Share

บทที่27 ฝากตัวเป็นหลานเขย

"คุณมาเจ็บตัวอยู่ที่นี่ย่าคุณคงจะห่วงมากกลับไปผมต้องไปขอโทษย่าคุณด้วยตัวเอง"

"หนึ่งฝากพี่อุ่นบอกย่าแล้วค่ะว่าไม่ต้องห่วงหนึ่งมีพ่อเลี้ยงดูแลอย่างดีค่ะ"

"ยังไงผมก็ต้องไปขอโทษท่านอยู่ดี"

"ไปฝากตัวเป็นหลานเขยด้วยเลยสิคะ"

ใบหน้าจิ้มลิ้มเอียงเงยหน้ามายิ้มทะเล้นหยอกเอิญเล่นกับคนตัวโต

"คุณนี่ก็ทะเล้นไม่เลิกจริงๆ"

"ก็พูดจริงนี่คะ..หนึ่งอยากเก็บหิ่งห้อยพวกนี้ไปไว้ที่ไร่เราจังเลยค่ะ"

"ใครว่าที่ไร่เราไม่มีล่ะ"

ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ยิ้มทะเล้นคราแรกเริ่มมีสีหน้าและแววตาแปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นที่ไม่ยักรู้ว่าที่ไร่เพชรพนาจะมีหิ่งห้อยเพราะเธอออกมาดูดาวแทบทุกคืนไม่เคยจะเห็น

"เหรอคะ..หนึ่งออกมาดูดาวออกจะบ่อยไม่เคยเห็น"

"ถ้าออกไปจากที่นี่ผมจะพาคุณไปที่บ้านเล็กท้ายไร่ที่นั่นติดกับแนวเขาธรรมชาติสมบูรณ์มากมีหิ่งห้อยให้เห็นตลอดเลย"

"สัญญาแล้วนะคะว่าจะพาหนึ่งไป"

"อืม.."

"เอ..เคยพาสาวๆคนไหนไปที่นั่นหรือเปล่าคะ"

"ไม่เคย.."

"ดีใจจังที่หนึ่งจะได้ไปที่นั่นคนแรก"

ฟึ่บ .. สาวเจ้าว่าจบก็เลื่อนตัวลงนอนตักของน่านน้ำ

"เมื่อยค่ะขอนอนหน่อยนะคะ"

คนตัวโตเอาแต่นั่งยิ้มมองไปยังหิ่งห้อยหลายพันตัวที่ส่องแสงสว่างไปทั่วต้นไม้ใหญ่หน้ากระท่อมนานแล้วเหมือนกันที่เขาไม่ได้รู้สึกหัวใจกระชุ่มกระชวยเช่นนี้ไม่เคยคิดว่าคนที่รักความเป็นส่วนตัวอย่างเขาจะมาชอบคนที่จุ้นจ้านไปเสียทุกเรื่องแบบวันหนึ่งได้เหมือนกันแต่มันก็เป็นไปแล้วและรู้สึกดีกับเธอในเวลาอันรวดเร็วด้วย

"ยัยตัวแสบ"

น่านน้ำนั่งมองหิ่งห้อยและท้องฟ้ายามค่ำคืนพักใหญ่เมื่อรู้สึกว่าเสียงของหญิงสาวเริ่มเงียบไปเขาจึงก้มลงมาดูและสบถขำเล็กน้อยที่คนส่งเสียงเจื้อยแจ้วหาเรื่องคุยกับเขาคราแรกหมดฤทธิ์หลับไปจนได้ เมือเห็นเช่นนั้นจึงรีบรวบอุ้มคนตัวเล็กเข้าไปนอนด้านในและรีบปูฟูกนอนของตัวเองไม่ห่างจากที่นอนของหญิงสาวมากนักหลายคืนแล้วที่เขานอนเฝ้าเธอแบบนี้ไม่ได้คิดว่าการดูแลเธอเป็นหน้าที่แต่ทำเพราะความเต็มใจ

"น้ำพริกผักต้มที่นี่อร๊อยอร่อยค่ะ"

เช้าวันนี้วันหนึ่งตื่นมาด้วยท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษแม้อาหารตรงหน้าจะไม่ได้เลิศหรูอะไรแต่ก็ทำให้เธอยิ้มได้เมื่อได้ตักอาหารพวกนี้เข้าปาก

"พึ่งรู้ว่าคุณชอบน้ำพริกผักต้ม"

"ได้นั่งทานข้าวพร้อมพ่อเลี้ยงอะไรก็อร่อยทุกอย่างนั่นแหละค่ะ"

สาวเจ้าว่าด้วยสีหน้าระรื่นส่งยิ้มหวานให้พ่อเลี้ยงหนุ่มไม่ลดละจนคนตัวโตอดที่จะหยิบอะไรบางอย่างทำท่าป้อนเธอไม่ได้

"พริกไหม"

"ไม่ค่า.. อย่าแกล้งกันสิคะ"

ใบหน้าจิ้มลิ้มส่ายหงึกหงักที่ถูกคนตัวโตหยอกเล่น

"หนึ่งอยากให้พ่อเลี้ยงแบกหนึ่งเดินเล่นแบบนี้ทุกวันเลยแต่ถ้ากลับไร่แล้วคงไม่ได้ใช่ไหมคะ"

หลังจากทานมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้วเป็นอีกวันที่วันหนึ่งอ้อนให้น่านน้ำไปนั่งเล่นที่ธารน้ำตกด้วยกันจนน่านน้ำต้องทำตัวบริการแบกคนตัวเล็กมานั่งที่โขดหินด้วยกลัวว่าเธอจะซุ่มซ่ามลื่นล้มจนเกิดอันตรายอีก

"ถ้าผมทำแบบนั้นให้คนที่ไร่เห็นคุณนั่นแหละจะเสียหาย"

"ยอมเสียหายค่ะ..อิๆ"

ว่าจบก็ซบหัวทุยกับบ่าของพ่อเลี้ยงหนุ่มยิ่งเขาไม่ปฏิเสธทุกการกระทำของเธอสาวเจ้าก็ยิ่งได้ใจว่าตัวเองน่าจะกลายเป็นคนพิเศษของเขาในช้าไม่นานนี้แน่นอน

"พ่อเลี้ยงกับแฟนเค้าน่ารักจังเลยเนอะพี่ผา"

น้ำผึ้งเด็กสาวเอ่ยบอกกับคนเป็นพี่ชายด้วยท่าทีเอียงอายเมื่อแอบเห็นน่านน้ำและวันหนึ่งมานั่งเล่นกันที่ธารน้ำตกไกลๆ

"แฟน?.."

ภูผาเริ่มขมวดคิ้ว

"ผึ้งแอบเห็นพ่อเลี้ยงพาแฟนเค้ามาที่นี่หลายรอบแล้วบางวันก็อุ้มมาบางวันก็ให้ขี่หลัง"

"แต่พ่อบอกว่าพี่หนึ่งเป็นแค่แม่ครัวของพ่อเลี้ยง"

"แสดงว่าเค้าอยู่บ้านเดียวกันอาจจะกิ๊กกั๊กกันมานานแล้วก็ได้"

เด็กสาวว่าด้วยท่าทีสีหน้าทะเล้น

"แก่แดดแล้วนะเราดูพูดเข้า..กลับกันเถอะเดี๋ยวแม่ใช้ให้ช่วยทำกับข้าวไม่เจอก็บ่นเราอีก"

"จ้า"

ภูผารีบชวนน้องสาวตัวเองกลับเพราะไม่อยากกลายเป็นพวกถ้ำมองคนอื่นเท่าไรนัก

วันต่อมา

"ทำไมวันนี้เป็นน้ำผึ้งเอาอาหารมาให้พี่ล่ะป้าศรีอ่อนไปไหนเหรอ"

เช้าวันนี้วันหนึ่งแปลกใจที่เห็นน้ำผึ้งเด็กสาวใบหน้าคมเอาปิ่นโตมาให้พวกเธอแทนที่จะเป็นศรีอ่อนอย่างเช่นทุกวัน

"แม่ไปช่วยเตรียมงานแต่งงานของญาติที่กลางหมู่บ้านจ่ะเลยให้ผึ้งมาแทน"

"งานแต่งเหรอ..น่าสนุกมากไหม"

วันหนึ่งเริ่มหูผึ่งและมีสีหน้าอยากรู้อยากเห็น

"งานแต่งที่นี่สนุกมากจ่ะตอนเช้าจะมีพิธีผูกข้อไม้ข้อมือส่วนตอนกลางคืนก็จะเป็นพิธีส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอหลังจากนั้นคนในหมู่บ้านก็จะเต้นรอบกองไฟแสดงความยินดีกับบ่าวสาวแทบทั้งคืนเลยจ่ะ"

"โหย..อยากเห็นจังเลย"

คนที่อยู่เมืองนอกเมืองนามาเกือบทั้งชีวิตอยากจะเห็นพิธีการแต่งงานที่น้ำผึ้งเล่ามาใจจะขาด

"พี่หนึ่งอยากไปเหรอจ้ะ"

"ใช่"

น่านน้ำเข้ามาได้ยินว่าวันหนึ่งจะไปที่ไหนพอดีจึงต้องรีบเอ่ยถามเพราะกลัวว่าจะไปเล่นซนอะไรที่ไหนจนเป็นเรื่อง

"จะไปไหนกัน"

"ไปงานแต่งในหมู่บ้านค่ะพ่อเลี้ยงเราไปกันนะคะ"

"คุณจะไปยุ่งอะไรในงานเค้า"

น่านน้ำพอจะรู้ว่างานแต่งของคนที่นี่คนทั้งหมู่บ้านจะต้องออกมารวมตัวกันทั้งหมดดูวุ่นวายสำหรับเขาพอสมควร

"ก็หนึ่งอยากเห็นนี่คะ"

วันหนึ่งเริ่มบุ้ยปากหน้าเจื่อนเมื่อคนตัวโตมีท่าทีจะห้ามเธอ

"ไปเถอะค่ะพ่อเลี้ยงน่าสนุกนะคะ"

น้ำผึ้งเห็นว่าวันหนึ่งอยากจะเข้าไปร่วมงานมากจึงเอ่ยขอร้องพ่อเลี้ยงหนุ่มอีกแรง

"งั้นรอไปตอนกลางคืนแล้วกัน"

"เย่"

หากวันหนึ่งอยากจะไปร่วมงานจริงๆเขาก็จะพาหญิงสาวไปในช่วงกลางคืนเพราะตอนนั้นคนน่าจะไม่เยอะเท่าตอนเช้าด้วยส่วนมากคนที่จะมีแรงมาเต้นรอบกองไฟคงจะมีแต่เหล่าคนที่ยังแข็งแรงคนเฒ่าคนแก่ก็กลับไปพักผ่อนกัน

"ปู่ผมไว้ใจคุณมากทำกับท่านแบบนี้ได้ยังไงห้ะ"

ทางด้านณดลตอนนี้เมื่อได้ตัวสมานได้ก็รีบจ่อปืนไปที่หัวเพราะรับรู้ความจริงจากปากสมานว่าเขาสมรู้ร่วมคิดกับทรงยศจริง

สาเหตุก็เพราะตอนนั้นปู่ของเขาเป็นคนรู้เรื่องความลับที่ทรงยศจะกว้านซื้อที่เพื่อทำเป็นแหล่งซ่องสุมสิ่งผิดกฏหมายจึงไปเตือนทรงยศว่าห้ามทำและจะไม่ยอมขายที่ให้ง่ายๆและหลังจากเตือนแล้วไม่คิดจะหยุดมือเขาจะแจ้งทางการ ทรงยศจึงไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นเลยเลือกที่จะเข้าทางสมานเพราะเห็นว่าเป็นคนที่พ่อเลี้ยงเพชรพนาไว้ใจโดยเสนอเงินก้อนใหญ่สมานในตอนนั้นโลภมากจึงยอมทำตามที่ทรงยศบอกโดยดี

"คุณเหนือ..ใจเย็นๆคุณน่านไม่ต้องการให้คุณทำอะไรใจร้อนเค้าถึงไม่อยากบอกให้ใครรู้แต่แรกไง"

ผู้กองปุณณ์ต้องรีบเอาตัวมาขวางณดลเอาไว้เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีอย่างที่น่านน้ำกังวล

"ผมขอโทษ..ขอโทษจริงๆตอนนั้นผมโลภมากเองอีกอย่างเสี่ยทรงยศบอกว่าให้ผมล่อพ่อเลี้ยงออกมาเพราะต้องการจะมาพูดคุยเจรจาด้วยเฉยๆไม่คิดว่ามันจะทำร้ายพ่อเลี้ยงถึงชีวิต"

จากวันนั้นจนถึงวันนี้สมานก็รู้สึกผิดมาโดยตลอดเพราะเขาไม่คิดว่าทรงยศจะเล่นงานพ่อเลี้ยงเพชรพนาจนถึงตาย

"ให้กฏหมายจัดการทุกอย่างนะครับคุณเหนือ"

ผู้กองปุณณ์ที่เห็นว่าณดลเริ่มอ่อนลงเขาจึงรีบเก็บปืนจากมือของชายหนุ่มและให้ลูกน้องของเขาพาณดลไปสงบอารมณ์ด้านนอกส่วนเรื่องการสืบสวนสมานให้เป็นหน้าที่ของเขาเอง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status