"สายตาพ่อเลี้ยงมันฟ้องค่ะว่ากำลังมีเรื่องไม่สบายใจ"
ดวงตากลมโตเริ่มจับจ้องไปยังใบหน้าหล่อจนน่านน้ำต้องหลบสายตาก่อนจะใช้มือหนาปัดใบหน้าจิ้มลิ้มให้เลิกมองจ้องเขาอย่างเบามือ
"ทำเป็นรู้ดี"
"ยิ้มเข้าไว้สิคะ..พ่อเลี้ยงของหนึ่งเก่งอยู่แล้ว"
มือเรียวทั้งสองยกจับแก้มพ่อเลี้ยงหนุ่มเล่นเบาๆทั้งฉีกยิ้มกว้างหมายจะนำร่องให้เขานั้นยิ้มตาม พฤติกรรมเช่นนี้ไม่เคยมีใครเคยทำกับน่านน้ำแม้นจะเป็นกวินตราและไม่คิดว่าจะมีใครทำด้วยแต่ก็ทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มรู้สึกดีไม่น้อยจนยิ้มกว้างออกมาได้อย่างเช่นที่วันหนึ่งอยากให้เป็น
"คุณนี่ก็เล่นเป็นเด็กไปได้"
"นั่นไงยิ้มหล่อแล้วหายเครียดแล้วใช่ไหมคะ"
ริมฝีปากหนายิ้มกว้างได้วันหนึ่งก็ละมือจากพวงแก้มสากเปลี่ยนเป็นยืนเกาะแขนแกร่งของน่านน้ำแทน และครั้งนี้คนที่จะถือเนื้อถือตัวกลับไม่ปฏิเสธที่สาวเจ้าจะยืนเกาะแขนของเขาไว้เพราะรู้สึกดีกับทุกการกระทำของคนตัวเล็กไปหมดเสียทุกอย่าง อย่างที่ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่รู้สึกรำคาญเธอแม้แต่น้อย
"ขอบคุณนะ..อ่อ..เรื่องที่จะเรียนต่อคุณอยากจะเรียนเมื่อไรล่ะเห็นว่าอาทิตย์หน้าเค้าก็จะเปิดรับสมัครแล้ว"
"เดี๋ยวหนึ่งให้พี่อุ่นพาไปสมัครค่ะ"
"อืม..ค่าใช้จ่ายเท่าไรมาเบิกผมได้เลย"
"ค่ะ...พ่อเลี้ยงของหนึ่งใจดี๊ใจดีที่สุดในโลกเลยค่ะ"
วันหนึ่งรู้สึกภูมิใจเหลือเกินที่ผู้ชายในคำทำนายช่างแสนดีไปทุกกระเบียดนิ้วเช่นนี้
"บอกแล้วไงว่าผมสนับสนุนเรื่องเรียนแต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องตั้งใจจริงๆ"
"หนึ่งจะตั้งใจค่ะ..เห็นพี่อุ่นเล่าให้ฟังว่าพ่อเลี้ยงคนเก่าเคยให้ทุนการศึกษากับลูกคนในไร่หลายคนแล้วเหรอคะ"
"อืม.. คุณปู่ผมอยากเห็นคนมีการศึกษาที่ดีชีวิตพวกเค้าก็จะดีขึ้นด้วยชาวไร่ที่นี่ส่วนมากก็จะส่งลูกเรียนถึงม.ต้นไม่ก็ม.ปลายตอนไปทำงานก็ได้ตำแหน่งที่ไม่ค่อยดีนักรวมถึงเงินก็ไม่ดีด้วยเหมือนกันคุณปู่ผมก็เลยอยากให้ลูกคนงานที่นี่ได้เรียนสูงๆจะได้มีงานดีๆ"
"ใจบุญตั้งแต่คุณปู่จนถึงหลานเลยนะคะ"
วันหนึ่งยิ้มกริ่มไม่ยอมหุบเพราะรู้สึกประทับใจกับประวัติของปู่น่านน้ำรวมทั้งตัวของเขาเหลือเกิน
"ยิ้มอะไร"
"กำลังคิดถึงวันที่พ่อเลี้ยงเป็นพ่อของลูกอยู่ค่ะ"
สาวเจ้าที่กำลังวาดฝันไปยังวันข้างหน้าเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหวานขณะที่ยังยิ้มเลื่อนลอยไปเรื่อย
"หืม?"
เสียงตกใจของพ่อเลี้ยงหนุ่มทำวันหนึ่งได้สติและหลุดจากภวังค์
"เอ่อ.. วันที่พ่อเลี้ยงมีลูกค่ะ.. พ่อเลี้ยงน่าจะสอนลูกได้ดีแน่ๆเลย"
"อ๋อ.. อืม.. ตอนนี้ผมไม่ได้มองถึงเรื่องนั้นเลย.."
"ทำไมล่ะคะ?"
ดวงตากลมโตเริ่มมีแววตาผิดหวังเมื่อมองไปยังพ่อเลี้ยงหนุ่มที่ส่ายหัวเป็นคำตอบให้กับเธอ
"ก็..ไม่ขอตอบละกันนี่ก็เริ่มดึกแล้วน้ำค้างแรงด้วยเราแยกย้ายกันไปนอนเถอะ"
ว่าจบคนตัวโตก็เดินหันหลังกลับไปในที่ของตัวเองเพราะเมื่อพูดถึงการสร้างครอบครัวก็ทำให้เขานึกถึงกวินตราไปอีกและหลังจากที่เขาเลิกกับเธอไปความคิดเรื่องการมีครอบครัวเขาก็ไม่เคยคิดอีกเลย
"ค่ะ.. ฝันดีนะคะพ่อเลี้ยง"
มือน้อยโบกมือให้กับคนที่หันหลังเดินเข้าห้องไปสีหน้าระรื่นเมื่อครู่เริ่มกลับมาห่อเหี่ยวหลังจากได้รู้ว่าคนที่เธอต้องการให้เป็นสามีและพ่อของลูกไม่คิดเรื่องการมีครอบครัว
“มีแต่ของน่าซื้อทั้งนั้นเลย”
วันนี้วันหนึ่งขอติดรถน่านน้ำมาที่ตลาดหลังจากที่รู้ว่าเขาจะมาทำธุระที่อำเภอหญิงสาวเดินเลือกซื้อของกินที่ไม่ค่อยได้เจอจนแทบจะเต็มไม้เต็มมือจากหน้าตลาดยันท้ายตลาด
“หืม”
สาวเจ้าที่อารมณ์ดีกับการเลือกซื้อของตอนนี้เริ่มขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าตรงลานจอดรถท้ายตลาดมีคนที่น่าจะกำลังมีปัญหากันและผู้หญิงหนึ่งในนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นเอื้องฟ้าที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากบางอย่างกับผู้ชายวัยกลางคนที่เธอจำได้ดีว่าเป็นคนที่ทำค้อนตกเกือบจะถูกหัวน่านน้ำเมื่อครั้งที่ซ่อมแซมห้องสมุดของโรงเรียน
"เอามานี่นะ"
เพี๊ยะ เอื้องฟ้าถูกมนัสตบจนล้มลงไปกองกับพื้น เมื่อภาพตรงหน้าเป็นเช่นนั้นวันหนึ่งจึงรีบทิ้งของในมือเร่งฝีเท้าวิ่งไปกระโดดถีบคนที่กำลังทำร้ายผู้หญิงจนกระเด็นไปกองกับพื้นเช่นกัน เธอไม่เคยเกรงกลัวกับการที่จ่ะตีต่อยเพื่อป้องกันตัวและปกป้องคนอื่นอยู่แล้วเพราะเธอเรียนเทควันโดจนได้สายดำมาแล้ว
ปึก.. “ทำผู้หญิงได้ยังไงไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยนะ”
“ยุ่งอะไรด้วยวะ”
มนัสทั้งโมโหทั้งเสียหน้าที่เสียทีผู้หญิงตัวเล็กเขาควักมีดออกมาหมายจะวาดแทงไปที่วันหนึ่งหญิงสาวนั้นหลบได้ และเตะไปที่ข้อมือของมนัสจนมีดในมือของเขานั้นหล่นในวินาทีนั้นเอื้องฟ้าก็ใช้ความไวคว้ามีดเอาไว้กับตัว
“มีเรื่องอะไรกัน”
มนัสกำลังจะต่อสู้กับคนที่ทำเขาเจ็บแต่ก็ต้องวิ่งหนีไปพร้อมของบางอย่างในมือเพราะเห็นว่ากำลังมีตำรวจวิ่งเข้ามา หลังจากนี้สองสาวและพ่อเลี้ยงหนุ่มก็ต้องไปให้ปากคำกันที่สถานีตำรวจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืออะไร
เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากเอื้องฟ้าไปเห็นมนัสกำลังจ้างเด็กวัยรุ่นแถวตลาดให้เอาของไปไว้ในไร่เพชรพนาเธอเห็นท่าไม่ดีจึงไปขอดูแต่มันสไม่ยอมให้ยิ่งมนัสไม่ยอมเช่นนี้เอื้องฟ้าก็รู้ว่ามันน่าจะไม่ใช่เรื่องดีจึงกระชากของในมือมนัสมาดูจนรู้ว่าเป็นยาบ้าและเธอก็รู้เลยว่ามนัสต้องการทำลายชื่อเสียงของพ่อเลี้ยงน่านน้ำแน่นอนจึงจะเอาหลักฐานในมือของมนัสไปแจ้งตำรวจ จึงยื้อยุดฉุดกระชากกันอย่างที่วันหนึ่งมาเห็นและได้ช่วยเธอต่อสู้กับมนัสจนสุดท้ายตำรวจก็มาเจอพวกเธอและมนัสก็หลบหนีไปได้
"ตัวแค่นี้กล้าหาญเหมือนกันนี่..ถามจริง..คุณไม่กลัวเจ็บตัวบ้างหรือไง"
เมื่อกลับจากโรงพักมาถึงบ้านได้น่านน้ำก็รีบพูดถึงวีรกรรมของหญิงสาวที่เข้าไปช่วยเหลือเอื้องฟ้าหากไม่ใช่ได้ยินจากปากเอื้องฟ้าตอนที่ให้ปากคำกับตำรวจว่าวันหนึ่งไปช่วยเอื้องฟ้าเอาไว้เขาก็จะไม่เชื่อเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างแม่ครัวของเขาจะสู้จนผู้ชายตัวโตๆล้มลงได้
"ก็ไม่ได้กล้าอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะแค่ไม่ชอบเห็นใครถูกทำร้าย"
วันหนึ่งส่ายหัวอันที่จริงเธอไม่ได้จะชอบเรื่องต่อยตีใช้กำลังกับใครแต่เมื่อเห็นคนถูกทำร้ายต่อหน้าจะให้เธอยืนเฉยโดยที่ไม่ทำอะไรมันไม่ใช่นิสัยของเธอ ไอ้เรื่องกลัวไม่กลัวตอนนี้มันหายไปจากหัวไปแล้วแต่อยากรู้มากกว่าว่าตำรวจจะจับมนัสได้หรือไม่เพราะเธออยากจะรู้ว่ามนัสต้องการอะไรถึงได้จ้างให้คนเอายาบ้ามาไว้ในไร่เพชรพนา
“แล้วตำรวจจะจับผู้ชายคนนั้นได้หรือเปล่าคะ”
“เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเถอะเราอย่าไปกังวลถึงมันเลย”
น่านน้ำพอจะรู้ว่ามนัสทำไปเพราะอะไรเพราะเขาเองก็พึงรู้มาว่ามนัสเป็นลูกไร่ของทรงพลเรื่องที่ค้อนจะหล่นใส่หัวของเขาครั้งนั้นก็พอจะเดาออกว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุและครั้งนี้อีกเหมือนกันสิ่งที่มนัสทำก็คงไม่พ้นได้รับคำสั่งมาจากทรงพลที่ต้องการจะทำลายชื่อเสียงของไร่นี้คงคิดว่าถ้าไร่นี้เสียชื่อเสียงคงไม่มีใครอยากทำการค้าด้วยและหลังจากนั้นคงยอมขายที่ให้ง่ายๆเขาพอจะอ่านเกมออกและไม่ยอมให้มันเป็นเช่นนั้นแน่นอน
ในเช้าของวันต่อมาน่านน้ำรับสายตำรวจแต่เช้าและแล้วเรื่องที่เขาเดาเอาไว้ก็เป็นไปตามที่เขาคิดทุกอย่างคือตอนนี้ตามหาตัวมนัสไม่เจอลูกเมียก็บอกว่าไม่รู้ว่ามนัสนั้นอยู่ที่ไหน น่านน้ำไม่ได้ตกใจอะไรเพราะรู้ว่าอย่างไรทรงพลคงไม่ปล่อยคนของตัวเองมาสร้างปัญหาให้แน่นอน ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้คือให้คนตรวจตราไร่ให้ดีเท่านั้นอย่าให้คนนอกเข้ามาทำอะไรไม่ดีได้
วันหนึ่งวางไม้กวาดลงขณะกวาดหน้าบ้านเมื่อเห็นเอื้องฟ้าขับรถมาจอดที่หน้าบ้านในช่วงสาย
"พี่เอื้องมาหาใครเหรอพ่อเลี้ยงออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว"
ดวงตากลมโตมองไปยังมือของเอื้องฟ้าที่หิ้วแก้วน้ำกับปิ่นโตเดินเข้ามาเธอเข้าใจว่าเอื้องฟ้ามาหาน่านน้ำจึงรีบบอกให้เอื้องฟ้าได้รู้ว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มออกไปที่ไร่พักใหญ่แล้ว
"ก็มาหาเธอนั่นแหละจะมาขอบคุณที่ช่วยฉันเมื่อวาน...นี่โอเลี้ยงฉันซื้อมาฝาก"
เอื้องฟ้ายื่นแก้วโอเลี้ยงเย็นแก้วใหญ่ให้กับวันหนึ่งที่กำลังหย่อนก้นนั่งที่เก้าอี้เสร็จแล้วจึงทิ้งตัวนั่งตรงข้ามวันหนึ่งพร้อมวางปิ่นโตเถาเล็กไว้ข้างหน้าตัวเอง
"ใส่อะไรมาหรือเปล่าเนี่ย"
วันหนึ่งมองเอื้องฟ้าด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะเชื่อในสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินนักเพราะไม่คิดว่าเอื้องฟ้าจะใจดีกับเธอได้
"นี่..ถึงฉันจะไม่ชอบที่เธอตัวติดกับพ่อเลี้ยงแต่ฉันก็มีความคิดมากพอจะขอบคุณคนที่ช่วยเหลือฉัน..จะกินหรือเปล่าไม่กินก็ไม่ว่าจะได้เอากลับ"เอื้องฟ้าทำท่าจะคว้าแก้วที่ยื่นให้วันหนึ่งคืนแต่หญิงมีหรือคนที่ได้ของแล้วจะยอมคืนให้"ให้แล้วให้เลย...ทำเป็นน้อยใจไปได้""ก็ทำเป็นพูดจาหักหารน้ำใจกันเองนี่...อ่อนี่แกงเขียวหวานแม่ฉันเห็นเธอชอบเลยฝากมาให้"ว่าจบก็เลือนปิ่นโตที่ถือมาไว้ตรงหน้าของวันหนึ่ง"ฝากขอบคุณป้าสร้อยด้วยนะคะ""อืม..""แล้วพี่เอื้องล่ะไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมเมื่อวานกลับมาก็มืดค่ำไม่ได้ถามอะไรกันเลย"เมื่อวานเธอมัวตกใจและโมโหกับเรื่องที่มนัสทำและกว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ดึกแล้วเลยไม่ได้มีเวลาคุยกับเอื้องฟ้ามากนัก"ไม่...เอ่อ..ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงช่วยฉัน""ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรหรอกแค่ไม่อยากเห็นใครถูกทำร้าย""ตัวเล็กเท่าลูกหมาทำเก่ง"วันหนึ่งอ้าปากค้างกับคำพูดของเอื้องฟ้าเธอเข้าใจว่าหญิงสาวคงจะห่วงเธอแต่ก็น่าจะใช้คำพูดให้มันดีกว่านี้จะได้ฟังอย่างรื่นหูหน่อย"อ้าว...ฉันช่วยพี่นะพูดให้ดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง""ทีหลังก็หัดห่วงตัวเองก่อน""ได้ทีหลังหนึ่งจะมองดูพี่ถูกรุมกระทืบก่อน""ปากคอนะ""ฮ่าๆ
"ฉันว่าคนที่จะมาป่วนไร่ฉันคงไม่มีใครหรอกนอกจากทรงพล"เสียงของน่านน้ำที่ดังมาจากในห้องทำงานทำให้วันหนึ่งชะงักฝีเท้าที่จะเดินเอาของว่างไปให้เขาเพราะอยากรู้ว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นรู้อะไรมา"หลักฐานที่แกได้มาตอนนี้มันทำให้ฉันมั่นใจแล้วว่าเสี่ยทรงยศเป็นทำให้ปู่ฉันตาย..ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครจนกว่าจะมีหลักฐานมัดแน่น"น่านน้ำรู้สึกคับแค้นใจพอสมควรกับเรื่องที่พึ่งได้รับรู้จากเพื่อนของเขาที่เป็นตำรวจลับว่าหลักฐานทุกอย่างที่มีตอนนี้มีความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ว่าคนที่ทำให้ปู่ของเขาตายคือเสี่ยทรงยศ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินที่ปู่ของเขาไปประสปอุบัติเหตุก็เป็นที่ดินของทรงยศที่ซื้อก่อนหน้าที่ปู่ของเขาจะเสียไปไม่เท่าไรหนำซ้ำยังใช้ชื่อคนอื่นเป็นเจ้าของเพื่อปกปิด และสมานคนสนิทของปู่เขาที่อ้างว่าป่วยจนต้องขอลาออกจากไร่ก็มีประวัติว่าเคยรับเงินของทรงยศแถมวันที่ปู่ของเขาต้องขับรถออกไปข้างนอกกลางดึกจนเกิดอุบัติเหตุก็เพราะสมานคนสนิทของปู่เขาโทรมาบอกว่าตัวเองไม่สบายไม่มีใครพาไปโรงพยาบาลอีก หากเพื่อนของเขาที่เป็นตำรวจลับตามตัวสมานได้ก็คงจะได้เค้นความจริงและถ้าความจริงคือทุกอย่างคือการจัดฉากที่มีทรงยศอยู่เบื้องหลังคร
รถตู้สีดำใช้เวลาไม่นานนักก็ขับมาถึงท้ายไร่ของเสี่ยทรงยศสองสาวถูกลากตัวเข้ามาในโรงเก็บฟางโรงใหญ่โดยมีหมอกและสิงห์คอยคุมตัวอยู่ไม่ห่าง"จับพวกฉันมาทำไมห้ะไอ้พวกอันธพาลฉันจำแกได้นะว่าเป็นใครฉันจะแจ้งตำรวจจับแก"วันหนึ่งเอ่ยเสียงแข็งอย่างไม่พอใจที่คนพวกนี้ไม่เป็นสุภาพบุรุษไม่พอยังจะคิดทำชั่วทำเลวโดยการฉุดผู้หญิงมาอีก"ปล่อยฉันไปนะถ้าเรื่องนี้ถึงหูพ่อเลี้ยงว่าพวกแกทำร้ายคนในไร่เค้าโดนดีแน่"เอื้องฟ้าตะคอกใส่หน้าหมอกกับสิงห์ยังไม่ทันขาดคำเธอกับวันหนึ่งก็ต้องถอยกรูเมื่อนักเลงทั้งสองจ่อปากกระบอกปืนมายังพวกเธอ“ถ้ายังไม่เงียบปากเจ็บตัวแน่”เป็นหมอกที่เอ่ยขู่สาวทั้งสองเสียงแข็งเพราะเขารำคาญเสียงพวกเธอโวยวายตั้งแต่ในรถไม่ยอมหยุดจนมาถึงที่นี่"พวกแกพาใครมาด้วยวะ"ทรงพลมองไปยังผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวที่ยืนอยู่ข้างตัวเอื้องฟ้าด้วยสายตาไม่พอใจเพราะเขาสั่งคนสนิททั้งสองให้พาตัวเอื้องฟ้ามาแค่คนเดียว"นังนี่เป็นคนของพ่อเลี้ยงน่านดันเข้ามายุ่งก็เลยรวบมาเลยครับนาย"สิงห์เอ่ยกับคนเป็นนายที่ต้องทำนอกเหนือคำสั่งก็เพราะกลัวว่าหาปล่อยคนที่เห็นเหตุการณ์ไปไม่วายเรื่องถึงหูตำรวจเร็วแน่"พวกแกจะเอายัยนี่ไปทำอะไรก็เชิ
ปั้งๆ"อ๊า..ยย.. "วันหนึ่งที่วิ่งไปวิ่งมาก็เหมือนจะวนอยู่ที่เดิมแถมหมอกกับสิงห์ยังตามอยู่ไม่ห่างตอนนี้ความกลัวตายเคลือบคลานเข้ามาในหัวใจของหญิงสาวพอสมควรจากไม่ค่อยกลัวเสียงปืนเพราะเคยฝึกซ้อมยิงปืนมาบอยตอนนี้กลับตกใจส่งเสียงกรีดร้องจนต้องรีบใช้มือทั้งสองปิดปากตัวเองเอาไว้ขณะที่ขาทั้งสองก็สับเท้าวิ่งไปตามทางที่พอจะไปได้"เสียงปืน.."น่านน้ำเหยียบเบรกกะทันหันก่อนที่จถึงปากทางเข้าไร่ของทรงยศเขาพอจะฟังทิศทางออกว่ามันอยู่ทางด้านหลังจึงรีบหันหัวรถเลี้ยวกลับไปทันที"หนึ่ง.."แสงไฟของรถกระบะส่องไปเห็นหญิงสาวตัวเล็กที่เขาจำได้ดีว่าคือวันหนึ่งจึงรีบเหยียบคันเร่งเข้าไปประชิดตัวของเธอ"พ่อเลี้ยง.."สาวเจ้าแทบจะน้ำตาไหลรู้สึกโล่งใจเป็นปลิดทิ้งที่ได้เห็นหน้าของน่านน้ำเธอไม่รีรอที่จะเปิดประตูขึ้นรถหลังจากนั้นน่านน้ำก็รีบเหยียบคันเร่งหนีออกไปจากตรงนี้ทันทีโดยที่ยังคงมีกระสุนปืนยิงมาที่รถอยู่เรื่อยๆปั้งๆ"โถ่โว้ย..ไอ้สิงห์มึงรีบไปขับรถมามันไปได้ไม่ไกลหรอกโว้ย"หมอกสบถอย่างหัวเสียเมื่อตามวันหนึ่งไม่ทันจนเธอนั้นหนีไปได้เขาจำได้ดีว่ารถกระบะคันโตเป็นของน่านน้ำและรู้ว่าเอื้องฟ้าคงหนีไปได้และคาบข่าวไปบอกน่
ไออุ่นที่ตามหาวันหนึ่งทั้งงานก็ไม่เจอซ้ำยังเห็นถุงอาหารที่หญิงสาวซื้อหล่นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากรถมอเตอร์ไซต์จึงรู้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีแล้วสิ่งที่เธอสังหรณ์ใจมันเป็นเช่นนั่นจริงๆเมื่อเอื้องฟ้าโทรบอกกับเธอว่าวันหนึ่งถูกจับตัวไป"หลานฉันจะเป็นยังไงบ้างนะ"นฤดีแทบลมจับเมื่อได้รับรู้ข่าวจากไออุ่น"ใจเย็นๆค่ะคุณท่านทั้งพ่อเลี้ยงทั้งตำรวจกำลังไปช่วยยังไงคุณหนูก็จะต้องปลอดภัยค่ะ"อุไรประคองหญิงชราเอาไว้ขณะที่ไออุ่นยังคงจ่อยาดมไม่ห่างจากจมูกของนฤดี อุไรเชื่อว่าย่างไรวันหนึ่งก็ต้องปลอดภัยเพราะน่านน้ำไม่ยอมปล่อยให้คนในปกครองของตัวเองเป็นอันตรายอะไรไปแน่"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกันแล้วตำรวจก็เชื่อไอ้พวกตอแหลพวกนั้นน่ะเหรอ..พ่อเลี้ยงกับหนึ่งจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"เอื้องฟ้าโมโหจนเสียงสั่นที่ทรงพลปฏิเสธข้อกล่าวหาไม่พอตำรวจยังไม่พบน่านน้ำและวันหนึ่งอีกกลับพบเพียงแค่รถของน่านน้ำที่มีแต่รอยลูกกระสุนปืนเท่านั้นแต่พวกของทรงยศก็ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นอีก"ใจเย็นๆครับยังไงเราก็ไม่มีหลักฐานไปพูดปากเปล่าแบบนั้นตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี"“จริงอย่างที่หมอว่า”คำอ้ายเห็นด้วยกับสิ่งที่สายน้ำพูดเพราะตอนนี้เท่ากับทางเราไป
"ดูซิ..ตัวเท่าลูกหมาทำเก่งปกป้องคนโน้นปกป้องคนนี้จะตายอยู่แล้วเห็นไหมเนี่ย..อีพวกคนชั่วมันก็ชั่วได้ใจจริงๆพูดแล้วก็โมโห"เอื้องฟ้าพูดไปน้ำตาคลอไปยิ่งรู้ว่าวันหนึ่งปกป้องพ่อเลี้ยงจนตัวเองถูกยิงต้องผ่าตัดกันสดๆยิ่งสงสารจับหัวใจจากก่อนหน้าที่ไม่ค่อชอบหน้าหญิงสาวตอนนี้กลับนับถือน้ำใจที่วันหนึ่งนั้นชอบเอาตัวเองปกป้องคนอื่นก่อนเสมอไม่เว้นแม้แต่เธอที่กัดกันอยู่บ่อยครั้ง"อารมณ์เสียไปก็เท่านั้นแหละค่ะพี่เอื้องหลักฐานความผิดพวกทรงพลไม่แน่นหนาตำรวจก็เอาผิดพวกมันไม่ได้อยู่ดี"ไออุ่นยกมือแตะหัวไหล่ของเอื้องฟ้าที่โกรธจนตัวสั่นเทา เธอเองก็อยากให้คนชั่วได้รับโทษตามกฏหมายแต่จะทำอะไรได้ในเมื่อหลักฐานอะไรก็ไม่มีมัดตัวคนพวกนั้นสักอย่างเดียวหลักฐานพวกรอยกระสุนอะไรพวกนั้นที่มีอยู่น้อยนิดคนพวกนั้นก็แถกันไปได้อยู่ดีว่าไม่ได้เกี่ยวกับการที่วันหนึ่งและพ่อเลี้ยงหนุ่มหายไปไออุ่นกลับมาได้ก็ต้องรีบแจ้งข่าวที่ต้องเก็บเป็นความลับกับคนในบ้านทันที"ถึงต้องแกล้งตายกันเลยเหรอลูก"นฤดีที่ได้ฟังก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลานเธอและน่านน้ำต้องแกล้งตายในเมื่อสามารถกลับมาบอกตำรวจได้เลยว่าถูกพวกของทรงยศทำร้าย"เพื่อความปลอดภัยของ
วันนี้เป็นวันพิธีเผาศพของวันหนึ่งและน่านน้ำคนในไร่ต่างก็มีอาการโศกเศร้าเสียใจไปตามๆกันบางกลุ่มก็นั่งสงสัยในสาเหตุการตายของทั้งคู่ว่าทำไมถึงไปเสียชีวิตกันที่กลางป่าและมีอาการสงสารทั้งสองพอสมควร บางกลุ่มก็คิดไม่ดีว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นไปทำอะไรเชิงชู้สาวกับแม่ครัวของตัวเองเช่นกลุ่มที่เอื้องฟ้ากำลังยินอยู่ตอนนี้"ทำไมพ่อเลี้ยงไปตกน้ำในป่าลึกกับแม่ครัวได้ล่ะ..เข้าไปทำอะไรกันในป่าลึกแบบนั้น..คงไม่ใช่ไป..""นี่ป้า..คนตายไปแล้วยังจะหาเรื่องพูดให้เค้าดูไม่ดีอีกนะ"เอื้องฟ้าไม่ยอมปล่อยให้คำพูดไม่ดีของเหล่ามนุษย์ป้าที่คิดอกุศลออกมาจนจบเพราะเธอรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไรเพียงแค่พูดออกมาไม่ได้เท่านั้น"พวกฉันก็แค่สงสัย...เออแล้วเรื่องที่แกถูกฉุดล่ะเอื้อง..ไม่ได้สึกเหรออะไรใช่ไหม"หญิงร่างท้วมตอกกลับเอื้องฟ้าน้ำเสียงฉะฉานเพราะพอจะรู้มาว่าคืนวันลอยกระทงเอื้องฟ้าไปแจ้วความกับตำรวจว่าเธอนั้นถูกทรงพลฉุด"ฉันไม่ได้เป็นอะไร"เป็นครั้งแรกที่เอื้องฟ้ารู้สึกหน้าชาเพราะเหล่าป้าๆที่นั่งยิ้มเยาะจ้องมายังเธอไม่วางตาเธอไม่คิดว่าคนที่ไร่จะคิดกับเธออย่างนี้"เชื่อได้เร้อะ"ไออุ่นที่กำลังเก็บโต๊ะเก้าอี้หลังจากงานจบเ
"ไปไหนกันมากลับซะค่ำเลย"คำอ้ายยืนเท้าเอวมองหมอสายน้ำอย่างสงสัยที่พาลูกสาวของเขากลับมาส่งเสียมืดค่ำ"ผมให้เอื้องฟ้าไปช่วยจับลูกหมาที่หลังโรงเรียนมาฉีดวัคซีนครับ""บอกฉันว่าจะพาไปขี่รถเล่นแต่กลับให้ไปจับลูกหมาให้ซะงั้น.. มอมแมมหมดฉันไปอาบน้ำก่อนนะพ่อ"เอื้องฟ้าลงจากรถได้ก็เดินปรี่เข้าไปในบ้านเพราะอยากจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากเหนื่อยวิ่งไล่จับหมาตัวใหญ่ให้หมอหนุ่มได้ฉีดวัคซีน"เออๆ..""วันหลังผมจะชวนเอื้องฟ้าไปด้วยบ่อยๆขออนุญาตลุงคำอ้ายด้วยนะครับ"เอื้องฟ้าเดินหายไปในบ้านได้สายน้ำก็รีบขออนุญาตกับคำอ้ายถึงเรื่องที่วันข้างหน้าเขาคงได้เข้ามาเกาะแกะอยู่กับเอื้องฟ้าบ่อยๆ คำอ้ายได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วไม่คิดว่าจะมีใครอยากจะเข้าใกล้ลูกสาวของเขาที่มีสุนัขอยู่เต็มปากได้"ลูกผมมันเป็นมิตรกับหมอเหรอครับถึงได้อยากให้มันไปช่วยบ่อยๆ""ครับ..เราตกลงเป็นเพื่อนกัน"สายน้ำพูดไปก็มีท่าทีเก้อเขินไปจนคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างคำอ้ายพอจะดูออกแล้วว่าทำไมสายน้ำถึงได้ขออนุญาตเขาพาลูกสาวไปข้างนอกบ่อยๆ"แค่เพื่อน?""คือ..จะพูดตรงๆก็อยากเป็นมากกว่านั้น"สายน้ำไม่คิดอ้อมค้อมเพราะจะจีบลูกสาวของคำอ้ายก็ต้องเข้าท