อาทิตย์ต่อมา
22.00 น.
หลังจากเลิกงานได้เหนือเมฆก็ดิ่งตรงมาที่คลับหรูที่แทนไทเพื่อนของเขาเป็นเจ้าของในโซนวีไอพีตอนนี้มีแดเนียลแทนไทและเหนือเมฆที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนมาด้วยกัน
แทนไทเป็นลูกเจ้าของบริษัทนำเข้าปิโตรเคมีแต่เขาเลือกที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจกลางคืนเพราะรักสนุกและแสงสีในตอนกลางคืนมากกว่ากลางวัน
แดเนียลเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกาธุรกิจครอบครัวคือทำปิโตรเคมีและที่นี่ได้ก็เพราะตอนนี้อกหักรักคุดจึงเดินทางมาหาเพื่อนๆและพักผ่อนรักษาแผลใจเขาค่อนข้างเป็นคนสุขุมไม่ค่อยชอบเข้าสังคมและคนอื่นค่อนข้างเข้าถึงยากพอสมควร
"เฮ้ยๆๆ..เบาๆเป็นอะไรของแกวะ" แดเนียลรีบรั้งมือเหนือเมฆเอาไว้เพราะเห็นว่าตั้งแต่มาถึงก็อารมณ์เสียและเอาแต่ดื่มไม่พูดไม่จา
"เบื่อๆ" ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะบ่นออกมาเบาๆ
"ให้ฉันเรียกมาสักคนสองคนไหม" แทนไทรู้ดีว่าเพื่อนเขามาที่นี่ทีไรขาดเรื่องนี้ไม่ได้จึงหมายจะเรียกเด็กสาวในที่นี้สักคนสองคนมาปรนนิบัติเพื่อนของเขา
"ไม่ฉันขอตัว" เหนือเมฆลุกยืนเต็มความสูงต่อหน้าแทนไทก่อนปฏิเสธและจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
"อ้าว..จะรีบไปไหนของมัน" ทั้งแดเนียลและแทนไทต่างก็มองตามหลังเพื่อนของพวกเขาด้วยสีหน้าที่แปลกใจไม่รู้ว่าเหนือเมฆมีปัญหาอะไรนักหนาถึงได้ดูหงุดหงิดเช่นนี้
ชั่วโมงต่อมา
กุก กัก
" ...หืม" เจ้าเอยรู้สึกตัวตื่นเมื่อได้ยินเสียงกุกกักอยู่นอกห้องนอนของเธอ
หญิงสาวค่อยๆหยิบไม้เบสบอลที่วางไว้มุมห้องก่อนจะเปิดประตูและกดเปิดไฟในตัวบ้าน
ฟรึ่บบ..
ปึก ปึก " โอ้ยย.." เธอเห็นผู้ชายร่างสูงสวมเสื้อยืดแขนยาวสีขาวกางเกงยีนส์ยืนหันหลังอยู่จึงยกไม้เบสบอลฟาดไปที่กลางหลังคนที่เธอคิดว่าเป็นขโมยเต็มๆจนอีกฝ่ายร้องลั่น
"ไอ้หัวขโมยคิดจะทำมาหากินสุจริตเป็นบ้างหรือเปล่าห้ะ"
"ฉันเจ็บนะ" เหนือเมฆหันกลับมาจับรับไม้เบสบอลกำเอาไว้แน่นทันก่อนที่หญิงสาวจะฟาดมาที่หัวของเขา
"ค..คุณเหนือ" ร่างบางในชุดนอนสีขาวปล่อยผมสลวยถึงกับยืนนิ่งเบิกตาโพรงเมื่อรู้ว่าคนที่เธอพึ่งจะฟาดไปเต็มแรงคือเหนือเมฆ
ครู่ต่อมา
"เอยขอโทษค่ะไม่รู้จริงๆว่าจะเป็นคุณเหนือ..เอยขอโทษนะคะ"
เจ้าเอยนั่งพนมมือไหว้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่โซฟาตรงหน้าประหงกๆพรางขอโทษยกใหญ่ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะโกรธเธอเดาอารมณ์ของเขาไม่ถูกทั้งรู้ด้วยว่าเขาน่าจะเมาก่อนมาเพราะกลิ่นแอลกอฮอลเตะจมูกเธอจนต้องนั่งอยู่ห่างๆ
"เลิกไหว้ฉันซะที..รู้หรือเปล่าว่าทำไมฉันต้องมาที่นี่" ชายหนุ่มนั่งจ้องหน้าหญิงสาวเขม็งก่อนจะเอ่ยเสียงแข็งจนร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย
"คุณเหนือเมาจนไม่รู้เลยหรอกคะว่ามาที่นี่ทำไม"
เจ้าเอยเงยหน้ามองอีกฝ่ายตาแป๋ว
"นี่เธอซื่อบื้อจริงหรือกวนประสาทฉันกันแน่"
"เอ่อ..เอยไม่ได้กวนประสาทนะคะก็คุณเหนือถามเอยว่าตัวคุณเหนือมาที่นี่ทำไมเอยอยู่ที่นี่จะรู้ได้ยังไงล่ะคะ" สาวเจ้าบุ้ยปากเล็กน้อย
"เฮ้อ..ก็เธอตัดการติดต่อของฉันไงคิดจะหนีหน้าอย่างนั้นหรอก" มือหนารั้งร่างบางไปนั่งที่ตักทั้งยังรวบกอดเธอเอาไว้แน่นร่างนุ่มนิ่มนี้คือสิ่งที่เขาคิดถึงที่สุดตลอดหลายวันที่ผ่านมาทีาโมโหขนาดนี้ก็เป็นเพราะติดต่อหญิงสาวไม่ได้
"เปล่านะคะ..มือถือเอยล่วงน้ำตอนนี้ใช้ของเพื่อนเอยอยู่เลยไม่มีเบอโทรคุณเหนือค่ะ" เจ้าเอยส่ายหัวพัลวันเธอไม่ได้คิดจะหนีหรือหลบหน้าเพียงแค่เธอจำเบอติดต่อเหนือเมฆไม่ได้เท่านั้น
"เฮ้อ...คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่" หลังจากได้ฟังคำตอบชายหนุ่มก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์กะทันหันกอดร่างบางแน่นกว่าเดิมและเอ่ยกระซิบข้างหูหญิงสาวด้วยใบหน้าระรื่นว่าเขาจะนอนกับเธอที่นี่
"..คุณเหนือนอนห้องพี่โอบละกันนะคะ" หากชายหนุ่มจะนอนที่นี่เธอคงต้องให้เขานอนห้องพี่ชายเธอเพราะเตียงเธอมีไว้สำหรับนอนแค่คนเดียว
"ฉันจะนอนกับเธอ"
"เตียงเอยเล็กนิดเดียวจะนอนยังไงคะ"
"ฉันนอนได้ก็แล้วกัน"
"นอนได้จริงหรอกคะ" เจ้าเอยพาชายหนุ่มเดินมาดูห้องเธอก่อนจะเอ่ยถามเขาอีกครั้ง
"อืม.." ชายหนุ่มมองไปในห้องนอนที่ไม่กว้างเท่าไรนักแต่เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนจะมองไปที่เตียงขนาดสามฟุตสีชมพูมีโคมไฟเปิดส่องสว่างอยู่หัวเตียง
เขาไม่เห็นว่าเตียงนอนเล็กๆของเธอจะเป็นปัญหาการนอนของเขาเพราะคืนนี้เขาคิดว่าคงจะนอนทับหญิงสาวทั้งคืนอยู่แล้ว
แกร๊กก ร่างสูงปิดประตูเดินจูงมือหญิงสาวให้เธอมานั่งที่เตียงก่อนจะค่อยๆถอดเสื้อผ้าของเขาออกทีละชิ้นจนคนที่นั่งอยู่บนเตียงนุ่มต้องก้มหน้างุดเพราะอายเกินกว่าที่จะมองร่างกายกำยำของคนตรงหน้า
"โทษฐานที่ทำให้ฉันติดต่อเธอไม่ได้คืนนี้ไม่ต้องนอนแล้วกันนะ" ว่าจบก็รวบอุ้มร่างบางให้นอนแนบไปกับเตียงก่อนจะก่ายกระซิบข้างหูบางคำเสียงแหบพร่าจนหญิงสาวตัวชาวาบ
"อื้ออ.." มือหนาถกถอดชุดนอนของหญิงสาวออกให้พ้นเนื้อนวลก่อนจะบดจูบหญิงสาวด้วยความกระหายและเริ่มต้นบทรักที่เร่าร้อนในทันที
ดวงตากลมโตหลับตาพริ้มใบหน้าเปี่ยมสุขเพราะเหมือนกับว่าร่างกายของเธอตอนนี้ก็โหยหาอีกฝ่ายเช่นกัน
คนตัวโตตักตวงความสุขอย่างไม่หยุดหย่อนจนสาวเจ้าหัวสั่นหัวครอนครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบรุ่งสาวเขาถึงจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระได้
วันต่อมา
วันนี้เจ้าเอยตื่นสายเนื่องจากเมื่อคนคนตัวโตกว่าจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระก็เกือบรุ่งเช้าชายหนุ่มที่เป็นต้นเหตุจึงอาสาขับรถมาส่งเธอที่มหาลัยดีเพราะหญิงสาวจะได้ถึงมหาลัยไวกว่าการนั่งรถประจำทาง
"เดี๋ยวคุณเหนือส่งเอยแค่ป้ายรถเมล์ตรงนั้นก็พอค่ะ" เจ้าเอยชี้ให้ชายหนุ่มจอดรถส่งเธอที่ป้ายรถเมล์ใกล้ๆมหาลัย
"ฉันขับไปส่งเธอข้างในได้นะ"
"ไม่ต้องค่ะเดี๋ยวคนอื่นเห็น" สาวเจ้าส่ายหัวไม่ยอมให้เป็นอย่างที่เขาว่าเพราะเธอไม่อยากให้ใครเห็นแม้แต่คนเดียวว่าเหนือเมฆมาส่งเธอแม้จะเป็นคนไม่รู้จักก็เถอะ
"อืม...เลิกเรียนแล้วไปหาฉันที่บ้านนี่คีย์การ์ดแล้วฉันจะส่งโลเคชั่นให้" ชายหนุ่มหงุดหงิดเล็กน้อยที่ดูหญิงสาวจะอายเหลือเกินว่ารู้จักกับเขามือหนายื่นคีย์การ์ดใส่กระเป๋าหญิงสาวพร้อมกำชับคำสั่งเสียงแข็ง
"แต่.. เอย"
"ไม่มีแต่" ชายหนุ่มส่ายหัวก่อนจะเหยียบเบรกจอดให้หญิงสาวลงในที่ที่เธออยากจะลง
17.00 น.
บริษัทxxx
"คุณแม่มาหาผมทำไมไม่โทรบอกก่อนล่ะครับ" เหนือเมฆหย่อนก้นนั่งที่โซฟาในห้องรับแขกของบริษัทตรงข้ามกับคนเป็นแม่ที่เข้ามาหาในช่วงหลังเลิกงาน
"โทรบอกเราก็ไม่อยู่รอแม่น่ะสิ..เย็นนี้ไปทานข้าวกับแม่หน่อยนะแม่นัดหนูพลอยเอาไว้ด้วย" วารุณีหญิงวัยกลางคนเอ่ยกับลูกชายด้วยรอยยิ้มอ่อนเธอรู้เรื่องจากพีรยาที่ลูกชายเธอไม่ค่อนจะสนใจว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอเท่าไรจึงต้องเป็นคนกลางทำให้ทั้งสองได้เจอกันบ้าง
"ผมไม่ไปครับ...คุณแม่คิดว่าคุณแม่มาหาผมที่นี่แล้วจะพาผมไปได้อย่างนั้นหรอกครับ" ใบหน้าคมมีสีหน้าที่ค่อนข้างเอือมระอาเพราะเขาเคยบอกกับแม่เขาไปแล้วว่าที่ยอมหมั้นเพราะเห็นว่าเป็นผลดีต่อธุรกิจเท่านั้นและไม่ได้อยากสานสัมพันธ์กับพีรยาจริงจัง"นี่ก็ห้าโมงแล้วได้เวลาเลิกงานพอดีผมขอตัวกลับนะครับ" ว่าจบก็ลุกหนีคนเป็นแม่อย่างไม่ค่อยจะมีมารยาททำให้วารุณีต้องเอ่ยคำสั่งเด็ดขาด"ถ้าเรายังไม่ค่อยใส่ใจหนูพลอยอีกแม่จะเร่งงานแต่งให้เร็วขึ้น""จะแต่งหรือไม่แต่งผมก็ไม่เคยสนใจเธออยู่ดีครับ" เหนือเมฆรู้ว่าแม่ของเขาไม่ได้แค่ขู่แต่เขาก็ยืนยันว่าอย่างไรเขาก็จะไม่มีวันสนใจพีรยาและเดินหนีแม่ของเขาไปอย่างรวดเร็ว"ตาเหนือ" วารุณีขมวดคิ้วจนผูกโบว์ที่ลูกชายของเธอได้ดั่งใจทุกอย่างแต่มีอย่างเดียวที่ไม่ได้อย่างใจเห็นก็แต่เรื่องผู้หญิงที่เธอเลือกให้นี่แหละทางด้านเจ้าเอยตอนนี้เธอก็เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่สุดหรูของชายหนุ่มแล้วใบหน้าหวานมองซ้ายมองขวาก็ค่อนข้างแปลกใจเพราะบ้านออกใหญ่โตแต่ไม่มีคนเฝ้าเสียอย่างนั้น"......" สาวเจ้านั่งจับมือถือชั่งใจว่าจะโทรหาชายหนุ่มแต่เธอก็ไม่กล้าเพราะกลัวว่าจะรบกวนเขาหากเขาให้เธอมาหา
ครู่ต่อมาพีรยาเดินออกจากลิฟท์มุ่งหน้ามาที่ห้องของเหนือเมฆสีหน้าระรื่นเพราะเป็นครั้งแรกที่เขาเชิญให้เธอมาที่นี่ติ้ดด แกร๊กก เมื่อมาถึงหน้าห้องของเขาได้เธอก็ใช้คีย์การ์ดที่เหนือเมฆฝากคนดูแลเอาไว้ให้แตะเปิดประตูเข้ามาโดยที่ไม่ได้เคาะก่อน"เหนือ..." ภาพตรงหน้าเมื่อหญิงสาวเปิดประตูเดินเข้ามาไม่กี่ก้าวทำให้เธอต้องหยุดชะงักเพราะไม่คิดว่าจะมาเจอสิ่งที่ทำให้เธอปวดหัวใจตอนนี้"พลอย..." ร่างบางเปลือยเปล่าที่กำลังนั่งคร่อมขย่มคนบนโซฟาหันหลังกลับมาดูผู้มาใหม่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกเพราะเธอไม่คิดว่าพีรยาจะเข้ามาในห้วงเวลาสวาทของเธอและเหนือเมฆ"ถ้ารอได้ก็รอ" เหนือเมฆรวบกอดวิเวียนไม่ให้ลงจากตัวของเขาก่อนจะเอ่ยกับพีรยาเสียงเรียบเรื่องวันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะวันนี้เขาจงใจให้พีรยาได้เห็นเผื่อเธอจะเลิกไล่ตามเขาเสียที"หึ่.." พีรยากำมือแน่นหายใจหอบถี่กัดฟันกรอดเธอพยายามไม่โวยวายก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว"คุณเหนือไม่ตกใจหรอกคะ" แม้นวิเวียนจะตกใจที่พีรยาเห็นเธอแต่ก็แอบสะใจที่วันนี้พีรยาได้รู้เสียทีว่าเธอมีสัมพันธ์กับเหนือเมฆด้วยเพราะแอบหมั่นไส้ในพฤติกรรมเย่อหยิ่งจองหองทำตัวเหนือคนอื่นของพีรยามานาน
“อ่อ..นี่เจอวิเวียนบ้างหรือเปล่าเธอไม่ได้มาทำงานหลายวันแล้วพี่ก็ติดต่อไม่ได้” ปกรณ์เห็นว่าไหนๆวันนี้เขาก็มาหาน้องสาวของเขาที่นี่แล้วก็ถือโอกาสถามเรื่องวิเวียนเสียเลยช่วงนี้งานของเขาก็ยุ่งเลขาก็ดันหายไปนานอีก“อ่อ..พลอยก็ติดต่อเธอไม่ได้เหมือนกันค่ะ..ถ้าเพื่อนพลอยหายไปนานขนาดนี้พี่กรหาเลขาคนใหม่เถอะค่ะ” พีรยารู้อยู่แก่ใจแล้วว่าวิเวียนหายไปและที่วิเวียนหายไปเป็นฝีมือของเธอเองโทษฐานที่หญิงสาวหักหลังเธอหลังจากวันที่วิเวียนเหยียบสนามบินที่ประเทศไทยเธอก็สั่งให้คนของเธอจัดการวิเวียนไม่ให้เหลือชื่อแล้ว“พี่ว่าก็ต้องเป็นแบบนั้น” ปกรณ์เห็นว่าเขาก็คงต้องหาคนมาเป็นเลขาใหม่ตามที่น้องของเขาบอกเพราะเขาก็ไม่อยากรับคนที่ไม่มีความรับผิดชอบมาทำงานอีกเหมือนกัน22.00 น.เจ้าเอยนอนพลิกซ้ายพลิกขวาในมือถือโทรศัพท์มองจ้องหวังว่าเหนือเมฆจะติดต่อมาหาเธอเพราะเขาขาดการติดต่อกับเธอไปหลายวันแล้ว“ทำไมต้องอยากให้เค้าโทรหาด้วยล่ะ” เมื่อคิดไปคิดมาเธอก็ต้องตำหนิตัวเองเพราะเริ่มที่จะใส่ใจอีกฝ่ายมากเกินไปทั้งที่สถานะของเธอเป็นแค่ของเล่นลับๆของเขาเท่านั้นวันต่อมาโรงพยาบาลXXX“เมื่อไรจะฟื้นซะทีคะพี่โอบ” วันนี้เป็นอีกวันที
“เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะฉันไม่ระวังเอง” เจ้าเอยรีบโบกไม้โบกมือปัดไม่ให้อีกฝ่ายรับผิดชอบอะไรเพราะเธอไม่ระวังเองต่างหาก“ไม่ครับยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบ” ชายหนุ่มยิ้มอ่อนยืนยันว่ายังไงเขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งยังอยากรู้จักสาวสวยหน้าหวานคนนี้มากกว่านี้อีกด้วยเพราะรู้สึกถูกชะตากับเธอตั้งแต่แรกเห็นชั่วโมงต่อมาและแล้วปกรณ์ก็จัดการพาหญิงสาวไปซื้อมือถือใหม่จนได้แถมเครื่องที่เขาซื้อให้หญิงสาวก็ราคาแพงหูฉี่จนเจ้าเอยเกรงใจอยู่ไม่น้อย“ขอบคุณมากเลยนะคะ” สาวเจ้านั่งคุยกับปกรณ์อยู่ที่ศาลาริมสระน้ำเธอเอ่ยขอบคุณเขาเป็นครั้งที่สิบเห็นจะได้“ยินดีครับ..แล้วคุณเอยมาที่นี่บ่อยหรอกครับ” ปกรณ์เอ็นดูสาวน้อยตรงหน้าเป็นพิเศษยิ่งอยู่ใกล้กับเธอนานเท่าไรเขาก็ยิ่งเห็นความน่ารักของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ“ไม่ค่อยบ่อยหรอกค่ะช่วงปิดเทอมนี่ก็พึ่งจะมาวันนี้ค่ะคุณกรล่ะคะ”“ผมก็นานๆจะมาทีครับวันนี้ก็นำปัจจัยมาถวายหลวงพ่อให้บูรณะศาลาใหม่”“ดูท่าคุณกรชอบทำบุญเหมือนกันนะคะ”“พอดีเมื่อก่อนที่คุณตาผมยังไม่เสียท่านชอบมาทำบุญที่วัดนี้แล้วก่อนท่านจะเสียก็ฝากฝังให้ผมช่วยเหลือวัดนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”“อ๋อ..อย่างนี้นี่เอง”เมื่อคุยกั
คอนโดXXXพีรยาดีใจเรื่องที่กำจัดวิเวียนไปได้ไม่นานเธอก็ต้องมานั่งหัวเสียกับเรื่องที่เธอพึ่งได้ข่าวจากคนในบริษัทของเหนือเมฆที่เธอจ้างอย่างลับๆเอาไว้รายงานความเคลื่อนไหว“อีกคนอย่างนั้นหรอก” ครั้งนี้เหนือเมฆดูจะหลงนักศึกษาปีหนึ่งหัวปักหัวปลำที่พาเธอไปอยู่ด้วยเป็นอาทิตย์แถมยังให้เงินใช้ไม่ขาดมือดูท่าว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ใช่ผู้หญิงชั่วคราวอย่างคนอื่นๆเสียแล้วคลับหรู22.00 น.“ได้ข่าวว่าแม่แกจะจัดงานแต่งให้เร็วๆนี้แกจะสละโสดจริงหรอก” แทนไทเห็นเพื่อนเข้ามาหาถึงที่ได้ก็เอ่ยถามเรื่องงานแต่งของเพื่อนเขาทันทีเพราะได้ยินข่าวจากญาติๆมาหลายวันแล้ว“ใครว่าฉันจะยอม..ถึงที่บ้านฉันบังคับให้ฉันแต่งได้ฉันก็ยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม” เหนือเมฆยกแก้วไวน์ราคาแพงดื่มอึกใหญ่ก่อนจะส่ายหัวด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย“แกไม่คิดจะสนใจคุณพลอยเธอบ้างหรอกวะ” แทนไทจำได้ว่าเคยถามเรื่องนี้กับเพื่อนของเขาครั้งที่หมั้นหมายกับพีรยาครั้งหนึ่งแล้ววันนี้เขาก็อยากจะถามย้ำอีกว่าเพื่อนของเขาไม่สนใจหญิงสาวจริงๆหรือไม่เพราะเขาเองก็เห็นว่าพีรยาออกจะสวยเพอเฟคเพียบพร้อมเหมาะสมกับเหนือเมฆทุกอย่าง“ไม่..แล้วนี่แดเนียลหายหัวไปไหน” เหนือเมฆตอบกลั
“แต่เครื่องนี้ก็ยังใช้ได้อยู่นี่คะ” สาวเจ้าบุ้ยปากเล็กน้อย“ฉันไม่ชอบให้เธอดื้อกับฉัน”“ก็ได้ค่ะ” จากคนที่อารมณ์ดีอยู่เมื่อครู่ตอนนี้กลับทำเสียงแข็งและทำหน้ายักษ์ใส่หญิงสาวจนเธอก้มหน้างุดลงกับอกแกร่งอย่างจำยอม“.....” ดวงตาคมเหลือบมองคนในอ้อมอกด้วยความพึงพอใจก่อนจะเปรยอิ้มอ่อนลงมาเล็กน้อยคิดในใจว่าหากเธอยังทำตัวว่าง่ายน่ารักอยู่แบบนี้ไม่รู้ว่าเขาจะหายจากอาการโหยหาเธอเมื่อไรไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าเขาจะสนใจใครมากเท่าเธอหลังจากที่นั่งเล่นกันที่ริมธารหลังบ้านพักใหญ่สาวเจ้าก็รบกลับเพราะต้องการที่จะมาทำอาหารเย็นเองหลังจากที่ปิดเทอมแล้วในเวลาที่เธออยู่ว่างๆก็จะกหัดทำอาหารจากยูทูปและสื่อต่างๆในอินเตอร์เน็ตลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เคยท้อเพราะอยากที่จะทำเป็นเพื่อตัวเองและเพื่อคนอื่นที่เธอจะต้องดูแลด้วย“นี่ค่ะ..” กับข้าวสามอย่างวางเรียงตรงหน้าของเหนือเมฆไม่ว่าจะเป็นไข่เจียวผัดผักและต้มข่าไก่ล้วนแล้วแต่หน้าตาน่าทานแต่เรื่องรสชาติก็ต้องฟังจากคนชิมอีกทีว่าเป็นอย่างไร“เอยลองหัดทำเพื่อคุณเหนือเลยนะคะ” สาวเจ้าว่าจบก็หย่อนก้นลงนั่งข้างชายหนุ่มยิ้มกริ่มไม่ยอมหุบ“เพื่อเอาใจฉันโดยเฉพาะเลยหรอก” เห
“ลูกสาวพี่โอบกับพี่อินไงคะตอนนี้ได้หกเดือนแล้วกำลังจ้ำม่ำเลยนะคะ”“อะไรนะ” สิ้นเสียงอ่อนของน้องสาวน้ำตาเจ้ากรรมในดวงตาคมก็รื้นออกมากะทันหันเย็นของวันหลังจากที่เจ้าเอยคุยกับอิทธิกรถึงความจริงที่ผ่านมาไม่นานนักอินทิราก็หอบลูกน้อยมาหาอิทธิกรที่โรงพยาบาลชายหนุ่มเห็นหน้าอินทิรากับลูกได้ก็โผเข้ากอดด้วยความรู้สึกผิด“ผมขอโทษ..” คำพูดของโทษของอิทธิกรกรออกมาจากปากของเขาไม่รู้กี่สิบครั้งตอนนี้เขานั่งอุ้มเจ้าก้อนกลมอยู่บนเตียงยิ่งมองตาแป๋วของลูกสาวตนที่ยังไร้เดียงสาความรู้สึกผิดก็จุกอกระบายออกเป็นน้ำตาลูกผู้ชายครั้งแล้วครั้งเล่า“ไม่ต้องขอโทษอะไรเราแล้วค่ะอินเข้าใจ...ต้องขอบคุณเอยนะคะที่ยอมพูดความจริงไม่อย่างนั้นอินกับลูกก็จะไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว” อินทิราจับมือหนาของอิทธิกรเอาไว้หลวมๆที่เห็นเขาร้องห่มร้องให้อยู่พักใหญ่ไม่ยอมหยุดสามวันต่อมาเพนท์เฮ้าส์เหนือเมฆพาน่านน้ำที่พึ่งออกจากโรงพยาบาลมาพักที่เพนท์เฮ้าส์เขาจ้างพยาบาลส่วนตัวมาดูแลน้องชายของเขาสองคนและหวังว่าพยาบาลทั้งสองจะปราบพยศน้องชายของเขาให้ทานข้าวทานยาให้ตรงเวลาได้“ทีนี้อยากจะซ่าไปแข่งรถอีกหรือเปล่า” เหนือเมฆยืนกอดอกมองน้องชายของเขา
"ถ้าไม่อยากอายคนอื่นก็ไปกับฉัน" ใบหน้าคมหันมามองร่างบางที่ยืนหน้าซีดอยู่ข้างตัวก่อนจะเอ่ยกับเธอเสียงแข็ง"เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ" เจ้าเอยคิดว่าหากเธออยู่ตรงนี้นานคงไม่ดีแน่จึงเอ่ยกับเพื่อนทั้งสองให้หยุดการกระทำและเดินตามเหนือเมฆไปที่รถแต่โดยดีทิ้งให้สองสาวยืนมองหน้ากันอย่างตกใจที่ดูท่าเหนือเมฆกับเพื่อนของพวกเธอดูจะสนิทกันมากกว่าคนรู้จักกันธรรมดา"นี่เอยไปสนิทกับคุณเหนือตั้งแต่เมื่อไร""นั่นสิ"ทางด้านเหนือเมฆเมื่อพาร่างบางขึ้นรถด้วยกันมาได้เขาก็เหยียบคันเร่งไม่ผ่อนด้วยความโมโหตรงดิ่งไปที่บ้านอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะคุยกับเจ้าเอยให้รู้เรื่องว่าที่จู่ๆเธอดันมาหลบหน้าเขาเป็นเพราะอะไร"พี่เธอหายดีแล้วคิดจะชิ่งหนีฉันหรือไง" เหนือเมฆจอดรถได้ก็ตวาดใส่หญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆสะดุ้งเฮือกแต่เธอก็ยังไม่ยอมปริปากพูดจาอะไร"จะเงียบอีกนานไหม" ยิ่งเห็นอีกฝ่ายเอาแต่เงียบเขาก็ยิ่งโมโห"ถ้าคุณเหนือจะแต่งงานก็เลิกยุ่งกับเอยเถอะค่ะ" เจ้าเอยยอมปริปากพูดเสียงอ่อนเพราะเธอไม่อยากให้เขามายุ่งอะไรกับเธออีกแม้นก่อนหน้าจะรับปากยอมเป็นของเล่นเขาเองก็เถอะหากเขาและเธอยังไม่เลิกเจอกันก็รั้นแต่จะทำให้ใจของเธอเจ็บปวดไม