Share

บทที่13 พยายามลืม

น่านน้ำกลับมาถึงเพนท์เฮ้าส์ของตนที่เคยอยู่ก็นึกถึงเรื่องราวเก่าๆทุกผืนที่ในเพนท์เฮ้าส์แห่งนี้เคยมีกวินตราได้เคยอยู่เฟอร์นิเจอร์ทุกตัวหรือของตกแต่งก็เป็นสิ่งที่หญิงสาวเลือกทั้งหมด น่านน้ำทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาสีครีมตัวใหญ่ก่อนจะถอนหายใจอ่อนเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้รู้สึกสบายขึ้นก่อนจะลุกเก็บรูปคู่ของเขากับกวินตราที่ใส่กรอบวางเอาไว้ทั่งพื้นที่ลงกล่อง

“ผมจะพยายามลืมคุณให้ได้”

น่านน้ำพูดกับรูปภาพที่อยู่ในกล่องก่อนจะเก็บมันเอาไว้ที่ในตู้เก็บของ เขาคบกับกวินตราตั้งแต่ไปเรียนต่างประเทศพร้อมกันด้วยความที่พ่อแม่รู้จักกันและเรียนรุ่นเดียวกันเมื่อไปอยู่ต่างประเทศเขาและเธอห่างครอบครัวจึงทำให้ได้พูดคุยกันสนิทสนมกว่าอยู่ที่ไทยและตัดสินใจคบกัน ความรักของเขาและเธอมันดีมาโดยตลอดแต่มันมาสะดุดตรงที่เขาเลือกที่จะเข้ามาดูแลไร่ในช่วงที่เคยคุยไว้ว่าจะแต่งงาน

เขาแพลนการสร้างครอบครัวไว้ตั้งแต่แรกว่าจะบริหารงานแทนคนเป็นพ่อที่ต่างประเทศและให้พ่อกับแม่กลับไปอยู่ที่ไทยแต่เมื่อมีเรื่องปู่ของเขาเกิดขึ้นจึงทำให้แผนทั้งหมดที่วางเอาไว้ไม่เป็นเช่นที่คิด กวินตราจึงไม่พอใจมากและโกรธเคืองเขาที่สุดเพราะสัญญาไม่เป็นสัญญาอีกอย่างช่วงที่เขาระหองระแหงกับเธอหนุ่มไฮโซลูกนักการเมืองก็เข้ามาแทรกแซงในความสัมพันธ์จึงทำให้เขาและกวินตราต้องจบกันด้วยดี

หึ่..”  หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วน่านน้ำก็มานั่งทำแผลใบหน้าคมตอนนี้นั่งจ้องกระจกก่อนจะสบถขำออกมาเพราะจู่ๆก็นึกถึงแม่ครัวตัวเล็กที่เคยทำแผลให้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องนึกถึงเมื่อไตร่ตรองดูเขาน่าจะนึกถึงเธอเพราะเสียงเจื้อยแจ้วที่คอยหาเรื่องพูดคุยด้วยมากกว่าคนอื่นๆ

Rrrrr

“ทำไมพึ่งโทรกลับมาล่ะฝันรู้ไหมวันนี้ฉันติดต่อเธอทั้งวันเลย”

วันหนึ่งกลับมานอนที่บ้านของพ่อเลี้ยงหนุ่มในช่วงหัวค่ำเธอก็รีบติดต่อหาทอฝันเมื่อปลายสายรับสายได้เธอก็รีบบ่นอุก

ก็ย่าฉันไม่สบายน่ะสิตอนนี้ก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาล”

“อ้าวแล้วคุณย่าเฟื่องเป็นอะไร”

คนที่บ่นเสียงชัดแจ๋วคราแรกเริ่มผ่อนคลายความแข็งของเสียงลงหลังจากได้รู้เหตุผลว่าทำไมทอฝันถึงติดต่อไม่ได้

น่าจะใช้พลังจิตมากไปเลยทำให้ร่างกายอ่อนแอ..แล้วโทรหาฉันทั้งวันมีเรื่องอะไรเหรอ”

“ก็อยากจะถามเรื่องราวอุปสรรคน่ะสิว่าจะต้องทำยังไงต่อ..แต่คิดว่ารอให้ย่าเฟื่องหายดีก่อนดีกว่า”

เห็นย่าเกริ่นเอาไว้ว่าให้เธอทำตามสัญชาติญาณตัวเองไม่ต้องฟังใครทั้งนั้นแล้วทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีแต่จะแอบมีอุปสรรคบ้างให้เธออดทนเข้าไว้ยังไงก็ห้ามถอดใจก่อนจะได้ใจของเป้าหมายเธอให้ได้”

“แสดงว่าย่าเฟื่องต้องรู้แน่เลยว่าฉันจะต้องถาม”

ทอฝันคิดเอาไว้แล้วว่าไม่มีเรื่องอะไรที่เฟื่องฟ้าย่าของทอฝันจะไม่รู้

น่าจะเป็นอย่างนั้น”

“โอเคฉันไม่รบกวนแล้ว ฝากความห่วงใยให้ย่าเฟื่องด้วย”

ขอบใจนะ”

เมื่อวางสายได้วันหนึ่งก็นั่งถอนหายใจอย่างโล่งอกที่อย่างน้อยตอนนี้ก็ได้คำแนะนำมา มือน้อยคว้าเจ้าหมีเน่าตัวโปรดมากอดเอาไว้และทิ้งตัวนอนลงเตียงเล็ก

“ทุกอย่างมันจะต้องสำเร็จเนอะพี่หมี”

สาวเจ้าพูดคุยกับเข้าหมีเน่าราวกับมันมีชีวิตเพราะเธอทำเช่นนี้ตั้งแต่เด็กยันโตแล้วด้วยเมื่อได้พูดคุยกับตุ๊กตาหมีเน่าทีไรทำให้เธอสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

ในวันต่อมา ณ โรงแรมหรูใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ในชั้นบนสุดถูกจัดตกแต่งประดับไปด้วยดอกไม้ราคาแพงและฉากที่หรูหราอลังการสมเกียรติที่เป็นงานหมั้นของสาวสวยไฮโซอย่างกวินตรากับชรันหนุ่มหล่อมาดเท่ลูกนักการเมืองชื่อดัง แขกเหรื่อในงานวันนี้มีแต่เหล่าไฮโซและนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลมากมายมาร่วมงานเพราะพ่อของชรันเป็นที่นับหน้าถือตาและทางครอบครัวของกวินตราก็เป็นผู้บริหารธนาคารใหญ่

"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะคุณยา"

อนงค์นาถปรี่เข้ามาหาวิริยาเมื่อเห็นคนคุ้นเคยเข้ามาในงานรู้อยู่แล้วว่าวิริยาต้องมาในงานนี้เพราะแม่ของกวินตราเป็นญาติห่างๆของวิริยา

"อ้าวคุณนาถนึกว่าอยู่ต่างประเทศเสียอีกกลับมาเมื่อไรคะ"

วิริยาไม่คิดว่าจะได้เจออนงค์นาถที่งานนี้เพราะรู้ดีว่าเธอและสามีไปบริหารงานที่ต่างประเทศได้พักใหญ่แล้วเมื่อได้เจอก็ยินดีมากพอสมควรเพราะเมื่อก่อนอนงค์นาถเป็นลูกค้าวีไอพีที่ร้านเพชรของเธอเป็นประจำแถมคุยกันถูกคอจนได้นัดเจอกันอยู่บ่อยๆอีกอย่างสามีของเธอและสามีของอนงค์นาถก็เป็นเพื่อนทางธุรกิจกันด้วยแต่เมื่อต่างคนต่างมีหน้าที่จนยุ่งมากขึ้นพักหลังก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไรนัก

"ไม่กี่วันนี้เองค่ะ..ได้ข่าวแว่วๆจากคุณพลมาว่าหนูหนึ่งเรียนจบแล้วกลับมาไทยหรือยังคะ"

"มาแล้วค่ะแต่ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกนะคะสองย่าหลานพากันไปบวชฉันก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไรเหมือนกัน"

"เหรอคะ...นึกว่าจะได้เจอหลานตอนเจอครั้งนั้นก็ยังเล็กๆอยู่เลยไม่รู้ว่าตอนนี้โตเป็นสาวขนาดไหนแล้ว"

อนงค์นาถอดที่จะเปรยถึงลูกสาวคนเดียวของวิริยาไม่ได้เพราะเธอชอบในความน่ารักของวันหนึ่งเหลือเกินใจอยากจะมีลูกสาวกับคนอื่นเค้าบ้างแต่ที่ได้มาก็มีแต่ผู้ชาย ใจอยากจะเห็นวันหนึ่งตอนโตแล้วบ้างเพราะจำได้ว่าเจอล่าสุดตั้งแต่วันหนึ่งเล็กๆพอได้วัยเข้าโรงเรียนก็ไปอยู่ต่างประเทศ

"อีกไม่นานคงได้เจอค่ะ..เราไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่าค่ะ"

“ค่ะ”

ไม่ใช่อนงค์นาถคนเดียวที่อยากจะเจอวันหนึ่งแต่วิริยาที่เป็นแม่เองก็อยากจะเจอลูกเหมือนกันภาวนาให้แม่สามีของเธอพาลูกสาวเธอกลับบ้านอยู่ทุกวัน

"ขนาดเรายังหวั่นไหวกับตัวเองแบบนี้พ่อเลี้ยงจะไม่หวั่นไหวบ้างให้มันรู้ไป"

วันหนึ่งลองชุดเดรสวาบหวิวที่สองสามวันมานี้เธอสั่งของมาส่งที่บ้านไออุ่นและให้หญิงสาวนำมาให้เพื่อใช้เป็นชุดหว่านเสน่ห์กับพ่อเลี้ยงหนุ่มหลังจากที่เขากลับมา สาวเจ้าสวมชุดหันซ้ายหันขวาอยู่หน้ากระจกทั้งพูดกับเงาสะท้อนในกระจกอย่างมั่นใจว่าเมื่อเธอใส่ชุดนี้ให้น่านน้ำเห็นอย่างไรเขาก็ต้องหวั่นไหวกับเธอบ้างไม่มากก็น้อยเพราะตัวเธอเองยังรู้สึกว่าตัวเองเซ็กซี่เป็นพิเศษเลย

"ใคร.."

ช่วงสายของวันต่อมาวันหนึ่งที่กำลังเดินเล่นชมนกชมไม้อยู่หน้าบ้านก็เหลือบไปเห็นว่ากำลังมีคนขับรถATVสีเหลืองดำตรงเข้ามาที่นี่เมื่อคนที่ตรงเข้ามาจอรถได้เธอก็เริ่มยืนนิ่งอ้าปากค้างเพราะคนที่เห็นคือสายน้ำลูกชายของน้าเธอเอง

"พี่สายน้ำ"

"หนึ่ง.. มาทำอะไรที่นี่"

สายน้ำสัตวแพทย์หนุ่มรูปหล่อลงจากรถได้ก็ปรี่เข้ามาหาน้องสาวตัวเล็กด้วยสีหน้าแปลกใจว่าน้องสาวของเขามาทำอะไรที่นี่คราแรกคิดว่ายังไม่กลับจากต่างประเทศเสียอีก

"พี่สายน้ำนั่นแหละมาทำอะไรที่นี่คะ"

ตอนนี้ต่างคนก็ต่างแปลกใจที่จู่ๆก็มาเจอกันที่นี่โดยบังเอิญ และแล้วก็เป็นฝ่ายสายน้ำที่เอ่ยถามน้อวสาวตัวแสบจนได้ความว่าน้องตนเล่นพิเลนจากใช้ชีวิตเป็นคุณหนูกลับอยากจะมาเป็นแม่ครัวบ้านพ่อเลี้ยงน่านน้ำ

"มาเป็นแม่ครัวให้พ่อเลี้ยง"

"เรื่องมันยาวค่ะ.. แต่พี่สายล่ะคะมาที่นี่ได้ไงมาทำอะไรยังไม่บอกเลย...อ่อหนึ่งจำได้ว่าน้าวีบอกว่าพี่สายหายหัวไปนานแล้วไม่กลับบ้านกลับช่องไปช่วยงานบ้างแสดงว่าหนีหน้าแม่พี่สายมาใช่หรือเปล่าคะ"

วันหนึ่งจำได้ว่าวันที่เธอกลับมาถึงบ้านวันรวีน้าสาวของเธอก็มาบ่นให้ฟังอุกว่าลูกชายคนเดียวหายหัวไปติดต่อไม่ค่อยจะได้

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status