม็ดน้อยบนหน้าผากเริ่มไหลซิกลงมากะทันหัน"เธอ!" นิโคลัสกะว่าจะไม่สนใจเรื่องของหญิงสาวที่ขโมยเงินและทำร้ายเขาอยู่แล้วเชียวแต่เมื่อมาเจอเธอที่นี่วันนี้เขาคิดว่าจำเป็นต้องสะสางเสียหน่อย"เกว" ทรายแก้วมองหน้าเกวรินทร์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกเพราะเธอจำหน้าชายสองคนที่เคยเข้ามาล้อมเธอกับเกวรินทร์ได้จึงรู้ได้ทันทีว่าคนที่กำลังจ้องเกวรินทร์เขม็งคือคนที่เพื่อนเธอขโมยเงินเขามา"อะไรกันครับ" แดเนียลโพร่งถามอาของเขาเหมือนที่ทุกคนก็อยากจะถามเพราะเห็นว่านิโคลัสจ้องเกวรินทร์ไม่วางสายตา"มานี่""เอ่อ.. ปล่อยฉันก่อนค่ะ" นิโคลัสลากเกวรินทร์ออกไปนอกบ้านโดยที่ไม่สนสายตาของคนอื่นที่กำลังจ้องมองด้วยความตกใจ"ด..เดี๋ยวค่ะ" ทรายแก้วและเจ้าเอยกำลังจะวิ่งตามออกไปแต่ถูกโอดินและลูคัสคนสนิทของนิโคลัสขวางเอาไว้ก่อน"ทุกคนไม่ต้องตามครับ" "นี่มันเรื่องอะไรกัน" แดเนียลรู้เอ่ยถามลูคัสและโอดินด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นั
หลายวันต่อมาวันนี้วารุณีเข้ามาหาลูกชายและลูกสะใภ้ที่บ้านเพราะรู้ว่าเจ้าเอยย้ายมาอยู่ที่บ้านลูกชายเธอได้เป็นอาทิตย์แล้วตอนนี้ในห้องครัวของบ้านเต็มไปด้วยข้าวของมากมายที่วารุณีซื้อเอามาเพื่อเป็นของบำรุงให้ลูกสะใภ้ของเธอ"ถ้าเรายังกินของคาวไม่ค่อยได้ก็พยายามกินวิตามินที่แม่ซื้อมาให้เยอะๆล่ะแล้วผลไม้นั่นก็กินบ่อยๆนะลูกของดีๆทั้งนั้น""..ค่ะคุณแม่...เอ่อ..พี่โอบทำงานเป็นยังไงบ้างคะ""เห็นพ่อเราให้รับผิดชอบงานใหญ่อยู่นะลูกตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรนับว่าพี่เราก็เก่งใช้ได้""รู้แบบนี้เอยก็สบายใจค่ะ"หลายวันต่อมา.. เหนือเมฆรีบเคลียงานสำคัญให้เสร็จสิ้นก่อนจะให้พชรดูแลบริษัทเพราะเขาต้องการพาภรรยาตัวน้อยของเขามาฮันนีมูนหลังจดทะเบียนเติมความหวานให้กันและกันและแล้ววันนี้เขาก็ได้พาหญิงสาวมาที่ภูเก็ตมาพักที่บ้านพักของพ่อเขาที่ซื้อเอาไว้ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มๆพื้นที่ของบ้านค่อนข้างกว้างเงียบสงบและติดริมทะเลวิวสวยงามใครเห็นที่นี่เป็นต้องหลงส่วนตัวเขาเองก็ชอบที่นี่ไม่น้อยจึงอยากให้เจ้าเอยมาเห็นที่นี่"เอยอยากอยู่ที่นี่นานๆจังเลยค่ะ" ร่างบางยืนกอดคนเป็นสามีแหงนหน้ายิ้มแป้นอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ที่เป็นจุดชมว