“แต่เครื่องนี้ก็ยังใช้ได้อยู่นี่คะ” สาวเจ้าบุ้ยปากเล็กน้อย
“ฉันไม่ชอบให้เธอดื้อกับฉัน”
“ก็ได้ค่ะ” จากคนที่อารมณ์ดีอยู่เมื่อครู่ตอนนี้กลับทำเสียงแข็งและทำหน้ายักษ์ใส่หญิงสาวจนเธอก้มหน้างุดลงกับอกแกร่งอย่างจำยอม
“.....” ดวงตาคมเหลือบมองคนในอ้อมอกด้วยความพึงพอใจก่อนจะเปรยอิ้มอ่อนลงมาเล็กน้อยคิดในใจว่าหากเธอยังทำตัวว่าง่ายน่ารักอยู่แบบนี้ไม่รู้ว่าเขาจะหายจากอาการโหยหาเธอเมื่อไรไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าเขาจะสนใจใครมากเท่าเธอ
หลังจากที่นั่งเล่นกันที่ริมธารหลังบ้านพักใหญ่สาวเจ้าก็รบกลับเพราะต้องการที่จะมาทำอาหารเย็นเองหลังจากที่ปิดเทอมแล้วในเวลาที่เธออยู่ว่างๆก็จะกหัดทำอาหารจากยูทูปและสื่อต่างๆในอินเตอร์เน็ตลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เคยท้อเพราะอยากที่จะทำเป็นเพื่อตัวเองและเพื่อคนอื่นที่เธอจะต้องดูแลด้วย
“นี่ค่ะ..” กับข้าวสามอย่างวางเรียงตรงหน้าของเหนือเมฆไม่ว่าจะเป็นไข่เจียวผัดผักและต้มข่าไก่ล้วนแล้วแต่หน้าตาน่าทานแต่เรื่องรสชาติก็ต้องฟังจากคนชิมอีกทีว่าเป็นอย่างไร
“เอยลองหัดทำเพื่อคุณเหนือเลยนะคะ” สาวเจ้าว่าจบก็หย่อนก้นลงนั่งข้างชายหนุ่มยิ้มกริ่มไม่ยอมหุบ
“เพื่อเอาใจฉันโดยเฉพาะเลยหรอก” เหนือเมฆรู้สึกว่าหัวใจของเขามันกระชุ่มกระชวยเป็นพิเศษที่ได้เห็นว่าหญิงสาวคอยเอาใจและใส่ใจในตัวของเขาอยู่ไม่น้อย
“เปล่าเอาใจค่ะ..แค่ตอบแทนที่คุณเหนือใจดีกับเอยอีกอย่างตอนพี่โอบมาพักฟื้นที่บ้านเอยจะได้ทำอาหารให้พี่โอบได้ด้วยค่ะ...คุณเหนือลองชิมสิคะว่าอร่อยหรือเปล่า” ใบหน้าหวานส่ายหัวเล็กน้อยเพราะที่เธอตั้งใจหัดทำอาหารไม่ใช่เพียงแค่อยากเอาใจเขาเท่านั้น
“อืม..จืดไปหน่อยนะแต่ก็กินได้” เหนือเมฆตักชิมต้มข่าไก่ก่อนจะชิมอย่างอื่นและเอ่ยบอกกับเธอคราวเดียวตามตรงว่าฝีมือของเธอยังคงต้องพัฒนาแต่เขาก็ภูมิใจในตัวเธอไม่น้อยที่พยายามพัฒนาตนเองมาจนทำอาหารได้
“ไว้พรุ่งนี้เอยจะแก้มือนะคะ” สาวเจ้ายิ้มจนตาหยีที่อย่างน้อยฝีมือเธอก็ยังทำให้ชายหนุ่มทานได้
“....” มือหนาเอื้อมยีหัวหญิงสาวเล่นด้วยความเอ็นดูก่อนจะรวบกอดเอาไว้หลวมๆ
21.00 น.
"ทำไมไม่ให้เอยใส่เสื้อผ้าล่ะคะ...คืนนี้อากาศเย็น" ร่างบางเดินทำสีหน้าสงสัยออกมาจากห้องน้ำเพราะชายหนุ่มสั่งเอาไว้ว่าให้เธอใส่แค่ชุดคลุมสีขาวที่มีเชือกผูกแค่ตรงเอวเท่านั้นทั้งนี้คืนนี้อากาศค่อนข้างเย็น
"ใส่เดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี" เหนือเมฆที่อยู่ในชุดเดียวกับหญิงสาวเขานั่งรอเธอที่เก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ในมือถือแก้วไวน์กระดกดื่มอึกใหญ่ก่อนจะวางลงและดึงร่างบางให้มานั่งคร่อมที่ตักและไม่ลีลาที่จะถลกชุดคลุมจากบ่าหญิงสาวลงไปหองที่เอวก่อนจะก้มกอบกุมอกอิ่มด้วยริมฝีปากจนสาวเจ้าเม้มปากแหงนหน้าขนลุกตั้งชันเพราะสัมผัสวาบหวาม
"อ..อืม.." สองมือเรียวเกาะบ่าแกร่งเอาไว้หลวมๆเมื่ออีกฝ่ายบดจูบอยู่กับทรวงอกอิ่ม
"อ... อื้มม.." สองขาเรียวจิกเกร็งเมื่อคนตัวโตตวัดแขนรวบเอวบางของเธอเอาไว้ส่วนอีกข้างก็ยุ่มย่ามอยู่กับของสงวนของเธอและค่อยๆแทรกนิ้วร้ายเข้าออกที่ปากทางร่องสวาทพักใหญ่จนมันเริ่มฉ่ำแฉะไปด้วยธารน้ำรัก
"คืนนี้ฉันขอยันเช้านะคนดี" ว่าจบมือทั้งสองก็ดันสะโพกมนให้ร่องสวาทของเธอสอดรับกับแท่งร้อนของเขา
"อืม.. " สาวเจ้าตวัดแขนเรียวรัดคอชายหนุ่มเอาไว้แน่นก่อนที่เขาจะอุ้มเธอไปที่เตียงจัดการระเรงบทรักจนห้องนอนร้อนระอุไปด้วยไฟสวาท
"อ..อ๊ายย.." มือเรียวจิกหลังคนตัวโตจนแทบฝังเล็บเสียงหวานครางกระเส่าไม่หยุดเมื่อคนตัวโตบดจูบดูดดึงยอดอกอิ่มพร้อมกระแทกรัวสะโพกด้วยจังหวะเร่าร้อยอย่างไม่คิดจะผ่อน
บทรักบทสวาททำหญิงสาวถูกขย่มตัวโยนครั้งแล้วครั้งเร่าเสียงครางร้องโหยหวนกระเส่าสลับกันนับครั้งไม่ถ้วนกว่าจะหยุดไฟสวาทในคืนนี้ได้เวลาก็ล่วงโรยจนพระอาทิตย์อีกวันโผล่ขึ้น
ตลอดระยะเวลาที่เจ้าเอยอยู่ที่นี่กับเหนือเมฆเธอเป็นเหมือนน้ำมันเชื้อเพลิงชั้นดีที่คอยเติมไฟสวาทให้เหนือเมฆได้ลุกโชนตลอดเวลา
และความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดีขึ้นจนแทบจะลืมไปเลยว่าอยู่กันด้วยสถานะไหนและไม่มีใครคิดถึงจุดจบของมันว่าจะต้องเป็นเช่นไรเพียงแค่ตอนนี้ขอเสพสุขกันให้มากที่สุดเป็นพอ
สามวันต่อมา
โรงพยาบาลXXX
เป็นวันที่สองแล้วที่อิทธิกรฟื้นและเป็นอีกวันที่เจ้าเอยมานั่งเฝ้านอนเฝ้าพี่ชายของเธออยู่ไม่ห่างตอนนี้อิทธิกรสามารถลุกขึ้นเดินได้บ้างเพราะส่วนมากที่กระทบกระเทือนตอนเกิดอุบัติเหตุจะอยู่ท่อนบนที่หัวจะหนักสุดรองลงมากก็กระดูกซี่โครงหักตอนนี้ก็หายดีประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นแล้วเหลือแค่พักฟื้นอีกหน่อยให้แผลผ่าตัดและกระดูกสมานกันดีก็กลับมาใช้ชีวิตเช่นคนปกติได้
“...พี่โอบรู้หรือเปล่าคะว่าใครมาเฝ้าพี่โอบตลอดเลย...” สาวเจ้านั่งเกาะขอบเตียงมองคนเป็นพี่ตาแป๋วเธอคิดว่าจะบอกเรื่องอินทิรากับลูกให้พี่ชายของเธอฟังในวันนี้เมื่ออินทิราและพี่ชายเธอเจอกันแล้วจะได้ไม่ต้องอธิบายหรือพูดคุยอะไรกันให้มากความ
“ไม่พ้นเราล่ะสิ” มือหนายกมายีหัวน้องสาวตนเบาๆก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนอย่างเขาจะมีใครมาเฝ้าได้นอกจากยัยตัวเล็กเจ้าเอย
“อืมเอยก็มาค่ะ..พี่อินมาบ่อยกว่า”
“อิน..” ดวงตาคมของคนบนเตียงเบิกกว้างเป็นประกายชื่อนี้ที่เขาไม่ได้ยินมาร่วมปีกว่าและเจ้าของชื่อนี้คือคนที่เขาโหยหาและยังลืมไม่เคยลง
“เอยบอกเรื่องนั้นกับพี่อินไปแล้วนะคะ” เจ้าเอยกุมมืออิทธิกรเอาไว้หลวมๆ
“เรารับปากกับพี่แล้วไงเอยว่าเรื่องนี้อินจะไม่รู้” คิ้วหนาขมวดเป็นปมก่อนจะมองน้องสาวตนด้วยสายตาคาดโทษเพราะเคยเอ่ยกำชับกับเจ้าเอยหลายครั้งแล้วว่าให้เก็บเรื่องที่พ่ออินทิราสั่งให้เงียบที่สุด
“เอยรู้ค่ะ...แต่ที่เอยต้องผิดคำพูดเพราะเอยไม่อยากให้พี่โอบเสียพี่อินกับน้องอายไป” เจ้าเอยจำเป็นต้องเลือกสิ่งที่ถูกต้องที่สุดเพราะหลานเธอไม่ควรจะกำพร้าส่วนพี่ชายเธอก็ควรจะรู้ว่ามีลูกน้อยที่กำลังรอความรักและอ้อมกอดของคนเป็นพ่ออยู่
“น้องอาย..” อิทธิกรเริ่มใจเต้นแรงเมื่อได้ยินชื่อของคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยและคิดว่าบุคคลนี้คงมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขาแน่นอนไม่อย่างนั้นเจ้าเอยก็คงจะไม่พูดถึง
“ลูกสาวพี่โอบกับพี่อินไงคะตอนนี้ได้หกเดือนแล้วกำลังจ้ำม่ำเลยนะคะ”“อะไรนะ” สิ้นเสียงอ่อนของน้องสาวน้ำตาเจ้ากรรมในดวงตาคมก็รื้นออกมากะทันหันเย็นของวันหลังจากที่เจ้าเอยคุยกับอิทธิกรถึงความจริงที่ผ่านมาไม่นานนักอินทิราก็หอบลูกน้อยมาหาอิทธิกรที่โรงพยาบาลชายหนุ่มเห็นหน้าอินทิรากับลูกได้ก็โผเข้ากอดด้วยความรู้สึกผิด“ผมขอโทษ..” คำพูดของโทษของอิทธิกรกรออกมาจากปากของเขาไม่รู้กี่สิบครั้งตอนนี้เขานั่งอุ้มเจ้าก้อนกลมอยู่บนเตียงยิ่งมองตาแป๋วของลูกสาวตนที่ยังไร้เดียงสาความรู้สึกผิดก็จุกอกระบายออกเป็นน้ำตาลูกผู้ชายครั้งแล้วครั้งเล่า“ไม่ต้องขอโทษอะไรเราแล้วค่ะอินเข้าใจ...ต้องขอบคุณเอยนะคะที่ยอมพูดความจริงไม่อย่างนั้นอินกับลูกก็จะไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว” อินทิราจับมือหนาของอิทธิกรเอาไว้หลวมๆที่เห็นเขาร้องห่มร้องให้อยู่พักใหญ่ไม่ยอมหยุดสามวันต่อมาเพนท์เฮ้าส์เหนือเมฆพาน่านน้ำที่พึ่งออกจากโรงพยาบาลมาพักที่เพนท์เฮ้าส์เขาจ้างพยาบาลส่วนตัวมาดูแลน้องชายของเขาสองคนและหวังว่าพยาบาลทั้งสองจะปราบพยศน้องชายของเขาให้ทานข้าวทานยาให้ตรงเวลาได้“ทีนี้อยากจะซ่าไปแข่งรถอีกหรือเปล่า” เหนือเมฆยืนกอดอกมองน้องชายของเขา
"ถ้าไม่อยากอายคนอื่นก็ไปกับฉัน" ใบหน้าคมหันมามองร่างบางที่ยืนหน้าซีดอยู่ข้างตัวก่อนจะเอ่ยกับเธอเสียงแข็ง"เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ" เจ้าเอยคิดว่าหากเธออยู่ตรงนี้นานคงไม่ดีแน่จึงเอ่ยกับเพื่อนทั้งสองให้หยุดการกระทำและเดินตามเหนือเมฆไปที่รถแต่โดยดีทิ้งให้สองสาวยืนมองหน้ากันอย่างตกใจที่ดูท่าเหนือเมฆกับเพื่อนของพวกเธอดูจะสนิทกันมากกว่าคนรู้จักกันธรรมดา"นี่เอยไปสนิทกับคุณเหนือตั้งแต่เมื่อไร""นั่นสิ"ทางด้านเหนือเมฆเมื่อพาร่างบางขึ้นรถด้วยกันมาได้เขาก็เหยียบคันเร่งไม่ผ่อนด้วยความโมโหตรงดิ่งไปที่บ้านอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะคุยกับเจ้าเอยให้รู้เรื่องว่าที่จู่ๆเธอดันมาหลบหน้าเขาเป็นเพราะอะไร"พี่เธอหายดีแล้วคิดจะชิ่งหนีฉันหรือไง" เหนือเมฆจอดรถได้ก็ตวาดใส่หญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆสะดุ้งเฮือกแต่เธอก็ยังไม่ยอมปริปากพูดจาอะไร"จะเงียบอีกนานไหม" ยิ่งเห็นอีกฝ่ายเอาแต่เงียบเขาก็ยิ่งโมโห"ถ้าคุณเหนือจะแต่งงานก็เลิกยุ่งกับเอยเถอะค่ะ" เจ้าเอยยอมปริปากพูดเสียงอ่อนเพราะเธอไม่อยากให้เขามายุ่งอะไรกับเธออีกแม้นก่อนหน้าจะรับปากยอมเป็นของเล่นเขาเองก็เถอะหากเขาและเธอยังไม่เลิกเจอกันก็รั้นแต่จะทำให้ใจของเธอเจ็บปวดไม
"เอย..." อิทธิกรกำมือแน่นเดินหนีเข้าไปในห้องด้วยอาการที่ทั้งน้องสาวและภรรยาก็ดูไม่ออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน"โอบคะ" อินทิราหน้าเสียเพราะเหตุการณ์ตอนนี้เริ่มตรึงเครียดเธอเลือกที่จะปลอบเจ้าเอยก่อนที่จะเข้าไปหาอิทธิกรเพราะรู้ว่าเจ้าเอยต้องการกำลังใจมากที่สุด"เอยขอโทษเอยไม่มีทางเลือก..ฮือๆๆ" เสียงสะอื้นพร่ำขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวังแต่ตอนนั้นเธอต้องรักษาชีวิตของพี่ชายเธอเอาไว้"เอย" อินทิราสงสารเจ้าเอยจับใจที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอายุแค่นี้จะต้องมาแบกรับอะไรที่มันหนักหนาสาหัสครู่ต่อมาหลังจากที่อินทิราปลอบใจเจ้าเอยพักใหญ่และให้เธอเข้าห้องไปพักผ่อนแล้วจึงเข้ามาหาคนเป็นสามี"คุณอย่าโกรธน้องเลยนะคะ""ผมไม่ได้โกรธเอยแต่ผมโกรธตัวเอง..โกรธที่ทำให้เอยต้องเสียศักดิ์ศรีให้คนแบบนั้น" ตอนนี้เขาไม่ได้โกรธเจ้าเอยเลยสักนิดแต่เจ็บใจมากกว่าที่เปฌนต้นเหตุทำให้น้องสาวต้องมาเจอเรื่องที่น่าเจ็บปวดเช่นนี้22.00 น."....." เจ้าเอยยังคงยืนมองท้องฟ้ายามค่ำคืนเธอข่มตานอนไม่ลงเพราะมีเรื่องกังวลใจอยู่พอสมควร"เอย""พี่โอบ.." "พี่ขอโทษเอย...ต่อไปนี้พี่จะไม่ยอมให้คนแบบนั้นมายุ่งกับเอยอีก" อิทธิกรตัดสินใจเข้ามาหาเจ
“ฉันเหนื่อยจะโวยวาย” มือหนายกกุมขมับหนึบสีหน้าของเขาตอนนี้ไม่สู้ดีนักคิดย้อนกลับไปว่าหากเขารู้แต่แรกว่าคนผิดตัวจริงเป็นใครเขาคงไม่ต้องไปยุ่งกับเจ้าเอยแถมตอนนี้เหมือนใจของเขาเองจะถลำลึกไปกับเธอแล้วด้วย..ความรู้สึกแบบนี้เขาไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยจริงๆแม้ก่อนหน้าจะคิดว่าตัวเองชอบอินทิรามากแต่ก็ไม่มีความรู้สึกอยากได้อยากครอบครองเท่าเจ้าเอยเลยสักนิดตอนนี้ในใจลึกๆยังแอบคิดว่าหรือเขาจะรักเธอเข้าให้แล้วถึงได้วุ่นวายใจที่เธอต้องการจะไปจากเขาแบบนี้“คิดอะไรของนาย..มีอะไรคุยกับฉันได้ฉันเพื่อนนายนะ” แทนไทดูออกว่าเพื่อนของเขากำลังมีอะไรที่กำลังกังวลใจอยู่ไม่น้อยเขาจึงอยากทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีหากเพื่อนเขาได้ระบายออกมาบ้างว่าปัญหาในใจคืออะไรเผื่อเขาจะชี้แนะทางออกให้ได้หากไม่ได้แค่รับฟังให้เพื่อนของเขาสบายใจขึ้นก็ยังดี“คือ..ฉันกับเจ้าเอย..” เหนือเมฆตัดสินใจเล่าเรื่องราวของเขากับเจ้าเอยให้แทนไทได้ฟังเขายอมรับว่าคราแรกเขาทำไปเพราะอยากเอาชนะอิทธิกรให้เจ็บปวดแต่ตอนนี้เรื่องราวกลับย้อนกลัมาทำให้เขาเจ็บปวดเสียเองเพราะรู้ว่าเจ้าเอยต้องการจะตีตัวออกห่าง“นี่แกรักคนเป็นแล้วหรอกวะ” แทนไทยืนอึ้
“ผมว่าคุณแม่คงไม่อยากได้คนที่ได้ชื่อว่าฆาตกรมาเป็นลูกสะใภ้จริงหรือเปล่าครับ...แต่ผมขอบอกเลยว่าผมรับไม่ได้”“ที่หนูพลอยต้องตัดสินใจทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะเราหรือยังไง” วารุณีคิดว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้พีรยาตัดสินใจกระทำการแบบนี้คงไม่พ้นต้นเหตุเกิดจากความเจ้าชู้ของลูกชายเธอเป็นแน่จึงแอบสงสารพีรยาอยู่บ้างแต่จะให้เธอเป็นสะใภ้เข้ามาในบ้านอันนี้เธอคงไม่ยอมแล้ว“ผมไม่เถียงนะครับว่าเธออาจจะโกรธเกลียดวิเวียนเพราะผมแต่เธอก็ไม่ควรจะฆ่าใครเป็นผักเป็นปลาใจคอเธอมันโหดเหี้ยมเกินผู้หญิงแล้วครับคุณแม่” เหนือเมฆรู้ว่าส่วนหนึ่งเป็นความผิดของเขาคราแรกเขาคิดว่าพีรยาจะเลิกยุ่งกับเขาเพราะเห็นว่าอย่างไรเขาก็ไม่สนใจแต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะใจคอโหดเหี้ยมจนสั่งฆ่าเพื่อนสนิทตัวเองได้“แม่จะคุยกับทางนั้นเพื่อยกเลิกงานแต่งแต่แม่ก็ต้องรีบหาผู้หญิงคนใหม่ให้เราอยู่ดี” วารุณีเอ่ยออกมาตามที่เธอตั้งใจแม้นเธอจะเสียสะใภ้คนนี้ไปแต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะหาผู้หญิงให้ลูกชายเธอไม่ได้“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณแม่ถึงอยากเร่งเร้าให้ผมแต่งงานนักหนา” เหนือเมฆเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าอ่อนใจ“แม่ก็แค่อยากอุ้มหลานอยากเห็นเราเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีไงตาเหนือ”
16.00 น.วัดxx"เจอกันอีกแล้วนะครับ" ปกรณ์เข้ามาที่วัดในช่วงวันหยุดเมื่อออกจากไหว้พระในโบสถ์ได้เขาก็เห็นหญิงสาวคนที่อยากเจอนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาริมสระน้ำจึงรีบเดินปรี่เข้ามาคุยกับเธอ"คุณกร" สาวเจ้ายิ้มร่าเมื่อวันนี้บังเอิญได้มาเจอกับปกรณ์อีกครั้งหลังจากที่นั่งคุยกันได้พักใหญ่ปกรณ์ก็ถือโอกาสชวนสาวน้อยไปทานข้าวเพราะเขาอยากหาโอกาสนี้ชวนเธอมานานแล้วร้านอาหาร"เอยได้ยินข่าวมาบ้างคุณกรคงเครียดมากเลยสินะคะ" เจ้าเอยได้ยินข่าวของพีรยามาบ้างจึงเอ่ยถามปกรณ์ด้วยความเห็นอกเห็นใจเพราะรู้ดีว่าหากเกิดปัญหาขึ้นจากคนในครอบครัวคงทำให้ปกรณ์เครียดไม่น้อย"ครับแต่ตอนนี้โอเคขึ้นมากแล้ว" ปกรณ์ยิ้มอ่อนเอ็นดูหญิงสาวไม่น้อยที่เธอมีกะใจที่ห่วงคนนอกอย่างเขา"ดีแล้วล่ะค่ะ" สองหนุ่มสาวในร้านอาหารที่คุยกันหัวร่อต่อกระซิกอยู่ในสายตาของเหนือเมฆทั้งหมดนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะเขาตามเธอมาตั้งแต่อยู่ที่วัดแล้วเอี๊ยดดไม่นานนักทั้งสองก็ทานอาหารกันเรียบร้อยปกรณ์ที่กำลังจะเคลื่อนรถออกจากลานจอดก็มีรถหรูคันหนึ่งขับมาตัดหน้าจนเขาต้องเบรกกะทันหัน“ว้ายย..” สาวเจ้าร้องตกใจและหน้าเสียเล็กน้อย"ไม่ค่ะ..." เจ้าเอยส่ายหั
"อืม.." สาวเจ้าแอบมีเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขาบ้าแต่เมื่อมีสติเธอจึงรีบดิ้นหนีด้วยแรงที่มีให้มากที่สุดจนหลุดจากพันธนาการได้เพี๊ยะ มือเรียวยกฟาดใบหน้าคมจนเกิดรอยแดงทันทีที่สิ้นเสียงกระทบ"ดื้อกับฉันนักใช่ไหม""ปล่อยย..อื้ออ" เหนือเมฆอุ้มร่างบางมานอนกอดก่ายขึงเอาไว้แน่นบนเตียงนุ่มสองมือหนาประสานมือเรียวขึงเอาไว้แน่นไม่ให้เธอปัดป่ายไปไหนได้ริมฝีปากหนาซุกไซร้ลำคอระหงส์ดูดึงจนเป็นรอยแดงแสดงความเป็นเจ้าของไล่มาที่ริมฝีปากบางเขาบดจูบเร่าร้อนกว่าคราแรกส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมริมฝีปากบางก่อนจะตวัดลิ้นของคนพยศมาดูดดึงเล่นในปากทำเอาร่างบางอ่อนระทวยดั่งขี้ผึ้งรนไฟเมื่อสัมผัสวาบหวามค่อยๆทวีคูณขึ้นเรื่อยๆแม้นสมองจะสั่งให้ลืมและต่อต้านเขาอย่างไรแต่ร่างกายและใจเจ้ากรรมกลับเผลอไผลไปกับคนเอาแต่ใจอย่างง่ายดายตามคนที่ลวงล่อด้วยรสสัมผัสที่คุ้นเคย"อืม..." เหนือเมฆที่เห็นสาวเจ้ายอมเขาแต่โดยดีแล้วมือหนาก็ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของหญิงสาวออกและค่อยๆปลดบราเกาะอกครึ่งตัวสีเนื้อออกจนสองเต้างามเผยและรีบกอบกุมด้วยสองมือหนาบีบเค้นขยำเล่นด้วยความคิดถึงในขณะที่ริมฝีปากหนายังบดจูบอย่างเร่าร้อนอยู่ไม่คลายร่างบางแ
"ฉันจะรับผิดชอบเอยทุกอย่างนายไม่ต้องห่วง"เหนือเมฆไม่คิดจะโต้ตอบอิทธิกรเพราะรู้ว่าตัวเองผิดเขายกมือหนาปาดเลือดที่ริมฝีปากและรีบขอรับผิดชอบเจ้าเอยกับอิทธิกรอย่างลูกผู้ชาย"ฉันสัญญาว่าจะดูแลเจ้าเอยอย่างดีและจะไม่มีเรื่องผู้หญิงอีกแน่นอนแล้วฉันจะพาคุณแม่มาสู่ขอให้เร็วที่สุดนายไม่ต้องห่วง" ว่าจบก็เดินหันหลังกลับไปที่รถ"......" อิทธิกรยืนกำมือแน่นน้ำตาคลอตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกซึ่งเรื่องนี้อิทธิกรก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะยังไงเหนือเมฆก็ต้องรับผิดชอบเจ้าเอยในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาจนน้องของเขาตั้งท้องแล้ววันต่อมา"ทำไมทำแบบนี้นะเอย" อิทธิกรกำจดหมายของเจ้าเอยเอาไว้แน่นเมื่อรู้ว่าน้องสาวขอหนีปัญหาไปทำใจไม่เข้าใจว่าเจ้าเอยไม่รู้หรืออย่างไรว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะเป็นห่วงแค่ไหน"อย่าพึ่งเครียดไปเลยค่ะโอบเอยบอกเองนี่คะว่าสบายใจแล้วจะกลับมาให้เวลาเอยหน่อยนะคะ"อินทิราเชื่อว่าเจ้าเอยคงจะไม่ทำอะไรที่ทำร้ายตัวเองแน่นอนหากสบายใจขึ้นคงจะกลับมาเอง"เฮ้อ" มือหนายกกุมขมับหนึบตั้งแต่เมื่อคืนเขาก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะเป็นห่วงความรู้สึกเจ้าเอยก่อนหน้าเขาคิดว่าจะไม่มีเรื่องอะไรแล้วแท้ๆ11.00