Share

บทที่12 แฟนเก่า

"เป็นยังไงบ้างคะคุณหนูงานบ้านงานครัวทำไหวหรือเปล่าคะ"

อุไรยกอาหารเย็นสำรับใหญ่มาวางกลางโต๊ะอาหารหลังจากที่ไออุ่นไปรับวันหนึ่งมาทานข้าวเย็นที่นี่เมื่อเห็นหน้าคุณหนูตัวเล็กได้ก็ไม่วายอยากจะรู้ว่าวันหนึ่งไหวกับงานบ้านงานครัวหรือเปล่า

"สบายมากค่ะป้าไรหนึ่งสนุกมากค่ะที่ได้ทำอาหาร"

"แน่ใจนะว่าไม่ได้ทำอะไรของเค้าเสียหาย"

นฤดีเอ่ยหยอกหลานสาวที่เอ่ยตอบอุไรยิ้มปากบานด้วยความมั่นใจเธอไม่อยากจะเชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยอย่างที่หลานเธอว่าเพราะรู้ดีว่าวันหนึ่งไม่เคยได้ทำงานบ้านงานครัวเก่ง

"ไม่มี๊.. ไม่มีแม้แต่นิดเดียวเลยค่ะ"

ใบหน้าจิ้มลิ้มส่ายหัวหงึกหงัก ไออุ่นมองมายังวันหนึ่งก็ยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะเปรยเอ่ยหยอกเรื่องที่รับรู้มากับวันหนึ่ง

"เอ.. พี่ได้ยินมาว่าพ่อเลี้ยงต้องไปหากับข้าวที่โรงครัวในไร่เพราะใครดันลืมปิดแก๊สกันน้า"

"นั่นไงย่าว่าแล้ว"

"ผิดพลาดนิดหน่อยเองค่ะ"

นฤดียิ้มร่าคิดเอาไว้ไม่มีผิดคนที่ไม่มีอะไรจะเถียงอย่างวันหนึ่งก็ได้แต่นั่งก้มหน้างุดทำท่าทีสนใจอาหารตรงหน้าแก้เขินทำเอาคนที่รายล้อมโต๊ะอาหารต่างก็อมยิ้มเอ็นดู

"คุณพ่อกับคุณแม่โทรตามเราบ้างหรือเปล่าคะคุณย่า"

หลังจากทานข้าวเย็นเรียบร้อยวันหนึ่งก็ไม่ลืมที่จะถามคนเป็นย่าถึงข่าวคราวของพ่อแม่เธอเพราะตั้งแต่เธอเข้าไปอยู่ที่บ้านของพ่อเลี้ยงหนุ่มเธอก็ขาดการติดต่อกับทางบ้านไปเลย

"จะเหลือเหรอ.. ย่าก็บอกไปว่าเรามาบวชสักพักอยู่ในที่ทุรกันดารติดต่อยากสักหน่อย"

นฤดีเอ่ยด้วยสีหน้าภูมิใจที่เธอสามารถจัดการปัญหาได้เป็นอย่างดี

"คุณย่าของหนึ่งนี่สุดยอดไปเลยค่า"

มือน้อยยกชูนิ้วโป้งทั้งสวมกอดคนเป็นย่าภูมิใจเหลือเกินที่ตนเองมีย่าคอยซัพพอร์ตให้ผ่านปัญหาไปได้ทุกเรื่องจริงๆตั้งแต่เล็กจนโตไม่ว่าเธอจะมีปัญหาอะไรย่าของเธอนี่แหละเอาอยู่ทุกเรื่อง

"เพื่อความสุขของหลานย่าทั้งนั้นเลยลูก.. อ่อ.. แล้วพ่อเลี้ยงน่านน้ำนี่เค้านิสัยดีหรือเปล่าล่ะลูก"

มือของหญิงชรายกลูบหัวทุยของหลานสาวหัวแก้วหัวแหวนเบาๆทังยังไม่ลืมที่จะถามถึงพ่อเลี้ยงหนุ่มว่าเขานั้นนิสัยใจคอเป็นอย่างไร

"ค่ะ..มีน้ำใจขี้สงสารแต่ติดตรงที่โลกส่วนตัวสูงไปหน่อย"

สาวเจ้าขมวดคิ้วพรางนึกถึงหน้าของพ่อเลี้ยหงนุ่มก่อนจะเอ่ยถึงเขาในความเห็นส่วนตัวของตัวเอง

"เค้าไม่ได้มายุ่มย่ามส่งสายตาเชิงชอบพอเราบ้างเลยเหรอ"

นฤดีถามอย่างอยากรู้เพราะหลานสาวของเธอทั้งสาวทั้งสวยขนาดนี้ชายหนุ่มคนไหนอยู่ใกล้เธอคิดว่าก็ต้องมีคิดอะไรกันบ้าง สิ้นคำถามของคนเป็นย่าวันหนึ่งก็ผละออกจากอ้อมกอดของย่าและส่ายหัวหงึกหงักเธอตอบได้อย่างมั่นใจว่าไม่เคยเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มจะมีท่าทีสนใจเธอในเชิงชู้สาวแม้แต่น้อยส่วนมากคำที่เขาคุยด้วยน่าจะเป็นคำตำหนิหรือคำสอนมากกว่า

"ไม่มีนะคะคุณย่าแต่หนึ่งจะพยายามให้เค้าสนใจให้ได้"

นฤดีพยักหน้ารับคำตอบของหลานสาวทั้งอมยิ้มมุมปากเล็กน้อยเท่ากับว่าผู้ชายคนนี้ค่อนข้างเป็นสุภาพบุรุษพอสมควรแต่อีกใจก็แอบรู้สึกว่าแผนพิชิตใจคนในคำทำนายของหลานสาวเธอน่าจะยากขึ้นแต่คนที่คู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันเหมือนคำโบราณที่เธอเคยได้ยินมาตอนนี้ที่เธอทำได้ก็คงจะคอยดูชีวิตของหลานสาวต่อไปเท่านั้น

ณ โรงแรมหรูระดับห้าดาวที่กรุงเทพ น่านน้ำมาถึงที่นี่ได้ก็เข้ามานั่งเซ็นเอกสารทำหน้าที่แทนณดลพี่ชายคนโตที่พาภรรยาไปเที่ยวฮันนีมูนที่อิตาลี

"ที่ไร่งานยุ่งหรือเปล่าครับ"

นนทวัตรลูกคนสุดท้องของบ้านเข้ามาที่บริษัทเพื่อทักทายพี่ชายคนกลางหลังจากไม่ได้เจอกันนานเพราะน่านน้ำเลือกที่จะไปอยู่ต่างจังหวัดเพื่อบริหารไร่เพชรพนาและบริหารโรงแรมรีสอร์ททางเหนือ

"ก็.."

คนที่กำลังง่วนกับเอกสารเงยหน้ามาส่ายหัวให้น้องชายตนก่อนจะเปรยยิ้มอ่อนแต่ความส่ายหน้าเป็นคำตอบของน่านน้ำก็ไม่ได้ทำให้นนทวัตรเชื่อเลยสักนิดด้วยดูจากร่างกายที่ซูบลงกว่าเดิมแถมผิดวกายยังกระดำกระด่างและสีหน้ายังดูค่อนข้างอิดโรยแถมหางคิ้วที่โก่งเข้มยังมีผ้าแปะแผลปิดอยู่อีกต่างหาก

“แล้วหางคิ้วไปโดนอะไรมา”

“ไปช่วยเค้าซ่อมโรงเรียนเลยได้แผลนิดหน่อย”

"ผมไม่เข้าใจพี่น่านดูแลแค่รีสอร์ทต่างจังหวัดก็ยุ่งพอตัวอยู่แล้วทำไมอยากจะบริหารไร่คุณปู่ทั้งที่เราก็จ้างคนอื่นให้ดูแลก็ได้"

นนทวัตรนั่งกอดอกมองพี่ชายตนด้วยท่าทีเป็นห่วงไม่เข้าใจตั้งแต่แรกว่าทำไมพี่ชายตนถึงได้อยากจะเข้าไปดูแลไร่ด้วยตัวเองนักหนาทั้งที่งานในมือที่บริหารอยู่มันก็ไม่ใช่น้อยๆ

"พี่อยากดูแลด้วยตัวเองไปก่อน"

น่านน้ำยังบอกใครถึงเรื่องที่ต้องการจัดการไม่ได้เพราะไม่อยากให้ทุกคนมาเครียดกับสิ่งที่เขาคิดหากเรื่องคาใจในการตายของปู่ตนจบเขาก็ค่อยดูอีกทีว่าจะให้คนอื่นไปบริหารไร่แทนหรือเปล่า

"ถ้าพี่เหนือไม่พาภรรยาไปฮันนีมูนกะทันหันพี่น่านคงไม่มากรุงเทพง่ายๆใช่ไหมครับ"

"พูดเหมือนพี่ทิ้งครอบครัว"

"ก็จริงนี่ครับตั้งแต่พี่น่านเข้าบริหารไร่คุณปู่เราก็ไม่ได้เจอกันเลย"

นนทวัตรมีน้ำเสียงและสีหน้าค่อนข้างหดหู่เพราะตั้งแต่พ่อแม่ของเขาย้ายไปบริหารงานที่ต่างประเทศแทนคนเป็นตากับยายและพวกเขาก็ต้องบริหารงานกันที่ไทยน้อยครั้งนักที่สามพี่น้องหรือครอบครัวจะได้เจอหน้ากันอีกอย่างยิ่งตอนนี้น่านน้ำไปบริหารงานที่ไร่เพชรพนาเขาก็ยิ่งไม่ได้เจอพี่ชายคนกลางเวลามีปัญหาเรื่องงานจะได้พูดคุยปรึกษากันต่อหน้าก็ทำได้ยาก

"อยากเจอพี่ก็ไปที่ไร่ก็ได้นี่"

"ไม่ไปหรอกครับผมกลัวถูกจับขังในที่มืดอีก"

นนทวัตรส่ายหัวพัลวัลเขาไม่ค่อยอยากจะไปทีไร่นั้นเพราะมีความทรงจำที่ไม่ดีเท่าไรนักทุกวันนี้ที่ต้องนอนเปิดไฟกลัวความมืดก็เพราะเจอเหตุการณ์ไม่ดีที่นั่น

"เรานี่ก็จำไม่ลืมเลยนะ"

นนทวัตรสบถขำแกมรู้สึกผิดลึกๆที่เมื่อครั้งยังเด็กรวมหัวกับณดลแกล้งนนทวัตรจนได้เรื่องครั้งนั้นเขาก็ยังจำได้ว่าถูกตีจนเข็ดหลาบไม่กล้าเล่นอะไรแผลงๆอีก

"แน่นอนครับ.. อ่อ..พรุ่งนี้คุณแม่จะกลับมาถึงเราจะไปงานหมั้นพี่เกรซพี่น่านจะไปด้วยหรือเปล่า"

นนทวัตรถามหยั่งเชิงด้วยกลัวว่าถ้าไม่บอกก็กลัวพี่ตนจะว่าภายหลังแต่คำตอบในใจเอนเอียงไปแล้วว่าพี่ตนจะไม่ไปงานนี้เพราะเกรซ หรือกวินตราคือแฟนเก่าของพี่ชายเขาเองที่พึ่งเลิกกันช่วงที่พี่ของเขาเข้าบริหารงานไนไร่ แถมยังมาหมั้นกับไฮโซหนุ่มลูกนักการเมืองในเวลาอันรวดเร็วอีก ถึงรู้ว่าพี่ชายของเขาและกวินตราจบกันด้วยดีแต่ก็มองออกว่าพี่ตนยังเจ็บกับเรื่องความรักอยู่เหมือนกัน

"พี่คงไม่ไป.. ฝากแสดงความดีใจกับเธอด้วย"

"ครับ"

เมื่อได้ยินชื่อกวินตราน่านน้ำก็เริ่มมีสายตาไหววูบเขารู้ว่าเธอกำลังจะหมั้นกับคนรักใหม่มาสักพักแล้วและคิดว่าจะยินดีกับเธอจากใจจริงแต่เมื่อจะถึงเวลาเข้าจริงๆเขากลับรู้สึกหน่วงหัวใจยังไงบอกไม่ถูก

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status