Share

บทที่25 ความในใจ

"ไปไหนกันมากลับซะค่ำเลย"

คำอ้ายยืนเท้าเอวมองหมอสายน้ำอย่างสงสัยที่พาลูกสาวของเขากลับมาส่งเสียมืดค่ำ

"ผมให้เอื้องฟ้าไปช่วยจับลูกหมาที่หลังโรงเรียนมาฉีดวัคซีนครับ"

"บอกฉันว่าจะพาไปขี่รถเล่นแต่กลับให้ไปจับลูกหมาให้ซะงั้น.. มอมแมมหมดฉันไปอาบน้ำก่อนนะพ่อ"

เอื้องฟ้าลงจากรถได้ก็เดินปรี่เข้าไปในบ้านเพราะอยากจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากเหนื่อยวิ่งไล่จับหมาตัวใหญ่ให้หมอหนุ่มได้ฉีดวัคซีน

"เออๆ.."

"วันหลังผมจะชวนเอื้องฟ้าไปด้วยบ่อยๆขออนุญาตลุงคำอ้ายด้วยนะครับ"

เอื้องฟ้าเดินหายไปในบ้านได้สายน้ำก็รีบขออนุญาตกับคำอ้ายถึงเรื่องที่วันข้างหน้าเขาคงได้เข้ามาเกาะแกะอยู่กับเอื้องฟ้าบ่อยๆ คำอ้ายได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วไม่คิดว่าจะมีใครอยากจะเข้าใกล้ลูกสาวของเขาที่มีสุนัขอยู่เต็มปากได้

"ลูกผมมันเป็นมิตรกับหมอเหรอครับถึงได้อยากให้มันไปช่วยบ่อยๆ"

"ครับ..เราตกลงเป็นเพื่อนกัน"

สายน้ำพูดไปก็มีท่าทีเก้อเขินไปจนคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างคำอ้ายพอจะดูออกแล้วว่าทำไมสายน้ำถึงได้ขออนุญาตเขาพาลูกสาวไปข้างนอกบ่อยๆ

"แค่เพื่อน?"

"คือ..จะพูดตรงๆก็อยากเป็นมากกว่านั้น"

สายน้ำไม่คิดอ้อมค้อมเพราะจะจีบลูกสาวของคำอ้ายก็ต้องเข้าทางพ่อนี่แหละ

"หา...พูดจริงเหรอหมอ"

คำพูดของสายน้ำไม่ได้ทำให้คำอ้ายโมโหหรือมีอาการหวงลูกสาวอะไรเพียงแค่แปลกใจที่ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากหนุ่มๆคนไหนเท่านั้น

"ครับ..ผมไม่ใช่คนกะล่อนไปเรื่อยขอตัวกลับก่อนนะครับ"

สายน้ำพยักหน้าหงึกหงักมองคำอ้ายด้วยสายตาจริงใจก่อนจะขอตัวกลับ

"คิดอะไรอยู่"

คำอ้ายมองหลังไวๆของสายน้ำเขายกมือเกาหัวแกลกๆที่หมอหนุ่มช่างแปลกคนผู้หญิงดีๆตั้งมากมายไม่ชอบดันมาชอบผู้หญิงปากจัดเสียอย่างนั้นแต่ถึงอย่างไรก็ดีใจลึกๆที่ลูกตนได้มีคนดีๆมาชอบแต่อยู่ที่ว่าลูกเขาจะชอบหมอหนุ่มตอบหรือไม่เท่านั้นเอง

"พ่อเลี้ยงคะ.."

วันหนึ่งตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นก็เรียกหาน่านน้ำเสียงแหบพร่าเพราะต้องการจะลุกขึ้นนั่งแต่ก็ไม่มีแรงและค่อนข้างเจ็บที่แผลพอสมควร

"หนึ่ง"

น่านน้ำที่พึ่งจะไปเอาอาหารเย็นจากบ้านของคำปันเมื่อกลับมาถึงได้ยินเสียงวันหนึ่งเรียกพอดีจึงรีบสาวเท้าเข้าไปช่วยพยุงหญิงสาวที่พยายามจะลุกขึ้นนั่ง

"ตื่นนานหรือยัง..ได้เวลาข้าวเย็นพอดีหิวหรือเปล่า"

"พึ่งตื่นเมื่อกี้ค่ะ..หนึ่งยังไม่อยากทานอะไรรู้สึกเจ็บคอค่ะ"

สาวเจ้าพูดด้วยสีหน้าเหยเกเพราะรู้สึกว่าตอนนี้แสบคอเป็นพิเศษ

“ยังไงก็ต้องทานสักคำสองคำ..ป้าศรีอ่อนทำเป็นข้าวต้มมาให้น่าจะกลืนง่ายอยู่ทานซะหน่อยนะจะได้ทานยา”

น่านน้ำรีบเปิดปิ่นโตที่เอามาจากบ้านของศรีอ่อนในปิ่นโตมีข้าวต้มของวันหนึ่งและข้าวสวยสำหรับเขากับผัดผักและปลาปิ้งยังไงเขาก็ต้องบังคับให้วันหนึ่งทานข้าวได้สักคำสองคำจากนั้นจะได้ทานยา

“เดี๋ยวผมป้อน”

น่านน้ำตักข้าวต้มและวางชิ้นปลาเล็กๆที่แกะมาแล้วบนช้อนพอดีคำยื่นป้อนให้กับหญิงสาวเพราะรู้ว่าเธอน่าจะยังขยับแขนและตัวไม่ค่อยถนัดเพราะแผลยังคงน่าเป็นห่วงอยู่

"ทำไมทรมานแบบนี้นะ.."

สาวเจ้ายอมอ้าปากทานข้าวต้มเคี้ยวสองสามทีแล้วกลืนด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะดีนัก

"ทนอีกหน่อยทานข้าวทานยาให้ตรงเวลาเดี๋ยวก็ดีขึ้น"

“ค่ะ”

หลังจากน่านน้ำป้อนข้าววันหนึ่งเสร็จก็ทำแผลเช็ดเนื้อเช็ดตัวในส่วนภายนอกร่มผ้าให้วันหนึ่งที่เขาต้องทำก็เพราะวันนี้ศรีอ่อนไม่ว่างที่จะมาเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาว

“ผมเช็ดตัวให้คุณได้เท่านี้พรุ่งนี้เช้าป้าศรีอ่อนจะมาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณ...อยู่ในชุดเดิมคืนนึงคงไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

“ค่ะ..ขอบคุณนะคะที่ดูแลหนึ่งอย่างดี”

ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอ่อนให้คนที่กำลังใช้ผ้าขนหนูเปียกน้ำหมาดเช็ดพวงแก้มของเธอ

“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณที่เอาตัวเองมาเสี่ยงปกป้องผม ที่คุณช่วยเหลือคนอื่นไปทั่วโดยที่ไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองผมถามจริงๆเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่ามันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงกับชีวิตตัวเอง"

"หนึ่งเคยบอกแล้วไงคะเวลาเห็นใครถูกทำร้ายไม่คิดอะไรทั้งนั้นนอกจากจะเข้าไปช่วย...ถ้าเราช่วยคนอื่นเยอะๆเราก็จะมีแต่คนรักเยอะมีแต่ข้อดีไม่ใช่เหรอคะ"

"ช่วยคนมันก็เป็นข้อดีแต่ควรจะคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลัก...อีกอย่างที่คุณคิดว่าคนที่คุณช่วยจะเป็นมิตรหรือรักคุณทุกคนอาจจะไม่ใช่ก็ได้"

น่านน้ำคิดว่าสิ่งที่หญิงสาวพูดมันก็เป็นจริงส่วนหนึ่งแต่ในโลกความเป็นจริงทุกวันนี้มันไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด

"แล้วพ่อเลี้ยงล่ะคะถ้ามีคนช่วยเหลือบ่อยๆจะรักคนๆนั้นไหม...เพราะที่หนึ่งช่วยพ่อเลี้ยงส่วนหนึ่งก็เพราะสัญชาติญาณอีกอย่างก็อยากให้พ่อเลี้ยงรักด้วยเพราะหนึ่งรู้สึกดีกับพ่อเลี้ยงมากเลยค่ะ"

สาวเจ้าเอ่ยอย่างไม่เคอะเขินเพราะเธอเห็นว่าถึงเวลาที่จะต้องบุกชายหนุ่มจริงจังแล้วมัวมานั่งรอให้เขารู้สึกดีก่อนคงไม่ได้ น่านน้ำไม่ได้ตกใจกับคำพูดวันหนึ่งกลับอมยิ้มอ่อนอย่างไม่ใส่ใจด้วยคิดว่าเธอคงชอบพูดเล่นหยอกเขาอีกตามเคย

"ขยันพูดเล่นจริงๆ"

ว่าจบก็ลุกเอาผ้าขนหนูที่เช็ดตัวหญิงสาวเสร็จแล้วหมายจะเดินไปตากข้างนอก

"หนึ่งพูดจริงๆค่ะ...หรือว่าแม่ครัวอย่างหนึ่งไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าของหัวใจพ่อเลี้ยงคะ"

น่านน้ำเริ่มชะงักฝีเท้าหันหลังกลับมาคุยกับคนตัวเล็กที่เอาแต่จ้องมองเขาด้วยแววตาที่จริงจัง

"ผมไม่เคยมองใครสูงหรือใครต่ำกว่าแต่สิ่งที่คุณพูดออกมาแน่ใจแล้วหรือไงว่ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ"

"ค่ะ...พ่อเลี้ยงทั้งหล่อทั้งจิตใจดีเป็นใครก็รู้สึกดีตอนอยู่ใกล้ทั้งนั้นแหละค่ะ"

“เราค่อยคุยเรื่องนี้กันวันหลังแล้วกันคุณเจ็บคออยู่ไม่ใช่หรือไงอย่าพึ่งพูดอะไรเยอะเลย”

คนตัวโตรีบเดินหันหลังออกไปด้านนอกอย่างไม่คิดที่จะหันกลับมาสนทนาอะไรกับวันหนึ่งอีก

"เฮ้อ.."

วันหนึ่งถอนหายใจเฮือกใหญ่คิดในใจว่าไม่น่ารีบพูดแบบนั้นไปก่อนเลยเพราะหลังจากนี้อาจจะทำให้น่านน้ำทำตัวห่างกับเธอก็ได้

ที่น่านน้ำรีบเดินหันหลังออกมาเพราะเขากลัวว่าหญิงสาวจะเห็นว่าเขากำลังมีรอยยิ้มต่างหากคิดๆดูแล้วก็รับรู้ความรู้สึกของตัวเองได้ก็ตอนนี้ว่าเขาก็คงจะปลื้มยัยแม่ครัวตัวเล็กนี่อยู่เหมือนกันไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สึกดีใจที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของเธอ เขาโตพอที่จะรู้ว่าความรู้สึกของตัวเองเป็นเช่นไรแต่เขายังไม่ค่อยแน่ใจว่าวันหนึ่งจะคิดอย่างที่พูดเพราะพึ่งรู้จักเขาไม่นานนักเธอไม่ได้เห็นอีกหลายมุมของเขาที่พูดไปเช่นนั้นก็เพราะเธอเห็นแต่ในส่วนดีของเขาก็ได้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status