"ฉันว่าคนที่จะมาป่วนไร่ฉันคงไม่มีใครหรอกนอกจากทรงพล"
เสียงของน่านน้ำที่ดังมาจากในห้องทำงานทำให้วันหนึ่งชะงักฝีเท้าที่จะเดินเอาของว่างไปให้เขาเพราะอยากรู้ว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นรู้อะไรมา
"หลักฐานที่แกได้มาตอนนี้มันทำให้ฉันมั่นใจแล้วว่าเสี่ยทรงยศเป็นทำให้ปู่ฉันตาย..ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครจนกว่าจะมีหลักฐานมัดแน่น"
น่านน้ำรู้สึกคับแค้นใจพอสมควรกับเรื่องที่พึ่งได้รับรู้จากเพื่อนของเขาที่เป็นตำรวจลับว่าหลักฐานทุกอย่างที่มีตอนนี้มีความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ว่าคนที่ทำให้ปู่ของเขาตายคือเสี่ยทรงยศ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินที่ปู่ของเขาไปประสปอุบัติเหตุก็เป็นที่ดินของทรงยศที่ซื้อก่อนหน้าที่ปู่ของเขาจะเสียไปไม่เท่าไรหนำซ้ำยังใช้ชื่อคนอื่นเป็นเจ้าของเพื่อปกปิด และสมานคนสนิทของปู่เขาที่อ้างว่าป่วยจนต้องขอลาออกจากไร่ก็มีประวัติว่าเคยรับเงินของทรงยศแถมวันที่ปู่ของเขาต้องขับรถออกไปข้างนอกกลางดึกจนเกิดอุบัติเหตุก็เพราะสมานคนสนิทของปู่เขาโทรมาบอกว่าตัวเองไม่สบายไม่มีใครพาไปโรงพยาบาลอีก หากเพื่อนของเขาที่เป็นตำรวจลับตามตัวสมานได้ก็คงจะได้เค้นความจริงและถ้าความจริงคือทุกอย่างคือการจัดฉากที่มีทรงยศอยู่เบื้องหลังคราวนี้เขาก็จะมีหลักฐานมัดตัวทรงยศแน่นจนไม่สามารถหลุดคดีได้แล้ว
ช่วงสายของวันต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดของวันหนึ่งไออุ่นเลยมาหาวันหนึ่งที่บ้านเลยมีโอกาสที่วันหนึ่งจะได้ถามอะไรที่คาใจตั้งแต่เมื่อวานกับไออุ่น
"พี่อุ่นหนึ่งถามอะไรหน่อยสิ"
"มีอะไรเหรอคะ"
"คุณปู่ของพ่อเลี้ยงเสียไปยังไง"
"เกิดอุบัติเหตุน่ะเท่าที่พี่ได้ยินคนพูดกันเหมือนว่ารถเสียหลักตกถนนไป"
"อ๋อ.."
"ทำไมอยากรู้เรื่องนี้ล่ะคะ"
"เปล่าค่ะหนึ่งก็อยากรู้ไปเรื่อย"
"อืม.. คืนพรุ่งนี้มีงานลอยกระทงที่วัดไปไหม"
"ไปสิคะ...หนึ่งอยากเที่ยวงานวัด"
เมื่อได้ยินคำว่างานวัดวันหนึ่งก็หูผึ่งเพราะฝันอยากจะเที่ยวงานวัดมานานแล้วเคยเห็นแต่บรรยากาศที่เขาถ่ายมาลงโซเชียลกันดูน่าสนุกพอสมควร
ก๊อกๆๆ
“มีอะไร”
น่านน้ำเงยหน้าจากเอกสารกองโตตรงหน้าเปรยยิ้มให้กับคนตัวเล็กที่เข้ามาหาในห้องทำงานช่วงหัวค่ำ
“พรุ่งนี้พ่อเลี้ยงไปเที่ยวงานลอยกระทงไหมคะ”
“ผมไม่ค่อยชอบเที่ยวที่มีคนเยอะๆเท่าไร..ถ้าคุณจะไปก็ไปสิพรุ่งนี้ผมให้คุณหยุดอีกวันก็ได้จะได้มีเวลาทำกระทงไง”
“ขอบคุณค่ะ..แต่จะไม่ไปจริงๆเหรอคะ..ว้า..อดควงพ่อเลี้ยงไปลอยกระทงเลย”
สาวเจ้านั่งหน้ามุ่ยบุ้ยปากอย่างผิดหวังเธอคิดเอาไว้ว่าจะได้เที่ยวกับน่านน้ำในคืนพรุ่งนี้เสียอีก
“หนึ่งไปนอนแล้วนะคะอย่าโหมงานหนักนักนะคะพ่อเลี้ยงหนึ่งเป็นห่วงค่ะ”
เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามคาดคนตัวเล็กจึงยอมเดินคอตกกลับไปแต่โดยดี น่านน้ำอมยิ้มอ่อนมองตามหลังคนตัวเล็กหากไม่รู้จักนิสัยของเธอจริงๆว่าเป็นคนทะเล้นนึกจะพูดอะไรก็พูดคงคิดว่าเธอกำลังหยอดคำหวานจีบเขาอยู่เป็นแน่
และแล้วก็มาถึงงานลอยกระทงที่วัดในหมู่บ้านตอนนี้ในวัดค่อนข้างครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คนที่พากันถือกระทงใบงามแห่กันเข้ามาในวัด ด้านในก็มีร้านเครื่องเล่นมากมายไม่ว่าจะเป็นซุ้มปาลูกโป่งชิงช้าสวรรค์หรือบ้านลมรูปการ์ตูนยักษ์ใหญ่ที่มีเหล่าเด็กเล็กวิ่งกระโดดโลดเต้นอยู่ในนั้นโดยมีผู้ปกครองยืนดูลูกหลานตัวเองอยู่ด้านหน้า ถัดเข้าไปด้านในอีกโซนก็จะเป็นพวกร้านอาหารผัดไทยหอยทอดก๋วยเตี๋ยวและร้านน้ำปั่นผลไม้ขนมหวานระรานตา ทำวันหนึ่งดูจะตื่นเต้นกับงานนี้มากเป็นพิเศษเพราะพึ่งเคยได้สัมผัสบรรยากาศงานวัดจริงๆเช่นนี้เป็นครั้งแรก
"น่าตื่นเต้นจังเลยค่ะพี่อุ่นนี่ถ้าคุณย่ามาด้วยคงจะดี"
วันหนึ่งเดินตามไออุ่นมาใกล้บึงน้ำมองไปยังกระทงแสนสวยที่มีแสงสว่างจากเทียนไขก็รู้สึกประทับใจกับภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นพิเศษ
"ท่านคงอยากพักผ่อนมากกว่าเที่ยวเล่นน่ะค่ะตามประสาคนมีอายุอะเนอะ"
"นั่นสิคะ.. อิๆ"
วันหนึ่งหัวเราะคิกคักเมื่อนึกถึงคนเป็นย่าหากรู้ว่าพวกเธอมานินทาเรื่องที่ท่านมีอายุเธอนึกหน้าของย่าเธอออกเลยว่าจะหงิกงอแค่ไหน
"ถ้าอยากจะชวนลอยกระทงด้วยกันจะได้หรือเปล่าเอื้องฟ้า"
ทรงพลเดินนำหน้าหมอกและสิงห์ลูกสมุนทั้งสองตรงมายังเอื้องฟ้าก่อนจะเอ่ยคำหวานกับหญิงสาวที่กำลังจะเดินผ่านหน้าของเขาไป
"คงไม่ได้ค่ะ..ลอยเรียบร้อยแล้วจะกลับแล้วด้วย"
สาวเจ้าพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวไม่คิดจะชายตามองคนที่ถามและหยุดคุยกับคนที่ทักแม้แต่น้อยเธอพยายามเดินหนีให้ห่างจากทรงพลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะไม่เคยชอบหน้าอันธพาลอย่างทรงพลที่เจอเธอทีไรทำท่ากะลิ้มกะเหรี่ยจนน่าเกลียด
"หึ่..ผ่านคืนนี้ไปแล้วยังจะหยิ่งกับฉันอยู่อีกหรือเปล่า"
ทรงพลยืนกอดอกมองตามหลังร่างระหงส์ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เขาไม่คิดจะโมโหหรือถือสาอะไรเอื้องฟ้าเพราะชอบเธอมานานและยิ่งชอบและอยากได้เธอมากขึ้นด้วยเพราะหญิงสาวไม่มาทำตัวง่ายกับเขาเหมือนผู้หญิงส่วนมากในหมู่บ้านที่จ้องจะจับเขาเพราะหวังสบาย
"ทำไมซื้อเยอะแบบนี้คะจะทานหมดเหรอ"
ไม่เพียงแค่ไออุ่นมองวันหนึ่งด้วยสีหน้าแปลกใจคนเดียวแต่คนที่เดินในงานวัดต่างก็มองวันนึ่งเป็นตาเดียวเหมือนกันที่หอบหิ้วของพะลุงพะลังเหมือนว่าจะเก็บของกินตุนไว้เป็นอาทิคย์อย่างไงอย่างงั้น
"ฝากพี่อุ่นให้กับคุณย่าป้าไรอีกส่วนหนึ่งจะซื้อไปฝากพ่อเลี้ยงค่ะ...พี่อุ่นรอขนมครกร้านนั้นกับหอยทอดร้านนี้ให้หนึ่งก่อนนะคะเดี๋ยวหนึ่งเอาของนี่ไปเก็บที่ตระกร้าหน้ารถก่อน"
คนตัวเล็กที่รู้ตัวว่ากำลังเป็นที่จับจ้องต่อสายตาสาธารณะชนและเธอก็เริ่มรู้ว่าตัวเองนั้นน่าจะถือของต่อไปไม่ไหวเห็นทีตระกร้าหน้ารถมอเตอร์ไซต์ของไออุ่นที่จอดอยู่ที่หน้าวัดน่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด
"ว้า..ยย..ปล่อยนะ"
"พี่เอื้อง.."
ไม่รู้ว่าโชคชะตาของเธอเป็นอะไรกับเอื้องฟ้าที่จะต้องมาเห็นหญิงสาวมีอันตรายต่อหน้าทุกครั้งไปครั้งนี้ก็เช่นกันที่ทำให้วันหนึ่งต้องรีบทิ้งของในมือทั้งที่จะถึงรถมอเตอร์ไซต์ของไออุ่นที่จอดอยู่แล้วเพื่อที่จะรีบวิ่งไปช่วยเอื้องฟ้าที่กำลังถูกชายสองคนฉุดกระชากให้ขึ้นไปบนรถตู้สีดำ
"รวบมันมาให้หมดเลย"
หมอกรีบรวบเอื้องฟ้าขึ้นรถพร้อมกับวันหนึ่งที่วิ่งเข้ามาแส่หาเรื่องก่อนที่จะมีใครมาเห็น
รถตู้สีดำใช้เวลาไม่นานนักก็ขับมาถึงท้ายไร่ของเสี่ยทรงยศสองสาวถูกลากตัวเข้ามาในโรงเก็บฟางโรงใหญ่โดยมีหมอกและสิงห์คอยคุมตัวอยู่ไม่ห่าง"จับพวกฉันมาทำไมห้ะไอ้พวกอันธพาลฉันจำแกได้นะว่าเป็นใครฉันจะแจ้งตำรวจจับแก"วันหนึ่งเอ่ยเสียงแข็งอย่างไม่พอใจที่คนพวกนี้ไม่เป็นสุภาพบุรุษไม่พอยังจะคิดทำชั่วทำเลวโดยการฉุดผู้หญิงมาอีก"ปล่อยฉันไปนะถ้าเรื่องนี้ถึงหูพ่อเลี้ยงว่าพวกแกทำร้ายคนในไร่เค้าโดนดีแน่"เอื้องฟ้าตะคอกใส่หน้าหมอกกับสิงห์ยังไม่ทันขาดคำเธอกับวันหนึ่งก็ต้องถอยกรูเมื่อนักเลงทั้งสองจ่อปากกระบอกปืนมายังพวกเธอ“ถ้ายังไม่เงียบปากเจ็บตัวแน่”เป็นหมอกที่เอ่ยขู่สาวทั้งสองเสียงแข็งเพราะเขารำคาญเสียงพวกเธอโวยวายตั้งแต่ในรถไม่ยอมหยุดจนมาถึงที่นี่"พวกแกพาใครมาด้วยวะ"ทรงพลมองไปยังผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวที่ยืนอยู่ข้างตัวเอื้องฟ้าด้วยสายตาไม่พอใจเพราะเขาสั่งคนสนิททั้งสองให้พาตัวเอื้องฟ้ามาแค่คนเดียว"นังนี่เป็นคนของพ่อเลี้ยงน่านดันเข้ามายุ่งก็เลยรวบมาเลยครับนาย"สิงห์เอ่ยกับคนเป็นนายที่ต้องทำนอกเหนือคำสั่งก็เพราะกลัวว่าหาปล่อยคนที่เห็นเหตุการณ์ไปไม่วายเรื่องถึงหูตำรวจเร็วแน่"พวกแกจะเอายัยนี่ไปทำอะไรก็เชิ
ปั้งๆ"อ๊า..ยย.. "วันหนึ่งที่วิ่งไปวิ่งมาก็เหมือนจะวนอยู่ที่เดิมแถมหมอกกับสิงห์ยังตามอยู่ไม่ห่างตอนนี้ความกลัวตายเคลือบคลานเข้ามาในหัวใจของหญิงสาวพอสมควรจากไม่ค่อยกลัวเสียงปืนเพราะเคยฝึกซ้อมยิงปืนมาบอยตอนนี้กลับตกใจส่งเสียงกรีดร้องจนต้องรีบใช้มือทั้งสองปิดปากตัวเองเอาไว้ขณะที่ขาทั้งสองก็สับเท้าวิ่งไปตามทางที่พอจะไปได้"เสียงปืน.."น่านน้ำเหยียบเบรกกะทันหันก่อนที่จถึงปากทางเข้าไร่ของทรงยศเขาพอจะฟังทิศทางออกว่ามันอยู่ทางด้านหลังจึงรีบหันหัวรถเลี้ยวกลับไปทันที"หนึ่ง.."แสงไฟของรถกระบะส่องไปเห็นหญิงสาวตัวเล็กที่เขาจำได้ดีว่าคือวันหนึ่งจึงรีบเหยียบคันเร่งเข้าไปประชิดตัวของเธอ"พ่อเลี้ยง.."สาวเจ้าแทบจะน้ำตาไหลรู้สึกโล่งใจเป็นปลิดทิ้งที่ได้เห็นหน้าของน่านน้ำเธอไม่รีรอที่จะเปิดประตูขึ้นรถหลังจากนั้นน่านน้ำก็รีบเหยียบคันเร่งหนีออกไปจากตรงนี้ทันทีโดยที่ยังคงมีกระสุนปืนยิงมาที่รถอยู่เรื่อยๆปั้งๆ"โถ่โว้ย..ไอ้สิงห์มึงรีบไปขับรถมามันไปได้ไม่ไกลหรอกโว้ย"หมอกสบถอย่างหัวเสียเมื่อตามวันหนึ่งไม่ทันจนเธอนั้นหนีไปได้เขาจำได้ดีว่ารถกระบะคันโตเป็นของน่านน้ำและรู้ว่าเอื้องฟ้าคงหนีไปได้และคาบข่าวไปบอกน่
ไออุ่นที่ตามหาวันหนึ่งทั้งงานก็ไม่เจอซ้ำยังเห็นถุงอาหารที่หญิงสาวซื้อหล่นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากรถมอเตอร์ไซต์จึงรู้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีแล้วสิ่งที่เธอสังหรณ์ใจมันเป็นเช่นนั่นจริงๆเมื่อเอื้องฟ้าโทรบอกกับเธอว่าวันหนึ่งถูกจับตัวไป"หลานฉันจะเป็นยังไงบ้างนะ"นฤดีแทบลมจับเมื่อได้รับรู้ข่าวจากไออุ่น"ใจเย็นๆค่ะคุณท่านทั้งพ่อเลี้ยงทั้งตำรวจกำลังไปช่วยยังไงคุณหนูก็จะต้องปลอดภัยค่ะ"อุไรประคองหญิงชราเอาไว้ขณะที่ไออุ่นยังคงจ่อยาดมไม่ห่างจากจมูกของนฤดี อุไรเชื่อว่าย่างไรวันหนึ่งก็ต้องปลอดภัยเพราะน่านน้ำไม่ยอมปล่อยให้คนในปกครองของตัวเองเป็นอันตรายอะไรไปแน่"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกันแล้วตำรวจก็เชื่อไอ้พวกตอแหลพวกนั้นน่ะเหรอ..พ่อเลี้ยงกับหนึ่งจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"เอื้องฟ้าโมโหจนเสียงสั่นที่ทรงพลปฏิเสธข้อกล่าวหาไม่พอตำรวจยังไม่พบน่านน้ำและวันหนึ่งอีกกลับพบเพียงแค่รถของน่านน้ำที่มีแต่รอยลูกกระสุนปืนเท่านั้นแต่พวกของทรงยศก็ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นอีก"ใจเย็นๆครับยังไงเราก็ไม่มีหลักฐานไปพูดปากเปล่าแบบนั้นตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี"“จริงอย่างที่หมอว่า”คำอ้ายเห็นด้วยกับสิ่งที่สายน้ำพูดเพราะตอนนี้เท่ากับทางเราไป
"ดูซิ..ตัวเท่าลูกหมาทำเก่งปกป้องคนโน้นปกป้องคนนี้จะตายอยู่แล้วเห็นไหมเนี่ย..อีพวกคนชั่วมันก็ชั่วได้ใจจริงๆพูดแล้วก็โมโห"เอื้องฟ้าพูดไปน้ำตาคลอไปยิ่งรู้ว่าวันหนึ่งปกป้องพ่อเลี้ยงจนตัวเองถูกยิงต้องผ่าตัดกันสดๆยิ่งสงสารจับหัวใจจากก่อนหน้าที่ไม่ค่อชอบหน้าหญิงสาวตอนนี้กลับนับถือน้ำใจที่วันหนึ่งนั้นชอบเอาตัวเองปกป้องคนอื่นก่อนเสมอไม่เว้นแม้แต่เธอที่กัดกันอยู่บ่อยครั้ง"อารมณ์เสียไปก็เท่านั้นแหละค่ะพี่เอื้องหลักฐานความผิดพวกทรงพลไม่แน่นหนาตำรวจก็เอาผิดพวกมันไม่ได้อยู่ดี"ไออุ่นยกมือแตะหัวไหล่ของเอื้องฟ้าที่โกรธจนตัวสั่นเทา เธอเองก็อยากให้คนชั่วได้รับโทษตามกฏหมายแต่จะทำอะไรได้ในเมื่อหลักฐานอะไรก็ไม่มีมัดตัวคนพวกนั้นสักอย่างเดียวหลักฐานพวกรอยกระสุนอะไรพวกนั้นที่มีอยู่น้อยนิดคนพวกนั้นก็แถกันไปได้อยู่ดีว่าไม่ได้เกี่ยวกับการที่วันหนึ่งและพ่อเลี้ยงหนุ่มหายไปไออุ่นกลับมาได้ก็ต้องรีบแจ้งข่าวที่ต้องเก็บเป็นความลับกับคนในบ้านทันที"ถึงต้องแกล้งตายกันเลยเหรอลูก"นฤดีที่ได้ฟังก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลานเธอและน่านน้ำต้องแกล้งตายในเมื่อสามารถกลับมาบอกตำรวจได้เลยว่าถูกพวกของทรงยศทำร้าย"เพื่อความปลอดภัยของ
วันนี้เป็นวันพิธีเผาศพของวันหนึ่งและน่านน้ำคนในไร่ต่างก็มีอาการโศกเศร้าเสียใจไปตามๆกันบางกลุ่มก็นั่งสงสัยในสาเหตุการตายของทั้งคู่ว่าทำไมถึงไปเสียชีวิตกันที่กลางป่าและมีอาการสงสารทั้งสองพอสมควร บางกลุ่มก็คิดไม่ดีว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นไปทำอะไรเชิงชู้สาวกับแม่ครัวของตัวเองเช่นกลุ่มที่เอื้องฟ้ากำลังยินอยู่ตอนนี้"ทำไมพ่อเลี้ยงไปตกน้ำในป่าลึกกับแม่ครัวได้ล่ะ..เข้าไปทำอะไรกันในป่าลึกแบบนั้น..คงไม่ใช่ไป..""นี่ป้า..คนตายไปแล้วยังจะหาเรื่องพูดให้เค้าดูไม่ดีอีกนะ"เอื้องฟ้าไม่ยอมปล่อยให้คำพูดไม่ดีของเหล่ามนุษย์ป้าที่คิดอกุศลออกมาจนจบเพราะเธอรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไรเพียงแค่พูดออกมาไม่ได้เท่านั้น"พวกฉันก็แค่สงสัย...เออแล้วเรื่องที่แกถูกฉุดล่ะเอื้อง..ไม่ได้สึกเหรออะไรใช่ไหม"หญิงร่างท้วมตอกกลับเอื้องฟ้าน้ำเสียงฉะฉานเพราะพอจะรู้มาว่าคืนวันลอยกระทงเอื้องฟ้าไปแจ้วความกับตำรวจว่าเธอนั้นถูกทรงพลฉุด"ฉันไม่ได้เป็นอะไร"เป็นครั้งแรกที่เอื้องฟ้ารู้สึกหน้าชาเพราะเหล่าป้าๆที่นั่งยิ้มเยาะจ้องมายังเธอไม่วางตาเธอไม่คิดว่าคนที่ไร่จะคิดกับเธออย่างนี้"เชื่อได้เร้อะ"ไออุ่นที่กำลังเก็บโต๊ะเก้าอี้หลังจากงานจบเ
"ไปไหนกันมากลับซะค่ำเลย"คำอ้ายยืนเท้าเอวมองหมอสายน้ำอย่างสงสัยที่พาลูกสาวของเขากลับมาส่งเสียมืดค่ำ"ผมให้เอื้องฟ้าไปช่วยจับลูกหมาที่หลังโรงเรียนมาฉีดวัคซีนครับ""บอกฉันว่าจะพาไปขี่รถเล่นแต่กลับให้ไปจับลูกหมาให้ซะงั้น.. มอมแมมหมดฉันไปอาบน้ำก่อนนะพ่อ"เอื้องฟ้าลงจากรถได้ก็เดินปรี่เข้าไปในบ้านเพราะอยากจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากเหนื่อยวิ่งไล่จับหมาตัวใหญ่ให้หมอหนุ่มได้ฉีดวัคซีน"เออๆ..""วันหลังผมจะชวนเอื้องฟ้าไปด้วยบ่อยๆขออนุญาตลุงคำอ้ายด้วยนะครับ"เอื้องฟ้าเดินหายไปในบ้านได้สายน้ำก็รีบขออนุญาตกับคำอ้ายถึงเรื่องที่วันข้างหน้าเขาคงได้เข้ามาเกาะแกะอยู่กับเอื้องฟ้าบ่อยๆ คำอ้ายได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วไม่คิดว่าจะมีใครอยากจะเข้าใกล้ลูกสาวของเขาที่มีสุนัขอยู่เต็มปากได้"ลูกผมมันเป็นมิตรกับหมอเหรอครับถึงได้อยากให้มันไปช่วยบ่อยๆ""ครับ..เราตกลงเป็นเพื่อนกัน"สายน้ำพูดไปก็มีท่าทีเก้อเขินไปจนคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างคำอ้ายพอจะดูออกแล้วว่าทำไมสายน้ำถึงได้ขออนุญาตเขาพาลูกสาวไปข้างนอกบ่อยๆ"แค่เพื่อน?""คือ..จะพูดตรงๆก็อยากเป็นมากกว่านั้น"สายน้ำไม่คิดอ้อมค้อมเพราะจะจีบลูกสาวของคำอ้ายก็ต้องเข้าท
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมอาทิตย์หลังจากที่วันหนึ่งพูดจาตรงไปตรงมากับน่านน้ำและหลังจากวันนั้นน่านน้ำก็ยังคงดูแลวันหนึ่งได้ดีทุกกระเบียดนิ้วแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่คุยกันค้างเอาไว้อีกซ่า...เช้าของวันนี้วันหนึ่งมานั่งเล่นที่ธารน้ำตกเธอดีขึ้นมากแผลที่เย็บหมอพร้อมก็มาตัดไหมให้แล้วแต่แผลของเธอก็ยังถูกน้ำไม่ได้อยู่ดีสาวเจ้าที่อยู่ใกล้ธารน้ำตกอันแสนสวยจึงมองสายน้ำเหล่านั้นด้วยสายตาละห้อยเพราะทำได้แค่นั่งบนโขดหินแกว่งขาเล่นน้ำเท่านั้น“มาอยู่นี่นี่เอง..ไปทานข้าวเช้ากันเถอะ”น่านน้ำคิดถูกที่เขาเดินมาหลังกระท่อมน้อยตรงมายังธารน้ำตกเพราะได้ยินว่าวันหนึ่งอยากเดินมาเที่ยวตรงนี้หลายวันแล้ว"พ่อเลี้ยง...วันนั้นโกรธหนึ่งหรือเปล่าคะ..เรื่องที่..หนึ่ง"ดวงตากลมโตเปรยมองคนตัวโตที่กำลังทิ้งตัวนั่งลงที่โขดหินข้างๆพร้อมแสยะยิ้มอ่อนให้เขาก่อนะจะเอ่ยถึงเรื่องที่อึดอัดในใจมาหลายวัน"อืมเรื่องวันนั้นผมไม่ได้โกรธหรอก..”น่านน้ำรู้ว่าวันหนึ่งจะพูดเรื่องอะไรเขาจึงโพร่งในขณะที่เธอยังพูดไม่จบเพราะเขาเองก็อยากพูดกับเธอถึงเรื่องนี้หลายวันแล้วเหมือนกันแต่เห็นว่าหญิงสาวยังไม่เกริ่นมาเขาก็ยังไม่กล้าสนทนาเรื่องวันน
"คุณมาเจ็บตัวอยู่ที่นี่ย่าคุณคงจะห่วงมากกลับไปผมต้องไปขอโทษย่าคุณด้วยตัวเอง""หนึ่งฝากพี่อุ่นบอกย่าแล้วค่ะว่าไม่ต้องห่วงหนึ่งมีพ่อเลี้ยงดูแลอย่างดีค่ะ""ยังไงผมก็ต้องไปขอโทษท่านอยู่ดี""ไปฝากตัวเป็นหลานเขยด้วยเลยสิคะ"ใบหน้าจิ้มลิ้มเอียงเงยหน้ามายิ้มทะเล้นหยอกเอิญเล่นกับคนตัวโต"คุณนี่ก็ทะเล้นไม่เลิกจริงๆ""ก็พูดจริงนี่คะ..หนึ่งอยากเก็บหิ่งห้อยพวกนี้ไปไว้ที่ไร่เราจังเลยค่ะ""ใครว่าที่ไร่เราไม่มีล่ะ"ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ยิ้มทะเล้นคราแรกเริ่มมีสีหน้าและแววตาแปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นที่ไม่ยักรู้ว่าที่ไร่เพชรพนาจะมีหิ่งห้อยเพราะเธอออกมาดูดาวแทบทุกคืนไม่เคยจะเห็น"เหรอคะ..หนึ่งออกมาดูดาวออกจะบ่อยไม่เคยเห็น""ถ้าออกไปจากที่นี่ผมจะพาคุณไปที่บ้านเล็กท้ายไร่ที่นั่นติดกับแนวเขาธรรมชาติสมบูรณ์มากมีหิ่งห้อยให้เห็นตลอดเลย""สัญญาแล้วนะคะว่าจะพาหนึ่งไป""อืม..""เอ..เคยพาสาวๆคนไหนไปที่นั่นหรือเปล่าคะ""ไม่เคย..""ดีใจจังที่หนึ่งจะได้ไปที่นั่นคนแรก"ฟึ่บ .. สาวเจ้าว่าจบก็เลื่อนตัวลงนอนตักของน่านน้ำ"เมื่อยค่ะขอนอนหน่อยนะคะ"คนตัวโตเอาแต่นั่งยิ้มมองไปยังหิ่งห้อยหลายพันตัวที่ส่องแสงสว่างไปทั่วต้นไม้ใหญ่