Share

รักหรือของเล่น(2)

            มินรญา รีบควานหาผ้านวมมาคลุมกายแต่เขาก็กระชากผ้านวมผืนใหญ่ที่ดูจะเกะกะมากตอนนี้ ทิ้งลงข้างเตียง และใช้ร่างกายของเขาทับแนบลงบนร่างขาวใสนั้นแทนผ้านวมที่เพิ่งทิ้งลงไป

            มือหนาซุกซนบีบเคล้นยอดอกที่ชูชันตอบรับสัมผัส ปากหนาไล่จูบตั้งแต่หน้าผากสวยได้รูป ลงมาหยุดที่ยอดอกชูชัน ปากหนาใช้ลิ้นตวัดรัดเลาะรอบๆยอดชมพูก่อนจะดูดคลึงอย่างผ่อนหนักผ่อนเบา จนมินรญากลั่นเสียงครางไว้ไม่ไหว ร่างใหญ่ซุกไซร้ลงมาถึงจุดสุดท้ายของความเสียวซ่าน เขาพาความเป็นชายของเขา รุกเร้าเข้าสู่ส่วนสงวนของหญิงสาวที่เริ่มบิดเกร็ง

            “เจ็บ เจ็บค่ะ” เมื่อร่างกายของทั้งคู่รวมเป็นคนเดียวกันหญิงสาวยังคงหลงเหลือความเจ็บเพราะมันคือครั้งที่สองในชีวิตเธอ

            “อย่าเกร็ง ปล่อยตามสบาย อีกนิดนะ เดี๋ยวมันจะค่อยๆดีขึ้น” ภูวนนท์กระซิบตอบพร้อมเล้าโลมเพิ่มอารมณ์ให้สาวน้อยที่กำลังกัดฟันเพราะทั้งเสียวและเจ็บ

            ลมแห่งความเสน่หาลุกโชติช่วงจนถึงขีดสุด เสียงครางสุดท้ายของทั้งคู่กรีดเสียงออกมาพร้อมกัน ก่อนพากันขึ้นสวรรค์ชั้นสูงสุด

            “ชอบไหม” ร่างหนาหมดแรงปล่อยตัวทับลงบนร่างบางที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง เขากระซิบถามเธอ ว่าชอบไหมในทุกสิ่งที่เพิ่งผ่านพ้นไป

            ไร้เสียงตอบ มือบางกอดรัดร่างหนาจากทางด้านหลังแทนคำตอบที่เขาต้องการ เธอเองก็ไม่มีคำตอบให้เขา เพราะมันมีทั้งความสุขและคราบน้ำตา ความสุขกับความไร้ค่ามันกำลังแย่งกันในหัวใจของคนที่รู้สึกผิดต่อมารดา ผิดต่อทุกคนที่รักเธอ

          เมื่อพายุแห่งอารมณ์ดับลง ภูวนนท์ก็หลับใหลอยู่บนตัวของมินรญา หญิงสาวเมื่อเห็นว่าเขาหลับสนิทแล้ว เธอก็ค่อยๆขยับเอาตัวเองออกจากการถูกพันธการไว้ด้วยตัวทั้งตัวของเขา

            เสียงฝักบัวที่ถูกเปิดจนสุดเพื่อหวังว่าจะช่วยล้างความผิดที่เพิ่งเกิดขึ้นให้หมดไปจากตัวได้ ปลุกให้คนนอนหลับรู้สึกตัว

            คราบน้ำตาที่ติดอยู่บนหมอน ทำให้ผู้ที่ข่มเหงรู้สึกผิด แต่เขาก็ไม่อาจจะยับยั้งชั่งใจได้ ไฟปรารถนามันมากเหลือเกิน ภูวนนท์นอนหลับตาฟังเสียงน้ำที่ไม่หยุดไหลจากฝักบัว เธอคงเกลียดเขามาก ชายหนุ่มคิดในใจ มือใหญ่ก่ายหน้าผากครุ่นคิด เขาควรจะหาทางออกให้กับเรื่องนี้อย่างไรดี

            เสียงน้ำถูกปิดลง ไม่นานร่างเล็กก็พาตัวเองออกจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่แดงช้ำ ดวงตาที่บวมใหญ่จากการร้องไห้อยู่ในห้องน้ำเกือบชั่วโมง ภูวนนท์แกล้งหลับตาทำท่าเหมือนนอนหลับสนิท เพราะยังไม่พร้อมจะสู้หน้าหญิงสาวตอนนี้

            โคมไฟหัวเตียงถูกปิดลง มินรญาล้มตัวลงนอนข้างๆคนที่กำลังหลับใหล โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเขาไม่ได้หลับจริง หญิงสาวเอียงหน้ามองคนที่นอนข้างเธอ เธอสงสัยในความรู้สึกในหัวใจตัวเอง ทำไมเธอไม่โกรธไม่เกลียดเขา แต่ยิ่งเห็นหน้าเธอกับยิ่งรู้สึกไม่อยากไปไหน หรือเธอกำลังรักเขา ไม่ เธอจะรักเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้รักเธอ เขานอนกับเธอเพียงเพราะต้องการแก้แค้นและเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องมือระบายอารมณ์

            มินรญาตัดสินใจ ที่จะค่อยๆออกไปจากครอบครัวนี้ ส่วนแม่ของเธอก็คงแล้วแต่ท่าน เพราะที่นี่มีคนที่ท่านรักและเขาก็รักท่าน คิดถึงแม่เมื่อไหร่ค่อยหาเวลามาหา อยู่เมืองไทยสักพักแล้วค่อยหาเหตุผลที่จะกลับไปฝรั่งเศสอีกครั้ง

แสงทองอ่อนสาดมาจากช่องว่างของม่านหน้าต่างห้องนอน ภูวนนท์ลูบมือควานหาคนนอนข้างๆ แต่ตอนนี้มีแต่เพียงที่นอนว่างเปล่า ไร้เงาหญิงสาวเมื่อคืน ทิ้งไว้แต่ชุดนอนของเขาที่เธอถอดทิ้งไว้ เขารู้สึกใจหายแบบบอกไม่ถูก

“พี่มิ้นจะออกไหนแต่เช้าคะ” พราวพลอยร้องทักเพราะเห็นมินรญาอยู่หน้าประตูบ้าน

“เปล่าค่ะ พี่ไปนอนข้างนอกมา เพิ่งกลับ คุณพราวจะไปไหนคะแต่เช้าเลย” นานแล้วที่มินรญาไม่เห็นพราวพลอยตื่นเช้า เพราะส่วนมาเธอจะนอนดึกและตื่นสาย

“พราวจะไปธนาคารค่ะ ไปสายคนเยอะ พราวไปก่อนนะคะ”

ความน่ารัก สดใสของพราวพลอย อดทำให้มินรญาในฐานะผู้หญิงเหมือนกันอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ในเวลานี้เธอคงต้องดูแลทั้งร่างกายและหัวใจตัวเองก่อน

“มิ้นกินข้าวมาหรือยังล่ะลูก และทำไมถึงได้ไปเช่าโรงแรมนอน แม่เป็นห่วง มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” ฟ้ารุ่งสาละวนเตรียมกับข้าวให้ลูกสาวหลังจากตั้งโต๊ะให้กฤษฎาเรียบร้อยแล้ว

“ไม่มีอะไรค่ะแม่ มิ้นคุยเรื่องงานกับทางห้างเรื่องเช่าพื้นที่และรายละเอียดสัญญา กว่าจะเสร็จก็มืดแล้ว จะเดินทางไปมาก็กลัวอันตรายค่ะแม่ มิ้นไม่ค่อยชินกับกรุงเทพเท่าไร แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ”

วันนี้เธอหาเหตุผลมาโกหกแม่ได้ แต่ถาเธอยังอยู่ที่นี่และเขายังบังคับให้เธอต้องไปนอนกับเขาอีก ไม่นานเรื่องนี้ต้องไม่ใช่ความลับแน่ๆ

“แม่คะถ้ามิ้นเริ่มเปิดสาขาเมื่อไหร่ จะขอออกไปเช่าคอนโดอยู่ใกล้กับร้านนะคะ จะได้เดินทางสะดวก กว่าร้านจะปิดก็เกือบเที่ยงคืน เกรงใจเจ้าของบ้าน และก็กลัวต้องเดินทางไปมาจะพักผ่อนไม่พอค่ะแม่”

มิรญาตัดสินใจที่จะเริ่มเกริ่นกับมารดา เพราะวันนี้เธอตั้งใจจะออกจากบ้านก่อนลูกชายเจ้าของบ้านกลับจากทำงาน และคงไปหาเช่าโรงแรมนอน วันนี้เธอมีนัดกับช่างที่จะมาทำร้านที่ทางห้างติดต่อไว้ให้ วันนี้เธอก็จะได้รู้ว่าร้านจะพร้อมเปิดวันไหน

“แม่ไปอยู่ด้วยนะ” ฟ้ารุ่งกลัวลูกจะไม่กล้าอยู่คนเดียวและเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“มิ้นอยู่คนเดียวได้ค่ะ ไว้วันไหนแม่อยากไปนอนกับมิ้น มิ้นจะมารับ ขอเก็บเงินซื้อรถยนต์สักคันก่อนนะคะ”

“แน่ใจนะ” ฟ้ารุ่งไม่มั่นใจว่ามินรญาจะอยู่คนเดียวได้

“แน่ใจค่ะแม่ มิ้นรู้ว่าแม่รักคุณลุงและคุณลุงก็รักคุณแม่ ไม่ต้องห่วงนะคะ มิ้นอยากเห็นแม่มีความสุข”

สองแม่ลูกโอบกอดกันข้างโต๊ะอาหารภายในครัวหลังบ้าน ภูวนนท์ยืนดูผ่านหน้าต่างห้องนอน ภาพที่เห็นมันยิ่งทำให้เขาคิดถึงมารดา และรู้สึกผิดที่ทำร้ายผู้หญิงที่ไม่เคยทำร้ายอะไรเขาเลย แต่เขากับทำลายเธอ

กริ๊ง กริ๊ง

“มิ้นขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะแม่”

“ฮาย..นาธาน คิดถึงพอดี” มินรญาส่งเสียงใสเพราะไม่อยากให้เพื่อนจับได้ว่าเธอกำลังทุกข์

“เราจะเดินทางกลับเมืองไทยวันนี้แล้วนะ ได้ข่าวว่าจะเปิดร้าน จะได้ไปอยู่ช่วย” พ่อของมินรญาขอร้องให้นาธานบินกลับเมืองไทยเพื่อมาช่วยลูกสาวแต่ขอให้นาธานปิดเป็นความลับกลัวเธอจะน้อยที่ไม่เชื่อมั่น

“พ่อบอกให้มาช่วยใช่ไหม” มินรญาสงสัยจึงพูดดักคอ

“เปล่าพ่อยูบอกแค่ว่ากำลังจะเปิดร้าน เราจะกลับมาหาญาติๆและมาเที่ยวด้วย มาอยู่สักพักก็บินกลับ ร้อนอยู่ไม่ได้นาน” นาธานเตรียมคำตอบเอาไว้แล้ว เพราะเขารู้ว่าเพื่อนสาวคนนี้ต้องถามแน่ๆ

“มาก็ดี พาไปซื้อรถยนต์หน่อย ว่าจะขอยืมเงินซื้อรถด้วย ห้ามบอกพ่อนะ ยืมไม่มากหรอก เราพอมีอยู่บ้าง ร้านเปิดได้เงินเดือนเมื่อไหร่จะรีบใช้เลย” มินรญาเอาเงินเก็บที่มีใช้หนี้ให้มารดาหมดแล้ว เงินที่มีตอนนี้คือเงินที่พ่อกับแคโรลีนส่งให้ทุกเดือน

“แล้วเจอกันนะ” มินรญาเชื่อว่าบิดาของเธอต้องเกี่ยวข้องกับการมาของนาธาน แต่ก็รู้สึกดีเหมือนกัน อย่างน้อยนาธานก็เป็นผู้ชาย คงช่วยกันเธอจากภูวนนท์ได้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status