"พี่เอื้อง..หยุดฟังหนึ่งก่อน"
"ไม่ฟัง"
เอื้องฟ้าสะบัดมือของวันหนึ่งทิ้ง
"หนึ่งกับพี่สายเป็นลูกพี่ลูกน้องกันค่ะ"
วันหนึ่งจึงต้องโพร่งประโยคสำคัญออกมาเพื่อรั้งให้เอื้องฟ้านั้นฟังเธอให้ได้และมันก็ได้ผลเอื้องฟ้าหันมาขมวดคิ้วมองหน้าวันหนึ่งด้วยท่าทีแปลกใจกับสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อครู่
"ว่าไงนะ"
“เรื่องมันอาจจะยาวสักหน่อยแต่หนึ่งจะเล่าความจริงให้พี่เอื้องฟังค่ะ”
วันหนึ่งใช้เวลาอธิบายตั้งแต่ว่าเธอเป็นใครและมาทำอะไรที่นี่รวมถึงภาพเมื่อครู่ที่เอื้องฟ้าเห็นเธอกับสายน้ำไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่าพี่น้อง
"เชื่อเรื่องดวงขนาดนี้เลยเหรอ"
เอื้องฟ้าพอจะเข้าใจได้เรื่องที่วันหนึ่งกับสายน้ำเป็นอะไรกันแต่มาแปลกใจตรงที่หญิงสาวเชื่อเรื่องดวงมากจนทิ้งชีวิตคุณหนูมาเป็นแม่ครัวอยู่บ้านไร่เพียงเพราะคำทำนายของหมอดู
"ค่ะ..คุณย่ากับหนึ่งเดินตามดวงกันมานานแล้วพวกเราเชื่อเรื่องนี้กันมากจริงๆ"
"ก็คงจะจริงไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ทิ้งชีวิตคุณหนูมาลำบากแบบนี้หรอก...แล้วหมอสายน้ำล่ะเดินตามดวงอะไรด้วยหรือเปล่า"
"ไม่เกี่ยวค่ะพี่สายน้ำแค่อยากหาที่สงบอยู่เท่านั้นหนึ่งก็พึ่งรู้ว่าพี่สายน้ำอยู่ที่นี่วันที่พี่สายน้ำพาหนึ่งไปฉีดวัคซีนวัวด้วยกัน"
"ว่าแล้วว่าทำไมดูสนิทกันผิดปกติ"
"ที่หนีมาเมื่อกี้..โกรธหนึ่งเพราะคิดว่าหนึ่งสองใจหรือหึงพี่สายน้ำกันคะ"
"ช่างเหอะ..แต่ฉันขอเตือนอะไรเอาไว้ว่าควรจะบอกความจริงกับพ่อเลี้ยงเร็วๆ"
เอื้องฟ้าอึกอักที่จะตอบคำถามของวันหนึ่งแต่เธอเลือกที่จะเตือนหญิงสาวเรื่องพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยความหวังดีมากกว่า
"พี่อุ่นก็บอกแบบนั่นเหมือนกันแล้วหนึ่งจะหาโอกาสเหมาะๆแล้วกันนะคะ...แต่เรื่องนี้พี่เอื้องต้องปิดปากสนิทเลยนะคะ"
"ฉันไม่ใช่คนชอบพูดเรื่องชาวบ้านไปทั่วซะหน่อย"
"ขอบคุณค่ะ"
"เข้าใจทุกอย่างแล้วใช่ไหม"
สายน้ำที่แอบฟังสองสาวอยู่ห่างๆเมื่อรู้ว่าเอื้องฟ้าเข้าใจทุกอย่างแล้วจึงเดินเข้ามาหาเธอ และวันหนึ่งก็ต้องปลีกตัวออกไปอย่างรู้หน้าที่ว่าคนสองคนน่าจะอยากคุยกันตามลำพัง
"ก็.. อืมพวกลูกคนรวยอย่างคุณชอบเล่นปลอมตัวไปหมดทุกคนหรือเปล่า"
"เปล่านะครับผมไม่ใช่หนึ่งซะหน่อย"
สายน้ำรีบส่ายหัวเขาไม่ได้เล่นปลอมตัวอะไรทั้งนั้นมาอยู่ที่นี่ก็เพราะชอบความสงบอีกอย่างที่ปักหลักอยู่ที่นี่ส่วนหนึ่งก็เพราะเอื้องฟ้า
"แต่คุณก็ไม่คิดจะบอกฉันว่าเป็นใครมาจากไหน"
"ผมก็เป็นหมอสายน้ำสัตวแพทย์ที่คุณรู้จักไงครับแค่ไม่ได้คิดจะคุยโอ้อวดว่าเป็นลูกใคร...หวังว่าคุณจะไม่โกรธผมเรื่องนี้นะ...แค่คุณหึงผมก็ไม่รู้จะง้อท่าไหนแล้ว"
"หึงอะไร..ฉันไม่ได้หึงคุณ..”
เอื้องฟ้าที่ถูกจับได้ก็เริ่มปฏิเสธเสียงแข็งและไม่ยอมสบตาหมอหนุ่มเช่นปกติที่เคยคุยกัน
“ฉันแค่เห็นว่าหนึ่งชอบกับพ่อเลี้ยงแล้วมายุ่มย่ามกับคุณมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ก็ฉันไม่รู้นี่ว่าคุณเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน"
"แน่ใจนะครับว่าไม่ได้หึง"
"ฉันไม่คุยกับหมอแล้ว"
เมื่อหมอหนุ่มยังเค้นเรื่องหึงไม่หึงไม่เลิกเอื้องฟ้าจึงรีบเดินหนีหมอหนุ่มแต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนสายน้ำก็ดึงมือของเธอเอาไว้ก่อน
"ผมชอบคุณมานานแล้ว..เป็นแฟนกับผมนะครับ"
เอื้องฟ้าหันกลับมาจ้องสายน้ำตาแทบถลนเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดพวกนี้จากผู้ชายคนไหนแต่ก็ดีใจลึกๆที่สายน้ำรู้สึกดีกับเธอเหมือนที่เธอก็รู้สึกมาพักหนึ่งแล้วเหมือนกัน
"หมอพูดอะไร"
"ผมชอบคุณตั้งแต่ที่เจอกันแล้วผมเลยเลือกที่จะเปิดคลินิกอยู่ที่นี่"
"อย่าคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงบ้านๆแล้วจะยอมเป็นของเล่นคนรวยหรอกนะ"
เอื้องฟ้ามองสายน้ำอย่างไม่ค่อยมั่นใจที่จะเชื่อคำที่เขาพูด
"ผมไม่เคยคิดแบบนั้น..ผมเลือกที่จะปลีกตัวจากสังคมของผมเพราะเบื่อผู้หญิงที่ปั้นหน้าหาผมเพราะชาติตระกูลของผม...ความตรงไปตรงมาจริงใจทุกคำพูดทุกการกระทำของคุณนี่แหละผมถึงได้ชอบคุณชอบมานานแล้วด้วย..เป็นแฟนกับผมนะครับ"
ใจของเอื้องฟ้าที่เคยมีกำแพงสูงตอนนี้แทบละลายไปกับคำพูดตรงไปตรงมาของหมอหนุ่มแต่เธอก็ยังรู้ตัวเองดีว่าเรื่องของเขาและเธออาจจะไม่ได้ไปได้สวยเท่าไรเพราะฐานะเรียกได้ว่าเธอต่างกับเขาราวฟ้ากับเหวเลย
"ครอบครัวคุณล่ะคะเค้าจะรับได้เหรอถ้าคุณเป็นแฟนกับคนอย่างฉัน"
"ได้สิ..ผมรักใครพ่อกับแม่ผมก็รักด้วยทั้งนั้นตกลงจะยอมเป็นแฟนกับผมหรือเปล่า"
เอื้องฟ้ายังคงเงียบไม่ตอบอะไรได้เอาแต่ก้มหน้าครุ่นคิดแต่สายน้ำมั่นใจว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เอื้องฟ้ากำลังตั้งแง่เพราะพ่อกับแม่ของเขาอยากให้เขามีแฟนเป็นตัวเป็นตนและสร้างครอบครัวเร็วๆใจจะขาดหากรู้ว่าเขามีคนที่ถูกใจแล้วคงดีใจมากแน่นอน
"ถ้าคุณไม่เป็นแฟนกับผมก็คงจะไม่มีใครจีบคุณแล้วนะครับปากคุณจัดเป็นกรรไกรแบบนี้"
"หมอ.. ขอผู้หญิงเป็นแฟนเค้าพูดกันแบบนี้เหรอห้ะ"
เอื้องฟ้าเงยหน้าตวัดสายตามองค้อนหมอหนุ่มที่กวนประสาทเธอได้แม้วินาทีที่สำคัญเช่นนี้
"จะเป็นไหมล่ะ"
"ก็...อืม.."
สาวเจ้าเอ่ยตอบอย่างวางท่าแต่ก็มีอมยิ้มเขินอายอยู่บ้างที่ชีวิตนี้จะได้มีแฟนกับคนอื่นเค้าเสียที
"เย่/เย่"
ไออุ่นและวันหนึ่งที่แอบดูสองหนุ่มสาวอยู่ห่างๆแอบลุ้นจนตัวโก่งว่าเอื้องฟ้าจะรับรักหมอสายน้ำหรือไม่และทุกอย่างก็ลงเอยด้วยดีจนสองสาวดีใจจนส่งเสียงออกมา
"ไออุ่น..หนึ่ง..แอบดูฉันเหรอ"
ทำเอื้องฟ้าที่เห็นเช่นนั้นก็ทำตัวไม่ถูกจึงส่งเสียงแข็งดุคนที่แอบดูแก้เขิน
"มาเป็นพยานรักให้ไงคะ"
ไออุ่นว่าพรางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"เราไปกันเถอะเค้ากำลังจะหวานกันแล้ว"
วันหนึ่งก็แสบไม่แพ้กันทิ้งท้ายเอ่ยหยอกคนที่พึ่งจะตกลงเป็นแฟนกันหมาดๆก่อนจะเดินหน้าระรื่นจูงมือไออุ่นออกไปจากตรงนี้
"คุณเขินเหรอ.. หน้าแดงเป็นลูกตำลึงเลย"
"อะไร.. ฉันแค่.. ร้อนๆเฉยๆ.. แซวฉันอีกจะไม่คบด้วยแล้วนะ"
"หยอกเล่นนะคร้าบบคุณแฟนนนน.."
เอื้องฟ้าไม่ค่อยกล้าสบตาหมอหนุ่มเท่าไรนักเพราะเธอรู้สึกได้ว่าใบหน้าของเธอกำลังร้อนผ่าวและคงจะแดงอย่างที่สายน้ำว่าจริงๆ
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมหลายวันจนมาถึงวันที่น่านน้ำรอคอยคือวันที่เขาไปรับวันหนึ่งกลับมาที่บ้านและได้มีโอกาสพาเธอมาที่บ้านหลังเล็กท้ายไร่เสียที บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ยกพื้นสูงมีเพียงหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องนั่งเล่นและครัวเล็กๆหน้าบ้านเป็นชานระเบียงกว้างเหมือนเช่นบ้านหลังใหญ่ ตัวบ้านเป็นกระจกล้อมรอบพร้อมที่จะเสพวิวทิวทัศน์ได้ทุกทิศทางด้านข้างติดกับเนินเขาด้านหน้าเป็นเวิ้งกว้างรายล้อมด้วยสนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่
"ผมให้คนในไร่มาทำความสะอาดครั้งใหญ่เมื่อวันก่อนเองเพื่อทำตามสัญญาที่ให้คุณเอาไว้ว่าจะพามาที่นี่"
"พ่อเลี้ยงไม่ค่อยได้มาที่นี่เหรอคะถึงได้ทำความสะอาดครั้งใหญ่"
"ก็..หลายเดือนเหมือนกัน"
ตั้งแต่ที่เขามานั่งช้ำใจอกหักตั้งแต่เลิกกับกวินตราก็ไม่ได้เข้ามาที่นี่อีกเลยนับตั้งแต่นอนนั้น
"หนึ่งว่าบ้านพ่อเลี้ยงน่าอยู่มากๆแล้วที่นี่ดูน่าอยู่มากกว่าอีกนะคะบ้านหลังเล็กๆกับวิวที่สวยสุดยอดเลย"วันหนึ่งเดินดูรอบบ้านด้วยท่าทีตื่นเต้นบ้านหลังเล็กนี้เหมือนบ้านพักในฝันที่เคยเคยคิดอยากจะสร้างก็ว่าได้"ผมสร้างที่นี่เพื่อเอาไว้พักผ่อนเงียบๆ...แต่เป็นเพราะงานที่ยุ่งก็เลยไม่ได้มานานแล้ว""หนึ่งขอมาที่นี่บ่อยๆได้ไหมคะ""ได้อยู่แล้ว...ผมว่าจะให้คุณแบ่งเวลามาทำความสะอาดที่นี่บ้างแต่ไม่ได้ใช้ฟรีผมจะให้เงินพิเศษเพิ่ม""ว้า.. นึกว่าอยากพามาสวีทแต่อยากให้มาทำงานบ้านซะงั้น""เบื่อที่จะเป็นแม่ครัวแม่บ้านให้ผมแล้วหรือไง""เปล่าค่ะ...ได้อยู่ใกล้พ่อเลี้ยงหนึ่งเป็นอะไรก็ได้ค่ะ"พ่อเลี้ยงหนุ่มวาดมือหนายีหัวทุยเล่นด้วยท่าทีเอ็นดูคนตัวเล็กเป็นพิเศษที่ขยันหยอดคำหวานกับเขาได้ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน"ถ้าไม่เกิดเรื่องซะก่อนคุณคงได้ไปสมัครเรียนแล้ว""ไว้รอไปสมัครตอนเค้าเปิดรับอีกทีก็ได้ค่ะหนึ่งไม่รีบ...แต่ดูท่าเหมือนพ่อเลี้ยงจะรีบกว่าหนึ่งนะคะ""คุณอายุยังน้อยถ้าเรียนได้วุฒิสูงๆยังสร้างประโยชน์อะไรได้มากกว่ามาทำงานเป็นแม่บ้านดีไม่ดีคุณอาจจะกลายเป็นบัญชีฝีมือดีหรือไม่อาจจะบริหารองค์กรใหญ่ๆได้เลยก็ได้"น่านน
"หนึ่ง.. จะไปไหนแล้วร้องให้ทำไม"สายน้ำที่ขับรถATVคันเก่งจะไปดูแกะในฟาร์มช่วงสายขณะที่กำลังขับไปที่ฟาร์มเห็นว่าเป็นวันหนึ่งเดินอยู่จึงได้เข้าไปทักแต่เขาก็ต้องหน้าเสียเมื่อเห็นน้องสาวตนนั้นร้องให้จนหน้าตาแดงก่ำไปหมด"พี่สายพาหนึ่งออกไปจากไร่ได้ไหมคะ..ฮือๆๆ"มือเรียวยกปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะกระโดดขึ้นหลังรถหมอหนุ่ม จนสายน้ำต้องละงานไปก่อนและพาวันหนึ่งมาสงบอารมณ์ที่คลินิกของเขา"เป็นอะไรบอกพี่ได้หรือเปล่า"สายน้ำเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เอาแต่กอดหมอนร้องให้อยู่บนโซฟาโดยที่ไม่มีท่าทีว่าจะสงบลง"หนึ่ง..ฮึก..ฮือๆๆ..เสียใจขออยู่เงียบๆ..ฮือๆๆ""โอเคๆ..งั้นก็พักที่นี่ก่อนแล้วกันพี่จะไปตรวจเจ้าแกะที่ฟาร์มต่อ""ฮือๆ..อย่าบอกใครนะคะ..ฮือๆ..ๆ..ว่าหนึ่งอยู่ที่นี่""ได้พักให้สบายใจได้เลย"ถึงสายน้ำจะคาใจกับอาการเสียใจของวันหนึ่งพอสมควรแต่ก็ไม่เลือกที่จะเค้นถามอะไรในเมื่อคนอย่างวันหนึ่งถึงขั้นร้องให้ฟูมฟายขออยู่คนเดียวคงเป็นเรื่องปวดใจมากแน่คิดว่ารอให้น้องสาวของเขาอารมณ์เย็นลงแล้วค่อยคุยจะดีกว่าน่านน้ำคุยกับกวินตราจนหญิงสาวสบายใจจนกลับไปได้ตอนนี้ก็เป็นฝ่ายน่านน้ำที่กังวลใจเพราะหาแม่ครัวตัวเล็กของตัวเองไม่เจอโท
นฤดีจำต้องทำตัวเป็นนางเล่าเรื่องให้ลูกชายและลูกสะใภ้ได้กระจ่างถึงความจริงว่าเธอและวันหนึ่งไม่ได้ไปบวชอย่างที่ว่าแต่พาหลานไปหาคู่ตามคำทำนาย วิริยาได้ฟังทั้งหมดก็แทบจะลมจับเธอว่าแล้วว่ามันมีอะไรแปลกๆตั้งแต่แรก"คุณแม่ไม่ได้ไปบวชแต่พาหลานไปหาคู่เหรอคะ!...คุณแม่จะพายัยหนึ่งงมงายเกินไปแล้วนะคะ""ผมว่าแล้วจะต้องมีเรื่องอะไรให้ปวดหัว"สิทธิเดชยิ้มอย่างไม่คิดอะไรเพราะเขาคิดเผื่อใจเอาไว้แต่แรกแล้วว่าแม่ตนต้องพาลูกสาวไปทำอะไรพิเลนๆอีกแน่แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ"เอาน่าจะว่าอะไรแม่ก็ช่างเถอะ...แต่ตอนนี้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องยัยหนึ่งก่อนว่าเป็นอะไรถึงได้หนีกลับมาดื้อๆแบบนี้""หนึ่งลูก..คุณย่ากลับมาแล้วนะลูกออกมาคุยกันหน่อยได้หรือเปล่า""หนึ่งอยากอยู่คนเดียวอย่าพึ่งมายุ่งกับหนึ่งได้ไหมคะ"เมื่อคุยกันจบทั้งวิริยาและนฤดีก็มาเคาะห้องของวันหนึ่งแต่ก็ต้องเดินกลับไปด้วยสีหน้าที่ผิดหวังกันทั้งคู่เพราะทำยังไงเจ้าของห้องก็ไม่ยอมออกมาคุยได้"คุณแม่แน่ใจนะคะว่ายัยหนึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครจริงๆ"วิริยาเชื่อว่าวันหนึ่งต้องมีปัญหาใหญ่ไม่อย่างนั้นไม่มีอาการเป็นแบบนี้แน่ถึงจะไม่ได้เลี้ยงลูกอยู่ตลอดเวลาเหมือนแม่สามี
วันต่อมา"ยัยหนึ่งไปอิตาลีค่ะคุณแม่"เช้านี้ทุกคนในบ้านต่างก็ต้องปวดหัวกันอีกรอบเมื่อวันหนึ่งเลือกที่จะหนีไปอิตาลีโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวคนในบ้านก่อนได้แต่เพียงเขียนจดหมายเอาไว้ให้เท่านั้น"หลานคนนี้นี่มีอะไรทำไมไม่พูดกันนะ"นฤดีบ่นอุกด้วยดูท่าหลานเธอจะทำอะไรตามอำเภอใจตัวเองใหญ่แล้ว"ใครเลี้ยงก็เหมือนคนนั้นแหละครับ""อย่าพึ่งซ้ำเติมกันได้ไหมตาเดช"สิทธิเดชไม่วายหยอกคนเป็นแม่เล่นในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเพราะไม่ได้ห่วงอะไรลูกสาวมากนักด้วยไฟล์บินก็เช็กได้ว่าไปที่ไหนที่พักก็น่าจะหาไม่ยากเช่นกันนฤดีที่ทนกังวลใจต่อไปไม่ไหวเธอจึงเลือกที่จะติดต่อทอฝันเพื่อที่จะขอคุยกับเฟื่องฟ้าถึงสถาณการณ์ที่น่าอึดอัดในตอนนี้"ไม่ต้องห่วงหรอกไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วเค้าสองคนแต่งงานกันแล้วนี่"เฟื่องฟ้าเห็นหน้านฤดีได้ก็รีบเอ่ยให้เพื่อนเธอนั้นหายกังวลเพราะตอนนี้ไม่มีเรื่องอะไรน่าห่วงแล้ว"หา...แต่งตอนไหน"คำพูดของเฟื่องฟ้าทำนฤดีไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเพราะเรื่องแต่งงานหลานเธอไม่เห็นเคยพูดให้ฟังสักคำ"ค่อยไปถามหลานสาวตัวเองเองแล้วกัน""ฉันงงไปหมดแล้วตอนนี้""เอาเป็นว่าไม่นานเดี๋ยวสองคนนั้นก็ลงเอยกันด้วยดี"เฟื่องฟ้าบ
"ครับคุณป้า..เธอมาหาผมแล้วครับ...ผมขออนุญาตดัดนิสัยสักหน่อยนะครับ"น่านน้ำรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าวันหนึ่งจะมาที่นี่เพราะวิริยาโทรมาอธิบายกับเขาทุกอย่างว่าวันหนึ่งเข้าใจผิดเรื่องอะไรและตอนนี้เขาก็ไม่คิดถือโทษเธอแล้วแต่อยากจะแกล้งเพื่อดัดนิสัยหญิงสาวบ้างจะได้รู้ว่าการถูกพูดหรือกระทำไม่ดีใส่มันรู้สึกอย่างไร และก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ลืมโทรไปย้ำกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นหมอสายน้ำเอื้องฟ้าหรือไออุ่นว่าถ้าวันหนึ่งไปขอความช่วยเหลืออะไรห้ามช่วยทุกอย่างวันหนึ่งขับรถมาถึบ้านพ่อเลี้ยงหนุ่มได้เธอก็ลองเข้าครัวอีกสักตั้งเพราะยังไงก็จะพยายามง้อน่านน้ำให้สำเร็จ หญิงสาวอยู่ในครัวนานสองนานเพื่อที่จะทำปลาทับทิมนึ่งและน้ำจิ้มรสเด็ดที่น่านน้ำนั้นชอบเมื่อทำเสร็จนำมาวางที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยน่านน้ำก็กลับมาพอดี"กลับมาแล้วเหรอคะหนึ่งเตรียมอาหารเย็นไว้ให้พ่อเลี้ยงพึ่งเสร็จเลยนะคะ""ผมมีปิ่นโตของผมแล้ว.."คนตัวโตชูปิ่นโตเถาใหญ่ที่ถือกลับมาจากโรงครัวในไร่ให้วันหนึ่งได้เห็น จนวันหนึ่งเริ่มหน้าเจื่อนอีกครั้งที่ถูกน่านน้ำปฏิเสธอาหารของเธอ"อ่อ...ถ้าคุณอยากจะอยู่ที่นี่ก็อยู่ไปผมจะไปนอนที่บ้านท้ายไร่""ถ้าถึงขนาดที่ไม่อยากจะอยู่
“หนึ่งจะทำให้ได้ค่ะคุณย่า”วันหนึ่งพูดด้วยแววตาและน้ำเสียงที่แน่วแน่ดูซิทั้งสาวทั้งสวยอย่างเธอหรือจะมัดใจชายชาวไร่ไม่ได้ก็ให้มันรู้กันไปคุณหนูนักเรียนนอกที่พึ่งเรียนจบอย่าง วันหนึ่ง พิวัฒน์วรวงค์ ลูกสาวคนเดียวของสิทธิเดชและวิริยา พิวัฒน์วรวงค์เจ้าของธุรกิจจิวเวอร์รี่เพชรพลอยรายใหญ่ของประเทศเลือกที่จะเดินทางขึ้นเหนือมาตามคำทำนายที่ว่าเธอจะต้องรีบมีสามีภายในเวลาหกเดือนหลังเรียนจบวันหนึ่งเป็นหญิงสาวตัวกระเปี๊ยกหุ่นบางร่างน้อยผิวขาวอมชมพูผมลอนฟาร่าสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลังใบหน้ารูปไข่คิ้วบางได้รูปดวงตากลมโตมีแก้มเล็กน้อยปากนิดจมูกหน่อย นิสัยค่อนข้างเป็นยัยคุณหนูที่แอบซนเชื่อมั่นในตัวเองสูง เธอรักในการดูดวงและการที่ดำเนินชีวิตตามดวงเธอไม่ได้มีความเชื่อมาจากพ่อหรือแม่แต่ได้มาจากคนเป็นย่าอย่างนฤดีที่เชื่อเรื่องนี้มากและเป็นคนเลี้ยงหลานเองวันหนึ่งจึงได้รับการปลูกฝังมาเช่นนี้ณ บ้านไม้ยกสูงสองชั้นหลังขนาดกลางข้างบ้านเป็นสวนผักร่มรื่นน่าอยู่แห่งนี้อยู่ที่แถวชนบทของจังหวัดน่านเป็นบ้านของอุไรและไออุ่นสองแม่ลูกที่เคยอยู่กับนฤดีเมื่อครั้งที่วันหนึ่งยังเล็กๆ“คุณท่านแน่ใจนะคะว่าจะปล่อยให้คุณหนูทำตามแ
“ปิ่นโตค่ะพ่อเลี้ยง..ตอนนี้แม่ยังเดินไม่ค่อยไหวค่ะแต่ก็กินอะไรได้มากกว่าเดิมค่ะ”ไออุ่นวางปิ่นโตที่แม่เธอฝากเอามาให้น่านน้ำที่โต๊ะไม้สักใหญ่หน้าบ้านของพ่อเลี้ยงหนุ่มทั้งทักทายเจ้านายด้วยรอยยิ้มกว้างนับว่าวันนี้เธอโชคดีที่มาทันก่อนที่เขาจะออกไปข้างนอก“ว่างๆผมจะเข้าไปเยี่ยม”วันหนึ่งชะเง้อมองชายหนุ่มเบิกดวงดวงตากลมโตจ้องมองคนหล่อร่างกำยำทั้งริมฝีปากบางยังยกยิ้มเล็กน้อยปลื้มใจที่ผู้ชายในคำทำนายดูดีราวกับดารานายแบบแม้นเขาจะมีผิวคล้ำดำแดดบ้างก็ยังดูดีอยู่ดีแบบนี้เธอค่อยมีกำลังใจที่จะพิชิตหัวใจของเขาหน่อย“ขอบคุณค่ะ…เอ่อ..พ่อเลี้ยงคะนี่วันหนึ่งญาติห่างๆอุ่นเองค่ะว่าจะพามาสมัครเป็นแม่ครัวแทนแม่ไม่ทราบว่าพ่อเลี้ยงได้แม่ครัวใหม่หรือยังคะ”คนที่ถูกแนะนำยืนยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงเธอพยายามทำตัวเป็นมิตรที่สุดเท่าที่จะทำได้ทั้งท่องภาวนาในใจว่าให้เขานั้นรับเธอเข้าทำงานได้อย่างง่ายดายเรื่องทุกอย่างต่อจากนี้จะได้ง่ายขึ้น“อ่อ..ก็..”พ่อเลี้ยงหนุ่มมองไปยังคนที่ยิ้มไม่หุบแอบทั้งที่เขาก็หลบสายตาของเธออยู่หลายหนคิดในใจว่าเธอยังเป็นคนปกติดีอยู่หรือเปล่า“หนึ่งทำกับข้าวได้ทุกอย่างเลยนะคะพ่อเลี้ยงแถมยังทำงาน
"ญาติห่างๆอุ่นเองจ่ะพี่เอื้องชื่อวันหนึ่ง""แล้วพ่อเลี้ยงรับทำงานแล้วหรือไงถึงได้มาป้วนเปี้ยนที่นี่ก็รู้นี่ว่าพ่อเลี้ยงไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามที่นี่"คำพูดคำจาจีบปากจีบคอของเอื้องฟ้าทำวันหนึ่งเริ่มขมวดคิ้วเพราะดูออกว่าผู้หญิงหน้าสวยผิวน้ำผึ้งคนนี้ไม่มีความเป็นมิตรแม้แต่น้อย"ใช่จ่ะ""ฝากปิ่นโตไว้ให้พ่อเลี้ยงด้วยละกัน"เอื้องฟ้ายื่นปิ่นโตให้ไออุ่นพร้อมตวัดหางตามองวันหนึ่งแสดงออกให้หญิงสาวรู้ว่าตนไม่ชอบหน้าก่อนจะหันหลังสะบัดก้นเดินออกไป"ใครอะพี่อุ่นหน้าตาก็สวยนะแต่สายตาดูไม่เป็นมิตรเลย""พี่เอื้องฟ้าน่ะลูกลุงคำอ้ายผู้จัดการไร่ส่วนแม่เธอคือป้าดอกสร้อยแม่ครัวที่ไร่""อ๋อ..ก็เหมือนใหญ่ในไร่นี้งี้เหรอ""ก็ไม่ถึงขนาดนั้นแต่แค่เธอน่าจะชอบพ่อเลี้ยงเท่าที่พี่ดูแล้วเธอก็ไม่น่าจะชอบให้สาวๆมาอยู่ใกล้พ่อเลี้ยงล่ะมั้ง"ประโยคนี้ไออุ่นต้องกระซิบกระซาบกับวันหนึ่งด้วยรู้ว่าชนบทแห่งนี้หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง"อย่างนี้นี่เอง""ห่างเธอได้ก็ให้ห่างไว้เพราะน้อยคนที่นี่ที่จะชอบนิสัยเธอที่ทุกคนเกรงใจก็เห็นว่าเป็นลูกลุงคำอ้ายกับป้าสร้อยเท่านั้น"วันหนึ่งรู้แบบนี้คนที่เธอจะมองเป็นคู่แข่งคนแรกก็เห็นจะเป็นเอื้องฟ