"ดูซิ..ตัวเท่าลูกหมาทำเก่งปกป้องคนโน้นปกป้องคนนี้จะตายอยู่แล้วเห็นไหมเนี่ย..อีพวกคนชั่วมันก็ชั่วได้ใจจริงๆพูดแล้วก็โมโห"
เอื้องฟ้าพูดไปน้ำตาคลอไปยิ่งรู้ว่าวันหนึ่งปกป้องพ่อเลี้ยงจนตัวเองถูกยิงต้องผ่าตัดกันสดๆยิ่งสงสารจับหัวใจจากก่อนหน้าที่ไม่ค่อชอบหน้าหญิงสาวตอนนี้กลับนับถือน้ำใจที่วันหนึ่งนั้นชอบเอาตัวเองปกป้องคนอื่นก่อนเสมอไม่เว้นแม้แต่เธอที่กัดกันอยู่บ่อยครั้ง
"อารมณ์เสียไปก็เท่านั้นแหละค่ะพี่เอื้องหลักฐานความผิดพวกทรงพลไม่แน่นหนาตำรวจก็เอาผิดพวกมันไม่ได้อยู่ดี"
ไออุ่นยกมือแตะหัวไหล่ของเอื้องฟ้าที่โกรธจนตัวสั่นเทา เธอเองก็อยากให้คนชั่วได้รับโทษตามกฏหมายแต่จะทำอะไรได้ในเมื่อหลักฐานอะไรก็ไม่มีมัดตัวคนพวกนั้นสักอย่างเดียวหลักฐานพวกรอยกระสุนอะไรพวกนั้นที่มีอยู่น้อยนิดคนพวกนั้นก็แถกันไปได้อยู่ดีว่าไม่ได้เกี่ยวกับการที่วันหนึ่งและพ่อเลี้ยงหนุ่มหายไป
ไออุ่นกลับมาได้ก็ต้องรีบแจ้งข่าวที่ต้องเก็บเป็นความลับกับคนในบ้านทันที
"ถึงต้องแกล้งตายกันเลยเหรอลูก"
นฤดีที่ได้ฟังก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลานเธอและน่านน้ำต้องแกล้งตายในเมื่อสามารถกลับมาบอกตำรวจได้เลยว่าถูกพวกของทรงยศทำร้าย
"เพื่อความปลอดภัยของคุณหนึ่งค่ะคุณย่าสองคนนั้นคงอยู่ในสถานะการตายไม่นานนักหรอกค่ะเพราะผู้กองปุณณ์เพื่อนของพ่อเลี้ยงบอกว่าหากได้หลักฐานชิ้นสุดท้ายก็จะเอาผิดเสี่ยทรงยศอยู่หมัดทีนี้ก็จะไม่มีใครมาทำร้ายคุณหนึ่งกับพ่อเลี้ยงแล้วค่ะ"
“แล้วหลักฐานชิ้นสุดท้ายคืออะไรล่ะ”
นฤดียังคงมีสีหน้าสงสัยอยู่ดี
“เท่าที่ฟังจากพ่อเลี้ยงกับผู้กองปุณณ์เล่าก็น่าจะเป็นลุงสมานที่เป็นหลักฐานชิ้นสุดท้าย”
“ทำไมล่ะลูก”
อุไรที่นั่งฟังอยู่เงียบๆต้องโพร่งถามขึ้นเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมหลักฐานชิ้นสุดท้ายจะต้องพุ่งเป้าไปที่คนสนิทของพ่อเลี้ยงเพชรพนาด้วย
“สายสุดท้ายที่โทรหาพ่อเลี้ยงเพชรก่อนที่พ่อเลี้ยงเพชรจะเกิดอุบัติเหตุเป็นสายของลุงสมานแล้วหลังจากพ่อเลี้ยงเพชรตายไม่นานลุงสมานก็ขอลาออกจากไร่ไปอยู่ที่อื่น แล้วตอนที่พ่อเลี้ยงน่านให้เพื่อนช่วยสืบคดีนี้ลับๆก็มีเรื่องผิดสังเกตุเกี่ยวกับคนสนิทของพ่อเลี้ยงเพชรคือลุงสมานเพราะหลังจากที่ออกไปจากที่นี่เขาก็มีอันจะกินเป็นพิเศษจนผู้กองปุณณ์สืบเส้นทางการเงินของลุงสมานก็พบว่าเคยได้รับเงินจากเสี่ยทรงยศเป็นล้านเลยค่ะ ผู้กองปุณณ์เลยฟันธงเลยว่ายังไงลุงสมานก็ต้องร่วมมือกับเสี่ยทรงยศแน่นอน ตอนนี้ก็เพียงแค่ตามตัวลุงสมานมาเค้นความจริงหลังจากนั้นก็จะมีหลักฐานมัดแน่นเอาผิดเสี่ยทรงยศกับพวกได้ค่ะ”
“นี่มันอะไรกันเนี่ย”
อุไรฟังที่ลูกสาวเธอว่ามาก็ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเพราะสมานเป็นคนที่พ่อเลี้ยงเพชรพนาไว้ใจมากที่สุด
"หลานฉันทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย...แล้วที่นั่นลำบากมากหรือเปล่าไออุ่น..แผลที่น้องเป็นหนักแค่ไหน"
นฤดีฟังเรื่องราวซับซ้อนก็ขมวดคิ้วจนผูกโบว์ไม่คิดว่าการที่หลานเธอมาตามหาคนในคำทำนายจะทำให้ต้องมาเผชิญเรื่องอันตรายถึงชีวิตเช่นนี้
"ตอนนี้คุณหนึ่งมีหมอฝีมือดีดูแลและพ่อเลี้ยงก็คอยดูอยู่ไม่ห่างคุณย่าไม่ต้องห่วงนะคะ"
"เชื่อใจพ่อเลี้ยงนะคะคุณท่าน.. คุณหนูเอาชีวิตตัวเองช่วยพ่อเลี้ยงขนาดนั้นพ่อเลี้ยงต้องดูแลคุณหนูดีแน่นอนเลยค่ะ"
นฤดีพยักหน้าให้คนทั้งสองเธอจะพยายามคิดในแง่ดีเอาไว้เพราะหลานเธอเป็นคนดี ซึ่งคนดีนั้นจะต้องตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้แน่นอน
"เมื่อเช้าฉันลืมเล่าให้คุณฟัง..คือเมื่อคืนฉันฝันไม่ดีเลยค่ะคุณ.. ฝันว่าลูกตกน้ำไม่มีใครช่วย"
วันทั้งวันวิริยาจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจะติดต่อหาลูกหรือแม่สามีของเธอก็ติดต่อไม่ได้เมื่อเห็นสามีกลับมาจากทำงานในช่วงเย็นจึงเข้าไปคุยด้วยสีหน้าหดหู่
"อืม..คุณคงคิดถึงลูกมากไปอย่ากังวลเลยนะก็แค่ฝันพรุ่งนี้ไปทำบุญดีหรือเปล่าคุณจะได้สบายใจ"
สิทธิเดชรวบโอบคนเป็นภรรยาเอาไว้หลวมๆเขาไม่อยากให้เธอเป็นกังวลกับเรื่องความฝันมากนัก
"ก็ดีค่ะฉันอยากไปทำสังฆทานพอดีไม่ได้เข้าวัดนานแล้ว"
การทำบุญเห็นจะเป็นหนทางเดียวในตอนนี้ที่ทำให้วิริยาสบายใจได้
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามวันที่วันหนึ่งนั้นไม่ได้สติผลจากพิษไข้และฤทธิ์ยาโดยมีน่านน้ำเฝ้าอยู่ไม่ห่าง
“ทำไมต้องเสี่ยงเพื่อผมแบบนั้นนะ”
มือหนายื่นอังฝ่ามือกับหน้าฝากมนเขาพยายามตรวจอุณหภูมิของเธอแทบจะตลอดเวลาเพราะเมื่อไรที่เธอเริ่มจะมีไข้เขาต้องรีบไปวานให้ศรีอ่อนภรรยาของคำปันมาเช็ดตัวให้เธอทันทีดีที่วันนี้ไข้ของเธอไม่มีแล้วจากนี้จะได้ไม่ต้องรบกวนคนอื่นมากนัก
"อึก..อือ..เจ็บ.."
"ตื่นแล้วเหรอหนึ่ง..อย่าพึ่งขยับแผลคุณยังไม่หายดี"
คนตัวเล็กที่เริ่มได้สติในช่วงสายเริ่มขยับตัวจนน่านน้ำต้องล็อกตัวเธอเอาไว้ไม่ให้ขยับเยอะด้วยกลัวว่าแผลจะกระทบกระเทือน
"พ่อเลี้ยง...หิวน้ำ"
ดวงตากลมโตที่เริ่มสะลึมสะลือมองเห็นคนตรงหน้าก็เรียกหาน้ำเพราะรู้สึกคอแห้งเป็นพิเศษ หลังจากคำของของหญิงสาวน่านน้ำก็ลุกลี้ลุกลนรีบเทน้ำใส่แก้วพร้อมเสียบหลอดให้หญิงสาวได้ดูด
"ค่อยๆดูดนะ"
หลังจากดื่มน้ำจนหายกระหายและได้สติดีแล้ววันหนึ่งก็เริ่มมองไปรอบๆที่ที่ตัวเองอยู่เธอนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
"เราอยู่ที่ไหน"
"กระท่อมท้ายหมู่บ้านxxxเป็นกระท่อมของลุงคำปันน้องชายลุงคำอ้ายเราต้องหลบอยู่ที่นี่สักพัก"
"ทำไมคะ"
คิ้วเรียวบางเริ่มขมวดเข้าหากันด้วยไม่เข้าใจว่าทำไมเธอจะต้องอยู่ที่นี่
"คือ.. "
น่านน้ำเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนที่วันหนึ่งจะมาอยู่ที่นี่และให้เหตุผลว่าที่ต้องอยู่ที่นี่ต่อก็เพราะเธอและเขาอยู่ในสถานะที่ไม่มีชีวิตเพราะต้องการให้พวกของทรงยศตายใจก่อนที่ผู้กองปุณณ์จะหาตัวสมานเจอ
"แล้วย่าหนึ่งรู้เรื่องนี้หรือเปล่าคะ"
"ผมให้ไออุ่นกลับไปอธิบายให้ท่านเข้าใจแล้ว"
"ค่ะ.. เอ่อ.. แล้ว.. ใครเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนึ่งคะ"
วันหนึ่งกระจ่างกับสิ่งที่คาใจว่าทำไมต้องอยู่ที่นี่ได้เธอก็เริ่มก้มมองชุดของตัวเองที่ไม่ใช่ชุดของเธอและเริ่มจ้องมองไปยังพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยแววตาที่ไม่ค่อยไว้ใจจนน่านน้ำเดาจากสีหน้าของวันหนึ่งออกว่าเธอกำลังคิดอะไรกับเขา
"อย่าพึ่งมองผมแบบนั้น.. ป้าศรีอ่อนภรรยาลุงคำปันเป็นคนเช็ดตัวเปลี่ยนให้คุณทุกวัน"
"อ๋อ.. ค่ะ.."
สาวเจ้าค่อยคลายสีหน้ากังวลลงได้
"คุณนอนพักต่อเถอะพักเยอะๆร่างกายจะได้ฟื้นตัวไวๆ"
"ค่ะ"
วันนี้เป็นวันพิธีเผาศพของวันหนึ่งและน่านน้ำคนในไร่ต่างก็มีอาการโศกเศร้าเสียใจไปตามๆกันบางกลุ่มก็นั่งสงสัยในสาเหตุการตายของทั้งคู่ว่าทำไมถึงไปเสียชีวิตกันที่กลางป่าและมีอาการสงสารทั้งสองพอสมควร บางกลุ่มก็คิดไม่ดีว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นไปทำอะไรเชิงชู้สาวกับแม่ครัวของตัวเองเช่นกลุ่มที่เอื้องฟ้ากำลังยินอยู่ตอนนี้"ทำไมพ่อเลี้ยงไปตกน้ำในป่าลึกกับแม่ครัวได้ล่ะ..เข้าไปทำอะไรกันในป่าลึกแบบนั้น..คงไม่ใช่ไป..""นี่ป้า..คนตายไปแล้วยังจะหาเรื่องพูดให้เค้าดูไม่ดีอีกนะ"เอื้องฟ้าไม่ยอมปล่อยให้คำพูดไม่ดีของเหล่ามนุษย์ป้าที่คิดอกุศลออกมาจนจบเพราะเธอรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไรเพียงแค่พูดออกมาไม่ได้เท่านั้น"พวกฉันก็แค่สงสัย...เออแล้วเรื่องที่แกถูกฉุดล่ะเอื้อง..ไม่ได้สึกเหรออะไรใช่ไหม"หญิงร่างท้วมตอกกลับเอื้องฟ้าน้ำเสียงฉะฉานเพราะพอจะรู้มาว่าคืนวันลอยกระทงเอื้องฟ้าไปแจ้วความกับตำรวจว่าเธอนั้นถูกทรงพลฉุด"ฉันไม่ได้เป็นอะไร"เป็นครั้งแรกที่เอื้องฟ้ารู้สึกหน้าชาเพราะเหล่าป้าๆที่นั่งยิ้มเยาะจ้องมายังเธอไม่วางตาเธอไม่คิดว่าคนที่ไร่จะคิดกับเธออย่างนี้"เชื่อได้เร้อะ"ไออุ่นที่กำลังเก็บโต๊ะเก้าอี้หลังจากงานจบเ
"ไปไหนกันมากลับซะค่ำเลย"คำอ้ายยืนเท้าเอวมองหมอสายน้ำอย่างสงสัยที่พาลูกสาวของเขากลับมาส่งเสียมืดค่ำ"ผมให้เอื้องฟ้าไปช่วยจับลูกหมาที่หลังโรงเรียนมาฉีดวัคซีนครับ""บอกฉันว่าจะพาไปขี่รถเล่นแต่กลับให้ไปจับลูกหมาให้ซะงั้น.. มอมแมมหมดฉันไปอาบน้ำก่อนนะพ่อ"เอื้องฟ้าลงจากรถได้ก็เดินปรี่เข้าไปในบ้านเพราะอยากจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากเหนื่อยวิ่งไล่จับหมาตัวใหญ่ให้หมอหนุ่มได้ฉีดวัคซีน"เออๆ..""วันหลังผมจะชวนเอื้องฟ้าไปด้วยบ่อยๆขออนุญาตลุงคำอ้ายด้วยนะครับ"เอื้องฟ้าเดินหายไปในบ้านได้สายน้ำก็รีบขออนุญาตกับคำอ้ายถึงเรื่องที่วันข้างหน้าเขาคงได้เข้ามาเกาะแกะอยู่กับเอื้องฟ้าบ่อยๆ คำอ้ายได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วไม่คิดว่าจะมีใครอยากจะเข้าใกล้ลูกสาวของเขาที่มีสุนัขอยู่เต็มปากได้"ลูกผมมันเป็นมิตรกับหมอเหรอครับถึงได้อยากให้มันไปช่วยบ่อยๆ""ครับ..เราตกลงเป็นเพื่อนกัน"สายน้ำพูดไปก็มีท่าทีเก้อเขินไปจนคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างคำอ้ายพอจะดูออกแล้วว่าทำไมสายน้ำถึงได้ขออนุญาตเขาพาลูกสาวไปข้างนอกบ่อยๆ"แค่เพื่อน?""คือ..จะพูดตรงๆก็อยากเป็นมากกว่านั้น"สายน้ำไม่คิดอ้อมค้อมเพราะจะจีบลูกสาวของคำอ้ายก็ต้องเข้าท
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมอาทิตย์หลังจากที่วันหนึ่งพูดจาตรงไปตรงมากับน่านน้ำและหลังจากวันนั้นน่านน้ำก็ยังคงดูแลวันหนึ่งได้ดีทุกกระเบียดนิ้วแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่คุยกันค้างเอาไว้อีกซ่า...เช้าของวันนี้วันหนึ่งมานั่งเล่นที่ธารน้ำตกเธอดีขึ้นมากแผลที่เย็บหมอพร้อมก็มาตัดไหมให้แล้วแต่แผลของเธอก็ยังถูกน้ำไม่ได้อยู่ดีสาวเจ้าที่อยู่ใกล้ธารน้ำตกอันแสนสวยจึงมองสายน้ำเหล่านั้นด้วยสายตาละห้อยเพราะทำได้แค่นั่งบนโขดหินแกว่งขาเล่นน้ำเท่านั้น“มาอยู่นี่นี่เอง..ไปทานข้าวเช้ากันเถอะ”น่านน้ำคิดถูกที่เขาเดินมาหลังกระท่อมน้อยตรงมายังธารน้ำตกเพราะได้ยินว่าวันหนึ่งอยากเดินมาเที่ยวตรงนี้หลายวันแล้ว"พ่อเลี้ยง...วันนั้นโกรธหนึ่งหรือเปล่าคะ..เรื่องที่..หนึ่ง"ดวงตากลมโตเปรยมองคนตัวโตที่กำลังทิ้งตัวนั่งลงที่โขดหินข้างๆพร้อมแสยะยิ้มอ่อนให้เขาก่อนะจะเอ่ยถึงเรื่องที่อึดอัดในใจมาหลายวัน"อืมเรื่องวันนั้นผมไม่ได้โกรธหรอก..”น่านน้ำรู้ว่าวันหนึ่งจะพูดเรื่องอะไรเขาจึงโพร่งในขณะที่เธอยังพูดไม่จบเพราะเขาเองก็อยากพูดกับเธอถึงเรื่องนี้หลายวันแล้วเหมือนกันแต่เห็นว่าหญิงสาวยังไม่เกริ่นมาเขาก็ยังไม่กล้าสนทนาเรื่องวันน
"คุณมาเจ็บตัวอยู่ที่นี่ย่าคุณคงจะห่วงมากกลับไปผมต้องไปขอโทษย่าคุณด้วยตัวเอง""หนึ่งฝากพี่อุ่นบอกย่าแล้วค่ะว่าไม่ต้องห่วงหนึ่งมีพ่อเลี้ยงดูแลอย่างดีค่ะ""ยังไงผมก็ต้องไปขอโทษท่านอยู่ดี""ไปฝากตัวเป็นหลานเขยด้วยเลยสิคะ"ใบหน้าจิ้มลิ้มเอียงเงยหน้ามายิ้มทะเล้นหยอกเอิญเล่นกับคนตัวโต"คุณนี่ก็ทะเล้นไม่เลิกจริงๆ""ก็พูดจริงนี่คะ..หนึ่งอยากเก็บหิ่งห้อยพวกนี้ไปไว้ที่ไร่เราจังเลยค่ะ""ใครว่าที่ไร่เราไม่มีล่ะ"ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ยิ้มทะเล้นคราแรกเริ่มมีสีหน้าและแววตาแปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นที่ไม่ยักรู้ว่าที่ไร่เพชรพนาจะมีหิ่งห้อยเพราะเธอออกมาดูดาวแทบทุกคืนไม่เคยจะเห็น"เหรอคะ..หนึ่งออกมาดูดาวออกจะบ่อยไม่เคยเห็น""ถ้าออกไปจากที่นี่ผมจะพาคุณไปที่บ้านเล็กท้ายไร่ที่นั่นติดกับแนวเขาธรรมชาติสมบูรณ์มากมีหิ่งห้อยให้เห็นตลอดเลย""สัญญาแล้วนะคะว่าจะพาหนึ่งไป""อืม..""เอ..เคยพาสาวๆคนไหนไปที่นั่นหรือเปล่าคะ""ไม่เคย..""ดีใจจังที่หนึ่งจะได้ไปที่นั่นคนแรก"ฟึ่บ .. สาวเจ้าว่าจบก็เลื่อนตัวลงนอนตักของน่านน้ำ"เมื่อยค่ะขอนอนหน่อยนะคะ"คนตัวโตเอาแต่นั่งยิ้มมองไปยังหิ่งห้อยหลายพันตัวที่ส่องแสงสว่างไปทั่วต้นไม้ใหญ่
วันหนึ่งมาถึงงานช่วงกลางคืนได้พักใหญ่ก็แยกตัวออกจากน่านน้ำออกมาเดินเล่นกับน้ำผึ้งเพราะรู้สึกตื่นเต้นอยากดูเก็บรายละเอียดพิธีกรรมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"นี่อะไรอะผึ้ง"วันหนึ่งจ้องมองไปยังแก้วไม้ไผ่เล็กๆที่วางบนถาดในมือของน้ำผึ้งอยากรู้นักว่าน้ำใสๆในแก้วที่น้ำผึ้งคอยเอาไปเสริฟเหล่าผู้ชายที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่หลายครั้งแล้วคืออะไร"ลองชิมดูสิคะ""อืมม..อ่าาา..ขมจัง"วันหนึ่งรีบคว้าแก้วในถาดมากระดกอึกใหญ่พอหมดแก้วได้ก็มีสีหน้าเหยเกเพราะรู้สึกว่าไอ้น้ำใสๆที่ดื่มไปเมื่อครู่ทั้งขมทั้งบาดคอ"กลืนไปอึกใหญ่เลยเหรอคะเดี๋ยวก็เมาหรอกค่ะ..นั่นเหล้าต้มของพ่อผึ้งเองแรงมากเลยนะคะ"น้ำผึ้งรีบหยิบแก้วในมือของวันหนึ่งมาถือเอาไว้ทั้งยังมีสีหน้าตกใจที่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะยกไปกระดกหมดแก้วทีเดียวแบบนั้นทั้งที่ผู้ชายที่คุ้นเคยกับเหล้าต้มที่นี่นังค่อยๆจิบทีละนิด"อ้าว..ก็ไม่บอกพี่ว่ามันคือเหล้า"“ก็ไม่คิดว่าจะกระดกจนหมดแบบนั้นนี่คะ”น้ำผึ้งรู้ได้เลยว่าหลังจากนี้อีกไม่กี่นาทีวันหนึ่งได้เมาแอ๋แน่นอนและแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆหลังจากที่วันหนึ่งดื่มเหล้าต้มที่ได้ชื่อว่าแรงมากเธอก็หน้าแดงตาเยิ้มลอยเริ่มเดินสะเ
"หา.."วันหนึ่งเริ่มหน้าเสียและขยิบตาเล็กน้อยเพื่อให้ย่าเธอได้รู้ว่าควรตามน้ำไปก่อน"อ..อ๋อ..ใช่..ค่ะฉันป่วย..โอ้ยฉันก็ขี้หลงขี้ลืมอย่างนี้นั่นแหละค่ะ""รักษาสุขภาพด้วยนะครับถ้าอยากให้ผมช่วยอะไรบอกได้เลยตอบแทนที่หนึ่งช่วยชีวิตผมเอาไว้""ขอบคุณนะคะพ่อเลี้ยงใจดีจริงๆ"แววตาของนฤดีมีแววชื่นชมว่าที่หลานเขยคนนี้พอสมควร"ผมขอตัวกลับไร่ก่อนนะครับ..""บ๊ายบายค่ะพ่อเลี้ยง"คนที่หันหลังกลับไปแล้วหยุดชะงักฝีเท้าและหันมายิ้มให้คนที่เอ่ยลาเสียงเจื้อยแจ้วก่อนจะรีบขับรถกลับไปที่ไร่เพราะมีหลายอย่างเกี่ยวกับคดีของปู่ที่เขาจะต้องไปพูดคุยกับตำรวจ"สายตาที่เค้ามองหลานย่าดูเยิ้มเป็นพิเศษนะ"หลังจากพ่อเลี้ยหงนุ่มให้หลังไปได้นฤดีก็เอ่ยหยอกลานสาวตนถึงเรื่องที่ดูสายตาของน่านน้ำออก"หนึ่งบอกชอบเค้าไปแล้วค่ะ""งั้นเหรอแล้วเค้าว่าไงลูก""เค้าน่าจะไม่เชื่อค่ะให้หนึ่งถามตัวเองให้แน่ใจก่อนเพราะยังไม่เห็นอีกหลายๆมุมของเค้าแล้วอีกสามเดือนค่อยมาพูดอีกทีว่าชอบเค้าจริงๆหรือเปล่า""ย่ามองออกว่าเค้าชอบหลานย่าแล้วแต่เราล่ะชอบเค้าจริงๆหรือพูดแบบนั้นไปเพราะคำทำนาย"ไม่ใช่น่านน้ำที่ยังไม่คิดว่าวันหนึ่งชอบตัวเองได้จริงๆนฤดีเอง
"พี่เอื้อง..หยุดฟังหนึ่งก่อน""ไม่ฟัง"เอื้องฟ้าสะบัดมือของวันหนึ่งทิ้ง"หนึ่งกับพี่สายเป็นลูกพี่ลูกน้องกันค่ะ"วันหนึ่งจึงต้องโพร่งประโยคสำคัญออกมาเพื่อรั้งให้เอื้องฟ้านั้นฟังเธอให้ได้และมันก็ได้ผลเอื้องฟ้าหันมาขมวดคิ้วมองหน้าวันหนึ่งด้วยท่าทีแปลกใจกับสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อครู่"ว่าไงนะ"“เรื่องมันอาจจะยาวสักหน่อยแต่หนึ่งจะเล่าความจริงให้พี่เอื้องฟังค่ะ”วันหนึ่งใช้เวลาอธิบายตั้งแต่ว่าเธอเป็นใครและมาทำอะไรที่นี่รวมถึงภาพเมื่อครู่ที่เอื้องฟ้าเห็นเธอกับสายน้ำไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่าพี่น้อง"เชื่อเรื่องดวงขนาดนี้เลยเหรอ"เอื้องฟ้าพอจะเข้าใจได้เรื่องที่วันหนึ่งกับสายน้ำเป็นอะไรกันแต่มาแปลกใจตรงที่หญิงสาวเชื่อเรื่องดวงมากจนทิ้งชีวิตคุณหนูมาเป็นแม่ครัวอยู่บ้านไร่เพียงเพราะคำทำนายของหมอดู"ค่ะ..คุณย่ากับหนึ่งเดินตามดวงกันมานานแล้วพวกเราเชื่อเรื่องนี้กันมากจริงๆ""ก็คงจะจริงไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ทิ้งชีวิตคุณหนูมาลำบากแบบนี้หรอก...แล้วหมอสายน้ำล่ะเดินตามดวงอะไรด้วยหรือเปล่า""ไม่เกี่ยวค่ะพี่สายน้ำแค่อยากหาที่สงบอยู่เท่านั้นหนึ่งก็พึ่งรู้ว่าพี่สายน้ำอยู่ที่นี่วันที่พี่สายน้ำพาหนึ่งไปฉีดวัคซีนวัว
"หนึ่งว่าบ้านพ่อเลี้ยงน่าอยู่มากๆแล้วที่นี่ดูน่าอยู่มากกว่าอีกนะคะบ้านหลังเล็กๆกับวิวที่สวยสุดยอดเลย"วันหนึ่งเดินดูรอบบ้านด้วยท่าทีตื่นเต้นบ้านหลังเล็กนี้เหมือนบ้านพักในฝันที่เคยเคยคิดอยากจะสร้างก็ว่าได้"ผมสร้างที่นี่เพื่อเอาไว้พักผ่อนเงียบๆ...แต่เป็นเพราะงานที่ยุ่งก็เลยไม่ได้มานานแล้ว""หนึ่งขอมาที่นี่บ่อยๆได้ไหมคะ""ได้อยู่แล้ว...ผมว่าจะให้คุณแบ่งเวลามาทำความสะอาดที่นี่บ้างแต่ไม่ได้ใช้ฟรีผมจะให้เงินพิเศษเพิ่ม""ว้า.. นึกว่าอยากพามาสวีทแต่อยากให้มาทำงานบ้านซะงั้น""เบื่อที่จะเป็นแม่ครัวแม่บ้านให้ผมแล้วหรือไง""เปล่าค่ะ...ได้อยู่ใกล้พ่อเลี้ยงหนึ่งเป็นอะไรก็ได้ค่ะ"พ่อเลี้ยงหนุ่มวาดมือหนายีหัวทุยเล่นด้วยท่าทีเอ็นดูคนตัวเล็กเป็นพิเศษที่ขยันหยอดคำหวานกับเขาได้ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน"ถ้าไม่เกิดเรื่องซะก่อนคุณคงได้ไปสมัครเรียนแล้ว""ไว้รอไปสมัครตอนเค้าเปิดรับอีกทีก็ได้ค่ะหนึ่งไม่รีบ...แต่ดูท่าเหมือนพ่อเลี้ยงจะรีบกว่าหนึ่งนะคะ""คุณอายุยังน้อยถ้าเรียนได้วุฒิสูงๆยังสร้างประโยชน์อะไรได้มากกว่ามาทำงานเป็นแม่บ้านดีไม่ดีคุณอาจจะกลายเป็นบัญชีฝีมือดีหรือไม่อาจจะบริหารองค์กรใหญ่ๆได้เลยก็ได้"น่านน