ไออุ่นที่ตามหาวันหนึ่งทั้งงานก็ไม่เจอซ้ำยังเห็นถุงอาหารที่หญิงสาวซื้อหล่นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากรถมอเตอร์ไซต์จึงรู้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีแล้วสิ่งที่เธอสังหรณ์ใจมันเป็นเช่นนั่นจริงๆเมื่อเอื้องฟ้าโทรบอกกับเธอว่าวันหนึ่งถูกจับตัวไป
"หลานฉันจะเป็นยังไงบ้างนะ"
นฤดีแทบลมจับเมื่อได้รับรู้ข่าวจากไออุ่น
"ใจเย็นๆค่ะคุณท่านทั้งพ่อเลี้ยงทั้งตำรวจกำลังไปช่วยยังไงคุณหนูก็จะต้องปลอดภัยค่ะ"
อุไรประคองหญิงชราเอาไว้ขณะที่ไออุ่นยังคงจ่อยาดมไม่ห่างจากจมูกของนฤดี อุไรเชื่อว่าย่างไรวันหนึ่งก็ต้องปลอดภัยเพราะน่านน้ำไม่ยอมปล่อยให้คนในปกครองของตัวเองเป็นอันตรายอะไรไปแน่
"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกันแล้วตำรวจก็เชื่อไอ้พวกตอแหลพวกนั้นน่ะเหรอ..พ่อเลี้ยงกับหนึ่งจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"
เอื้องฟ้าโมโหจนเสียงสั่นที่ทรงพลปฏิเสธข้อกล่าวหาไม่พอตำรวจยังไม่พบน่านน้ำและวันหนึ่งอีกกลับพบเพียงแค่รถของน่านน้ำที่มีแต่รอยลูกกระสุนปืนเท่านั้นแต่พวกของทรงยศก็ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นอีก
"ใจเย็นๆครับยังไงเราก็ไม่มีหลักฐานไปพูดปากเปล่าแบบนั้นตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี"
“จริงอย่างที่หมอว่า”
คำอ้ายเห็นด้วยกับสิ่งที่สายน้ำพูดเพราะตอนนี้เท่ากับทางเราไปพูดทุกอย่างปากเปล่าโดยที่ไม่มีหลักฐานแล้วเหตุก็เกิดในไร่ของทรงยศกว่าตำรวจจะไปตรวจตราอะไรคนของไร่ก็ทำลายหลักฐานไม่ให้เหลือแล้วแถมตอนนี้ยังเป็นกลางคืนจะสืบจะค้นอะไรก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก
น่านน้ำที่ไหลตามกระแสน้ำมาพน้อมวันหนึ่งค่อนข้างไกลจากที่เกิดเหตุและคิดว่าน่าจะเข้ามาถึงกลางป่าลึกเมื่อพาหญิงสาวขึ้นฝั่งได้ก็เห็นว่ามีหน้าถ้ำเล็กคนตัวโตอุ้มหญิงสาวที่ตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำและเลือดเข้ามาหลบอยู่ที่หน้าปากถ้ำ
"หนึ่งเจ็บ"
วันหนึ่งแทบจะไม่มีเสียงพูดอะไรออกมาเพราะตอนนี้แทบจะไม่ได้สติเป็นเพราะแผลที่ถูกยิงตรงหัวไหล่กระสุนฝังในทำให้เลือดไหลออกมามายอมหยุด
"ทำไมไม่ห่วงตัวเองเลยเอาตัวมาบังกระสุนให้ผมทำไม...ทำไมถึงเลือกที่จะเสี่ยงช่วยผมแบบนั้น"
น่านน้ำรีบถอดเสื้อยืดของเขาพันกดแผลของวันหนึ่งเอาไว้
"แสงไฟ"
เมื่อเห็นว่ามีแสงไฟสาดส่องมายังหน้าปากถ้ำพ่อเลี้ยงหนุ่มก็รีบรวบอุ้มคนที่เจ็บเข้าไปด้านในเพราะไม่รู้ว่าคนที่มาคือพวกไหน
"ไม่เห็นมีใครอยู่เลยพ่อ"
ภูผาเด็กหนุ่มวัยรุ่นยืนเกาหัวแกรกๆบอกคนเป็นพ่อหลังตามรอยหยอดเลือดพร้อมพ่อตนมาถึงหน้าปากถ้ำ
"เลือดที่กองอยู่ยังสดๆแถมยังเป็นทางเดียวแบบนี้จะไม่มีใครอยู่ได้ยังไง"
เสียงที่พูดเมื่อครู่ทำน่านน้ำตาลุกวาวและเลือกที่จะโผล่หน้าออกมาให้คนที่กำลังยืนเถียงกันได้เห็น
"ลุงคำปัน"
คนที่เข้ามาในถ้ำไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นคำปันน้องชายของคำอ้ายและลูกชายที่ใช้ชวิตอยู่ในหมู่บ้านในป่าลึกนั่นเอง
"พ่อเลี้ยง"
คำปันคิดถูกที่ออกมาตรวจตราในรอบนอกของหมู่บ้านในเวลานี้หลังจากได้ยินเสียงปืนลั่นไปทั่วป่า
คำปันพาน่านน้ำที่แบกวันหนึ่งมาพักที่กระท่อมเล็กท้ายหมู่บ้านที่อยู่ติดกับเนินเขาสูงที่นี่เป็นกระท่อมของคำปันที่เอาไว้ใช้พักเวลาเข้าป่าลึกเพื่อหาของป่าเป็นกระท่อมที่ห่างจากตัวหมู่บ้านร่วมกิโลและอยู่ใกล้ลำธารน้ำตกมากที่สุด
"หนึ่ง.. หนึ่ง.. ได้ยินผมหรือเปล่า"
น่านน้ำเรียกชื่อคนตัวเล็กเสียงสั่นเครือเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มที่จะไม่ตอบสนองอะไรกับเขาแล้วเมื่อมองเนื้อตัวของเธอผ่านแสงของตะเกียงที่แขวนตามมุมกระท่อมก็มองออกว่าเนื้อตัวของเธอเริ่มซีดเผือดอย่างน่ากลัว
"ต้องรีบผ่าเอากระสุนออกไม่งั้นได้ช็อคเพราะเลือดไม่หยุดไหลแน่ครับ"
คำปันมองไปยังคนที่นอนตัวซีดอยู่ในโถงกระท่อมด้วยสีหน้าเป็นกังวล
"แต่กว่าจะออกจากหมู่บ้านใช้เวลาพอสมควรเลยนะครับ"
"ไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาลหรอกครับที่นี่มีหมอมือดีอยู่เหมือนกันที่ผมให้ภูผาแยกไปก็เพื่อไปตามหมอมาที่นี่ครับ"
"หมอมาแล้วพ่อ"
คำปันว่าไม่ทันขาดคำเสียงของภูผาก็ตะโกนให้ทั้งสองได้รับรู้จากไกลๆไม่กี่วินาทีภูผาและหมอหนุ่มก็สาวเท้าวิ่งกรูกันเข้ามาถึงกระท่อม
"ผมหมอพร้อมยินดีที่ได้รู้จักครับพ่อเลี้ยง"
หมอหนุ่มรีบแนะนำตัวกับน่านน้ำเขาเคยได้ยินชื่อเสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่มเรื่องความใจดีเอื้อเฟื้อให้ทุนแก่เด็กในหมู่บ้านได้ร่ำเรียนได้เจอตัวจริงในวันนี้รู้สึกยินดีพอสมควรแต่จะยินดีมากหากไม่มีใครต้องเจ็บให้เขาจะต้องรักษาเพราะถึงตนจะเป็นหมอก็ไม่ชอบเหตุการณ์คาบเกี่ยวความเป็นความตายที่ตัวเองต้องเป็นคนกำหนดเลยสักนิด
"หมอพร้อมมาเป็นหมออาสาอยู่ที่นี่ได้เดือนกว่าแล้วครับ”
คำปันเป็นคนแนะนำตัวหมอหนุ่มให้พ่อเลี้ยงได้รู้จักเพิ่มเติมขณะที่พร้อมกำลังเตรียมอุปกรณ์ผ่าตัด
"เรื่องผ่าตัดไม่ยากเลยครับ...แต่ตอนนี้ขาดยาชาเท่านั้นถ้าจะช่วยชีวิตเธอตอนนี้ก็ต้องผ่ากันสดๆครับ"
พร้อมมองหน้าน่านน้ำที่ตามมาเขานั่งข้างคนเจ็บด้วยสยตาที่ค่อนข้างเป็นกังวล น่านน้ำได้ยินเช่นนั้นได้แต่เงียบไปครู่หนึ่งทั้งดวงตาคมยังคงจับจ้องไปยังคนตัวเล็กไม่ละสายตาเพราะไม่มีทางไหนที่วันหนึ่งจะไม่เจ็บปวด
"รีบทำเลยครับหมอ..ขอแบบรวดเร็วครับ"
น่านน้ำไม่รีรอในการตัดสินใจเขารวบอุ้มคนตัวเล็กนอนบนตักกอดเอวเธอเอาไว้แน่นและสั่งให้หมอหนุ่มลงมือทันที
"จัดการเลยครับหมอ"
"ขออนุญาตนะครับ..ทนเจ็บหน่อยนะครับ"
ก่อนจะลงมือใช้มีดผ่าตัดกรีดลงที่แผลตรงหัวไหล่มนหมอหนุ่มกระซิบข้างหูคนที่ไม่ได้สติเป็นการขออนุญาต
"เจ็บ.. อ.. อ๊ายยยยย.."
คนตัวเล็กในอ้อมแขนของน่านน้ำเริ่มเกร็งตัวฝืนไปมาเมื่อปลายมีดกรีดลงซ้ำแผลเดิม เสียงกรีดร้องของหญิงสาวและเนื้อตัวที่สั่นเทาของเธอทำน่านน้ำและคนที่มองเหตุการณ์ต่างก็มองเธอด้วยแววตาสงสารจับใจแต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อยังไงก็ต้องช่วยชีวิตเธอเอาไว้ก่อนแม้นจะรู้ว่าเธอจะเจ็บมากก็เถอะ
"เจ็บ..อ๊ายยยย..ฮื่อๆๆ..ฮื้อๆๆ"
"ทนหน่อยนะหนึ่ง"
เสียงกรีดร้องของวันหนึ่งดังพร้อมเสียงสะอื้นมากเท่าไรใจของน่านน้ำก็เริ่มไม่ดีมากเท่านั้น
"ออกแล้วครับ"
หมอหนุ่มเริ่มเหงื่อตกและพยายามเร่งมือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และไม่นานนักลูกกระสุนลูกเล็กก็ออกมาจนได้ และรีบทำความสะอาบาดแผลก่อนจะรีบเย็บแผลอย่างเร่งมือ และคืนนี้ทั้งคืนหมอหนุ่มและน่านน้ำไม่ได้หลับได้นอนเพราะต้องดูอาการของวันหนึ่งอยู่ตลอดเวลา
เช้าวันต่อมาวันนี้คำอ้ายพาผู้กองปุณณ์และเอื้องฟ้ากับไออุ่นมาที่นี่กันตั้งแต่เช้าหลังจากที่น่านน้ำวานให้คำปันติดต่อกับคำอ้ายแบบลับๆโดยการใช้วิทยุสื่อสารและให้ย้ำกับคำอ้ายว่าให้รู้แค่คนที่ไว้ใจได้เรื่องที่เขากับวันหนึ่งอยู่ที่ไหน
"ถ้าเป็นอย่างที่คุณวันหนึ่งพูดเท่ากับไอ้พวกเสี่ยทรงยศคงจะพอจับทางได้แล้วว่าเรามีหลักฐานเรืองการตายของคุณปู่แก..ตอนนี้ฉันกำลังตามตัวคนสนิทของปู่แกอยู่น่าจะใช้เวลาอีกสักพักแล้วถ้าตามตัวได้เค้นให้เจ้าตัวยอมรับสารภาพวันนั้นคงมีหลักฐานมัดตัวเอาผิดเสี่ยทรงยศได้...แต่ถ้าพวกมันรู้ว่าแกยังมีชีวิตอยู่พวกมันรีบเก็บหลักฐานที่จะสาวความไปถึงตัวมันเรียบแน่"
ผู้กองปุณณ์ตำรวจลับหน้าหล่อเพื่อนสนิทของน่านน้ำเมื่อรับรู้เรื่องราวที่เพื่อนตนเล่าให้ฟังได้เขาก็พอจะสันนิษฐานออกว่าตอนนี้พวกเสี่ยทรงยศคงจะต้องรีบเก็บหลักฐานที่ตัวเองทำผิดเอาไว้แน่หากระแคะระคายแล้วว่าน่านน้ำรู้เรื่องสาเหตุการตายของปู่ และหากทรงยศกับทรงพลเก็บหลักฐานไม่ให้ความผิดสาวถึงตัวเองได้ก่อนที่เขาจะได้หลักฐานชิ้นสุดท้ายน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่
"ผมคิดเหมือนผู้กองปุณณ์นะครับพ่อเลี้ยง"
คำอ้ายที่รู้เรื่องทุกอย่างตั้งแต่ต้นเขาก็กังวลในเรื่องเดียวกับผู้กองปุณณ์
"ถ้าพวกมันเข้าใจว่าผมกับวันหนึ่งตายล่ะ..ผมคิดเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืนเลยเรียกทุกคนมาที่นี่"
หลังจากปรึกษากันก็ได้ข้อสรุปที่ว่าน่านน้ำจะให้ผู้กองปุณณ์ขอความร่วมมือกับตำรวจจัดฉากว่าเจอศพของเขาในตอนที่ออกตามหาเพราะคิดว่าถ้าทรงยศรู้ว่าตัวปัญหาอย่างเขาและวันหนึ่งสิ้นชีวิตไปได้ก็น่าจะลอยตัวไม่ระแวงอะไรและทำให้แผนที่เขาวางเอาไว้แต่แรกไม่ล่ม
"ดูซิ..ตัวเท่าลูกหมาทำเก่งปกป้องคนโน้นปกป้องคนนี้จะตายอยู่แล้วเห็นไหมเนี่ย..อีพวกคนชั่วมันก็ชั่วได้ใจจริงๆพูดแล้วก็โมโห"เอื้องฟ้าพูดไปน้ำตาคลอไปยิ่งรู้ว่าวันหนึ่งปกป้องพ่อเลี้ยงจนตัวเองถูกยิงต้องผ่าตัดกันสดๆยิ่งสงสารจับหัวใจจากก่อนหน้าที่ไม่ค่อชอบหน้าหญิงสาวตอนนี้กลับนับถือน้ำใจที่วันหนึ่งนั้นชอบเอาตัวเองปกป้องคนอื่นก่อนเสมอไม่เว้นแม้แต่เธอที่กัดกันอยู่บ่อยครั้ง"อารมณ์เสียไปก็เท่านั้นแหละค่ะพี่เอื้องหลักฐานความผิดพวกทรงพลไม่แน่นหนาตำรวจก็เอาผิดพวกมันไม่ได้อยู่ดี"ไออุ่นยกมือแตะหัวไหล่ของเอื้องฟ้าที่โกรธจนตัวสั่นเทา เธอเองก็อยากให้คนชั่วได้รับโทษตามกฏหมายแต่จะทำอะไรได้ในเมื่อหลักฐานอะไรก็ไม่มีมัดตัวคนพวกนั้นสักอย่างเดียวหลักฐานพวกรอยกระสุนอะไรพวกนั้นที่มีอยู่น้อยนิดคนพวกนั้นก็แถกันไปได้อยู่ดีว่าไม่ได้เกี่ยวกับการที่วันหนึ่งและพ่อเลี้ยงหนุ่มหายไปไออุ่นกลับมาได้ก็ต้องรีบแจ้งข่าวที่ต้องเก็บเป็นความลับกับคนในบ้านทันที"ถึงต้องแกล้งตายกันเลยเหรอลูก"นฤดีที่ได้ฟังก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลานเธอและน่านน้ำต้องแกล้งตายในเมื่อสามารถกลับมาบอกตำรวจได้เลยว่าถูกพวกของทรงยศทำร้าย"เพื่อความปลอดภัยของ
วันนี้เป็นวันพิธีเผาศพของวันหนึ่งและน่านน้ำคนในไร่ต่างก็มีอาการโศกเศร้าเสียใจไปตามๆกันบางกลุ่มก็นั่งสงสัยในสาเหตุการตายของทั้งคู่ว่าทำไมถึงไปเสียชีวิตกันที่กลางป่าและมีอาการสงสารทั้งสองพอสมควร บางกลุ่มก็คิดไม่ดีว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นไปทำอะไรเชิงชู้สาวกับแม่ครัวของตัวเองเช่นกลุ่มที่เอื้องฟ้ากำลังยินอยู่ตอนนี้"ทำไมพ่อเลี้ยงไปตกน้ำในป่าลึกกับแม่ครัวได้ล่ะ..เข้าไปทำอะไรกันในป่าลึกแบบนั้น..คงไม่ใช่ไป..""นี่ป้า..คนตายไปแล้วยังจะหาเรื่องพูดให้เค้าดูไม่ดีอีกนะ"เอื้องฟ้าไม่ยอมปล่อยให้คำพูดไม่ดีของเหล่ามนุษย์ป้าที่คิดอกุศลออกมาจนจบเพราะเธอรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไรเพียงแค่พูดออกมาไม่ได้เท่านั้น"พวกฉันก็แค่สงสัย...เออแล้วเรื่องที่แกถูกฉุดล่ะเอื้อง..ไม่ได้สึกเหรออะไรใช่ไหม"หญิงร่างท้วมตอกกลับเอื้องฟ้าน้ำเสียงฉะฉานเพราะพอจะรู้มาว่าคืนวันลอยกระทงเอื้องฟ้าไปแจ้วความกับตำรวจว่าเธอนั้นถูกทรงพลฉุด"ฉันไม่ได้เป็นอะไร"เป็นครั้งแรกที่เอื้องฟ้ารู้สึกหน้าชาเพราะเหล่าป้าๆที่นั่งยิ้มเยาะจ้องมายังเธอไม่วางตาเธอไม่คิดว่าคนที่ไร่จะคิดกับเธออย่างนี้"เชื่อได้เร้อะ"ไออุ่นที่กำลังเก็บโต๊ะเก้าอี้หลังจากงานจบเ
"ไปไหนกันมากลับซะค่ำเลย"คำอ้ายยืนเท้าเอวมองหมอสายน้ำอย่างสงสัยที่พาลูกสาวของเขากลับมาส่งเสียมืดค่ำ"ผมให้เอื้องฟ้าไปช่วยจับลูกหมาที่หลังโรงเรียนมาฉีดวัคซีนครับ""บอกฉันว่าจะพาไปขี่รถเล่นแต่กลับให้ไปจับลูกหมาให้ซะงั้น.. มอมแมมหมดฉันไปอาบน้ำก่อนนะพ่อ"เอื้องฟ้าลงจากรถได้ก็เดินปรี่เข้าไปในบ้านเพราะอยากจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากเหนื่อยวิ่งไล่จับหมาตัวใหญ่ให้หมอหนุ่มได้ฉีดวัคซีน"เออๆ..""วันหลังผมจะชวนเอื้องฟ้าไปด้วยบ่อยๆขออนุญาตลุงคำอ้ายด้วยนะครับ"เอื้องฟ้าเดินหายไปในบ้านได้สายน้ำก็รีบขออนุญาตกับคำอ้ายถึงเรื่องที่วันข้างหน้าเขาคงได้เข้ามาเกาะแกะอยู่กับเอื้องฟ้าบ่อยๆ คำอ้ายได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วไม่คิดว่าจะมีใครอยากจะเข้าใกล้ลูกสาวของเขาที่มีสุนัขอยู่เต็มปากได้"ลูกผมมันเป็นมิตรกับหมอเหรอครับถึงได้อยากให้มันไปช่วยบ่อยๆ""ครับ..เราตกลงเป็นเพื่อนกัน"สายน้ำพูดไปก็มีท่าทีเก้อเขินไปจนคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างคำอ้ายพอจะดูออกแล้วว่าทำไมสายน้ำถึงได้ขออนุญาตเขาพาลูกสาวไปข้างนอกบ่อยๆ"แค่เพื่อน?""คือ..จะพูดตรงๆก็อยากเป็นมากกว่านั้น"สายน้ำไม่คิดอ้อมค้อมเพราะจะจีบลูกสาวของคำอ้ายก็ต้องเข้าท
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมอาทิตย์หลังจากที่วันหนึ่งพูดจาตรงไปตรงมากับน่านน้ำและหลังจากวันนั้นน่านน้ำก็ยังคงดูแลวันหนึ่งได้ดีทุกกระเบียดนิ้วแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่คุยกันค้างเอาไว้อีกซ่า...เช้าของวันนี้วันหนึ่งมานั่งเล่นที่ธารน้ำตกเธอดีขึ้นมากแผลที่เย็บหมอพร้อมก็มาตัดไหมให้แล้วแต่แผลของเธอก็ยังถูกน้ำไม่ได้อยู่ดีสาวเจ้าที่อยู่ใกล้ธารน้ำตกอันแสนสวยจึงมองสายน้ำเหล่านั้นด้วยสายตาละห้อยเพราะทำได้แค่นั่งบนโขดหินแกว่งขาเล่นน้ำเท่านั้น“มาอยู่นี่นี่เอง..ไปทานข้าวเช้ากันเถอะ”น่านน้ำคิดถูกที่เขาเดินมาหลังกระท่อมน้อยตรงมายังธารน้ำตกเพราะได้ยินว่าวันหนึ่งอยากเดินมาเที่ยวตรงนี้หลายวันแล้ว"พ่อเลี้ยง...วันนั้นโกรธหนึ่งหรือเปล่าคะ..เรื่องที่..หนึ่ง"ดวงตากลมโตเปรยมองคนตัวโตที่กำลังทิ้งตัวนั่งลงที่โขดหินข้างๆพร้อมแสยะยิ้มอ่อนให้เขาก่อนะจะเอ่ยถึงเรื่องที่อึดอัดในใจมาหลายวัน"อืมเรื่องวันนั้นผมไม่ได้โกรธหรอก..”น่านน้ำรู้ว่าวันหนึ่งจะพูดเรื่องอะไรเขาจึงโพร่งในขณะที่เธอยังพูดไม่จบเพราะเขาเองก็อยากพูดกับเธอถึงเรื่องนี้หลายวันแล้วเหมือนกันแต่เห็นว่าหญิงสาวยังไม่เกริ่นมาเขาก็ยังไม่กล้าสนทนาเรื่องวันน
"คุณมาเจ็บตัวอยู่ที่นี่ย่าคุณคงจะห่วงมากกลับไปผมต้องไปขอโทษย่าคุณด้วยตัวเอง""หนึ่งฝากพี่อุ่นบอกย่าแล้วค่ะว่าไม่ต้องห่วงหนึ่งมีพ่อเลี้ยงดูแลอย่างดีค่ะ""ยังไงผมก็ต้องไปขอโทษท่านอยู่ดี""ไปฝากตัวเป็นหลานเขยด้วยเลยสิคะ"ใบหน้าจิ้มลิ้มเอียงเงยหน้ามายิ้มทะเล้นหยอกเอิญเล่นกับคนตัวโต"คุณนี่ก็ทะเล้นไม่เลิกจริงๆ""ก็พูดจริงนี่คะ..หนึ่งอยากเก็บหิ่งห้อยพวกนี้ไปไว้ที่ไร่เราจังเลยค่ะ""ใครว่าที่ไร่เราไม่มีล่ะ"ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ยิ้มทะเล้นคราแรกเริ่มมีสีหน้าและแววตาแปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นที่ไม่ยักรู้ว่าที่ไร่เพชรพนาจะมีหิ่งห้อยเพราะเธอออกมาดูดาวแทบทุกคืนไม่เคยจะเห็น"เหรอคะ..หนึ่งออกมาดูดาวออกจะบ่อยไม่เคยเห็น""ถ้าออกไปจากที่นี่ผมจะพาคุณไปที่บ้านเล็กท้ายไร่ที่นั่นติดกับแนวเขาธรรมชาติสมบูรณ์มากมีหิ่งห้อยให้เห็นตลอดเลย""สัญญาแล้วนะคะว่าจะพาหนึ่งไป""อืม..""เอ..เคยพาสาวๆคนไหนไปที่นั่นหรือเปล่าคะ""ไม่เคย..""ดีใจจังที่หนึ่งจะได้ไปที่นั่นคนแรก"ฟึ่บ .. สาวเจ้าว่าจบก็เลื่อนตัวลงนอนตักของน่านน้ำ"เมื่อยค่ะขอนอนหน่อยนะคะ"คนตัวโตเอาแต่นั่งยิ้มมองไปยังหิ่งห้อยหลายพันตัวที่ส่องแสงสว่างไปทั่วต้นไม้ใหญ่
วันหนึ่งมาถึงงานช่วงกลางคืนได้พักใหญ่ก็แยกตัวออกจากน่านน้ำออกมาเดินเล่นกับน้ำผึ้งเพราะรู้สึกตื่นเต้นอยากดูเก็บรายละเอียดพิธีกรรมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"นี่อะไรอะผึ้ง"วันหนึ่งจ้องมองไปยังแก้วไม้ไผ่เล็กๆที่วางบนถาดในมือของน้ำผึ้งอยากรู้นักว่าน้ำใสๆในแก้วที่น้ำผึ้งคอยเอาไปเสริฟเหล่าผู้ชายที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่หลายครั้งแล้วคืออะไร"ลองชิมดูสิคะ""อืมม..อ่าาา..ขมจัง"วันหนึ่งรีบคว้าแก้วในถาดมากระดกอึกใหญ่พอหมดแก้วได้ก็มีสีหน้าเหยเกเพราะรู้สึกว่าไอ้น้ำใสๆที่ดื่มไปเมื่อครู่ทั้งขมทั้งบาดคอ"กลืนไปอึกใหญ่เลยเหรอคะเดี๋ยวก็เมาหรอกค่ะ..นั่นเหล้าต้มของพ่อผึ้งเองแรงมากเลยนะคะ"น้ำผึ้งรีบหยิบแก้วในมือของวันหนึ่งมาถือเอาไว้ทั้งยังมีสีหน้าตกใจที่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะยกไปกระดกหมดแก้วทีเดียวแบบนั้นทั้งที่ผู้ชายที่คุ้นเคยกับเหล้าต้มที่นี่นังค่อยๆจิบทีละนิด"อ้าว..ก็ไม่บอกพี่ว่ามันคือเหล้า"“ก็ไม่คิดว่าจะกระดกจนหมดแบบนั้นนี่คะ”น้ำผึ้งรู้ได้เลยว่าหลังจากนี้อีกไม่กี่นาทีวันหนึ่งได้เมาแอ๋แน่นอนและแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆหลังจากที่วันหนึ่งดื่มเหล้าต้มที่ได้ชื่อว่าแรงมากเธอก็หน้าแดงตาเยิ้มลอยเริ่มเดินสะเ
"หา.."วันหนึ่งเริ่มหน้าเสียและขยิบตาเล็กน้อยเพื่อให้ย่าเธอได้รู้ว่าควรตามน้ำไปก่อน"อ..อ๋อ..ใช่..ค่ะฉันป่วย..โอ้ยฉันก็ขี้หลงขี้ลืมอย่างนี้นั่นแหละค่ะ""รักษาสุขภาพด้วยนะครับถ้าอยากให้ผมช่วยอะไรบอกได้เลยตอบแทนที่หนึ่งช่วยชีวิตผมเอาไว้""ขอบคุณนะคะพ่อเลี้ยงใจดีจริงๆ"แววตาของนฤดีมีแววชื่นชมว่าที่หลานเขยคนนี้พอสมควร"ผมขอตัวกลับไร่ก่อนนะครับ..""บ๊ายบายค่ะพ่อเลี้ยง"คนที่หันหลังกลับไปแล้วหยุดชะงักฝีเท้าและหันมายิ้มให้คนที่เอ่ยลาเสียงเจื้อยแจ้วก่อนจะรีบขับรถกลับไปที่ไร่เพราะมีหลายอย่างเกี่ยวกับคดีของปู่ที่เขาจะต้องไปพูดคุยกับตำรวจ"สายตาที่เค้ามองหลานย่าดูเยิ้มเป็นพิเศษนะ"หลังจากพ่อเลี้ยหงนุ่มให้หลังไปได้นฤดีก็เอ่ยหยอกลานสาวตนถึงเรื่องที่ดูสายตาของน่านน้ำออก"หนึ่งบอกชอบเค้าไปแล้วค่ะ""งั้นเหรอแล้วเค้าว่าไงลูก""เค้าน่าจะไม่เชื่อค่ะให้หนึ่งถามตัวเองให้แน่ใจก่อนเพราะยังไม่เห็นอีกหลายๆมุมของเค้าแล้วอีกสามเดือนค่อยมาพูดอีกทีว่าชอบเค้าจริงๆหรือเปล่า""ย่ามองออกว่าเค้าชอบหลานย่าแล้วแต่เราล่ะชอบเค้าจริงๆหรือพูดแบบนั้นไปเพราะคำทำนาย"ไม่ใช่น่านน้ำที่ยังไม่คิดว่าวันหนึ่งชอบตัวเองได้จริงๆนฤดีเอง
"พี่เอื้อง..หยุดฟังหนึ่งก่อน""ไม่ฟัง"เอื้องฟ้าสะบัดมือของวันหนึ่งทิ้ง"หนึ่งกับพี่สายเป็นลูกพี่ลูกน้องกันค่ะ"วันหนึ่งจึงต้องโพร่งประโยคสำคัญออกมาเพื่อรั้งให้เอื้องฟ้านั้นฟังเธอให้ได้และมันก็ได้ผลเอื้องฟ้าหันมาขมวดคิ้วมองหน้าวันหนึ่งด้วยท่าทีแปลกใจกับสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อครู่"ว่าไงนะ"“เรื่องมันอาจจะยาวสักหน่อยแต่หนึ่งจะเล่าความจริงให้พี่เอื้องฟังค่ะ”วันหนึ่งใช้เวลาอธิบายตั้งแต่ว่าเธอเป็นใครและมาทำอะไรที่นี่รวมถึงภาพเมื่อครู่ที่เอื้องฟ้าเห็นเธอกับสายน้ำไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่าพี่น้อง"เชื่อเรื่องดวงขนาดนี้เลยเหรอ"เอื้องฟ้าพอจะเข้าใจได้เรื่องที่วันหนึ่งกับสายน้ำเป็นอะไรกันแต่มาแปลกใจตรงที่หญิงสาวเชื่อเรื่องดวงมากจนทิ้งชีวิตคุณหนูมาเป็นแม่ครัวอยู่บ้านไร่เพียงเพราะคำทำนายของหมอดู"ค่ะ..คุณย่ากับหนึ่งเดินตามดวงกันมานานแล้วพวกเราเชื่อเรื่องนี้กันมากจริงๆ""ก็คงจะจริงไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ทิ้งชีวิตคุณหนูมาลำบากแบบนี้หรอก...แล้วหมอสายน้ำล่ะเดินตามดวงอะไรด้วยหรือเปล่า""ไม่เกี่ยวค่ะพี่สายน้ำแค่อยากหาที่สงบอยู่เท่านั้นหนึ่งก็พึ่งรู้ว่าพี่สายน้ำอยู่ที่นี่วันที่พี่สายน้ำพาหนึ่งไปฉีดวัคซีนวัว