"พี่มาที่นี่จะมาหาพ่อเลี้ยงจะหาผู้ช่วยไปฉีดวัคซีนให้วัวไม่รู้ว่าไม่อยู่..แล้วที่อยู่ที่นี่พี่แค่เบื่อชีวิตในเมืองเบื่อการปั้นหน้าออกงานสังคมเราก็พอจะรู้ไม่ใช่เหรอว่าส่วนมากก็มีแต่ปลอมๆทั้งนั้น"
สายน้ำสัตวแพทย์หนุ่มรูปหล่อปานนายแบบเขาแก่กว่าวันหนึ่งประมาณสี่ห้าปีเป็นลูกชายคนเดียวของพิศิษฐ์และวันรวีน้าสาวและน้าเขยของวันหนึ่งเจ้าของกิจการนำเข้าเครื่องมือแพทย์เจ้าใหญ่ ที่เขาเลือกมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อันที่จริงแล้วก็เพราะอกหักช้ำรักจากผู้หญิงไม่จริงใจมาหลายหนทุกคนเข้าหาเขาก็เพราะหน้าตาชาติตระกูลเท่านั้น อีกอย่างที่เลือกที่จะปักหลักอยู่แถวนี้เพราะรู้สึกถูกชะตากับใครบางคน
"ก็จริง"
"แล้วมาเป็นแม่บ้านให้พ่อเลี้ยงแบบนี้เค้ารู้หรือเปล่าว่าเราเป็นลูกใคร"
สายน้ำคิดว่าไม่ใช่เขาคนเดียวหรอกที่ใช้ชีวิตที่นี่อย่างที่ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริง
"มีแค่คุณย่าของหนึ่งพี่อุ่นกับป้าไรที่รู้ค่ะแล้วพี่สายก็ห้ามบอกใครด้วยเรื่องนี้...แลกกับการที่หนึ่งจะไม่บอกกับน้าวีว่าพี่สายอยู่ที่นี่"
"ยัยตัวแสบ...”
สายน้ำเปรยยิ้มแกมเอ็นดูยัยน้องสาวตัวแสบที่ชอบหาเรื่องเล่นซนไม่เลิก
“โอเคพี่รับปากแต่พี่ขอคำอธิบายหน่อยเถอะว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร"
"พิชิตใจพ่อเลี้ยงค่ะ"
"หืม.." คำตอบด้วยวาจาฉะฉานที่ออกมาจากน้องสาวตัวล็กทำสายน้ำเริ่มมีสีหน้าแววตาที่ตกตะลึงอยู่พอสมควร
"เรื่องมันยาวน่ะค่ะเอาเป็นว่าพี่สายรู้แค่นี้ก็พอ..ถ้าถามอะไรจนหนึ่งไม่อยากตอบเดี๋ยวต่อสายหาน้าวีเลยนะ"
"โอเคๆ...วันนี้ว่างหรือเปล่าไปเป็นลูกมือพี่หน่อย"
"ได้ค่ะน่าสนุกดีเหมือนกัน"
เมื่อตกลงกันได้คนตัวเล็กก็กระโดดนั่งรถATVของสัตว์แพทย์หนุ่มด้วยท่าทีอารมณ์ดีที่วันนี้จะได้เปิดประสปการณ์ใหม่ๆคิดแล้วก็สนุกตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม
หมอหนุ่มพาวันหนึ่งขับรถมาได้ไม่นานนักก็มาถึงคอกวัวใหญ่ที่ตอนนี้หน้าคอกวัวมีเอื้องฟ้านั่งเท้าคางหน้าบึ้งตึงรออยู่ก่อนแล้ว
"หมอทำไมมาช้าจังล่ะคะพ่อบอกฉันว่าหมอจะมาแต่เช้าให้มารอเป็นลูกมือ"
สาวเจ้าเมื่อเห็นหมอหนุ่มมาพร้อมแม่ครัวที่เธอไม่ถูกชะตาก็รีบจ้ำอ้าวมาบ่นอุกต่อหน้าหมอหนุ่มเสียงแข็ง เธอก็อุตส่าห์มาตามคำสั่งของคนเป็นพ่อแต่เช้าตรู่ว่าหมอสายน้ำจะมาฉีดวัคซีนวัวที่ไร่แต่เช้าให้เธอมาเป็นลูกมือเพราะพ่อเลี้ยงไม่อยู่แต่ที่ไหนได้หมอหนุ่มกลับมาไม่ตรงตามเวลาเสียอย่างนั้น
"ขอโทษทีครับพอดีผมคิดว่าพ่อเลี้ยงอยู่บ้านเลยไปหาพ่อเลี้ยงที่บ้านก่อน"
สายน้ำเอ่ยขอโทษหญิงสาวหน้าสวยที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอปกคลุมไปด้วยความบึ้งตึงเขาไม่คิดว่าจะมีใครมารอที่นี่เพราะไม่มีใครโทรบอกอีกอย่างสามสี่วันมานี้เขาก็ยังติดต่อพ่อเลี้ยงน่านน้ำไม่ได้อีก
"แล้วพาวันหนึ่งมาทำไม"
ดวงตาคู่สวยของเอื้องฟ้าเปรยไปยังคนตัวเล็กที่ยืนอยู่หลังหมอหนุ่มด้วยความสงสัย
"คิดว่าไม่มีลูกมือเลยให้เธอมาช่วยครับ"
"พ่อเลี้ยงไม่ได้บอกหมอหรือไงว่าเค้าหาคนอื่นมาช่วยแล้ว"
"เปล่าครับโทรติดต่อพ่อเลี้ยงก็ไม่ได้"
"ตกลงจะให้ฉันหรือวันหนึ่งช่วย"
"มาแล้วก็ช่วยกันนี่แหละครับ..เดี๋ยวหนึ่งมาช่วยพี่เตรียมยาตรงนี้"
วันหนึ่งรีบยกกระเป๋าของสายน้ำลงจากท้ายรถและรีบเดินตรงไปในคอกวัวรู้สึกเสียอารมณ์พอสมควรที่มาเจอเอื้องฟ้าที่นี่เพราะรู้ตัวว่าจะต้องได้ยินคำพูดไม่เข้าหูจากปากเอื้องฟ้าแน่นอน
"คุณเอื้องช่วยให้อาหารวัวเลยครับเดี๋ยวผมจะไล่ฉีดตั้งแถวหน้านี้ก่อน"
"ค่ะ"
เมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่เอื้องฟ้าก็เดินสาวเท้าไปจัดเตรียมอาหารให้วัวทั้งในใจยังคิดถึงเรื่องสรรพนามที่หมอหนุ่มใช้แทนตัวเองกับวันหนึ่ง
"พี่.. ไปสนิทกันตั้งแต่ตอนไหน"
เธอเข้าใจว่าทั้งสองพึ่งจะเจอกันทำไมดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษเมื่อความสงสัยคาอยู่ในใจตลอดเธอจึงคอยที่จะจับตาดูสองคนนี้แทบจะตลอดเวลา
"เจ้าวัวน้อยน่ารักจังเลย"
หลังจากใช้เวลาพักใหญ่ๆการฉีดวัคซีนให้วัวทั้งคอกก็เสร็จสิ้นวันหนึ่งก็ได้เดินมาดูคอกวัวที่แยกลูกวัวเอาไว้เจ้าวัวตัวสีขาวหม่นดูอ่อนต่อโลกจ้องมองคนที่กำลังจ้องตัวเองตาแป๋วพฤติกรรมไร้เดียงสาของสัตว์ตัวเล็กกว่าเหล่าพี่ๆในคอกทำวันหนึ่งเอ็นดูเจ้าวัวน้อยนี้เป็นพิเศษ
"พึ่งคลอดได้สองวันเอง"
สายน้ำเท้าแขนทั้งสองกับรั้วคอกวัวมองเจ้าวัวตัวเล็กด้วยรอยยิ้มอ่อนที่เขารู้ว่าเจ้าตัวนี้พึ่งคลอดก็เพราะเป็นคนทำคลอดเองคราแรกคิดว่าจะไม่รอดทั้งแม่ทั้งลูกเสียแล้วแต่ดีที่เขาช่วยทำคลอดสำเร็จจนได้
"เหรอคะ...แล้วมันมีชื่อหรือยัง"
"ยัง"
"ตัวผู้หรือตัวเมียคะ"
"ตัวผู้"
"อืม..ให้ชื่อเจ้าแซมค่ะ"
วันหนึ่งเลือกที่จะตั้งชื่อให้กับเจ้าวัวที่พึ่งคลอดเหมือนกับนักร้องชื่อดังที่เธอชื่นชอบ
"โอเค..เดี๋ยวพี่จะเขียนชื่อบนบอร์ดไว้ให้"
"ชื่อไม่ซ้ำกับตัวอื่นใช่ไหมคะ"
คนตัวเล็กมองตามหลังคนที่กำลังเดินไปเขียนชื่อบนกระดานไวท์บอร์ดใหญ่ที่อยู่กลางคอกวัวก่อนจะตะโกนถามหมอหนุ่มที่กำลังจับปากกาบรรจงลงชื่อลูกวัวน้อย
"ไม่"
สายน้ำหันมาส่ายหัวเพราะบนบอร์ดไม่มีวัวตัวไหนชื่อนี้
"ไม่ซ้ำหรอกถึงซ้ำก็ไม่เป็นไรหรอกเพราะเดี๋ยวตัวที่เกิดก่อนก็ต้องเข้าโรงเชือดอยู่ดี"
เอื้องฟ้าที่ได้ฟังสองหนุ่มสาวพูดคุยกันอยู่นานสองนานจึงได้แทรกขึ้นบอกกับวันหนึ่งทำหญิงสาวที่กำบลังอารมณ์ดีเริ่มเปลี่ยนสีหน้าเป็นบึ้งตึง
"หืม..ทำไมล่ะ"
"ก็นี่วัวเนื้อเค้าเลื้ยงไว้ขายเข้าโรงเชือดอยู่แล้วอย่าไปใส่ใจกับความน่ารักมันมากเลย..ถ้าเธอรักเอ็นดูมันพอเค้าเอาไปขายก็มานั่งร้องให้ขี้มูกโป่ง"
"พูดยังกับพี่เอื้องเคยเป็นมาแล้ว"
"ฉันแค่เตือนอย่ายอกย้อน"
เอื้องฟ้าว่าจบก็เดินออกไปนอกคอกวัวตรงดิ่งไปที่จักรยานของเธอก่อนจะปั่นกลับออกไปหลังจากเสร็จงาน โดยที่สาวเจ้าไม่รู้เลยว่ากำลังมีหมอหนุ่มยืนมองเธอด้วยรอยยิ้มไปจนสุดลูกหูลูกตา
"โห..น่าสงสารจัง..”
วันหนึ่งมองดูวัวทั้งคอกด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวและหันกลับมามองที่พี่ชายเธอคิ้วขมวดที่ทั้งที่เรื่องที่เอื้องฟ้าพูดมันน่าเศร้าแต่พี่เธอก็ยืนยิ้มอยู่ได้
“พี่หมอยิ้มอะไรคะ"
"เปล่า..แค่คิดว่าสิ่งที่เอื้องฟ้าพูดก็ถูกเธอตรงไปตรงมาดีนะว่าไหม"
"ตรงเกิ๊นนน"
วันหนึ่งพอจะดูออกตั้งแต่วันแรกที่เจอว่าเอื้องฟ้าเป็นคนตรงไปตรงมาแต่รู้สึกว่าคำพูดที่ตรงไปตรงมาของหญิงสาวบางคำก็ดูขัดหูอยู่พอสมควรจนแยกไม่ค่อยออกว่ากำลังพูดปกติหรือกะแนะกะแหนกันแน่
"ในสังคมของเราหากยากเหมือนกันนะคนแบบนี้"หมอหนุ่มยังคงพูดถึงเอื้องฟ้าโดยที่สีหน้ายังคงมีรอยยิ้มไม่หุบ"ชื่นชมเหรอคะ.. เอ... หรือว่าพี่สายปลื้มพี่เอื้องฟ้า"หญิงสาวเริ่มวาดแขนกอดอกเอียงหน้าเงยมองพี่ชายเธอด้วยสายตามีเลศนัยเพราะดูรอยยิ้มของพี่ชายและสายตาที่มองตามคนที่ปั่นจักรยานออกไปด้วยความหยาดเยิ้มมันดูแปลกๆ"พี่ไม่เคยเจอคนตรงไปตรงมาแบบนี้มาก่อนเลยชอบก็พูดตรงๆไม่ชอบก็พูดตรงๆ.. คำบางคำอาจจะขัดหูคนอื่นไปบ้างแต่พี่ก็ชอบที่เธอตรงไปตรงมากับความคิดของตัวเอง... ไม่เหมือนพวกคนที่พี่เคยเจอเสแสร้งแกล้งปั้นคำกันทั้งนั้น"คำถามของวันหนึ่งทำหมอหนุ่มหลบสายตาด้วยความเขินอายเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะพูดยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเขารู้สึกถูกชะตากับเอื้องฟ้าพอสมควรแม้นจะรู้มาว่าคนแทบทั้งไร่จะไม่ค่อยชอบนิสัยของเธอก็เถอะ และคำตอบของหมอหนุ่มก็ทำวันหนึ่งเริ่มคิดอะไรออกเธอไม่ต้องไปเสียเงินจ้างใครที่ไหนให้มาจีบเอื้องฟ้าแล้วเพราะมีพี่ชายเธอเป็นตัวช่วยอยู่ตรงนี้ทั้งคน"ชอบก็จีบเลยสิคะ""แน่ะ...จะหาไม้กันหมาสินะ"มือหนายกยีหัวทุยน้องสาวตัวเล็กเล่นเบาๆด้วยดูออกว่ายัยตัวแสบนั้นคิดอะไรอยู่"พี่รู้ว่าเอื้องฟ้าช
หลังจากพ่อเลี้ยงหนุ่มออกจากบ้านไปได้วันหนึ่งก็รีบทำงานบ้านให้เสร็จก่อนจะมาหาวิธีเจ็บตัว ใช่วิธีเจ็บตัวเมื่อตอนฝึกปั่นจักรยานเพราะเธอต้องการให้น่านน้ำนั้นดูแลเธออย่างใกล้ชิด"...อืม..ลงท่าไหนถึงจะดูสวยนะ"ตั้งแต่เที่ยงจนจะเข้าบ่ายวันหนึ่งก็ยังคงจับจ้องเจ้าจักรยานแม่บ้านหัดขึ้นขี่และฝึกท่าล้มลงพื้นไม่ลดละเพราะต้องการหาวิธีล้มให้เธอดูดีที่สุดในสายตาของน่านน้ำ หลังจากล้มเธอก็จะแกล้งข้อเท้าเคล็ดเดินไม่ได้แล้วคนที่ถือเนื้อถือตัวอย่างพ่อเลี้ยงหนุ่มก็ต้องอุ้มเธอจนได้เวลานั้นแหละเธอจะทำตัวใกล้ชิดเขามากที่สุดเท่าที่จะทำได้พอบ่ายคล้อยน่านน้ำก็กลับมาสอนวันหนึ่งปั่นจักรยานตามนัดเขาสอนหญิงสาวที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านอยู่พักใหญ่จนเธอนั้นเริ่มที่จะปั่นไปข้างหน้าเองได้แล้ว"เดี๋ยวหนึ่งลองปั่นไปตรงนั้นแล้ววนกลับมานะคะ"วันหนึ่งอยากจะลองปั่นเองโดยที่ไม่ต้องมีน่านน้ำคอยประคองเพราะเธอจะได้ล้มลงและแกล้งเจ็บตัวอย่างที่ชายหนุ่มไม่สงสัยอะไร"อืม.. ผมจะไม่เดินตามแล้ว..จะรออยู่ตรงนี้""ค่ะ"วันหนึ่งเริ่มปั่นทั้งที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่มั่นใจเท่าไรแต่เพราะอยากจะทำตามสิ่งที่คิดเอาไว้แล้วจึงขอน่านน้ำปั่นจักรยานแม่บ้า
"สายตาพ่อเลี้ยงมันฟ้องค่ะว่ากำลังมีเรื่องไม่สบายใจ"ดวงตากลมโตเริ่มจับจ้องไปยังใบหน้าหล่อจนน่านน้ำต้องหลบสายตาก่อนจะใช้มือหนาปัดใบหน้าจิ้มลิ้มให้เลิกมองจ้องเขาอย่างเบามือ"ทำเป็นรู้ดี""ยิ้มเข้าไว้สิคะ..พ่อเลี้ยงของหนึ่งเก่งอยู่แล้ว"มือเรียวทั้งสองยกจับแก้มพ่อเลี้ยงหนุ่มเล่นเบาๆทั้งฉีกยิ้มกว้างหมายจะนำร่องให้เขานั้นยิ้มตาม พฤติกรรมเช่นนี้ไม่เคยมีใครเคยทำกับน่านน้ำแม้นจะเป็นกวินตราและไม่คิดว่าจะมีใครทำด้วยแต่ก็ทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มรู้สึกดีไม่น้อยจนยิ้มกว้างออกมาได้อย่างเช่นที่วันหนึ่งอยากให้เป็น"คุณนี่ก็เล่นเป็นเด็กไปได้""นั่นไงยิ้มหล่อแล้วหายเครียดแล้วใช่ไหมคะ"ริมฝีปากหนายิ้มกว้างได้วันหนึ่งก็ละมือจากพวงแก้มสากเปลี่ยนเป็นยืนเกาะแขนแกร่งของน่านน้ำแทน และครั้งนี้คนที่จะถือเนื้อถือตัวกลับไม่ปฏิเสธที่สาวเจ้าจะยืนเกาะแขนของเขาไว้เพราะรู้สึกดีกับทุกการกระทำของคนตัวเล็กไปหมดเสียทุกอย่าง อย่างที่ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่รู้สึกรำคาญเธอแม้แต่น้อย"ขอบคุณนะ..อ่อ..เรื่องที่จะเรียนต่อคุณอยากจะเรียนเมื่อไรล่ะเห็นว่าอาทิตย์หน้าเค้าก็จะเปิดรับสมัครแล้ว""เดี๋ยวหนึ่งให้พี่อุ่นพาไปสมัครค่ะ"
"นี่..ถึงฉันจะไม่ชอบที่เธอตัวติดกับพ่อเลี้ยงแต่ฉันก็มีความคิดมากพอจะขอบคุณคนที่ช่วยเหลือฉัน..จะกินหรือเปล่าไม่กินก็ไม่ว่าจะได้เอากลับ"เอื้องฟ้าทำท่าจะคว้าแก้วที่ยื่นให้วันหนึ่งคืนแต่หญิงมีหรือคนที่ได้ของแล้วจะยอมคืนให้"ให้แล้วให้เลย...ทำเป็นน้อยใจไปได้""ก็ทำเป็นพูดจาหักหารน้ำใจกันเองนี่...อ่อนี่แกงเขียวหวานแม่ฉันเห็นเธอชอบเลยฝากมาให้"ว่าจบก็เลือนปิ่นโตที่ถือมาไว้ตรงหน้าของวันหนึ่ง"ฝากขอบคุณป้าสร้อยด้วยนะคะ""อืม..""แล้วพี่เอื้องล่ะไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมเมื่อวานกลับมาก็มืดค่ำไม่ได้ถามอะไรกันเลย"เมื่อวานเธอมัวตกใจและโมโหกับเรื่องที่มนัสทำและกว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ดึกแล้วเลยไม่ได้มีเวลาคุยกับเอื้องฟ้ามากนัก"ไม่...เอ่อ..ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงช่วยฉัน""ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรหรอกแค่ไม่อยากเห็นใครถูกทำร้าย""ตัวเล็กเท่าลูกหมาทำเก่ง"วันหนึ่งอ้าปากค้างกับคำพูดของเอื้องฟ้าเธอเข้าใจว่าหญิงสาวคงจะห่วงเธอแต่ก็น่าจะใช้คำพูดให้มันดีกว่านี้จะได้ฟังอย่างรื่นหูหน่อย"อ้าว...ฉันช่วยพี่นะพูดให้ดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง""ทีหลังก็หัดห่วงตัวเองก่อน""ได้ทีหลังหนึ่งจะมองดูพี่ถูกรุมกระทืบก่อน""ปากคอนะ""ฮ่าๆ
"ฉันว่าคนที่จะมาป่วนไร่ฉันคงไม่มีใครหรอกนอกจากทรงพล"เสียงของน่านน้ำที่ดังมาจากในห้องทำงานทำให้วันหนึ่งชะงักฝีเท้าที่จะเดินเอาของว่างไปให้เขาเพราะอยากรู้ว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นรู้อะไรมา"หลักฐานที่แกได้มาตอนนี้มันทำให้ฉันมั่นใจแล้วว่าเสี่ยทรงยศเป็นทำให้ปู่ฉันตาย..ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครจนกว่าจะมีหลักฐานมัดแน่น"น่านน้ำรู้สึกคับแค้นใจพอสมควรกับเรื่องที่พึ่งได้รับรู้จากเพื่อนของเขาที่เป็นตำรวจลับว่าหลักฐานทุกอย่างที่มีตอนนี้มีความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ว่าคนที่ทำให้ปู่ของเขาตายคือเสี่ยทรงยศ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินที่ปู่ของเขาไปประสปอุบัติเหตุก็เป็นที่ดินของทรงยศที่ซื้อก่อนหน้าที่ปู่ของเขาจะเสียไปไม่เท่าไรหนำซ้ำยังใช้ชื่อคนอื่นเป็นเจ้าของเพื่อปกปิด และสมานคนสนิทของปู่เขาที่อ้างว่าป่วยจนต้องขอลาออกจากไร่ก็มีประวัติว่าเคยรับเงินของทรงยศแถมวันที่ปู่ของเขาต้องขับรถออกไปข้างนอกกลางดึกจนเกิดอุบัติเหตุก็เพราะสมานคนสนิทของปู่เขาโทรมาบอกว่าตัวเองไม่สบายไม่มีใครพาไปโรงพยาบาลอีก หากเพื่อนของเขาที่เป็นตำรวจลับตามตัวสมานได้ก็คงจะได้เค้นความจริงและถ้าความจริงคือทุกอย่างคือการจัดฉากที่มีทรงยศอยู่เบื้องหลังคร
รถตู้สีดำใช้เวลาไม่นานนักก็ขับมาถึงท้ายไร่ของเสี่ยทรงยศสองสาวถูกลากตัวเข้ามาในโรงเก็บฟางโรงใหญ่โดยมีหมอกและสิงห์คอยคุมตัวอยู่ไม่ห่าง"จับพวกฉันมาทำไมห้ะไอ้พวกอันธพาลฉันจำแกได้นะว่าเป็นใครฉันจะแจ้งตำรวจจับแก"วันหนึ่งเอ่ยเสียงแข็งอย่างไม่พอใจที่คนพวกนี้ไม่เป็นสุภาพบุรุษไม่พอยังจะคิดทำชั่วทำเลวโดยการฉุดผู้หญิงมาอีก"ปล่อยฉันไปนะถ้าเรื่องนี้ถึงหูพ่อเลี้ยงว่าพวกแกทำร้ายคนในไร่เค้าโดนดีแน่"เอื้องฟ้าตะคอกใส่หน้าหมอกกับสิงห์ยังไม่ทันขาดคำเธอกับวันหนึ่งก็ต้องถอยกรูเมื่อนักเลงทั้งสองจ่อปากกระบอกปืนมายังพวกเธอ“ถ้ายังไม่เงียบปากเจ็บตัวแน่”เป็นหมอกที่เอ่ยขู่สาวทั้งสองเสียงแข็งเพราะเขารำคาญเสียงพวกเธอโวยวายตั้งแต่ในรถไม่ยอมหยุดจนมาถึงที่นี่"พวกแกพาใครมาด้วยวะ"ทรงพลมองไปยังผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวที่ยืนอยู่ข้างตัวเอื้องฟ้าด้วยสายตาไม่พอใจเพราะเขาสั่งคนสนิททั้งสองให้พาตัวเอื้องฟ้ามาแค่คนเดียว"นังนี่เป็นคนของพ่อเลี้ยงน่านดันเข้ามายุ่งก็เลยรวบมาเลยครับนาย"สิงห์เอ่ยกับคนเป็นนายที่ต้องทำนอกเหนือคำสั่งก็เพราะกลัวว่าหาปล่อยคนที่เห็นเหตุการณ์ไปไม่วายเรื่องถึงหูตำรวจเร็วแน่"พวกแกจะเอายัยนี่ไปทำอะไรก็เชิ
ปั้งๆ"อ๊า..ยย.. "วันหนึ่งที่วิ่งไปวิ่งมาก็เหมือนจะวนอยู่ที่เดิมแถมหมอกกับสิงห์ยังตามอยู่ไม่ห่างตอนนี้ความกลัวตายเคลือบคลานเข้ามาในหัวใจของหญิงสาวพอสมควรจากไม่ค่อยกลัวเสียงปืนเพราะเคยฝึกซ้อมยิงปืนมาบอยตอนนี้กลับตกใจส่งเสียงกรีดร้องจนต้องรีบใช้มือทั้งสองปิดปากตัวเองเอาไว้ขณะที่ขาทั้งสองก็สับเท้าวิ่งไปตามทางที่พอจะไปได้"เสียงปืน.."น่านน้ำเหยียบเบรกกะทันหันก่อนที่จถึงปากทางเข้าไร่ของทรงยศเขาพอจะฟังทิศทางออกว่ามันอยู่ทางด้านหลังจึงรีบหันหัวรถเลี้ยวกลับไปทันที"หนึ่ง.."แสงไฟของรถกระบะส่องไปเห็นหญิงสาวตัวเล็กที่เขาจำได้ดีว่าคือวันหนึ่งจึงรีบเหยียบคันเร่งเข้าไปประชิดตัวของเธอ"พ่อเลี้ยง.."สาวเจ้าแทบจะน้ำตาไหลรู้สึกโล่งใจเป็นปลิดทิ้งที่ได้เห็นหน้าของน่านน้ำเธอไม่รีรอที่จะเปิดประตูขึ้นรถหลังจากนั้นน่านน้ำก็รีบเหยียบคันเร่งหนีออกไปจากตรงนี้ทันทีโดยที่ยังคงมีกระสุนปืนยิงมาที่รถอยู่เรื่อยๆปั้งๆ"โถ่โว้ย..ไอ้สิงห์มึงรีบไปขับรถมามันไปได้ไม่ไกลหรอกโว้ย"หมอกสบถอย่างหัวเสียเมื่อตามวันหนึ่งไม่ทันจนเธอนั้นหนีไปได้เขาจำได้ดีว่ารถกระบะคันโตเป็นของน่านน้ำและรู้ว่าเอื้องฟ้าคงหนีไปได้และคาบข่าวไปบอกน่
ไออุ่นที่ตามหาวันหนึ่งทั้งงานก็ไม่เจอซ้ำยังเห็นถุงอาหารที่หญิงสาวซื้อหล่นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากรถมอเตอร์ไซต์จึงรู้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีแล้วสิ่งที่เธอสังหรณ์ใจมันเป็นเช่นนั่นจริงๆเมื่อเอื้องฟ้าโทรบอกกับเธอว่าวันหนึ่งถูกจับตัวไป"หลานฉันจะเป็นยังไงบ้างนะ"นฤดีแทบลมจับเมื่อได้รับรู้ข่าวจากไออุ่น"ใจเย็นๆค่ะคุณท่านทั้งพ่อเลี้ยงทั้งตำรวจกำลังไปช่วยยังไงคุณหนูก็จะต้องปลอดภัยค่ะ"อุไรประคองหญิงชราเอาไว้ขณะที่ไออุ่นยังคงจ่อยาดมไม่ห่างจากจมูกของนฤดี อุไรเชื่อว่าย่างไรวันหนึ่งก็ต้องปลอดภัยเพราะน่านน้ำไม่ยอมปล่อยให้คนในปกครองของตัวเองเป็นอันตรายอะไรไปแน่"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกันแล้วตำรวจก็เชื่อไอ้พวกตอแหลพวกนั้นน่ะเหรอ..พ่อเลี้ยงกับหนึ่งจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"เอื้องฟ้าโมโหจนเสียงสั่นที่ทรงพลปฏิเสธข้อกล่าวหาไม่พอตำรวจยังไม่พบน่านน้ำและวันหนึ่งอีกกลับพบเพียงแค่รถของน่านน้ำที่มีแต่รอยลูกกระสุนปืนเท่านั้นแต่พวกของทรงยศก็ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นอีก"ใจเย็นๆครับยังไงเราก็ไม่มีหลักฐานไปพูดปากเปล่าแบบนั้นตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี"“จริงอย่างที่หมอว่า”คำอ้ายเห็นด้วยกับสิ่งที่สายน้ำพูดเพราะตอนนี้เท่ากับทางเราไป