"นี่..ถึงฉันจะไม่ชอบที่เธอตัวติดกับพ่อเลี้ยงแต่ฉันก็มีความคิดมากพอจะขอบคุณคนที่ช่วยเหลือฉัน..จะกินหรือเปล่าไม่กินก็ไม่ว่าจะได้เอากลับ"
เอื้องฟ้าทำท่าจะคว้าแก้วที่ยื่นให้วันหนึ่งคืนแต่หญิงมีหรือคนที่ได้ของแล้วจะยอมคืนให้
"ให้แล้วให้เลย...ทำเป็นน้อยใจไปได้"
"ก็ทำเป็นพูดจาหักหารน้ำใจกันเองนี่...อ่อนี่แกงเขียวหวานแม่ฉันเห็นเธอชอบเลยฝากมาให้"
ว่าจบก็เลือนปิ่นโตที่ถือมาไว้ตรงหน้าของวันหนึ่ง
"ฝากขอบคุณป้าสร้อยด้วยนะคะ"
"อืม.."
"แล้วพี่เอื้องล่ะไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมเมื่อวานกลับมาก็มืดค่ำไม่ได้ถามอะไรกันเลย"
เมื่อวานเธอมัวตกใจและโมโหกับเรื่องที่มนัสทำและกว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ดึกแล้วเลยไม่ได้มีเวลาคุยกับเอื้องฟ้ามากนัก
"ไม่...เอ่อ..ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงช่วยฉัน"
"ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรหรอกแค่ไม่อยากเห็นใครถูกทำร้าย"
"ตัวเล็กเท่าลูกหมาทำเก่ง"
วันหนึ่งอ้าปากค้างกับคำพูดของเอื้องฟ้าเธอเข้าใจว่าหญิงสาวคงจะห่วงเธอแต่ก็น่าจะใช้คำพูดให้มันดีกว่านี้จะได้ฟังอย่างรื่นหูหน่อย
"อ้าว...ฉันช่วยพี่นะพูดให้ดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง"
"ทีหลังก็หัดห่วงตัวเองก่อน"
"ได้ทีหลังหนึ่งจะมองดูพี่ถูกรุมกระทืบก่อน"
"ปากคอนะ"
"ฮ่าๆๆ..ล้อเล่น..ทำไม่ลงหรอก..อืมพี่เอื้องหนึ่งถามอะไรหน่อยสิ"
เมื่อเห็นว่าเอื้องฟ้าน่าจะเป็นมิตรกับเธอกว่าเดิมแล้วจึงไม่เสียเวลาที่จะถามเรื่องที่อยากจะรู้
"อะไร"
"ทำไมพี่เอื้องถึงชอบพ่อเลี้ยงล่ะ"
"ถามทำไม.."
"ก็..อยากรู้เฉยๆ"
"ปู่ของเค้าส่งฉันเรียนจนจบ..ตอนเด็กๆฉันไม่ค่อยมีเพื่อนตอนพ่อเลี้ยงมาที่นี่เมื่อตอนที่ฉันยังเด็กๆเค้าเป็นคนเดียวที่ชวนฉันไปเล่นแล้วก็แบ่งของเล่นให้ฉันด้วยถึงจะเจอพ่อเลี้ยงไม่กี่ครั้งฉันก็ประทับใจที่เค้าไม่ถือตัวอะไร"
"อย่างนี้นี่เอง"
วันหนึ่งฟังเอื้องฟ้าอย่างตั้งใจและเธอก็คิดว่าที่เอื้องฟ้าชอบน่านน้ำก็เพราะน่านน้ำเคยทำดีด้วย..เท่ากับว่าทฤษฏีที่เธอคิดเรื่องการทำดีต่อคนที่ชอบแล้วเค้าจะชอบตอบมันเป็นเรื่องจริงและหลังจากนี้เธอก็จะเดินหน้าทำดีเอาใจน่านน้ำให้เขามาชอบเธอให้ได้
"เธอล่ะทำไมชอบพ่อเลี้ยง"
"ดูออกเหรอ"
คนที่ถูกจับได้ขมวดคิ้วบุ้ยปากด้วยความตกใจ
“อืม..ถามก็ตอบสิ”
"ก็พ่อเลี้ยงทั้งหล่อทั้งใจดีใครล่ะจะไม่ชอบ"
"บอกไว้ก่อนถึงฉันจะขอบคุณที่เธอช่วยฉันก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะยอมเธอเรื่องพ่อเลี้ยง"
"แน่นอนเรื่องพ่อเลี้ยงหนึ่งก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน"
คนตัวเล็กลุกขึ้นพรวดยืนเท้าเอวพร้อมทำสีหน้าจริงจังยึดมั่นในอุดมการณ์
"โอ้ย..ฉันขี้เกียจคุยกับเธอแล้วไปดีกว่า"
เอื้องฟ้าเห็นว่าถ้าเธออยู่นานกว่านี้คงจะได้ตีฝีปากกับวันหนึ่งเสียความตั้งใจเรื่องจะมาขอบคุณหญิงสาวเสียเปล่าๆจึงรีบพาตัวเองกลับไปจากที่นี่ตอนนี้จะดีกว่า
"บายจ้า.."
มือเรียวละจากเอวคอดยกมือโบกลาร่างบางระหงส์ที่กำลังเดินกลับไปที่มอเตอร์ไซต์สีหน้าระรื่นไม่ได้กลัวเอื้องฟ้าแม้แต่น้อยเพราะเธอมีตัวช่วยอย่างหมอสายน้ำอย่างไรเธอก็เชียร์ให้พี่ชายของเธอจีบเอื้องฟ้าให้ติดให้ได้เอื้องฟ้าจะได้ไม่ต้องมาทำตัวเป็นจงอางหวงพ่อเลี้ยงหนุ่มเสียที
“อาหารกลางวันฉันเตรียมไว้ให้ที่แคร่ไม้แล้วนะพ่อ”
วันนี้คำอ้ายและคนงานอีกสองสามคนมาช่วยหมอสายน้ำจับแกะออกมาตรวจสุขภาพเอื้องฟ้าจึงต้องเตรียมอาหารกลางวันมาส่งที่ฟาร์มแกะ
“เออ..ขอบใจลูก”
สายน้ำเห็นเอื้องฟ้ากำลังจะเดินกลับไปที่รถกระบะที่ขนอาหารมาเขาก็รีบสาวเท้าเดินตามเพื่อที่จะไปคุยกับเธอ
"เมื่อวานคงขวัญเสียน่าดูนะครับ"
"ก็นิดหน่อยค่ะ"
“คุณเอื้องอย่าพึ่งกลับนะครับรอผมก่อน”
ว่าจบหมอหนุ่มก็รีบวิ่งไปที่รถของตัวเองและหยิบถุงอะไรบางอย่างรีบวิ่งกลับเอามาให้เอื้องฟ้าที่ยืนรออยู่ที่รถกระบะใต้ต้นไม้ใหญ่
"ผมว่าจะเอาของพวกนี้ฝากลุงคำอ้ายไปให้คุณแต่เจอคุณพอดีผมให้ด้วยตัวเองเลยแล้วกัน"
"อะไรคะ"
"อุปกรณ์ป้องกันตัวผู้หญิงไงครับ.. สเปรย์พริกไทยเครื่องช็อตไฟฟ้าแล้วก็เครื่องส่งสัญญาณเสียงขอความช่วยเหลือ"
"ทำไมเอามาให้ฉันล่ะคะ..หมอห่วงฉันเหรอ"
เอื้องฟ้ารู้สึกแปลกใจพอสมควรที่หมอหนุ่มดูท่าจะห่วงเธอเป็นพิเศษ
"ก็.. ผมเห็นว่าคุณเป็นผู้หญิงถ้าถูกทำร้ายอีกจะได้มีอะไรป้องกันตัว.. แล้วนี่มีเจ็บตรงไหนบ้างไหมครับ"
"ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วค่ะ..คุณหมอไม่ใช่คนในไร่ยังห่วงฉันแต่คนในไร่ไม่เคยมีใครมาถามฉันสักคนแต่ก็เข้าใจค่ะพวกเค้าคงไม่ชอบฉัน"
เป็นครั้งแรกที่คนที่มั่นใจในตัวเองอย่างเอื้องฟ้าพ่นคำพูดแกมน้อยใจออกมาแต่เธอก็รู้ตัวเองดีว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้เพราะคนที่นี่ไม่ค่อยชอบเธอกันเท่าไรนัก
"อย่าน้อยใจไปสิครับ..คุณอาจจะแค่เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาเลยไม่ค่อยเข้าหูใครหลายๆคน"
"ทุกคนชอบคิดแบบนั้นค่ะแต่ฉันก็ไม่สนใจเพราะฉันไม่อยากพูดจาหวานหูแต่ไม่ตรงกับความรู้สึกในใจ"
"พูดตรงไปตรงมามันไม่ผิดครับแค่เราอาจจะต้องนึกถึงใจคนอื่นนิดนึงอีกอย่างผมว่าถ้าคุณเอื้องลองปรับคำพูดให้ดูอ่อนลงนิดหน่อยคุณเอื้องน่าจะมีมิตรเยอะกว่านี้ครับ"
"หึ่..พ่อกับแม่ฉันเค้าก็สอน..แต่ฉันเคยเป็นคนแบบนั้นแล้วแต่ก็ยังไม่มีมิตรอยู่ดี.."
คำพูดแบบนี้เธอได้ยินพ่อกับแม่บอกหลายครั้งแล้วแต่เธอก็ไม่ได้คิดจะสนใจทำเพราะพ่อกับแม่ของเธอไม่ได้ไปเจอเหตุการณ์อย่างเธอจะไปรู้อะไรว่าการเป็นคนดีเป็นคนยอมคนมันไม่ได้ทำให้ใครมาใจดีกับตัวเองแม้แต่น้อย
"พอจะเล่าให้ผมฟังได้หรือเปล่าว่าทำไมเป็นแบบนั้น"
สายน้ำรู้สึกยังไม่ค่อยเข้าใจคำที่เอื้องฟ้าพูดอย่างลึกซึ้งเท่าไรคิดว่าเธอคงมีปมอะไรสักอย่างแน่นอน
"เห้อ...ขี้เกียจอธิบายมันยาวแล้ว"
เอื้องฟ้าถอนหายใจอ่อนเธอไม่ค่อยอยากที่จะรื้อฟื้นประสปการณ์ที่ไม่ดีเท่าไรนักเพราะมันเท่ากับเป็นการตอกย้ำแผลในใจของเธอเปล่าๆ
"ถือซะว่าผมเป็นเพื่อนคุณนะครับ"
หมอหนุ่มพูดจบเอื้องฟ้าก็หันมองหน้าเขาไม่ละสายตาเธอนิ่งงันไปครู่หนึ่งกับคำว่าเพื่อนคำนี้ที่เธอไม่มีมันมานานแล้ว
"หมออยากเป็นเพื่อนฉันเหรอคะ"
"ครับ"
และแล้วคำว่าอยากเป็นเพื่อนก็ทำให้เอื้องฟ้ายอมใจอ่อนที่จะเปิดใจคุยกับหมอหนุ่ม
"ฉันเล่าให้ฟังก็ได้ค่ะ...ตอนที่พ่อเลี้ยงคนเก่าส่งฉันเรียนท่านส่งให้ฉันไปเรียนที่ในเมืองดีๆในโรงเรียนมีแต่ลูกคนมีเงิน...ตอนนั้นพยายามทุกอย่างที่จะมีเพื่อนไม่ว่าจะพูดจาหวานๆช่วยคนในห้องทำการบ้านแต่ก็ยังถูกแกล้งแล้วก็ถูกดูถูกอยู่บ่อยๆเพราะเป็นแค่ลูกคนงานในไร่ไม่ได้เป็นลูกคุณหนูอะไร..พอถูกแกล้งบ่อยๆเข้าฉันก็ต้องทำตัวเข้มแข็งใครไม่อยากคบก็ไม่ต้องคบแล้วถ้าใครแกล้งมาก็แกล้งคืนไม่กลัวหน้าไหนทั้งนั้นแล้วมันก็เป็นมาถึงทุกวันนี้...คนที่จะดีๆกับฉันไม่ถือตัวก็เห็นจะมีแต่พ่อเลี้ยงน่านเท่านั้น"
"พ่อเลี้ยงเค้าดีกับคุณยังไง"
"เค้าเป็นคนเดียวที่แบ่งของเล่นให้ฉัน...ไม่เคยถือตัวที่จะมาเล่นด้วยตอนมาที่นี่ถึงจะเจอกันไม่บ่อยก็เถอะ"
"แล้วคุณก็เลยปลื้มเค้า"
"ก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอที่ฉันชอบคนที่ดีกับฉันอีกอย่างเค้าเป็นถึงพ่อเลี้ยงของไร่ใหญ่โตฉันชอบคนแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ถูกแล้วนี่"
"ให้ทาย..คุณไม่เคยมีแฟน"
"ก็ใช่น่ะสิคะ..เพื่อนฉันยังไม่มีจะไปเคยมีแฟนยังไง"
"อ่อ..ก็จริง.."
สายน้ำอมยิ้มกรุ่มกริ่มเขาพอจะมองออกแล้วว่าเอื้องฟ้าที่ดูจะหวงพ่อเลี้ยงนักหนาเธอไม่ได้รู้สึกกับพ่อเลี้ยงน่านน้ำเชิงชู้สาวแต่น่าจะเป็นอาการหวงเพื่อนที่ดีของตัวเองมากกว่าเพราะเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนก็ว่าได้นับว่าต่อจากนี้เขาก็จะใช้คำว่าเพื่อนนี่แหละค่อยๆแทรกซึมใกล้ชิดเพื่อพิชิตใจของเธอ
"ต่อไปนี่คุณมีผมเป็นเพื่อนแล้วมีอะไรก็คุยกับผมได้ทุกเรื่อง"
"ขอบคุณนะหมอ"
“ครับ”
เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีก็ว่าได้ที่เอื้องฟ้าฉีกยิ้มอย่างสบายใจเพราะวันนี้เธอก็มีคนที่อยากเป็นเพื่อนเสียที
"ฉันว่าคนที่จะมาป่วนไร่ฉันคงไม่มีใครหรอกนอกจากทรงพล"เสียงของน่านน้ำที่ดังมาจากในห้องทำงานทำให้วันหนึ่งชะงักฝีเท้าที่จะเดินเอาของว่างไปให้เขาเพราะอยากรู้ว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นรู้อะไรมา"หลักฐานที่แกได้มาตอนนี้มันทำให้ฉันมั่นใจแล้วว่าเสี่ยทรงยศเป็นทำให้ปู่ฉันตาย..ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครจนกว่าจะมีหลักฐานมัดแน่น"น่านน้ำรู้สึกคับแค้นใจพอสมควรกับเรื่องที่พึ่งได้รับรู้จากเพื่อนของเขาที่เป็นตำรวจลับว่าหลักฐานทุกอย่างที่มีตอนนี้มีความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ว่าคนที่ทำให้ปู่ของเขาตายคือเสี่ยทรงยศ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินที่ปู่ของเขาไปประสปอุบัติเหตุก็เป็นที่ดินของทรงยศที่ซื้อก่อนหน้าที่ปู่ของเขาจะเสียไปไม่เท่าไรหนำซ้ำยังใช้ชื่อคนอื่นเป็นเจ้าของเพื่อปกปิด และสมานคนสนิทของปู่เขาที่อ้างว่าป่วยจนต้องขอลาออกจากไร่ก็มีประวัติว่าเคยรับเงินของทรงยศแถมวันที่ปู่ของเขาต้องขับรถออกไปข้างนอกกลางดึกจนเกิดอุบัติเหตุก็เพราะสมานคนสนิทของปู่เขาโทรมาบอกว่าตัวเองไม่สบายไม่มีใครพาไปโรงพยาบาลอีก หากเพื่อนของเขาที่เป็นตำรวจลับตามตัวสมานได้ก็คงจะได้เค้นความจริงและถ้าความจริงคือทุกอย่างคือการจัดฉากที่มีทรงยศอยู่เบื้องหลังคร
รถตู้สีดำใช้เวลาไม่นานนักก็ขับมาถึงท้ายไร่ของเสี่ยทรงยศสองสาวถูกลากตัวเข้ามาในโรงเก็บฟางโรงใหญ่โดยมีหมอกและสิงห์คอยคุมตัวอยู่ไม่ห่าง"จับพวกฉันมาทำไมห้ะไอ้พวกอันธพาลฉันจำแกได้นะว่าเป็นใครฉันจะแจ้งตำรวจจับแก"วันหนึ่งเอ่ยเสียงแข็งอย่างไม่พอใจที่คนพวกนี้ไม่เป็นสุภาพบุรุษไม่พอยังจะคิดทำชั่วทำเลวโดยการฉุดผู้หญิงมาอีก"ปล่อยฉันไปนะถ้าเรื่องนี้ถึงหูพ่อเลี้ยงว่าพวกแกทำร้ายคนในไร่เค้าโดนดีแน่"เอื้องฟ้าตะคอกใส่หน้าหมอกกับสิงห์ยังไม่ทันขาดคำเธอกับวันหนึ่งก็ต้องถอยกรูเมื่อนักเลงทั้งสองจ่อปากกระบอกปืนมายังพวกเธอ“ถ้ายังไม่เงียบปากเจ็บตัวแน่”เป็นหมอกที่เอ่ยขู่สาวทั้งสองเสียงแข็งเพราะเขารำคาญเสียงพวกเธอโวยวายตั้งแต่ในรถไม่ยอมหยุดจนมาถึงที่นี่"พวกแกพาใครมาด้วยวะ"ทรงพลมองไปยังผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวที่ยืนอยู่ข้างตัวเอื้องฟ้าด้วยสายตาไม่พอใจเพราะเขาสั่งคนสนิททั้งสองให้พาตัวเอื้องฟ้ามาแค่คนเดียว"นังนี่เป็นคนของพ่อเลี้ยงน่านดันเข้ามายุ่งก็เลยรวบมาเลยครับนาย"สิงห์เอ่ยกับคนเป็นนายที่ต้องทำนอกเหนือคำสั่งก็เพราะกลัวว่าหาปล่อยคนที่เห็นเหตุการณ์ไปไม่วายเรื่องถึงหูตำรวจเร็วแน่"พวกแกจะเอายัยนี่ไปทำอะไรก็เชิ
ปั้งๆ"อ๊า..ยย.. "วันหนึ่งที่วิ่งไปวิ่งมาก็เหมือนจะวนอยู่ที่เดิมแถมหมอกกับสิงห์ยังตามอยู่ไม่ห่างตอนนี้ความกลัวตายเคลือบคลานเข้ามาในหัวใจของหญิงสาวพอสมควรจากไม่ค่อยกลัวเสียงปืนเพราะเคยฝึกซ้อมยิงปืนมาบอยตอนนี้กลับตกใจส่งเสียงกรีดร้องจนต้องรีบใช้มือทั้งสองปิดปากตัวเองเอาไว้ขณะที่ขาทั้งสองก็สับเท้าวิ่งไปตามทางที่พอจะไปได้"เสียงปืน.."น่านน้ำเหยียบเบรกกะทันหันก่อนที่จถึงปากทางเข้าไร่ของทรงยศเขาพอจะฟังทิศทางออกว่ามันอยู่ทางด้านหลังจึงรีบหันหัวรถเลี้ยวกลับไปทันที"หนึ่ง.."แสงไฟของรถกระบะส่องไปเห็นหญิงสาวตัวเล็กที่เขาจำได้ดีว่าคือวันหนึ่งจึงรีบเหยียบคันเร่งเข้าไปประชิดตัวของเธอ"พ่อเลี้ยง.."สาวเจ้าแทบจะน้ำตาไหลรู้สึกโล่งใจเป็นปลิดทิ้งที่ได้เห็นหน้าของน่านน้ำเธอไม่รีรอที่จะเปิดประตูขึ้นรถหลังจากนั้นน่านน้ำก็รีบเหยียบคันเร่งหนีออกไปจากตรงนี้ทันทีโดยที่ยังคงมีกระสุนปืนยิงมาที่รถอยู่เรื่อยๆปั้งๆ"โถ่โว้ย..ไอ้สิงห์มึงรีบไปขับรถมามันไปได้ไม่ไกลหรอกโว้ย"หมอกสบถอย่างหัวเสียเมื่อตามวันหนึ่งไม่ทันจนเธอนั้นหนีไปได้เขาจำได้ดีว่ารถกระบะคันโตเป็นของน่านน้ำและรู้ว่าเอื้องฟ้าคงหนีไปได้และคาบข่าวไปบอกน่
ไออุ่นที่ตามหาวันหนึ่งทั้งงานก็ไม่เจอซ้ำยังเห็นถุงอาหารที่หญิงสาวซื้อหล่นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากรถมอเตอร์ไซต์จึงรู้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีแล้วสิ่งที่เธอสังหรณ์ใจมันเป็นเช่นนั่นจริงๆเมื่อเอื้องฟ้าโทรบอกกับเธอว่าวันหนึ่งถูกจับตัวไป"หลานฉันจะเป็นยังไงบ้างนะ"นฤดีแทบลมจับเมื่อได้รับรู้ข่าวจากไออุ่น"ใจเย็นๆค่ะคุณท่านทั้งพ่อเลี้ยงทั้งตำรวจกำลังไปช่วยยังไงคุณหนูก็จะต้องปลอดภัยค่ะ"อุไรประคองหญิงชราเอาไว้ขณะที่ไออุ่นยังคงจ่อยาดมไม่ห่างจากจมูกของนฤดี อุไรเชื่อว่าย่างไรวันหนึ่งก็ต้องปลอดภัยเพราะน่านน้ำไม่ยอมปล่อยให้คนในปกครองของตัวเองเป็นอันตรายอะไรไปแน่"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกันแล้วตำรวจก็เชื่อไอ้พวกตอแหลพวกนั้นน่ะเหรอ..พ่อเลี้ยงกับหนึ่งจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"เอื้องฟ้าโมโหจนเสียงสั่นที่ทรงพลปฏิเสธข้อกล่าวหาไม่พอตำรวจยังไม่พบน่านน้ำและวันหนึ่งอีกกลับพบเพียงแค่รถของน่านน้ำที่มีแต่รอยลูกกระสุนปืนเท่านั้นแต่พวกของทรงยศก็ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นอีก"ใจเย็นๆครับยังไงเราก็ไม่มีหลักฐานไปพูดปากเปล่าแบบนั้นตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี"“จริงอย่างที่หมอว่า”คำอ้ายเห็นด้วยกับสิ่งที่สายน้ำพูดเพราะตอนนี้เท่ากับทางเราไป
"ดูซิ..ตัวเท่าลูกหมาทำเก่งปกป้องคนโน้นปกป้องคนนี้จะตายอยู่แล้วเห็นไหมเนี่ย..อีพวกคนชั่วมันก็ชั่วได้ใจจริงๆพูดแล้วก็โมโห"เอื้องฟ้าพูดไปน้ำตาคลอไปยิ่งรู้ว่าวันหนึ่งปกป้องพ่อเลี้ยงจนตัวเองถูกยิงต้องผ่าตัดกันสดๆยิ่งสงสารจับหัวใจจากก่อนหน้าที่ไม่ค่อชอบหน้าหญิงสาวตอนนี้กลับนับถือน้ำใจที่วันหนึ่งนั้นชอบเอาตัวเองปกป้องคนอื่นก่อนเสมอไม่เว้นแม้แต่เธอที่กัดกันอยู่บ่อยครั้ง"อารมณ์เสียไปก็เท่านั้นแหละค่ะพี่เอื้องหลักฐานความผิดพวกทรงพลไม่แน่นหนาตำรวจก็เอาผิดพวกมันไม่ได้อยู่ดี"ไออุ่นยกมือแตะหัวไหล่ของเอื้องฟ้าที่โกรธจนตัวสั่นเทา เธอเองก็อยากให้คนชั่วได้รับโทษตามกฏหมายแต่จะทำอะไรได้ในเมื่อหลักฐานอะไรก็ไม่มีมัดตัวคนพวกนั้นสักอย่างเดียวหลักฐานพวกรอยกระสุนอะไรพวกนั้นที่มีอยู่น้อยนิดคนพวกนั้นก็แถกันไปได้อยู่ดีว่าไม่ได้เกี่ยวกับการที่วันหนึ่งและพ่อเลี้ยงหนุ่มหายไปไออุ่นกลับมาได้ก็ต้องรีบแจ้งข่าวที่ต้องเก็บเป็นความลับกับคนในบ้านทันที"ถึงต้องแกล้งตายกันเลยเหรอลูก"นฤดีที่ได้ฟังก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลานเธอและน่านน้ำต้องแกล้งตายในเมื่อสามารถกลับมาบอกตำรวจได้เลยว่าถูกพวกของทรงยศทำร้าย"เพื่อความปลอดภัยของ
วันนี้เป็นวันพิธีเผาศพของวันหนึ่งและน่านน้ำคนในไร่ต่างก็มีอาการโศกเศร้าเสียใจไปตามๆกันบางกลุ่มก็นั่งสงสัยในสาเหตุการตายของทั้งคู่ว่าทำไมถึงไปเสียชีวิตกันที่กลางป่าและมีอาการสงสารทั้งสองพอสมควร บางกลุ่มก็คิดไม่ดีว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นไปทำอะไรเชิงชู้สาวกับแม่ครัวของตัวเองเช่นกลุ่มที่เอื้องฟ้ากำลังยินอยู่ตอนนี้"ทำไมพ่อเลี้ยงไปตกน้ำในป่าลึกกับแม่ครัวได้ล่ะ..เข้าไปทำอะไรกันในป่าลึกแบบนั้น..คงไม่ใช่ไป..""นี่ป้า..คนตายไปแล้วยังจะหาเรื่องพูดให้เค้าดูไม่ดีอีกนะ"เอื้องฟ้าไม่ยอมปล่อยให้คำพูดไม่ดีของเหล่ามนุษย์ป้าที่คิดอกุศลออกมาจนจบเพราะเธอรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไรเพียงแค่พูดออกมาไม่ได้เท่านั้น"พวกฉันก็แค่สงสัย...เออแล้วเรื่องที่แกถูกฉุดล่ะเอื้อง..ไม่ได้สึกเหรออะไรใช่ไหม"หญิงร่างท้วมตอกกลับเอื้องฟ้าน้ำเสียงฉะฉานเพราะพอจะรู้มาว่าคืนวันลอยกระทงเอื้องฟ้าไปแจ้วความกับตำรวจว่าเธอนั้นถูกทรงพลฉุด"ฉันไม่ได้เป็นอะไร"เป็นครั้งแรกที่เอื้องฟ้ารู้สึกหน้าชาเพราะเหล่าป้าๆที่นั่งยิ้มเยาะจ้องมายังเธอไม่วางตาเธอไม่คิดว่าคนที่ไร่จะคิดกับเธออย่างนี้"เชื่อได้เร้อะ"ไออุ่นที่กำลังเก็บโต๊ะเก้าอี้หลังจากงานจบเ
"ไปไหนกันมากลับซะค่ำเลย"คำอ้ายยืนเท้าเอวมองหมอสายน้ำอย่างสงสัยที่พาลูกสาวของเขากลับมาส่งเสียมืดค่ำ"ผมให้เอื้องฟ้าไปช่วยจับลูกหมาที่หลังโรงเรียนมาฉีดวัคซีนครับ""บอกฉันว่าจะพาไปขี่รถเล่นแต่กลับให้ไปจับลูกหมาให้ซะงั้น.. มอมแมมหมดฉันไปอาบน้ำก่อนนะพ่อ"เอื้องฟ้าลงจากรถได้ก็เดินปรี่เข้าไปในบ้านเพราะอยากจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากเหนื่อยวิ่งไล่จับหมาตัวใหญ่ให้หมอหนุ่มได้ฉีดวัคซีน"เออๆ..""วันหลังผมจะชวนเอื้องฟ้าไปด้วยบ่อยๆขออนุญาตลุงคำอ้ายด้วยนะครับ"เอื้องฟ้าเดินหายไปในบ้านได้สายน้ำก็รีบขออนุญาตกับคำอ้ายถึงเรื่องที่วันข้างหน้าเขาคงได้เข้ามาเกาะแกะอยู่กับเอื้องฟ้าบ่อยๆ คำอ้ายได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วไม่คิดว่าจะมีใครอยากจะเข้าใกล้ลูกสาวของเขาที่มีสุนัขอยู่เต็มปากได้"ลูกผมมันเป็นมิตรกับหมอเหรอครับถึงได้อยากให้มันไปช่วยบ่อยๆ""ครับ..เราตกลงเป็นเพื่อนกัน"สายน้ำพูดไปก็มีท่าทีเก้อเขินไปจนคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างคำอ้ายพอจะดูออกแล้วว่าทำไมสายน้ำถึงได้ขออนุญาตเขาพาลูกสาวไปข้างนอกบ่อยๆ"แค่เพื่อน?""คือ..จะพูดตรงๆก็อยากเป็นมากกว่านั้น"สายน้ำไม่คิดอ้อมค้อมเพราะจะจีบลูกสาวของคำอ้ายก็ต้องเข้าท
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมอาทิตย์หลังจากที่วันหนึ่งพูดจาตรงไปตรงมากับน่านน้ำและหลังจากวันนั้นน่านน้ำก็ยังคงดูแลวันหนึ่งได้ดีทุกกระเบียดนิ้วแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่คุยกันค้างเอาไว้อีกซ่า...เช้าของวันนี้วันหนึ่งมานั่งเล่นที่ธารน้ำตกเธอดีขึ้นมากแผลที่เย็บหมอพร้อมก็มาตัดไหมให้แล้วแต่แผลของเธอก็ยังถูกน้ำไม่ได้อยู่ดีสาวเจ้าที่อยู่ใกล้ธารน้ำตกอันแสนสวยจึงมองสายน้ำเหล่านั้นด้วยสายตาละห้อยเพราะทำได้แค่นั่งบนโขดหินแกว่งขาเล่นน้ำเท่านั้น“มาอยู่นี่นี่เอง..ไปทานข้าวเช้ากันเถอะ”น่านน้ำคิดถูกที่เขาเดินมาหลังกระท่อมน้อยตรงมายังธารน้ำตกเพราะได้ยินว่าวันหนึ่งอยากเดินมาเที่ยวตรงนี้หลายวันแล้ว"พ่อเลี้ยง...วันนั้นโกรธหนึ่งหรือเปล่าคะ..เรื่องที่..หนึ่ง"ดวงตากลมโตเปรยมองคนตัวโตที่กำลังทิ้งตัวนั่งลงที่โขดหินข้างๆพร้อมแสยะยิ้มอ่อนให้เขาก่อนะจะเอ่ยถึงเรื่องที่อึดอัดในใจมาหลายวัน"อืมเรื่องวันนั้นผมไม่ได้โกรธหรอก..”น่านน้ำรู้ว่าวันหนึ่งจะพูดเรื่องอะไรเขาจึงโพร่งในขณะที่เธอยังพูดไม่จบเพราะเขาเองก็อยากพูดกับเธอถึงเรื่องนี้หลายวันแล้วเหมือนกันแต่เห็นว่าหญิงสาวยังไม่เกริ่นมาเขาก็ยังไม่กล้าสนทนาเรื่องวันน