Share

หนีหัวใจตัวเอง(2)

ถ้านาธานเป็นผู้หญิงมิรญาจะบังคับให้เขามานอนอยู่กับเธอที่นี่เสียเลย เพราะตอนนี้เธอกำลังต้องการใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อน ยิ่งมาอยู่คนเดียวแบบนี้ หัวใจของเธอมันคิดถึงแต่หน้าขอวภูวนนท์ คิดถึงอ้อมกอด คิดถึงรสรักที่เขามอบให้ แต่อีกใจมันก็คิดถึงคำดูถูกและรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ เธอมันก็แค่ของเล่น

“พราววันนี้ไปไหนมาบ้าง เล่าให้พี่ฟังสิ” พี่ชายถามน้องสาวเพราะเธอออกจากบ้านทุกวัน

“ไปหาอ่านหนังสือตามร้านหนังสือมาค่ะ” พราวพลอยปดคำโต

“นึกว่าแอบไปหาแฟน ถ้ามีแฟนก็พามาแนะนำให้พี่รู้จักบ้างแล้วกัน นี่ก็อีกไม่กี่วันจะเปิดเทอมแล้วเตรียมตัวให้พร้อมนะ อย่ามัวแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ” ภูวนนท์พูดเปิดทางให้น้องสาวเผื่อเธอจะหลุดปากบอกอะไร

“ค่ะพี่ชายสุดที่รัก พราวอยู่บ้านก็เหงา พี่ภูไปทำงานมาตอนนี้พี่มิ้นก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น พราวเลยออกไปหาอะไรทำแก้เหงา”

“มิ้นไปไหน ทำไมเขาไม่บอกพี่ ทำไมไม่มีใครบอกพี่เลย ” ชายหนุ่มลืมตัวโวยวายเสียงดังกลางโต๊ะอาหาร

“น้าต้องขอโทษแทนมิ้นด้วยนะคะ พอดีต้องรีบไปจัดคอนโดเพราะร้านใกล้จะเปิดแล้ว เลยไม่ได้อยู่รอบอกคุณภู ไว้วันหลังน้าจะให้มิ้นเข้ามาบอกลานะคะ” ฟ้ารุ่งขอโทษแทนลูกสาว แบบแปลกใจกับการแสดงออกของลูกชายเจ้าของบ้าน

“พี่ภูนี่ก็แปลก พูดอย่างกับไปเป็นอะไรกับพี่มิ้น เขาจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไร ทำไมต้องบอกพี่ด้วยล่ะคะ บอกแค่คุณพ่อก็เพียงพอแล้ว เห็นชอบพูดจาไม่ดีใส่เขา พอเขาไปทำมาเป็นโวยวาย” พราวพลอยตำหนิพี่ชายที่โวยวายกับการไปไม่ลาของมินรญา

“เปิดร้านอะไรครับ” ภูวนนท์ไม่สนใจหรือรู้สึกกับคำตำหนิของน้องสาว ยังคงหันไปถามคำถามต่อ

“หนูมิ้นเข้าเปิดร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังจากฝรั่งเศส” กฤษฎาตอบคำถามลูกชาย

“ทำกับใคร ทำยังไง รู้เรื่องธุรกิจดีแค่ไหน เดี๋ยวก็โดนเขาหลอก มาอยู่เมืองไทยยังไม่ถึงสองเดือน ปีกกล้าขาแข็งใหญ่แล้ว” ความโมโหทำให้ภูวนนท์ไม่ได้สนใจสายตาทุกคู่ที่กำลังจับจ้องเขาด้วยความสงสัย

“พี่ภูไปใหญ่แล้วค่ะ มันเกี่ยวอะไรกับพี่ พี่มิ้นเขาจะทำอะไรมันก็เรื่องของเขา ชอบพี่เขาป่ะนี่ ฮั่นแน่!....” พราวพลอยเรื่มสงสัยในตัวพี่ชาย

“ชอบอะไร ที่โวยวายให้ความสนใจ เพราะลงทุนเปิดร้านแบบนี้ ใช้เงินเป็นล้านแน่ๆ และจะไปเอาเงินมาจากไหน กลัวจะเอาจากพ่อเราล่ะสิ” เมื่อถูกสงสัยชายหนุ่มคิดหาทางออกแก้ตัว

“ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วง พ่อของหนูมิ้นเข้าเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของแบรนด์เสื้อผ้าที่เขาจะเปิดร้าน พ่อเขาขยายสาขาให้ลูกเขาเป็นคนดูแล เผลอๆอนาคตพ่ออาจจะต้องไปพึ่งหนูมิ้นเขาด้วยซ้ำ ถ้าแกยังมัวแต่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ลืมหนูเอยเสียที” ผู้เป็นพ่อแขวะลูกชาย

ภูวนนท์อยากบอกพ่อของเขาเหลือกินว่าตอนนี้ถึงเขาจะยังรักชิดจันทร์อยู่แต่เขาไม่ได้จมปลักกับความรู้สึกเสียใจแล้ว แต่ตอนนี้เขากำลังโมโหที่ไม่รู้ว่ามินรญาไปอยู่ที่ไหน จะถามใครก็ไม่กล้ากลัวเขาจะยิ่งสงสัย เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี นี่เธอตั้งใจจะหลบหน้าเขาใช่ไหม ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังสูญเสียอีกครั้ง

ภูวนนท์คิดขึ้นได้ว่าใกล้กับที่บริษัทของเขา มีบริษัทนักสืบอยู่ น่าจะจ้างสืบไม่อยาก ดีกว่ามาสืบจากคนในบ้าน จะทำให้ทุกคนสงสัยแค่นี้ก็มองเขาแบบจับจ้องทุกคนแล้ว

ก่อนจะเข้าทำงาน ชายหนุ่มแวะที่บริษัทนักสืบ เพื่อจ้างให้เขาตามหาเธอ เขาพยายามหาเฟสบุ๊คของหญิงสาว โชคดีที่เธอใช้ชื่อจริง เลยหาได้ไม่ยาก เขาเอาข้อมูลที่พอมีอันน้อยนิดให้กับนักสืบ พร้อมยอมจ่ายค่าจ้างแพงกว่าปกติถ้าสามารถหาตัวเธอได้เร็วที่สุด

“เอ้า!...เหม ลมอะไรหอบมาถึงนี่ หานหน้าหายตา ไม่ไปบ้านฉันเลยนะ” ภูวนนท์ทั้งดีใจและแปลกใจที่เพื่อนมาหา

“งานยุ่งว่ะ ช่วงนี้กำลังจะทำหอให้นักศึกษาเช่า ก็ว่าจะมาขอยืมวิศวกรของบริษัทนายเอาไปช่วยสักหน่อย เผื่อราคาจะได้ถูกลง” เหมราชใช้น้ำเสียงฟังดูน่าสงสาร

“ไม่เอาๆ ไม่ต้องมาจ่ายอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวเราจัดการให้เป็นเงินพิเศษลูกน้องเราเอง ว่าแต่นายทำกี่ห้องกี่ชั้นล่ะ” ภูวนนท์มีน้ำใจให้เหมราชเสมอ เพราะเขาคือเพื่อนรักกัน

“ชั้นละสิบห้อง สามชั้น”

“ไม่ธรรมดานะเนี่ย สามสิบห้อง เก็บค่าเช่าสบายเลย ไปรวยมาจากไหนไม่บอกกันบ้างเลย” เหมราชเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง การสร้างตึกใหญ่ขนาดสามสิบห้อง ต้องมีงบประมาณหลายล้านอยู่เหมือนกัน ซึ่งเหมราชไม่น่าจะมีถึง สร้างความแปลกใจให้กับภูวนนท์ที่เป็นเพื่อนกันมานาน

“แม่เราขายที่ได้หลายล้าน นายจำที่ดินที่พ่อเราซื้อไว้ที่อยุธยาได้ไหม ที่เราเคยเล่าให้ฟัง เขามาซื้อเหมาเอาไปทำโรงงาน ที่ดินแถวนั้นเลยขายกันได้ราคาสูงเลย แต่บางส่วนเราก็กู้เพิ่มเอานะ เราไม่ได้มีพ่อแม่รวยเหมือนนาย นายโชคดีกว่าเราเยอะ”

บ่อยครั้งที่เหมราชชอบเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับภูวนนท์ ทั้งที่ทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่รักกันมาก เวลาอยู่กับเหมราชภูวนนท์เองไม่เคยทำตัวอวดรวย เพื่อนกินอะไร ใช้ของแบบไหน ภูวนนทืจะพยายามทำให้เหมือนเหมราช เพราะไม่อยากให้เขารู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า

“รวยเพราะพ่อแม่หรือจะสู้รวยเพราะตัวเอง นายเก่งกว่าเราเยอะเหม พ่อเราชมนายตลอด ยังว่าเราเก่งไม่ถึงครึ่งของนายเลย” ภูวนนท์พยายามพูดให้เพื่อนเห็นคุณค่าในตัวเอง

เพียงไม่กี่ชั่วโมงภูวนนท์ก็จัดการหาวิศวกรมือดี ส่งไปช่วยทำงานให้เพื่อน โดยที่เหมราชเองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสักบาท

กริ๊งๆ

เสียงโทรศัพท์จากบริษัทนักสืบโทรเข้ามาแจ้งว่าตอนนี้ได้เบอร์โทรศัพท์ของหยิงสาวที่เขาให้ตามหาแล้ว ส่วนที่อยู่ขอเวลาอีกสักวันสองวัน น่าจะได้ข้อมูล

“สวัสดีครับคุณภรรยา” เมื่อได้เบอร์โทรมา ชายหนุ่มไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว รีบกดเบอร์โทรหาหญิงสาวทันที

“คุณภู คุณเอาเบอร์โทรฉันมาจากไหน” มินรญาจำเสียงได้ทันที

“ไม่สำคัญหรอกว่าผมจะเอาเบอร์โทรคุณมาจากไหน แต่ที่สำคัญ คุณหนีผมใช่ไหม ถึงย้ายออกมาอยู่ข้างนอกแบบนี้” ชายหนุ่มกระฉากเสียงใส่

“หนีอะไร ฉันมาทำงาน จะให้เดินทางค่ำมืดทุกวัน อันตรายแย่ เดี๋ยวนี้ ...คนเลวววว..มันเยอะ” เธอย้ำเสียงประโยคหลัง เพื่อหวังให้คนฟังรู้ตัว

“ถ้าคุณหมายถึงผมที่เลว ผมก็เลวกับคุณคนเดียว”

“ฉันต้องดีใจใช่ไหม” มินรญากระชากเสียงกลับ

“แต่เราตกลงกันแล้ว ว่าคุณจะไปนอนที่บ้านผม เวลาที่ผมต้องการ แล้วคุณออกมาโดยที่ไม่บอกผมสักคำ คุณต้องการให้แม่คุณและทุกคนรู้เรื่องของเราใช่ไหม” เมื่อคิดอะไรไม่ออกชายหนุ่มก็หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาขู่ทุกที

“อยากทำอะไร อยากบอกอะไรใครก็เชิญ ดีเหมือนกันฉันจะได้จับคุณเป็นผัวเป็นตัวเป็นตน มีผัวรวยดีจะตาย คุณก็คิดว่าฉันกับแม่มาเกาะครอบครัวคุณอยู่แล้วนี่ แค่นี้นะคะคุณ...สามี..”

ความจริงแล้วเธอไม่ได้ต้องการอย่างที่พูดออกไป แต่เธอไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เธอกลัวคนอื่นรู้ก็จริงแต่ที่เธอกลัวที่สุดคือกลัวที่หัวใจของเธอจะรักเขามากว่านี้

การเดินออกมาจากบ้านของภูวนนท์ เธอไม่ได้ต้องการหนีเขาแต่เธอต้องการหนีใจตัวเองต่างหาก มันเป็นการหนีที่ยากที่สุด เวลาคงช่วยให้เธอค่อยๆลืมเขา แต่..เขาพยายามตามเธอแบบนี้ หัวใจของเธอมันก็พร้อมจะทรยศตัวเองอยู่ทุกเมื่อ มินรญาอยากหลุดพ้นจากความรู้สึกนี้เสียที

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status