Share

อัคคีธารา
อัคคีธารา
ผู้แต่ง: ปะหนัน

บ่อน...

ตอนที่1

บ่อน...

            “กลับดึกทุกวันเลย ไปไหนมาครับพ่อ” ภูวนนท์ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวเจ้าของธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ถามบิดาด้วยน้ำเสียงแกมต่อว่า

            “พ่อไปหาเพื่อนมา”

 กฤษฎาก้มหน้าก้มตาตอบคำถาม เพราะไม่กล้าสบตาลูกชาย ที่นั่งมือกุมกันมองมาที่เขาอย่างคาดคั้นหาคำตอบ คงไม่มีใครกล้าที่จะตอบความจริงที่ว่าเขาไปบ่อนมา

            ตั้งแต่อภิรดีแม่ของภูวนนท์ล้มป่วยจนถึงขั้นนอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กฤษฎาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะป้อนข้าว เช็ดตัว คอยพลิกตัวทุกครึ่งชั่วโมง จนเขาเริ่มเข้าสู่สภาวะโรคซึมเศร้า แพทย์แนะนำให้เขาหากิจกรรมทำบ้างเพื่อผ่อนคลาย เพื่อนเลยชวนเขาเข้าบ่อน และมันก็ช่วยเขาได้จริงๆ แต่กฤษฎามีสติรู้ตัวเสมอว่ากำลังทำอะไร เขาไม่ปล่อยตัวเองให้ติดการพนัน และเวลาที่เขาไปบ่อนคือเวลาที่ภรรยาของเขาจะหลับเพราะฤทธิ์ของยา มีพยาบาลคอยช่วยดูแลช่วงนั้น ส่วนช่วงเวลาที่เหลือเขาดูแลภรรยาด้วยตัวเอง

            “คุณพ่อครับ ถึงแม้วาเราจะจ้างพยาบาลมาดูแลคุณแม่ แต่กำลังใจที่สำคัญมาจากคนที่คุณแม่รักนะครับ” ภูพูดความรู้สึกที่เก็บกักไว้ในใจ ตั้งแต่วันที่พ่อจ้างพยาบาลมาดูแลแม่ เขาเฝ้าสังเกตว่าพ่อออกและกลับบ้านในเวลานี้เสมอ

            “ภู ทุกวันนี้พ่อไม่ได้ทำงานอะไร หลายเดือนมานี้พ่ออยู่ดูแลแม่ของแกตลอดเวลา ช่วงนี้พ่อแค่อยากพักผ่อนจิตใจพ่อบ้าง แกคิดว่าพ่อไม่สนใจแม่แกงั้นรึ”

น้ำเสียงที่ราบเรียบแต่ดูจริงจัง มันออกมาความจากรู้สึกของคนที่หัวใจเหี่ยวเฉา แววตาที่อ่อนล้า มันไม่มีน้ำตาสักหยด เพราะเขาร้องไห้กับตัวเองมามากพอแล้ว นับตั้งแต่คนที่เขารักที่สุดล้มป่วย

            “ผมแค่ไม่อยากให้คุณพ่อ ปล่อยแม่ให้อยู่คนเดียว”

            “ภูเอ๋ย...คนเราป่วยได้ด้วยหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นก็คือหัวใจที่อ่อนแอ พ่อแค่ขอออกไปสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง ก่อนที่แกจะเห็นพ่อล้มป่วยไปอีกคน”

            นานแล้วที่ภูวนนท์ไม่ค่อยได้มองใบหน้าเต็มๆ ของผู้เป็นพ่อ เพราะตัวเขาเองก็ยุ่งกับการรับช่วงธุรกิจต่อจากบิดา ใบหน้าที่ขาวชมพู กลมอิ่ม จนดูคล้ายซาลาเปา แม่ชอบพูดถึงหน้าพ่อแบบนั้นอยู่บ่อยๆ บัดนี้ใบหน้าที่เคยมีเนื้อ กับตอบ โหนกแก้มสูงขึ้น แววตาเริ่มไร้ความรู้สึก เขาได้แต่ถามตัวเอง นี่เขาทำงานจนลืมดูแลพ่อไปหรือเปล่า

            “ไปไหนมาคะ ฉันตื่นได้สักพักแล้วไม่เห็นคุณ”

อภิรดีโอบกอดสามีด้วยความคิดถึงที่ตื่นมาแล้วไม่เจอหน้า หล่อนนอนบนเตียงเฉยๆแบบนี้มาหลายเดือนขยับได้เพียงเล็กน้อย เพราะเหนื่อยและไอเกือบตลอดเวลา พอจะมีแรงพูดสักหน่อยก็หลังจากตื่นนอน แต่ก็แค่เพียงไม่กี่ประโยค

            “ผมออกไปหาซื้อนิยายและหนังสือธรรมมะ มาอ่านให้คุณฟังคืนนี้”

กฤษฎาจะอ่านหนังสือนิยายให้หล่อนฟังทุกกลางวันหลังจากที่หล่อนกินยาเพื่อให้หลับ ส่วนหนังสือธรรมะเขาจะอ่านช่วงก่อนนอนในเวลากลางคืน เขาทำแบบนี้ในทุกๆ วันและทุกๆ คืนเสมอต้นเสมอปลาย จนหนังสือเต็มตู้ไปหมด

            กิจวัตรประจำวันของครอบครัวนี้ดำเนินไปตามปกติอย่างเคร่งครัด เวลาผ่อนคลายของผู้ชายที่ถูกโรคซึมเศร้าคุกคามมีเพียงแค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงในบ่อนกลางกรุง

            “สวัสดีครับเจ้าสัว” ผู้จัดการบ่อนกล่าวทักทาย

            “อย่าทำฉันเลยนะ ขอร้อง อาทิตย์หน้าฉันจะหาเงินมาใช้เจ้านายแกให้ได้” เสียงผู้หญิงตะโกนดังมาจากห้องรับแขกด้านในของบ่อน

            “ข้างในเกิดอะไรขึ้น...” กฤษฎาถามด้วยความตกใจ เพราะเสียงโหวกเหวกนั้นเหมือนคนพูดกำลังต้องการความช่วยเหลือ

            “ไม่มีอะไรหรอกครับเจ้าสัว พวกลูกหนี้เวลาไม่มีเงิน นายเขาก็ใจดีให้ยืม พอถึงกำหนดส่งก็หลบหน้าหลบตา นางนี่ก็เหมือนกัน เวลาได้ก็เริงร่า พอเสียขึ้นมาไม่มีจ่าย ต้องสั่งสอนกันบ้าง จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้คนอื่นเขา”

            ยังไม่ทันที่กฤษฎาจะถามอะไรต่อ เจ้าของเสียงก็กึ่งเดินกึ่งคลานออกมาจากห้องที่ถูกจัดไว้เพื่อรับรองแขกคนสำคัญ ภาพที่กฤษฎาเห็น ทำให้เขาตัดสินใจเข้าไประงับเหตุ ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะโดนพวกคุมบ่อนซ้อมหนักไปกว่านี้

            “นี่! มันอะไรกัน ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้”

เจ้าสัวแห่งตระกูลวชิรชโลธร รู้สึกตกใจกับสิ่งภาพเขาได้เห็น ผู้ชายวัยฉกรรจ์เกือบสิบคน รุมทำร้ายผู้หญิงวัยสี่สิบกว่า หากเขาเอาแต่ยืนดูเฉยๆเขาคงไม่ให้อภัยตัวเองแน่ๆ

            “ไม่มีอะไรหรอกครับ ทางบ่อนเราแค่สั่งสอนลูกหนี้เราให้เข้าใจกฎของการยืมเงิน” ผู้จัดการร้านคนเดิมตอบด้วยใบหน้าอมยิ้ม เหมือนการกระทำที่เกิดขึ้นตรงหน้าเป็นสิ่งที่ปกติสำหรับคนที่นี่

            “เขาติดหนี้นายพวกคุณเท่าไหร่” แววตาที่หวาดกลัวและร่างกายที่บอบช้ำของหญิงวัยกลางคน ทำให้เขาเอ่ยถามอย่างจริงจัง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status