"ทำไมพี่สกายถึงมาอยู่ที่นี่ด้วย!?"
ชะเอมร้องดังลั่น หลังจากที่เธอนั่งดื่มเป็นเพื่อนบอสตันอยู่ตามข้อตกลงก็มีใครบางคนเดินเข้ามา พอเห็นหน้าว่าเป็นสกายก็รีบโวยวายในทันที รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย ต้องเกิดเรื่องแน่นอนชะเอมเอ๊ย
"อย่าตกใจไปสิครับน้องชะเอม พี่ก็เห็นว่าเพื่อนพี่จ้างเราแพง เลยมาแจมด้วยสักหน่อย"
"อย่ามาแตะตัวฉันนะ!"
เธอสะบัดมือที่ยื่นมาจับไหล่ออกไปแล้วลุกขึ้นหนี แต่กลับถูกบอสตันรั้งให้ลงมานั่งอย่างเก่าแล้วกอดเอวเธอไว้ ชะเอมพยายามดันออกไปต้องก็ไม่เป็นผล เธอในตอนนี้ที่ทั้งสกายและบอสตันประกบเอาไว้ ไม่มีทางที่จะหนีออกไปได้เลย
"ยังจะหวงตัวอยู่อีก ต้องการเงินไม่ใช่หรอ ถ้าทำให้พี่พอใจได้ พี่จะเพิ่มให้"
"ทะ ทำอะไร?"
"เวลาเอาใจไอเดลมันน้องชะเอมทำยังไงละครับ พี่ก็อยากได้แบบนั้นแหละ"
เธอถูกดันให้นอนล้มลงบนตัวของบอสตัน ขาสองข้างถูกสกายยึดเอาไว้ก่อนเขาจะแทรกตัวอยู่ระหว่างกลางกายเธอ ชะเอมพยายามออกแรงดิ้นสุุดแรงแล้วพยายามขอให้เขาปล่อย แต่ก็ไม่มีประโยชน์
"ปะ ปล่อยนะ!!! ไอพวกบ้า!"
"กูขอก่อนก็แล้วกันนะ แล้วมึงค่อยต่อ"
"ได้เสมอ เดี๋ยวกูช่วยล็อกให้"
ตาเธอเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจในตอนที่ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ สมองไม่ทันได้ประมวลผลแขนก็ถูกบอสตันล็อกเอาไว้แล้ว ความรู้สึกเจ็บที่แขนไม่ได้ทำให้เธอยอมหยุดดิ้นแม้แต่น้อย ได้แต่คิดในใจแล้วภาวนาให้ใครมาช่วยเธอ
"จะทำอะไรอ่ะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!! นี่ไม่ใช่อย่างที่ตกลงกันแล้ว!"
ชะเอมพูดเสียงดังในตอนที่กระดุมเสื้อเชิ๊ตตัวสวยกำลังถูกสกายปลดออก เธอพยายามดิ้นถึงแม้จะไม่หลุดไปจากตรงนี้ แต่ก็อาจจะทำให้เขาปลดกระดุมเธอออกไม่ได้
"คิดว่าพี่จะยอมจ่ายเงินเกือบแสนเพื่อแค่ให้มานั่งกินเหล้าจริงๆหรอ ทำงานให้มันคุ้มเงินหน่อยสิ"
บอสตันขยับลงมากระซิบข้างหู ก่อนจะออกแรงยึดเธอแรงมากกว่าเดิม
แควก!! เสื้อเธอถูกฉีกออกจนขาดวิ่นด้วยฝีมือสกาย อีกคนคงจะหงุดหงิดที่เธอดิ้นไปมาไม่รู้จบ บราเซียสีแดงตัวสวยขับกลับผิวกายขาวทำให้สกายมองเธอไม่ละสายตาไปไหน
หน้าตาหื่นกระหายนั้นทำเธอใจเต้นแรงด้วยความกลัว ในตอนนี้กลับเอาแต่นึกถึงอาเดลขึ้นมา ถ้าเชื่อฟัง ถ้าไม่ขัดคำสั่งก็คงไม่เป็นแบบนี้
"เหี้ย! อย่างขาวเลยนี่หว่า นมก็ใหญ่ แบบนี้สินะ ไอเดลมันถึงได้ติดใจนัก"
"ปล่อยเถอะ อย่าทำเลย ขอร้องละ"
"ไม่ทันแล้วคนสวย มาขนาดนี้แล้ว ใครหยุดก็บ้า"
"ฮึก!! ปล่อย!! อย่ามายุ่งกับฉัน!!"
พยายามเอ่ยปากร้องขอความเห็นใจจนน้ำตาไหลลงมาอาบเก็บ มองไปทางไหนหรือจะคิดยังไงก็ไม่มีทางรอดให้เธอเลย อาเดลก็ยังนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล เขาจะสงสัยไหมนะว่าทำไมเธอยังไม่ไปหา แล้วจะให้คนตามหาไหมว่าเธออยู่ไหน ในเวลานี้กลับเอาแต่นึกอยากให้เขาส่งคนคอยสะกดรอยตามเธออยู่เสียอย่างนั้น
"โธ่ๆ ร้องไห้ซะแล้ว เก็บเสียงไว้ครางให้พี่ด้วยนะ อย่าร้องไห้จนเสียงหายหมดละ"
บอสตันพูดอย่างนั้นแล้วหัวเราะในลำคอ ปลายจมูกโด่งไล้สูดดมแล้วหอมลงบนหัวเธอ สัมผัสจากมือของสกายลูบไล้ไปทั่วร่างจนน่าขยะแขยง
"ฮึก หยุดเดี๋ยวนี้!! ฮืออออ ปล่อยนะ!"
"หึ ถ้าไอเดลเห็นคงขาดใจตายแน่ๆ"
ปึ้งง!!!
บานประตูถูกถีบเข้ามาแบบที่สกายก็พอรู้ว่าเป็นใครที่มาถึงไหน ผละตัวออกไปมองก็เห็นอาเดลยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมเพื่อนอีกสองคน มือหนากำแน่นจนเส้นเลือดขึ้นยามที่มองเห็นสภาพคนตัวเล็กของเขา
"ใช่!!! ตายแน่ แต่เป็นพวกมึง! ไม่ใช่กู!!"
อาเดลหยิบปืนที่พกมาด้วยจ่อไปที่สกายแล้วเดินเข้าหาทันที แม้มันจะพยายามลุกขึ้นมาสู้แต่ก็เหมือนทุกครั้งที่สู้เขาไม่ได้ กระบอกปืนจ่อลงบนหัวมันทันทีเมื่อมีโอกาส
บอสตันที่กำลังจะลุกมาช่วยถูกลีโอกับออแกนยึดเอาไว้ มองหาลูกน้องที่ให้คอยเฝ้าอยู่ แต่สภาพพวกที่โดนซ้อมแล้วถูกลูกน้องคนสนิทของอาเดลพาเข้ามาทำให้ต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ คนมากมายที่บอสตันเตรียมไว้ ไม่มีใครสู้พวกอาเดลได้เลยสักคน
"มึงกล้ายิงหรอ!?"
สกายพูดท้าทายออกมา ยิ่งเร้าให้อารมณ์อาเดลทวีคูณขึ้น เสียงกดไกปืนดังให้ได้ยิน อาเดลนิ่งไปสักพักจนสกายหัวเราะเยาะเพราะคิดว่าเขาไม่กล้า ถ้าไม่จัดการให้รู้สำนึก พวกมันก็คงไม่หยุด
ปั้ง!
กดลั่นปืนไปที่มือข้างขวาเพื่อไม่ให้มันเหลือมีไว้ทำอะไรชั่วๆอีก ในเมื่อกล้าแตะต้องคนของเขา มือนี่ก็ไม่สมควรจะมีอยู่
"โอ๊ย!!! ไอเหี้ย!"
"มึงกล้าดียังไง!! มาแตะต้องผู้หญิงของกู!!"
อาเดลเดินไปบีบเข้าที่คอของบอสตันแล้วเอาปืนจ่อไว้ เขาในตอนนี้ไม่สามารถละทิ้งอารมณ์ที่ปะทุได้เลย หันไปมองชะเอมที่ลีโอเดอนเอาเสื้อไปคุมให้ สภาพเธอในตอนนี้มากพอให้เขาฆ่าพวกมันตายได้
"อีนี่มันรับงานกูเอง! มึงนั่นแหละ ดูแลมันยังไง ถึงได้หิวเงินขนาดนี้ แค่กูเอาเงินฟาด ก็ยอมมาหากูถึงนี่"
"ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร! มึงก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะคนของกู!!"
พอพูดจูบก็ใช้กระบอกปืนตบเข้าที่หน้าบอสตันไปหลายที เขาหันมองหาก่อนจะหยิบขวดเหล้าขึ้นมาแล้วฟาดลงบนหัวมันอย่างไม่ลังเล
"จำใส่สมองมึงเอาไว้ด้วยนะ ว่าอย่ามายุ่งกับเมียกู ถ้ามีครั้งหน้า กูฆ่ามึงแน่"
อาเดลทิ้งตรงนั้นให้ลูกน้องจัดการต่อแล้วลากตัวชะเอมออกไปด้านนอกร้าน เขาเหวี่ยงจนคนตัวเล็กกระเด็นไปชนกับรถแล้วเดินเข้าไปประชิดตัว อาการหายใจรุนแรงกับสีหน้าไม่พอใจของเขาทำให้เธอได้แต่เสมองไปทางอื่น
"ทำไมถึงทำแบบนี้! ถ้าเฮียมาไม่ทันจะเป็นยังไงวะ!!"
"หนูขอโทษ ฮึก"
"เฮียโคตรจะเบื่อคำขอโทษของหนูเลยรู้ป่ะ"
"......"
ยิ่งเห็นว่าเธอไม่พยายามพูดหรืออธิบายให้เขาเข้าใจก็ยิ่งหงุดหงิด เขาไม่เคยรู้สึกโมโหขนาดนี้มาก่อน อาจจะเป็นเพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับเธอในครั้งนี้มันรุนแรงมาก
"อยากได้เงินอะไรนักหนาว่ะ!! มีอะไรก็บอกมาดิว่ะ!"
"หนู ฮึก หนู......."
อาเดลเขย่าตัวเธออย่างต้องการคำตอบ ก่อนจะรวบเอวคนที่พูดจาอึกอักก่อนจะสลบไปซะอย่างนั้น
"น้องสลบไปแล้ว มึงพาน้องกลับก่อนเหอะ"
คอนโดอาเดล
"ไม่!! ไม่เอา! ฮึก อย่า!"
"เฮียอยู่นี่ ใจเย็นๆ"
"ฮึก หยุด!! ฮึก เฮีย เฮียช่วยด้วย!!"
"ชู่วว เฮียตรงนี้"
อาเดลรีบลุกไปหาคนที่นอนผวาอยู่บนเตียง ถึงแม้จะโกรธมากแต่เขาก็ไม่อาจปล่อยให้เธอผวาอยู่อย่างนี้ได้ ขยับขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วลูบหัวเธอเพื่อปลอบ คอยกระซิบข้างหูให้เธอได้ยินเสียงเขาจนใจเย็นขึ้นแล้วหยุดร้องไห้
เขาโอบกอดเธอเอาไว้ตั้งแต่ชะเอมเลิกผวาจนถึงตอนนี้ ยังคงลูบหัวเธอวนซ้ำไปซ้ำมาเพราะกลัวว่าอีกคนจะคิดถึงเรื่องที่เกิดแล้วผวาขึ้นมาอีก แรงขยับยุกยิกทำให้ก้มมองดูก่อนจะเห็นคนในอ้อมกอดลืมตาตื่นขึ้นมา พอเห็นแบบนั้นเขาก็รีบผละออกไปทันที
"ตื่นแล้วก็ดี เรามีเรื่องต้องคุยกัน"
"........."
"สนุกหรอว่ะ ทั้งที่เฮียนอนรอให้หนูไปเยี่ยมอยู่โรงพยาบาล แต่หนูดันไปอยู่กับพวกมัน"
ในเมื่อเธอฟื้นแล้วเขาก็ไม่รอช้าที่จะพูดคุยกันให้รู้เรื่อง ครั้งนี้อาเดลไม่อาจปล่อยผ่านไปได้อีกแล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมชะเอมถึงทำผิดสัญญาครั้งแล้วครั้งเล่า
"หนูแค่...."
"รับงาน? ทั้งที่เฮียแม่งบอกหนูไปแล้วเป็นร้อยเป็นพันรอบ แต่หนูยังเลือกที่จะทำมันลับหลังเฮีย ทำไมว่ะ!!"
"หนูแค่ต้องการเงิน"
"ก็บอกว่าเฮียมีไง!! หนูจะเอาไปทำอะไรก็บอกดิ! ไม่พูด แล้วเฮียจะรู้ได้ยังไงว่าหนูอยากได้อะไรอ่ะ!!"
"หนูบอกไม่ได้ ฮึก ไม่ได้จริงๆ"
"ทำไมถึงบอกไม่ได้!? ทั้งที่เฮียพยายามจะดูแลหนูอย่างดีที่สุด! ถ้ามีเรื่องเดือร้อนอะไรแล้วไม่บอกเฮีย หนูจะมีเฮียไปทำไม!"อาเดลโมโหจนไม่สามารถคุมคำพูดของตัวเองได้อีก ทั้งที่เขาอยากจะดูแเธอให้ดี ให้เธอได้ทุกสิ่งที่เธอต้องการ แต่เธอดันทำเหมือนกับว่าเขาไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย ขอเพียงแค่เธอบอกเขาสักคำว่าต้องการอะไร ไม่มีทางเลยที่เขาจะไม่ให้ แต่ชะเอมเลือกที่จะไม่บอกอะไรเขาเลยสักอย่าง ปล่อยให้เขาอยู่แบบไม่รับรู้ เป็นคนโง่ที่ถูกเธอหลอกแล้วผิดสัญญาต่อกันอยู่ซ้ำๆ"........""รู้ป่ะ ว่าแม่งโคตรเหมือนว่าเฮียดูแลหนูไม่ได้ จนหนูต้องไปทำงานบ้าๆ นี่เพื่อหาเงินใช้อ่ะ"ที่ผ่านมาเขาใช้ความอดทนมากเท่าไหร่เธอคงไม่รู้ ในตอนที่ได้ยินใครต่อใครพูดถึงงานนี้ แม้จะในตอนที่ตกลงกันแล้วว่าให้เธอเลิกรับเขาก็ยังได้ยินมันอยู่เสมอแต่เขาก็ยังเป็นอาเดลที่รักเธอจนสุดหัวใจ ยอมทำปิดหูปิดตาไม่รับรู้ จนกระทั่งรับไม่ไหวถึงได้เลือกที่จะคุยกับเธอตามตรง ให้โอกาสเธอสัญญากันอีกครั้ง แต่เธอก็ไม่คิดจะรักษาโอกาสนั้นเลย"มันไม่ใช่แบบนั้นนะ ฮึก เฮียดูแลหนูดีมาก ฮึก หนูขอโทษ จะไม่ทำอีกแล้ว""จำได้ไหมว่าเฮียเคยพูดกับหนู ว่าโอกาสครั้งที
โรงพยาบาล"อย่างน้อยวันนี้ก็จะมีเรื่องดีเกิดขึ้น ยิ้มหน่อยสิชะเอม"เธอหยุดยืนพูดกับตัวเองอยู่หน้าโรงพยาบาลที่แม่พักรักษาตัว คุณหมอโทรไปบอกเธอเมื่อวานว่าหาหัวใจที่เขากับแม่เธอได้แล้ว และเธอเองก็มีเงินพอจะรักษา ถึงจะผ่านมาไม่รู้กี่เรื่องราว แต่อย่างน้อยก็กำลังจะช่วยชีวิตแม่ไว้ได้พยักหน้ากับตัวเองแล้วพยายามยิ้ม อย่างน้อยแม่จะได้สบายใจในตอนที่เห็นหน้าเธอ ชะเอมก้าวเดินเข้าไปอย่างละทิ้งทุกความเศร้า เดินมาถึงหน้าห้องผูู้ป่วยรวมก็เห็นพยาบาลยืนล้อมอยู่ที่เตียงแม่หลายคนเธอเผยรอยยิ้มออกมาเพราะคิดว่าแม่คงจะกำลังได้ส่งตัวเข้าห้องผ่าตัด แต่ยิ่งใกล้ขึ้นใจดวงน้อยก็ยิ่งรู้สึกเจ็บ ส่ายหัวอย่างไม่เชื่อในตอนที่เห็นเต็มตาว่าบนเตียงนั้นเป็นแม่ที่นอนแน่นิ่งแล้วพยาบาลกำลังจะดึงผ้าขึ้นคลุม"กะ เกิดอะไรขึ้นคะ?""ลูกสาวคนไข้มาพอดี หมอเสียใจด้วยนะครับ เราช้าไป คนไข้เสียชีวิตแล้วครับ"เหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงมา สมองรู้สึกปวดหนึบราวกับโดนอะไรทุบเข้ามาเต็มแรง ของเยี่ยมไข้ในมือหลุดร่วงลงเต็มพื้น ก่อนเธอจะรุดเข้าไปหาร่างของผู้เป็นแม่แล้วร้องไห้โฮ เสียงสะอื้นไห้ทั้งเรียกให้คนที่หมดลมหายใจฟื้นขึ้นมาทำให้คนไข้กับญาติท
"เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมหนูไม่บอกเฮียแต่แรกนะ"อาเดลยืนกอบกุมมือชะเอมที่นอนอยู่บนเตียงเอาไว้ เขาได้เอ่ยถามแผ่วเบาทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ได้ยินในตอนที่ฟังคิรินเล่าให้ฟังถึงสาเหตุการจากไปของแม่ชะเอมจบ ทั้งที่แค่บอกเขาทุกอย่างก็จะถูกจัดการได้ทันทีแท้ๆ แต่คนตัวเล็กกลับไม่ยอมเอ่ยปากเลยสักคำ"มึงอย่าโทษตัวเองเลย ไม่ใช่ความผิดมึงหรอก""กูจะหยุดโทษตัวเองได้ยังไง มึงดูสภาพเมียกูตอนนี้สิ"เขาไม่อาจเลิกโทษตัวเองได้อย่างที่ออแกนบอก ยิ่งมองเห็นรอยฟกช้ำตามตัว ไหนจะอาการซูบผอมลงของอีกคนก็ยิ่งรู้สึกเจ็บในใจ มากไปกว่านั้นแผลในใจของชะเอมก็น่าจะหนักหนาพอสมควร "คิรินว่าเอมก็คงไม่อยากให้เฮียโทษตัวเองเหมือนกันนะคะ""เฮียอยากรู้..ว่าทำไมเอมถึงไม่แสดงอาการอะไรเลย ถึงจะไม่บอกเฮียเรื่องแม่ป่วย แต่ก็น่าจะมีอะไรที่ทำให้เฮียสงสัยบ้างสิ""คือว่า""พูดมาเถอะครับ อย่าปล่อยให้เฮียโง่อยู่แบบนี้เลย"เพราะเห็นว่าคิรินอึกอักไม่กล้าพูดเขาเลยต้องเอ่ยราวกับร้องขอออกไป "คือว่าแม่เฮียขู่เอาไว้""แม่เฮีย?""กูว่าแล้วเชียว ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับแม่มึง"ลีโอที่นั่งอยู่ตรงโซฟาข้างออแกนตบเข่าพูดขึ้น คิดเอาไว้อยู่แล้วเชียวว่าต้นสาย
หลังจากชะเอมฟื้นขึ้นมาอาเดลก็เฝ้าไม่ห่าง อาการซึมเศร้าของเธอยังคงส่งผลให้อีกคนนิ่งเงียบไม่ค่อยพูดค่อยจา บางครั้งก็น้ำไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ แต่ก็ยังดีที่พยักหน้าตอบรับคำพูดของเขาบ้างอาเดลตักข้าวต้มที่เขาพึ่งป้อนไปได้ไม่กี่คำให้เธออีกครั้ง แต่มือบางดันมือเขาออกห่าง เธอส่ายหัวไปมาปฏิเสธที่จะทานมันต่อ ส่วนเขาก็ส่ายหัวกลับไปเหมือนกันชะเอมพึ่งจะกินเข้าไปได้ไม่กี่คำ เขาคงปล่อยให้อีกคนหยุดกินตอนนี้ไม่ได้ คนป่วยก็ต้องมีสารอาหารเข้าไปบำรุงเยอะหน่อย ในตอนแรกเหมือนคนตัวเล็กจะไม่ยอม แต่พอเขาส่งสายตาดุไปอีกคนก็รับมันเข้าปากแต่โดยดี ถึงจะยังเศร้า แต่ก็ยังคงเป็นชะเอมที่เขารู้จักเป็นอย่างดี"กินอีกสักหน่อย แล้วเฮียจะหยุดป้อน แล้วก็ให้กินองุ่นของโปรดหนูดีไหม?เธอไม่ตอบอะไรออกมาแต่พยักหน้าแทน อาเดลถอนหายใจออกมา ผ่านมาหลายวันแต่เขาก็ยังไม่ได้ยินเสียงพูดจากชะเอมเลยสักคำ เข้าใจว่าคงต้องใช้เวลาให้เธอได้รักษาความเจ็บปวดครั้งนี้ แต่เขาก็เป็นห่วงมากจนแทบไม่เป็นอันทำอะไรแล้วอาเดลเก็บจานอาหารจนเรียบร้อยก่อนจะเช็ดปากให้คนตัวเล็กด้วย เขาส่งแก้วน้ำกับยาให้ ชนะเอมเหมือนจะทำหน้าไม่ชอบใจเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีที่ยอมกิ
"คิดถึงแม่หรอ?"อาเดลเดินมาโอบกอดจากด้านหลังของคนที่ยืนดูรูปกับโกฐกระดูกของแม่นิ่ง ชะเอมสะดุ้งเล็กน้อยในตอนที่หลุดออกจากภวังค์ก่อนจะหันมามองอาเดลแล้วยิ้มให้ ปลายจมูกโด่งหอมแก้มเธอแล้วเอาปลายคางเกยกับไหล่เล็กเอาไว้ชะเอมกลับมาจากการรักษาตัวจากโรงพยาบาลร่วมหลายสัปดาห์แล้ว คนตัวเล็กของเขาดีขึ้นมาก ยอมกินมากขึ้น พูดคุยได้เป็นปกติ แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่พอนึกถึงเรื่องแม่แล้วเธอจะนิ่งไป แล้วก็เป็นเขาเองที่ดึงเธอให้กลับมาจากความโศกเศร้า"อื้ม จนตอนนี้หนูก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ช่วยแม่ไม่ทัน""ไม่เอาสิ ไม่คิดแล้ว แม่ไปสบายแล้วนะ อย่างน้อยท่านก็ไม่ต้องเจ็บปวดอีก"".......""แทนที่จะเศร้าให้แม่เห็น สู้บอกแม่ไปดีกว่าว่าไม่ต้องห่วงหนู เพราะหนูมีเฮียคอยดูแลแล้ว"อาเดลเอ่ยบอกคนในอ้อมกอดแล้วมองไปที่รูปภาพตรงหน้า เขาสัญญาอยู่ในใจและหวังให้แม่ของชะเอมได้รับรู้ ว่าเขาจะดูแลลูกสาวของแม่คนนี้เป็นอย่างดี จะรักเธอให้มากอย่างที่เขาเคยรักมาตลอด และที่สำคัญสุดคือจะไม่ทำให้ชะเอมเสียใจ และไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอได้อีก"เฮียจะดูแลหนูตลอดไปไหม?""ที่ผ่านมายังไม่ทำให้หนูรู้อีกหรอ ว่าเฮียรักหนูแค่ไหน เฮียจะไม่ดูแล
สนามรีลีฟ"อันนี้คู่อันนี้ ส่วนอันนี้....."อาเดลเปิดประตูเข้ามาอย่างเงียบเชียบก่อนจะอมยิ้มมองคนที่กำลังตั้งใจจัดเรียงเอกสารของสนามเขา ชะเอมอาสามาช่วยเขาในช่วงปิดเทอม ช่วงนี้เราอยู่ด้วยกันแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่เขากลับไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด ออกจะชอบซะด้วยซ้ำริมฝีปากเล็กพูดมุบมิบกับตัวเองอย่างน่ารัก ชะเอมคงจะตั้งใจจัดเอกสารมากจนไม่รู้เลยว่าเขาเดินเข้ามา อาเดลเดินเข้าไปหาด้วยความเงียบ เดินให้เบาที่สุดหวังจะแกล้งให้อีกคนตกใจเล่น"หนูได้ยิน...."ชะเอมที่รู้สึกตัวได้ว่าอาเดลกำลังจะแกล้งเธอเลยตั้งหันไปบอกว่าเธอรู้ว่าเขาเดินเข้ามา แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อาเดลก้มหน้าลงมาหาพอดี ปลายจมูกชนกันทั้งดวงตาสบกันนิ่ง เป็นอาเดลที่รั้งท้ายทอยเธอไว้แล้วประกบจูบก่อน เอกสารที่ถืออยู่ในมือหลุดร่วงลงเมื่อเธอลุ่มหลงในจูบเขา รสจูบหวานที่ไม่มีทีท่าจะหยุดลงโดยง่ายยังคงดำเนินต่อ สักพักพออาเดลผละออกเจาก็เอาหน้าผากชนกับหน้าผากของเธอไว้"พอแล้ว"ชะเอมดันอกแกร่งปามคนที่จะจูบเธออีกรอบ อาเดลทำหน้าเสียดายใส่ก่อนจะหอมแก้มเธอแทน ปล่อยให้คนตัวเล็กได้หันไปสนใจเอกสารของตัวเองต่อ"ขยันจัง""เฮียอุตส่าห์ยอมให้มาช่วย ห
อาเดล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของเจ้าสัวอรรถพล เป็นเจ้าของสนามแข่งรถขนาดใหญ่อย่างรีลีฟที่ไม่ใช่แค่ต้องมีเงินเท่านั้นถึงจะเช้าได้ แต่ต้องถูกชะตากับเจ้าของด้วยก็รวยซะขนาดนี้ ไม่ได้มาเดือดร้อนเรื่องเงินถึงขั้นต้องรับค่าเช่าทุกงานหรอก แค่เปิดเอาไว้ให้หมาฉี่ยังมีเงินใช้ไปตลอดทั้งชาติเลย เรื่องที่มาเปิดก็แค่เพราะจะได้มีข้ออ้างออกจากบ้านบ่อยขึ้นก็แค่นั้นแหละหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ดีกรีตัวท็อปคณะวิศวกรรมศาสตร์ ถึงจะอยู่ปีสี่แล้วแต่ความฮอตก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลยสักนิด ดูได้จากดอกไม้กับขนมที่วางอยู่เต็มรถคันหรูของเขาตอนนี้ อยากจะถอนหายใจระบายความเหนื่อยออกมาที่ต้องมายืนเก็บแบบนี้อยู่ทุกวัน ปล่อยให้ติดรถไปได้ที่ไหน อาเดลยังไม่อยากจะดวงถึงคาดโดนเมียฆ่าตายตอนนี้หรอก"ยืนขำอยู่นั่น ช่วยกูเก็บดิ๊""ไอออแกนมึงช่วยมันดิว่ะ ขำอยู่ได้""แหม ว่าแต่กู มึงก็เหมือนกันนั่นแหละไอลีโอ ขำก่อนกูอีกมั้ง""ทั้งคู่! ถ้ากูไปรับเมียกูช้าแล้วโดนด่า กูจะด่าพวกมึงด้วย"ต้องขู่แบบนี้พวกมันถึงจะยอมหยุดหัวเราะแล้วมาช่วย เมียเขาขึ้นชื่อเรื่องด่าอยู่แล้ว ถ้าได้เริ่มทีอย่างกับมีระบบจับคำอัติโนมัติ ไม่ทันได้สำนึกประโยคใหม่ก็ออกม
"หนูก็บอกไปแล้วว่าต้องหาเงินใช้ แล้วเฮียก็ไม่ต้องมาบอกหนูนะว่าเฮียเลี้ยงได้ โอนมาให้หนูเยอะเดี๋ยวแม่เฮียก็มาด่าหนูอีก"อาเดลจะไปเถียงทันได้ยังไง พูดน้ำไหลไฟดับซะจนเขาอ้าปากพูดแทบไม่ทัน เพราะแม่เขาคอยเช็ครายการเดินบัญชีตลอด เหมือนอีกคนจะฝังใจที่เคยโดนแม่เขาต่อว่าเรื่องรับเงินจากเขา ถึงแม้เขาจะไม่ใส่ใจแต่เธอใส่ใจซะจนไม่ยอมให้โอนเงินอีก บางครั้งอาเดลก็เลยได้แต่วางเงินสดปึกใหญ่ไว้ให้ใช้แทนก็ปัญหาแบบแม่ผัวลูกสะใภ้ ชะเอมก็แค่เด็กคนหนึ่งที่บ้านไม่ได้มีฐานะ แม่ของอาเดลก็เลยจงเกลียดจงชังมาตลอด แต่ก็ต้องยอมรับในความหนักแน่น ที่ไม่ว่าจะโดนกดดันเท่าไหร่เราสองคนก็ไม่ปล่อยมือกันเลยสักครั้งพวกเราคบกันมาหนึ่งปีแล้ว ชะเอมก็รับงานแนวนี้มาโดยตลอด แต่แค่รับกินข้าวหรือเที่ยวเป็นเพื่อน ไม่ได้รับเรื่องอย่างว่า บางคนก็คงสงสัยว่าทำไมเขาถึงมั่นใจนักว่าแฟนตัวเองไม่เคยรับงานแนวนั้นมาก่อน ก็เพราะคืนแรกของเรามันเป็นครั้งแรกของเธอเหมือนกันอาเดลยังจำค่ำคืนนั้นได้ดีมาตลอด วันที่ทำให้เขาหลงชะเอมหัวปักหัวปรำจนสุดท้ายก็หนีไปไหนไม่ได้ คนของเขามีคนมาเกาะแกะไม่เว้นวัน แต่ว่าเขาก็ไม่ยอมเสียไปให้ใครหรอก สนามแข่งรีลีฟ"ก
สนามรีลีฟ"อันนี้คู่อันนี้ ส่วนอันนี้....."อาเดลเปิดประตูเข้ามาอย่างเงียบเชียบก่อนจะอมยิ้มมองคนที่กำลังตั้งใจจัดเรียงเอกสารของสนามเขา ชะเอมอาสามาช่วยเขาในช่วงปิดเทอม ช่วงนี้เราอยู่ด้วยกันแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่เขากลับไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด ออกจะชอบซะด้วยซ้ำริมฝีปากเล็กพูดมุบมิบกับตัวเองอย่างน่ารัก ชะเอมคงจะตั้งใจจัดเอกสารมากจนไม่รู้เลยว่าเขาเดินเข้ามา อาเดลเดินเข้าไปหาด้วยความเงียบ เดินให้เบาที่สุดหวังจะแกล้งให้อีกคนตกใจเล่น"หนูได้ยิน...."ชะเอมที่รู้สึกตัวได้ว่าอาเดลกำลังจะแกล้งเธอเลยตั้งหันไปบอกว่าเธอรู้ว่าเขาเดินเข้ามา แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อาเดลก้มหน้าลงมาหาพอดี ปลายจมูกชนกันทั้งดวงตาสบกันนิ่ง เป็นอาเดลที่รั้งท้ายทอยเธอไว้แล้วประกบจูบก่อน เอกสารที่ถืออยู่ในมือหลุดร่วงลงเมื่อเธอลุ่มหลงในจูบเขา รสจูบหวานที่ไม่มีทีท่าจะหยุดลงโดยง่ายยังคงดำเนินต่อ สักพักพออาเดลผละออกเจาก็เอาหน้าผากชนกับหน้าผากของเธอไว้"พอแล้ว"ชะเอมดันอกแกร่งปามคนที่จะจูบเธออีกรอบ อาเดลทำหน้าเสียดายใส่ก่อนจะหอมแก้มเธอแทน ปล่อยให้คนตัวเล็กได้หันไปสนใจเอกสารของตัวเองต่อ"ขยันจัง""เฮียอุตส่าห์ยอมให้มาช่วย ห
"คิดถึงแม่หรอ?"อาเดลเดินมาโอบกอดจากด้านหลังของคนที่ยืนดูรูปกับโกฐกระดูกของแม่นิ่ง ชะเอมสะดุ้งเล็กน้อยในตอนที่หลุดออกจากภวังค์ก่อนจะหันมามองอาเดลแล้วยิ้มให้ ปลายจมูกโด่งหอมแก้มเธอแล้วเอาปลายคางเกยกับไหล่เล็กเอาไว้ชะเอมกลับมาจากการรักษาตัวจากโรงพยาบาลร่วมหลายสัปดาห์แล้ว คนตัวเล็กของเขาดีขึ้นมาก ยอมกินมากขึ้น พูดคุยได้เป็นปกติ แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่พอนึกถึงเรื่องแม่แล้วเธอจะนิ่งไป แล้วก็เป็นเขาเองที่ดึงเธอให้กลับมาจากความโศกเศร้า"อื้ม จนตอนนี้หนูก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ช่วยแม่ไม่ทัน""ไม่เอาสิ ไม่คิดแล้ว แม่ไปสบายแล้วนะ อย่างน้อยท่านก็ไม่ต้องเจ็บปวดอีก"".......""แทนที่จะเศร้าให้แม่เห็น สู้บอกแม่ไปดีกว่าว่าไม่ต้องห่วงหนู เพราะหนูมีเฮียคอยดูแลแล้ว"อาเดลเอ่ยบอกคนในอ้อมกอดแล้วมองไปที่รูปภาพตรงหน้า เขาสัญญาอยู่ในใจและหวังให้แม่ของชะเอมได้รับรู้ ว่าเขาจะดูแลลูกสาวของแม่คนนี้เป็นอย่างดี จะรักเธอให้มากอย่างที่เขาเคยรักมาตลอด และที่สำคัญสุดคือจะไม่ทำให้ชะเอมเสียใจ และไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอได้อีก"เฮียจะดูแลหนูตลอดไปไหม?""ที่ผ่านมายังไม่ทำให้หนูรู้อีกหรอ ว่าเฮียรักหนูแค่ไหน เฮียจะไม่ดูแล
หลังจากชะเอมฟื้นขึ้นมาอาเดลก็เฝ้าไม่ห่าง อาการซึมเศร้าของเธอยังคงส่งผลให้อีกคนนิ่งเงียบไม่ค่อยพูดค่อยจา บางครั้งก็น้ำไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ แต่ก็ยังดีที่พยักหน้าตอบรับคำพูดของเขาบ้างอาเดลตักข้าวต้มที่เขาพึ่งป้อนไปได้ไม่กี่คำให้เธออีกครั้ง แต่มือบางดันมือเขาออกห่าง เธอส่ายหัวไปมาปฏิเสธที่จะทานมันต่อ ส่วนเขาก็ส่ายหัวกลับไปเหมือนกันชะเอมพึ่งจะกินเข้าไปได้ไม่กี่คำ เขาคงปล่อยให้อีกคนหยุดกินตอนนี้ไม่ได้ คนป่วยก็ต้องมีสารอาหารเข้าไปบำรุงเยอะหน่อย ในตอนแรกเหมือนคนตัวเล็กจะไม่ยอม แต่พอเขาส่งสายตาดุไปอีกคนก็รับมันเข้าปากแต่โดยดี ถึงจะยังเศร้า แต่ก็ยังคงเป็นชะเอมที่เขารู้จักเป็นอย่างดี"กินอีกสักหน่อย แล้วเฮียจะหยุดป้อน แล้วก็ให้กินองุ่นของโปรดหนูดีไหม?เธอไม่ตอบอะไรออกมาแต่พยักหน้าแทน อาเดลถอนหายใจออกมา ผ่านมาหลายวันแต่เขาก็ยังไม่ได้ยินเสียงพูดจากชะเอมเลยสักคำ เข้าใจว่าคงต้องใช้เวลาให้เธอได้รักษาความเจ็บปวดครั้งนี้ แต่เขาก็เป็นห่วงมากจนแทบไม่เป็นอันทำอะไรแล้วอาเดลเก็บจานอาหารจนเรียบร้อยก่อนจะเช็ดปากให้คนตัวเล็กด้วย เขาส่งแก้วน้ำกับยาให้ ชนะเอมเหมือนจะทำหน้าไม่ชอบใจเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีที่ยอมกิ
"เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมหนูไม่บอกเฮียแต่แรกนะ"อาเดลยืนกอบกุมมือชะเอมที่นอนอยู่บนเตียงเอาไว้ เขาได้เอ่ยถามแผ่วเบาทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ได้ยินในตอนที่ฟังคิรินเล่าให้ฟังถึงสาเหตุการจากไปของแม่ชะเอมจบ ทั้งที่แค่บอกเขาทุกอย่างก็จะถูกจัดการได้ทันทีแท้ๆ แต่คนตัวเล็กกลับไม่ยอมเอ่ยปากเลยสักคำ"มึงอย่าโทษตัวเองเลย ไม่ใช่ความผิดมึงหรอก""กูจะหยุดโทษตัวเองได้ยังไง มึงดูสภาพเมียกูตอนนี้สิ"เขาไม่อาจเลิกโทษตัวเองได้อย่างที่ออแกนบอก ยิ่งมองเห็นรอยฟกช้ำตามตัว ไหนจะอาการซูบผอมลงของอีกคนก็ยิ่งรู้สึกเจ็บในใจ มากไปกว่านั้นแผลในใจของชะเอมก็น่าจะหนักหนาพอสมควร "คิรินว่าเอมก็คงไม่อยากให้เฮียโทษตัวเองเหมือนกันนะคะ""เฮียอยากรู้..ว่าทำไมเอมถึงไม่แสดงอาการอะไรเลย ถึงจะไม่บอกเฮียเรื่องแม่ป่วย แต่ก็น่าจะมีอะไรที่ทำให้เฮียสงสัยบ้างสิ""คือว่า""พูดมาเถอะครับ อย่าปล่อยให้เฮียโง่อยู่แบบนี้เลย"เพราะเห็นว่าคิรินอึกอักไม่กล้าพูดเขาเลยต้องเอ่ยราวกับร้องขอออกไป "คือว่าแม่เฮียขู่เอาไว้""แม่เฮีย?""กูว่าแล้วเชียว ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับแม่มึง"ลีโอที่นั่งอยู่ตรงโซฟาข้างออแกนตบเข่าพูดขึ้น คิดเอาไว้อยู่แล้วเชียวว่าต้นสาย
โรงพยาบาล"อย่างน้อยวันนี้ก็จะมีเรื่องดีเกิดขึ้น ยิ้มหน่อยสิชะเอม"เธอหยุดยืนพูดกับตัวเองอยู่หน้าโรงพยาบาลที่แม่พักรักษาตัว คุณหมอโทรไปบอกเธอเมื่อวานว่าหาหัวใจที่เขากับแม่เธอได้แล้ว และเธอเองก็มีเงินพอจะรักษา ถึงจะผ่านมาไม่รู้กี่เรื่องราว แต่อย่างน้อยก็กำลังจะช่วยชีวิตแม่ไว้ได้พยักหน้ากับตัวเองแล้วพยายามยิ้ม อย่างน้อยแม่จะได้สบายใจในตอนที่เห็นหน้าเธอ ชะเอมก้าวเดินเข้าไปอย่างละทิ้งทุกความเศร้า เดินมาถึงหน้าห้องผูู้ป่วยรวมก็เห็นพยาบาลยืนล้อมอยู่ที่เตียงแม่หลายคนเธอเผยรอยยิ้มออกมาเพราะคิดว่าแม่คงจะกำลังได้ส่งตัวเข้าห้องผ่าตัด แต่ยิ่งใกล้ขึ้นใจดวงน้อยก็ยิ่งรู้สึกเจ็บ ส่ายหัวอย่างไม่เชื่อในตอนที่เห็นเต็มตาว่าบนเตียงนั้นเป็นแม่ที่นอนแน่นิ่งแล้วพยาบาลกำลังจะดึงผ้าขึ้นคลุม"กะ เกิดอะไรขึ้นคะ?""ลูกสาวคนไข้มาพอดี หมอเสียใจด้วยนะครับ เราช้าไป คนไข้เสียชีวิตแล้วครับ"เหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงมา สมองรู้สึกปวดหนึบราวกับโดนอะไรทุบเข้ามาเต็มแรง ของเยี่ยมไข้ในมือหลุดร่วงลงเต็มพื้น ก่อนเธอจะรุดเข้าไปหาร่างของผู้เป็นแม่แล้วร้องไห้โฮ เสียงสะอื้นไห้ทั้งเรียกให้คนที่หมดลมหายใจฟื้นขึ้นมาทำให้คนไข้กับญาติท
"ทำไมถึงบอกไม่ได้!? ทั้งที่เฮียพยายามจะดูแลหนูอย่างดีที่สุด! ถ้ามีเรื่องเดือร้อนอะไรแล้วไม่บอกเฮีย หนูจะมีเฮียไปทำไม!"อาเดลโมโหจนไม่สามารถคุมคำพูดของตัวเองได้อีก ทั้งที่เขาอยากจะดูแเธอให้ดี ให้เธอได้ทุกสิ่งที่เธอต้องการ แต่เธอดันทำเหมือนกับว่าเขาไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย ขอเพียงแค่เธอบอกเขาสักคำว่าต้องการอะไร ไม่มีทางเลยที่เขาจะไม่ให้ แต่ชะเอมเลือกที่จะไม่บอกอะไรเขาเลยสักอย่าง ปล่อยให้เขาอยู่แบบไม่รับรู้ เป็นคนโง่ที่ถูกเธอหลอกแล้วผิดสัญญาต่อกันอยู่ซ้ำๆ"........""รู้ป่ะ ว่าแม่งโคตรเหมือนว่าเฮียดูแลหนูไม่ได้ จนหนูต้องไปทำงานบ้าๆ นี่เพื่อหาเงินใช้อ่ะ"ที่ผ่านมาเขาใช้ความอดทนมากเท่าไหร่เธอคงไม่รู้ ในตอนที่ได้ยินใครต่อใครพูดถึงงานนี้ แม้จะในตอนที่ตกลงกันแล้วว่าให้เธอเลิกรับเขาก็ยังได้ยินมันอยู่เสมอแต่เขาก็ยังเป็นอาเดลที่รักเธอจนสุดหัวใจ ยอมทำปิดหูปิดตาไม่รับรู้ จนกระทั่งรับไม่ไหวถึงได้เลือกที่จะคุยกับเธอตามตรง ให้โอกาสเธอสัญญากันอีกครั้ง แต่เธอก็ไม่คิดจะรักษาโอกาสนั้นเลย"มันไม่ใช่แบบนั้นนะ ฮึก เฮียดูแลหนูดีมาก ฮึก หนูขอโทษ จะไม่ทำอีกแล้ว""จำได้ไหมว่าเฮียเคยพูดกับหนู ว่าโอกาสครั้งที
"ทำไมพี่สกายถึงมาอยู่ที่นี่ด้วย!?"ชะเอมร้องดังลั่น หลังจากที่เธอนั่งดื่มเป็นเพื่อนบอสตันอยู่ตามข้อตกลงก็มีใครบางคนเดินเข้ามา พอเห็นหน้าว่าเป็นสกายก็รีบโวยวายในทันที รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย ต้องเกิดเรื่องแน่นอนชะเอมเอ๊ย"อย่าตกใจไปสิครับน้องชะเอม พี่ก็เห็นว่าเพื่อนพี่จ้างเราแพง เลยมาแจมด้วยสักหน่อย""อย่ามาแตะตัวฉันนะ!"เธอสะบัดมือที่ยื่นมาจับไหล่ออกไปแล้วลุกขึ้นหนี แต่กลับถูกบอสตันรั้งให้ลงมานั่งอย่างเก่าแล้วกอดเอวเธอไว้ ชะเอมพยายามดันออกไปต้องก็ไม่เป็นผล เธอในตอนนี้ที่ทั้งสกายและบอสตันประกบเอาไว้ ไม่มีทางที่จะหนีออกไปได้เลย"ยังจะหวงตัวอยู่อีก ต้องการเงินไม่ใช่หรอ ถ้าทำให้พี่พอใจได้ พี่จะเพิ่มให้""ทะ ทำอะไร?""เวลาเอาใจไอเดลมันน้องชะเอมทำยังไงละครับ พี่ก็อยากได้แบบนั้นแหละ"เธอถูกดันให้นอนล้มลงบนตัวของบอสตัน ขาสองข้างถูกสกายยึดเอาไว้ก่อนเขาจะแทรกตัวอยู่ระหว่างกลางกายเธอ ชะเอมพยายามออกแรงดิ้นสุุดแรงแล้วพยายามขอให้เขาปล่อย แต่ก็ไม่มีประโยชน์"ปะ ปล่อยนะ!!! ไอพวกบ้า!""กูขอก่อนก็แล้วกันนะ แล้วมึงค่อยต่อ""ได้เสมอ เดี๋ยวกูช่วยล็อกให้"ตาเธอเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจในตอนที่ได้ยินบทสนท
"วันนี้ไม่ไปเฝ้าเฮียหรอ?"คิรินถามออกมาอย่างแปลกใจมีเห็นเพื่อนมามหาลัยทั้งที่ควรจะอยู่เฝ้าอาเดลที่โรงพยาบาล เห็นชะเอมเอมถอนหายใจก็ทำให้เธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนตัวเล็กอยากไปเฝ้าอาเดลใจแทบขาด ถึงเธอจะมาเรียนแต่ก็ไม่ได้มีสมาธิเลยสักนิด แต่พอนึกถึงที่ลีโอโทรมาบอกแล้วการที่เธอไม่ไปที่นั่นเลยน่าจะดีกว่า"พี่ลีโอโทรมาบอกว่าแม่เฮียไปเฝ้า แพมแพมก็ไปด้วย ไม่อยากให้เกิดเรื่องอ่ะ เอาไว้ค่อยไปดีกว่า""เฮียยังไม่ฟื้นหรอ?""เห็นพี่ลีโอบอกฟื้นแล้วเมื่อช่วงเที่ยง แย่จังเลยอ่ะ ทั้งที่เฮียควรจะตื่นมาเจอเอมคนแรกแท้ๆ"คิรินลูบหลังเพื่อนด้วยความเข้าใจ คิดว่าอาเดลเองก็คงจะดีใจถ้าตื่นมาแล้วเห็นชะเอมเป็นคนแรกเหมือนกัน แต่จะให้ทำยังไงได้"เฮียคงเข้าใจแหละ ปกติก็รู้นี่ว่าเอมกับคุณนายอิงอรไม่ถูกกันอ่ะ"ชะเอมพยักหน้าก่อนจะก้มลงดูโทรศัพท์ที่มีเสียงแจ้งเตือนดังเพราะกลัวว่าจะเป็นอาเดลที่ติดต่อมา เธอเปิดดูก่อนจะขมวดคิ้วทันที เพราะข้อความมันยาวมากไม่สามารถอ่านจนหมดได้ ถึงจะไม่อยากกดเข้าแชทนี้แล้วแต่ความอยากรู้ดันมีมากกว่าเธอกดเข้าไปดูข้อความนั้นของบอสตัน หลังจากอ่านแล้วทำความเข้าใจแล้ว ใจความสำคัญมันก็มีแค่อยากจ
"สรุปแล้วเฮียรู้เรื่องแล้วใช่ไหม?""รู้มานานแล้ว แต่เฮียไม่พูด"ชะเอมที่ยืนล้างมืออยู่หันไปตอบคำถามเพื่อน สีหน้าคิรินดูตกใจมากจนเธอแทบจะกลั้นขำไว้ไม่ได้ เพื่อนเธอกลัวอาเดลมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถึงแม้เขาจะไม่เคยทำอะไรไม่ดีใส่ แต่ว่าก็แอบน่ากลัวอยู่ดี แค่อาเดลทำหน้าดุนิดหน่อย คิรินก็แทบอยากจะก้มกราบ"ที่พวกเราทำมาทั้งหมด คือโป๊ะมาตลอดเลยหรอเนี่ย""อืม แต่โชคดีนะ ที่เฮียยังหายโกรธ""ก็ไม่เห็นเคยโกรธเอมได้นานสักที เฮียรักเอมซะขนาดนั้นนี่"นิ้วของเพื่อนจิ้มมาที่แก้มเธอแล้วทำหน้าหยอก คิรินชอบแซวแบบนี้เพราะรู้ว่าแก้มเธอจะร้อนเห่อจนขึ้นสี แถมกลั้นยิ้มไว้ไม่ได้อย่างที่กำลังเป็น ชะเอมปัดมือเพื่อนออกไปแล้วมองคาดโทษ"อย่ามาแซวนะ""มาอยู่ที่นี่กันนี่เอง รีบไปกันเถอะ ใกล้ได้เวลา ไอเดลถามหาเอมแล้วอ่ะ"ลีโอเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มแล้วเอ่ยบอก เธอพยักหน้าตอบรับแล้วรีบเดินไปด้วยความเร็ว เพราะไำม่อยากให้อาเดลต้องรอนาน เดี๋ยวสุดหล่อของเธอจะโกรธเอาได้"เฮียย หนูมาแล้ว""หายไปไหนกันมาครับ?""คิรินน่ะสิ พาไปดูหนุ่มมา""ว่าไงนะ!?"อาเดลพูดขึ้นเสียงดัง ทั้งขมวดคิ้วใส่คนตัวเล็กของเขา แล้วก็หันไปมองคิรินอย่างหาคำตอบ เพ