"ครับคุณป้า..เธอมาหาผมแล้วครับ...ผมขออนุญาตดัดนิสัยสักหน่อยนะครับ"
น่านน้ำรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าวันหนึ่งจะมาที่นี่เพราะวิริยาโทรมาอธิบายกับเขาทุกอย่างว่าวันหนึ่งเข้าใจผิดเรื่องอะไรและตอนนี้เขาก็ไม่คิดถือโทษเธอแล้วแต่อยากจะแกล้งเพื่อดัดนิสัยหญิงสาวบ้างจะได้รู้ว่าการถูกพูดหรือกระทำไม่ดีใส่มันรู้สึกอย่างไร และก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ลืมโทรไปย้ำกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นหมอสายน้ำเอื้องฟ้าหรือไออุ่นว่าถ้าวันหนึ่งไปขอความช่วยเหลืออะไรห้ามช่วยทุกอย่าง
วันหนึ่งขับรถมาถึบ้านพ่อเลี้ยงหนุ่มได้เธอก็ลองเข้าครัวอีกสักตั้งเพราะยังไงก็จะพยายามง้อน่านน้ำให้สำเร็จ หญิงสาวอยู่ในครัวนานสองนานเพื่อที่จะทำปลาทับทิมนึ่งและน้ำจิ้มรสเด็ดที่น่านน้ำนั้นชอบเมื่อทำเสร็จนำมาวางที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยน่านน้ำก็กลับมาพอดี
"กลับมาแล้วเหรอคะหนึ่งเตรียมอาหารเย็นไว้ให้พ่อเลี้ยงพึ่งเสร็จเลยนะคะ"
"ผมมีปิ่นโตของผมแล้ว.."
คนตัวโตชูปิ่นโตเถาใหญ่ที่ถือกลับมาจากโรงครัวในไร่ให้วันหนึ่งได้เห็น จนวันหนึ่งเริ่มหน้าเจื่อนอีกครั้งที่ถูกน่านน้ำปฏิเสธอาหารของเธอ
"อ่อ...ถ้าคุณอยากจะอยู่ที่นี่ก็อยู่ไปผมจะไปนอนที่บ้านท้ายไร่"
"ถ้าถึงขนาดที่ไม่อยากจะอยู่ที่เดียวกับหนึ่ง.. เดี๋ยวหนึ่งไปเองก็ได้ค่ะ"
วันหนึ่งชาไปทั้งตัวเพราะรู้สึกว่าตัวเองทำให้น่านน้ำอึดอัดจนอยู่ไม่ได้แม้กระทั่งในบ้านของตัวเองเมื่อรู้ว่าเป็นเช่นนี้เธอคงไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว
"แค่นี้ก็ถอดใจ..ตอนทำคนอื่นเสียใจไม่เห็นจะสลดแบบนี้บ้างเลย"
น่านน้ำรีบวางปิ่นโตก่อนจะรีบเดินไปรั้งคนตัวเล็กที่กำลังจะเดินออกจากประตูบ้านไป
"หนึ่งทำดีที่สุดก็คือขอโทษ...ที่หนึ่งมาที่นี่เพราะสำนึกผิดแต่ถ้ามันทำให้พ่อเลี้ยงลำบากใจมากหนึ่งก็ขอไปดีกว่าค่ะ"
สาวเจ้าหันมามองน่านน้ำผ่านม่านน้ำตาเมื่อน้ำตาเจ้ากรรมกำลังเริ่มที่จะไหลอาบแก้มเธอก็ก้มหน้าก้มตายกมือเรียวเช็ดลวกๆภาพความน่าสงสารเช่นนี้จึงทำให้น่านน้ำทำตัวใจร้ายกับคนตัวเล็กไม่ได้อีกต่อไป
"คราวหลังมีเรื่องอะไรคาใจก็ถามกันให้เคลียก่อนคิดเองเออเองสิ..วันหน้าถ้าเป็นแบบนี้อีกจะโกรธจริงๆด้วย"
"หมายความว่า.."
ดวงตากลมโตแดงก่ำจับจ้องไปยังหน้าของน่านน้ำด้วยแววตาสงสัย
"ผมหายโกรธแล้ว.. แค่อยากดัดนิสัยขี้งอนของคุณเล่นเท่านั้นให้รับรู้ว่าการถูกงอนถูกพูดไม่ดีใส่มันเจ็บใจแค่ไหน"
"พ่อเลี้ยงงง.. ทำแบบนี้ทำไมคะใจเสียหมดเลย"
คนตัวเล็กรู้แบบนี้ก็พอจะยิ้มออกรีบโผเข้ากอดเอวของน่านน้ำเอาไว้แน่นทั้งซุกใบหน้ากับอกแกร่งเพื่อซับน้ำตา
"ทีคุณทำกับผมไว้แสบกว่านี้อีก"
สองแขนแกร่งรวบกอดยัยตัวแสบเอาไว้แน่นคราแรกว่าจะแกล้งเธอสักอาทิตย์แต่ก็ทำใจแข็งดูเธอเศร้าไม่ลงจริงๆ
สองหนุ่มสาวที่คืนดีกันได้หลังจากทานข้าวอาบน้ำเรียบร้อยก็มานั่งคุยพร้อมดูดาวกันที่ระเบียงบ้าน
"ทำไมแกล้งหนึ่งลงคะใจเสียหมดเลย"
"แล้วทีคุณพูดจาร้ายๆกับผมล่ะไม่ใจเสียหรือไง"
น่านน้ำเอ่ยด้วยท่าทีน้อยใจคนที่ยื่นหน้าแป้นแล้นมาถาม
จุ๊บบบ.. หลังจากนั้นก็ก้มลงจูบริมฝีปากบางน่าหมั่นเขี้ยวไปหนึ่งทีทำคนตัวเล็กหน้าแดงเป็นลูกตำลึงกะทันหัน
"พ่อเลี้ยง...ยังไม่แต่งงานกันเลยทำแบบนี้ไม่ได้ค่ะ"
"คุณยังเคยหอมแก้มผมเลย"
"ก็แค่หอมแก้มเอง"
"ผมว่าผมทำได้มากกว่านี้อีกในเมื่อเราแต่งงานกันแล้ว"
"ตอนไหนคะ"
"ในหมู่บ้านไงจำไม่ได้แล้วเหรอ"
ว่าจบก็รวบอุ้มคนตัวเล็กสาวเท้าพาเธอเข้าไปในห้องนอนก่อนจะวางเธอลงบนเตียงของตัวเองอย่างเบามือ
"จ.. จะทำอะไรคะ"
วันหนึ่งเห็นท่าไม่ดีจึงรีบดึงผ้านวมสีขาวผืนหนามาพันตัวเอาไว้เป็นดักแด้เรียกรอยยิ้มให้เจ้าของเตียงได้เป็นอย่างดี
"คิดว่าผมจะทำอะไรล่ะ"
น่านน้ำดึงคนที่พันตัวเองอย่างแน่นหนาเอาไว้ในอ้อมกอด
"เรายังไม่ได้แต่งงานกันจริงๆหนึ่งยังไม่พร้อมค่ะ"
สาวเจ้าเอ่ยด้วยสีหน้าระแวงถึงเขาจะเป็นว่าที่สามีแต่เธอก็จะไม่ยอมเขาตกเป็นของเขาง่ายๆโดยที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายกันหรอก
"เป็นอะไร.. ผมแค่จะนอนจับมือคุณแค่นั้นเองทำไม่ได้เหรอ"
น่านน้ำรู้ว่าคนในอ้อมกอดกำลังคิดอะไรและเขาก็ไม่ได้จะล่วงเกินเธอหากเธอไม่เต็มใจด้วย
"อ๋อ.. ก็.. ไม่บอกแต่แรก"
วันหนึ่งยิ้มเจื่อนที่แอบคิดไปไกลก่อนจะค่อยๆคลี่ผ้านวมออกจากตัวและกลับไปนั่งในอ้อมกอดของน่านน้ำดังเดิม
"แล้วก็จะฟัดคุณให้หายคิดถึงด้วย" ฟอดด ฟอดดด
"ว้าย..พ.. พ่อเลี้ยงง.. แก้มหนึ่งช้ำหมดแล้วค่ะ"
คนตัวเล็กเอี้ยวตัวหนีสุดแรงเมื่อถูกกดหอมจนแก้มแทบช้ำ
"โอเคๆ.. ไม่แกล้งแล้วก็ได้..อืม.. ผมถามอะไรคุณหน่อยสิ"
"อะไรคะ"
"ถ้าไม่ใช่เรื่องดวงคุณจะได้เข้ามาในชีวิตผมหรือเปล่า"
"ก็..ไม่รู้เหมือนกันค่ะแต่หนึ่งเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าถ้าคนคู่กันยังไงก็ต้องมีสักวันที่ได้บังเอิญเจอกันเองค่ะ"
"ผมดีใจ.. ที่ได้เจอคุณ.. คุณเข้ามาในชีวิตผมสร้างความปั่นป่วนให้ผมหายเหงาได้เยอะเลย"
"ความปั่นป่วนนี่ในความหมายของพ่อเลี้ยงนี่คือเรื่องดีใช่ไหมคะ"
"อืม.. ชอบสร้างเรื่องให้ไม่เหงาดี..เข้ามาในชีวิตผมแล้วก็อย่าออกไปไหนล่ะ"
"ไม่ไปแน่นอนค่ะ..จะอยู่ให้เบื่อหน้าไปเลย"
"นอนเถอะพรุ่งนี้เรามีธุระกันแต่เช้า"
"ธุระอะไรคะ"
"เราจะไปจดทะเบียนกัน"
"จริงเหรอคะ"
ดวงตากลมโตเป็นประกายทั้งยิ้มร่าจนแทบจะฉีกถึงหูเมื่อสิ่งที่เธอต้องการมันใกล้จะเป็นจริงแล้ว
"จริงสิ..ผมไม่อยากรอเวลาอะไรแล้วในเมื่อเจอคนที่ถูกใจก็รีบสร้างครอบครัวเลยวันข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที"
"เย่..ว่าแต่เราไม่ต้องบอกผู้ใหญ่ก่อนเหรอคะ"
"ผมบอกเรียบร้อยแล้ว"
"หืม.."
คิ้วบางเริ่มขมวดขึ้น
"บอกตั้งแต่ตอนคุณเดินทางกลับมาจากอิตาลีแม่คุณโทรบอกผมว่าคุณจะมาง้อผม..ผมเลยขออนุญาติท่านตั้งแต่ตอนนั้นว่าถ้าคืนดีกับคุณแล้วจะพาไปจดทะเบียนทางพ่อแม่ผมก็บอกเรียบร้อยแล้วด้วย"
"แสดงว่าแผนแกล้งหนึ่งทุกคนรู้เหรอคะ"
"ก็รู้กันหมด"
"หืม.."
มือเรียวล้วงหยิกเอวของพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยความหมั่นไส้
"โอ้ย..เจ็บๆ.. ถ้าไม่หยุดจะปล้ำจริงๆด้วย"
น่านน้ำรวบกอดคนตัวเล็กที่กำลังจะผุดลุกออกไปจากเขาก่อนจะดึงเธอนอนฟุบไปบนเตียงด้วยกัน
"หึ่ม.."
ใบหน้าจิ้มลิ้มตวัดมองค้อนชายหนุ่มเล็กน้อย
"เราอย่าทะเลาะกันเลยนอนกันดีกว่าวันนี้ผมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว"
น่านน้ำใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหวตอนนี้เขาได้แต่กอดหญิงสาวหลับตาพริ้มไม่นานนักเมื่อในห้องนอนมีแต่ความเงียบคนที่ถูกกอดเอาไว้แน่นก็หลับตามคนตัวโตไป
จริงอย่างที่วันหนึ่งว่าหากเธอไม่ได้เข้ามาในชีวิตของน่านน้ำเพราะเชื่อเรื่องดวง เธอก็อาจจะได้เจอเขาโดยบังเอิญก็เป็นได้หากเป็นเนื้อคู่กัน..
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไรท์ก็เชื่อว่าเรื่องดวงเป็นเพียงแนวทางของชีวิตแต่ชีวิตของเราจะดีหรือร้ายอยู่ที่เราเลือกจะกำหนดเองอยู่แล้ว
จบแล้วค่า....
ขอบคุณที่สนับสนุนไรท์นะคะ
“หนึ่งจะทำให้ได้ค่ะคุณย่า”วันหนึ่งพูดด้วยแววตาและน้ำเสียงที่แน่วแน่ดูซิทั้งสาวทั้งสวยอย่างเธอหรือจะมัดใจชายชาวไร่ไม่ได้ก็ให้มันรู้กันไปคุณหนูนักเรียนนอกที่พึ่งเรียนจบอย่าง วันหนึ่ง พิวัฒน์วรวงค์ ลูกสาวคนเดียวของสิทธิเดชและวิริยา พิวัฒน์วรวงค์เจ้าของธุรกิจจิวเวอร์รี่เพชรพลอยรายใหญ่ของประเทศเลือกที่จะเดินทางขึ้นเหนือมาตามคำทำนายที่ว่าเธอจะต้องรีบมีสามีภายในเวลาหกเดือนหลังเรียนจบวันหนึ่งเป็นหญิงสาวตัวกระเปี๊ยกหุ่นบางร่างน้อยผิวขาวอมชมพูผมลอนฟาร่าสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลังใบหน้ารูปไข่คิ้วบางได้รูปดวงตากลมโตมีแก้มเล็กน้อยปากนิดจมูกหน่อย นิสัยค่อนข้างเป็นยัยคุณหนูที่แอบซนเชื่อมั่นในตัวเองสูง เธอรักในการดูดวงและการที่ดำเนินชีวิตตามดวงเธอไม่ได้มีความเชื่อมาจากพ่อหรือแม่แต่ได้มาจากคนเป็นย่าอย่างนฤดีที่เชื่อเรื่องนี้มากและเป็นคนเลี้ยงหลานเองวันหนึ่งจึงได้รับการปลูกฝังมาเช่นนี้ณ บ้านไม้ยกสูงสองชั้นหลังขนาดกลางข้างบ้านเป็นสวนผักร่มรื่นน่าอยู่แห่งนี้อยู่ที่แถวชนบทของจังหวัดน่านเป็นบ้านของอุไรและไออุ่นสองแม่ลูกที่เคยอยู่กับนฤดีเมื่อครั้งที่วันหนึ่งยังเล็กๆ“คุณท่านแน่ใจนะคะว่าจะปล่อยให้คุณหนูทำตามแ
“ปิ่นโตค่ะพ่อเลี้ยง..ตอนนี้แม่ยังเดินไม่ค่อยไหวค่ะแต่ก็กินอะไรได้มากกว่าเดิมค่ะ”ไออุ่นวางปิ่นโตที่แม่เธอฝากเอามาให้น่านน้ำที่โต๊ะไม้สักใหญ่หน้าบ้านของพ่อเลี้ยงหนุ่มทั้งทักทายเจ้านายด้วยรอยยิ้มกว้างนับว่าวันนี้เธอโชคดีที่มาทันก่อนที่เขาจะออกไปข้างนอก“ว่างๆผมจะเข้าไปเยี่ยม”วันหนึ่งชะเง้อมองชายหนุ่มเบิกดวงดวงตากลมโตจ้องมองคนหล่อร่างกำยำทั้งริมฝีปากบางยังยกยิ้มเล็กน้อยปลื้มใจที่ผู้ชายในคำทำนายดูดีราวกับดารานายแบบแม้นเขาจะมีผิวคล้ำดำแดดบ้างก็ยังดูดีอยู่ดีแบบนี้เธอค่อยมีกำลังใจที่จะพิชิตหัวใจของเขาหน่อย“ขอบคุณค่ะ…เอ่อ..พ่อเลี้ยงคะนี่วันหนึ่งญาติห่างๆอุ่นเองค่ะว่าจะพามาสมัครเป็นแม่ครัวแทนแม่ไม่ทราบว่าพ่อเลี้ยงได้แม่ครัวใหม่หรือยังคะ”คนที่ถูกแนะนำยืนยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงเธอพยายามทำตัวเป็นมิตรที่สุดเท่าที่จะทำได้ทั้งท่องภาวนาในใจว่าให้เขานั้นรับเธอเข้าทำงานได้อย่างง่ายดายเรื่องทุกอย่างต่อจากนี้จะได้ง่ายขึ้น“อ่อ..ก็..”พ่อเลี้ยงหนุ่มมองไปยังคนที่ยิ้มไม่หุบแอบทั้งที่เขาก็หลบสายตาของเธออยู่หลายหนคิดในใจว่าเธอยังเป็นคนปกติดีอยู่หรือเปล่า“หนึ่งทำกับข้าวได้ทุกอย่างเลยนะคะพ่อเลี้ยงแถมยังทำงาน
"ญาติห่างๆอุ่นเองจ่ะพี่เอื้องชื่อวันหนึ่ง""แล้วพ่อเลี้ยงรับทำงานแล้วหรือไงถึงได้มาป้วนเปี้ยนที่นี่ก็รู้นี่ว่าพ่อเลี้ยงไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามที่นี่"คำพูดคำจาจีบปากจีบคอของเอื้องฟ้าทำวันหนึ่งเริ่มขมวดคิ้วเพราะดูออกว่าผู้หญิงหน้าสวยผิวน้ำผึ้งคนนี้ไม่มีความเป็นมิตรแม้แต่น้อย"ใช่จ่ะ""ฝากปิ่นโตไว้ให้พ่อเลี้ยงด้วยละกัน"เอื้องฟ้ายื่นปิ่นโตให้ไออุ่นพร้อมตวัดหางตามองวันหนึ่งแสดงออกให้หญิงสาวรู้ว่าตนไม่ชอบหน้าก่อนจะหันหลังสะบัดก้นเดินออกไป"ใครอะพี่อุ่นหน้าตาก็สวยนะแต่สายตาดูไม่เป็นมิตรเลย""พี่เอื้องฟ้าน่ะลูกลุงคำอ้ายผู้จัดการไร่ส่วนแม่เธอคือป้าดอกสร้อยแม่ครัวที่ไร่""อ๋อ..ก็เหมือนใหญ่ในไร่นี้งี้เหรอ""ก็ไม่ถึงขนาดนั้นแต่แค่เธอน่าจะชอบพ่อเลี้ยงเท่าที่พี่ดูแล้วเธอก็ไม่น่าจะชอบให้สาวๆมาอยู่ใกล้พ่อเลี้ยงล่ะมั้ง"ประโยคนี้ไออุ่นต้องกระซิบกระซาบกับวันหนึ่งด้วยรู้ว่าชนบทแห่งนี้หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง"อย่างนี้นี่เอง""ห่างเธอได้ก็ให้ห่างไว้เพราะน้อยคนที่นี่ที่จะชอบนิสัยเธอที่ทุกคนเกรงใจก็เห็นว่าเป็นลูกลุงคำอ้ายกับป้าสร้อยเท่านั้น"วันหนึ่งรู้แบบนี้คนที่เธอจะมองเป็นคู่แข่งคนแรกก็เห็นจะเป็นเอื้องฟ
“พ่อมีคนมาหา”ทรงพลลูกชายคนเดียวของทรงยศจอมอันธพาลในย่านนี้ที่ใครๆก็รู้จักดีเดินนำหน้าน่านน้ำขึ้นมาทีเรือนไม้ในห้องทำงานคนเป็นพ่อด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจพอสมควรเพราะน้อยครั้งนักที่คนของไร่เพชรพนาจะมาที่นี่แถมวันนี้ยังเป็นพ่อเลี้ยงของไร่เป็นคนมาเองด้วย“อ้าว..พ่อเลี้ยงทำไมถึงมาที่นี่กะทันหันได้หรือตัดสินใจได้แล้วว่าจะขายที่ให้ผม..อย่างว่าแหละน้าเด็กหนุ่มไฟแรงคนกรุงเทพอย่างคุณหรือจะมาทำสวนทำไร่”ทรงยศเสี่ยใหญ่ร่างท้วมรีบเข้ามาทักทายน่านน้ำหน้าระรื่นที่เห็นพ่อเล้ยงหนุ่มมาหาถึงที่ในยามเย็นเช่นนี้“ผมยังไม่ได้พูดอะไรเสี่ยก็อย่าคิดเองเออเองสิครับ...ผมไม่ได้อยากมาเหยียบที่นี่แต่ที่ต้องมาเพราะผมจะมาถามให้แน่ใจว่าสวนป่าของผมที่ถูกไฟไหม้เสี่ยไม่เกี่ยวข้องใช่หรือเปล่าครับเพราะผมคิดว่าคนอย่างเสี่ยคงจะไม่ใช้วิธีหมาลอบกัด”น่านน้ำยืนจ้องหน้าทรงยศด้วยสายตาและท่าทีที่ไม่ได้ให้ความเคารพเท่าไรเพราะเขาเชื่อว่าฝีมือการเผาสวนป่าก็คงไม่พ้นเป็นคนของทรงยศเพราะเป็นคนเดียวที่อยากได้ที่ของเขานักหนาและขึ้นชื่อเรื่องการเล่นสกปรกเป็นที่สุดด้วยไร่หลายที่ในจังหวัดน่านทรงยศก็ได้มาจากการคดโกงหรือไม่ก็ใช้อำนาจเงินและอิทธ
"กลับมาแล้ว"วันหนึ่งที่ขึ้นมาเดินเล่นบนชานบ้านเพื่อดูหมู่ดาวบนท้องฟ้าเมื่อได้เห็นรถกระบะสีดำขับเข้ามาเธอก็จำได้ว่าเป็นรถน่านน้ำจึงรีบวิ่งลงมารับหน้าพ่อเลี้ยงหนุ่มทันที"ทำไมยังไม่ไปพักผ่อน"น่านน้ำเปิดประตูลงจากรถได้ก็ขมวดคิ้วมองคนตัวเล็กในชุดนอนเจ้าหญิงสีชมพูปล่อยผมสยายด้วยแววตาฉงนว่าเธอมาทำอะไรตรงนี้เพราะตอนนี้ดึกพอสมควร"รอพ่อเลี้ยงกลับมาก่อนค่ะ"สาวเจ้าฉีกยิ้มตอบเสียงใส"อุ่นไม่ได้บอกหรือไงว่าไม่ต้องรอ"คนที่ถูกถามไม่ได้สนใจคำถามสักนิดเธอค่อยๆเดินเข้าไปเพ่งมองหน้าพ่อเลี้ยงหนุ่มใกล้ๆก็เห็นว่าใบหน้าของเขาเขียวช้ำแถมริมฝีปากยังมีรอยแตกเลือดซิบอีกต่างหาก"หน้าพ่อเลี้ยงเป็นอะไรคะทำไมช้ำแบบนั้น...เข้าบ้านก่อนค่ะเดี๋ยวหนึ่งทำแผลให้"วันหนึ่งรีบดึงมือน่านน้ำเข้าไปในบ้าน พฤติกรรมของหญิงสาวทำน่านน้ำตกใจพอสมควรเพราะน้อยคนนักที่จะเข้าถึงเนื้อถึงตัวของเขา"ไปมีเรื่องกับใครมาเหรอคะ"วันหนึ่งหยิบกล้องปฐมพยาบาลมาวางตรงหน้าน่านน้ำก่อนจะนั่งลงบนโซฟาข้างๆชายหนุ่มเธอเอาแต่มองรอบๆหน้าของคนบาดเจ็บด้วยสายตาที่เป็นห่วงทั้งยังอยากรู้ว่าเขาไปทำอะไรมากันแน่ถึงได้มีสภาพกลับมาเช่นนี้"คุณไปพักเถอะผมทำแผลเองไ
"แม่หนูจะไปไหนล่ะน่ะ"คำอ้ายขับรถกระบะตอนเดียวสีน้ำตาลคันเก่ามาทางที่จะไปฟาร์มแกะเมื่อเห็นมีผู้หญิงตัวเล็กเดินจูงจักรยานอยู่ตรงหน้าจึงรีบขับมาเทียบจอดถาม"อ๋อ..คือหนึ่งจะเอาปิ่นโตไปส่งพ่อเลี้ยงที่ฟาร์มแกะน่ะค่ะคุณลุง"วันหนึ่งหันมาตอบตอบคนที่ถามพร้อมยกมือปาดเหงื่อสองสามครั้งและส่งยิ้มร่าอย่างเป็นมิตรกับคนที่ถามด้วยรู้ว่าตอนนี้กำลังมีคนจะช่วยเหลือเธอแล้ว"อ๋อ..หนูเองเหรอที่เป็นแม่ครัวคนใหม่ลุงชื่อคำอ้ายเป็นผู้จัดการไร่..แล้วจักรยานเป็นอะไรถึงต้องจูง"คำอ้ายมองสำรวจไปยังคนตัวเล็กผิวขาวสวมหมวกคาวบอยสีน้ำตาลเขาก็พอจะรู้แล้วว่าเธอเป็นแม่ครัวคนใหม่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มเพราะเธอสวยน่ารักเหมือนกับที่เอื้องฟ้าได้เปรยให้ฟังมิน่าลูกตนถึงได้มีท่าทีไม่ชอบใจเมื่อพูดถึงแม่ครัวคนนี้เท่าไรนัก"หนึ่งปั่นไม่เป็นค่ะแต่พ่อเลี้ยงบอกให้เอาจักรยานไปพร้อมกับปิ่นโตหนึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมพ่อเลี้ยงไม่เอาจักรยานขึ้นรถกระบะไปตั้งแต่แรก""งั้นเดี๋ยวเอาขึ้นรถลุงไปลุงกำลังจะไปฟาร์มแกะพอดี"สาวเจ้าบ่นน้ำเสียงอู้อี้ทำคำอ้ายยิ้มออกคิดว่ามีบางอย่างที่พ่อเลี้ยงหนุ่มสื่อสารกับแม่ครัวตัวเองพลาดแน่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาที่ทำตอนนี้ก
“หนึ่งอยากทำงานที่นี่จริงๆตอนนี้หนึ่งไม่มีที่ไปหนึ่งพาย่ามาขออาศัยบ้านป้าอุไรแถมย่าหนึ่งก็ป่วยหลงๆลืมๆทานอะไรก็ไม่ค่อยจะได้หนึ่งต้องทำงานเก็บเงินเอาไว้รักษาย่าค่ะแล้วอีกอย่างนึงหนึ่งก็อยากมีอาชีพเผื่อวันหน้าจะได้มีบ้านอยู่ของตัวเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งญาติพี่น้อง”วันหนึ่งใช้ลูกอ้อนอย่างเต็มที่ดวงตากลมโตจ้องพ่อเลี้ยงหนุ่มเรียกร้องความสงสารไม่ขาดระยะจนน่านน้ำต้องหลบสายตาของเธออยู่หลายจังหวะด้วยรู้กำลังรู้สึกใจอ่อนไปกับคำพูดที่เรียกร้องความสงสาร“เฮ้อ..!”เป็นอีกครั้งที่น่านน้ำต้องถอนหายใจให้กับแม่ครัวที่ชื่อวันหนึ่งคนนี้“สงสารหนึ่งเถอะนะคะ..หนึ่งจะไม่ให้มันเกิดความผิดพลาดอะไรอีก..นะคะพ่อเลี้ยง..นะค้า..”มือน้อยเกาะเขย่าขาคนที่เอาแต่หันหน้าหนีเธอพยายามออดอ้อนเช่นดั่งที่เคยออดอ้อนคนในครอบครัววิธีนี้เธอใช้ได้ผลทุกครั้งและภาวนาว่าจะใช้ได้ผลกับพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วย“อืม”เสียงตอบกลับสั้นๆห้วนๆของน่านน้ำทำวันหนึ่งหายความกังวลใจไปปลิดทิ้งใช่แล้ววิธีการขอความเห็นใจเช่นนี้เธอใช้มันได้ผล“แต่..ห้ามพลาดอะไรอีกเข้าใจหรือเปล่าทำอะไรต้องมีสติรอบคอบใส่ใจกับสิ่งที่ทำเสมอ”“หนึ่งจะจำไว้ค่ะพ่อเลี้ยง..พ่อเลี้ย
"ก็..จบแค่ม.ปลายค่ะเคยเป็นแม่บ้านมาก่อนนี่แหละค่ะ""ทำไมอ่านภาษาอังกฤษได้คล่อง"ดวงตาคมเริ่มจ้องแม่ครัวคนใหม่เขม็งเพราะความสงสัยในตัวของเธอเริ่มทวีคูณมากขึ้น"ก็..ขยันอ่านหนังสือสิคะสมัยนี้สื่อการเรียนการสอนเข้าถึงง่ายมากเลยนะคะพ่อเลี้ยง"วันหนึ่งยังคงหาทางหนีทีไล่คนที่ถามได้ตลอดแอบภูมิใจกับตัวเองในใจที่ตนนั้นหัวไวอยู่เหมือนกันและเชื่อว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มคงจะไม่กังขาในความรู้ของเธอด้วยสมัยนี้สื่อการเรียนการสอนมีได้ทุกที่อยู่ที่ใครอยากจะหาความรู้เพิ่มเติมหรือไม่เท่านั้น"อืม..”น่านน้ำนิ่งไปครู่หนึ่งทำเอาวันหนึ่งเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าคนตรงหน้าจะเชื่อสิ่งที่เธอพูดหรือไม่“ผมชื่นชมนะคนเราถึงจะไม่ได้ร่ำเรียนมาสูงแต่รู้จักขวนขวายอันนี้ถือเป็นข้อดี""ขอบคุณที่ชมหนึ่งนะคะ..เดี๋ยวหนึ่งขอตัวไปทำความสะอาดส่วนอื่นก่อนนะคะ""อืม"วันหนึ่งยิ้มร่าอย่างโล่งอกและรีบเดินปรี่ออกไปจากห้องทำงานของน่านน้ำทันทีก่อนจะมีคำถามอะไรมาเพิ่ม ยังไม่ทันที่สาวเจ้าจะได้เดินผ่านห้องทำงานของน่านน้ำไปไกลเมื่อเห็นว่าประตูห้องนอนของพ่อเลี้ยงหนุ่มเปิดอยู่เธอก็รีบแทรกตัวเข้าไปในนั้นทันทีเพราะเมื่อตอนที่ไออุ่นพาดูห้องที่ต้องทำควา