ห้างสรรพสินค้า
"แกว่าเอยอยู่ที่ไหน" ทรายแก้วเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้ากับเกวรินทร์ในช่วงหลังเลิกเรียนสองสาวในชุดนักศึกษาตอนนี้กังวลกับเรื่องราวของเจ้าเอยอยู่ไม่น้อยไม่รู้ว่าสภาพจิตใจของเจ้าเอยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
"เอยคงอยู่ในที่ปลอดภัยนั่นแหละแกก็รู้นี่ว่าเอยคงไม่ทำอะไรที่มันทำร้ายตัวเองหรอกสบายใจแล้วน่าจะกลับมา" เกวรินทร์แม้นจะห่วงความรู้สึกของเจ้าเอยอยู่มากแต่เธอก็ยังเชื่อลึกๆว่าคนอย่างเจ้าเอยคงไม่ทำเรื่องอะไรที่เป็นภัยแก่ตัวเองตอนนี้คงอยากพักใจพักสมองอยู่คนเดียวเท่านั้น
"ไปกับพวกผม" ระหว่างที่สองสาวเดินคุยกันอยู่พรางๆจู่ๆก็มีฝรั่งตัวโตใส่ชุดดำสองคนเดินมาประกบพวกเธอก่อนจะเอ่ยสั่งเป็นภาษาไทยเสียงดังฟังชัดจนทรายแก้วตกใจยืนนิ่งอึ้งทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้จักมาก่อนว่าทั้งสองเป็นใครหรือพวกเขาอาจจะจำคนผิดก็เป็นได้
ในส่วนของเกวรินทร์นั้นเธอจำได้ดีว่าสองคนนี้เป็นใครทั้งตกใจไม่น้อยไม่คิดว่าพวกเขาจะตามเธอมาถึงที่นี่ได้
"อะไรกันคะพวกเราไม่รู้จักพวกคุณน่าจะจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ" ทรายแก้วเอ่ยตอบคนทั้งสองด้วยรอยยิ้มอ่อนเป็นมารยาท
"ตำรวจคะ" เกวรินทร์ชี้ไม้ชี้มือก่อนจะตะโกนว่ามีตำรวจเมื่อชายทั้งสองหันตามทางที่เธอชี้ได้สาวเจ้าก็รีบดึงมือทรายแก้วให้วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
สองสาวตาลีตาเหลือกมาจนถึงลานจอดรถที่ทรายแก้วจอดเอาไว้
"เล่ามาว่ามันเรื่องอะไร" ทรายแก้วเข้ามาในรถพร้อมเกวรินทร์ได้ก็เอ่ยถามเพื่อนสาวเสียงแข็งเพราะพฤติกรรมหลบหนีของเกวรินทร์ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนเธอรู้จักกับสองคนนั้น
"ไปห้องฉันก่อนเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง" เกวรินทร์ไม่พร้อมที่จะอธิบายตอนนี้เพราะกลัวว่าคนพวกนั้นจะตามมาได้
ครู่ต่อมา
ไม่นานนักทรายแก้วก็ขับรถมาถึงหอพักของเกวรินทร์และรีบขึ้นไปคุยกันด้านบน
เกวรินทร์เริ่มเล่าให้ทรายแก้วฟังทุกอย่างหลังจากเข้ามาถึงห้อง
ครั้งเมื่อปิดเทอมที่ผ่านมาหญิงสาวเห็นว่าที่สวนวิกฤตหนักหากไม่มีคนงานช่วยเก็บผลผลิตทุกอย่างก็จะเน่าคาต้นไม่ได้กำไรอะไรงอกเงย
เกวรินทร์จึงทำตัวเป็นหัวขโมยเพราะตอนนั้นเธอไม่มีทางเลือกด้วยอยากมีเงินมาจ้างคนงานเก็บผลผลิตเพราะหากพ่อกับแม่เธอไม่ได้เงินจากการขายผลผลิตไปใช้หนี้ที่ก็ต้องถูกยึด
เธอบุกเข้าไปในบ้านพักที่นิโคลัสนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ชาวอเมริกาที่มาพักผ่อนที่เมืองไทย
เธอปลอมตัวบอกกับเขาว่าเป็นแม่บ้านหลังจากนั้นพอได้โอกาสจึงขโมยเงินของนิโคลัสมาสองแสนทั้งยังทำร้ายเขาบาดเจ็บก่อนจะหนีออกไปด้วยและเธอก็ไม่คิดว่านิโคลัสจะตามเธอมาถึงกรุงเทพได้เท่ากับว่าตอนนี้เธอก็น่าจะไม่ปลอดภัยเพราะคนที่ตามเธอมารวยและมีอิทธิพลที่เรียกได้ว่าระดับมาเฟียก็ว่าได้
"นี่อย่าบอกนะว่าพวกนั้นจะตามมาเอาชีวิตแก" ทรายแก้วฟังเรื่องราวทั้งหมดก็กุมขมับหนึบ
"น่าจะเป็นอย่างนั้น" เกวรินทร์ก้มหน้างุด
"โถ่เอ้ย...ทำไมทำอะไรไม่คิดแบบนี้นะ"
"ก็ฉันไม่มีทางเลือกนี่ตอนนั้นยังไงก็ต้องหาคนงานไม่อย่างนั้นที่พ่อกับแม่ฉันก็ต้องถูกยึด"
"เฮ้อ.. เอาไงต่อล่ะทีนี้" ทรายแก้วถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก
"ฉันว่าจะขาดเรียนสักสองสามวันกลัวว่าคนพวกนั้นจะตามไปถึงมหาลัย"
"อืม.. ดีแล้ว.. เอ่อ...แล้วเงินที่แกขโมยเค้ามาเท่าไรเผื่อหาไปคืนแล้วเรื่องจะจบ" ทรายแก้วก็ว่าจะแนะนำให้เพื่อนเธอทำแบบนี้เช่นกัน
"สองแสน"
"ห้ะ..แล้วพ่อกับแม่แกรู้หรือเปล่า" ทรายแก้วสบถเสียงดังลั่นห้อง
"ไม่อะ..ฉันบอกว่าฉันถูกหวย" เกวรินทร์ส่ายหัวเบาๆ
"โอ้ย..ตาย.." ทรายแก้วยกมือเรียวกุมหัวก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มของเพื่อนตอนนี้เธอมืดแปดด้านไม่รู้จะช่วยเพื่อนรักเธอยังไงเลย
สามวันต่อมา
"เฮ้อ..ฉันจะช่วยแกยังไงดีเกวทำไมเพื่อนฉันต้องมามีปัญหาพร้อมๆกันด้วยเนี่ย" วันเสาร์นี้เป็นเหมือนเดิมที่ทรายแก้วจะกลับมาช่วยงานที่ร้านตั้งแต่วันที่รู้ปัญหาของเกวรินทร์จนถึงวันนี้เธอก็เครียดไม่หายจนไม่เป็นอันทำงาน
"เป็นอะไรลูกหน้าหงอยๆ" กิ่งกาญจน์สังเกตลูกสาวเธอตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วว่าไม่ค่อยจะสดชื่น
"เปล่าค่ะวันนี้อากาศร้อนเลยเหนื่อยๆ"
"วันนี้เอาขนมไปที่บ้านคุณน้ำทิพย์เหมือนเดิมนะลูก"
"ค่ะแม่" ว่าจบก็เดินไปหยิบตระกร้าขนมบนโต๊ะออกจากร้านไป
12.00 น.
"ไม่มีคนอยู่งั้นหรอก" ทรายแก้วลงจากรถเก๋งของเธอได้ก็เดินถือตระกร้าที่มีแต่กล่องขนมหวานของน้ำทิพย์เข้ามาในบ้านโดยถือวิสาสะเพราะเธอเห็นประตูเปิดเอาไว้เมื่อเดินมาจนถึงหลังบ้านมาที่สวนหย่อมริมแม่น้ำก็ไม่ยักจะเห็นใครสักคน
"ทรายแก้ว" แทนไทเดินลงมาจากชั้นบนเพราะเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าทรายแก้วจอดรถแล้วเข้ามาในบ้านเขารู้ว่าเธอมาส่งขนมเพราะคุณยายของเขาบอกเอาไว้ก่อนจะออกไปตรวจสุขภาพพร้อมดาวเรืองเมื่อช่วงสาย
"คุณแทน"
"เอาขนมมาส่งใช่หรือเปล่า"
"ค่ะ... แล้วคุณยายไม่อยู่หรอกคะ" สาวเจ้ายื่นตระกร้าขนมให้แทนไท
"ออกไปตรวจสุขภาพกับป้าดาวน่ะบ่ายๆน่าจะกลับ"
"อ่อค่ะ..งั้นฉันกลับแล้วนะคะ." เมื่อเสร็จธุระแล้วทรายแก้วจึงขอตัวกลับ
"นี่จะรีบกลับไปไหนอยู่ทานข้าวเที่ยงกับพี่ก่อนสิ" แทนไทรั้งมือหญิงสาวเอาไว้เพราะอยากให้เธออยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนเนื่องจากที่เจอกันครั้งนั้นยังไม่ได้มีโอกาสคุยกันเลย
"ฉันไม่หิวค่ะ" ทรายแก้วตอบกลับด้วยสีหน้าละห้อยเธอไม่มีกะจิตกะใจจะทานอะไรทั้งนั้นเพราะยังคงเครียดเรื่องเพื่อนๆอยู่ตลอด
"นี่วันนี้ป้าดาวทำไก่ตุ๋นส่วนของหวานก็ลูกตาลลอยแก้ว" แทนไทเอาของโปรดของหญิงสาวมาล่อเพราะจำได้ดีว่ายัยเด็กขี้แยที่เขาชอบไปเล่นด้วยเมื่อก่อนนั้นชอบเมนูนี้เป็นชีวิตจิตใจ
"อึก..." คนที่ทานอะไรไม่ค่อยลงเมื่อได้ยินชื่อเมนูโปรดก็ยืนนิ่งกลืนน้ำลายอึกใหญ่
"ไปทานเพื่อนพี่หน่อยสิ" แทนไทดูออกว่าหญิงสาวคงไม่ปฏิเสธดังนั้นจึงรีบจูงมือเธอให้เดินตามมาที่โต๊ะอาหาร
ครู่ต่อมา
"นี่หรอกไม่หิว" แทนไทนั่งมองหญิงสาวที่กำลังเคี้ยวอาหารคำโตจนแก้มป่องนี่หรือที่เธอบอกไม่หิว
"ก็ไม่ค่อยหิวเท่าไรค่ะ" ทรายแก้วส่ายหัวเบาๆ
"พี่เห็นหน้าเราเศร้าๆนะเป็นอะไรหรือเปล่า" แทนไทว่าจะถามตั้งแต่เห็นเธอคราแรกแล้วเพราะวันนี้เธอดูไม่ค่อยสดใสเหมือนก่อนหน้าที่เจอ
"ไม่มีอะไรค่ะแค่อยากมีเงิน" ว่าจบดวงตาน้อยๆก็หลุบมองต่ำอย่างเหนื่อยใจหากเธอรวยกว่านี้สักหน่อยคงไม่ยากเลยที่จะจัดการปัญหาของเพื่อนรักเธอได้ไม่ว่าจะเป็นออกค่ารักษาพี่ชายของเจ้าเอยและออกค่าคนงานให้เกวรินทร์หากเธอมีเงินเธอจะช่วยโดยไม่คิดเลย"จะเอาเท่าไร...จะให้ยืม" แทนไทยิ้มอ่อนเขาเสนอจะช่วยหญิงสาวโดยไม่ต้องคิดเพราะอย่างทรายแก้วเรียนอยู่แค่ปีหนึ่งเงินที่ต้องการตอนนี้คงๆม่ถึงห้าแสนเขามีให้เธอได้ยืมหรือให้ได้เลยสบายๆ"จ..จริงหรอกคะ?" คนตัวเล็กที่แก้มสองข้างป่องเพราะมีอาหารเต็มปากรีบเคี้ยวอาหารและรีบกลืนก่อนจะรีบถามชายหนุ่มตรงหน้าให้แน่ใจอีกครั้งว่าที่เขาพูดกับเธอเขาพูดจริงหรือพูดเล่น"อืม...เราก็รู้ว่าพี่มีเงิน""....." ทรายแก้วดีใจที่แทนไทจะช่วยเธอจริงๆแต่คำพูดของเขาเมื่อครู่ก็ทำให้เธออดว่าเขาว่าอวดรวยในใจไม่ได้"คิดอะไรอยู่หรือเปล่า" แทนไทจ้องมองคนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องมองเขานิ่งจนเขามองออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ"อ่อเปล่าค่ะ.." ทรายแก้วรีบส่ายหัวหงึกหงัก"จะเอาเท่าไรว่ามา""สองแสนค่ะ""ซื้อของแบรนด์เนมหรอก" แทนไทคิดเอาไว้ไม่ผิดคาดว่าเธอน่าจะขอไม่เกินห้าแสนแต่ก็อยากรู้คำตอบว่าเ
"ไปอยู่ที่คอนโด...นี่เธอหนีไปอยู่ที่คอนโดปกรณ์งั้นหรอก" ใบหน้าคมมีสีหน้าไม่พอใจกะทันหันเมื่อพึ่งจะรู้ว่าหญิงสาวนั้นหนีไปอยู่กับคนที่เขาไม่อยากจะให้เธออยู่ใกล้ "ค่ะ..ก็เอยไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนนี่คะจะไปรบกวนเพื่อนๆเอยก็ไม่กล้าเพราะรู้ว่าเดี๋ยวทุกคนก็ตามเอยเจอ""เอาอันนั้นทิ้งกินอันนี้แทน""ทำไมล่ะคะ""ไว้ใจปกรณ์มากเลยหรือไงคิดยังไงกับเค้าบอกฉันมารักปกรณ์หรือเปล่า" เหนือเมฆจ้องหญิงสาวเขม็ง"เอยคิดกับคุณกรแค่พี่ชายค่ะไม่ได้รักเค้า""แล้วเธอรักใคร" เจ้าเอยยังไม่ยอมตอบได้แต่ยืนหน้าแดงเพราะไม่ค่อยกล้าที่จะพูดกับคนตรงหน้าเท่าไร“ฉันถามทำไมไม่ตอบ” เหนืเมฆเริ่มกัดฟันแต่ยังพยายามข่มอารมณ์"...รัก..." มือเรียวยกจิ้มไปที่หน้าอกข้างซ้ายของเหนือเมฆก่อนจะฟุบกอดซุกใบหน้านวลไปที่อกแกร่ง"เกือบที่ฉันจะฟิวส์ขาดแล้วนะยัยตัวเล็ก" คนที่กำลังจะโมโหผ่อนลมหายใจลงยิ้มร่ารวบกอดหญิงสาวเอาไว้แน่นหากเธอบอกกับเขาช้ากว่านี้อีกนิดเดียวมีหวังเขาได้ระเบิดอารมณ์เป็นแน่หลายวันต่อมา วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แถมเป็นวันเกิดของแดเนียลเหนือเมฆจึงอาสาจัดสถานที่บ้านเป็นการฉลองวันเกิดและถือโอกาสนี้ชวนเพื่อนๆเขาและเพื้อ
เธอไม่คิดว่านิโคลัสจะมาอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ในหัวสมองของเธอตอนนี้กำลังตีกันไปหมดว่าเขามาได้อย่างไรและเขามาที่นี่ทำไมและเมื่อเขาเจอเธอแล้วจะจัดการกับเธออย่างไรตอนนี้เกวรินทร์หน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้มเหงื่อเม็ดน้อยบนหน้าผากเริ่มไหลซิกลงมากะทันหัน"เธอ!" นิโคลัสกะว่าจะไม่สนใจเรื่องของหญิงสาวที่ขโมยเงินและทำร้ายเขาอยู่แล้วเชียวแต่เมื่อมาเจอเธอที่นี่วันนี้เขาคิดว่าจำเป็นต้องสะสางเสียหน่อย"เกว" ทรายแก้วมองหน้าเกวรินทร์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกเพราะเธอจำหน้าชายสองคนที่เคยเข้ามาล้อมเธอกับเกวรินทร์ได้จึงรู้ได้ทันทีว่าคนที่กำลังจ้องเกวรินทร์เขม็งคือคนที่เพื่อนเธอขโมยเงินเขามา"อะไรกันครับ" แดเนียลโพร่งถามอาของเขาเหมือนที่ทุกคนก็อยากจะถามเพราะเห็นว่านิโคลัสจ้องเกวรินทร์ไม่วางสายตา"มานี่""เอ่อ.. ปล่อยฉันก่อนค่ะ" นิโคลัสลากเกวรินทร์ออกไปนอกบ้านโดยที่ไม่สนสายตาของคนอื่นที่กำลังจ้องมองด้วยความตกใจ"ด..เดี๋ยวค่ะ" ทรายแก้วและเจ้าเอยกำลังจะวิ่งตามออกไปแต่ถูกโอดินและลูคัสคนสนิทของนิโคลัสขวางเอาไว้ก่อน"ทุกคนไม่ต้องตามครับ" "นี่มันเรื่องอะไรกัน" แดเนียลรู้เอ่ยถามลูคัสและโอดินด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นั
หลายวันต่อมาวันนี้วารุณีเข้ามาหาลูกชายและลูกสะใภ้ที่บ้านเพราะรู้ว่าเจ้าเอยย้ายมาอยู่ที่บ้านลูกชายเธอได้เป็นอาทิตย์แล้วตอนนี้ในห้องครัวของบ้านเต็มไปด้วยข้าวของมากมายที่วารุณีซื้อเอามาเพื่อเป็นของบำรุงให้ลูกสะใภ้ของเธอ"ถ้าเรายังกินของคาวไม่ค่อยได้ก็พยายามกินวิตามินที่แม่ซื้อมาให้เยอะๆล่ะแล้วผลไม้นั่นก็กินบ่อยๆนะลูกของดีๆทั้งนั้น""..ค่ะคุณแม่...เอ่อ..พี่โอบทำงานเป็นยังไงบ้างคะ""เห็นพ่อเราให้รับผิดชอบงานใหญ่อยู่นะลูกตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรนับว่าพี่เราก็เก่งใช้ได้""รู้แบบนี้เอยก็สบายใจค่ะ"หลายวันต่อมา.. เหนือเมฆรีบเคลียงานสำคัญให้เสร็จสิ้นก่อนจะให้พชรดูแลบริษัทเพราะเขาต้องการพาภรรยาตัวน้อยของเขามาฮันนีมูนหลังจดทะเบียนเติมความหวานให้กันและกันและแล้ววันนี้เขาก็ได้พาหญิงสาวมาที่ภูเก็ตมาพักที่บ้านพักของพ่อเขาที่ซื้อเอาไว้ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มๆพื้นที่ของบ้านค่อนข้างกว้างเงียบสงบและติดริมทะเลวิวสวยงามใครเห็นที่นี่เป็นต้องหลงส่วนตัวเขาเองก็ชอบที่นี่ไม่น้อยจึงอยากให้เจ้าเอยมาเห็นที่นี่"เอยอยากอยู่ที่นี่นานๆจังเลยค่ะ" ร่างบางยืนกอดคนเป็นสามีแหงนหน้ายิ้มแป้นอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ที่เป็นจุดชมว
"เจ็บใจหรือเปล่าล่ะ.. เหนือเมฆไม่มีวันเลิกเจ้าชู้ได้หรอกนะรู้เอาไว้ซะด้วย”พีรยาผลักเจ้าเอยจนเธอเซเล็กน้อยทั้งยังจีบปากจีบคอพูดย้ำให้เจ้าเอยได้เจ็บใจ ในส่วนของเจ้าเอยเธอไม่มีแรงโต้ตอบอะไรทำได้แค่ยืนปาดน้ำตากับภาพที่เห็น"มานี่.." พีรยาดึงมือเจ้าเอยให้เดินตามเธอขึ้นมาจนมาถึงผาชัน"พาเอยมาที่นี่ทำไม""รู้หรือเปล่าที่ฉันต้องการฆ่านังวิเวียนเพราะอะไร" พีรยาผลักเจ้าเอยต้อนไปที่ผาชันจนสาวเจ้าเริ่มหน้าซีดเผือดกลัวหญิงสาวตรงหน้าจับใจ"คุณพลอย" "เพราะมันเอากับเหนือเมฆยังไงล่ะ...รู้หรือยังว่าเหนือเมฆเอาผู้หญิงไม่เลือกหน้ารู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทคู่หมั้นของตัวเองก็ยังไม่เว้น""ฮือๆๆ..." ยิ่งได้ฟังที่วิเวียนพูดความเสียใจและความกลัวก็ประดังประเดกันเข้ามาจนเจ้าเอยปล่อยโฮสะอึกสะอื้นตัวโยนเรื่องนี้เหนือเมฆไม่เคยเล่าให้เธอฟังแม้แต่น้อยผิดที่เธอเองจริงๆที่ให้ใจและไว้ใจเหนือเมฆเร็วเกินไปเพี๊ยะ"โอ้ยย.. ""คนอย่างแกมันมีดีกว่าฉันตรงไหน" พีรยายิ่งเห็นเจ้าเอยทำท่าทางอ่อนแอเธอก็ยิ่งหมั่นไส้เธอวาดแขนเป็นวงกว้างฟาดมือเรียวใบที่ใบหน้าเจ้าเอยจนเธอล้มลงพลั้กกก"อ๊ายยยยย..." ไม่ทันที่เจ้า
หลายวันต่อมาวันนี้อิทธิกรพาครอบครัวมาเยี่ยมอำนาจเพราะอำนาจเริ่มยอมรับในตัวอิทธิกรแล้วด้วยเห็นว่าอิทธิกรมีงานการทำที่มั่นคงแถมยังเก่งมากๆเขารู้จากคำชมของนภดลที่ชมอิทธิกรไม่ขาดปาก"ผมขอบคุณคุณพ่อนะครับที่ยอมรับผม" อิทธิกรมานั่งคุยกันกับอำนาจที่ห้องรับแขกระหว่างที่อินทิราพาลูกสาวของเขาเดินเล่นอยู่ที่สวนหน้าบ้าน"ฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่ก่อนหน้าทำไม่ดีเอาไว้""ผมเข้าใจครับว่าคุณพ่อรักอินมาก" อิทธิกรไม่เคยโกรธอำนาจแม้นแต่น้อยหากเป็นเขาก็อยากให้ลูกตัวเองได้คู่ครองที่ดีเช่นกัน"ตั้งใจทำงานหาประสบการณ์ให้ดีล่ะอีกไม่กี่ปีฉันก็จะเกษียณตัวเองแล้วแกจะได้เข้ามาบริหารแทนฉัน" อำนาจคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องฝากบริษัทให้กับอิทธิกรเพราะเชื่อใจว่าลูกเขยของเขาจะจัดการทุกอย่างแทนเขาได้"คือผมไม่มั่นใจว่าผมจะบริหารองค์กรใหญ่ขนาดนี้ได้" อิทธิกรถึงกับไปไม่เป็นเมื่ออีกฝ่ายมอบหมายสิ่งสำคัญให้"เชื่อมั่นในตัวเองเหมือนที่เชื่อมั่นว่าจะดูแลลูกสาวกับหลานฉันได้" แม้นอิทธิกรจะไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้แต่อำนาจเห็นว่าความสามารถที่อิทธิกรมีจากผลงานที่ผ่านมาระหว่างที่อิทธิกรทำงานในบริษัทของนภดลเขาก็เห็นแล้วว่าไม่ยา
"แกใจร้ายกับพวกฉันมากเลยนะที่ไม่ยอมติดต่อหากันบ้างเลย" ทรายแก้วหยิบขนมเข้าปากไปด้วยบ่นเจ้าเอยไปด้วยเพราะเจ้าเอยทำให้พวกเธอทุกข์ใจที่คิดว่าเสียเพื่อนรักไปตั้งหลายปี"ฉันกลัวว่าคุณเหนือจะรู้ว่าฉันยังอยู่ฉันไม่อยากเจอเค้า" ที่เจ้าเอยให้คนรู้น้อยที่สุดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะกลัวว่าเหนือเมฆจะตามเธอเจอ"แกโกรธคุณเหนือมากเลยหรอก" เกวรินทร์รู้ดีว่าเรื่องครั้งนั้นเป็นฝีมือพีรยาแต่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนเธอฝังใจเรื่องอะไรถึงยอมให้อภัยเหนือเมฆไม่ได้"ตอนนี้เฉยๆแล้วล่ะฉันไม่อยากกลับไปเจ็บเพราะเค้าอีกเด็ดขาด" แม้นเจ้าเอยจะรู้ว่าครั้งนั้นที่เหนือเมฆทำผิดด้วยฤทธิ์ยาแต่ภาพมันก็ยังติดตาเธอไม่หายไม่รู้อีกด้วยว่าเขาจะกลับไปเป็นคนเจ้าชู้เหมือนเดิมอีกหรือเปล่าเธอยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวจึงไม่อยากเสี่ยงกลับไปอยู่กลับไปรักกับคนอย่างเหนือเมฆอีกตอนนี้เธอมีแค่ลูกก็พอแล้ว"แต่เรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือยัยพลอยทั้งนั้นนะแถมตอนที่ผ่านมาคุณเหนือดูพยายามตามหาแกตลอดไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลยด้วย" ทรายแก้วไม่ได้จะพูดเข้าข้างเหนือเมฆแต่เวลาที่ผ่านมาเขาทำให้พวกเธอได้เห็นว่าเขาไม่มีวันลืมเจ้าเอย"ฉันรู้...แต่ฉันลืมเรื่องราวตอนน
วันต่อมา เจ้าเอยเตรียมเก็บผ้าผ่อนของเธอและลูกที่แห้งสนิทดีแล้วมาพับเก็บในห้องเพราะเธอต้องเตรียมทำอะไรให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปรับลูกที่โรงเรียนในช่วงบ่ายโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในบ้าน"เอย.." เหนือเมฆยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของหญิงสาวเขาเรียกเธอเสียงอ่อนภรรยาของเขายังคงน่ารักไม่เปลี่ยนจากเดิมเลยสักนิดผิดแค่ดูผมแห้งไปกว่าเดิมเท่านั้น"ค...คุณเหนือ" เจ้าเอยลึกขึ้นจากกองผ้าที่นั่งพับเธอตกใจจนหน้าเสียก่อนจะจ้องคนตรงหน้าที่ดูโทรมกว่าเดิมมากด้วยความสับสนไม่รู้ลึกๆแล้วเธอดีใจหรือเสียใจที่เห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้"..ฉันคิดถึงเธอแทบจะขาดใจรู้หรือเปล่า...เธอใจร้ายกับฉันมากเลยเอย... ที่ทำให้ฉันทรมานใจอยู่ได้ตั้งนาน" เหนือเมฆเข้าไปสวมกอดร่างบางด้วยความคิดถึงก่อนจะเอ่ยคำพูดเชิงน้อยใจออกมา"ปล่อยเอย.. แล้วก็ออกไป" เจ้าเอยชะงักไปครู่หนึ่งเธอพยายามบอกตัวเองว่าอย่าใจอ่อนกับเขาและรีบไล่ให้เหนือเมฆออกไป"ฉันขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนั้นขอโทษจริงๆ" เหนือเมฆรู้ว่าเจ้าเอยคงโกรธในเหตุการณ์ครั้งนั้นแต่เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ"คุณเหนือก็น่าจะรู้แล้วนะคะว่าเอยไม่ต้อง