Share

บทที่23 แกล้งตาย

"ดูซิ..ตัวเท่าลูกหมาทำเก่งปกป้องคนโน้นปกป้องคนนี้จะตายอยู่แล้วเห็นไหมเนี่ย..อีพวกคนชั่วมันก็ชั่วได้ใจจริงๆพูดแล้วก็โมโห"

เอื้องฟ้าพูดไปน้ำตาคลอไปยิ่งรู้ว่าวันหนึ่งปกป้องพ่อเลี้ยงจนตัวเองถูกยิงต้องผ่าตัดกันสดๆยิ่งสงสารจับหัวใจจากก่อนหน้าที่ไม่ค่อชอบหน้าหญิงสาวตอนนี้กลับนับถือน้ำใจที่วันหนึ่งนั้นชอบเอาตัวเองปกป้องคนอื่นก่อนเสมอไม่เว้นแม้แต่เธอที่กัดกันอยู่บ่อยครั้ง

"อารมณ์เสียไปก็เท่านั้นแหละค่ะพี่เอื้องหลักฐานความผิดพวกทรงพลไม่แน่นหนาตำรวจก็เอาผิดพวกมันไม่ได้อยู่ดี"

ไออุ่นยกมือแตะหัวไหล่ของเอื้องฟ้าที่โกรธจนตัวสั่นเทา เธอเองก็อยากให้คนชั่วได้รับโทษตามกฏหมายแต่จะทำอะไรได้ในเมื่อหลักฐานอะไรก็ไม่มีมัดตัวคนพวกนั้นสักอย่างเดียวหลักฐานพวกรอยกระสุนอะไรพวกนั้นที่มีอยู่น้อยนิดคนพวกนั้นก็แถกันไปได้อยู่ดีว่าไม่ได้เกี่ยวกับการที่วันหนึ่งและพ่อเลี้ยงหนุ่มหายไป

ไออุ่นกลับมาได้ก็ต้องรีบแจ้งข่าวที่ต้องเก็บเป็นความลับกับคนในบ้านทันที

"ถึงต้องแกล้งตายกันเลยเหรอลูก"

นฤดีที่ได้ฟังก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลานเธอและน่านน้ำต้องแกล้งตายในเมื่อสามารถกลับมาบอกตำรวจได้เลยว่าถูกพวกของทรงยศทำร้าย

"เพื่อความปลอดภัยของคุณหนึ่งค่ะคุณย่าสองคนนั้นคงอยู่ในสถานะการตายไม่นานนักหรอกค่ะเพราะผู้กองปุณณ์เพื่อนของพ่อเลี้ยงบอกว่าหากได้หลักฐานชิ้นสุดท้ายก็จะเอาผิดเสี่ยทรงยศอยู่หมัดทีนี้ก็จะไม่มีใครมาทำร้ายคุณหนึ่งกับพ่อเลี้ยงแล้วค่ะ"

“แล้วหลักฐานชิ้นสุดท้ายคืออะไรล่ะ”

นฤดียังคงมีสีหน้าสงสัยอยู่ดี

“เท่าที่ฟังจากพ่อเลี้ยงกับผู้กองปุณณ์เล่าก็น่าจะเป็นลุงสมานที่เป็นหลักฐานชิ้นสุดท้าย”

“ทำไมล่ะลูก”

อุไรที่นั่งฟังอยู่เงียบๆต้องโพร่งถามขึ้นเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมหลักฐานชิ้นสุดท้ายจะต้องพุ่งเป้าไปที่คนสนิทของพ่อเลี้ยงเพชรพนาด้วย

“สายสุดท้ายที่โทรหาพ่อเลี้ยงเพชรก่อนที่พ่อเลี้ยงเพชรจะเกิดอุบัติเหตุเป็นสายของลุงสมานแล้วหลังจากพ่อเลี้ยงเพชรตายไม่นานลุงสมานก็ขอลาออกจากไร่ไปอยู่ที่อื่น แล้วตอนที่พ่อเลี้ยงน่านให้เพื่อนช่วยสืบคดีนี้ลับๆก็มีเรื่องผิดสังเกตุเกี่ยวกับคนสนิทของพ่อเลี้ยงเพชรคือลุงสมานเพราะหลังจากที่ออกไปจากที่นี่เขาก็มีอันจะกินเป็นพิเศษจนผู้กองปุณณ์สืบเส้นทางการเงินของลุงสมานก็พบว่าเคยได้รับเงินจากเสี่ยทรงยศเป็นล้านเลยค่ะ ผู้กองปุณณ์เลยฟันธงเลยว่ายังไงลุงสมานก็ต้องร่วมมือกับเสี่ยทรงยศแน่นอน ตอนนี้ก็เพียงแค่ตามตัวลุงสมานมาเค้นความจริงหลังจากนั้นก็จะมีหลักฐานมัดแน่นเอาผิดเสี่ยทรงยศกับพวกได้ค่ะ”

“นี่มันอะไรกันเนี่ย”

อุไรฟังที่ลูกสาวเธอว่ามาก็ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเพราะสมานเป็นคนที่พ่อเลี้ยงเพชรพนาไว้ใจมากที่สุด

"หลานฉันทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย...แล้วที่นั่นลำบากมากหรือเปล่าไออุ่น..แผลที่น้องเป็นหนักแค่ไหน"

นฤดีฟังเรื่องราวซับซ้อนก็ขมวดคิ้วจนผูกโบว์ไม่คิดว่าการที่หลานเธอมาตามหาคนในคำทำนายจะทำให้ต้องมาเผชิญเรื่องอันตรายถึงชีวิตเช่นนี้

"ตอนนี้คุณหนึ่งมีหมอฝีมือดีดูแลและพ่อเลี้ยงก็คอยดูอยู่ไม่ห่างคุณย่าไม่ต้องห่วงนะคะ"

"เชื่อใจพ่อเลี้ยงนะคะคุณท่าน.. คุณหนูเอาชีวิตตัวเองช่วยพ่อเลี้ยงขนาดนั้นพ่อเลี้ยงต้องดูแลคุณหนูดีแน่นอนเลยค่ะ"

นฤดีพยักหน้าให้คนทั้งสองเธอจะพยายามคิดในแง่ดีเอาไว้เพราะหลานเธอเป็นคนดี ซึ่งคนดีนั้นจะต้องตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้แน่นอน

"เมื่อเช้าฉันลืมเล่าให้คุณฟัง..คือเมื่อคืนฉันฝันไม่ดีเลยค่ะคุณ.. ฝันว่าลูกตกน้ำไม่มีใครช่วย"

วันทั้งวันวิริยาจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจะติดต่อหาลูกหรือแม่สามีของเธอก็ติดต่อไม่ได้เมื่อเห็นสามีกลับมาจากทำงานในช่วงเย็นจึงเข้าไปคุยด้วยสีหน้าหดหู่

"อืม..คุณคงคิดถึงลูกมากไปอย่ากังวลเลยนะก็แค่ฝันพรุ่งนี้ไปทำบุญดีหรือเปล่าคุณจะได้สบายใจ"

สิทธิเดชรวบโอบคนเป็นภรรยาเอาไว้หลวมๆเขาไม่อยากให้เธอเป็นกังวลกับเรื่องความฝันมากนัก

"ก็ดีค่ะฉันอยากไปทำสังฆทานพอดีไม่ได้เข้าวัดนานแล้ว"

การทำบุญเห็นจะเป็นหนทางเดียวในตอนนี้ที่ทำให้วิริยาสบายใจได้

วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามวันที่วันหนึ่งนั้นไม่ได้สติผลจากพิษไข้และฤทธิ์ยาโดยมีน่านน้ำเฝ้าอยู่ไม่ห่าง

“ทำไมต้องเสี่ยงเพื่อผมแบบนั้นนะ”

มือหนายื่นอังฝ่ามือกับหน้าฝากมนเขาพยายามตรวจอุณหภูมิของเธอแทบจะตลอดเวลาเพราะเมื่อไรที่เธอเริ่มจะมีไข้เขาต้องรีบไปวานให้ศรีอ่อนภรรยาของคำปันมาเช็ดตัวให้เธอทันทีดีที่วันนี้ไข้ของเธอไม่มีแล้วจากนี้จะได้ไม่ต้องรบกวนคนอื่นมากนัก

"อึก..อือ..เจ็บ.."

"ตื่นแล้วเหรอหนึ่ง..อย่าพึ่งขยับแผลคุณยังไม่หายดี"

คนตัวเล็กที่เริ่มได้สติในช่วงสายเริ่มขยับตัวจนน่านน้ำต้องล็อกตัวเธอเอาไว้ไม่ให้ขยับเยอะด้วยกลัวว่าแผลจะกระทบกระเทือน

"พ่อเลี้ยง...หิวน้ำ"

ดวงตากลมโตที่เริ่มสะลึมสะลือมองเห็นคนตรงหน้าก็เรียกหาน้ำเพราะรู้สึกคอแห้งเป็นพิเศษ หลังจากคำของของหญิงสาวน่านน้ำก็ลุกลี้ลุกลนรีบเทน้ำใส่แก้วพร้อมเสียบหลอดให้หญิงสาวได้ดูด

"ค่อยๆดูดนะ"

หลังจากดื่มน้ำจนหายกระหายและได้สติดีแล้ววันหนึ่งก็เริ่มมองไปรอบๆที่ที่ตัวเองอยู่เธอนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

"เราอยู่ที่ไหน"

"กระท่อมท้ายหมู่บ้านxxxเป็นกระท่อมของลุงคำปันน้องชายลุงคำอ้ายเราต้องหลบอยู่ที่นี่สักพัก"

"ทำไมคะ"

คิ้วเรียวบางเริ่มขมวดเข้าหากันด้วยไม่เข้าใจว่าทำไมเธอจะต้องอยู่ที่นี่

"คือ.. "

น่านน้ำเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนที่วันหนึ่งจะมาอยู่ที่นี่และให้เหตุผลว่าที่ต้องอยู่ที่นี่ต่อก็เพราะเธอและเขาอยู่ในสถานะที่ไม่มีชีวิตเพราะต้องการให้พวกของทรงยศตายใจก่อนที่ผู้กองปุณณ์จะหาตัวสมานเจอ

"แล้วย่าหนึ่งรู้เรื่องนี้หรือเปล่าคะ"

"ผมให้ไออุ่นกลับไปอธิบายให้ท่านเข้าใจแล้ว"

"ค่ะ.. เอ่อ.. แล้ว.. ใครเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนึ่งคะ"

วันหนึ่งกระจ่างกับสิ่งที่คาใจว่าทำไมต้องอยู่ที่นี่ได้เธอก็เริ่มก้มมองชุดของตัวเองที่ไม่ใช่ชุดของเธอและเริ่มจ้องมองไปยังพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยแววตาที่ไม่ค่อยไว้ใจจนน่านน้ำเดาจากสีหน้าของวันหนึ่งออกว่าเธอกำลังคิดอะไรกับเขา

"อย่าพึ่งมองผมแบบนั้น.. ป้าศรีอ่อนภรรยาลุงคำปันเป็นคนเช็ดตัวเปลี่ยน​ให้คุณทุกวัน"

"อ๋อ.. ค่ะ.."

สาวเจ้าค่อยคลายสีหน้ากังวลลงได้

"คุณนอนพักต่อเถอะพักเยอะๆร่างกายจะได้ฟื้นตัวไวๆ"

"ค่ะ"

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status