“ฉันเหนื่อยจะโวยวาย” มือหนายกกุมขมับหนึบสีหน้าของเขาตอนนี้ไม่สู้ดีนักคิดย้อนกลับไปว่าหากเขารู้แต่แรกว่าคนผิดตัวจริงเป็นใครเขาคงไม่ต้องไปยุ่งกับเจ้าเอย
แถมตอนนี้เหมือนใจของเขาเองจะถลำลึกไปกับเธอแล้วด้วย..ความรู้สึกแบบนี้เขาไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยจริงๆแม้ก่อนหน้าจะคิดว่าตัวเองชอบอินทิรามากแต่ก็ไม่มีความรู้สึกอยากได้อยากครอบครองเท่าเจ้าเอยเลยสักนิดตอนนี้ในใจลึกๆยังแอบคิดว่าหรือเขาจะรักเธอเข้าให้แล้วถึงได้วุ่นวายใจที่เธอต้องการจะไปจากเขาแบบนี้
“คิดอะไรของนาย..มีอะไรคุยกับฉันได้ฉันเพื่อนนายนะ” แทนไทดูออกว่าเพื่อนของเขากำลังมีอะไรที่กำลังกังวลใจอยู่ไม่น้อยเขาจึงอยากทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีหากเพื่อนเขาได้ระบายออกมาบ้างว่าปัญหาในใจคืออะไรเผื่อเขาจะชี้แนะทางออกให้ได้หากไม่ได้แค่รับฟังให้เพื่อนของเขาสบายใจขึ้นก็ยังดี
“คือ..ฉันกับเจ้าเอย..” เหนือเมฆตัดสินใจเล่าเรื่องราวของเขากับเจ้าเอยให้แทนไทได้ฟังเขายอมรับว่าคราแรกเขาทำไปเพราะอยากเอาชนะอิทธิกรให้เจ็บปวดแต่ตอนนี้เรื่องราวกลับย้อนกลัมาทำให้เขาเจ็บปวดเสียเองเพราะรู้ว่าเจ้าเอยต้องการจะตีตัวออกห่าง
“นี่แกรักคนเป็นแล้วหรอกวะ” แทนไทยืนอึ้งอยู่ครู่ใหญ่เท่าที่เขาพอจะรู้ก็คือเหนือเมฆน่าจะรักเจ้าเอยจริงเข้าแล้วเพราะไม่อย่างนั้นคงไม่มานั่งวุ่นวายใจเพราะผู้หญิงคนเดียวจะตีตัวออกห่างแบบนี้
“ฉันไม่รู้แค่รู้ว่าตอนนี้ฉันเสียเธอไปไม่ได้”
“ก็นั่นแหละ..รัก..หรืออาจจะหลงเลยก็ได้..แต่แกก็อย่าลืมว่าแกต้องแต่งงาน”
“ฉันคิดว่าจะแต่งหรือไม่แต่งก็ไม่ต่างกันเพราะฉันก็ไม่ได้สนใจพลอยอยู่ดี” เหนือเมฆเอ่ยไปตามสิ่งที่เขาคิด
“แกคิดแต่คนอื่นไม่ได้คิดด้วย...และฉันก็รู้ดีว่าผู้หญิงที่ไหนก็ไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นเมียน้อยและฉันก็เชื่ออีกว่าพี่ชายเจ้าเอยไม่ยอมแน่นอน...เพราะฉะนั้นแกก็ต้องยุติเรื่องแต่งงานให้เร็วที่สุด..แล้วเรื่องเจ้าเอยค่อยว่ากัน” แทนไทเห็นว่าเพื่อนของเขาน่าจะมีปัญหาใหญ่ที่ต้องเคลียหากตอนนี้รู้แล้วว่าหัวใจตัวเองต้องการอะไร
“เฮ้อ...” เหนือเมฆถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะเรื่องแต่งงานไม่ใช่แค่เขาเคลียกับพีรยาแล้วจะจบไหนจะเป็นเรื่องธุรกิจและที่หนักที่สุดเห็นจะเป็นแม่ของเขาที่หากพูดเรื่องยกเลิกงานแต่งคงได้ทะเลาะกันยกใหญ่แน่
“หึ่..พ่อเสือร้ายเสียท่าให้หนูนาน้อยเสียได้” แทนไทเดินเข้าไปตบบ่าเพื่อนของเขาเบาๆ
RrrrrRrrrr
“ว่าไงแดเนียล...อะไรนะ..โอเคฉันอยู่กับเหนือพอดีแล้วจะรีบไป”
“มีอะไร” เหนือเมฆเห็นแทนไทคุยกับแดเนียลค่อนข้างหน้าเสียจึงต้องเอ่ยถามด้วยความร้อนใจว่าแดเนียลโทรหาด้วยเรื่องอะไร
“ไปก่อน” ตอนนี้แทนไทไม่มีเวลาอธิบายเพราะต้องการจะไปหาแดเนียลให้เร็วที่สุดและเมื่อถึงที่นั่นเหนือเมฆก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง
เพนท์เฮ้าส์
ไม่นานนักเหนือเมฆและแทนไทก็มาถึงเพนท์เฮ้าส์ของแดเนียลและทุกคนก็ได้เจอกับวิเวียนในสภาพที่ดูไม่ค่อยได้เท่าไรเพราะเธอถูกคนทำร้ายปางตายแล้วเอาไปทิ้งที่ต่างจังหวัด
นับว่าเธอยังมีบุญที่แดเนียลไปเจอเธอโดยบังเอิญและตอนนี้เธอจึงเหมือนคนตายแล้วเกิดใหม่แต่ก็ยังแปลกใจว่าเหนือเมฆทำกับเธอแบบนี้ทำไมต้องการที่จะทำให้เธอตายเพื่ออะไร
“ฉันไม่เคยสั่งให้คนไปรับเธอและฉันจะทำร้ายเธอเพื่ออะไรวิเวียน” เหนือเมฆรับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากของวิเวียนและเธอก็กล่าวหาว่าเขาต้องการที่จะฆ่าเธอ
“ถ้าไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใคร”
“เธอคิดว่าใครล่ะที่จะโหดเหี้ยมจนกระทั่งสั่งคนให้ฆ่าเธอได้”
“พลอย” สิ้นเสียงของหญิงสาวชายหนุ่มทั้งสามต่างก็มองหน้ากันเป็นตาเดียว
ห้างสรรพสินค้า
“คุณเอย” ปกรณ์ที่ขับรถผ่านมาทางนี้พอดีเขาเห็นเจ้าเอยยืนถือข้าวของพะลุงพะลังที่หน้าซุปเปอร์แห่งหนึ่งจึงจอดรถเลื่อนกระจกเอ่ยทักหญิงสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“อ้าวคุณกร”
“มาทำอะไรหรอกครับ”
“เอยมาหาซื้อนมกับของใช้ให้หลานน่ะค่ะ” วันนี้เจ้าเอยอาสามาซื้อขอใช้ให้หลานสาวเพราะไม่อยากให้อินทิรากระเตงลูกออกมาข้างนอก
“เดี๋ยวผมไปส่งครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ว่าไม่ทันจบชายหนุ่มก็ลงจากรถมาช่วยเธอขนของขึ้นรถเรียบร้อยจนสาวเจ้าต้องยอมนั่งรถไปกับเขาแต่โดยดี
“ขอบคุณนะคะ...คุณกรมาธุระแถวนี้หรอกคะ” เมื่อขึ้นรถมาได้เธอก็ขอบคุณชายหนุ่มยกใหญ่ที่เขายังใจดีกับเธอเสมอ
“ครับผมมาร้านตัดสูทเอาไว้ใช้งานแต่งน้องสาวผมน่ะครับ”
“อ่อ..แต่งเมื่อไรหรอกคะ”
“เร็วๆนี้ครับคุณเอยก็น่าจะเห็นข่าวพลอยกับเหนือเมฆ”
“อ่อ...ค่ะพอจะเห็นอยู่บ้าง” หญิงสาวได้รับคำตอบเธอก็หน้าชาวาบยิ่งเธอพยายามหนีจากข่าวนี้เท่าไรเหมือนมันยิ่งอยู่ใกล้ตัวเธอเสียเหลือเกิน
หลายวันต่อมา
มหาลัยXXX
“เค้าไม่ได้มายุ่งวุ่นวายอะไรกับแกแล้วใช่หรือเปล่า” ทรายแก้วเห็นว่าสองสามวันมานี้เจ้าเอยสีหน้าสดใสขึ้นจึงกล้าที่จะถามไถ่เรื่องของเหนือเมฆว่าเขามายุ่มย่ามอะไรกับเพื่อนเธออีกหรือเปล่า
“อืม..” เจ้าเอยพยักหน้าเป็นคำตอบช่วงนี้เธอพยบายามทำใจให้ลืมเขาให้ได้ดีที่เขาไม่ได้หาทางเข้าหาเธอไม่อย่างนั้นคงจะทำใจลำบาก
“เฮ้อ..ค่อยโล่งอกเค้าคงคิดได้ล่ะมั้งว่าควรจะทำตัวยังไง” ทรายแก้วรู้แบบนี้ก็พ่นลมหายใจโล่งอกเพราะอยากจะเห็นเพื่อนเธอกลับมาเป็รนเหมือนเดิมโดยเร็ววัน
“อย่าพูดถึงคนแบบนั้นเลยวันนี้ไปกินไอติมกันดีกว่า” เกวรินทร์เอ่ยตัดบทเพื่อนทั้งสองก่อนจะจูงมือทรายแก้วและเจ้าเอยไปนั่งทานไอติมที่ร้านหน้ามหาวิทยาลัย
วันต่อมา
เหนือเมฆเข้ามาหาคนเป็นแม่ที่บ้านในเวลาเลิกงานเขาอยากจะมาคุยกับแม่ของเขาเรื่องยกเลิกงานแต่งกับพีรยาเพราะรู้ว่าแม่ของเขาคงรู้ข่าวดังวันนี้แล้วที่ว่าพีรยาสั่งฆ่าเพื่อนสนิทตัวเองและเขาก็รู้ด้วยว่าข่าวนี้คงทำให้แม่ของเขายอมให้ยกเลิกงานแต่งโดยไม่ยาก
“คุณแม่เห็นข่าวว่าที่ลูกสะใภ้คุณแม่แล้วใช่หรือเปล่าครับ”
“.....” วารุณีนั่งเครียดตั้งแต่รู้ข่าวเมื่อกลางวันจนถึงตอนนี้เธอก็ยังพูดอะไรไม่ค่อยออกเพราะไม่คิดว่าว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอจะใจคอดหดเหี้ยมขนาดสั่งฆ่าคนได้
“ผมว่าคุณแม่คงไม่อยากได้คนที่ได้ชื่อว่าฆาตกรมาเป็นลูกสะใภ้จริงหรือเปล่าครับ...แต่ผมขอบอกเลยว่าผมรับไม่ได้”“ที่หนูพลอยต้องตัดสินใจทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะเราหรือยังไง” วารุณีคิดว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้พีรยาตัดสินใจกระทำการแบบนี้คงไม่พ้นต้นเหตุเกิดจากความเจ้าชู้ของลูกชายเธอเป็นแน่จึงแอบสงสารพีรยาอยู่บ้างแต่จะให้เธอเป็นสะใภ้เข้ามาในบ้านอันนี้เธอคงไม่ยอมแล้ว“ผมไม่เถียงนะครับว่าเธออาจจะโกรธเกลียดวิเวียนเพราะผมแต่เธอก็ไม่ควรจะฆ่าใครเป็นผักเป็นปลาใจคอเธอมันโหดเหี้ยมเกินผู้หญิงแล้วครับคุณแม่” เหนือเมฆรู้ว่าส่วนหนึ่งเป็นความผิดของเขาคราแรกเขาคิดว่าพีรยาจะเลิกยุ่งกับเขาเพราะเห็นว่าอย่างไรเขาก็ไม่สนใจแต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะใจคอโหดเหี้ยมจนสั่งฆ่าเพื่อนสนิทตัวเองได้“แม่จะคุยกับทางนั้นเพื่อยกเลิกงานแต่งแต่แม่ก็ต้องรีบหาผู้หญิงคนใหม่ให้เราอยู่ดี” วารุณีเอ่ยออกมาตามที่เธอตั้งใจแม้นเธอจะเสียสะใภ้คนนี้ไปแต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะหาผู้หญิงให้ลูกชายเธอไม่ได้“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณแม่ถึงอยากเร่งเร้าให้ผมแต่งงานนักหนา” เหนือเมฆเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าอ่อนใจ“แม่ก็แค่อยากอุ้มหลานอยากเห็นเราเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีไงตาเหนือ”
16.00 น.วัดxx"เจอกันอีกแล้วนะครับ" ปกรณ์เข้ามาที่วัดในช่วงวันหยุดเมื่อออกจากไหว้พระในโบสถ์ได้เขาก็เห็นหญิงสาวคนที่อยากเจอนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาริมสระน้ำจึงรีบเดินปรี่เข้ามาคุยกับเธอ"คุณกร" สาวเจ้ายิ้มร่าเมื่อวันนี้บังเอิญได้มาเจอกับปกรณ์อีกครั้งหลังจากที่นั่งคุยกันได้พักใหญ่ปกรณ์ก็ถือโอกาสชวนสาวน้อยไปทานข้าวเพราะเขาอยากหาโอกาสนี้ชวนเธอมานานแล้วร้านอาหาร"เอยได้ยินข่าวมาบ้างคุณกรคงเครียดมากเลยสินะคะ" เจ้าเอยได้ยินข่าวของพีรยามาบ้างจึงเอ่ยถามปกรณ์ด้วยความเห็นอกเห็นใจเพราะรู้ดีว่าหากเกิดปัญหาขึ้นจากคนในครอบครัวคงทำให้ปกรณ์เครียดไม่น้อย"ครับแต่ตอนนี้โอเคขึ้นมากแล้ว" ปกรณ์ยิ้มอ่อนเอ็นดูหญิงสาวไม่น้อยที่เธอมีกะใจที่ห่วงคนนอกอย่างเขา"ดีแล้วล่ะค่ะ" สองหนุ่มสาวในร้านอาหารที่คุยกันหัวร่อต่อกระซิกอยู่ในสายตาของเหนือเมฆทั้งหมดนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะเขาตามเธอมาตั้งแต่อยู่ที่วัดแล้วเอี๊ยดดไม่นานนักทั้งสองก็ทานอาหารกันเรียบร้อยปกรณ์ที่กำลังจะเคลื่อนรถออกจากลานจอดก็มีรถหรูคันหนึ่งขับมาตัดหน้าจนเขาต้องเบรกกะทันหัน“ว้ายย..” สาวเจ้าร้องตกใจและหน้าเสียเล็กน้อย"ไม่ค่ะ..." เจ้าเอยส่ายหั
"อืม.." สาวเจ้าแอบมีเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขาบ้าแต่เมื่อมีสติเธอจึงรีบดิ้นหนีด้วยแรงที่มีให้มากที่สุดจนหลุดจากพันธนาการได้เพี๊ยะ มือเรียวยกฟาดใบหน้าคมจนเกิดรอยแดงทันทีที่สิ้นเสียงกระทบ"ดื้อกับฉันนักใช่ไหม""ปล่อยย..อื้ออ" เหนือเมฆอุ้มร่างบางมานอนกอดก่ายขึงเอาไว้แน่นบนเตียงนุ่มสองมือหนาประสานมือเรียวขึงเอาไว้แน่นไม่ให้เธอปัดป่ายไปไหนได้ริมฝีปากหนาซุกไซร้ลำคอระหงส์ดูดึงจนเป็นรอยแดงแสดงความเป็นเจ้าของไล่มาที่ริมฝีปากบางเขาบดจูบเร่าร้อนกว่าคราแรกส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมริมฝีปากบางก่อนจะตวัดลิ้นของคนพยศมาดูดดึงเล่นในปากทำเอาร่างบางอ่อนระทวยดั่งขี้ผึ้งรนไฟเมื่อสัมผัสวาบหวามค่อยๆทวีคูณขึ้นเรื่อยๆแม้นสมองจะสั่งให้ลืมและต่อต้านเขาอย่างไรแต่ร่างกายและใจเจ้ากรรมกลับเผลอไผลไปกับคนเอาแต่ใจอย่างง่ายดายตามคนที่ลวงล่อด้วยรสสัมผัสที่คุ้นเคย"อืม..." เหนือเมฆที่เห็นสาวเจ้ายอมเขาแต่โดยดีแล้วมือหนาก็ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของหญิงสาวออกและค่อยๆปลดบราเกาะอกครึ่งตัวสีเนื้อออกจนสองเต้างามเผยและรีบกอบกุมด้วยสองมือหนาบีบเค้นขยำเล่นด้วยความคิดถึงในขณะที่ริมฝีปากหนายังบดจูบอย่างเร่าร้อนอยู่ไม่คลายร่างบางแ
"ฉันจะรับผิดชอบเอยทุกอย่างนายไม่ต้องห่วง"เหนือเมฆไม่คิดจะโต้ตอบอิทธิกรเพราะรู้ว่าตัวเองผิดเขายกมือหนาปาดเลือดที่ริมฝีปากและรีบขอรับผิดชอบเจ้าเอยกับอิทธิกรอย่างลูกผู้ชาย"ฉันสัญญาว่าจะดูแลเจ้าเอยอย่างดีและจะไม่มีเรื่องผู้หญิงอีกแน่นอนแล้วฉันจะพาคุณแม่มาสู่ขอให้เร็วที่สุดนายไม่ต้องห่วง" ว่าจบก็เดินหันหลังกลับไปที่รถ"......" อิทธิกรยืนกำมือแน่นน้ำตาคลอตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกซึ่งเรื่องนี้อิทธิกรก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะยังไงเหนือเมฆก็ต้องรับผิดชอบเจ้าเอยในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาจนน้องของเขาตั้งท้องแล้ววันต่อมา"ทำไมทำแบบนี้นะเอย" อิทธิกรกำจดหมายของเจ้าเอยเอาไว้แน่นเมื่อรู้ว่าน้องสาวขอหนีปัญหาไปทำใจไม่เข้าใจว่าเจ้าเอยไม่รู้หรืออย่างไรว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะเป็นห่วงแค่ไหน"อย่าพึ่งเครียดไปเลยค่ะโอบเอยบอกเองนี่คะว่าสบายใจแล้วจะกลับมาให้เวลาเอยหน่อยนะคะ"อินทิราเชื่อว่าเจ้าเอยคงจะไม่ทำอะไรที่ทำร้ายตัวเองแน่นอนหากสบายใจขึ้นคงจะกลับมาเอง"เฮ้อ" มือหนายกกุมขมับหนึบตั้งแต่เมื่อคืนเขาก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะเป็นห่วงความรู้สึกเจ้าเอยก่อนหน้าเขาคิดว่าจะไม่มีเรื่องอะไรแล้วแท้ๆ11.00
ห้างสรรพสินค้า"แกว่าเอยอยู่ที่ไหน" ทรายแก้วเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้ากับเกวรินทร์ในช่วงหลังเลิกเรียนสองสาวในชุดนักศึกษาตอนนี้กังวลกับเรื่องราวของเจ้าเอยอยู่ไม่น้อยไม่รู้ว่าสภาพจิตใจของเจ้าเอยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"เอยคงอยู่ในที่ปลอดภัยนั่นแหละแกก็รู้นี่ว่าเอยคงไม่ทำอะไรที่มันทำร้ายตัวเองหรอกสบายใจแล้วน่าจะกลับมา" เกวรินทร์แม้นจะห่วงความรู้สึกของเจ้าเอยอยู่มากแต่เธอก็ยังเชื่อลึกๆว่าคนอย่างเจ้าเอยคงไม่ทำเรื่องอะไรที่เป็นภัยแก่ตัวเองตอนนี้คงอยากพักใจพักสมองอยู่คนเดียวเท่านั้น"ไปกับพวกผม" ระหว่างที่สองสาวเดินคุยกันอยู่พรางๆจู่ๆก็มีฝรั่งตัวโตใส่ชุดดำสองคนเดินมาประกบพวกเธอก่อนจะเอ่ยสั่งเป็นภาษาไทยเสียงดังฟังชัดจนทรายแก้วตกใจยืนนิ่งอึ้งทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้จักมาก่อนว่าทั้งสองเป็นใครหรือพวกเขาอาจจะจำคนผิดก็เป็นได้ในส่วนของเกวรินทร์นั้นเธอจำได้ดีว่าสองคนนี้เป็นใครทั้งตกใจไม่น้อยไม่คิดว่าพวกเขาจะตามเธอมาถึงที่นี่ได้"อะไรกันคะพวกเราไม่รู้จักพวกคุณน่าจะจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ" ทรายแก้วเอ่ยตอบคนทั้งสองด้วยรอยยิ้มอ่อนเป็นมารยาท"ตำรวจคะ" เกวรินทร์ชี้ไม้ชี้มือก่อนจะตะโกนว่ามีตำรวจเมื่อชายทั้งสอง
"ไม่มีอะไรค่ะแค่อยากมีเงิน" ว่าจบดวงตาน้อยๆก็หลุบมองต่ำอย่างเหนื่อยใจหากเธอรวยกว่านี้สักหน่อยคงไม่ยากเลยที่จะจัดการปัญหาของเพื่อนรักเธอได้ไม่ว่าจะเป็นออกค่ารักษาพี่ชายของเจ้าเอยและออกค่าคนงานให้เกวรินทร์หากเธอมีเงินเธอจะช่วยโดยไม่คิดเลย"จะเอาเท่าไร...จะให้ยืม" แทนไทยิ้มอ่อนเขาเสนอจะช่วยหญิงสาวโดยไม่ต้องคิดเพราะอย่างทรายแก้วเรียนอยู่แค่ปีหนึ่งเงินที่ต้องการตอนนี้คงๆม่ถึงห้าแสนเขามีให้เธอได้ยืมหรือให้ได้เลยสบายๆ"จ..จริงหรอกคะ?" คนตัวเล็กที่แก้มสองข้างป่องเพราะมีอาหารเต็มปากรีบเคี้ยวอาหารและรีบกลืนก่อนจะรีบถามชายหนุ่มตรงหน้าให้แน่ใจอีกครั้งว่าที่เขาพูดกับเธอเขาพูดจริงหรือพูดเล่น"อืม...เราก็รู้ว่าพี่มีเงิน""....." ทรายแก้วดีใจที่แทนไทจะช่วยเธอจริงๆแต่คำพูดของเขาเมื่อครู่ก็ทำให้เธออดว่าเขาว่าอวดรวยในใจไม่ได้"คิดอะไรอยู่หรือเปล่า" แทนไทจ้องมองคนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องมองเขานิ่งจนเขามองออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ"อ่อเปล่าค่ะ.." ทรายแก้วรีบส่ายหัวหงึกหงัก"จะเอาเท่าไรว่ามา""สองแสนค่ะ""ซื้อของแบรนด์เนมหรอก" แทนไทคิดเอาไว้ไม่ผิดคาดว่าเธอน่าจะขอไม่เกินห้าแสนแต่ก็อยากรู้คำตอบว่าเ
"ไปอยู่ที่คอนโด...นี่เธอหนีไปอยู่ที่คอนโดปกรณ์งั้นหรอก" ใบหน้าคมมีสีหน้าไม่พอใจกะทันหันเมื่อพึ่งจะรู้ว่าหญิงสาวนั้นหนีไปอยู่กับคนที่เขาไม่อยากจะให้เธออยู่ใกล้ "ค่ะ..ก็เอยไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนนี่คะจะไปรบกวนเพื่อนๆเอยก็ไม่กล้าเพราะรู้ว่าเดี๋ยวทุกคนก็ตามเอยเจอ""เอาอันนั้นทิ้งกินอันนี้แทน""ทำไมล่ะคะ""ไว้ใจปกรณ์มากเลยหรือไงคิดยังไงกับเค้าบอกฉันมารักปกรณ์หรือเปล่า" เหนือเมฆจ้องหญิงสาวเขม็ง"เอยคิดกับคุณกรแค่พี่ชายค่ะไม่ได้รักเค้า""แล้วเธอรักใคร" เจ้าเอยยังไม่ยอมตอบได้แต่ยืนหน้าแดงเพราะไม่ค่อยกล้าที่จะพูดกับคนตรงหน้าเท่าไร“ฉันถามทำไมไม่ตอบ” เหนืเมฆเริ่มกัดฟันแต่ยังพยายามข่มอารมณ์"...รัก..." มือเรียวยกจิ้มไปที่หน้าอกข้างซ้ายของเหนือเมฆก่อนจะฟุบกอดซุกใบหน้านวลไปที่อกแกร่ง"เกือบที่ฉันจะฟิวส์ขาดแล้วนะยัยตัวเล็ก" คนที่กำลังจะโมโหผ่อนลมหายใจลงยิ้มร่ารวบกอดหญิงสาวเอาไว้แน่นหากเธอบอกกับเขาช้ากว่านี้อีกนิดเดียวมีหวังเขาได้ระเบิดอารมณ์เป็นแน่หลายวันต่อมา วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แถมเป็นวันเกิดของแดเนียลเหนือเมฆจึงอาสาจัดสถานที่บ้านเป็นการฉลองวันเกิดและถือโอกาสนี้ชวนเพื่อนๆเขาและเพื้อ
เธอไม่คิดว่านิโคลัสจะมาอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ในหัวสมองของเธอตอนนี้กำลังตีกันไปหมดว่าเขามาได้อย่างไรและเขามาที่นี่ทำไมและเมื่อเขาเจอเธอแล้วจะจัดการกับเธออย่างไรตอนนี้เกวรินทร์หน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้มเหงื่อเม็ดน้อยบนหน้าผากเริ่มไหลซิกลงมากะทันหัน"เธอ!" นิโคลัสกะว่าจะไม่สนใจเรื่องของหญิงสาวที่ขโมยเงินและทำร้ายเขาอยู่แล้วเชียวแต่เมื่อมาเจอเธอที่นี่วันนี้เขาคิดว่าจำเป็นต้องสะสางเสียหน่อย"เกว" ทรายแก้วมองหน้าเกวรินทร์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกเพราะเธอจำหน้าชายสองคนที่เคยเข้ามาล้อมเธอกับเกวรินทร์ได้จึงรู้ได้ทันทีว่าคนที่กำลังจ้องเกวรินทร์เขม็งคือคนที่เพื่อนเธอขโมยเงินเขามา"อะไรกันครับ" แดเนียลโพร่งถามอาของเขาเหมือนที่ทุกคนก็อยากจะถามเพราะเห็นว่านิโคลัสจ้องเกวรินทร์ไม่วางสายตา"มานี่""เอ่อ.. ปล่อยฉันก่อนค่ะ" นิโคลัสลากเกวรินทร์ออกไปนอกบ้านโดยที่ไม่สนสายตาของคนอื่นที่กำลังจ้องมองด้วยความตกใจ"ด..เดี๋ยวค่ะ" ทรายแก้วและเจ้าเอยกำลังจะวิ่งตามออกไปแต่ถูกโอดินและลูคัสคนสนิทของนิโคลัสขวางเอาไว้ก่อน"ทุกคนไม่ต้องตามครับ" "นี่มันเรื่องอะไรกัน" แดเนียลรู้เอ่ยถามลูคัสและโอดินด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นั