Share

บทที่29 คิดถึง

"หา.."

วันหนึ่งเริ่มหน้าเสียและขยิบตาเล็กน้อยเพื่อให้ย่าเธอได้รู้ว่าควรตามน้ำไปก่อน

"อ..อ๋อ..ใช่..ค่ะฉันป่วย..โอ้ยฉันก็ขี้หลงขี้ลืมอย่างนี้นั่นแหละค่ะ"

"รักษาสุขภาพด้วยนะครับถ้าอยากให้ผมช่วยอะไรบอกได้เลยตอบแทนที่หนึ่งช่วยชีวิตผมเอาไว้"

"ขอบคุณนะคะพ่อเลี้ยงใจดีจริงๆ"

แววตาของนฤดีมีแววชื่นชมว่าที่หลานเขยคนนี้พอสมควร

"ผมขอตัวกลับไร่ก่อนนะครับ.."

"บ๊ายบายค่ะพ่อเลี้ยง"

คนที่หันหลังกลับไปแล้วหยุดชะงักฝีเท้าและหันมายิ้มให้คนที่เอ่ยลาเสียงเจื้อยแจ้วก่อนจะรีบขับรถกลับไปที่ไร่เพราะมีหลายอย่างเกี่ยวกับคดีของปู่ที่เขาจะต้องไปพูดคุยกับตำรวจ

"สายตาที่เค้ามองหลานย่าดูเยิ้มเป็นพิเศษนะ"

หลังจากพ่อเลี้ยหงนุ่มให้หลังไปได้นฤดีก็เอ่ยหยอกลานสาวตนถึงเรื่องที่ดูสายตาของน่านน้ำออก

"หนึ่งบอกชอบเค้าไปแล้วค่ะ"

"งั้นเหรอแล้วเค้าว่าไงลูก"

"เค้าน่าจะไม่เชื่อค่ะให้หนึ่งถามตัวเองให้แน่ใจก่อนเพราะยังไม่เห็นอีกหลายๆมุมของเค้าแล้วอีกสามเดือนค่อยมาพูดอีกทีว่าชอบเค้าจริงๆหรือเปล่า"

"ย่ามองออกว่าเค้าชอบหลานย่าแล้วแต่เราล่ะชอบเค้าจริงๆหรือพูดแบบนั้นไปเพราะคำทำนาย"

ไม่ใช่น่านน้ำที่ยังไม่คิดว่าวันหนึ่งชอบตัวเองได้จริงๆนฤดีเองก็อยากจะถามหลานสาวให้มั่นใจเช่นกัน

"อยู่ใกล้เค้าแล้วใจเต้นแรง..ไม่ว่าเค้าจะพูดอะไรทำอะไรก็น่ารักไปหมดถึงจะเป็นคำดุก็ดูน่ารักค่ะ"

คนตัวเล็กพูดไปยิ้มไปด้วยท่าทางเคอะเขินนฤดีเห็นแค่นี้ก็เชื่อแล้วว่าวันหนึ่งกำลังมีความรักจริงๆ

"โลกสีเป็นสีชมพูสินะ"

"ประมาณนั้นค่ะ"

"แต่เอ.. ย่าว่าย่าคุ้นๆหน้าพ่อเลี้ยงนะ"

นฤดีว่าจะพูดกับน่านน้ำตั้งแต่เมื่อครู่ว่าเคยเจอกันที่ไหนหรือไม่ก็ไม่ทันได้ถาม

"คุณย่าอาจจะจำผิดหรือเปล่าคะอายุมากแล้วหลงๆลืมๆหรือเปล่า"

"ไม่นะ... อืม.. ต้องเคลียกันหน่อยแล้วเรื่องที่เราไปบอกพ่อเลี้ยงว่าย่าป่วย"

"เอ่อ.. ก็ต้องหาเรื่องเรียกคะแนนความสงสารค่ะพอเอ่ยถึงอาการป่วยของคุณย่าพ่อเลี้ยงใจอ่อนทุกทีเลยนะคะ"

"หาวิธีอื่นไม่ได้หรือไงทำไมต้องแช่งย่าด้วย"

"ก็ตอนนั้นมันคิดไม่ทันนี่คะ..แฮร่ๆ"

คนผิดสวมกอดซุกหัวทุยเอ่ยน้ำเสียงออดอ้อนคนเป็นย่าเพื่อที่จะไม่ให้ถูกย่าเธอนั้นเคืองเรื่องนี้

"ตอนนี้ผมอธิบายให้คนในไร่เข้าใจหมดแล้วล่ะครับว่าทำไมพ่อเลี้ยงกับหนูวันหนึ่งต้องแกล้งตาย"

หลังจากน่านน้ำกลับมาจากโรงพักได้คำอ้ายก็มาคุยกับเขาเรื่องที่ถือวิสาสะบอกความจริงกับคนในไร่ไปเมื่อเห็นว่าหลายคนตกใจที่ได้ข่าวว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มและแม่ครัวของเขายังมีชีวิตอยู่

"ขอบคุณมากครับลุงคำอ้าย"

"ผมถามหน่อยเถอะครับว่าจบเรื่องคดีพ่อเลี้ยงเพชรแล้วพ่อเลี้ยงยังจะอยู่บริหารที่ไร่ต่อหรือเปล่าครับ"

"ความตั้งใจแรกที่ผมมาที่นี่ก็เพราะสงสัยในการตายของคุณปู่คิดว่าหากเรื่องที่คาใจจบลงได้ผมก็จะไปจากไร่แต่ตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจว่าจะเอายังไง"

"ครับ...ยังไงผมก็เคารพการตัดสินใจของพ่อเลี้ยงนะครับ"

"ขอบคุณครับลุงคำอ้าย"

ตอนนี้น่านน้ำเองก็ยังคิดไม่ตกว่าจะอยู่ที่ไร่ต่อหรือจะบริหารงานของครอบครัวเพียงอย่างเดียวเพราะเขายังรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ที่นี่

หลังจากนั่งทำงานที่คั่งค้างมาหลายวันจนดึกน่านน้ำก็ออกมายืนดูดาวชานบ้านแอบรู้สึกว่าชีวิตขาดอะไรไปเหมือนกันเมื่อไม่มีวันหนึ่งอยู่ใกล้ๆ

ตึ๊งงง... "คิดถึงหนึ่งหรือเปล่าคะ"

"ยัยทะเล้น"

และแล้วข้อความของวันหนึ่งที่ส่งมาหาก็ทำน่านน้ำยิ้มออกมาได้และไม่ลืมที่จะส่งข้อความกลับไปหาคนที่เขาคิดถึง

"ฝันดีค่ะ"

เมื่อบทสนทนาอันสั้นจบลงคนที่พึ่งเครียดกับเรื่องงานหลายอย่างเมื่อครู่ก็หายเครียดไปเป็นปลิดทิ้งและหันหลังกลับไปเข้าห้องนอนพักผ่อนอย่างสบายใจได้

วันต่อมา

"ตอนนี้พ่อเลี้ยงกับคุณหนึ่งก็มีความรู้สึกดีๆกันแล้วคุณหนึ่งจะบอกความจริงพ่อเลี้ยงตอนไหนคะว่าตัวเองเป็นใคร"

ไออุ่นรู้มาว่าความสัมพันธ์ของวันหนึ่งและพ่อเลี้ยงหนุ่มกำลังไปได้ดีตอนนี้เธอก็มาห่วงเรื่องความจริงที่วันหนึ่งควรจะบอกพ่อเลี้ยงหนุ่มไปในเร็ววัน

"อืม..หนึ่งว่าจะรอให้พ่อเลี้ยงยอมรับกับหนึ่งตรงๆก่อนว่าเค้าชอบหนึ่งค่ะ"

ถึงแม้นทุกคนในตอนนี้จะมองออกว่าน่านน้ำนั้นมีใจให้กับวันหนึ่งแต่สาวเจ้าเองก็ยังอยากได้ยินจากปากของน่านน้ำเองว่าเขาจะเอายังไงกับเธอกันแน่

"ยังไงก็บอกพ่อเลี้ยงให้เร็วที่สุดจะดีกว่านะคะเพราะเห็นแม่บอกว่าพ่อเลี้ยงไม่ชอบคนโกหกถ้าพ่อเลี้ยงมีความรู้สึกดีๆให้คุณหนึ่งมากขึ้นอาจจะเสียความรู้สึกมากเมื่อรู้ความจริงก็ได้ค่ะ"

"หนึ่งจะเก็บไปคิดดูนะคะพี่อุ่น..ขอบคุณนะคะ"

วันหนึ่งก็แอบคิดถึงวันที่บอกความจริงน่านน้ำเหมือนกันว่าเขาจะโกรธเธอหรือไม่แต่ยังไงเธอก็คิดว่ายังไม่อยากบอกความจริงน่านน้ำตอนนี้อยู่ดี

"เอาแกงเขียวหวานมาให้หนึ่งถึงที่นี่..คิดถึงหนึ่งใช่ไหมคะแต่เอาเจ้าแกงนี่เป็นของบังหน้า"

วันหนึ่งเอ่ยหยอกน่านน้ำด้วยสีหน้าทะเล้นเมื่อเห็นว่าเขาขับรถเอาแกงเขียวหวานมาให้เธอด้วยตัวเองทั้งที่ฝากไออุ่นเอากลับมาให้เธอก็ได้

"ถ้าอยากคิดเข้าข้างตัวเองแบบนั้นผมก็ไม่ได้ว่า"

คนตัวโตเอ่ยด้วยรอยยิ้มแกมเขินแต่ก็พยายามข่มตัวเองไม่ให้แสดงอาการมากนัก

"โอเคค่ะหนึ่งจะคิดเข้าข้างตัวเอง"

"เดี๋ยวผมต้องขอตัวกลับก่อนที่ไร่ยังมีงานอีกเยอะ"

"ดูหน้าหนึ่งจนพอใจแล้วเหรอคะ"

ใบหน้าจิ้มลิ้มยื่นชะเง้อแป้นแล้นใกล้ใบหน้าของน่านน้ำ

"ถ้าไม่หยุดแซวผมจะไม่มาหาแล้ว"

"โอเคค่า.. หยอกนิดหยอกหน่อยเองบายค่ะ"

พ่อเลี้ยงหนุ่มหันหลังกลับไปด้วยใบหน้าอารมณ์ดี นี่สิเสียงเจื้อยแจ้วและคำพูดแกมหยอดที่ขาดหายไปจากหูเขาเมื่อวานหากรู้ว่าตัวเองจะเหงาเช่นนี้สู้ให้เธอไปพักผ่อนที่บ้านของเขาจะดีกว่าให้เธออยู่ที่นี่

"ครับคุณพ่อ.. ผมขอโทษครับที่ไม่ได้บอกอะไรแค่อยากหาหลักฐานให้แน่ใจที่สุดก่อนครับ...คนชั่วพวกนั้นจะไม่ได้ออกจากคุกมาลอยนวลอีกแน่ครับเพราะโดนหลายคดี"

น่านน้ำกลับบ้านมาได้ก็หน้าเสียเมื่อได้รับสายตำหนิจากคนเป็นพ่อที่ไม่ยอมบอกเรื่องที่สงสัยในการตายของปู่ตัวเองและภัทรพลก็ไม่ลืมที่จะย้ำกับลูกชายว่าอย่างไรก็ต้องเอาเรื่องทรงยศให้ถึงที่สุด น่านน้ำคิดว่ายังไงทรงยศก็รอดคดีได้ยากเพราะไหนจะเรื่องฆาตกรรมปู่ของเขาและเรื่องแผนแหล่งซ่องสุมของเถื่อนอีกยังไม่รวมถึงเรื่องการฟอกเงินในหลายๆกิจการ

สายน้ำรู้ข่าวว่าวันหนึ่งกลับมาตั้งแต่เมื่อวานเมื่อเคลียงานที่คลินิกเสร็จวันนี้จึงแวะมาหาน้องสาวตัวแสบในช่วงเย็นดูว่ายังคงสภาพเดิมอยู่หรือเปล่าหลังจากไปอยู่ป่ามาหลายวัน

"ไง...นึกว่าจะหายซ่าซะแล้ว"

สายน้ำยกมือยีหัวทุยของวันหนึ่งเล่นอย่างเอ็นดูเห็นว่าน้องสาวตนกลับมาครบ32ก็สบายใจ

"ไม่มีทาง..วันหนึ่งผู้แข็งแกร่งไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกค่ะ"

สาวเจ้ายกแขนทั้งสองโชว์กล้ามด้วยท่าทางทะเล้น

"ยังแสบเหมือนเดิมเลยนะ"

หมอหนุ่มนึกอยากแกล้งคนที่อวดว่าตัวเองแข็งแกร่งโดยการเข้าไปรวบกอดพร้อมจั๊กจี้ที่เอวจนคนตัวเล็กดิ้นพล่านหัวเราะร่า

"ฮ่าๆๆๆ.. พี่สาย.. ฮ่าๆๆหยุดได้แล้ว..ฮ่าๆๆ"

"ทำอะไรกัน"

เอื้องฟ้าที่หอบหิ้วของกินที่ซื้อมาจากตลาดนัดตอนเย็นเพื่อที่จะเอามาฝากวันหนึ่งก็ต้องรีบวางของในมือลงกับแคร่ไม้และเดินหนีไปเมื่อเห็นภาพที่ไม่ค่อยชอบในในการกระทำของหมอหนุ่มและวันหนึ่งเท่าไรนัก

"เดี๋ยวคุณเอื้อง.."

สายน้ำรู้ตัวเลยว่างานเข้าเขาแน่

"หนึ่งไปอธิบายกับเธอเองค่ะ"

วันหนึ่งรีบผละตัวออกจากคนเป็นพี่และสาวเท้าตามหลังเอื้องฟ้าไปดึงมือของเธอเอาไว้เพราะไม่อยากให้เอื้องฟ้าคิดไปไกลเรื่องของเธอกับสายน้ำ

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status