มินรญา รีบควานหาผ้านวมมาคลุมกายแต่เขาก็กระชากผ้านวมผืนใหญ่ที่ดูจะเกะกะมากตอนนี้ ทิ้งลงข้างเตียง และใช้ร่างกายของเขาทับแนบลงบนร่างขาวใสนั้นแทนผ้านวมที่เพิ่งทิ้งลงไป
มือหนาซุกซนบีบเคล้นยอดอกที่ชูชันตอบรับสัมผัส ปากหนาไล่จูบตั้งแต่หน้าผากสวยได้รูป ลงมาหยุดที่ยอดอกชูชัน ปากหนาใช้ลิ้นตวัดรัดเลาะรอบๆยอดชมพูก่อนจะดูดคลึงอย่างผ่อนหนักผ่อนเบา จนมินรญากลั่นเสียงครางไว้ไม่ไหว ร่างใหญ่ซุกไซร้ลงมาถึงจุดสุดท้ายของความเสียวซ่าน เขาพาความเป็นชายของเขา รุกเร้าเข้าสู่ส่วนสงวนของหญิงสาวที่เริ่มบิดเกร็ง
“เจ็บ เจ็บค่ะ” เมื่อร่างกายของทั้งคู่รวมเป็นคนเดียวกันหญิงสาวยังคงหลงเหลือความเจ็บเพราะมันคือครั้งที่สองในชีวิตเธอ
“อย่าเกร็ง ปล่อยตามสบาย อีกนิดนะ เดี๋ยวมันจะค่อยๆดีขึ้น” ภูวนนท์กระซิบตอบพร้อมเล้าโลมเพิ่มอารมณ์ให้สาวน้อยที่กำลังกัดฟันเพราะทั้งเสียวและเจ็บ
ลมแห่งความเสน่หาลุกโชติช่วงจนถึงขีดสุด เสียงครางสุดท้ายของทั้งคู่กรีดเสียงออกมาพร้อมกัน ก่อนพากันขึ้นสวรรค์ชั้นสูงสุด
“ชอบไหม” ร่างหนาหมดแรงปล่อยตัวทับลงบนร่างบางที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง เขากระซิบถามเธอ ว่าชอบไหมในทุกสิ่งที่เพิ่งผ่านพ้นไป
ไร้เสียงตอบ มือบางกอดรัดร่างหนาจากทางด้านหลังแทนคำตอบที่เขาต้องการ เธอเองก็ไม่มีคำตอบให้เขา เพราะมันมีทั้งความสุขและคราบน้ำตา ความสุขกับความไร้ค่ามันกำลังแย่งกันในหัวใจของคนที่รู้สึกผิดต่อมารดา ผิดต่อทุกคนที่รักเธอ
เมื่อพายุแห่งอารมณ์ดับลง ภูวนนท์ก็หลับใหลอยู่บนตัวของมินรญา หญิงสาวเมื่อเห็นว่าเขาหลับสนิทแล้ว เธอก็ค่อยๆขยับเอาตัวเองออกจากการถูกพันธการไว้ด้วยตัวทั้งตัวของเขา
เสียงฝักบัวที่ถูกเปิดจนสุดเพื่อหวังว่าจะช่วยล้างความผิดที่เพิ่งเกิดขึ้นให้หมดไปจากตัวได้ ปลุกให้คนนอนหลับรู้สึกตัว
คราบน้ำตาที่ติดอยู่บนหมอน ทำให้ผู้ที่ข่มเหงรู้สึกผิด แต่เขาก็ไม่อาจจะยับยั้งชั่งใจได้ ไฟปรารถนามันมากเหลือเกิน ภูวนนท์นอนหลับตาฟังเสียงน้ำที่ไม่หยุดไหลจากฝักบัว เธอคงเกลียดเขามาก ชายหนุ่มคิดในใจ มือใหญ่ก่ายหน้าผากครุ่นคิด เขาควรจะหาทางออกให้กับเรื่องนี้อย่างไรดี
เสียงน้ำถูกปิดลง ไม่นานร่างเล็กก็พาตัวเองออกจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่แดงช้ำ ดวงตาที่บวมใหญ่จากการร้องไห้อยู่ในห้องน้ำเกือบชั่วโมง ภูวนนท์แกล้งหลับตาทำท่าเหมือนนอนหลับสนิท เพราะยังไม่พร้อมจะสู้หน้าหญิงสาวตอนนี้
โคมไฟหัวเตียงถูกปิดลง มินรญาล้มตัวลงนอนข้างๆคนที่กำลังหลับใหล โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเขาไม่ได้หลับจริง หญิงสาวเอียงหน้ามองคนที่นอนข้างเธอ เธอสงสัยในความรู้สึกในหัวใจตัวเอง ทำไมเธอไม่โกรธไม่เกลียดเขา แต่ยิ่งเห็นหน้าเธอกับยิ่งรู้สึกไม่อยากไปไหน หรือเธอกำลังรักเขา ไม่ เธอจะรักเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้รักเธอ เขานอนกับเธอเพียงเพราะต้องการแก้แค้นและเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องมือระบายอารมณ์
มินรญาตัดสินใจ ที่จะค่อยๆออกไปจากครอบครัวนี้ ส่วนแม่ของเธอก็คงแล้วแต่ท่าน เพราะที่นี่มีคนที่ท่านรักและเขาก็รักท่าน คิดถึงแม่เมื่อไหร่ค่อยหาเวลามาหา อยู่เมืองไทยสักพักแล้วค่อยหาเหตุผลที่จะกลับไปฝรั่งเศสอีกครั้ง
แสงทองอ่อนสาดมาจากช่องว่างของม่านหน้าต่างห้องนอน ภูวนนท์ลูบมือควานหาคนนอนข้างๆ แต่ตอนนี้มีแต่เพียงที่นอนว่างเปล่า ไร้เงาหญิงสาวเมื่อคืน ทิ้งไว้แต่ชุดนอนของเขาที่เธอถอดทิ้งไว้ เขารู้สึกใจหายแบบบอกไม่ถูก
“พี่มิ้นจะออกไหนแต่เช้าคะ” พราวพลอยร้องทักเพราะเห็นมินรญาอยู่หน้าประตูบ้าน
“เปล่าค่ะ พี่ไปนอนข้างนอกมา เพิ่งกลับ คุณพราวจะไปไหนคะแต่เช้าเลย” นานแล้วที่มินรญาไม่เห็นพราวพลอยตื่นเช้า เพราะส่วนมาเธอจะนอนดึกและตื่นสาย
“พราวจะไปธนาคารค่ะ ไปสายคนเยอะ พราวไปก่อนนะคะ”
ความน่ารัก สดใสของพราวพลอย อดทำให้มินรญาในฐานะผู้หญิงเหมือนกันอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ในเวลานี้เธอคงต้องดูแลทั้งร่างกายและหัวใจตัวเองก่อน
“มิ้นกินข้าวมาหรือยังล่ะลูก และทำไมถึงได้ไปเช่าโรงแรมนอน แม่เป็นห่วง มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” ฟ้ารุ่งสาละวนเตรียมกับข้าวให้ลูกสาวหลังจากตั้งโต๊ะให้กฤษฎาเรียบร้อยแล้ว
“ไม่มีอะไรค่ะแม่ มิ้นคุยเรื่องงานกับทางห้างเรื่องเช่าพื้นที่และรายละเอียดสัญญา กว่าจะเสร็จก็มืดแล้ว จะเดินทางไปมาก็กลัวอันตรายค่ะแม่ มิ้นไม่ค่อยชินกับกรุงเทพเท่าไร แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ”
วันนี้เธอหาเหตุผลมาโกหกแม่ได้ แต่ถาเธอยังอยู่ที่นี่และเขายังบังคับให้เธอต้องไปนอนกับเขาอีก ไม่นานเรื่องนี้ต้องไม่ใช่ความลับแน่ๆ
“แม่คะถ้ามิ้นเริ่มเปิดสาขาเมื่อไหร่ จะขอออกไปเช่าคอนโดอยู่ใกล้กับร้านนะคะ จะได้เดินทางสะดวก กว่าร้านจะปิดก็เกือบเที่ยงคืน เกรงใจเจ้าของบ้าน และก็กลัวต้องเดินทางไปมาจะพักผ่อนไม่พอค่ะแม่”
มิรญาตัดสินใจที่จะเริ่มเกริ่นกับมารดา เพราะวันนี้เธอตั้งใจจะออกจากบ้านก่อนลูกชายเจ้าของบ้านกลับจากทำงาน และคงไปหาเช่าโรงแรมนอน วันนี้เธอมีนัดกับช่างที่จะมาทำร้านที่ทางห้างติดต่อไว้ให้ วันนี้เธอก็จะได้รู้ว่าร้านจะพร้อมเปิดวันไหน
“แม่ไปอยู่ด้วยนะ” ฟ้ารุ่งกลัวลูกจะไม่กล้าอยู่คนเดียวและเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“มิ้นอยู่คนเดียวได้ค่ะ ไว้วันไหนแม่อยากไปนอนกับมิ้น มิ้นจะมารับ ขอเก็บเงินซื้อรถยนต์สักคันก่อนนะคะ”
“แน่ใจนะ” ฟ้ารุ่งไม่มั่นใจว่ามินรญาจะอยู่คนเดียวได้
“แน่ใจค่ะแม่ มิ้นรู้ว่าแม่รักคุณลุงและคุณลุงก็รักคุณแม่ ไม่ต้องห่วงนะคะ มิ้นอยากเห็นแม่มีความสุข”
สองแม่ลูกโอบกอดกันข้างโต๊ะอาหารภายในครัวหลังบ้าน ภูวนนท์ยืนดูผ่านหน้าต่างห้องนอน ภาพที่เห็นมันยิ่งทำให้เขาคิดถึงมารดา และรู้สึกผิดที่ทำร้ายผู้หญิงที่ไม่เคยทำร้ายอะไรเขาเลย แต่เขากับทำลายเธอ
กริ๊ง กริ๊ง
“มิ้นขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะแม่”
“ฮาย..นาธาน คิดถึงพอดี” มินรญาส่งเสียงใสเพราะไม่อยากให้เพื่อนจับได้ว่าเธอกำลังทุกข์
“เราจะเดินทางกลับเมืองไทยวันนี้แล้วนะ ได้ข่าวว่าจะเปิดร้าน จะได้ไปอยู่ช่วย” พ่อของมินรญาขอร้องให้นาธานบินกลับเมืองไทยเพื่อมาช่วยลูกสาวแต่ขอให้นาธานปิดเป็นความลับกลัวเธอจะน้อยที่ไม่เชื่อมั่น
“พ่อบอกให้มาช่วยใช่ไหม” มินรญาสงสัยจึงพูดดักคอ
“เปล่าพ่อยูบอกแค่ว่ากำลังจะเปิดร้าน เราจะกลับมาหาญาติๆและมาเที่ยวด้วย มาอยู่สักพักก็บินกลับ ร้อนอยู่ไม่ได้นาน” นาธานเตรียมคำตอบเอาไว้แล้ว เพราะเขารู้ว่าเพื่อนสาวคนนี้ต้องถามแน่ๆ
“มาก็ดี พาไปซื้อรถยนต์หน่อย ว่าจะขอยืมเงินซื้อรถด้วย ห้ามบอกพ่อนะ ยืมไม่มากหรอก เราพอมีอยู่บ้าง ร้านเปิดได้เงินเดือนเมื่อไหร่จะรีบใช้เลย” มินรญาเอาเงินเก็บที่มีใช้หนี้ให้มารดาหมดแล้ว เงินที่มีตอนนี้คือเงินที่พ่อกับแคโรลีนส่งให้ทุกเดือน
“แล้วเจอกันนะ” มินรญาเชื่อว่าบิดาของเธอต้องเกี่ยวข้องกับการมาของนาธาน แต่ก็รู้สึกดีเหมือนกัน อย่างน้อยนาธานก็เป็นผู้ชาย คงช่วยกันเธอจากภูวนนท์ได้
บทที่14หนีหัวใจตัวเอง “เสร็จภายในสองสัปดาห์แน่นอนครับ” ช่างที่ทางห้างติดต่อให้มาปรับปรุงตกแต่งร้านให้ รับรองว่าอีกสองสัปดาห์สามารถนำสินค้ามาวางขายได้แน่นอน ร้านเสื้อผ้าที่หญิงสาวกำลังจะเปิด เป็นร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่พ่อของเธอเป็นหุ้นส่วนใหญ่ มินรญาเองก็ถือหุ้นอยู่จำนวนหนึ่ง แต่เงินรายได้ พ่อของเธอกับแคโรรีนจัดการเก็บไว้ให้ เพราะรู้จักนิสัยลูกสาว ว่าเป็นใจอ่อน ขี้สงสาร กลัวเธอจะส่งมาให้มารดาหมด เสื้อผ้าที่จะนำมาขายในร้านส่วนหนึ่งก็เป็นการออกแบบของมินรญาเอง เพราะเธอเรียนจบทางนี้มาโดยตรง และเป็นงานที่ถนัดและรักมากด้วย เสร็จจากธุระเรื่องร้าน หญิงสาวก็ตระเวนหาเช่าคอนโดใกล้กับห้างที่เปิดร้าน โชคดีมีคอนโดอยู่หนึ่งห้อง คนเช้าเก่าออกไปเมื่อเดือนที่แล้ว เธอสามารถเข้าอยู่ได้เลย เป็นคอนโดขนาดเล็ก พื้นที่ใช้สอยน้อย ขนาดห้องแค่พอนอนและมีมุมทำคนัวเล็กน้อย ค่าเช่าที่ค่อยข้างถูกและอยู่ใกล้กับร้านของเธอโดยที่ใช้เดินเพียงไม่กี่นาที ทำให้มินรญาตัดสินใจเช่าที่นี่ และจะย้ายมาอยู่ให้เร็วที่สุด ข้าวของเครื่องใช้ของเธอมีไม่มากนัก เพราะเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยไ
ถ้านาธานเป็นผู้หญิงมิรญาจะบังคับให้เขามานอนอยู่กับเธอที่นี่เสียเลย เพราะตอนนี้เธอกำลังต้องการใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อน ยิ่งมาอยู่คนเดียวแบบนี้ หัวใจของเธอมันคิดถึงแต่หน้าขอวภูวนนท์ คิดถึงอ้อมกอด คิดถึงรสรักที่เขามอบให้ แต่อีกใจมันก็คิดถึงคำดูถูกและรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ เธอมันก็แค่ของเล่น“พราววันนี้ไปไหนมาบ้าง เล่าให้พี่ฟังสิ” พี่ชายถามน้องสาวเพราะเธอออกจากบ้านทุกวัน“ไปหาอ่านหนังสือตามร้านหนังสือมาค่ะ” พราวพลอยปดคำโต“นึกว่าแอบไปหาแฟน ถ้ามีแฟนก็พามาแนะนำให้พี่รู้จักบ้างแล้วกัน นี่ก็อีกไม่กี่วันจะเปิดเทอมแล้วเตรียมตัวให้พร้อมนะ อย่ามัวแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ” ภูวนนท์พูดเปิดทางให้น้องสาวเผื่อเธอจะหลุดปากบอกอะไร“ค่ะพี่ชายสุดที่รัก พราวอยู่บ้านก็เหงา พี่ภูไปทำงานมาตอนนี้พี่มิ้นก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น พราวเลยออกไปหาอะไรทำแก้เหงา”“มิ้นไปไหน ทำไมเขาไม่บอกพี่ ทำไมไม่มีใครบอกพี่เลย ” ชายหนุ่มลืมตัวโวยวายเสียงดังกลางโต๊ะอาหาร“น้าต้องขอโทษแทนมิ้นด้วยนะคะ พอดีต้องรีบไปจัดคอนโดเพราะร้านใกล้จะเปิดแล้ว เลยไม่ได้อยู่รอบอกคุณภู ไว้วันหลังน้าจะให้มิ้นเข้ามาบอกลานะคะ” ฟ้ารุ่งขอโทษแทนลูกสาว
บทที่15หวง ห่วง “ห้องเล็กไปไหมมิ้น มีหวังแครลีนมาเห็นเธออยู่ห้องแบบนี้ เรียกเธอกลับฝรั่งเศสแน่นอน” เสร็จจากธุระกับญาติพี่น้อง นาธานก็มาหามินรญาตามสัญญา ห้องเล้กที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยมาก ทำเอาเพื่อนชายรู้สึกไม่เข้าใจ ว่าเจ้าของจะอาศัยอยู่ได้จริงๆเหรอ “อยู่ไปก่อน เราแค่เช่าไม่ได้ซื้อ ไว้ได้เงินเดือนค่อยขยับขยาย” มินรญาให้เหตุผล “โอเค แล้วแต่เธอแล้วกันมิ้น ไป เราไปซื้อเฟอร์กันเถอะ เดี๋ยวไปช้ากว่าเขาจะเอามาส่งอีก” มินรญาชวนให้นาธานมาช่วยเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้าห้อง เพราะเธอเองเลือกของพวกนี้ไม่ค่อยเป็น เลยพาเพื่อนมาดูห้องก่อน “มิ้น ทำแบบนี้จะหนีเขาได้จริงๆใช่ไหม” ระหว่างเดินทางทั้งคู่เริ่มคุยเรื่องระหว่างมินรญากับภูวนนท์ “เราไม่แน่ใจ แต่มันคงดีดว่าการที่เราต้องอยู่ใกล้ๆเขา เราไม่อยากเป็นเครื่องมือระบายอารมณ์ของเขาอีก” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ “มิ้น แน่ใจนะว่าไม่ได้รักนายคนนั้นเข้าแล้ว” นาธานเห็นแววตา น้ำเสียงของเพื่อนที่คบกันมานาน เขาเริ่มไม่แน่ในว่ามินรญาหนีเพราะเกลียดหรือหนีเพราะรัก
แบบนี้ เขาได้แต่กำมือแน่นมองมินรญาด้วยสายตาที่เกี้ยวกราด ทำเอาหญิงสาวหายใจติดๆขัด น้ำตามันไหลออกมาคลอสองตา เธอทั้งกลัวทั้งโกรธกับคำพูดของเขา “วันหลังเราคงได้พบกันอีกนะครับ คุณนาธาน คุณมินรญา” ภูวนนท์พูดทิ้งท้ายเมื่อมินตราลุกขึ้นมาคล้องแขนเขาดึงกลับไปนั่งที่เดิม เพราะกลัวทั้งคู่จะมีเรื่องกันเสียก่อน “พี่ภูคะ มันอะไรกันคะนี่ ผิงกลัวจะมีเรื่องกันจังเลย ตกลงพี่รู้จักหรือเคยทะเลาะกับสองคนนี้มาก่อนเหรอคะ” “กลับกันเถอะผมไม่อยากกินแล้ว กินไม่ลง” ภูวนนท์ไม่ตอบคำถามแต่กลับลุกเดินนำดาราสาวไปรอที่รถที่จอดอยู่ด้านหลังของร้าน “นาธานทำไมพูดกับเขาแบบนั้น” มินรญากล้าละสายตาจากโต๊ะเมื่อร่างหนาที่เธอคุ้นเคยเดินพ้นจากโต๊ะเดินออกไปนอกประตูร้านแล้ว “แบบไหน ที่บอกเป็นแฟนเธอ หรือที่บอกว่าเขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน มิยรญาเธอเปลี่ยนไปมาก จากผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง เก่ง ไม่กลัวใคร แต่วันนี้เธอกลับเป็นมินรญาที่สงบเสงี่ยม มีแต่ความกลัว มิ้นเธอต้องคุยกับตัวเองให้ดี ว่าจริงๆแล้วใจเธอต้องการอะไรกันแน่” นาธานเริ่มแน่ใจ ว่าเพื่อนรักของเขามอบหัวใจใ
บทที่16มันเรียกว่าความรักใช่ไหม “คุณภู คุณมาที่ได้ยังไง”ยังไม่ทันที่มินรญาจะถามจบ ร่างหนาใช้ฝ่ามือที่แข็งแรงดันประตูห้องเข้ามาและกดล็อคห้องทันที “ก็ไม่ได้ยากอะไร สามีจะตามหาภรรยามันเป็นเรื่องง่ายๆ” “คุณภู คุณออกไปที่นี่ห้องฉัน ไม่ใช่บ้านของคุณ คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาโดยที่เจ้าของห้องยังไม่อนุญาต”หญิงสาวเดินมาเกรี้ยวกราดชายหนุ่มที่เดินมานั่งบนโซฟารับแขกตัวใหม่ “สิทธิ์ของความเป็นผัวอย่างไร”ภูวนนท์ทำหน้านิ่งตอบอย่างไม่รู้สึกอะไร “คำก็ผัว สองคำก็ผัว ไอ้ที่นอนกันไม่กี่ครั้ง อย่ามาเรียกตัวเองว่าผัวเลย คุณมันก็แค่ผู้ชายที่ชอบรังแกผู้หญิง ถ้าคุณไม่ออกไป ฉันไปเอง” มือหนาชุดร่างบางที่กำลังหันหลังเพื่อเดินออกนอกห้อง เขาฉุดมือเธออย่างแรงจนตัวแทบปลิว ร่างน้อยตกลงบนตักของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว “มันอยู่ไหน” ผู้บุกรุกส่งเสียงถามคำรามข้างหูคนที่นอนตัวเกร็งอยู่บนตัก “คุณหมายถึงใคร” มินรญาไม่เข้าใจว่า มัน ของเขาคือใคร “ก็ไอ้นาธาน แฟนเธอไง มันอยู่ไหน ผมจะได้บอกมัน ว่าแฟนมันแต่เป็นเมียผม”
“ท้อง” อยู่ดีๆคำว่าท้องก็ผลุดขึ้นในหัวของมินรญา เธอมีอะไรกับเขาถึงสองครั้งโดยไม่ได้ป้องกัน และนี่ก็เกินกำหนดที่ประจำเดือนเธอจะต้องมา “คุณคืนนี้คุณจะไหม...” หญิงสาวกระซิบถามคนข้างๆแบบไม่กล้าพูดตรงๆ “อะไร คุณพูดอะไรมินรญา ผมฟังไม่รู้เรื่อง” เสียงคนถามที่เบาโดนเสียงพ่อค้าแม่ค้าในตลาดกลบเสียงหมด “คืนนี้คุณจะนอนกับฉันไหมคะ” “นอนสิ ก็เราตกลงกันแล้ว หรือคุณจะไล่ให้ผมไปนอนที่อื่น” ภูวนนท์ทำท่าสงสัย “ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้หมายความถึงนอนแบบนั้น” หญิงสาวเริ่มหน้าแดง “อ๋อ..คุณถามทำไม หรือคุณมีอะไรจะทำให้ผมแปลกใจ” ชายหนุ่มก้มหน้าลงมาใกล้ๆคนตัวเล็กกว่าเพื่อหยอกเธอที่กำลังหน้าแดงเพราะเขินอาย “ฉันกลัวท้อง ประจำเดือน็ยังไม่มา ครั้งนี้เราก็ควรจะป้องกัน” หญิงสาวรวบรวมความกล้า เพราะเธอคงไม่กล้าไปซื้อถุงยางอนามัยเองแน่ๆ “เข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมจัดการเอง” ภูวนนท์เอื้อมือมาโอบเอวหญิงสาวเข้ามาเดินใกล้ๆกับเขา ร้านขายยาตั้งอยู่อีกฝั่งของถนน มินรญาเลยขอรออยู่ฝั่งนี้เพราะไม่อยากข้ามไปซื้อกับเขา เธอไม่
ตอนที่1บ่อน... “กลับดึกทุกวันเลย ไปไหนมาครับพ่อ” ภูวนนท์ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวเจ้าของธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ถามบิดาด้วยน้ำเสียงแกมต่อว่า “พ่อไปหาเพื่อนมา” กฤษฎาก้มหน้าก้มตาตอบคำถาม เพราะไม่กล้าสบตาลูกชาย ที่นั่งมือกุมกันมองมาที่เขาอย่างคาดคั้นหาคำตอบ คงไม่มีใครกล้าที่จะตอบความจริงที่ว่าเขาไปบ่อนมา ตั้งแต่อภิรดีแม่ของภูวนนท์ล้มป่วยจนถึงขั้นนอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กฤษฎาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะป้อนข้าว เช็ดตัว คอยพลิกตัวทุกครึ่งชั่วโมง จนเขาเริ่มเข้าสู่สภาวะโรคซึมเศร้า แพทย์แนะนำให้เขาหากิจกรรมทำบ้างเพื่อผ่อนคลาย เพื่อนเลยชวนเขาเข้าบ่อน และมันก็ช่วยเขาได้จริงๆ แต่กฤษฎามีสติรู้ตัวเสมอว่ากำลังทำอะไร เขาไม่ปล่อยตัวเองให้ติดการพนัน และเวลาที่เขาไปบ่อนคือเวลาที่ภรรยาของเขาจะหลับเพราะฤทธิ์ของยา มีพยาบาลคอยช่วยดูแลช่วงนั้น ส่วนช่วงเวลาที่เหลือเขาดูแลภรรยาด้วยตัวเอง “คุณพ่อครับ ถึงแม้วาเราจะจ้างพยาบาลมาดูแลคุณแม่ แต่กำลังใจที่สำคัญมาจากคนที่คุณแม่รักนะครับ” ภูพูดความรู้สึกที่เก็บกักไว้ในใจ ตั้งแต่วันที่พ่อจ้างพยาบาลมาดูแลแม่ เขาเ
“สองล้านครับเจ้าสัว”ผู้จัดการตอบแบบเยาะเย้ย ใคร...จะกล้ามาใช้หนี้ให้ผู้หญิงที่แก่ไม่มีความเต่งตึงสักส่วน และจำนวนเงินก็ไม่ใช่น้อยๆ “พรุ่งนี้ ผมจะเอาเงินมาชดใช้ให้ ปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปซะ หวังว่าคงเชื่อถือในคำพูดของเจ้าสัวคนนี้นะ” สองมือล้วงกระเป๋า อกที่ยืดตรงบ่งบอกให้รู้ว่าเงินจำนวนเท่านี้ ขนหน้าแข้งของเขาไม่ล่วงหรอก “ขอบคุณมากๆ เลยนะคะคุณ...” “ผม...กฤษฎา” เขาส่งมือให้ผู้หญิงที่โดนทำร้ายจนแทบไม่มีแรงพาตัวเองให้ลุกขึ้นได้ สายตาที่ขอบคุณของคนที่อยู่ตรงหน้า สร้างความสุขให้กับคนป่วยโรคซึมเศร้าได้จริงๆ “เราไปคุยกันข้างนอกดีกว่าค่ะ ฉัน...ฟ้ารุ่ง ขอบคุณจากใจอีกครั้ง” หล่อนอยากรู้จักคนที่เอื้อมือ และยอมเสียเงินสองล้านเพื่อช่วยชีวิตหล่อนให้มากกว่านี้ แต่สถานที่แบบนี้คงไม่เหมาะที่จะมานั่งคุยกัน “ดิฉันชื่อ ฟ้ารุ่ง คำอินทร์ งานการก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราว เป็นนายหน้าขายที่ดินบ้างบางครั้งที่มีคนมาให้ช่วย ลูกสาวคอยส่งเงินให้ใช้บ้าง เลยเอาเวลาว่างมาเล่นไพ่ที่บ่อน ตอนแรกก็กะจะสนุกๆ คลายเครียด พอนานไปถึงได้รู้ตัวว่าติดการพนันเข้าไปเ