Share

บทที่16 จะเป็นหมันไหม

หลังจากพ่อเลี้ยงหนุ่มออกจากบ้านไปได้วันหนึ่งก็รีบทำงานบ้านให้เสร็จก่อนจะมาหาวิธีเจ็บตัว ใช่วิธีเจ็บตัวเมื่อตอนฝึกปั่นจักรยานเพราะเธอต้องการให้น่านน้ำนั้นดูแลเธออย่างใกล้ชิด

"...อืม..ลงท่าไหนถึงจะดูสวยนะ"

ตั้งแต่เที่ยงจนจะเข้าบ่ายวันหนึ่งก็ยังคงจับจ้องเจ้าจักรยานแม่บ้านหัดขึ้นขี่และฝึกท่าล้มลงพื้นไม่ลดละเพราะต้องการหาวิธีล้มให้เธอดูดีที่สุดในสายตาของน่านน้ำ หลังจากล้มเธอก็จะแกล้งข้อเท้าเคล็ดเดินไม่ได้แล้วคนที่ถือเนื้อถือตัวอย่างพ่อเลี้ยงหนุ่มก็ต้องอุ้มเธอจนได้เวลานั้นแหละเธอจะทำตัวใกล้ชิดเขามากที่สุดเท่าที่จะทำได้

พอบ่ายคล้อยน่านน้ำก็กลับมาสอนวันหนึ่งปั่นจักรยานตามนัดเขาสอนหญิงสาวที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านอยู่พักใหญ่จนเธอนั้นเริ่มที่จะปั่นไปข้างหน้าเองได้แล้ว

"เดี๋ยวหนึ่งลองปั่นไปตรงนั้นแล้ววนกลับมานะคะ"

วันหนึ่งอยากจะลองปั่นเองโดยที่ไม่ต้องมีน่านน้ำคอยประคองเพราะเธอจะได้ล้มลงและแกล้งเจ็บตัวอย่างที่ชายหนุ่มไม่สงสัยอะไร

"อืม.. ผมจะไม่เดินตามแล้ว..จะรออยู่ตรงนี้"

"ค่ะ"

วันหนึ่งเริ่มปั่นทั้งที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่มั่นใจเท่าไรแต่เพราะอยากจะทำตามสิ่งที่คิดเอาไว้แล้วจึงขอน่านน้ำปั่นจักรยานแม่บ้านด้วยตัวเอง

"ก็ไม่เห็นจะยากอะไรนี่นา...ตอนนี้แหละ"

สาวเจ้าปั่นรอบต้นไม้ใหญ่หนึ่งรอบก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ยากอะไรและคนที่อยากรู้อยากลองท้าทายความสามารถของตัวเองและโชว์ความเก่งให้กับคนที่สอนดูว่าเธอเป็นคนหัวไวก็รีบเร่งฝีเท้าการปั่นจักรยานให้เร็วขึ้น

“พ่อเลี้ยงดูสิคะหนึ่งเก่งแล้ว”

คนที่กำลังเร่งฝีเท่าการปั่นจักรยานโชว์เอาแต่ยิ้มร่าและสายตาก็ยังคงจับจ้องไปยังพ่อเลี้ยงหนุ่มโดยที่ไม่ได้มองว่าทางข้างหน้าที่เธอกำลังปั่นไปเป็นหลุมที่ควรจะต้องหลบ

"หนึ่งระวังล้ม.."

กึก “อ๊ายยยย”  

ไม่ทันที่น่านน้ำจะได้พูดจบหญิงสาวก็ลงหลุมไปจนได้จนน่านน้ำต้องรีบวิ่งเข้าไปหาวันหนึ่งก่อนที่เธอจะล้มลง

ปึก..”โอ้ยย..”

แต่ด้วยความที่โชคไม่ดีของคนที่กำลังจะเข้าไปช่วยเขายังไม่ทันที่จะได้รับตัวของหญิงสาวที่กำลังจะล้มลงพร้อมจักรยานก็ถูกล้อหน้าของจักรยานคันโตพุ่มเข้ามาผ่าหมากจนรู้สึกเจ็บจุกร้าวไปทั่วตัวและลงไปนอนกองกับพื้น

"พ่อเลี้ยงงง.."

วันหนึ่งที่ล้มลงไปกับพื้นพร้อมๆกับพ่อเลี้ยงหนุ่มเมื่อเห็นเขานอนเจ็บก็รีบผุดลุกขึ้นมาดูอีกฝ่ายเพราะตัวเองไม่ได้เจ็บอะไรมากและรู้อีกด้วยว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มต้องเจ็บกว่าเธอหลายเท่าด้วยถูกกจักรยานพุ่งผ่ากลางกล่องดวงใจเสียขนาดนั้น จากที่เธอจะแกล้งเจ็บเพื่อให้เขาดูแลกลับเป็นเธอเองที่น่าจะต้องดูแลเขาแทน

"หนึ่งขอโทษค่ะ"

สาวเจ้าพยุงน่านน้ำเข้ามานั่งในบ้านได้ก็รีบขอโทษขอโพยเขายกใหญ่

"วันหลังค่อยสอนกันใหม่แล้วกันวันนี้พอก่อน"

คนที่ยังรู้สึกจุกอยู่เอ่ยน้ำเสียงติดๆขัดๆ

"คงต้องเป็นแบบนั้นแหละค่ะ..ต..แต่พ่อเลี้ยงจะเป็นหมันไหมคะ"

“ห้ะ..ม..ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”

“ค่อยโล่งอก..เดี๋ยวหนึ่งไปหาของว่างมาให้ทานนะคะ”

ริมฝีปากบางพ่นลมหายใจโล่งอกก่อนจะรีบลุกเดินเข้าไปในครัว คำถามที่ดูจริงจังของวันหนึ่งทำน่านน้ำขมวดคิ้วกับคำพูดตรงไปตรงมาของเธอเป็นครั้งที่เท่าไรนับไม่ได้ และแทนที่เธอจะห่วงเรื่องการเจ็บตัวภายนอกของเขาดันมาห่วงเรื่องที่กลัวว่าเขาจะเป็นหมันเสียอย่างนั้น นับวันๆแม่ครัวของเขาก็มีอะไรให้แปลกใจได้ทุกวันจริงๆ

"เฮ้อ..หรือว่าเราไม่มีเสน่ห์จะมัดใจพ่อเลี้ยงจริงๆ"

วันหนึ่งมานั่งกลุ้มที่ชิงช้าใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน ด้วยร่วมเดือนกว่าแล้วที่เธออยู่ที่นี่แต่กลับไม่มีวี่แววว่าน่านน้ำจะสนใจเธอแม้แต่น้อยทั้งที่เธอนั้นทั้งหาเรื่องคุยกับเขาหาเรื่องอยู่ใกล้เขาตลอดเวลา

"มานั่งซึมอะไรตรงนี้"

"ฮะ.! “

สาวเจ้าสะดุ้งเฮือกเมื่อกำลังนั่งเหม่ออยู่ในภวังค์ต้องตกใจเพราะเสียงเรียกของพ่อเลี้ยงหนุ่ม

“ตกใจหมดเลยพ่อเลี้ยง"

"เป็นอะไรมีปัญหาอะไรหรือเปล่า"

น่านน้ำยืนกอดอกถามแม่ครัวตัวเล็กด้วยสีหน้าเป็นห่วงด้วยเห็นว่าเธอเหม่อจนไม่ได้สังเกตว่าเขาขับรถมาที่บ้านแล้วก่อนหน้านี้ทุกๆวันก่อนที่เขาจะออกจากบ้านหรือเข้าบ้านมาก็จะมีหญิงสาวคอยส่งยิ้มและส่งเสียงเจื้อยแจ้วให้ฟังตลอดวันนี้ไม่เห็นรอยยิ้มของเธอจึงรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไป

"เอ่อ...พ่อเลี้ยงเป็นห่วงความรู้สึกหนึ่งด้วยเหรอคะ"

ริมฝีปากบางเริ่มเปรยรอยยิ้มอ่อนขึ้นมาได้บ้างเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีทีท่าเป็นห่วง

“ก็..คุณเป็นคนในบ้านผมเห็นคุณแปลกไปผมก็สงสัยเป็นธรรมดา”

คำตอบของชายหนุ่มเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังของวันหนึ่งพอสมควร แต่ใครจะไปรู้ว่าน่านน้ำอยากตอบว่าห่วงอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกันแต่กลัวว่าหญิงสาวจะมองเขาไม่ดีเพราะเขาและเธออยู่ในสถานะเจ้านายกับลูกน้อง

"ไม่มีอะไรหรอกค่ะพ่อเลี้ยงหิวหรือยังคะหนึ่งทำปลาทับทิมนึ่งกับน้ำจิ้มรสแซ่บไว้ให้ด้วยนะคะ"

"อืม.. กำลังอยากทานปลาอยู่พอดี.. คุณเป็นแม่ครัวที่รู้ใจผมจริงๆเลยนะ"

"อยากเป็นคนรู้ใจด้วยจะได้ไหมคะ"

น่านน้ำถึงกับไปไม่เป็นกับคำถามของคนตัวเล็กปกติแล้วเขาจะตอบกลับเธอด้วยคำที่ไม่ค่อยสนใจคำพูดของเธอแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ตัวเองถึงได้รู้สึกเขินคำถามของหญิงสาวขึ้นมาดื้อๆเสียอย่างนั้น

"หยอกเล่นน่ะค่ะ..แฮร่"

ถึงจะผิดหวังในคำตอบของพ่อเลี้ยงหนุ่มเมื่อครู่แต่คนตัวเล็กก็ไม่วายจะทิ้งลูกหยอดเอาไว้ให้เขาก่อนจะรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าบ้านไป

คนตัวโตสาวเท้าเดินตามหลังคนตัวเล็กไปติดๆริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มตลอดเวลาเมื่อมองคนที่กระโดดโลดเต้นวิ่งเข้าไปในบ้าน พักหลังมานี้เขายิ้มได้มากขึ้นทุกวันก็เพราะความทะเล้นความจุ้นจ้านของแม่ครัวตัวเล็กแม้ในบางครั้งเธอจะหาเรื่องให้เขาต้องดุบ่อยๆก็เถอะแต่เมื่อมีเธออยู่ที่นี่บ้านที่เคยเงียบเหงาก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมามากพอสมควร

ทำไมไม่มางานหมั้นเกรซล่ะคะน่าน เราไม่เหลือแม้กระทั่งมิตรภาพแล้วเหรอ

น่านน้ำเปิดอ่านข้อความที่กวินตราส่งมาให้ในช่วงหัวค่ำ เขากดเปิดอ่านและไม่ได้ตอบกลับข้อความของเธอเพราะไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้นตอนนี้เขายอมรับว่าถึงจะเลิกกับหญิงสาวด้วยดีแต่ก็ยังทำใจเป็นเพื่อนกับเธอหรือจะเข้าไปร่วมยินดีในชีวิตคู่ของเธอไม่ได้จริงๆ

"ถ้าเกรซอายุ30แล้วน่านต้องขอเกรซแต่งงานแล้วนะเกรซไม่อยากมีลูกตอนแก่กว่านั้น"

"ได้​สิ..ขอก่อนหน้านั้นได้หรือเปล่า"

"แล้วแต่น่านเลยค่ะ"

คำพูดที่น่านน้ำเคยคุยกับกวินตราเมื่อคบกันได้ปีสองปีแรกยังคงก้องอยู่ในหัวและเขายังจำมันได้ทุกคำเป็นเขาเองที่ผิดสัญญากับเธอจนทำให้ระหองระแหงกัน แต่ชีวิตที่หญิงสาวเลือกก็น่าจะทำให้เธอนั้นมีความสุขดีแล้วเพราะกวินตราชอบที่จะใช้ชีวิตสุขสบายในต่างประเทศและชรันก็เป็นคนที่สร้างชีวิตแบบนั้นให้เธอได้

"พ่อเลี้ยงคะ.."

คนที่กำลังยืนเหม่อมองฟ้าต้องก้มลงมองที่หน้าบ้านเมื่อจู่ๆแม่ครัวตัวเล็กก็เรียกเขาเสียงแจ๋วกระโดดโบกไม้โบกมืออยู่ข้างล่างภาพนั้นทำคนที่กำลังนึกถึงเรื่องเก่าที่ไม่ค่อยจะดีนักแสยะยิ้มออกมาได้

"นึกว่าเข้าห้องพักผ่อนไปแล้วซะอีก"

เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมเปรยยิ้มอ่อนให้กับคนตัวเล็กที่พึ่งวิ่งขึ้นมาหาเขาด้านบน

"หนึ่งเห็นว่าวันนี้เป็นคืนฟ้าเปิดก็เลยจะออกมาดูดาวค่ะ..ทำไมพ่อเลี้ยงดูเหม่อจังเลยล่ะคะเครียดอะไรหรื​อเปล่า"

สาวเจ้าเอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัยเพราะก่อนที่เธอจะเรียกพ่อเลี้ยงหนุ่มเมื่อครู่เห็นเขายืนเหม่ออยู่ก่อนหน้าแล้ว

"เปล่าหรอก"

คนถูกถามส่ายหัวเพราะไม่ได้ต้องการตอบอะไรด้วยเป็นเหตุผลส่วนตัวที่เขาเองก็ยังไม่อยากจะเอ่ยปากพูดถึง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status