"เฮีย...."
ชะเอมตื่นมาแล้วรับรู้ได้ว่าพื้นที่โดยรอบเงียบสนิท คนตัวเล็กทุบหัวตัวเองสองสามที เมื่อคืนไม่น่าดื่มเยอะเลย ตอนนี้ปวดหัวจนแทบจะระเบิดออกมาให้ได้ เปิดผ้าห่มขึ้นดูถึงรู้ว่าตัวเองใส่ชุดนอนแล้ว ส่วนข้างล่างเหมือนว่าจะถูกทำความสะอาดให้ด้วย
เอื้อมหยิบโทรศัพท์มาดูเวลาก็พอจะเข้าใจว่าเหตุผลที่ตื่นมาแล้วไม่เจออาเดลเพราะอะไร สายป่านนี้เขาน่าจะเข้าไปที่สนามแล้ว เพราะวันนี้มีนัดประชุมกับคนอื่นๆ เธอเอามือแตะที่หน้าผากตัวเองหลังตื่นเต็มตาแล้วรู้สึกได้ถึงอาการไม่สู้ดีนัก
ขอบตารู้สึกร้อนผ่าวทั้งลมหายใจที่ออกมาก็ร้อนมากด้วย มันบอกกับเธอได้ชัดเจนว่าเธอกำลังจะถูกอาการป่วยเล่นงานเข้าแล้ว พอพยุงตัวเองลุกขึ้นก็ได้แต่ทิ้งตัวกลับไปนอนอย่างเดิมเพราะเวียนหัวจนไม่สามารถลุกได้
ฝืนตัวเองลองดูอีกครั้งเพราะเธอรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวไปหมดเลยอยากอาบน้ำสักหน่อย แถมตามตัวยังมีกลิ่นเหล้าหึ่งอยู่ ยิ่งได้กลิ่นก็ยิ่งเวียนหัวเลยอยากจะกำจัดมันออกให้หมด
ขาเรียวหย่อนลงจากเตียงแล้วลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เธอจับนั่นจับนี่รอบข้างเพื่อประคองให้ตัวเองเดินไปได้ ก่อนจะทรุดลงที่พื้นอย่างห้ามไม่ได้ อ่า...ไม่น่าฝืนตัวเองเลย รู้สึกเหมือนจะไม่ไหวยังไงก็ไม่รู้
ตัดสินใจค่อยๆขยับไปที่เตียงแล้วหยิบโทรศัพท์มากดโทรออกหาอาเดลทันที ยอมกวนเขาให้เขารู้ว่าเธอป่วยยังดีกว่าปล่อยให้เขามารู้ทีหลังว่าเธอเป็นอะไรแล้วไม่ยอมบอก
(ตื่นแล้วหรอ เฮียออกมาสนาม อีกสักพักก็กลับแล้ว)
"เฮีย..."
(หนูเป็นอะไร ทำไมเสียงเป็นแบบนั้นละ)
"หนูรู้สึกเหมือนจะไม่สบายเลย ปวดหัวมาก เฮียช่วย...."
(ไม่เกิน 10 นาทีเฮียไปถึง)
เธอวางโทรศัพท์ลงบนที่เตียงแล้วเอาหน้าซุกข้างเตียงเอาไว้ ปวดหัวเกินกว่าจะขยับไปไหน ไม่มีแรงที่จะพยุงตัวเองขึ้นไปแล้วปล่อยให้ตัวเองหลับไปทั้งอย่างนั้น เพียงไม่นานอาเดลก็กลับมาตามคำบอก เขาตกใจแล้วเบิกตากว้างก่อนจะวิ่งเข้าไปดูเธอ
"หนู! เป็นยังไงบ้าง?"
ดวงตากลมพยายามลืมตื่นมามองเขาแต่คงทำได้อยากลำบาก ไอร้อนจากตัวแผ่ออกมาสัมผัสมือเขาแบบที่ไม่ต้องแตะหน้าผากดูก็รู้ว่าอีกคนกำลังมีไข้สูง อุ้มเธอขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วหายออกไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาพร้อมกับกาละมังใบเล็กและผ้าสำหรับเช็ดตัว
อาเดลถกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นให้เขาเช็ดตัวเธอได้ถนัด ทันทีที่ผ้าชุบน้ำแตะลงบนใบหน้าร้อนเห่อคนตัวเล็กก็ขมวดคิ้วแล้วขยับยุกยิกเพื่อหนี อาจจะเพราะความเย็นไปรบกวนเธอเข้า ถึงแบบนั้นเขาจะใจอ่อนหยุดเช็ดไม่ได้
"อดทนหน่อยนะ ไข้จะได้ลด"
เธอยังคงดิ้นส่ายหน้าไปมา สุดท้ายเขาก็ก้มลงหอมหน้าผากแล้วพูดปลอบประโลม หลังได้ยินเสียงแผ่วเบาของเขาข้างหูไม่นานคนตัวเล็กก็สงบลง
อาเดลมองภาพตรงหน้าอย่างปวดใจ เขาไม่เคยชอบเวลาชะเอมป่วยเลยสักนิด ดูไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย แถมสีหน้ายังแสดงออกถึงความทรมานอย่างเห็นได้ชัดด้วย
เขาเดินกลับมาหลังจากเอาทุกอย่างไปเก็บ เดินไปหยิบเจลลดไข้ในถุงที่แวะซื้อมาก่อนหน้าแล้วแปะที่หน้าผากเธอเอาไว้ ขยับเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วดึงอีกคนเข้ามากอดแน่นหวังคลายความหนาวของเธอลงบ้าง
"คนสวยของเฮีย หายไวๆนะครับ"
ก็อก ก็อก ก็อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น อาเดลเดินออกมาอย่างหัวเสียว่าใครกันที่มาเวลานี้ เขาอยากให้คนตัวเล็กได้พักผ่อน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีคนมารบกวน แรงเคาะประตูที่ดังขึ้นเรื่อยๆยามที่เขาเดินไปเปิดมันช้าก็ยิ่ฃงชวนหงุดหงิดกว่าเก่า พอเปิดประตูไปก็ได้แต่เบิกตากว้างแล้วกั้นแขนไม่ให้คนที่มาเยือนอย่างไม่บอกกล่าวเข้าไปภายในห้อง
"คุณแม่พาแพมมาที่นี่ทำไม?"
"นี่ห้องแก ทำไมแม่จะมาไม่ได้"
"กลับไปเถอะ"
"ว่าไงนะ นี่แกไล่แม่หรอ!?"
"เอมไม่สบาย ผมอยากให้เอมพักผ่อน"
อาเดลแทบไม่อยากให้สองคนนี้มาเหยียบที่นี่ หรือแม้แต่พบเจอกับชะเอมเลยสักครั้ง เพราะมันจะเกิดเรื่องปวดหัวขึ้นทุกที แม่เขาชอบแพมแพมมาก เขาเองก็โตมากับน้อง แต่ทว่าเขาไม่เคยคิดกับอีกคนเกินเลยไปกว่านั้น ส่วนแม่ของเขาก็อยากให้เราสองคนคบหากัน และเขาก็ปฏิเสธทันทีตอนได้ยิน
"นังเด็กนั่นมันสำออยละสิ ไหนแม่จะเข้าไปดู!"
"ผมบอกว่าไม่ให้เข้า ไม่เข้าใจหรอ"
"แต่พี่เดลคะ แพมว่า..."
"แพมไม่ต้องพูด เป็นคนนอก ไม่ต้องมายุ่งหรอก"
ใครมาได้ยินเข้าก็คงว่าเขาใจร้ายที่พูดกับหญิงสาวที่แสนจะน่ารักแบบนี้ แต่ความจริงแล้วเขาก็แค่พูดตามตรง ไม่อยากอ้อมค้อมให้มันเสียเวลา แพมแพมต้องการอะไรจากเขาทำไมเขาจะไม่รู้ ยิ่งมีแม่คอยหนุนหลังแบบนี้แล้วอีกคนก็คงเดินหน้าเต็มที่
แต่มันจะไม่มีวันเกิดขึ้น ในชีวิตเขาตั้งแต่มีคนตัวเล็กเข้ามา เขาก็ไม่เคยรู้สึกเลยว่าใครจะมาแทนที่เธอได้อีก คนที่เขาต้องการมีแค่ชะเอมคนเดียวเท่านั้น และไม่ว่าอะไรที่ทำให้อีกคนไม่สบายใจ เขาสามารถตัดมันออกไปจากชีวิตได้ทั้งนั้น
"ทำไมลูกพูดกับหนูแพมแบบนี้ น้องเสียใจนะ!"
"ผมไม่สนว่าใครจะเสียใจ คนเดียวที่ผมกลัวจะเสียใจมีแค่ชะเอม"
"อาเดล!!"
"คุณแม่อย่าคิดว่าคุณพ่อให้อภัย ให้กลับมาอยู่ด้วยกัน ผมจะต้องเชื่อฟังนะ ต่างคนต่างอยู่แล้วอย่ามายุ่งกับชีวิตผม เพราะแม่ไม่มีสิทธิ์"
"แต่แม่เป็นแม่แกนะ!"
"ตอนทิ้งไปไม่เห็นคิดแบบนี้เลยนี่ อย่าให้ผมหมดความอดทน ถ้าอยากอยู่ให้คุณพ่อเลี้ยงดูสุขสบาย ก็อย่ามายุ่งกับผมให้มากนัก"
"......"
"เพราะถ้าแม่ยังเอาแต่ยุ่งกับผมไม่เลิก แล้วยังเอาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาทำลายเรื่องของผมกับชะเอม"
"....."
"ผมจะทำให้เห็นว่าเด็กที่ไม่มีแม่คอยสั่งสอนมานาน มันทำอะไรได้บ้าง"
เขาปิดประตูลงเต็มแรงแล้วถอนหายใจ แม่เคยทิ้งเขาไปตั้งแต่เขาอายุสิบหกปี แล้วสุดท้ายหลังจากนั้นเพียงสามปีก็กลับมาขอคืนดีกับพ่อเขา และมาขอโทษเราสองคน ที่พ่อเขายอมให้กลับมาเพราะคิดว่ายังไงก็เป็นแม่ และคงจะดูแลเขาได้ดี ไม่อยากทำให้เขาขาดความรักจากแม่อีก
ตั้งแต่แม่กลับมาก็ดูแลทุกอย่าง ยอมรับว่าบางครั้งมันก็ดี แต่พออีกคนเข้ามายุ่มย่ามเรื่องที่เขาไม่อยากให้ใครมายุ่งอย่างเรื่องความรัก เขาก็ไม่อยากจะพบเจอแม่อีก
คนตัวเล็กเคยเจอแม่เขาครั้งหนึ่ง แต่ด้วยความไม่ลงรอยนักเขาเลยไม่พาเธอไปพบกับแม่อีก และคิดว่ามันคงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด เขาไม่อยากให้ชะเอมต้องเจ็บปวดเพราะคำพูดแสนทิ่มแทงใจของผู้เป็นแม่อีกแม้แต่ครั้งเดียว
"เฮีย"
"หนูลุกมาทำไม"
"หนูได้ยินเสียงดัง เฮียทะเลาะกับใคร"
อาเดลเดินปรี่เข้าไปหาแล้วประคองคนป่วยไว้ พยุงพาเดินไปที่เตียงนอน ใช้หลังมือแตะวัดไข้อีกรอบ ดูเหมือนว่าจะร้อนน้อยกว่าก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ยังดูเพลียมากอยู่ดี
"ปวดหัวไหม?"
"นิดหน่อย เฮียเสียงานไหม หนูขอโทษนะที่โทรไปตาม"
"ไม่เป็นไรเลย ขอแค่หนูบอก เฮียต้องรีบมาอยู่แล้ว ถ้าไม่บอกสิถึงจะโกรธ"
"ทำไมเฮียดีกับหนูจัง"
"ก็หนูเป็นเมียเฮีย แล้วเฮียก็รักหนูมากที่สุดในโลกเลย"
ชะเอมหอมแก้มคนปากหวานไปหนึ่งที แล้วอีกคนก็หอมเธอกลับมา ความจริงเธอตื่นขึ้นมาตั้งแต่ได้ยินเสียงโวยวายช่วงแรก และได้ยินทุกประโยคที่อาเดลพูดคุยกับผู้เป็นแม่ ยอมรับว่าแอบดีใจที่เขาเลือกจะปกป้องความรักของเราขนาดนั้น แต่ก็แอบหวั่นใจเหมือนกันว่าคนตรงหน้าจะต่อสู้กับความต้องการของแม่ได้แค่ไหน
"หนูรักเฮียมากจัง"
"ป่วยแล้วอ้อนหรอหืม?"
อาเดลก้มหอมหัวแล้วพูดกับคนที่ขยับมาสวมกอดแล้วซบที่อกเขา ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้คนตัวเล็กถึงได้อ้อนเป็นพิเศษ แต่พอเห็นอีกคนอ้อนแบบนี้แล้วเขาก็อดที่จะโอบกอดไม่ได้ ชะเอมโหมดนี้ใช่ว่าจะได้เห็นบ่อยนัก
"นอนพักผ่อนดีไหม จะได้หายเร็วๆ"
"เฮียนอนกับหนูนะ อย่าไปไหน"
"ได้อยู่แล้ว คนสวยอยากให้ทำอะไร เฮียยอมทำตามบัญชาทุกอย่างเลย"
"งั้น....เรามาทำกันไหม?"
"ป่วยขนาดนี้ก็ยังไม่เข็ดหรอ เอาไว้หายเมื่อไหร่ โดนแน่ ครั้งนี้จะทำให้ป่วยไปสักเดือนเลยดีไหม"
"ถ้าป่วยขนาดนั้น เฮียจะอดทำเดือนหนึ่งเลยนะ"
"หึ แสบเอ้ย!"
"ตอนบ่ายไม่ให้เฮียมารับแน่นะ?"อาเดลเอ่ยปากถามคนตัวเล็กที่พึ่งก้าวลงจากรถไปอีกรอบเพื่อความมั่นใจ เธอยิ้มให้เขานิดหน่อยคงจะเพราะแอบขำกับความกังวลของเขา ตั้งแต่ได้ยินว่าเธอไม่ให้มารับก็ยังเอาแต่กระวนกระวายใจไม่หยุดรู้ว่าชะเอมไม่ได้อ่อนแอถึงขั้นดูแลตัวเองไม่ได้ แต่เป็นเขาเองต่างหากที่เคยชินกับการดูแลเธอจนไม่อยากพลาดหรือบกพร่องไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม"เฮียมีทำธีสิสไม่ใช่หรอ ไม่ต้องหรอก หนูว่าจะไปเยี่ยมแม่ที่บ้านสักหน่อย""แบบนี้ลูกเขยก็อดไปเยี่ยมสิ"คนตัวสูงพูดหยอกเย้าไป เขาเองเคยไปหาแม่ของอีกคนอยู่บ้าง แต่นี่ก็ทิ้งระยะมานานมากแล้ว แอบเสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ไปด้วยกันกับคนตัวเล็ก เห็นทีต้องหาเวลาไปบ้าง ก่อนทางนั้นจะคิดว่าเขากับชะเอมเลิกกันไปซะแล้ว"ไว้วันไหนเฮียว่าง ค่อยไปก็ได้""เดี๋ยวเฮียโอนเงินให้นะ ฝากเอาไปให้แม่ด้วย""ไม่เอาหรอก ถ้าเอาเงินเฮียไปให้ แม่ต้องบ่นแน่ๆเลย""บอกว่าลูกเขยฝากมา จะโกหกไปว่าถ้าแม่ไม่รับเฮียจะโกรธหนูก็ได้ ถ้าแม่บ่นเฮียรับผืดชอบเอง""เฮียก็พูดได้สิ แม่ไม่เคยบ่นเฮียหรอก แต่มาบ่นหนูเนี่ย"เขาขำคนตัวเล็กที่เอาแต่พูดไม่หยุดว่าแม่จะบ่น รู้แล้วว่าชะเอมได้ความขี้
"ยังไม่กลับมาอีก"อาเดลยกนาฬิกาขึ้นดูทันทีที่เข้ามาในห้องแล้วรู้สึกได้ถึงความเงียบกับไฟที่ไม่ได้เปิดสักดวง รีบกดโทรออกหาคนตัวเล็กของเขาในตอนที่เห็นว่าในห้องนอนไม่มีเธออยู่แต่ปลายสายก็ไม่ได้กดรับโทรศัพท์ เขามองผ่านกระจกออกไปนอกตัวห้องด้วยความร้อนใจ ฝนตกหนักขนาดนี้จะไปติดฝนอยู่ที่ไหนหรือเปล่านะ นึกเป็นห่วงแปลกติ๊ด แกร็กเสียงสแกนนิ้วเพื่อเข้าห้องทำให้เขาถอนหายใจโล่งอกออกมา เพราะเธอคงจะกลับมาพอดี อาเดลเดินออกไปหาอีกคนด้วยรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดีที่เธอปลอดภัย ก่อนจะต้องไปยืนขมวดคิ้วมองในตอนที่เห็นว่าชะเอมในชุดนักศึกษากำลังยืนตัวเปียกโชกอยู่"ทำไมหนูถึงเปียกแบบนี้ละ วิ่งตากฝนมาหรอ?""เฮีย ฮึก"เสียงสั่นไหวกับดวงตาบวมช้ำที่ยังมีหยดน้ำตาไหลลงมาทำเอาอาเดลใจหล่นไปถึงตาตุ่ม แม้จะงุนงงอยู่มากแต่เขาก็ยังก้าวเดินไปกอดเธอเอาไว้แน่น แขนเรียวยกขึ้นกอดเขาแล้วสะอึกสะอื้นมากกว่าเดิมจนเขาร้อนใจไปหมด ใครกันที่มันกล้าทำให้คนตัวเล็กของเขาร้องไห้โฮขนาดนี้ ทั้งๆที่ปกติเธอจะร้องไห้แค่เพียงเรื่องของเขาเท่านั้นอาเดลพาคนตัวเล็กเข้ามาในห้องปลอบประโลมอยู่นานกว่าอีกคนจะเลิกร้องไห้ แต่หลังจากนั้นพอเขาถามออกไป เธอก็พูด
"ทำอะไรเนี่ย! เอาคืนมานะ!"ชะเอมเหวใส่คนที่ดึงโทรศัพท์ส่วนตัวเธอไปอย่างไม่ขออนุญาต แถมยังพูดจาก่อกวนอาเดลแบบนั้นอีก ตอนนี้อีกคนต้องโมโหมากแน่ แล้วถ้าเขามาที่นี่ก็ต้องรู้เรื่องที่เธอแอบกลับมารับงานอีกครั้ง หลังจากนั้นมันก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที"มานี่""จะทำอะไรอ่ะ!? ปล่อยนะ!"คนตัวเล็กพยายามดิ้นแต่ไม่มีทางเลยที่เธอจะสู้แรงอีกคนได้ จู่ๆบอสตันก็ดึงเข็มขัดออกมาจนเธอรู้สึกไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ ยิ่งเขาใช้มันมัดมือเธอไขว้หลังเอาไว้ก็ยิ่งพยายามตะโกนร้องขอให้เขาปล่อยสุดท้ายแล้วก็โดนผลักให้นั่งลงกับพื้นลานจอดรถของห้างที่มืดสนิท เพราะตอนนี้ดึกมากแล้วเลยไม่มีคนผ่านไปมา ขาเรียวสองข้างถูกเขารวบติดกันแล้วใช้เนกไทชุดเขามัดเอาไว้ด้วยกัน "ทำบ้าอะไรเนี่ย! ไหนบอกแค่จ้างกินข้าวกับดูหนังไง""แค่ปั่นหัวไอเดลมัน ก็ดีไม่ใช่หรอ คนสวยจะได้ไม่ต้องตอบคำถามมันไงว่าไปธุระที่ไหนมา ถึงได้มีรอยแดงจางๆที่คอแบบนี้""ไอ้บ้าเอ๊ย!!"เธอนึกถึงตอนดูหนังที่อีกคนฉวยโอกาสเข้ามาใกล้เธอ แต่เขาไม่ได้ใช้ปากดูดดึงมัน เพียงแค่ใช้นิ้วทำให้มันเกิดรอยเท่านั้น ความจริงแล้วก็วางแผนตั้งใจมาปั่นอาเดลอยู่แล้วสินะ"นั่งให้ยุงมันกินเลือดหวา
"วันนี้รับงานอีกแล้วหรอ?""อืม อยากเก็บเงินให้ได้เร็วที่สุดอ่ะ จะได้หยุดรับสักที"ชะเอมวางโทรศัพท์หลังตอบแชทลูกค้าเสร็จแล้วหันมาตอบเพื่อน คิรินแสดงสีหน้าเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด อีกคนเอาแต่ขอโทษเธอที่ช่วยเหลือไม่ได้ แต่มัันไม่ใช่เรื่องที่เพื่อนเธอต้องรู้สึกผิดเลยสัดนิด ปัญหาชีวิตเธอ เธอก็ควรจะจัดการเอง ถูกต้องที่สุดแล้ว"ลูกค้าไว้ใจได้ไหม ให้ไปเป็นเพื่อนดีรึเปล่า?""ว่างหรอ?""ว่างๆ งั้นเดี๋ยวไปเป็นเพื่อนนะ"เธอรีบพยักหน้าบอกเพื่อนแล้วยิ้ม ลูกค้าวันนี้เป็นคนใหม่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน ไม่รู้ว่าจะมาแนวไหน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าใครส่งให้มาป่วนหรือเปล่า ที่ผ่านมามีบ่อยครั้งที่บอสตันส่งคนมาป่วนกัน แต่โชคดีที่เธอรอดมาได้ตลอดคนตัวเล็กนั่งรถมากับเพื่อนสนิทที่อาสามาเป็นเพื่อน ใจจริงก็นึกขอบคุณที่คิรินไม่เคยจะหนีไปไหนในยามที่เธอมีปัญหา พอเจอลูกค้าก็ทักทายกันปกติ ส่วนเพื่อนของเธอก็ทำเป็นเดินเข้ามาทีหลังแล้วนั่งอยู่ถัดไปอีกสองโต๊ะทุกการกระทำมีคิรินที่คอยเป็นหูเป็นตาให้ตลอด ดูแล้วลูกค้าตรงหน้าก็น่าจะเป็นคนธรรมดาทั่วไปที่หาเพื่อนกินข้าว ไม่น่าจะมีอะไรมากมายไปกว่านี้ เธอเลยเริ่มวางใจแล้วพูดคุยเป็นกันเ
"ทำไมชุดเยอะจัง?""ให้หนูเลือกไง จะได้ใส่ชุดที่ถูกใจ"ชะเอมยืนมองชุดราตรีสำหรับออกงานบนราวแขวนภายในร้านเสื้อผ้าสุดหรู อาเดลรู้สไตล์เสื้อผ้าของเธอเป็นอย่างดี เขาตั้งเลือกชุดที่คิดว่าเธอจะชอบ แล้วค่อยให้เธอตัดสินใจเลือกหนึ่งจากในนั้นอีกทีคนตัวเล็กเดินดูอย่างคิดหนัก จนอาเดลต้องเลือกชุดที่เขามองแล้วว่ามันเข้าตาที่สุดมาให้เธอดู ชุดราตรีเกาะอกสีแดงดำถูกเลือกออกมา แค่มองดูก็รู้ว่าถ้าเธอได้ใส่จะต้องสะกดทุกสายตาภายในงานแน่นอน"เฮียชอบชุดนี้หรอ?""เฮียว่ามันเข้ากับหนู ลองดูไหม?""ลองดูก็ได้"เธอเดินตามพนักงานไปที่ห้องลองชุดก่อน แล้วอาเดลก็เดินตามหลังไปติดๆ เขาเอ่ยปากสั่งให้พนักงานไปอยู่จุดอื่น เสร็จแล้วเขาจะเป็นคนเรียกเอง ก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องลองชุดพร้อมเธอด้วย เลื่อนประตูปิดลงแล้วไม่ลืมที่จะลงกลอนด้วย หันมายืนกอดอกมองดูชะเอมที่กำลังรวบผมมัดมวยขึ้นไป คงเพราะอยากให้ลองชุดได้ง่ายขึ้น มือบางกำลังจะปลดกระดุมเสื้อครอปเชิ้ตตัวเล็กแต่สายตาดันเห็นเขาผ่านกระจกซะก่อน"เฮียเข้ามาทำไม?""มาช่วยหนูลองไงครับ รูดซิปหลังเองได้หรอ?""คิดอะไรลามกอยู่ละสิ""ถ้ารู้แล้วก็รีบถอดสิครับ"พูดจบเขาก็จู่โจมเข
"คนเยอะจัง"ชะเอมขยับไปกระซิบข้างหูอาเดลทันทีหลังลงจากรถมาแล้วเห็นผู้คนอยู่เต็มงาน อาการประหม่าเริ่มทำให้เธอยืนแน่นิ่งไปจนรู้สึกตัวสะดุ้งอีกทีก็ตอนอาเดลก้มลงมาหอมแก้ม หันไปมองหน้าเขาสับกับมองผู้คนว่ามีใครสนใจไหม แล้วก็ถอนหายใจในตอนที่เห็นว่าไม่มีใครเห็นที่เขาทำเมื่อครู่"เอม...เฮีย มากันแล้วหรอ?"เธอเห็นไปตามต้นเสียงพอเห็นว่าเป็นคิรินก็ยิ้มกว้างออกมาแล้ววิ่งเข้าไปหา อาเดลยิ้มแล้วเดินตามไป เขาเป็นคนเชิญเพื่อนของเธอมาเอง เพราะคิดว่าชะเอมน่าจะอยากมีเพื่อนในงานด้วย อาเดลก็ยังคงเป็นอาเดลที่คิดถึงคนตัวเล็กของเขาอยู่เสมอ"ขอบคุณนะครับคิรินที่มา""เฮียเดลเชิญทั้งที ใครจะกล้าปฏิเสธละคะ คิรินก็กลัวว่าจะโดนยิงทิ้ง""เฮียไม่โหดกับคนสวยๆหรอกครับ""อะแฮ่ม! ชมคนอื่นสวยต่อหน้าหนูหรอ""หึ ผู้หญิงของเฮียสวยที่สุดแล้วครับ ไม่หึงนะคนสวยของเฮีย"ชะเอมแกล้งทำเป็นยู่ปากจนถูกอาเดลบีบเข้าที่แก้ม สีหน้าเขาดูมันเขี้ยวเธอมาก นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในงาน เธอคงถูกเขาจับฟัดไปแล้วแน่ๆจู่ๆก็รู้สึกได้ถึงแรงสะกิด พอหันไปมองก็เห็นเป็นสองหนุ่มเพื่อนซี้ของอาเดลยืนยิ้มให้อยู่ ไม่รู้ทำไมพอชะเอมเห็นแบบนี้แล้วก็เบาใจ อย่างน้อยสา
"หงุดหงิดชะมัด"ชะเอมกอดแขนอาเดลที่เดินบ่นไม่หยุดจนถึงรถ พอต่อปากต่อคำกับแม่เสร็จ เขาก็พาเธอเดินออกมาทันทีอย่างหัวเสีย เธอก้มลงดมกลิ่นเหล้าที่ยังติดตัวอยู่แล้วก็ได้แต่นึกเสียดาย ชุดนี่ราคาตั้งแพง ถ้าขายไปก็คงได้เงิินอีกเยอะ โดนเหล้าสาดจนเสียราคาหมดแล้ว"เฮียโอเคไหม?""มาถามเฮียทำไม หนูต่างหากละ โอเครึเปล่า""อื้ม โอเคสิ ถึงจะเจ็บ แต่ว่าหนูก็เอาคืนไปหลายทีเลยนะ"อาเดลมองคนที่ทำท่าตบอากาศเพื่อเล่าให้เขาฟังว่าเธอเองไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว เขายิ้มเอ็นดูแล้วลูบหัวคนทำหน้าดื้อ อย่างน้อยก็เบาใจที่ชะเอมยังสู้คนอยู่บ้าง ไม่งั้นเขาคงอยากเป็นบ้ามากกว่านี้"แล้วคิรินละ เจ็บไหมครับ?"ไม่ลืมที่จะหันไปถามไถ่เพื่อนของคนตัวเล็กที่สภาพไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก คิรินยิ้มให้เขาแล้วหัวเราะร่าแทนการตอบคำถาม สองคนนี้เหมือนกันมากจริงๆ ไม่แปลกเลยที่เป็นเพื่อนกัน"ขอบคุณนะครับที่ช่วยเมียเฮีย""เมียเฮียก็เพื่อนคิรินนะคะ แค่นี้สบายมาก""อยากได้ชุดใหม่แบรนด์ไหนบอกได้เลย เฮียซื้อให้เป็นรางวัล""อุ้ยยย เฮียเดลเนี่ยป๋าอีกแล้ว"อาเดลก้มมองคนที่เอาศอกกระทุ้งท้องเขา ริมฝีปากเล็กยู่ใส่แล้วมองค้อนทีเล่นท
"วันนี้กูไม่ว่าง มีนัดกับเมีย"อาเดลเอ่ยปากบอกเพื่อนเขาที่เอาแต่คะยั้นคะยอให้ไปเที่ยวผับด้วยกันไม่หยุด แต่เขามีนัดกับคนตัวเล็กของเขาแล้ว ก็เลยต้องปฏิเสธไปอย่างห้ามไม่ได้ วันนี้เขาจะไปรับเธอที่มหาลัยแล้วก็ฉลองวันครบรอบของเราด้วยกัน"อะไรวะ ติดเมียจังเลยนะมึงเนี่ย""คนไม่มีเมียแม่งไม่เข้าใจหรอก""มึงรู้ได้ไงว่ามันไม่มี ไอลีโอมันติดสาวแล้วนะเว่ย"คนตัวสูงแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาแล้วหันไปมอง ออแกนยังแกล้งเอ่ยเย้าลีโอไม่หยุด แต่ดูท่าแล้วน่าจะยังไม่อยากเปิดตัวสินะ ถึงได้ทำทีท่าเลิ่กลั่กแล้วพยายามปฏิเสธอยู่แบบนั้นอาเดลส่ายหัวแล้วก็ได้แต่ขำออกมา ยืดแขนบิดขี้เกียจหลังจากพิมพ์เล่มธีสิสของตัวเองเสร็จ กำลังจะsยิบน้ำมาดื่มเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาซะก่อน ชื่อสายเรียกเข้าเป็นหวานใจเขา อาเดลไม่รีรอที่จะกดรับสายในทันทีไม่ให้เธอต้องรอนาน"ครับ คนสวย"(อะไรของเฮียเนี่ย ปากหวานจัง)"ปกติก็ปากหวานกับหนูอยู่แล้ว"เขาหันไปกำหมัดใส่เพื่อนสองคนที่ทำหน้าล้อเลียนอยู่ พอสองคนนั้นยังทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาเขาก็เลยหยิบกระดาษที่ขยำทิ้งไว้ใกล้มือเขวี้ยงใส่พวกมันแทน(หนูจะโทรมาบอกว่าหนูเลิกแล้วนะ พอดีอาจารย์ยกคลาส แต่
สนามรีลีฟ"อันนี้คู่อันนี้ ส่วนอันนี้....."อาเดลเปิดประตูเข้ามาอย่างเงียบเชียบก่อนจะอมยิ้มมองคนที่กำลังตั้งใจจัดเรียงเอกสารของสนามเขา ชะเอมอาสามาช่วยเขาในช่วงปิดเทอม ช่วงนี้เราอยู่ด้วยกันแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่เขากลับไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด ออกจะชอบซะด้วยซ้ำริมฝีปากเล็กพูดมุบมิบกับตัวเองอย่างน่ารัก ชะเอมคงจะตั้งใจจัดเอกสารมากจนไม่รู้เลยว่าเขาเดินเข้ามา อาเดลเดินเข้าไปหาด้วยความเงียบ เดินให้เบาที่สุดหวังจะแกล้งให้อีกคนตกใจเล่น"หนูได้ยิน...."ชะเอมที่รู้สึกตัวได้ว่าอาเดลกำลังจะแกล้งเธอเลยตั้งหันไปบอกว่าเธอรู้ว่าเขาเดินเข้ามา แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อาเดลก้มหน้าลงมาหาพอดี ปลายจมูกชนกันทั้งดวงตาสบกันนิ่ง เป็นอาเดลที่รั้งท้ายทอยเธอไว้แล้วประกบจูบก่อน เอกสารที่ถืออยู่ในมือหลุดร่วงลงเมื่อเธอลุ่มหลงในจูบเขา รสจูบหวานที่ไม่มีทีท่าจะหยุดลงโดยง่ายยังคงดำเนินต่อ สักพักพออาเดลผละออกเจาก็เอาหน้าผากชนกับหน้าผากของเธอไว้"พอแล้ว"ชะเอมดันอกแกร่งปามคนที่จะจูบเธออีกรอบ อาเดลทำหน้าเสียดายใส่ก่อนจะหอมแก้มเธอแทน ปล่อยให้คนตัวเล็กได้หันไปสนใจเอกสารของตัวเองต่อ"ขยันจัง""เฮียอุตส่าห์ยอมให้มาช่วย ห
"คิดถึงแม่หรอ?"อาเดลเดินมาโอบกอดจากด้านหลังของคนที่ยืนดูรูปกับโกฐกระดูกของแม่นิ่ง ชะเอมสะดุ้งเล็กน้อยในตอนที่หลุดออกจากภวังค์ก่อนจะหันมามองอาเดลแล้วยิ้มให้ ปลายจมูกโด่งหอมแก้มเธอแล้วเอาปลายคางเกยกับไหล่เล็กเอาไว้ชะเอมกลับมาจากการรักษาตัวจากโรงพยาบาลร่วมหลายสัปดาห์แล้ว คนตัวเล็กของเขาดีขึ้นมาก ยอมกินมากขึ้น พูดคุยได้เป็นปกติ แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่พอนึกถึงเรื่องแม่แล้วเธอจะนิ่งไป แล้วก็เป็นเขาเองที่ดึงเธอให้กลับมาจากความโศกเศร้า"อื้ม จนตอนนี้หนูก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ช่วยแม่ไม่ทัน""ไม่เอาสิ ไม่คิดแล้ว แม่ไปสบายแล้วนะ อย่างน้อยท่านก็ไม่ต้องเจ็บปวดอีก"".......""แทนที่จะเศร้าให้แม่เห็น สู้บอกแม่ไปดีกว่าว่าไม่ต้องห่วงหนู เพราะหนูมีเฮียคอยดูแลแล้ว"อาเดลเอ่ยบอกคนในอ้อมกอดแล้วมองไปที่รูปภาพตรงหน้า เขาสัญญาอยู่ในใจและหวังให้แม่ของชะเอมได้รับรู้ ว่าเขาจะดูแลลูกสาวของแม่คนนี้เป็นอย่างดี จะรักเธอให้มากอย่างที่เขาเคยรักมาตลอด และที่สำคัญสุดคือจะไม่ทำให้ชะเอมเสียใจ และไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอได้อีก"เฮียจะดูแลหนูตลอดไปไหม?""ที่ผ่านมายังไม่ทำให้หนูรู้อีกหรอ ว่าเฮียรักหนูแค่ไหน เฮียจะไม่ดูแล
หลังจากชะเอมฟื้นขึ้นมาอาเดลก็เฝ้าไม่ห่าง อาการซึมเศร้าของเธอยังคงส่งผลให้อีกคนนิ่งเงียบไม่ค่อยพูดค่อยจา บางครั้งก็น้ำไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ แต่ก็ยังดีที่พยักหน้าตอบรับคำพูดของเขาบ้างอาเดลตักข้าวต้มที่เขาพึ่งป้อนไปได้ไม่กี่คำให้เธออีกครั้ง แต่มือบางดันมือเขาออกห่าง เธอส่ายหัวไปมาปฏิเสธที่จะทานมันต่อ ส่วนเขาก็ส่ายหัวกลับไปเหมือนกันชะเอมพึ่งจะกินเข้าไปได้ไม่กี่คำ เขาคงปล่อยให้อีกคนหยุดกินตอนนี้ไม่ได้ คนป่วยก็ต้องมีสารอาหารเข้าไปบำรุงเยอะหน่อย ในตอนแรกเหมือนคนตัวเล็กจะไม่ยอม แต่พอเขาส่งสายตาดุไปอีกคนก็รับมันเข้าปากแต่โดยดี ถึงจะยังเศร้า แต่ก็ยังคงเป็นชะเอมที่เขารู้จักเป็นอย่างดี"กินอีกสักหน่อย แล้วเฮียจะหยุดป้อน แล้วก็ให้กินองุ่นของโปรดหนูดีไหม?เธอไม่ตอบอะไรออกมาแต่พยักหน้าแทน อาเดลถอนหายใจออกมา ผ่านมาหลายวันแต่เขาก็ยังไม่ได้ยินเสียงพูดจากชะเอมเลยสักคำ เข้าใจว่าคงต้องใช้เวลาให้เธอได้รักษาความเจ็บปวดครั้งนี้ แต่เขาก็เป็นห่วงมากจนแทบไม่เป็นอันทำอะไรแล้วอาเดลเก็บจานอาหารจนเรียบร้อยก่อนจะเช็ดปากให้คนตัวเล็กด้วย เขาส่งแก้วน้ำกับยาให้ ชนะเอมเหมือนจะทำหน้าไม่ชอบใจเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีที่ยอมกิ
"เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมหนูไม่บอกเฮียแต่แรกนะ"อาเดลยืนกอบกุมมือชะเอมที่นอนอยู่บนเตียงเอาไว้ เขาได้เอ่ยถามแผ่วเบาทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ได้ยินในตอนที่ฟังคิรินเล่าให้ฟังถึงสาเหตุการจากไปของแม่ชะเอมจบ ทั้งที่แค่บอกเขาทุกอย่างก็จะถูกจัดการได้ทันทีแท้ๆ แต่คนตัวเล็กกลับไม่ยอมเอ่ยปากเลยสักคำ"มึงอย่าโทษตัวเองเลย ไม่ใช่ความผิดมึงหรอก""กูจะหยุดโทษตัวเองได้ยังไง มึงดูสภาพเมียกูตอนนี้สิ"เขาไม่อาจเลิกโทษตัวเองได้อย่างที่ออแกนบอก ยิ่งมองเห็นรอยฟกช้ำตามตัว ไหนจะอาการซูบผอมลงของอีกคนก็ยิ่งรู้สึกเจ็บในใจ มากไปกว่านั้นแผลในใจของชะเอมก็น่าจะหนักหนาพอสมควร "คิรินว่าเอมก็คงไม่อยากให้เฮียโทษตัวเองเหมือนกันนะคะ""เฮียอยากรู้..ว่าทำไมเอมถึงไม่แสดงอาการอะไรเลย ถึงจะไม่บอกเฮียเรื่องแม่ป่วย แต่ก็น่าจะมีอะไรที่ทำให้เฮียสงสัยบ้างสิ""คือว่า""พูดมาเถอะครับ อย่าปล่อยให้เฮียโง่อยู่แบบนี้เลย"เพราะเห็นว่าคิรินอึกอักไม่กล้าพูดเขาเลยต้องเอ่ยราวกับร้องขอออกไป "คือว่าแม่เฮียขู่เอาไว้""แม่เฮีย?""กูว่าแล้วเชียว ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับแม่มึง"ลีโอที่นั่งอยู่ตรงโซฟาข้างออแกนตบเข่าพูดขึ้น คิดเอาไว้อยู่แล้วเชียวว่าต้นสาย
โรงพยาบาล"อย่างน้อยวันนี้ก็จะมีเรื่องดีเกิดขึ้น ยิ้มหน่อยสิชะเอม"เธอหยุดยืนพูดกับตัวเองอยู่หน้าโรงพยาบาลที่แม่พักรักษาตัว คุณหมอโทรไปบอกเธอเมื่อวานว่าหาหัวใจที่เขากับแม่เธอได้แล้ว และเธอเองก็มีเงินพอจะรักษา ถึงจะผ่านมาไม่รู้กี่เรื่องราว แต่อย่างน้อยก็กำลังจะช่วยชีวิตแม่ไว้ได้พยักหน้ากับตัวเองแล้วพยายามยิ้ม อย่างน้อยแม่จะได้สบายใจในตอนที่เห็นหน้าเธอ ชะเอมก้าวเดินเข้าไปอย่างละทิ้งทุกความเศร้า เดินมาถึงหน้าห้องผูู้ป่วยรวมก็เห็นพยาบาลยืนล้อมอยู่ที่เตียงแม่หลายคนเธอเผยรอยยิ้มออกมาเพราะคิดว่าแม่คงจะกำลังได้ส่งตัวเข้าห้องผ่าตัด แต่ยิ่งใกล้ขึ้นใจดวงน้อยก็ยิ่งรู้สึกเจ็บ ส่ายหัวอย่างไม่เชื่อในตอนที่เห็นเต็มตาว่าบนเตียงนั้นเป็นแม่ที่นอนแน่นิ่งแล้วพยาบาลกำลังจะดึงผ้าขึ้นคลุม"กะ เกิดอะไรขึ้นคะ?""ลูกสาวคนไข้มาพอดี หมอเสียใจด้วยนะครับ เราช้าไป คนไข้เสียชีวิตแล้วครับ"เหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงมา สมองรู้สึกปวดหนึบราวกับโดนอะไรทุบเข้ามาเต็มแรง ของเยี่ยมไข้ในมือหลุดร่วงลงเต็มพื้น ก่อนเธอจะรุดเข้าไปหาร่างของผู้เป็นแม่แล้วร้องไห้โฮ เสียงสะอื้นไห้ทั้งเรียกให้คนที่หมดลมหายใจฟื้นขึ้นมาทำให้คนไข้กับญาติท
"ทำไมถึงบอกไม่ได้!? ทั้งที่เฮียพยายามจะดูแลหนูอย่างดีที่สุด! ถ้ามีเรื่องเดือร้อนอะไรแล้วไม่บอกเฮีย หนูจะมีเฮียไปทำไม!"อาเดลโมโหจนไม่สามารถคุมคำพูดของตัวเองได้อีก ทั้งที่เขาอยากจะดูแเธอให้ดี ให้เธอได้ทุกสิ่งที่เธอต้องการ แต่เธอดันทำเหมือนกับว่าเขาไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย ขอเพียงแค่เธอบอกเขาสักคำว่าต้องการอะไร ไม่มีทางเลยที่เขาจะไม่ให้ แต่ชะเอมเลือกที่จะไม่บอกอะไรเขาเลยสักอย่าง ปล่อยให้เขาอยู่แบบไม่รับรู้ เป็นคนโง่ที่ถูกเธอหลอกแล้วผิดสัญญาต่อกันอยู่ซ้ำๆ"........""รู้ป่ะ ว่าแม่งโคตรเหมือนว่าเฮียดูแลหนูไม่ได้ จนหนูต้องไปทำงานบ้าๆ นี่เพื่อหาเงินใช้อ่ะ"ที่ผ่านมาเขาใช้ความอดทนมากเท่าไหร่เธอคงไม่รู้ ในตอนที่ได้ยินใครต่อใครพูดถึงงานนี้ แม้จะในตอนที่ตกลงกันแล้วว่าให้เธอเลิกรับเขาก็ยังได้ยินมันอยู่เสมอแต่เขาก็ยังเป็นอาเดลที่รักเธอจนสุดหัวใจ ยอมทำปิดหูปิดตาไม่รับรู้ จนกระทั่งรับไม่ไหวถึงได้เลือกที่จะคุยกับเธอตามตรง ให้โอกาสเธอสัญญากันอีกครั้ง แต่เธอก็ไม่คิดจะรักษาโอกาสนั้นเลย"มันไม่ใช่แบบนั้นนะ ฮึก เฮียดูแลหนูดีมาก ฮึก หนูขอโทษ จะไม่ทำอีกแล้ว""จำได้ไหมว่าเฮียเคยพูดกับหนู ว่าโอกาสครั้งที
"ทำไมพี่สกายถึงมาอยู่ที่นี่ด้วย!?"ชะเอมร้องดังลั่น หลังจากที่เธอนั่งดื่มเป็นเพื่อนบอสตันอยู่ตามข้อตกลงก็มีใครบางคนเดินเข้ามา พอเห็นหน้าว่าเป็นสกายก็รีบโวยวายในทันที รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย ต้องเกิดเรื่องแน่นอนชะเอมเอ๊ย"อย่าตกใจไปสิครับน้องชะเอม พี่ก็เห็นว่าเพื่อนพี่จ้างเราแพง เลยมาแจมด้วยสักหน่อย""อย่ามาแตะตัวฉันนะ!"เธอสะบัดมือที่ยื่นมาจับไหล่ออกไปแล้วลุกขึ้นหนี แต่กลับถูกบอสตันรั้งให้ลงมานั่งอย่างเก่าแล้วกอดเอวเธอไว้ ชะเอมพยายามดันออกไปต้องก็ไม่เป็นผล เธอในตอนนี้ที่ทั้งสกายและบอสตันประกบเอาไว้ ไม่มีทางที่จะหนีออกไปได้เลย"ยังจะหวงตัวอยู่อีก ต้องการเงินไม่ใช่หรอ ถ้าทำให้พี่พอใจได้ พี่จะเพิ่มให้""ทะ ทำอะไร?""เวลาเอาใจไอเดลมันน้องชะเอมทำยังไงละครับ พี่ก็อยากได้แบบนั้นแหละ"เธอถูกดันให้นอนล้มลงบนตัวของบอสตัน ขาสองข้างถูกสกายยึดเอาไว้ก่อนเขาจะแทรกตัวอยู่ระหว่างกลางกายเธอ ชะเอมพยายามออกแรงดิ้นสุุดแรงแล้วพยายามขอให้เขาปล่อย แต่ก็ไม่มีประโยชน์"ปะ ปล่อยนะ!!! ไอพวกบ้า!""กูขอก่อนก็แล้วกันนะ แล้วมึงค่อยต่อ""ได้เสมอ เดี๋ยวกูช่วยล็อกให้"ตาเธอเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจในตอนที่ได้ยินบทสนท
"วันนี้ไม่ไปเฝ้าเฮียหรอ?"คิรินถามออกมาอย่างแปลกใจมีเห็นเพื่อนมามหาลัยทั้งที่ควรจะอยู่เฝ้าอาเดลที่โรงพยาบาล เห็นชะเอมเอมถอนหายใจก็ทำให้เธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนตัวเล็กอยากไปเฝ้าอาเดลใจแทบขาด ถึงเธอจะมาเรียนแต่ก็ไม่ได้มีสมาธิเลยสักนิด แต่พอนึกถึงที่ลีโอโทรมาบอกแล้วการที่เธอไม่ไปที่นั่นเลยน่าจะดีกว่า"พี่ลีโอโทรมาบอกว่าแม่เฮียไปเฝ้า แพมแพมก็ไปด้วย ไม่อยากให้เกิดเรื่องอ่ะ เอาไว้ค่อยไปดีกว่า""เฮียยังไม่ฟื้นหรอ?""เห็นพี่ลีโอบอกฟื้นแล้วเมื่อช่วงเที่ยง แย่จังเลยอ่ะ ทั้งที่เฮียควรจะตื่นมาเจอเอมคนแรกแท้ๆ"คิรินลูบหลังเพื่อนด้วยความเข้าใจ คิดว่าอาเดลเองก็คงจะดีใจถ้าตื่นมาแล้วเห็นชะเอมเป็นคนแรกเหมือนกัน แต่จะให้ทำยังไงได้"เฮียคงเข้าใจแหละ ปกติก็รู้นี่ว่าเอมกับคุณนายอิงอรไม่ถูกกันอ่ะ"ชะเอมพยักหน้าก่อนจะก้มลงดูโทรศัพท์ที่มีเสียงแจ้งเตือนดังเพราะกลัวว่าจะเป็นอาเดลที่ติดต่อมา เธอเปิดดูก่อนจะขมวดคิ้วทันที เพราะข้อความมันยาวมากไม่สามารถอ่านจนหมดได้ ถึงจะไม่อยากกดเข้าแชทนี้แล้วแต่ความอยากรู้ดันมีมากกว่าเธอกดเข้าไปดูข้อความนั้นของบอสตัน หลังจากอ่านแล้วทำความเข้าใจแล้ว ใจความสำคัญมันก็มีแค่อยากจ
"สรุปแล้วเฮียรู้เรื่องแล้วใช่ไหม?""รู้มานานแล้ว แต่เฮียไม่พูด"ชะเอมที่ยืนล้างมืออยู่หันไปตอบคำถามเพื่อน สีหน้าคิรินดูตกใจมากจนเธอแทบจะกลั้นขำไว้ไม่ได้ เพื่อนเธอกลัวอาเดลมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถึงแม้เขาจะไม่เคยทำอะไรไม่ดีใส่ แต่ว่าก็แอบน่ากลัวอยู่ดี แค่อาเดลทำหน้าดุนิดหน่อย คิรินก็แทบอยากจะก้มกราบ"ที่พวกเราทำมาทั้งหมด คือโป๊ะมาตลอดเลยหรอเนี่ย""อืม แต่โชคดีนะ ที่เฮียยังหายโกรธ""ก็ไม่เห็นเคยโกรธเอมได้นานสักที เฮียรักเอมซะขนาดนั้นนี่"นิ้วของเพื่อนจิ้มมาที่แก้มเธอแล้วทำหน้าหยอก คิรินชอบแซวแบบนี้เพราะรู้ว่าแก้มเธอจะร้อนเห่อจนขึ้นสี แถมกลั้นยิ้มไว้ไม่ได้อย่างที่กำลังเป็น ชะเอมปัดมือเพื่อนออกไปแล้วมองคาดโทษ"อย่ามาแซวนะ""มาอยู่ที่นี่กันนี่เอง รีบไปกันเถอะ ใกล้ได้เวลา ไอเดลถามหาเอมแล้วอ่ะ"ลีโอเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มแล้วเอ่ยบอก เธอพยักหน้าตอบรับแล้วรีบเดินไปด้วยความเร็ว เพราะไำม่อยากให้อาเดลต้องรอนาน เดี๋ยวสุดหล่อของเธอจะโกรธเอาได้"เฮียย หนูมาแล้ว""หายไปไหนกันมาครับ?""คิรินน่ะสิ พาไปดูหนุ่มมา""ว่าไงนะ!?"อาเดลพูดขึ้นเสียงดัง ทั้งขมวดคิ้วใส่คนตัวเล็กของเขา แล้วก็หันไปมองคิรินอย่างหาคำตอบ เพ