Share

บทที่11 ใจดำ

"คนพวกนั้นทำไมใจจืดใจดำแบบนี้นะ"

ขณะนั่งรถกลับสาวเจ้าก็บ่นอุกถึงเรื่องที่พึ่งเจอ

"คราวหลังอย่าหาเรื่องใส่ตัวคนพวกนั้นเป็นคนของเสี่ยทรงยศเจ้าของที่ตลาดขึ้นชื่อว่าเป็นอันธพาล"

"ถึงว่าล่ะ..แต่หนึ่งไม่กลัวหรอกค่ะ"

วันหนึ่งคิดเอาไว้แล้วว่าคนพวกนี้ไม่พ้นอันธพาลและมีอิทธิพลที่นี่ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าวางมาดกันขนาดนั้นหรอก

"หัดกลัวไว้บ้างก็เงินที่จ่ายไปถึงบ้านแล้วผมจะคืนให้"

"ไม่เอาค่ะหนึ่งไม่ได้เดือดร้อน"

คนที่กำลังอารมณ์เดิอดดาลส่ายหัวหงึกหงัก

"ไม่ได้เดือดร้อนอะไร..คุณยังต้องหาเงินอีกเยอะเพื่อรักษาย่าคุณไม่ใช่หรือไง"

"อ๋อค่ะ..เดือดร้อนขอบคุณนะคะ"

สาวเจ้าตำหนิตัวเองในใจที่จะเผลอหลุดตัวตนออกมาในขณะที่ไม่สติแล้ว

"คุณอยากเรียนต่อหรือเปล่า"

น่านน้ำว่าจะพูดเรื่องนี้กับวันหนึ่งมาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วแต่ก็ลืมเพราะเขาเห็นว่าเธออายุยังน้อยหากได้เรียนสูงๆคงมีโอกาสทำงานดีๆกว่าจะมาเป็นแม่บ้าน

"ทำไมเหรอคะ"

"ผมจะส่งคุณเรียนช่วงเสาร์อาทิตย์คุณโอเคไหมถ้าคุณมีความรู้เพิ่มอาจจะได้ทำงานที่ดีกว่าเป็นแม่บ้าน"

เรื่องสนับสนุนการศึกษาเขายินดีทำอยู่แล้วเพราะก่อนหน้าก็เห็นปู่ของเขาชอบให้ทุนการศึกษากับลูกคนงานในไร่หลายคนและเขาก็อยากจะสืบต่อเจตนารมณ์ของปู่เขาเช่นกัน

"ทำไมพ่อเลี้ยงเป็นคนดีแบบนี้คะ...ใครได้เป็นแฟนโคตรโชคดีเลย"

วันหนึ่งยิ้มร่าเรื่องที่หมองใจเมื่อครู่แทบหายไปปลิดทิ้งเมื่อว่าที่พ่อของลูกช่างจิตใจดีมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเหลือเกิน

"นอกเรื่องอีกแล้ว..ตกลงจะตอบผมได้หรือยังว่าอยากเรียนต่อหรือเปล่า"

น่านน้ำส่ายหัวมุมปากหยักมีรอยยิ้มอ่อนกับพฤติกรรมของหญิงสาวที่เปลี่ยนโหมดอารมณ์ได้เร็วเสียเหลือเกิน

"ค่ะ..แล้วเสาร์อาทิตย์หนึ่งไปเรียนใครจะดูแลบ้านดูแลเรื่องอาหารล่ะคะ"

"ถ้าคุณอยากเรียนจริงๆแค่เสาร์อาทิตย์งานบ้านก็เอาไว้ทำวันจันทร์ทีเดียวก็ได้ส่วนเรื่องอาหารการกินแค่2วันผมดูแลตัวเองได้"

"ค่ะหนึ่งอยากเรียนค่ะขอบคุณมากๆเลยนะคะที่ให้โอกาสคนหนึ่งคน..แล้วถ้าหนึ่งเรียนไม่เข้าใจตรงไหนพ่อเลี้ยงช่วยสอนหนึ่งด้วยนะคะ"

"ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว"

เมื่อน่านน้ำรับปากได้สาวเจ้าก็ยิ้มกรุ่มกริ่มแล้วเธอก็จะใช้เรื่องการเรียนนี่แหละเป็นข้ออ้างที่เข้าใกล้กับพ่อเลี้ยงหนุ่มมากขึ้น

พลั้กก ..

มนัสล้มคว่ำไปกับพื้นเมื่อถูกหมัดของทรงพลสาวเข้าแก้มซ้ายไปเต็มๆที่เขานั้นทำงานพลาด

"กูต้องการให้มันเจ็บจนนอนเป็นผักอยู่ที่โรงพยาบาลแค่นี้มึงก็ทำพลาด"

ใช่..เหตุการณ์ที่ค้อนจะหล่นโดนหัวของน่านน้ำไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นทรงพลสั่งให้มนัสทำให้น่านน้ำเจ็บหนักแลกกับยกหนี้ให้

"ขอโทษครับผมไม่คิดว่าจะมีคนมาช่วยมันทันนี่ครับ"

มนัสที่เลือดกลบปากรีบยกมือไหว้ทรงพลประหงกๆ

“หนี้ก้อนนี้กูยังไม่ยกให้มึงงานหน้ากูจะให้มึงทำอีก รอกูสั่งก็แล้วกันถ้าพลาดอีกกูเอามึงตายแน่”

ทรงพลกัดฟันกรอดเท้าเอวพ่นลมหายใจถี่ด้วยท่าทีโมโหเขาอยากเห็นน่านน้ำนอนเป็นผักใจจะขาดเพราะหมั่นไส้พ่อเลี้ยงหนุ่มตั้งแต่กล้าไปบุกบ้านของเขาคนเดียวจนพ่อเขาจับได้และตำหนิเรื่องที่เขาไปเผาสวนป่าของไร่เพชรพนาหากไม่เห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มเจ็บปางตายหรือเดือดร้อนอะไรสักอย่างเขาไม่ก็ยังไม่รามือจากน่านน้ำแน่

กรุงเทพมหานคร

ณ คฤหาสน์หลังโตติดริมแม่น้ำของตระกูลพิวัฒน์วรวงค์ วิริยาหญิงไฮโซเจ้าของร้านเพชรวัยกลางคนเดินจ้ำอ้าวต้อนรับสามีที่พึ่งกลับมาจากการทำงานในช่วงเย็น

"คุณแม่ได้บอกหรือเปล่าคะว่าจะพายัยหนึ่งไปบวชกี่วัน"

เมื่อคนเป็นสามีอย่างสิทธิเดชเจ้าของอสังหายักษ์ใหญ่เข้าบ้านมาได้วิริยาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเลือกที่จะคุยเรื่องที่แม่สามีและลูกสาวไปบวชกันอย่างไม่บอกไม่กล่าวทันทีทั้งที่คราแรกบอกแค่ขอไปเที่ยวพักผ่อน

"เปล่า.. บอกแค่ว่าอยากบวชพักใหญ่ๆแล้วก็อาจจะติดต่อยากเพราะอยู่ในที่ที่ทุรกันดาร"

สิทธิเดชเอ่ยกับคนเป็นภรรยาเสียงเรียบขณะที่ทิ้งตัวนั่งพักที่โซฟาตัวหรูที่ห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์เขาชินแล้วที่แม่ของตัวเองชอบพาลูกสาวคนเดียวของบ้านไปไหนมาไหนอย่าที่ไม่ค่อยจะบอกกล่าว

"แน่ใจใช่หรือเปล่าคะว่าคุณแม่จะไม่พาลูกเราไปทำอะไรแผลงๆ"

วิริยาเอ่ยอย่างกังวลใจเพราะหลายครั้งเหลือเกินที่แม่สามีชอบพาลูกสาวเธอไปทำเรื่องทำราวอยู่บ่อยๆตามที่หมอดูดูดวงให้ วิริยาเห็นลูกเรียนจบก็คิดว่าจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวเสียทีแต่หลังจากที่นฤดีแม่สามีของเธอและวันหนึ่งลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนกลับมาไทยได้ก็ขึ้นเหนือกันเลยทันทีแถมตอนนี้ยังติดต่อยากเธอจึงค่อนข้างกังวลใจพอสมควร

"ผมก็ยังไม่มั่นใจถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเดี๋ยวเราก็รู้เอง"

สิทธิเดชยกยิ้มมุมปากและเอ่ยอย่างคนปลงค่อนข้างชินแล้วที่ลูกสาวกับแม่ตัวเองชอบสร้างเรื่องแล้วตัวเองมารู้ทีหลังคิดว่าภรรยาของเขาชินแล้วเสียอีก

"พ่อเลี้ยงจะไปไหนคะ"

เป็นอีกวันที่วันหนึ่งตื่นมาแล้วเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มแต่งตัวเต็มยศแต่วันนี้ไม่ใช่ชุดเข้าไร่เป็นเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์สีดำพร้อมเสื้อฮู้ดสีดำคลุมซึ่งดูดีไปอีกแบบที่สาวเจ้าต้องถามด้วยสีหน้าแปลกใจกว่าทุกวันก็เพราะเห็นว่าเขาหิ้วกระเป๋าใบใหญ่พร้อมกระเป๋าโน๊ตบุ๊คลงมาด้วย

"อ่อผมลืมบอกคุณ...ผมต้องไปธุระประมาณสองอาทิตย์ดูแลบ้านดีๆด้วยล่ะ"

ชายหนุ่มร่างสูงตอบพร้อมเดินผ่านคนตัวเล็กไปอย่างเร่งรีบ วันหนึ่งจึงรีบถามคนที่กำลังจะเดินพ้นประตูหน้าบ้านด้วยความอยากรู้

"ค่ะ...แล้วไปทำอะไรคะไปที่จังหวัดไหนเหรอคะ"

"ผมบอกว่าผมไปธุระคุณก็น่าจะเข้าใจนะ"

คนตัวโตหันกลับหลังมาส่งสายตาตำหนิที่สาวเจ้าถามจุกจิกอย่างที่ไม่ควรถามหากเขาพูดว่าธุระน่าจะพอเป็นคำตอบแล้วว่าเขาไม่ได้อยากลงรายละเอียด

"หนึ่งขอโทษค่ะหนึ่งแค่เป็นห่วง.. ยังไงทำแผลทานยาให้ตรงเวลาด้วยนะคะพ่อเลี้ยง"

คนถูกตำหนิเริ่มหน้าจ๋อยเธอไม่ได้ตั้งใจเสียมารยาทแค่เป็นห่วงพ่อเลี้ยงหนุ่มเท่านั้น

"ขอบคุณ.. อ่อ.. ถ้าคุณจะไปที่บ้านป้าอุไรบ้างผมก็ไม่ว่าแค่ดูบ้านให้เรียบร้อยก็พอ"

น่านน้ำรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ตีเจตนาหญิงสาวผิดไปก่อนจะขอบคุณเธอพร้อมเปรยยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะหันหลังรีบจ้ำอ้าวออกจากบ้านไป

"ค่ะพ่อเลี้ยงเดินทางดีๆนะคะ"

คนตัวเล็กพอจะยิ้มได้เมื่อเห็นรอยยิ้มของพ่อเลี้ยงหนุ่มสาวเจ้าโบกไม้โบกมือตามแผ่นหลังกว้างแม้นอีกฝ่ายจะไม่เห็นเธอก็พอใจที่จะทำ คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกันที่น่านน้ำไม่อยู่ที่นี่บ้างเธอจะได้มีเวลาศึกษากลยุทธ์วิธีการทำอาหารและวิธีหว่านเสน่ห์ชายหนุ่มหลังจากเขากลับมาคราวนี้เธอจะเดินหน้าทำภารกิจเต็มที่

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status