Share

บทที่21 ตกน้ำ

ปั้งๆ

"อ๊า..ยย.. "

วันหนึ่งที่วิ่งไปวิ่งมาก็เหมือนจะวนอยู่ที่เดิมแถมหมอกกับสิงห์ยังตามอยู่ไม่ห่างตอนนี้ความกลัวตายเคลือบคลานเข้ามาในหัวใจของหญิงสาวพอสมควรจากไม่ค่อยกลัวเสียงปืนเพราะเคยฝึกซ้อมยิงปืนมาบอยตอนนี้กลับตกใจส่งเสียงกรีดร้องจนต้องรีบใช้มือทั้งสองปิดปากตัวเองเอาไว้ขณะที่ขาทั้งสองก็สับเท้าวิ่งไปตามทางที่พอจะไปได้

"เสียงปืน.."

น่านน้ำเหยียบเบรกกะทันหันก่อนที่จถึงปากทางเข้าไร่ของทรงยศเขาพอจะฟังทิศทางออกว่ามันอยู่ทางด้านหลังจึงรีบหันหัวรถเลี้ยวกลับไปทันที

"หนึ่ง.."

แสงไฟของรถกระบะส่องไปเห็นหญิงสาวตัวเล็กที่เขาจำได้ดีว่าคือวันหนึ่งจึงรีบเหยียบคันเร่งเข้าไปประชิดตัวของเธอ

"พ่อเลี้ยง.."

สาวเจ้าแทบจะน้ำตาไหลรู้สึกโล่งใจเป็นปลิดทิ้งที่ได้เห็นหน้าของน่านน้ำเธอไม่รีรอที่จะเปิดประตูขึ้นรถหลังจากนั้นน่านน้ำก็รีบเหยียบคันเร่งหนีออกไปจากตรงนี้ทันทีโดยที่ยังคงมีกระสุนปืนยิงมาที่รถอยู่เรื่อยๆ

ปั้งๆ

"โถ่โว้ย..ไอ้สิงห์มึงรีบไปขับรถมามันไปได้ไม่ไกลหรอกโว้ย"

หมอกสบถอย่างหัวเสียเมื่อตามวันหนึ่งไม่ทันจนเธอนั้นหนีไปได้เขาจำได้ดีว่ารถกระบะคันโตเป็นของน่านน้ำและรู้ว่าเอื้องฟ้าคงหนีไปได้และคาบข่าวไปบอกน่านน้ำแน่นอนและคราวนี้เรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้นคงถึงหูตำรวจแน่

"พี่เอื้องกลับไปได้แล้วใช่ไหมคะปลอดภัยดีใช่ไหม"

"อืม..เธอเจอหมอสายน้ำพอดีตอนนี้ให้ไปแจ้งความแล้วตอนนี้ห่วงตัวเองก่อนเถอะเป็นอะไรมากหรือเปล่า"

พ่อเลี้ยงหนุ่มมองแม่ครัวตัวเล็กที่มอมแมมผมเฝ้ายุ่งเหยิงด้วยสายตาเป็นห่วง

"ไม่ค่ะ"

เอี๊ยดด..

"ทำไมรถส่ายแบบนี้ล่ะคะ"

วันหนึ่งตกใจขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่ารถที่เธอนั่งมาได้ครู่หนึ่งก็เริ่มส่ายเป็นงูเลื้อย

"มันคงจะยิงถูกล้อรถเรา...ยังวิ่งไหวไหม"

น่านน้ำเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีเขารีบเบรกและจอดรถเอาไว้ข้างทางและรีบพาวันหนึ่งลจากรถทันทีวินาทีนี้เขาต้องใช้วิธีการวิ่งหนีเพราะรู้ว่าอย่างไรพวกของทรงพลก็ต้องตามมาติดๆแน่นอน

"แล้วจะพ้นพวกมันไหมคะ"

ความกลัวที่หายไปเมื่อครู่เริ่มคลืบคลานมาอีกรอบ

"พ้นสิ.. ผมไม่ปล่อยให้คุณเป็นอันตรายหรอก"

"พวกมึงเรียงหน้ากระดานล่ามันให้ได้"

หมอกเรียกคนมาเพิ่มสามสี่คนเมื่อเห็นรถของน่านน้ำจอดอยู่เขาก็ให้พวกของตนเรียบหน้ากระดานเข้าไปในป่าเพื่อล่าน่านน้ำและวันหนึ่งหลังจากได้รับคำสั่งจากทรงยศว่าต้องทำให้สองคนนั้นไม่มีชีวิตรอดให้ได้ให้

"พ่อเลี้ยงคะหนึ่งว่ามันจะต้องฆ่าเราแน่เลย"

คนที่ถูกน่านน้ำจูงมือให้วิ่งตามเข้าป่าไปติดๆจำเป็นต้องเกริ่นเรื่องนี้ให้เขาได้รับรู้เป็นเพราะเธอเองที่ปากพล่อยทำให้เรื่องที่ไม่น่าจะร้ายแรงกลับร้ายแรงขึ้น

"ทำไม.."

คนตัวโตชะงักฝีเท้าหยุดฟังในสิ่งที่วันหนึ่งจะพูด

"หนึ่งเคยแอบฟังพ่อเลี้ยงคุยโทรศัพท์เรื่องการตายของคุณปู่พอเลี้ยงแล้วพอเจอหน้าพวกของทรงพลหนึ่งก็เผลอหลุดไปด่าพวกมันว่าความชั่วของมันกำลังจะถูกเปิดเผยแล้วมันก็ดูตกใจมากพยายามเค้นให้หนึ่งพูดเรื่องที่หนึ่งรู้แต่หนึ่งก็ไม่ได้พูดอะไรต่อค่ะ..หนึ่งขอโทษนะคะพ่อเลี้ยง"

"ช่างมันก่อนยิ่งรู้แบบนี้เรายิ่งต้องรีบหนี"

"ค่ะ.."

น่านน้ำยิ่งรู้เช่นนี้เขาก็ต้องรีบเร่งฝีเท้าหนีเพราะยิ่งพวกคนชั่วเริ่มระแคะระคายในสิ่งที่เขารู้คงไม่ปล่อยเขาและหญิงสาวไปแน่

ปั้งๆๆ..

อ๊าย.ยย..”

"รีบวิ่งเร็วมันเห็นเราแล้ว"

เมื่อได้ยินเสียงปืนดังกะทันหันสาวเจ้าก็เข้าไปกอดน่านน้ำเอาไว้แน่น พ่อเลี้ยงหนุ่มรีบรวบร่างบางให้ก้มตัวลงและวิ่งหนีให้เร็วที่สุด เป็นข้อดีที่คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงทำให้เขาเห็นทางหนีทีไล่ได้ดีและก็เป็นข้อเสียที่ความสว่างทำให้คนร้ายเห็นเขาได้ง่ายเช่นกัน

ซ่า...

"ไปต่อไม่ได้แล้วค่ะ"

น่านน้ำพาวันหนึ่งวิ่งมาจนถึงปากเหวน้ำตกสูง และตอนนี้เหล่าชายฉกรรจ์กับหมอกและสิงห์ก็ดาหน้าเข้ามาล้อมพวกเธอเอาไว้แล้วด้วยตอนนี้น่านน้ำดันตัวของวันหนึ่งให้อยู่ด้านหลังของเขาเพราะหากจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นเขาจะไม่ยอมให้เกิดกับวันหนึ่งก่อนแน่

"พวกมึงเก็บมันทั้งคู่ยิงแม่งให้พรุนไปเลย"

"ไม่.." ปั้งๆๆ   ตู้มมมมม..

สิ้นเสียงของหมอกคนตัวเล็กที่ใจไม่เล็กก็รีบเอาตัวเองมาบังกระสุนให้น่านน้ำและพากันตกลงในเหวน้ำตกไป

"จะตามมันไปไหมพี่"

เสียงของสิงห์เอ่ยถามหมอกอย่างไม่มั่นใจเพราะไม่คิดว่าคนที่ตกลงไปจะตายร้อยเปอร์เซ็น

"มึงจะกระโดดตามไปก็เรื่องของมึงแต่กูจะกลับ"

หมอกส่ายหัวเขาคิดว่าเมื่อครู่คงมีกระสุนปืนสักลูกโดนตัวสองคนนั้นบ้างและตกไปในเหวลึกขนาดนี้แถมกระแสน้ำยังไหลเชี่ยวไม่ตายก็ต้องเจ็บหนักและเขาก็คงไม่ระห่ำเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อดูให้แน่ใจว่าสองคนนั้นตายหรือไม่ตาย

พลั้กก.."มึงยังไม่เห็นว่ามันเป็นศพแต่ก็เสือกกลับมาเนี่ยนะ"

ทรงยศวาดฝ่ามือใส่แก้มสากของหมอกอย่างเต็มแรงที่กลับมาโดยที่ยังไม่แน่ใจว่างานที่เขาสั่งสำเร็จหรือไม่

"ผมรัวกระสุนดันไปขนาดนั้นมันก็ต้องถูกยิงบ้างครับเสี่ยแถมพวกมันยังกระโดดลงเหวน้ำตกไปอีกป่านนี้น่าจะกระแทกหินเป็นศพกันไปแล้วล่ะครับ"

"ให้มันจริงอย่างที่มึงพูดเถอะไอ้หมอก"

"พ่อ.. ตำรวจมาที่บ้าน"

"เบื่อโว้ย..วันๆมีแต่เรื่อง"

ยังไม่ทันที่จะหายโมโหเรื่องเมื่อครู่ทรงยศก็ต้องมาปวดหัวกับเรื่องที่ต้องมารับหน้าตำรวจอีก  

"มีอะไรกันครับทำไมถึงมาที่นี่ดึกดื่น"

ทรงยศต้องปั้นหน้ายิ้มแย้มรับแขกที่เป็นเจ้าหน้าที่ทั้งที่ในใจตอนนี้ประทุไปด้วยความโมโหแทบจะอกแตก

"คุณเอื้องฟ้าไปแจ้งความว่าคุณทรงพลไปฉุดเธอแล้วตอนนี้ก็จับตัวของคุณวันหนึ่งเอาไว้"

สารวัตรหนุ่มแจ้งให้เจ้าของบ้านได้รับทราบว่าเขาได้รับแจ้งเหตุมาแบบไหน

"น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันแล้วล่ะครับ...ผมแค่ชวนเอื้องฟ้ามาคุยด้วยธรรมดาเท่านั้นแต่เธอดันเข้าใจผิดหาว่าผมฉุดแล้ววันหนึ่งก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ไม่เชื่อก็ลองค้นดูทั้งในบ้านแล้วก็ในไร่ผมก็ได้"

ทรงพลยังคงแถข้างๆคูๆเพราะเขาเชื่อว่าเอื้องฟ้าไม่ได้มีหลักฐานอะไรได้แต่เพียงไปพูดปากเปล่าเท่านั้นอีกอย่างที่เขาไม่กังวลก็เพราะวันหนึ่งไม่ได้อยู่ในไร่แล้วจริงๆ

"อย่างนั้นผมคงต้องขออนุญาตตรวจค้น"

"เชิญตามสบายครับ"

ทรงยศไม่มีข้อขัดข้องหลังจากที่สารวัตรหนุ่มโชว์หมายค้นก่อนจะหันหลังกลับไปมองค้อนใส่ลูกชายตัวดีที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในคืนนี้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status