บุปผาต้องมนตร์

บุปผาต้องมนตร์

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
โดย:   เพลงมีนา  อัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel18goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
120บท
957views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
แสดงความคิดเห็นของคุณในแอพพลิเคชัน

จากบุปผาร่ายรัก สู่เรื่องราวของรองแม่ทัพหนุ่มกับหมอหญิง : บุปผาต้องมนตร์ มู่ฟางเหนียงได้รับถ่ายทอดวิชาแพทย์จากบิดาผู้ได้ฉายาหมอเทวดา นางติดตามบิดารักษาผู้คนไปทั่วหล้าจนกระทั่งมาพบกับจ้าวจิ่นสือบุตรชายแม่ทัพใหญ่ผู้รับตำแหน่งรองแม่ทัพ จู่ๆมู่ฟางเหนียงหายตัวไป จ้าวจิ่นสือจำเป็นต้องไปต่างเมือง เขาได้พบมู่ฟางเหนียงอีกครั้ง แต่นางจำเขาไม่ได้ เพราะประสบอุบัติจนความจำเสื่อม เขาจึงถือโอกาสนี้แก้ไขความผิดพลาดที่เคยรังแกนางบอกกับนางว่าตนคือคือหมั้นของนาง

ดูเพิ่มเติม

บทล่าสุด

การดูตัวอย่างฟรี

Chapter 1. บทนำ

หลังจากสูญเสียภรรยาไป มู่หยางซัวก็พาบุตรสาวเพียงคนเดียวที่ภรรยาทิ้งไว้เป็นดั่งสมบัติล้ำค่าออกเดินทางรอนแรมเร่ร่อนไร้จุดหมาย เพียงเพื่อใช้วิชาแพทย์ของตนรักษาผู้อื่น มู่ฟางเหนียงไม่เคยนึกน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาของตนเอง กลับเรียนรู้วิชาแพทย์จากบิดาและช่วยเหลือเป็นดั่งมือขวา ไม่เพียงแค่เรื่องการรักษา นางยังต้องทำหน้าที่ของลูกสาวที่ต้องดูแลปรนนิบัติบิดาด้วย จนกระทั่งสองปีก่อนบิดาได้ข่าวว่าทางชายแดนมีสงคราม ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหนา มู่ฟางเหนียงติดตามบิดาไปโดยไม่คัดค้าน เมื่อไปถึงนางกับบิดาก็โชคดีได้รู้จักกับเศรษฐีใจบุญ เมื่อรู้เจตนาของบิดาจึงให้เรือนไม้หลังเก่าเป็นที่พักอาศัยและเป็นโรงหมอสำหรับรักษาคนเจ็บคนป่วย แต่เนื่องจากสองพ่อลูกไม่ได้ทรัพย์สินอะไรติดตัวมากนัก ก็ได้ท่านเศรษฐีช่วยดูแลแบ่งปันอาหารมาให้ ชาวบ้านยากจนซ้ำอยู่ในสภาวะสงคราม ยาจึงเป็นสิ่งสูงค่า นางตัดสินใจเข้าไปหาสมุนไพรเพื่อให้บิดาได้ใช้เป็นยารักษาคนเจ็บ ทว่า...นางกลับหลงป่าอยู่สามวัน ในขณะที่กำลังสิ้นหวังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็พบหญิงสาวท่าทางโผงผาง แต่ใบหน้ากลับมีรอยยิ้มสดใส “เจ้ามาทำอะไรที่นี่” “ข้า...ข้า ข้าหลงทาง” นา...

หนังสือน่าสนใจจากยุคเดียวกัน

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
120
Chapter 1. บทนำ
หลังจากสูญเสียภรรยาไป มู่หยางซัวก็พาบุตรสาวเพียงคนเดียวที่ภรรยาทิ้งไว้เป็นดั่งสมบัติล้ำค่าออกเดินทางรอนแรมเร่ร่อนไร้จุดหมาย เพียงเพื่อใช้วิชาแพทย์ของตนรักษาผู้อื่น มู่ฟางเหนียงไม่เคยนึกน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาของตนเอง กลับเรียนรู้วิชาแพทย์จากบิดาและช่วยเหลือเป็นดั่งมือขวา ไม่เพียงแค่เรื่องการรักษา นางยังต้องทำหน้าที่ของลูกสาวที่ต้องดูแลปรนนิบัติบิดาด้วย จนกระทั่งสองปีก่อนบิดาได้ข่าวว่าทางชายแดนมีสงคราม ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหนา มู่ฟางเหนียงติดตามบิดาไปโดยไม่คัดค้าน เมื่อไปถึงนางกับบิดาก็โชคดีได้รู้จักกับเศรษฐีใจบุญ เมื่อรู้เจตนาของบิดาจึงให้เรือนไม้หลังเก่าเป็นที่พักอาศัยและเป็นโรงหมอสำหรับรักษาคนเจ็บคนป่วย แต่เนื่องจากสองพ่อลูกไม่ได้ทรัพย์สินอะไรติดตัวมากนัก ก็ได้ท่านเศรษฐีช่วยดูแลแบ่งปันอาหารมาให้ ชาวบ้านยากจนซ้ำอยู่ในสภาวะสงคราม ยาจึงเป็นสิ่งสูงค่า นางตัดสินใจเข้าไปหาสมุนไพรเพื่อให้บิดาได้ใช้เป็นยารักษาคนเจ็บ ทว่า...นางกลับหลงป่าอยู่สามวัน ในขณะที่กำลังสิ้นหวังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็พบหญิงสาวท่าทางโผงผาง แต่ใบหน้ากลับมีรอยยิ้มสดใส “เจ้ามาทำอะไรที่นี่” “ข้า...ข้า ข้าหลงทาง” นา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
อ่านเพิ่มเติม
Chapter 2.มู่ฟางเหนียง
หญิงสาวมองผู้เป็นพ่อกินอาหารมื้อเย็นด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นว่าบิดากินอาหารได้มากนางก็พลอยเบิกบาน เพราะนี่เป็นหน้าที่ของลูกสาวอย่างนางที่ต้องดูแลปรนนิบัติผู้ให้กำเนิดอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง “นั่งมองพ่อกินแล้วเจ้าจะอิ่มหรือไม่” “เห็นท่านพ่อกินข้าวได้มาก ลูกก็พลอยอิ่มไปด้วย” “เจ้าทำอะไร พ่อก็กินทั้งนั้นละ” ผู้เป็นบิดาส่ายหน้าไปมา แต่ลูกสาวทำหน้าโอดครวญ “ท่านพ่อนี่ขี้เหนียวจริง จะชมฝีมือการทำอาหารของลูกสักคำมิได้หรือไร” “เจ้าก็ย่อมรู้อยู่ว่าฝีมือทำอาหารของเจ้าไม่ธรรมดา” ผู้เป็นพ่อพูดน้ำเสียงเนิบช้า แต่ลอบมองบุตรสาวด้วยความรักใคร่เอ็นดู “หลายปีมานี่ ลำบากเจ้าจริงๆ” “ลูกบ่นลำบากรึ” หญิงสาวหัวเราะเสียงใส “ลูกโชคดีที่มีท่านพ่อเช่นท่าน” “พูดจาเอาใจพ่ออย่างนี้ จะเอาอะไรจากพ่อเล่า” “ท่านพ่อ ไยท่านคิดเช่นนั้นเล่า ลูกก็แค่เป็นห่วงท่านพ่อ วันทั้งวันต้องเคี่ยวยา ไหนจะต้องตรวจคนเจ็บป่วยอีก ลูกก็อยากให้ท่านพ่อได้พักผ่อน กินข้าวอิ่มท้องก็เท่านั้นเอง” “เอาละ ยังไงเรื่องอาหารการกินของพ่อก็อ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
อ่านเพิ่มเติม
Chapter 3. เป็นผู้ใด
รถม้าจอดสนิทแล้ว สองพ่อลูกค่อยๆ ลงจากรถโดยมีคนรับใช้มาคอยช่วยถือสัมภาระให้ด้วยกิริยานอบน้อม หมอไม่ใช่อาชีพที่คนทั่วไปนับถือนัก แต่เมื่อเห็นกิริยาของคนรับใช้จวนแม่ทัพแล้ว แสดงว่าได้รับการอบรมมาดี มู่ฟางเหนียงเดินตามแผ่นหลังของบิดา คฤหาสน์หลังงามหรือแม้แต่บ้านไร้หลังคานางล้วนผ่านมาหมดแล้วจึงไม่ได้แสดงอาการตื่นเต้นออกไป มีเพียงท่าทางสงบเสงี่ยมเรียบร้อย เดินตามทางที่พ่อบ้านเดินนำไปถึงห้องพัก นางก็ได้ยินเสียงกลั้นสะอื้นของหญิงวัยกลางคน มู่ฟางเหนียงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความเข้าใจความรู้สึกนี้ คนบนเตียงนั้นคงเป็นที่รักของคนที่รายล้อมอยู่ หมอมู่หยางซัวยกมือประสานคารวะแม่ทัพจ้าวซื่อก่วง แม่ทัพเพียงผงกศีรษะรับ “เป็นข้าที่ต้องขอบคุณที่ท่านมากลางดึกเช่นนี้” “คนเจ็บคนป่วยล้วนรอไม่ได้ ท่านแม่ทัพอย่าได้เกรงใจไปเลย” หมอมู่หยางซัวเดินเข้าไปใกล้เตียงของคนเจ็บ เพราะอาการสาหัสจึงไม่มีม่านโปร่งบังตามธรรมเนียม ทว่าเพียงเห็นใบหน้าซีดเซียวของคนที่นอนหายใจรวยรินก็ต้องสะดุ้ง อาการตื่นตกใจของท่านหมอมู่ทำให้ท่านแม่ทัพขมวดคิ้วด้วยเข้าใจว่าอาการของลูกสาวบุญธ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
อ่านเพิ่มเติม
Chapter 4. เข้าใจดี
พูดว่าหลงทาง นางก็ยิ้มฝืนไปทันที ข้อด้อยที่สุดของนางคือนิสัยหลงทิศและจำทางไม่ได้นี่แหละตอนที่ยังเด็กกว่านี้ นางมักหลงทางอยู่บ่อยๆ แม้จะพยายามจดจำแค่ไหน ระยะทางใกล้หรือไกลนางก็หลงอยู่เสมอ พ่อจะถักสร้อยร้อยกระพรวนใส่ข้อมือให้ อย่างน้อยก็ได้ยินเสียงเวลาที่นางเดินไปไหนมาไหน นางฝึกฝนท่องตำรายาและจดจำการกดจุดฝังเข็มได้อย่างแม่นยำ ทว่ากลับหลงทางง่ายยิ่งกว่าเด็กเจ็ดแปดขวบเสียอีก ยิ่งพยายามก็รู้สึกว่ายิ่งทำให้แย่ลง แอบบำรุงตัวเองด้วยสมุนไพรแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หลงทิศน้อยลงสักนิด นานวันเข้าก็เริ่มถอดใจ นางจึงเลี่ยงที่จะไม่ไปไหนคนเดียว แม้หัวใจของนางจะโบยบินไปในท้องฟ้าแล้วก็ตามยาเคี่ยวได้ที่แล้ว แต่ยังไม่มีคนมารับนาง หัวคิ้วขมวดยุ่ง เอาอย่างไรดี ยาควรดื่มตอนที่ยังร้อนอยู่ เอาเถอะ ถือออกไปก่อน คนในจวนมีเยอะแยะ นางถามทางกับใครก็ได้ เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็ประคองชามยาออกไป อาจเพราะว่าดึกแล้ว ในจวนถึงเงียบนัก เงียบไม่เท่าไหร่แต่นางไม่เห็นใครที่จะถามทางได้สักคนใจเย็นหน่อยฟางเหนียง เมื่อครู่เดินผ่านอะไรมาบ้างนะ ค่อยๆ นึกและเดินตามทางเดิมซิหญิงสาวสงบใจแล้วเดินตามทางที่ตัวเองคิดว่าเดินผ่านมาเมื่อครู่ ขณะ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
อ่านเพิ่มเติม
Chapter 5. เมื่อไรนางจะฟื้น
มู่ฟางเหนียงค่อยๆ ลงจากบันไดแล้วยืนเท้าเอวจ้องหน้าบิดาก่อนจะเปิดรอยยิ้มสดใสออกมา “เห็นท่านพ่อจ้องลูกตั้งนานแล้ว ท่านจะพูดอะไรก็พูดมาเถิด” หญิงสาวหัวเราะออกมา นางมักยิ้มและหัวเราะง่ายเช่นนี้ ผิดกับบิดาที่มักมีสีหน้าเรียบนิ่งและดูสงบเยือกเย็น “เจ้านี่นะ พ่อยังไม่ทันพูดก็มารู้ความคิดพ่อเสียแล้ว” บิดาถอนหายใจเบาๆ และคลี่ยิ้มที่มุมปาก “ลูกไม่รู้ว่าท่านพ่อคิดอะไร” หญิงสาวส่ายหน้าไปมา “รู้แค่ว่าท่านมีเรื่องอยู่ในใจแต่ปากหนักมิกล้าเอ่ย” “หน้าตาพ่อดูออกขนาดนั้นเลยรึ” ผู้เป็นพ่อหัวเราะขึ้นมา “ถ้าเป็นคนป่วยก็เห็นอาการชัดเลยละเจ้าค่ะ” หญิงสาวหัวเราะเสียงใส การที่ในโรงหมอไม่มีผู้อื่น ทำให้นางไม่ต้องคอยระวังรักษากิริยาตัวเองให้เรียบร้อยนัก “ว่าแต่ท่านพ่อมีเรื่องอันใดเจ้าคะ อย่าให้ลูกเดาอยู่เลย” มู่หยางซัวถอนหายใจแล้วยกมือดึงเอาเศษใบไม้บนศีรษะของลูกสาวออกอย่างเบามือ “ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่แล้วเหนียงเอ๋อร์” “ท่านพ่อแก่ขนาดหลงลืมอายุลูกสาวคนเดียวได้อย่างไรกัน” นางเบ้ปากน้อยๆ “ใช่ๆ พ่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
อ่านเพิ่มเติม
Chapter 6. สงบใจ
“อืม” หมอมู่พยักหน้ารับแล้วหันไปทางลูกสาว นางเดินผลุบหายไปหยิบล่วมยาส่งให้บิดา “เจ้าอยู่บ้านดีๆ ล่ะ” “เจ้าค่ะ” นางรับคำแล้วมองบิดาออกไปกับคนกลุ่มนั้น ใบหน้าหวานระบายยิ้ม ท่านพ่อนี่ก็พูดเหมือนนางจะออกไปที่ไหนได้ หญิงสาวเดินวนกลับเข้าไปในครัว หลังจากไปรักษาเคอหลิ่งหลินที่จวนแม่ทัพจ้าว นอกจากจะได้ค่ารักษามาแล้ว ฮูหยินอี้ซิ่วยังจิตใจดี แบ่งปันแป้งข้าวโพดและแป้งสาลีมาให้นางไว้ทำอาหาร คงเพราะได้ยินมาว่าสองพ่อลูกรักษาผู้คนไม่รับเงินแต่ก็ไม่มีรายได้ จึงแบ่งปันของกินของใช้มาให้ นางไม่แปลกใจเลยที่เคอหลิ่งหลินเป็นคนจิตใจงามเพราะดูจากฮูหยินและท่านแม่ทัพแล้วก็ล้วนเป็นผู้มีเมตตามีแต่บุรุษผู้นั้น นางได้เจอเขาเพียงครั้งเดียวในวันแรกที่ได้เข้าจวนแม่ทัพจ้าว แล้วก็ไม่ได้พบเขาอีก ใบหน้าหล่อเหลาคมคายแบบที่สังหารสตรีได้เพียงยิ้มเดียว ทว่าหนึ่งในนั้นไม่ใช่นางอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่รบกวนนางก็คือสายตาของเขายามจ้องมองเคอหลิ่งหลินที่บาดเจ็บสาหัส แววตามีความห่วงหาอาทรปนปวดร้าวแจ่มชัด นางไม่กล้าเอ่ยปากถามว่าเขาเป็นใคร ดูจากที่เขารำเพลงกระบี่ระบายโทสะนั้นแล้วคงเป็นทหารคนหนึ่งแต่นางก็ไม่กล้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
อ่านเพิ่มเติม
Chapter 7.  เอาไปสิ
“จริงด้วย ช่วงนี้ข้านอนไม่ค่อยหลับ ซ้ำยังเจ็บคออีกด้วย”“ข้าน้อยจะเขียนเทียบยาให้ เป็นยาบำรุงสุขภาพเจ้าค่ะ” น้ำเสียงหวานใสเอ่ยอย่างสงบ ชวนให้คนฟังสบายใจ “ส่วนท่านหญิง ข้าน้อยจะปรับยาบำรุงให้”“เสียงของเจ้านี่ทำให้คนฟังสงบใจลงได้มาก เอาละ...ข้าเห็นเจ้าอยู่ก็สบายใจ ใจจริงอยากเชิญเจ้ากับพ่อของเจ้ามาอยู่เสียด้วยกันจนกว่าหลิ่งหลินจะฟื้น แต่สามีข้าก็เตือนสติว่าพวกเจ้าเป็นหมอ ชาวบ้านเดือดร้อนเจ็บป่วยจะไปหาใคร หากท่านหมอมู่ว่าไม่เป็นอะไร ข้าก็ย่อมต้องเชื่อใจผู้เป็นหมอ”“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ”“เอาละ ข้าจะไปพักผ่อนเสียหน่อย ขาดเหลืออะไรเจ้าก็บอกชุนเอ๋อร์หรือพ่อบ้านได้”“ข้าน้อยทราบแล้วเจ้าค่ะ”จ้าวฮูหยินตบหลังมือของมู่ฟางเหนียงเบาๆ และมองใบหน้าอ่อนหวานอย่างเอ็นดู แม้หญิงสาวตรงหน้าจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเนื้อหยาบและสีซีดจางจากการซักหลายต่อหลายครั้ง แต่ดวงตาที่เป็นประกายและกิริยาอ่อนหวานนี้เป็นที่น่าประทับใจเสียจริง“อ่อ! ได้ยินว่าเจ้าชอบอ่านหนังสือ ในห้องตำรามีหนังสือมากมายนัก เจ้าจะหยิบยืมไปอ่านที่บ้านก็ได้ แต่ต้องเอากลับมาคืนนะ”“จริงหรือเจ้าคะ” ดวงตากลมเบิกกว้างอย่างดีใจ แล้วก็นึกว่าได้ว่าแสดงอาการ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
อ่านเพิ่มเติม
Chapter 8. เจ้าเข้ามาทำอะไรที่นี่
ชายหนุ่มชะงักชักมือกลับทันทีที่รู้สึกได้ว่ามีความเคลื่อนไหวอยู่หน้าประตู เขายืดตัวขึ้น มือไพล่หลังและหันไปมองทางประตูราวกับรอคอย เพียงอึดใจบานประตูก็เปิดออกพร้อมกับร่างของสาวใช้ที่ประคองอ่างน้ำเข้ามาในห้อง “คุณชาย” ชุนเอ๋อร์จะย่อกายคารวะ แต่จ้าวจิ่นสือยกมือห้ามไว้ก่อน “มีอะไรก็ทำเถอะ ข้าแค่แวะมาดูอาการนางเท่านั้น” “เมื่อครู่แม่นางมู่ก็เข้ามาตรวจดูอาการคุณหนูแล้วเจ้าค่ะ” ชุนเอ๋อร์รายงาน “ท่านหมอไม่ได้มาตรวจเองรึ” “เห็นว่าต้องไปรักษาคนเจ็บที่อื่น แม่นางมู่จึงมาดูอาการคุณหนูแทนเจ้าค่ะ” ชายหนุ่มอยากถามอะไรต่อ แต่เห็นว่าอีกฝ่ายคงจะเตรียมเช็ดตัวให้หญิงสาวที่หลับใหล จึงได้แต่พยักหน้ารับรู้ กำลังจะเดินออกไป ก็มองเห็นขนมจินเดในจานที่วางบนโต๊ะ หัวคิ้วขมวดด้วยความสงสัยจนต้องเอ่ยปากถาม “หลิ่งหลินยังไม่ฟื้น ไยมีขนมของหวานในห้องนี้ได้” จำได้ว่าพี่สาวต่างสายเลือดคนนี้โปรดกินขนมหวานนัก เรียกว่ากินแทนข้าวก็ยังได้ “เป็นของแม่นางมู่เจ้าคะ นางบอกว่าคุณหนูชอบขนมหวานนัก เผื่อได้กลิ่นจะได้กระตุ้นให้นา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
อ่านเพิ่มเติม
Chapter 9. จนปัญญา
เขากอดอกมองหญิงสาว นี่คงจนปัญญาจะหาคำแก้ตัวเลยละสิ เขาได้แต่เค้นเสียงหัวเราะในลำคอ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย “เลือกหนังสือได้แล้วก็ออกไปสิ ข้าต้องใช้ห้องนี้” “ข้าน้อยยังเลือกหนังสือไม่เสร็จ” พูดจาถ่อมตนแต่กลับกล้าถลึงตาใส่อย่างไม่กลัว แม้เขาจะสูงใหญ่กว่านางนัก“แล้วท่านเข้ามาใช้ห้องนี้ ได้รับอนุญาตจากจ้าวฮูหยินแล้วรึ” “ข้า...” คราวนี้เป็นเขาที่พูดไม่ออก เรื่องต่อปากต่อคำกับสตรีเขาไม่ถนัดนัก ผู้หญิงสองคนที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติและไม่ต้องระวังอะไรนักก็คือท่านแม่และเคอหลิ่งหลิน ครั้นจะโต้เถียงกับนางก็ใช่เรื่อง ซ้ำร้ายดูท่าทางนางจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขากัดริมฝีปากกลั้นหัวเราะแสร้งทำดุดันไปอย่างนั้น “เช่นนั้นเจ้าก็เลือกเร็วๆ แล้วรีบๆ ออกไปเสียสิ” “แล้วตกลงท่านได้รับอนุญาตแล้วรึ” นางยังอยากเอาชนะเขาอยู่ด้วยการโต้เถียงแบบเด็กๆ “เอาเป็นว่าข้าได้รับคำสั่งจากท่าน...แม่ทัพให้มาที่นี่ก็แล้วกัน” เกือบจะหลุดปากเรียกท่านพ่อออกมาแล้ว “คงโดนลงโทษละสิ” นางพึมพำแล้วหมุนตัวเลือกหยิบตำราแพทย์อีกสองเล่มมาไว้ในอ้อม
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
อ่านเพิ่มเติม
Chapter 10. น้องชาย
“น้องชาย?” ชุนเอ๋อร์ทำหน้าประหลาดใจกับคำถามที่ได้ยิน “คุณหนูเป็นลูกคนเดียว บิดาแท้ๆ ของนางปกป้องท่านแม่ทัพจนตัวเองตาย ท่านแม่ทัพจึงรับคุณหนูเป็นลูกบุญธรรม ไม่มีพี่น้องที่ไหน ยกเว้นคุณชายจ้าวจิ่นสือที่เจ้าเจอเมื่อครู่ คุณชายเป็นบุตรคนเดียวของแม่ทัพจ้าวกับฮูหยินอี้ซิ่ว เมื่อท่านแม่ทัพรับคุณหนูมาเป็นลูก ทั้งสองก็เปรียบเสมือนพี่น้องกัน คอยดูแลซึ่งกันและกันมาตลอด” “เปรียบเสมือนพี่น้อง...คนผู้นั้นคงไม่ใช่น้องชายของ...” นางเริ่มทำหน้าไม่ถูก หวังว่าการคาดเดาของนางจะผิดพลาด “เรื่องนี้มีแต่คนในจวนเท่านั้นที่รู้ คุณชายพลั้งเผลอยอมให้คุณหนูเป็นพี่สาว ทั้งที่อายุห่างกันเพียงแค่ห้าเดือนเท่านั้น”พูดแล้วชุนเอ๋อร์ก็ป้องปากหัวเราะเบาๆ นางติดตามรับใช้คุณหนูมานาน เรื่องราวของนายนินทาไม่ได้ แต่ไม่ถึงกับห้ามพูดถึง นางเพิ่งรู้สึกว่าคนที่เดินตามมาหยุดเดินจึงหันไปดู เห็นสีหน้าตกใจของมู่ฟางเหนียงแล้วก็อดถามไม่ได้“มีอะไรรึ”“มะ..ไม่...ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ”นางยิ้มฝืดออกมาแล้วเดินตามชุนเอ๋อร์ ในใจว้าวุ่นยิ่งนัก อย่าบอกนะว่า...ชายผู้นั้นคือ ‘น้องชาย’ ของพี่สาวคนดีของนาง.
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
อ่านเพิ่มเติม
DMCA.com Protection Status