หลิวอี้ชิง ได้แต่งงานกับแม่ทัพโยวหยางเล่อบุรุษในดวงใจของนางอย่างสมหวัง แต่นางก็ไม่คิดมาก่อนว่าหลังจากที่นางเข้ามาเป็นสะใภ้ในจวนโยวแล้วต้องพบเจอกับสิ่งใดบ้าง สามีก็ไปรบแต่เมื่อกลับมาเขากลับพาสตรีอีกคนนั่งบนหลังม้าตัวเดียวกันกับเขากลับมาด้วยกันในวันที่นางอุตส่าห์ออกไปยืนรอรับเขาอย่างแสนจะดีใจที่จะได้พบหน้าสามี และนั่นเป็นฟางเส้นสุดท้าย สำหรับความอดทนอย่างทุกข์ทรมานตลอดสองปีที่ผ่านมาในจวนโยว นางตัดสินใจเขียนหนังสือหย่าให้กับเขาและจากไปทันที……
View Moreหลังจากตื่นขึ้นมาในหลังจากยามซื่อของอีกวันหนึ่ง แม่ทัพหนุ่มก็ค่อยๆ ก้าวลงจากเตียงเพราะฮูหยินของเขายังนอนนิ่งคงเป็นเพราะนางถูกเขาเคี่ยวกรำตั้งแต่เมื่อวานจนถึงครึ่งค่อนคืน นางคงจะเหน็ดเหนื่อยมาก เขาอยากจะให้นางได้นอนพักอีกสักหน่อยก่อน แม้เขานั้นยังไม่ได้อิ่มเอมในตัวของนางเลย แต่ก็สงสารที่นางยังใหม่กับเรื่องเช่นนี้ แต่สามีจะค่อยๆสอนเจ้าเอง แม่ทัพหนุ่มครุ่นคิดแล้วยิ้มน้อยๆอย่างสุขใจ เมื่อมองใบหน้านวลแอร่มนั้น แม้อยากจะจูบแก้มนวลนั่นเหลือเกิน แต่ก็อดใจเอาไว้ แล้วก้าวเดินไปที่หลังฉากกั้นเพื่อจะอาบน้ำ ขณะที่เขากำลังก้าวลงไปแช่ตัวในน้ำได้เพียงครู่ก็มีเสียงเคาะประตูด้านนอก เขาจึงได้ลุกขึ้นจากถังน้ำอุ่นนั้น แล้วก้าวออกไปเพื่อหยิบเสื้อคลุมบนราวไม้ข้างถังน้ำขึ้นสวมใส่ แล้วก็เดินออกไปเปิดประตูเพราะเกรงว่าเสียงเคาะจะทำให้คนบนเตียงที่กำลังหลับสบายนั้นตื่น เขาก้าวเท้าอย่างระวังไปที่ประตูแล้วเปิดออกเบา พร้อมกับเดินออกไปจากห้องแล้วปิดประตูลงตามหลังทันทีเขาพบว่าเป็นหมอหลินซิงเหยียนนั่นเองที่มาเคาะประตู นางมีเรื่องอันใดกัน “ ท่านแม่ทัพ ข้านำน้ำแกงบำรุงกำลังมาให้ท่านเจ้าค่ะ เพราะเห็นว่าท่านเหน็ดเหนื่อ
ปากหนาดูดผลอิงเถาอย่างเมามัน ส่วนมือหนาก็เลื่อนลงไปคลำหาจนพบเนินอวบใหญ่เต็มมือของนาง เขาปัดจนกระโปรงตัวยาวของนางพ้นทางไป แล้วเข้าขยำมันอย่างเมามัน แม่ทัพหนุ่มค่อยๆ สอดนิ้วแกร่งเข้าไปแล้วเขี่ยเมล็ดดอกไม้งามนั้นไปมา อี้ชิงครางกระเส่าทันทีอย่างเสียวซ่าน สะโพกอวบของนางโยกน้อยๆ เข้าหามือหนาของเขาทันที จากนั้นอ๋องหนุ่มสอดนิ้วแกร่งเข้าไปค่อยๆจนมันมิดด้าม อี้ชิงกรีดร้องด้วยความเจ็บขึ้นทันที ใบหน้าคมคายจึงประกบจูบนางอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง จากนั้นเมื่อนางเคลิบเคลิ้มเขาก็ค่อยขยับนิ้วแกร่งเข้าสุดออกสุดช้าๆ เพื่อให้นางปรับตัวก่อน แม่ทัพหนุ่มยกยิ้มอย่างพอใจ เขาแน่ใจแล้วว่านางไม่เคยให้ชายใดล่วงเกิน และเขาที่เป็นสามีก็เป็นชายคนแรกของนางแม่ทัพหนุ่มจึงได้ลดความแข็งกร้าวลงจนกลายเป็นอ่อนโยนมากขึ้น เมื่อรู้ว่าเมียรักยังไม่ถึงกับสวมหมวกเขียวให้กับเขา จากนั้นนิ้วแกร่งก็ค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นจนกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรง จนสะโพกอวบกระตุกเกร็งเสร็จสมไปทันที มือหนาเปื้อนน้ำรักของนางจนเต็มมือ นางหอบหายใจรัวเร็วอย่างเหน็ดเหนื่อย แม่ทัพหนุ่มก็ก้มลงไล้เลียร่องอวบนั้นไปมาอย่างเมามัน เขาดูดดึงเมล็ดดอกไม้เล็
“ ข้าจะไปที่ใดก็ไม่เกี่ยวข้องกับท่าน เรายังไม่ได้เป็นสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์ แค่แต่งงานกันและท่านก็ไปออกศึก และข้ามาคิดทบทวนดูแล้ว ว่าข้ากับท่านไม่เหมาะสมกัน ท่านเป็นแม่ทัพใหญ่มีสตรีออกมากมายที่ปรารถนาจะเป็นฮูหยินของท่าน อย่างเช่นเสี่ยวหลานที่มาเฝ้ารอท่านอยู่ที่จวนนี้หลายปีมาแล้ว และยังมีสตรีคนงามที่นั่งม้าตัวเดียวกับท่านมาเมื่อกลางวันอีก ข้าคิดว่าข้าคงไม่เหมาะสมกับท่านเท่าพวกนาง ฉะนัั้น ท่านเขียนหนังสือหย่าให้กับข้า แล้วพรุ่งนี้ข้าจะไปจากที่นี่ทันที " อี้ชิงตัดสินใจเอ่ยถึงสิ่งที่ค้างคาใจของนางทันที ทำให้ใบหน้าบึ้งตึงของแม่ทัพหนุ่มยิ่งบึ้งตึงหนักกว่าเดิมขึ้นไปอีก เขาไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดเช่นนี้จากปากของนาง “ อะไรนะ เจ้าไม่ได้เป็นอะไรกับข้าอย่างนั้นหรือ เราแต่งงานกันแล้ว ผู้คนต่างก็รับรู้ว่าเจ้าคือเมียของข้า ทำไม เจ้าพบบุรุษคนใหม่ที่เจ้าสนใจกว่าข้า ร่ำรวยกว่าข้า จึงอยากจะไปจากข้าใช่หรือไม่ “ แม่ทัพหนุ่มเปิดฉากต่อว่าในสิ่งที่มันอยู่ในใจของเขามานานเช่นกัน เพราะเขานั้นแม้ปากจะบอกว่าไม่เชื่อที่มารดาเขียนจดหมายไปบอกกับเขาว่าอี้ิชิงคบชู้ นางไปมาหาสู่กับคุณชายจางเลี่ยงหลิน ให้เขาร
“ อี้ชิงไปไหนกันท่านแม่ ทำไมนางไม่มารอรับข้า สามีกลับจากชายแดนทั้งทีนางไม่อยู่รอรับเลย เหมือนนางไม่เห็นความสำคัญ ” เขาเอ่ยถามมารดา “ คงจะไปที่ตลาดกระมัง นางไปเปิดร้านขายอาภรณ์ที่ตลาด ได้ยินว่าคุณชายจางก็มีส่วนช่วยนางนะ เห็นว่าออกทุนรอนให้กันด้วย ” แม่ทัพหนุ่มขมวดคิ้ว ทำไมนางต้องทำงาน แค่เพียงช่วยมารดาดูแลจวนแม่ทัพก็พอแล้ว นางเป็นฮูหยินของแม่ทัพ ทำไมต้องทำงานอีก งานในจวนก็ยุ่งมากพอแล้ว เขาสงสัย และคิดว่าจะไปสอบถามพ่อบ้านโยวน่าจะดีกว่ามารดา เขาจึงได้เงียบไป และหันไปสอบถามเรื่องสุขภาพของมารดาขณะที่พากันเดินเข้าไปในจวน มารดาเล่าเรื่องเสี่ยวหลานท่ี่ประสบอุบัติเหตุหกล้มหัวฟาดพื้นกับสาวใช้ของนางในตอนไปเดินที่สวนในตอนกลางคืน แล้วยังไม่ได้หายดี แม้ตอนแรกจะสงสัยอี้ชิง แต่ในเมื่อมาคิดดูอีกทีก็สงสัยว่าเสี่ยวหลานไปทำอะไรดึกดื่น นางเกิดความคิดว่าเสี่ยวหลานน่าจะไปทำร้ายอี้ชิง แล้วถูกตอบโต้กลับอย่างรุนแรง จึงได้หยุดพูดถึงเรื่องสาเหตุที่นางต้องมานอนเจ็บเช่นนี้ไปเสีย แม่ทัพหนุ่่มนั้นไปส่งมารดาที่เรือนของนาง แล้วบอกพ่อบ้านให้จัดการหาที่พักให้กับหมอหลิวแล้ว เขาจึงได้เดินไปอาบน้ำในเรือนของตัวเอง เ
เมื่อศึกเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ส่งจดหมายไปบอกมารดาและอี้ชิงว่าเขาจะกลับไปแล้ว กำลังจะเคลื่อนทัพใหญ่กลับเข้าเมืองหลวงพร้อมกับชัยชนะ หมอหลิวตามติดไปด้วย นางแกล้งหกล้มจนได้รับบาดเจ็บและขึ้นไปนั่งม้าตัวเดียวกับแม่ทัพหนุ่ม เพราะนางขี่ม้าไม่เป็น ขบวนทัพยาตรากลับเข้าเมืองอย่างคึกคักเพราะมีชาวเมืองที่ยืนรอต้อนรับตั้งแต่ปากทางเข้าเมืองอย่างหนาแน่เต็มทั้งสองข้างทาง แม่ทัพหนุ่มขี่ม้านำขบวนทัพเข้ามา โดยมีร่างของสตรีคนหนึ่งนั่งอยู่บนม้าตัวเดียวกับเขาทำให้เป็นที่จับตามองของสตรีไปตลอดสองข้างทาง สตรีเหล่านั้นล้วนส่งสายตาหวานฉ่ำและโบกผ้าเช็ดหน้าในมือให้กับท่านแม่ทัพหนุ่ม บางก็ร้องเรียกนามของเขาไปตลอดเส้นทาง แม่ทัพหนุ่มนั้นมิได้สนใจสิ่งเหล่านั้น เพราะใจของเขานั้นอยู่ที่จวนแล้วในตอนนี้เพราะมันมุ่งไปหาใครบางคนก่อนหน้าที่เจ้าตัวจะย่างกรายเข้ามาในประตูเมืองด้วยซ้ำ แต่เขาจำต้องไปถวายรายงานการรบครั้งนี้ที่ในวังหลวงก่อนเมื่อกองทัพยกทัพกลับมาเพราะชนะศึกแล้ว เขาเร่งขี่ม้าผ่านผู้คนที่มาต้อนรับอย่างเอิกเกริกทั้งสองข้างทาง อี้ชิิงก็ไปยืนรอต้อนรับขบวนทัพที่หน้าตลาดด้วยเพราะขณะนั้นนางอยู่ที่ร้านค้าที่ตลาด
ใบหน้าของฮูหยินโยวยิ่งเข้มขึ้นเพราะความไม่พอใจ ที่เหมือนลูกสะใภ้พูดจาทวงบุญคุณและยังท้าทายให้นางจ่ายค่าใช้จ่ายในจวนนี้อีกด้วย ถึงแม้จะมีเงินที่นางแอบซุกซ่อนเอาไว้ แต่คนที่คมเค็มเช่นฮูหยินโยวก็ไม่ยอมควักออกมาเป็นค่าใช้จ่ายในจวนหรอก นางจะจ่ายเท่าที่เคยจ่ายเท่านั้นแหละ ส่วนใครจะพอใช้หรือไม่นางไม่สนใจ ฮูหยินใหญ่คิดเช่นนั้น “ นังหญิงแพศยา ข้าจะบอกให้หยางเล่อหย่ากับเจ้าทันทีที่เขากลับมาจากชายแดน ” อี้ชิงยิ้มมุมปาก นางไม่ได้สะดุ้งสะเทือนอะไร ตอนนี้นางเฉยชาไปแล้ว สามีก็ไม่ได้อยู่ที่จวน และนางก็ไม่เคยได้รับการเลี้ยงดูอะไรจากพวกเขา นางจ่ายเงินของตัวเองทุกอีแปะตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่แถมยังช่วยค่าใช้จ่ายในจวนไปตั้งมากอีกด้วย นางคิดว่านางทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว หลังจากนี้หากสามีและแม่สามีไม่เห็นความดีของนางก็แล้วไป นางไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว “ ก็แล้วแต่ท่านแม่นะเจ้าคะ ข้าไม่มีปัญหาใด ถ้าท่านพี่เชื่อท่านแม่ ยอมเขียนหนังสือหย่าให้กับข้า ข้าก็ยินดีไปจากที่นี่ แต่ข้ากับท่านแม่ท่านพี่จะเชื่อใครข้าก็ยังสงสัยนะเจ้าคะ หากท่านแม่ไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ข้ามีงานที่รออยู่มากมายที่ต้องทำให้แ
ทั้งสามช่วยกันจัดท่าทางของทั้งสองให้เหมือนกับลื่นล้มหัวฟาดไปเอง แล้วจึงได้แยกย้ายกันไป จำเป็นต้องสั่งสอนคนชั่วเช่นนี้ให้สำนึกเสียบ้าง แต่พวกนางก็ยังไม่ถึงตาย “ ต่อไปเราคงต้องระวังตัวนะเจ้าคะ ตีงูให้หลังหักเช่นนี้ไม่รู้ว่ามันจะแว้งกัดเราหรือไม่ ” ชุ่ยเอ๋อพูดกับนายหญิงของตนเองเบาๆ ขณะที่เดินมาถึงหน้าเรือนของตนเองแล้ว “ ก็ต้องระวังตัวกันไปก่อน ยังไม่แน่ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ” แล้วทั้งสองก็กลับเช้าเรือนของตนเองไป จนกระทั่งรุ่งเช้าวันต่อมา ข่่าวของเสี่ยวหลานและสาวใช้ของนางที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องนอนเจ็บป่วยอยู่แต่ในเรือนเพราะยังไม่สามารถเดินได้ ฮูหยินใหญ่ให้พ่อบ้านโยวไปตามหมอมารักษาพวกนาง และเขาก็รายงานฮูหยินใหญ่ว่าสองนายบ่าวคงจะออกมาดูฮูหยินน้อยที่ถูกลงโทษแต่มันคงจะเป็นเพราะความมืดจึงได้สะดุดหินล้มลงจนได้รับบาดเจ็บทั้งนายทั้งบ่าวแต่เมื่อนอนอยู่ในสวนทั้งคืนจึงทำให้เกิดจับไข้ขึ้นมาอีกด้วย ท่านหมอตรวจอาการแล้วก็ให้นอนพักรักษาตัวและกินยาที่เขาจัดเอาไว้ให้จนกว่าอาการจะดีขึ้น ทั้งสองมีบาดแผลฉกรรจ์ไม่น้อย ท่านหมอได้ทำแผลให้กับพวกเขาแล้ว จึงได้ลากลับไปด้านอี้ชิงก็ไม่ได้รู้สึกอะไรท
“ ท่านป้าเจ้าค่ะ ดูเหมือนว่าแผนที่เราวางไว้ให้มันถอดใจเพราะทิ้งภาระค่าใช้จ่ายไว้ให้มันทั้งหมดจะไม่เป็นผลนะเจ้าคะ กลับกลายเป็นว่ามันรับมือได้ดีและมีแต่คนสรรเสริญมันเสียอีกที่มีน้ำใจเจ้าค่ะ เราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ ” เสี่ยวหลานหันไปปรึกษากับท่านป้าของนางที่นั่งจิบช้าเงียบอยู่ “ หรือว่าท่านป้าเปลี่ยนใจยอมรับมันเป็นสะใภ้แล้วเจ้าค่ะ อีกไม่นานท่านพี่กลับมาก็คงจะเป็นครอบครัวสุขสนต์ที่คงจะไม่มีข้าอยู่ในนั้น ” เสี่ยวหลานเอ่ยขึ้นอย่างน้อยใจที่ท่านป้าเหมือนนิ่งเฉยปล่อยให้มันทำความดีจนบ่าวไพร่ในจวนต่างยอมรับมันกันแล้ว “ ไม่ได้นิ่งเฉยแต่ป้าก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ” ฮูหยินใหญ่ที่นึกไม่ออกจริงๆ เพราะความจริงแม้นางไม่ชอบสะใภ้คนนี้ที่ไม่สามารถเป็นหน้าเป็นตาให้ตระกูลแม่ทัพอย่างตระกูลโยวได้ แต่นางก็ไม่ได้ร้ายจนต้องถึงกับคิดแผนชั่วร้ายไปกว่านี้เพื่อกำจัดสะใภ้ที่ไม่ต้องการ เมื่อเสี่ยวหลานเห็นท่านป้าของนางเหมือนเฉยชาไป นางก็จึงได้แต่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป จนวันหนึ่งนางให้สาวใช้ที่ทำงานในเรือนของท่านป้าไปบอกอี้ชิงว่าให้มาไหว้บรรพชนที่ศาลบรรพชนในตระกูล เพราะตั้งแต่แต่งเข้ามานางยังไม่ได้มาไห
เมื่อช่วยกันขนข้าวของเข้าไปในเรือนที่จะใช้ทำเป็นโรงงานขนาดย่อมในจวนแม่ทัพนี้แล้ว อี้ชิงก็เริ่มต้นแบ่งหน้าที่ให้สาวใช้แต่ละคนและช่วยกันกับชุ่ยเอ๋อช่วยสอนงานพวกนาง รวมถึงบ่าวชายสองคนนั้นด้วย นางให้บ่าวชายดึงผ้าออกจากม้วนผ้าขนาดใหญ่แล้วพับทบกันให้มีหลายชั้นแล้วก็ค่อยๆตัดตามแนวที่ชุ่ยเอ๋อทำเครื่องหมายไว้ให้ ชุ่ยเอ๋อรอดูจนบ่าวชายทั้งสองทำงานได้อย่างดีแล้วและพวกเขาเข้าใจในสิ่งที่นางสอนดีแล้ว จึงได้ปล่อยมือ หลังจากนั้นก็มาสอนพวกสาวใช้ถึงขั้นตอนในการตัดผ้าเป็นชิ้นส่วนแต่ละชิ้นที่มีแบบที่ทำจากกระดาษที่นางกับคุณหนูช่วยกันตัดเมื่อคืนเอาไว้แล้วบ้างแล้ว และได้มาถึงสี่ห้าแบบด้วยกัน แล้วจึงได้สาวใช้ช่วยกันทาบผ้าที่ทบเป็นหลายชั้นแล้วกับกระดาษที่เป็นแบบชิ้นส่วนอาภรณ์ แล้วจึงลงมือตัดให้เป็นชิ้นส่วนที่จะนำมาเย็บประกอบกันเป็นอาภรณ์ตามแบบที่อี้ชิงต้องการสาวใช้ต่างช่วยกันตัดผ้าเป็นชิ้นหลายขนาดแล้วต่อมาก็มาสอนแผนกเย็บซึ่งอี้ชิงก็ลงมือสอนด้วยตัวเอง เมื่อสอนจนพวกนางเย็บได้ดีแล้ว ก็ส่งต่อให้กับคนที่มีหน้าที่ทำขั้นตอนต่อไป ส่งกันเป็นทอดๆเช่นนี้ โดยมีชุ่ยเอ๋อคอยช่วยอี้ชิงตรวจสอบงานแต่ละขั้นตอนว่าพวกเขาทำงานได
หลิวอี้ชิงนั่งอยู่ในเรือนหอของนางกับแม่ทัพโยวหยางเล่อเพียงลำพัง เพราะสามีที่เพิ่งแต่งงานกันนั้น เขาออกเดินไปทางไปชายแดนทันทีเพราะมีภารกิจด่วน มีคำสั่งให้กองทัพโดยการนำของเขาออกไปรบที่ชายแดนเป็นการด่วนเพราะมีข้าศึกเข้ามาประชิดอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อเสร็จพิธีแต่งอย่างรวบรัดแล้ว เขาก็เปลี่ยนจากชุดเจ้าบ่าวเป็นชุดเครื่องแบบแม่ทัพแล้วร่ำลามารดาของเขาที่เหลือเพียงคนเดียว ส่วนบิดานั้นได้เสียชีวิตไปในสนามรบหลายปีมาแล้ว และเขาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งแม่ทัพต่อจากบิดาของตนเอง วันนี้เขาเพิ่งดีใจที่ได้สมรักกับหญิงงามที่เขาเองก็มีใจให้นางไม่น้อย หลังจากเพียงแค่ได้พบหน้ากัน หลังจากนั้นไปมาหาสู่กันอยู่หลายครั้งจนมาถึงวันหมั้นหมายและจัดพิธีแต่งงานรับนางเป็นฮูหยินของเขาแล้ว ยัังไม่มีโอกาสจะได้เข้าหอด้วยซ้ำ ก็มีราชโองการด่วนมาหาเขาที่จวนแม่ทัพ เพื่อให้เคลื่อนทัพในทันทีเพื่อไปสู้ศีึกที่ชายแดนระหว่างแคว้นชิงกับแคว้นต้าเหนิง หลังจากร่ำลากับท่านแม่ของเขาแล้ว เขาก็จับข้อมือบางของเจ้าสาวของเขาเดินเข้าไปในห้องหอ เมื่อปิดประตูลงแล้ว เขาก็หันมาจับไหล่ของนางเอาไว้ “ อี้ชิง พี่จะต้องไปทำหน้าที่ของแม่ทัพเพื่อบ้า...
Comments