นางร้ายเช่นข้าพอแล้ว

นางร้ายเช่นข้าพอแล้ว

By:  Lovedee  Updated just now
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
22Chapters
149views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
Leave your review on App

อ๋องซีหยาง พยายามหลีกหนีการแต่งงานที่ฮองเฮาฉางเก้อกำลังเร่งรัดเขา หลังจากที่ทำให้เขาต้องยอมหมั้นหมายกับหลานสาวของนางคือเจียเหลียนฮวานางร้ายประจำเมืองที่ร้ายกาจ เจ้ามารยา และเป็นที่รังเกียจของเขาเหลือเกิน นางตามหึงหวงเขา และราวีหญิงทุกคนที่มาข้องเกี่ยวกับเขา ตามตบตีกับคุณหนูจวนอื่นๆที่นินทาว่าร้ายนางให้ได้ยิน ทำตัวร้ายกาจจนคนลือ เขามิชอบหญิงร้ายกาจเช่นนางแต่กลับพึงใจสหายของนางที่เป็นหญิงเรียบร้อยอ่อนหวาน เขาคิดว่าหากถอนหมั้นกับนางสำเร็จจะไปสู่ขอสหายของนางคือจงซูลี่ มาเป็นพระชายา แต่นางรู้เข้าจึงได้ปีนเตียงของเขาแต่คิดหรือบุรุษเช่นเขาจะยอมรับผิดชอบหญิงเช่นนางจึงได้หนีไปออกรบที่ชายแดนทันที และเมื่อกลับมานางกลับยอมถอนหมั้นอย่างง่ายดายและไม่ได้สนใจตอแยกับเขาอีก แต่กลับเป็นเขาที่ตามหึงหวงนางไปทุกที่แทน….

View More

Latest chapter

Interesting books of the same period

Comments

No Comments
22 Chapters

บทที่ 1 คู่หมั้นที่น่ารังเกียจ

บทที่ 1คู่หมั้นที่น่ารังเกียจอ๋องซีหยางต้องพยายามหลบเลี่ยงการแต่งงานที่ฮองเฮาฉางเก้อคิดจะไปทูลขอสมรสพระราชทานให้เขากับเจียเหลียนฮวาหลานสาวของนางที่เป็นคู่หมั้นของเขาที่เขามิคิดจะแต่งงานกับนางเป็นอันขาด มีแต่จะหาทางถอนหมั้นนางให้จงได้ แต่เขาพึงพอใจสหายของนางจงซูลี่ ที่งดงามอ่อนหวาน กิริยามารยาทเรียบร้อย แตกต่างกับเจียเหลียนฮวาสหายของนางยิ่งนัก “ เจ้าห้าเจ้าคิดจะถอนหมั้นกับคุณหนูเจียแน่หรือ นางก็งดงามปานจะล่มเมือง ข้าเองเห็นนางครั้งแรกยังตะลึงมองนางอยู่นาน ใบหน้าก็งดงาม รูปร่างหรือก็อวบอิ่มขาวผ่องไปทั้งร่าง การแต่งกายก็งดงามมองไปแล้วก็เหมาะสมที่จะเป็นพระชายาของเจ้า “ อ๋องซีหยางที่กำลังยกจอกสุราขึ้นดื่มจ้องมองหน้าพี่ชายของเขาองค์ชายสามซีหย่ง ” ท่านพี่มิเคยเห็นเวลานางร้ายกาจ อาละวาดหญิงอื่นจนแตกกระเจิงต่อหน้าธารกำนัลทำให้ข้าอับอายยิ่งนัก ข้าพึงใจนางไม่ลงหรอก แต่ถ้าเป็นสหายของนาง คุณหนูจงซูลี่บุตรเสนาบดีคลังก็พอได้ เช่นนั้นข้าพร้อมจะไปสู่ขอนางมาเป็นพระชายา “ อ๋องหนุ่มเอ่ยขึ้น “ เจ้ามิอยากจะแต่งงานกับนาง แต่นางเป็นคู่หมั้นของเจ้า ที่ฮองเฮาฉางเก้อเสด็จแม่ของข้าคิดจะขอสมรสพระราชท่านให้เจ
Read more

บทที่ 2 เตียงสี่เสาที่เร่าร้อน nc

บทที่ 1 เตียงสี่เสาที่เร่าร้อน ncอ๋องหนุ่มดูดดื่มผลอิงเถาที่สั่นระริกของนางอย่างเอร็ดอร่อย เหลียนฮวาทั้งครวญครางและแอ่นอกอวบจนหลังของนางแทบจะแอ่นโค้งเพราะทนความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามามากมายมิได้ อ๋องหนุ่มเมื่อดูดดื่มนางจนพอใจแล้ว เขาก็ไล้เลียร่างอวบนั้นอย่างเมามันจนแทบจะทั่วร่าง เหลียนฮวาได้แต่ร้องครวญครางอย่างเสียวซ่านแทบจะขาดใจ อ๋องหนุ่มไล้เลียหน้าท้องข้าวผ่องของนางจนทั่วและเขาขบเม้มมันอย่างหมั่นเขี้ยวทิ้งรอยฟันคมของเขาเอาไว้ นางกรีดร้องอย่างตกใจ และก็หลับตาครวญครางไปอีกต่อจากนั้น อ๋องหนุ่มแยกขาขาวอวบของนางออกจากกัน เขาจ้องมองเนินอวบของนางที่มันอวบใหญ่เต็มมือของเขา เขาบีบขย้ำมันอย่างหมั่นไส้เล็กน้อย มือหนาแหวกร่องอวบของนางออกจนเห็นเนื้อสีแดงระเรื่อที่อยู่ด้านในและมีเมล็ดดอกไม้สีแดงที่สั่นระริกอยู่ตรงกลาง เขาจ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็อ้าปากไล้เลียร่องอวบนั้นไปมา “ อ๊ายย อ๊า อ๊า อย่านะ ไม่นะ ท่านอ๋องไม่ ฮวาเอ๋อยอมแพ้แล้ว ไม่นะ ” นางร้องห้ามเขาเสียงสั่นผสานครวญครางอย่างห้ามตนเองไม่ไหว เพราะมันรู้สึกเสียวซ่านยิ่งนักเมื่อลิ้นสากร้อนรุ่มนั่นสัมผัสกับเมล็ดดอกไม้ที่สั่นระริกของนาง อ๋อ
Read more

บทที่ 3 ข้าไม่ได้รักเจ้า

บทที่ 3ข้าไม่ได้รักเจ้าอ๋องหนุ่มเริงรักกับฮวาเอ๋ออย่างเร่าร้อนจนกระทั่งเข้ายามซื่อจึงได้เสร็จสมและลงนอนหมดแรงข้างๆร่างอวบของเหลียนฮวา เมื่อนอนหอบเหนื่อยกันอยู่ครู่หนึ่ง จนรู้สึกมีแรงขึ้นมาบ้างแล้ว อ๋องหนุ่มก็เอ่ยขึ้นว่า “ เจ้าอย่าคิดว่า เมื่อเจ้าปีนเตียงข้าเช่นนี้แล้ว ข้าจะยอมแต่งงานรับเจ้าเป็นชายานะ ไม่มีทางหรอก ข้าเกลียดเจ้ายิ่งนัก บัดนี้ก็ยังเกลียดอยู่เช่นเดิม รังเกียจมิอยากจะเกี่ยวข้องกับเจ้า ที่ข้าเริงรักกับเจ้าเช่นนี้เพราะข้าคิดว่ากำลังเสพสมกับหญิงคณิกาผู้หนึ่งเพียงเท่านั้น ข้ามิได้รักเจ้าเลยแม้แต่น้อย และข้าจะบอกเจ้าว่าข้าจะไม่รับผิดชอบใดๆเพราะเจ้ารนหาที่เอง และข้าจะบอกความจริงกับเจ้าว่าข้าพึงใจสหายของเจ้าคุณหนูจงซูลี่ และหากข้ากลับมาจากชายแดนข้าจะส่งคนไปสู่ขอนางมาเป็นชายา ข้าพูดถึงเพียงนี้หญิงหน้าทนเช่นเจ้าคงจะเข้าใจนะ ว่าข้าไม่ต้องการเจ้า ” เหลียนฮวาที่เพิ่งหายเหนื่อยจากการที่ถูกเขาเคี่ยวกรำมาทั้งคืนและเมื่อรุ่งสางก็เคี่ยวกรำนางอย่างหนักหน่วงอีก เมื่อได้ยินคำพูดตัดรอนอย่างรุนแรงของเขา นางก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ยิ่งได้ยินว่าเขาพึงใจสหายสนิทของนางถึงขั้นจะส่งคนไปสู่ขอจงซู่ลี่ม
Read more

บทที่ 4 ข้าเป็นหญิงยังไม่มีพันธะ

บทที่ 4ข้าเป็นหญิงยังไม่มีพันธะ“ เจ้าห้า ข้าถามเจ้าจริงๆนะ ว่าเจ้าเสียดายนางหรือไม่ ทำไมชอบทำตาขวางใส่ข้าเหลือเกิน พูดถึงรูปร่างของนางทีไร เจ้าทำตาขวางใส่ข้าทุกที อย่างกับหึงหวงนางเช่นนั้นแหละ แต่ถึงตอนนี้เจ้าจะคิดเปลี่ยนใจมาหึงหวงนางดังเช่นคู่หมั้นก็ไม่ทันเสียแล้ว นางเดินมานั่นแล้วแต่กับบุรุษอื่นนะ ” เขาพยักเพยิดให้น้องชายมองไปที่ตรงบันไดทางขึ้นที่ร่างอวบอิ่มของเจียเหลียนฮวาเพิ่งเดินขึ้นบันไดมากับบุรุษผู้หนึ่ง และเจ้าหมอนั่นก็หล่อเหลาไม่น้อย รูปร่างสูงสง่าผึ่งผาย ดูเป็นบุรุษที่น่าสนใจผู้หนึ่ง อ๋องซีหยางหันขวับไปมองทันที กรามแกร่งของเขาขบเข้าหากันแน่น เพิ่งนอนร้องครวญครางใต้ร่างเขาเมื่อคืนจนถึงตอนสายแท้ๆ ตอนเย็นก็มากับชายอื่นทันทีแถมยังไม่มีสาวใช้ติดตามอีกด้วย นางเป็นคุณหนูในห้องหออีกทั้งเป็นบุตรของเสนาบดีฝ่ายซ้ายเจียเฉินอี้ นางออกมากินอาหารกับบุรุษสองต่อสองมิได้เกรงคำครหาของผู้อื่นเลยหรือไร ดวงตาคมจ้องมองนางตาขวาง มือหนาข้างตัวกำแน่น ด้านเจียเหลียนฮวานางเดินมากับรองแม่ทัพไป๋เฟยหลงสหายสนิทของพี่ชายของนางที่เป็นขุนนางใต้สังกัดของบิดา เขามักจะมาที่จวนเสนาบดีเจียบ่อยๆเพื่อสนทนาหรือเล
Read more

บทที่ 5 ไม่รักแต่มันหวง

บทที่ 5ไม่รักแต่มันหวงในใจของเขามันร้อนรุม หญิงแพศยา เมื่อคืนนอนใต้ร่างร้องครวญครางปานจะขาดใจอยู่กับชายผู้หนึ่งแต่ตอนเย็นของอีกวันกลับเกี้ยวชายอีกผู้หนึ่งได้อย่างหน้าด้านๆ ร่านยิ่งนัก ไม่มีใครเปรียบปาน เขาครุ่นคิดในใจอย่างโมโหยิ่งนัก แต่มิรู้จะทำเช่นไร จึงได้เอ่ยประชดประชันออกไป “ หญิงเช่นเจ้า เกี้ยวชายก่อน ดังเช่นหญิงไม่ไว้ตัว แถมยังมากินข้าวกับชายไม่ให้สาวใช้ตามมาด้วยอีก เป็นถึงคุณหนูจวนเสนาบดีแต่ไม่ไว้ตัวเสียเลย จะมีชายใดอยากจะได้เจ้าไปเป็นภรรยากัน หากแค่เพียงเชยชมเล่นก็อีกเรื่องหนึ่ง ” เขาเอ่ยขึ้นแล้วจ้องมองสบตาของนางอย่างจะเย้ยหยัน แม้ใบหน้าของเจียเหลียนฮวาจะร้อนวูบขึ้น เพราะคำพูดที่ดูถูกดูแคลนนั้น แต่นางก็ระงับอารมณ์เอาไว้แล้วเอ่ยตอบไปว่า “ มิเห็นเป็นอะไรนี่เพคะท่านอ๋อง ตอนนี้เหลียนฮวาเป็นหญิงยังมิได้ออกเรือน ยังไม่มีพันธะใดก็ย่อมต้องมองหาบุรุษที่พึงใจเพื่อจะได้ออกเรือนกับเขา ใช่ไหมเจ้าค่ะพี่เฟยหลง ” นางหันไปเอ่ยถามชายที่ยืนมองทั้งคู่อยู่ รองแม่ทัพไป๋หันมาหาเหลียนฮวาทันที “ ใช่จ๊ะ พี่ก็กำลังคิดว่าจะลองคบหาดูใจกับฮวาเอ๋ออยู่ เจ้าจะขัดข้องหรือไม่ ” รองแม่ทัพหนุ่มที่หาโอกาสพูดค
Read more

บทที่ 6 นางไม่มาตามข้าก็จะตามนางเอง

ยามซื่อวันต่อมา ที่วังหลวงในที่ประชุมขุนนาง ที่มีฮ่องเต้เป็นประธานและมีเหล่าองค์ชายหลายองค์รวมถึงอ๋องห้าซีหยางและอ๋องแปดอยู่ในที่ประชุมด้วย ทั้งหมดถกปัญหาอุทกภัยที่หัวเมืองชานตงอย่างเคร่งเครียดฮ่องเต้มอบให้อ๋องแปดไปจัดการเรื่องนี้กับขุนนางที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการทำเขื่อน ให้ไปตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อย อ๋องแปดรับพระบัญชาและเร่งออกไปจากท้องพระโรงเพื่อจัดการปัญหานี้ จากนั้นที่ประชุมก็ปรึกษาถึงเรื่องอื่นๆกันต่อไป จนเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อฮ่องเต้เสด็จออกจากท้องพระโรงไปแล้ว เหล่าราชวงศ์และขุนนางก็กำลังจะทะยอยกันกลับ อ๋องซีหยางพยายามเดินไปเฉียดเสนาบดีเจีย เผื่อเขาจะสอบถามเรื่องเกี่ยวกับการถอนหมั้นเขาจะได้บ่ายเบี่ยงว่าเขามิได้อยากจะถอนหมั้นแต่เป็นเพราะเหลียนฮวางอนเขาจึงได้ส่งของหมั้นคืน หากท่านเสนาบดีเจียไม่ขัดข้องเขาจะส่งของหมั้นกลับคืนไป แม้เหลียนฮวาโวยวายเขาก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสีย แล้วก็รวบรัดนางกลับมาเป็นคู่หมั้นดังเดิม แต่เสนาบดีเจียกลับมิได้สนใจจะเอ่ยถึงเรื่องนี้เลย เหมือนเขามิได้ติดใจอะไรที่บุตรสาวเพียงคนเดียวถูกถอนหมั้น เขากลับเอ่ยถึงเรื่องราชการทั่วไป ขณะนั้นเสนาบดีจงก็เ
Read more

บทที่ 7 ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่ามายุ่ง

“ ข้าซื้อให้เจ้าตอบแทนที่ยอมให้ข้าปักปิ่นลงไปบนเรือนผมของเจ้าเพื่อดูว่าเหมาะสมกับสตรีที่ข้าพึงใจหรือไม่ ” เสียงทุ้มเอ่ยวาจาที่มันระคายใจนางออกมาอีก ฮวาเอ๋อเงยหน้าขึ้นจากคันฉ่องที่นางกำลังส่องมองเรือนผมของตนเองอยู่อ๋องหนุ่มเดินตามมาตอแยนางอีกแล้ว แถมยังเดินตามมายืนซ้อนหลังจนตัวแทบจะติดกับร่างอวบของนาง เหลียนฮวาใช้มือดันอกแกร่งของเขาให้ถอยห่างออกไป “ ข้าบอกท่านแล้วมิใช่หรือว่าอย่ามายุ่งกับข้า แล้วมายืนเสียแทบจะตัวติดกัน ผู้อื่นจะเข้าใจผิดเอาได้ ท่านจะเลือกเครื่องประดับให้สตรีที่ท่านพึงใจก็เลือกไป แต่อย่ามาใกล้ข้า เราไม่ได้เป็นอะไรกัน และข้าไม่พึงใจท่าน และไม่ต้องการสิ่งตอบแทนเพราะข้าไม่ได้เต็มใจจะช่วยท่านเลือกเสียหน่อย ” นางเอ่ยอย่างหงุดหงิดและเริ่มโมโหกรุ่นขึ้นมาแล้ว เหลียนฮวาหยิบเครื่องประดับที่นางเลือกแล้วสองชิ้นและไม่มีอารมณ์ที่จะเลือกซื้อหาชิ้นอื่นอีกเพราะไม่อยากจะอยู่ในร้านเดียวกับเขา เดินตรงไปที่โต๊ะบัญชีของเถ้าแก่เนี๊ยะเจ้าของร้านแล้ววางมันลงบนโต๊ะเพื่อให้นางคิดเงิน แต่ร่างหนาที่ยังเดินตามมาตอแยกับนางก็วางปิ่นระย้าและกำไลพลอยสีเขียวนั้นรวมกับของที่นางวางเอาไว้แล้วเอ่ยว่า “ เ
Read more

บทที่ 8 ความเกลียดที่เร่าร้อน nc

แม้นางจะยังเหลือสติอีกเล็กน้อยที่จะดิ้นรนให้ตนเองนั้นหลุดรอดเงื้อมมือของเขา แต่ก็ถูกเขาเล้าโลมนางอย่างหนักมือขึ้นอีกเพราะรู้เท่าทันว่ากวางน้อยเนื้อหวานของเขากำลังจะดิ้นหลุดมือไป มือหนาฟอนเฟ้นอกอวบใหญ่ของนางอย่างมันมือ “ อ๊า อ๊าา อ๊าา อ๊าาย อย่านะ อ๊าา” ร่างอวบครวญครางอย่างเสียวซ่าน เมื่อถูกนิ้วแกร่งบีบผลอิงเถาของนางอย่างมันมือ เขาบีบเค้นอกอวบใหญ่อย่างหนักมือและนิ้วแกร่งก็ดึงผลอิงเถาของนางแล้วขยี้มันเบาๆ จนร่างอวบดิ้นพล่าน “ อ๊าย อ๊า ท่านอ๋องไม่นะ เราถอนหมั้นกันแล้ว ไม่นะ อย่า อ๊ายย อ๊าาง ” นางพยายามดิ้นรนด้วยสติที่ยังพอหลงเหลือ ร้องประท้วงบอกเขาผสานกับร้องครวญครางอย่างทนไม่ไหว “ เจ้ามิได้เป็นคู่หมั้นของเปิ่นหวาง แต่เจ้าเป็นเมีย ได้ยินหรือไม่ เปิ่นหวางคือผัวของเจ้า มันเปลี่ยนความจริงข้อนี้ไปไม่ได้แล้ว หากเจ้ามีบุรุษใดอีก เปิ่นหวางจะไปบอกมันว่าเราคือผัวเมียกัน ” ขณะที่เอ่ยวาจาตอกย้ำให้นางรู้ว่านางเป็นเมียของเขานั้น มือหนาก็ดึงผ้าคาดเอวของนางออกจนหลุดลุ่ย แล้วมือหนาก็ล้วงเข้าไปในสาปเสื้อของนางแล้วฟอนเฟ้นอกอวบใหญ่ของนางอย่างมันมือสลับกับคีบผลอิงเถาของนั้นแล้วขยี้มันจนร่างอวบดิ้นพล่านอย่า
Read more

บทที่ 9 จงซูลี่

ยามซื่อวันต่อมา (เก้าโมงเช้า) คุณหนูจงซูลี่มาขอพบเหลียนฮวาจากที่นางไม่ได้มาหลายวันแล้ว นับจากที่ท่านอ๋องกับสหายของนางถอนหมั้นกัน ตอนนั้นคุณหนูจงคิดว่านางกำลังจะมาแทนที่สหายของตนเอง เพราะนางรู้มาว่าท่านอ๋องซีหยางแอบหลงรักนางเพราะนางเรียบร้อยอ่อนหวาน เป็นสตรีที่ดูว่านอนสอนง่ายเหมาะสมกับตำแหน่งพระชายาของเขามีคนมาบอกนางว่าท่านอ๋องกล่าวเช่นนี้ในหมู่องค์ชายและสหายของเขาหลายครั้ง นางจึงคิดว่าสิ่งที่นางได้ยินมาเป็นความจริงและตัวนางก็แอบมีใจให้อ๋องซีหยางมานานเช่นเดียวกับสหายของนางคุณหนูเจียเหลียนฮวา แต่เมื่อนางได้ยินข่าวว่าทั้งสองถอนหมั้นกันแล้วเพราะท่านอ๋องไม่ต้องการแต่งงานกับเหลียนฮวา ซูลี่จึงคิดว่าท่านอ๋องคงจะทนหญิงร้ายกาจและอารมณ์ร้อนเช่นเหลียนฮวาไม่ไหว เขาคงจะอับอายที่นางอาละวาดต่อหน้าผู้อื่นหลายๆครั้ง เมื่อมีหญิงอื่นมาวอแวกับเขานางก็จะจัดการทันทีอย่างไม่ไว้หน้า และตามหึงหวงเขาจนกระทั่งเขาคงจะรำคาญจนทนไม่ไหว จึงได้ถอนหมั้นไป วันนี้คุณหนูจงซูลี่จึงได้ตัดสินใจมาพบเหลียนฮวา ทั้งๆที่พยายามตีตัวออกห่างเพราะนางเตรียมตัวเพื่อที่จะได้แต่งเป็นพระชายาของท่านอ๋องซีหยาง นางคิดว่าอีกไม่นานเขาคงจะมาสู
Read more

บทที่ 10 ไปงานเลี้ยงในวัง

หลายวันต่อมามีงานเลี้ยงฉลองให้กับเหล่าทหารในบังคับบัญชาของแม่ทัพตะวันออกที่เพิ่งรบชนะ หนึ่งในนั้นคือรองแม่ทัพไป๋เฟยหลง เวลายามเว่ย(บ่ายโมงกว่าๆ) รถม้าของแม่ทัพไป๋ก็จอดลงที่หน้าจวนเสนาบดีเจีย เขามารับเจียเหลียนฮวาเพื่อไปร่วมงานเลี้ยงฉลองในวังหลวงด้วยกัน พี่ชายของนางไปร่วมงานกับบิดาของนางทั้งสองออกเดินทางล่วงหน้าไปกว่าชั่วยามแล้ว แต่เหลียนฮวานัดกับพี่เฟยหลงไว้ว่าจะไปพร้อมกัน เหลียนฮวาเดินขึ้นรถม้าของรองแม่ทัพไป๋โดยมีเขาประคองนางขึ้นไปแล้วตัวเขาก็เดินตามขึ้นไปบนรถม้า จากนั้นรถม้าคันนั้นก็แล่นออกจากหน้าจวนแม่เสนาบดีเจียมุ่งตรงไปตามถนนสายหลักที่มุ่งสู่วังหลวง เมื่อรถม้ามาจอดลงที่หน้าประตูทางเข้าวังหลวง ทั้งสองก็พากันลงจากรถม้าแล้วเดินเข้าประตูวังหลวงมุ่งตรงไปที่ห้องจัดเลี้ยงภายในวังหลวง ที่เป็นเรือนขนาดใหญ่ที่ด้านในโล่งกว้าง มีที่ประทับของฮ่องเต้และฮองเฮารวมถึงราชวงศ์และที่นั่งของขุนนางลำดับต่างๆ ที่จัดที่นั่งประจำตัวของแต่ละคนเอาไว้แล้ว ทั้งสองเดินมาถึงประตูวังชั้นในที่เป็นทางเข้าไปสู่งานเลี้ยงขันทีที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ร้องขานชื่อเสียงดังขึ้นทันที “ รองแม่ทัพไป๋เฟยหลงกับคุณหนูเจียเหลียนฮ
Read more
DMCA.com Protection Status