Share

บทที่28 เมา

วันหนึ่งมาถึงงานช่วงกลางคืนได้พักใหญ่ก็แยกตัวออกจากน่านน้ำออกมาเดินเล่นกับน้ำผึ้งเพราะรู้สึกตื่นเต้นอยากดูเก็บรายละเอียดพิธีกรรมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

"นี่อะไรอะผึ้ง"

วันหนึ่งจ้องมองไปยังแก้วไม้ไผ่เล็กๆที่วางบนถาดในมือของน้ำผึ้งอยากรู้นักว่าน้ำใสๆในแก้วที่น้ำผึ้งคอยเอาไปเสริฟเหล่าผู้ชายที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่หลายครั้งแล้วคืออะไร

"ลองชิมดูสิคะ"

"อืมม..อ่าาา..ขมจัง"

วันหนึ่งรีบคว้าแก้วในถาดมากระดกอึกใหญ่พอหมดแก้วได้ก็มีสีหน้าเหยเกเพราะรู้สึกว่าไอ้น้ำใสๆที่ดื่มไปเมื่อครู่ทั้งขมทั้งบาดคอ

"กลืนไปอึกใหญ่เลยเหรอคะเดี๋ยวก็เมาหรอกค่ะ..นั่นเหล้าต้มของพ่อผึ้งเองแรงมากเลยนะคะ"

น้ำผึ้งรีบหยิบแก้วในมือของวันหนึ่งมาถือเอาไว้ทั้งยังมีสีหน้าตกใจที่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะยกไปกระดกหมดแก้วทีเดียวแบบนั้นทั้งที่ผู้ชายที่คุ้นเคยกับเหล้าต้มที่นี่นังค่อยๆจิบทีละนิด

"อ้าว..ก็ไม่บอกพี่ว่ามันคือเหล้า"

“ก็ไม่คิดว่าจะกระดกจนหมดแบบนั้นนี่คะ”

น้ำผึ้งรู้ได้เลยว่าหลังจากนี้อีกไม่กี่นาทีวันหนึ่งได้เมาแอ๋แน่นอนและแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆหลังจากที่วันหนึ่งดื่มเหล้าต้มที่ได้ชื่อว่าแรงมากเธอก็หน้าแดงตาเยิ้มลอยเริ่มเดินสะเปะสะปะไปยังหน้าบ้านของคู่บ่าวสาวที่พึ่งเข้าหอกันไป

"นี่อาราย"

"สร้อยไม้มงคลค่ะทั้งเส้นทำด้วยไม้มงคลทั้งนั้นเอาไว้ห้อยคอเจ้าบ่าวเจ้าสาวตอนเข้าพิธีแต่งงานค่ะ"

น้ำผึ้งอธิบายให้หญิงสาวที่ยืนจับสร้อยไม้ประคำที่ลงอักขระมงคลไว้ทุกเม็ดของคู่บ่าวสาวที่แขวนเอาไว้หน้าบ้านเป็นสัญลักษณ์ว่าบ้านหลังนี้มีคู่บ่าวสาวกำลังเข้าหอ

"ขอใส่หน่อยนะ"

คนเมาที่ทำอะไรไม่ค่อยมีสติก็เริ่มเอาสร้อยมาใส่คอตัวเองและดึงอีกเส้นเอาไว้ในมือรีบวิ่งไปยังกลางวงที่มีชาวบ้านกำลังเต้นรำใกล้ๆกองไฟกองใหญ่

"พี่หนึ่งคะไม่ใช่ของใส่เล่นค่า"

น้ำผึ้งรีบวางของในมือลงและวิ่งตามหลังวันหนึ่งไปแต่ก็ไม่ทันแล้วตอนนี้คนตัวเล็กที่กำลังเมาเข้าไปกลางวงเหล่าชาวบ้านที่เต้นรำกันอยู่

“หนึ่ง..ทำอะไรออกมานี่เลย”

น่านน้ำที่เห็นวันหนึ่งทำอะไรทะเล่อทะล่าเกือบจะทำลายพิธีกรรมก็รีบเข้าไปหาหญิงสาวและลากเธอออกมาจากวงล้อมทันที

"พ่อเลี้ยงเอาไปใส่ค่ะ"

คนมือเร็วรีบคล้องสร้อยในมือให้กับพ่อเลี้ยงหนุ่ม

"โอ้ย...จะบอกยังไงดีล่ะเนี่ย"

น้ำผึ้งที่เห็นเช่นนั้นก็ตะลึงงันทำอะไรไม่ถูกเพราะพิธีกรรมของคนที่นี่หากหลังจากคู่บ่าวสาวคู่แรกเข้าหอไปแล้วคนที่จะแต่งงานคู่ต่อไปก็ต้องเอาสร้อยของบ่าวสาวไปใส่ภายในเวลาที่ชาวบ้านยังล้อมวงเต้นรำในคืนแต่งงานของคู่บ่าวสาวคู่แรก

"ยินดีด้วยนะพ่อเลี้ยงเจ้าสาวน่ารักน่าชังจริงๆ"

เหล่าคนในหมู่บ้านที่เต้นรำล้อมวงกันคราแรกก็เริ่มกรูเข้ามาล้อมสองหนุ่มสาวและเอ่ยแสดงความยินดีจนน่านน้ำเริ่มขมวดคิ้วไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขานั้นกล่าว

“ห้ะ”

"เต้นๆๆ..รำๆ"

คนตัวเล็กยังคงเต้นเก้ๆกังๆทำท่าตามคนในหมู่บ้านที่ล้อมรอบตัวเธอเอาไว้น่านน้ำรีบกวาดสายตาหาคำปันเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่ชาวบ้านทำเท่าไร

“ไหนบอกว่าเป็นแค่แม่ครัวไง”

คำปันที่เห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มไปอยู่กลางวงได้ก็จ้องมองอย่างสงสัยเพราะไม่คิดว่าน่านน้ำจู่ๆคิดจะมาแต่งงานกับคนที่บอกว่าเป็นแค่แม่ครัว

“แสดงว่าที่น้ำผึ้งคิดเป็นเรื่องจริง”

ภูผากอดอกจ้องมองไปยังคนทั้งสองในวงล้อมเท่ากับว่าสิ่งที่น้องสาวของเขาพูดเป็นเรื่องจริง

“เรื่องอะไร”

คำปันหันมามองหน้าลูกชายตนด้วยสีหน้าสงสัย

“น้ำผึ้งเห็นสองคนนั้นทำตัวใกล้ชิดกันบ่อยๆเมื่อวานฉันยังเห็นพ่อเลี้ยงแบกพี่หนึ่งไปเดินเล่นที่น้ำตกอยู่เหมือนกัน”

“ก็คงจะเป็นคนรักกันแต่ไม่กล้าบอกเราตรงๆล่ะมั้ง”

คำปันรู้เช่นนี้ก็เอาแต่ยิ้มยินดีกับสองหนุ่มสาวและนั่งดูจนทั้งสองถูกคนในหมู่บ้านเต้นรำล้อมรอบจนครบสามรอบเป็นอันเสร็จสิ้นการแต่งงานของทั้งคู่

น่านน้ำแบกคนที่เมากลับมาที่กระท่อมท้ายหมู่บ้านเมื่อเข้าใกล้รุ่งสางเขาพึ่งรู้จากคำปันเมื่อก่อนหน้าที่จะกลับนี้เองว่าเขาได้เข้าพิธีแต่งงานกับวันหนึ่งไปเสร็จสิ้นแล้ว นึกว่าตัวเองรู้พิธีกรรมในหมู่บ้านดีแล้วเสียอีกจนได้คำตอบจากคำปันว่าการที่วันหนึ่งใส่สร้อยเจ้าสาวและเอาสร้อยเจ้าบ่าวมาคล้องให้เขาหลังจากที่บ่าวสาวคู่แรกเข้าห้องหอไปจะกลายเป็นว่าเขาและวันหนึ่งต้องการแต่งงานกัน และที่คนในหมู่บ้านมาร่วมล้อมวงเต้นรำรอบๆเขาและหญิงสาวจนครบสามรอบเท่ากับว่าเสร็จสิ้นพิธีการแต่งงาน คำปันเองก็พึ่งจะรู้เมื่อเสร็จพิธีแล้วเหมือนกันว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเข้าพิธีแต่งงาน

“สร้างเรื่องอะไรไว้จะรู้ตัวหรือเปล่า"

เมื่อวางคนที่เมาจนตัวแดงลงที่นอนเธอได้เขาก็จ้องมองหน้าคนสร้างเรื่องครู่หนึ่งก่อนจะไปจัดที่หลับที่นอนของตัวเอง

"โอ้ย.. ปวดหัวจัง"

วันหนึ่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาช่วงสายของอีกวันเธอรู้สึกหนักหัวอยู่พอสมควรและจำไม่ได้ด้วยว่าเมื่อคืนกลับมาที่กระท่อมอย่างไรเมื่อจะหันไปถามคนที่คอยนอนเฝ้าอยู่ข้างๆก็กลับไม่เห็นว่าเขานั้นอยู่ที่นี่ ที่หลับที่นอนของเขาก็ถูกเก็บเข้ามุมเรียบร้อยแล้วด้วย

คนตัวเล็กลงจากกระท่อมไปล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยพอขึ้นมาจึงเห็นน่านน้ำนั่งรอด้วยสีหน้าระรื่นอยู่ที่หน้าชานกระท่อมแล้ว

"พ่อเลี้ยงไปไหนมาคะ"

"ผมไปหาลุงคำปันมาตอนนี้พวกเสี่ยทรงยศถูกตำรวจรวบแล้วเราจะได้กลับบ้านกันแล้ว"

"จริงเหรอคะ"

สาวเจ้าดีใจจนหน้าบานเช่นเดียวกับพ่อเลี้ยงหนุ่มรู้แบบนี้ก็โล่งใจที่คนชั่วจะได้รับการลงโทษเสียทีและเธอก็จะได้กลับไปหาย่าและไม่มีชื่อว่าได้ตายไปแล้วเสียที

"แล้วกลับมาเที่ยวหาผึ้งบ้างนะคะพี่หนึ่ง"

"ถ้ามีโอกาสพี่จะมาแน่นอน"

"โชคดีนะคะ"

หลังจากที่ร่ำลากันได้พักใหญ่ตอนนี้วันหนึ่งและน่านน้ำก็จะได้เตรียมตัวออกจากหมู่บ้านกันเสียทีโดยมีคำปันเป็นคนนำทางกลับ

"หลานย่าเป็นยังไงบ้างลูก..นี่แผลหนูเหรอต้องเจ็บมากแน่ๆใช่ไหม"

นฤดีเห็นหลานสาวตัวเองกลับมาได้ก็โผเข้ากอดแน่นน้ำตาคลอด้วยเป็นห่วงวันหนึ่งแทบขาดใจ น่านน้ำที่เห็นภาพเช่นนี้ก็ยิ่งรู้สึกผิดที่เขานั้นเป็นส่วนหนึ่วที่ทำให้หญิงสาวได้รับอันตราย

"ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ"

"ผมต้องขอโทษคุณย่าด้วยนะครับที่หนึ่งต้องมาเจ็บตัวก็เพราะผม"

"ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกคนชั่วพวกนั้นต่างหากที่ผิด"

นฤดีไม่ได้คิดโกรธอะไรน่านน้ำแม้แต่น้อยยังนึกขอบคุณชายหนุ่มเพราะได้ยินจากปากของไออุ่นว่าเขาดูแลหลานเธอเป็นอย่างดี

"ผมจะให้หนึ่งพักสักอาทิตย์นะครับแล้วผมจะมีสินน้ำใจปลอบใจให้เธอด้วย"

"ขอบคุณค่ะพ่อ​เ​ลี้ยง"

วันหนึ่งยิ้มปลื้มปริ่มที่น่านน้ำไม่เคยลืมว่าใครมีบุญคุณด้วยแม้จะเป็นเพียงแค่แม่ครัวตัวเล็กๆอย่างเธอคุณสมบัติที่ดีแบบนี้เหมาะแล้วที่จะเป็นพ่อของลูกเธอในอนาคต

"ช่วงนี้คุณย่าเป็นยังไงบ้างครับ"

เมื่อคุยธุระเรื่องของวันหนึ่งจบน่านน้ำก็หันมาถามเรื่องสุขภาพของย่าหญิงสาวต่อเพราะรู้มาตั้งแต่วันหนึ่งเข้าทำงานกับเขาแล้วว่าย่าของเธอป่วยกระเสาะกระแสะ

"อ๋อ..ฉันสบายดีค่ะสบายมากเลย"

นฤดีตอบกลับพ่อเลี้ยงหนุ่มเสียงชัดแจ๋วเธอเป็นคนมีอายุที่แข็งแรงไม่เป็นอะไรง่ายๆอยู่แล้วข้อนี้ที่เธอภูมิใจเพราะไม่ได้เป็นคนแก่ที่เป็นภาระลูกหลาน

"แต่หนึ่งบอกว่าคุณย่าป่วยหลายโรคแถมยังหลงๆลืมๆ"

คำตอบของนฤดีทำน่านน้ำเริ่มขมวดคิ้วและนฤดีเองก็ตกใจกับคำพูดของน่านน้ำเช่นกัน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status