"เอย..." อิทธิกรกำมือแน่นเดินหนีเข้าไปในห้องด้วยอาการที่ทั้งน้องสาวและภรรยาก็ดูไม่ออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน
"โอบคะ" อินทิราหน้าเสียเพราะเหตุการณ์ตอนนี้เริ่มตรึงเครียดเธอเลือกที่จะปลอบเจ้าเอยก่อนที่จะเข้าไปหาอิทธิกรเพราะรู้ว่าเจ้าเอยต้องการกำลังใจมากที่สุด
"เอยขอโทษเอยไม่มีทางเลือก..ฮือๆๆ" เสียงสะอื้นพร่ำขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวังแต่ตอนนั้นเธอต้องรักษาชีวิตของพี่ชายเธอเอาไว้
"เอย" อินทิราสงสารเจ้าเอยจับใจที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอายุแค่นี้จะต้องมาแบกรับอะไรที่มันหนักหนาสาหัส
ครู่ต่อมา
หลังจากที่อินทิราปลอบใจเจ้าเอยพักใหญ่และให้เธอเข้าห้องไปพักผ่อนแล้วจึงเข้ามาหาคนเป็นสามี
"คุณอย่าโกรธน้องเลยนะคะ"
"ผมไม่ได้โกรธเอยแต่ผมโกรธตัวเอง..โกรธที่ทำให้เอยต้องเสียศักดิ์ศรีให้คนแบบนั้น" ตอนนี้เขาไม่ได้โกรธเจ้าเอยเลยสักนิดแต่เจ็บใจมากกว่าที่เปฌนต้นเหตุทำให้น้องสาวต้องมาเจอเรื่องที่น่าเจ็บปวดเช่นนี้
22.00 น.
"....." เจ้าเอยยังคงยืนมองท้องฟ้ายามค่ำคืนเธอข่มตานอนไม่ลงเพราะมีเรื่องกังวลใจอยู่พอสมควร
"เอย"
"พี่โอบ.."
"พี่ขอโทษเอย...ต่อไปนี้พี่จะไม่ยอมให้คนแบบนั้นมายุ่งกับเอยอีก" อิทธิกรตัดสินใจเข้ามาหาเจ้าเอยเพราะเขาต้องการให้เธอได้รู้ว่าเขาไม่ได้ถือโทษโกรธเธอเลยสักนิดและต่อไปนี้เขาก็จะไม่ยอมให้เจ้าเอยถูกเหนือเมฆรังแกอีกแน่นอน
"...." เจ้าเอยกอดพี่ชายเธอแน่นน้ำตาที่ไหลมาตอนนี้เป็นน้ำตาแห่งความดีใจที่พี่ชายเธอเข้าใจในการกระทำของเธอที่ผ่านมา
วันต่อมา
วันนี้สองสาวทรายแก้วและเกวรินทร์เข้ามาหาเจ้าเอยที่บ้านตั้งแต่เช้าและได้รู้เรื่องเมื่อวานจากอินทิราว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเอยอินทิราดีใจมากที่ทั้งสองมาที่บ้านในวันนี้เพราะการที่สามสาวได้คุยกันคงทำให้เจ้าเอยดีขึ้นไม่น้อย
"เอย...โอเคหรือเปล่า" ทรายแก้วกับเกวรินทร์เดินเข้ามานั่งกับเจ้าเอยที่นั่งเหม่ออยู่ปลายเตียงในห้องนอนของตัวเอง
"..พวกเรารู้เรื่องหมดแล้วนะเราจะผ่านมันไปด้วยกันนะเอย.." เกวรินทร์ยื่นมือกุมมือเจ้าเอยเอาไว้หลวมๆเป็นกำลังใจให้เพื่อนสาวไม่ว่าเรื่องที่เพื่อนเธอเจออะไรมาตอนนี้จะเสียใจแค่ไหนเธอก็พร้อมจะพาเพื่อนเธอเดินก้าวผ่านความเสียใจนั้นไปให้ได้
“..ฮือๆๆ..” เจ้าเอยไม่ได้พูดอะไรสักคำเอาแต่มองหน้าเพื่อนทั้งสองและจะกอดทรายแก้วกับเกวรินทร์เอาไว้ก่อนจะร้องให้โฮออกมาระบายความอัดอั้นตอนนี้เรื่องที่กลัวว่าพี่ชายเธอจะโกรธหลุดไปเปราะหนึ่งแล้วแต่ยังเครียดที่ไม่รู้ว่าเหนือเมฆจะเลิกยุ่งกับเธอเมื่อไรและเธอก็ยังโกรธตัวเองที่เลิกรักเขาไม่ได้ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขามีคนที่คู่ควรอยู่แล้วส่วนเธอก็แค่ของเล่นที่เขายังไม่เบื่อเท่านั้น
“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณเหนืออีก...ฉันไม่อยากเป็นของเล่นของเขาอีกต่อไปแล้ว” หลังจากที่ปล่อยโฮได้พักใหย่จนตอนนี้น้ำตาเจ้าเอยเริ่มเหือดแห้งเพราะได้เพื่อนๆปลอบใจจนเธอเริ่มพูดจาออกมาได้ว่าความอึดอัดในหัวใจของเธอตอนนี้คืออะไร
"...แกรักคุณเหนือไปแล้วใช่หรือเปล่า..." เกวรินทร์ตัดสินใจถามออกไปตรงๆเพราะหากเจ้าเอยไม่คิดอะไรกับเหนือเมฆหลังจากได้ยินข่าวเหนือเมฆจะแต่งงานคงไม่เศร้าและทุกข์ใจขนาดนี้
"อึก..อืม" เจ้าเอยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ายอมรับกับเพื่อนทั้งสองอย่างไม่ปิดบัง
"โถ่เพื่อนฉัน" ทรายแก้วและเกวรินทร์สวมกอดเจ้าเอยพร้อมกันเพราะรู้สึกสงสารหัวใจดวงน้อยของเพื่อนเธอเหลือเกิน
23.00 น.
คลับหรู
“เธอไม่คิดจะไปเยี่ยมน่านน้ำบ้างหรือไง”
มาร์คลากมีนามาคุยกันในที่ลับตาเพราะตั้งแต่น่านน้ำป่วยมีนาไม่เคยเข้าไปเยี่ยมน่านน้ำแม้แต่ครั้งเดียวจนเขาเบื่อที่จะตอบคำถามกับน่านน้ำแล้วว่ามีนาไปไหน
“ไม่..” หญิงสาวตอบกลับด้วยสีหน้าไม่สนใจเพราะยังไงเธอก้ไม่คิดจะกลับไปเป็นพวกของน่านน้ำหรืออยู่ใกล้เขาอีกต่อไปแล้ว
“เธอทำให้น่านเจ็บขนาดนั้นยังทำเฉยได้จิตใจเธอนี่มันโหดเหี้ยมจริงๆ” มาร์คนับถือใจของหญิงสาวจริงๆที่กล้าทำคนสองคนเอบตายแต่ไม่ได้รู้สึกรู้สากับความผิดที่ได้กระทำเลยสักนิด
“ก็อยากทำฉันเจ็บก่อนทำไมล่ะ”
“เล่ามาให้ฉันฟังให้หมด” แทนไทโผล่ออกมายืนกอดอกตรงหน้าคนทั้งสองที่กำลังคุยกันเขาได้ยินทุกคำที่มาร์คและมีนาเอ่ยตอนนี้เขาต้องการความจริงว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นมาอย่างไร
“คุณแทนไท” ทั้งมาร์คและมีนาต่างก็ตกใจที่จู่ๆแทนไทก็โผล่ออกมาตอนนี้เท่ากับว่าเรื่องที่เป็นความลับก็จะไม่เป็นความลับต่อไปทั้งไม่รู้ว่าชีวิตพวกเธอทั้งสองหลังจากนี้จะถูกกระทำอะไรบ้าง
วันต่อมา
เหนือเมฆนั่งกำหมัดแน่นหลังจากที่ฟังความทุกอย่างจากแทนไทเมื่อคืนมาร์คและมีนาได้สารภาพความจริงทั้งหมดแล้วว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นเกิดจากฝีมือของมีนาเพราะเธอแค้นน่านน้ำที่ไปนอนกับคนอื่นไปทั่วทั้งที่มีเธออยู่ทั้งคน
ด้วยความที่เจ็บปวดมานานจึงเตรียมการทำให้รถของอิทธิกรมีปัญหาเพราะเธอรู้เรื่องรถดีเธอตั้งใจให้รถของอิทธิกรเสียหลักชนกับน่านน้ำ
ส่วนมาร์คไม่ได้เห็นด้วยกับวิธีการของมีนาเท่าไรแต่เขาก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรก็เพราะเขาก็ไม่ชอบน่านน้ำเหมือนกันด้วยคับแค้นที่น่านน้ำเอาแต่ข่มเขาแม้นจะรู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ไม่อยากเอ่ยเตือนอะไรน่านน้ำแม้นแต่คำเดียว
“รู้แบบนี้แกจะเอายังไงต่อ” แทนไทเอ่ยถามเหนือเมฆที่กำลังนั่งนิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวด
“เรื่องนี้ให้ตำรวจจัดการก็แล้วกัน” ตอนนี้เหนือเมฆไม่มีอารมณ์จัดการอะไรทั้งนั้นเพราะปัญหาในหัวตอนนี้รุมเร้าเยอะพอสมควรไหนจะเรื่องงานแต่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นไหนจะปัญหาเรื่องงานและเรื่องที่ก่อความวุ่นวายใจให้เขามากที่สุดเห็นจะเป็นเจ้าเอย..และตอนนี้ความรู้สึกผิดก็แล่นเข้ามากัดกินหัวใจไปอีก
“ฉันรู้สึกว่าแกค่อนข้างผิดปกติไปหน่อยนะที่ไม่โวยวายอะไร” แทนไทจ้องมองเหนือเมฆก่อนจะขมวดคิ้วเพราะเขาคิดว่าเพื่อนของเขาจะโวยวายเอาเป็นเอาตายเสียอีกระดับเนือเมฆหากจะสั่งเก็บใครคงไม่ยากเพราะมีอิทธิพลอยู่ในมือพอตัว
แต่เปล่าเลยตอนนี้เพื่อนของเขาเปลี่ยนไปมากจริงๆเขาชักจะอยากรู้แล้วว่าที่เหนือเมฆเปลี่ยนไปแบบนี้เป็นเพราะอะไร
“ฉันเหนื่อยจะโวยวาย” มือหนายกกุมขมับหนึบสีหน้าของเขาตอนนี้ไม่สู้ดีนักคิดย้อนกลับไปว่าหากเขารู้แต่แรกว่าคนผิดตัวจริงเป็นใครเขาคงไม่ต้องไปยุ่งกับเจ้าเอยแถมตอนนี้เหมือนใจของเขาเองจะถลำลึกไปกับเธอแล้วด้วย..ความรู้สึกแบบนี้เขาไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยจริงๆแม้ก่อนหน้าจะคิดว่าตัวเองชอบอินทิรามากแต่ก็ไม่มีความรู้สึกอยากได้อยากครอบครองเท่าเจ้าเอยเลยสักนิดตอนนี้ในใจลึกๆยังแอบคิดว่าหรือเขาจะรักเธอเข้าให้แล้วถึงได้วุ่นวายใจที่เธอต้องการจะไปจากเขาแบบนี้“คิดอะไรของนาย..มีอะไรคุยกับฉันได้ฉันเพื่อนนายนะ” แทนไทดูออกว่าเพื่อนของเขากำลังมีอะไรที่กำลังกังวลใจอยู่ไม่น้อยเขาจึงอยากทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีหากเพื่อนเขาได้ระบายออกมาบ้างว่าปัญหาในใจคืออะไรเผื่อเขาจะชี้แนะทางออกให้ได้หากไม่ได้แค่รับฟังให้เพื่อนของเขาสบายใจขึ้นก็ยังดี“คือ..ฉันกับเจ้าเอย..” เหนือเมฆตัดสินใจเล่าเรื่องราวของเขากับเจ้าเอยให้แทนไทได้ฟังเขายอมรับว่าคราแรกเขาทำไปเพราะอยากเอาชนะอิทธิกรให้เจ็บปวดแต่ตอนนี้เรื่องราวกลับย้อนกลัมาทำให้เขาเจ็บปวดเสียเองเพราะรู้ว่าเจ้าเอยต้องการจะตีตัวออกห่าง“นี่แกรักคนเป็นแล้วหรอกวะ” แทนไทยืนอึ้
“ผมว่าคุณแม่คงไม่อยากได้คนที่ได้ชื่อว่าฆาตกรมาเป็นลูกสะใภ้จริงหรือเปล่าครับ...แต่ผมขอบอกเลยว่าผมรับไม่ได้”“ที่หนูพลอยต้องตัดสินใจทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะเราหรือยังไง” วารุณีคิดว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้พีรยาตัดสินใจกระทำการแบบนี้คงไม่พ้นต้นเหตุเกิดจากความเจ้าชู้ของลูกชายเธอเป็นแน่จึงแอบสงสารพีรยาอยู่บ้างแต่จะให้เธอเป็นสะใภ้เข้ามาในบ้านอันนี้เธอคงไม่ยอมแล้ว“ผมไม่เถียงนะครับว่าเธออาจจะโกรธเกลียดวิเวียนเพราะผมแต่เธอก็ไม่ควรจะฆ่าใครเป็นผักเป็นปลาใจคอเธอมันโหดเหี้ยมเกินผู้หญิงแล้วครับคุณแม่” เหนือเมฆรู้ว่าส่วนหนึ่งเป็นความผิดของเขาคราแรกเขาคิดว่าพีรยาจะเลิกยุ่งกับเขาเพราะเห็นว่าอย่างไรเขาก็ไม่สนใจแต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะใจคอโหดเหี้ยมจนสั่งฆ่าเพื่อนสนิทตัวเองได้“แม่จะคุยกับทางนั้นเพื่อยกเลิกงานแต่งแต่แม่ก็ต้องรีบหาผู้หญิงคนใหม่ให้เราอยู่ดี” วารุณีเอ่ยออกมาตามที่เธอตั้งใจแม้นเธอจะเสียสะใภ้คนนี้ไปแต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะหาผู้หญิงให้ลูกชายเธอไม่ได้“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณแม่ถึงอยากเร่งเร้าให้ผมแต่งงานนักหนา” เหนือเมฆเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าอ่อนใจ“แม่ก็แค่อยากอุ้มหลานอยากเห็นเราเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีไงตาเหนือ”
16.00 น.วัดxx"เจอกันอีกแล้วนะครับ" ปกรณ์เข้ามาที่วัดในช่วงวันหยุดเมื่อออกจากไหว้พระในโบสถ์ได้เขาก็เห็นหญิงสาวคนที่อยากเจอนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาริมสระน้ำจึงรีบเดินปรี่เข้ามาคุยกับเธอ"คุณกร" สาวเจ้ายิ้มร่าเมื่อวันนี้บังเอิญได้มาเจอกับปกรณ์อีกครั้งหลังจากที่นั่งคุยกันได้พักใหญ่ปกรณ์ก็ถือโอกาสชวนสาวน้อยไปทานข้าวเพราะเขาอยากหาโอกาสนี้ชวนเธอมานานแล้วร้านอาหาร"เอยได้ยินข่าวมาบ้างคุณกรคงเครียดมากเลยสินะคะ" เจ้าเอยได้ยินข่าวของพีรยามาบ้างจึงเอ่ยถามปกรณ์ด้วยความเห็นอกเห็นใจเพราะรู้ดีว่าหากเกิดปัญหาขึ้นจากคนในครอบครัวคงทำให้ปกรณ์เครียดไม่น้อย"ครับแต่ตอนนี้โอเคขึ้นมากแล้ว" ปกรณ์ยิ้มอ่อนเอ็นดูหญิงสาวไม่น้อยที่เธอมีกะใจที่ห่วงคนนอกอย่างเขา"ดีแล้วล่ะค่ะ" สองหนุ่มสาวในร้านอาหารที่คุยกันหัวร่อต่อกระซิกอยู่ในสายตาของเหนือเมฆทั้งหมดนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะเขาตามเธอมาตั้งแต่อยู่ที่วัดแล้วเอี๊ยดดไม่นานนักทั้งสองก็ทานอาหารกันเรียบร้อยปกรณ์ที่กำลังจะเคลื่อนรถออกจากลานจอดก็มีรถหรูคันหนึ่งขับมาตัดหน้าจนเขาต้องเบรกกะทันหัน“ว้ายย..” สาวเจ้าร้องตกใจและหน้าเสียเล็กน้อย"ไม่ค่ะ..." เจ้าเอยส่ายหั
"อืม.." สาวเจ้าแอบมีเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขาบ้าแต่เมื่อมีสติเธอจึงรีบดิ้นหนีด้วยแรงที่มีให้มากที่สุดจนหลุดจากพันธนาการได้เพี๊ยะ มือเรียวยกฟาดใบหน้าคมจนเกิดรอยแดงทันทีที่สิ้นเสียงกระทบ"ดื้อกับฉันนักใช่ไหม""ปล่อยย..อื้ออ" เหนือเมฆอุ้มร่างบางมานอนกอดก่ายขึงเอาไว้แน่นบนเตียงนุ่มสองมือหนาประสานมือเรียวขึงเอาไว้แน่นไม่ให้เธอปัดป่ายไปไหนได้ริมฝีปากหนาซุกไซร้ลำคอระหงส์ดูดึงจนเป็นรอยแดงแสดงความเป็นเจ้าของไล่มาที่ริมฝีปากบางเขาบดจูบเร่าร้อนกว่าคราแรกส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมริมฝีปากบางก่อนจะตวัดลิ้นของคนพยศมาดูดดึงเล่นในปากทำเอาร่างบางอ่อนระทวยดั่งขี้ผึ้งรนไฟเมื่อสัมผัสวาบหวามค่อยๆทวีคูณขึ้นเรื่อยๆแม้นสมองจะสั่งให้ลืมและต่อต้านเขาอย่างไรแต่ร่างกายและใจเจ้ากรรมกลับเผลอไผลไปกับคนเอาแต่ใจอย่างง่ายดายตามคนที่ลวงล่อด้วยรสสัมผัสที่คุ้นเคย"อืม..." เหนือเมฆที่เห็นสาวเจ้ายอมเขาแต่โดยดีแล้วมือหนาก็ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของหญิงสาวออกและค่อยๆปลดบราเกาะอกครึ่งตัวสีเนื้อออกจนสองเต้างามเผยและรีบกอบกุมด้วยสองมือหนาบีบเค้นขยำเล่นด้วยความคิดถึงในขณะที่ริมฝีปากหนายังบดจูบอย่างเร่าร้อนอยู่ไม่คลายร่างบางแ
"ฉันจะรับผิดชอบเอยทุกอย่างนายไม่ต้องห่วง"เหนือเมฆไม่คิดจะโต้ตอบอิทธิกรเพราะรู้ว่าตัวเองผิดเขายกมือหนาปาดเลือดที่ริมฝีปากและรีบขอรับผิดชอบเจ้าเอยกับอิทธิกรอย่างลูกผู้ชาย"ฉันสัญญาว่าจะดูแลเจ้าเอยอย่างดีและจะไม่มีเรื่องผู้หญิงอีกแน่นอนแล้วฉันจะพาคุณแม่มาสู่ขอให้เร็วที่สุดนายไม่ต้องห่วง" ว่าจบก็เดินหันหลังกลับไปที่รถ"......" อิทธิกรยืนกำมือแน่นน้ำตาคลอตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกซึ่งเรื่องนี้อิทธิกรก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะยังไงเหนือเมฆก็ต้องรับผิดชอบเจ้าเอยในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาจนน้องของเขาตั้งท้องแล้ววันต่อมา"ทำไมทำแบบนี้นะเอย" อิทธิกรกำจดหมายของเจ้าเอยเอาไว้แน่นเมื่อรู้ว่าน้องสาวขอหนีปัญหาไปทำใจไม่เข้าใจว่าเจ้าเอยไม่รู้หรืออย่างไรว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะเป็นห่วงแค่ไหน"อย่าพึ่งเครียดไปเลยค่ะโอบเอยบอกเองนี่คะว่าสบายใจแล้วจะกลับมาให้เวลาเอยหน่อยนะคะ"อินทิราเชื่อว่าเจ้าเอยคงจะไม่ทำอะไรที่ทำร้ายตัวเองแน่นอนหากสบายใจขึ้นคงจะกลับมาเอง"เฮ้อ" มือหนายกกุมขมับหนึบตั้งแต่เมื่อคืนเขาก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะเป็นห่วงความรู้สึกเจ้าเอยก่อนหน้าเขาคิดว่าจะไม่มีเรื่องอะไรแล้วแท้ๆ11.00
ห้างสรรพสินค้า"แกว่าเอยอยู่ที่ไหน" ทรายแก้วเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้ากับเกวรินทร์ในช่วงหลังเลิกเรียนสองสาวในชุดนักศึกษาตอนนี้กังวลกับเรื่องราวของเจ้าเอยอยู่ไม่น้อยไม่รู้ว่าสภาพจิตใจของเจ้าเอยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"เอยคงอยู่ในที่ปลอดภัยนั่นแหละแกก็รู้นี่ว่าเอยคงไม่ทำอะไรที่มันทำร้ายตัวเองหรอกสบายใจแล้วน่าจะกลับมา" เกวรินทร์แม้นจะห่วงความรู้สึกของเจ้าเอยอยู่มากแต่เธอก็ยังเชื่อลึกๆว่าคนอย่างเจ้าเอยคงไม่ทำเรื่องอะไรที่เป็นภัยแก่ตัวเองตอนนี้คงอยากพักใจพักสมองอยู่คนเดียวเท่านั้น"ไปกับพวกผม" ระหว่างที่สองสาวเดินคุยกันอยู่พรางๆจู่ๆก็มีฝรั่งตัวโตใส่ชุดดำสองคนเดินมาประกบพวกเธอก่อนจะเอ่ยสั่งเป็นภาษาไทยเสียงดังฟังชัดจนทรายแก้วตกใจยืนนิ่งอึ้งทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้จักมาก่อนว่าทั้งสองเป็นใครหรือพวกเขาอาจจะจำคนผิดก็เป็นได้ในส่วนของเกวรินทร์นั้นเธอจำได้ดีว่าสองคนนี้เป็นใครทั้งตกใจไม่น้อยไม่คิดว่าพวกเขาจะตามเธอมาถึงที่นี่ได้"อะไรกันคะพวกเราไม่รู้จักพวกคุณน่าจะจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ" ทรายแก้วเอ่ยตอบคนทั้งสองด้วยรอยยิ้มอ่อนเป็นมารยาท"ตำรวจคะ" เกวรินทร์ชี้ไม้ชี้มือก่อนจะตะโกนว่ามีตำรวจเมื่อชายทั้งสอง
"ไม่มีอะไรค่ะแค่อยากมีเงิน" ว่าจบดวงตาน้อยๆก็หลุบมองต่ำอย่างเหนื่อยใจหากเธอรวยกว่านี้สักหน่อยคงไม่ยากเลยที่จะจัดการปัญหาของเพื่อนรักเธอได้ไม่ว่าจะเป็นออกค่ารักษาพี่ชายของเจ้าเอยและออกค่าคนงานให้เกวรินทร์หากเธอมีเงินเธอจะช่วยโดยไม่คิดเลย"จะเอาเท่าไร...จะให้ยืม" แทนไทยิ้มอ่อนเขาเสนอจะช่วยหญิงสาวโดยไม่ต้องคิดเพราะอย่างทรายแก้วเรียนอยู่แค่ปีหนึ่งเงินที่ต้องการตอนนี้คงๆม่ถึงห้าแสนเขามีให้เธอได้ยืมหรือให้ได้เลยสบายๆ"จ..จริงหรอกคะ?" คนตัวเล็กที่แก้มสองข้างป่องเพราะมีอาหารเต็มปากรีบเคี้ยวอาหารและรีบกลืนก่อนจะรีบถามชายหนุ่มตรงหน้าให้แน่ใจอีกครั้งว่าที่เขาพูดกับเธอเขาพูดจริงหรือพูดเล่น"อืม...เราก็รู้ว่าพี่มีเงิน""....." ทรายแก้วดีใจที่แทนไทจะช่วยเธอจริงๆแต่คำพูดของเขาเมื่อครู่ก็ทำให้เธออดว่าเขาว่าอวดรวยในใจไม่ได้"คิดอะไรอยู่หรือเปล่า" แทนไทจ้องมองคนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องมองเขานิ่งจนเขามองออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ"อ่อเปล่าค่ะ.." ทรายแก้วรีบส่ายหัวหงึกหงัก"จะเอาเท่าไรว่ามา""สองแสนค่ะ""ซื้อของแบรนด์เนมหรอก" แทนไทคิดเอาไว้ไม่ผิดคาดว่าเธอน่าจะขอไม่เกินห้าแสนแต่ก็อยากรู้คำตอบว่าเ
"ไปอยู่ที่คอนโด...นี่เธอหนีไปอยู่ที่คอนโดปกรณ์งั้นหรอก" ใบหน้าคมมีสีหน้าไม่พอใจกะทันหันเมื่อพึ่งจะรู้ว่าหญิงสาวนั้นหนีไปอยู่กับคนที่เขาไม่อยากจะให้เธออยู่ใกล้ "ค่ะ..ก็เอยไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนนี่คะจะไปรบกวนเพื่อนๆเอยก็ไม่กล้าเพราะรู้ว่าเดี๋ยวทุกคนก็ตามเอยเจอ""เอาอันนั้นทิ้งกินอันนี้แทน""ทำไมล่ะคะ""ไว้ใจปกรณ์มากเลยหรือไงคิดยังไงกับเค้าบอกฉันมารักปกรณ์หรือเปล่า" เหนือเมฆจ้องหญิงสาวเขม็ง"เอยคิดกับคุณกรแค่พี่ชายค่ะไม่ได้รักเค้า""แล้วเธอรักใคร" เจ้าเอยยังไม่ยอมตอบได้แต่ยืนหน้าแดงเพราะไม่ค่อยกล้าที่จะพูดกับคนตรงหน้าเท่าไร“ฉันถามทำไมไม่ตอบ” เหนืเมฆเริ่มกัดฟันแต่ยังพยายามข่มอารมณ์"...รัก..." มือเรียวยกจิ้มไปที่หน้าอกข้างซ้ายของเหนือเมฆก่อนจะฟุบกอดซุกใบหน้านวลไปที่อกแกร่ง"เกือบที่ฉันจะฟิวส์ขาดแล้วนะยัยตัวเล็ก" คนที่กำลังจะโมโหผ่อนลมหายใจลงยิ้มร่ารวบกอดหญิงสาวเอาไว้แน่นหากเธอบอกกับเขาช้ากว่านี้อีกนิดเดียวมีหวังเขาได้ระเบิดอารมณ์เป็นแน่หลายวันต่อมา วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แถมเป็นวันเกิดของแดเนียลเหนือเมฆจึงอาสาจัดสถานที่บ้านเป็นการฉลองวันเกิดและถือโอกาสนี้ชวนเพื่อนๆเขาและเพื้อ