ผู้ใหญ่สองคนมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ สงสัย อยู่ดีๆ วันนี้ชายหนุ่มที่เอาแต่นั่งหน้าขรึม ไม่พูดไม่จาในวงข้าว กลับมาถามหาหญิงสาวที่เขาไม่เคยจะสนใจแถมไม่ค่อยชอบด้วยซ้ำ
“มิ้นเขาจะเปิดห้องเสื้อ เมื่อวานเขาไปดูทำเลมาแล้ว วันนี้เลยตั้งใจจะไปติดต่อทำสัญญา” ฟ้ารุ่งตอบตามที่มินรญาบอกเธอไว้ก่อนออกจากบ้าน
“ถามถึงหนูมิ้นทำไมล่ะ ปกติหน้ายังไม่เห็นอยากจะมอง” กฤษฎาพูดแซวลูกชาย
“ผมก็ถามในฐานะเจ้าของบ้าน มาอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ กลับก็ค่ำมืด เช้าก็รีบออกไป และน้องล่ะครับพ่อ ผมไม่เห็นลงมากินข้าวเลย” คิดถึงเรื่องเมื่อคืน ทำให้ชายหนุ่มนึกถึงสิ่งที่มินรญาบอกกับเขาเมื่อคืน
“นั่นก็อีกคนที่กลับดึก ป่านนี้ยังไม่ตื่นเลย เดี๋ยวสายๆก็คงออกไปไหนอีก” ผู้เป้นพ่อส่ายหัวให้กับลูกสาวที่กำลังเริ่มเป็นวันรุ่นเต็มตัว
“น้องบอกคุณพ่อไหม ว่าที่ออกๆไปทุกวัน ไปไหน ไปกับใคร”
“พ่อเคยถาม ก็บอกไปดูหนัง ไปบ้านเพื่อน ไปเดินเล่นซื้อของ บอกเบื่ออยู่บ้าน นั่น...ลงมาแล้วถามกันเอาเองเลย” พราวพลอยเดินลงมาจากห้องนอนชั้นสองทั้งชุดนอนเพราะยังไม่ได้อาบน้ำ
“นินทาอะไรพราวอยู่คะ” พราวพลอยลากเก้าอี้มานั่งข้างบิดากอดแขนอย่างออดอ้อน
ฟ้ารุ่งค่อยๆลุกออกจาโต๊ะอาหาร เพราะนานๆที จะเห็นพ่อลูกสามคน อยู่กันพร้อมหน้า ทั้งสามจะได้คุยกันแบบครอบครัว เธอคนนอก จึงเดินออกมาดีกว่า
“ได้ข่าวว่าออกข้างนอกทุกวันเลย ไปไหนกับใครไหนเล่าให้พี่ฟังบ้าง” ภูวนนท์ไม่กล้าถามตรงๆตามที่มินรญาไปพบเจอน้องสาวเขากับเหมราช
“ก็ไปเดินเล่น เสริมสวย ดูหนัง ไปเรื่อยๆค่ะพี่ภู”
“ไปกับใคร” ภูวนนท์ถามแบบเสียงดังไม่รู้ตัว
“ทำไมต้องเสียงดังคะ อยู่กันแค่นี้ พราวก็ไปของพราวคนเดียว บางวันก็มีเพื่อนที่โรงเรียนไปนัดเจอกัน พี่ภูถามทำไมคะ มีอะไรหรือเปล่า ปกติไม่เคยเห็นพูดกับพราวเยอะแบบนี้ วันนี้ซักเสียเหมือนพราวเป็นผู้ต้องหาเลย”
“พี่ก็เป็นห่วง” ชายหนุ่มเสียงอ่อยลง หรือสิ่งที่มินรญาบอกเขาจะไม่เป็นความจริง หรือเธอจำคนผิด วันนี้เขาต้องดักถามเธอให้ได้
ความจริงแล้วเรื่องของพราวพลอยเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ภูวนนท์อยากเจอกับหญิงสาวที่เขาข่มเหงเมื่อคืนนี้ แต่อีกเรื่องที่สำคัญกว่า คือเขารู้สึกผิดที่รังแกเธอ ทั้งที่เธอไม่เต็มใจ เขาไม่คิดว่าผู้หญิงที่ใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกมานาน แต่งเนื้อแต่งตัวโชว์นู่นนิดนี่หน่อย พูดจาปากร้ายไม่ยอมคนอย่างมินรญาจะไม่เคยผ่านมือชายมาเลย เขาเป็นคนแรกของเธอ เขาอยากแสดงความรับผิดชอบ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
“ไม่กลับพรุ่งนี้เช้าเลยล่ะ” ชายหนุ่มที่แอบอยู่ข้างประตูรั้วหน้าบ้าน เดินออกมาขวางทางหญิงสาวที่เพิ่งกลับจากข้างนอก
“ไปธุระค่ะ” เมื่อเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เธอตอบเขาแบบไม่มองหน้า พร้อมหาทางที่จะเดินหลบไปอีกทาง
“อุ๊ย...ปล่อยฉัน” มินรญาร้องด้วยความตกใจ เมื่อมือหนาคว้าเอวเธอเข้ามาชิดร่างหนาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“เสียงดังไม่กลัวคนอื่นได้ยินเหรอ เข้าไปคุยกับผมในบ้าน” ร่างหนากระซิบข้างหู
“ฉันไม่ไป ปล่อยฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้ลั่นเลย” มินรญาต่อรอง
“ร้องเลย เขาจะได้รู้ว่าเมื่อคืนผมกับคุณเป็นอะไรกัน อย่าเล่นตัวให้มากเลย ผมแค่อยากจะคุยเรื่องของพราวไม่คิดพิศวาสอะไรคุณนักหนาหรอก”
หญิงสาวยอมเดินตามเขา เข้าไปในบ้าน เพราะไม่อยากให้คนในบ้านใหญ่เห็น เธอเป็นห่วงความรู้สึกของมารดา และอยากให้เรื่องนี้เป็นความลับ มีแค่เธอและเขารู้กันแค่สองคนก็พอ ไม่นานเรื่องนี้ก็จะเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น
“มีอะไรก็รีบๆ พูดมา ฉันง่วงจะรีบไปนอน” เธอยืนมือกอดอกไม่ยอมนั่งลงบนโซฟาตัวที่เธอถูกทำร้ายอยู่บนนั้นเมื่อคืน
“จะนั่งดี หรือจะให้....อุ้มมานั่ง” ไม่แค่พูดแต่เขาเขยิบเข้ามายืนใกล้หญิงสาวจนหน้าแทบจะติดกับเธอ
มินรญาไม่ตอบแต่เดินมานั่งลงบนโซฟาด้วยความไม่เต็มใจ สายตาก็มองแต่พื้น ไม่ยอมมองหน้าคู่สนทนา สีหน้าบอกถึงความโกรธแค้นที่ถูกทำร้ายรังแกเหมือนเธอไม่มีหัวใจ
“ผมถามพราวแล้ว เขาบอกว่าไปคนเดียว ไม่พุดถึงเหมเลย คุณแน่ใจใช่ไหม ว่าคุณตาไม่ฝาด”
“ค่ะ ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองตามดูสิคะ ฉันขอตัวกลับค่ะ”
มินรญายังไม่ทันจะลุกขึ้น ก็ถูกมือหนาดันตัวเอให้แนบกับโซฟา ชายหนุ่มโถมตัวเข้าหาหญิงสาวตรงหน้าโอบกันเธอไว้ไม่ให้ลุกขึ้น สายตาที่เขามองเธอ มันไม่เหมือนสายตาเมื่อคืน แต่มันเป็นสายตาที่ทำให้มินรญารู้สึกหวิวๆแปลกๆ ใจหนึ่งก็อยากผลักเขาแล้ววิ่งออกมา อีกใจก็อยากรู้ว่าเขาต้องการอะไรจากเธอ
“เกลียดผมมาก แค้นผมมากเลยใช่ไหม”
“ฉันเกลียดคุณมาก มากที่สุด” เสียงตอบแบบกัดฟันด้วยความแค้นใจ
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
ทำไมพอมินรญาได้ยินคำขอโทษจากเขา เธอกลับยิ่งรู้สึกเสียใจ และยิ่งเขาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจยิ่งเหมือนมีดกรีดลงไปในหัวใจที่เบาะบางของเธอ
“ช่างมันเถอะ ฉันจะคิดเสียว่าฝันไป” หญิงสาวพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง
“ฝันเหรอ ผมว่าจะเอาความฝันเมื่อคืนเล่าให้แม่คุณฟังคงจะดี” ภูวนนท์ไม่รู้ว่าตัวเองพูดออกไปได้อย่างไร รู้แต่เพียงว่าทำอะไรก็ได้ เพื่อไม่ให้หญิงสาวที่เขาโอบรัดตัวอยู่ลุกหนีไป
“อย่า คุณอย่าบอกแม่ฉันนะ ฉันไหว้คุณล่ะ” สายตาที่แข็งกร้าวอ่อนลงเมื่อเจอคำขู่
“โทรบอกแม่คุณ ว่าคืนนี้คุณจะไม่กลับบ้าน แล้วคุณก็นอนกับผมที่นี่”
“คุณจะบ้าเหรอ ฉันจะนอนกับคุณได้ยังไง”
“เมื่อคืนนอนได้ คืนนี้ก็นอนได้ เพียงแต่คืนนี้ผมไม่ให้คุณกลับ จะโทรไหม หรือจะให้ผมเดินไปบ้านนู้นแล้วบอกแม่คุณว่าคุณจะนอนกับผมคืนนี้”
มินรญาสับสนทั้งกลัวทั้งโมโห ไม่รู้จะทำยังไง เธอจึงตัดสินใจยอมทำตามที่เขาบอก เพราะเธอยังไม่พร้อมให้แม่ของเธอต้องมารู้เรื่องแบบนี้
“แค่นี้เอง กินข้าวมาหรือยัง”
“ยัง”
“พูดกับสามีพูดเพราะๆหน่อย พูดใหม่สิ” ภูวนนท์ยื่นหน้ามาชิดแก้มของคนที่นั่งกอดอกหน้าบูดบึ้ง
“ยังค่ะ”
“เดี๋ยวผมพาขึ้นไปอาบน้ำข้างบน จะได้สดชื่น หน้าตาก้ไม่สวย ยังจะมาทำหน้าบึ้งอีก”
“ฉันไม่อาบ” นี่เขาจะอาบน้ำกับเธอเหรอมินรญาคิดกลัวในใจ
“ไม่อาบได้ยังไง ตัวเหม็นขนาดนี้ ขึ้นไปอาน้ำ เดี๋ยวผมจะต้มบะหมี่ให้กิน”
หญิงสาวค่อยโล่งใจ ที่เขาไม่ได้หมายความว่าจะขึ้นไปอาบน้ำกับเธอ ชั้นบนของบ้านหลังนี้มีด้วยกันสามห้องนอน ห้องนอนของภูวนนท์อยู่ในสุด บรรยากาศดูเงียบเหงา ด้วยขนาดบ้านที่ใหญ่แต่กลับมีคนอาศัยอยู่คนเดียว มินรญาไม่แปลกใจทำไมเขาถึงชอบชวนเหมราชมานอนด้วย ขนาดเธอมายืนอยู่แค่เพียงครู่เดียวยังสัมผัสได้ถึงความเหงา
“อ่ะผ้าเช็ดตัว”
ประตูห้องนอนถูกเปิดออก ห้องนอนของชายหนุ่มมีห้องน้ำในตัว เขาพาเธอเข้ามาในห้องก่อนยื่นผ้าเช็ดตัว และชุดนอนของเขาให้เธอ
“ใส่ชุดผมไปก่อน เดี๋ยววันหลังผมจะซื้อชุดนอนเอาไว้ให้ที่นี่”
“คุณหมายความว่าอะไร ซื้อชุดนอนไว้ที่นี่” มินรญาตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เขาจะให้เธอมานอนที่นี่อีกเหรอ
“ก็หมายความอย่างที่พูด คงอีกหลายครั้งที่คุณต้องมานอนกับผม ก็คงจนกว่าผมจะเบื่อ แล้วคุณค่อยเป็นอิสระ”
“เห็นแก่ตัว เลว เลวที่สุด” คำด่าทอหลุดออกจากปากหญิงสาวอย่างเป็นะรรมชาติแบบไม่ต้องคิด เขาร้ายและเห็นแก่ตัวที่สุด
“ครับผมเลว อาบน้ำเสร็จแล้วลงไปกินบะหมี่ข้างล่างนะ อาบให้ตัวหอมๆด้วย เดี๋ยวผมจะตรวจว่าจุดไหนบ้างที่ไม่หอม”
“บ้า ทะลึ่ง คุณมันบ้า” มินรญาตะโกนตามหลังภูวนนท์ ที่เดินลงไปด้านล่างเพื่อทำบะหมี่ให้เธอ
บทที่13รักหรือของเล่น “คงไม่อร่อยเท่าฝีมือแม่คุณนะ แต่รับรองว่ากินได้แน่นอน” มินรญาเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน กลิ่นบะหมี่ลอยคลุ้งหอมจนเธอเริ่มหิว ชุดนอนที่เธอใส่อยู่ถูกผูกเอวไว้ข้างๆ เพื่อกันไม่ให้มันหลุดลงไปกองกับพื้น เจ้าของชุดยืนมองอย่างขำๆ ที่หญิงสาวแต่งตัวแบบนี้ “แต่งตัวแบบนี้ก็น่ารักดีนะ ผมเห็นแต่คุณแต่งชุดอะไรก็ไม่รู้ รู้แล้วว่าหุ่นดี ไม่ต้องโชว์มากก็ได้ มันดูไม่มีราคา” ภูวนนท์ไม่ชอบชุดที่มินรญาใส่ในแต่ละวัน เพราะมันจะดูโชว์รูปร่างและผิวขาวเปล่งประกายของหญิงสาว “ถ้าฉันแต่งตัวเรียบร้อย ฉันมีราคาใช่ไหม เพราะตอนนี้ฉันเหมือนของฟรี....” คำถามที่แทงใจคนฟัง ทำเอาภูวนนท์ไม่กล้าเงยหน้าจากชาวบะหมี่ เพราะไม่อยากสบตาคนถาม เขารู้ว่าสิ่งที่เขากำลังทำกับเธอมันผิด แต่ไม่รู้ทำไม เขาหยุดมันไม่ได้ รู้แต่ว่าร่างกายมันต้องการเธอ ส่วนหัวใจของเขาคงมีแต่ชิดจันทร์ยังไม่เปลี่ยนแปลง “พูดอะไรจัง มากิน เดี๋ยวหายร้อนก็ไม่อร่อย” เจ้าของบ้านเปลี่ยนเรื่องพูด ด้วยความหิวมินรญากินบะหมี่จนหมดถ้วย แต่หัวใจของเธอไม่อิ่มเลย เขาทำให้เธอ
มินรญา รีบควานหาผ้านวมมาคลุมกายแต่เขาก็กระชากผ้านวมผืนใหญ่ที่ดูจะเกะกะมากตอนนี้ ทิ้งลงข้างเตียง และใช้ร่างกายของเขาทับแนบลงบนร่างขาวใสนั้นแทนผ้านวมที่เพิ่งทิ้งลงไป มือหนาซุกซนบีบเคล้นยอดอกที่ชูชันตอบรับสัมผัส ปากหนาไล่จูบตั้งแต่หน้าผากสวยได้รูป ลงมาหยุดที่ยอดอกชูชัน ปากหนาใช้ลิ้นตวัดรัดเลาะรอบๆยอดชมพูก่อนจะดูดคลึงอย่างผ่อนหนักผ่อนเบา จนมินรญากลั่นเสียงครางไว้ไม่ไหว ร่างใหญ่ซุกไซร้ลงมาถึงจุดสุดท้ายของความเสียวซ่าน เขาพาความเป็นชายของเขา รุกเร้าเข้าสู่ส่วนสงวนของหญิงสาวที่เริ่มบิดเกร็ง “เจ็บ เจ็บค่ะ” เมื่อร่างกายของทั้งคู่รวมเป็นคนเดียวกันหญิงสาวยังคงหลงเหลือความเจ็บเพราะมันคือครั้งที่สองในชีวิตเธอ “อย่าเกร็ง ปล่อยตามสบาย อีกนิดนะ เดี๋ยวมันจะค่อยๆดีขึ้น” ภูวนนท์กระซิบตอบพร้อมเล้าโลมเพิ่มอารมณ์ให้สาวน้อยที่กำลังกัดฟันเพราะทั้งเสียวและเจ็บ ลมแห่งความเสน่หาลุกโชติช่วงจนถึงขีดสุด เสียงครางสุดท้ายของทั้งคู่กรีดเสียงออกมาพร้อมกัน ก่อนพากันขึ้นสวรรค์ชั้นสูงสุด “ชอบไหม” ร่างหนาหมดแรงปล่อยตัวทับลงบนร่างบางที่นอนหมดแรงอยู่บนเ
บทที่14หนีหัวใจตัวเอง “เสร็จภายในสองสัปดาห์แน่นอนครับ” ช่างที่ทางห้างติดต่อให้มาปรับปรุงตกแต่งร้านให้ รับรองว่าอีกสองสัปดาห์สามารถนำสินค้ามาวางขายได้แน่นอน ร้านเสื้อผ้าที่หญิงสาวกำลังจะเปิด เป็นร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่พ่อของเธอเป็นหุ้นส่วนใหญ่ มินรญาเองก็ถือหุ้นอยู่จำนวนหนึ่ง แต่เงินรายได้ พ่อของเธอกับแคโรรีนจัดการเก็บไว้ให้ เพราะรู้จักนิสัยลูกสาว ว่าเป็นใจอ่อน ขี้สงสาร กลัวเธอจะส่งมาให้มารดาหมด เสื้อผ้าที่จะนำมาขายในร้านส่วนหนึ่งก็เป็นการออกแบบของมินรญาเอง เพราะเธอเรียนจบทางนี้มาโดยตรง และเป็นงานที่ถนัดและรักมากด้วย เสร็จจากธุระเรื่องร้าน หญิงสาวก็ตระเวนหาเช่าคอนโดใกล้กับห้างที่เปิดร้าน โชคดีมีคอนโดอยู่หนึ่งห้อง คนเช้าเก่าออกไปเมื่อเดือนที่แล้ว เธอสามารถเข้าอยู่ได้เลย เป็นคอนโดขนาดเล็ก พื้นที่ใช้สอยน้อย ขนาดห้องแค่พอนอนและมีมุมทำคนัวเล็กน้อย ค่าเช่าที่ค่อยข้างถูกและอยู่ใกล้กับร้านของเธอโดยที่ใช้เดินเพียงไม่กี่นาที ทำให้มินรญาตัดสินใจเช่าที่นี่ และจะย้ายมาอยู่ให้เร็วที่สุด ข้าวของเครื่องใช้ของเธอมีไม่มากนัก เพราะเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยไ
ถ้านาธานเป็นผู้หญิงมิรญาจะบังคับให้เขามานอนอยู่กับเธอที่นี่เสียเลย เพราะตอนนี้เธอกำลังต้องการใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อน ยิ่งมาอยู่คนเดียวแบบนี้ หัวใจของเธอมันคิดถึงแต่หน้าขอวภูวนนท์ คิดถึงอ้อมกอด คิดถึงรสรักที่เขามอบให้ แต่อีกใจมันก็คิดถึงคำดูถูกและรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ เธอมันก็แค่ของเล่น“พราววันนี้ไปไหนมาบ้าง เล่าให้พี่ฟังสิ” พี่ชายถามน้องสาวเพราะเธอออกจากบ้านทุกวัน“ไปหาอ่านหนังสือตามร้านหนังสือมาค่ะ” พราวพลอยปดคำโต“นึกว่าแอบไปหาแฟน ถ้ามีแฟนก็พามาแนะนำให้พี่รู้จักบ้างแล้วกัน นี่ก็อีกไม่กี่วันจะเปิดเทอมแล้วเตรียมตัวให้พร้อมนะ อย่ามัวแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ” ภูวนนท์พูดเปิดทางให้น้องสาวเผื่อเธอจะหลุดปากบอกอะไร“ค่ะพี่ชายสุดที่รัก พราวอยู่บ้านก็เหงา พี่ภูไปทำงานมาตอนนี้พี่มิ้นก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น พราวเลยออกไปหาอะไรทำแก้เหงา”“มิ้นไปไหน ทำไมเขาไม่บอกพี่ ทำไมไม่มีใครบอกพี่เลย ” ชายหนุ่มลืมตัวโวยวายเสียงดังกลางโต๊ะอาหาร“น้าต้องขอโทษแทนมิ้นด้วยนะคะ พอดีต้องรีบไปจัดคอนโดเพราะร้านใกล้จะเปิดแล้ว เลยไม่ได้อยู่รอบอกคุณภู ไว้วันหลังน้าจะให้มิ้นเข้ามาบอกลานะคะ” ฟ้ารุ่งขอโทษแทนลูกสาว
บทที่15หวง ห่วง “ห้องเล็กไปไหมมิ้น มีหวังแครลีนมาเห็นเธออยู่ห้องแบบนี้ เรียกเธอกลับฝรั่งเศสแน่นอน” เสร็จจากธุระกับญาติพี่น้อง นาธานก็มาหามินรญาตามสัญญา ห้องเล้กที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยมาก ทำเอาเพื่อนชายรู้สึกไม่เข้าใจ ว่าเจ้าของจะอาศัยอยู่ได้จริงๆเหรอ “อยู่ไปก่อน เราแค่เช่าไม่ได้ซื้อ ไว้ได้เงินเดือนค่อยขยับขยาย” มินรญาให้เหตุผล “โอเค แล้วแต่เธอแล้วกันมิ้น ไป เราไปซื้อเฟอร์กันเถอะ เดี๋ยวไปช้ากว่าเขาจะเอามาส่งอีก” มินรญาชวนให้นาธานมาช่วยเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้าห้อง เพราะเธอเองเลือกของพวกนี้ไม่ค่อยเป็น เลยพาเพื่อนมาดูห้องก่อน “มิ้น ทำแบบนี้จะหนีเขาได้จริงๆใช่ไหม” ระหว่างเดินทางทั้งคู่เริ่มคุยเรื่องระหว่างมินรญากับภูวนนท์ “เราไม่แน่ใจ แต่มันคงดีดว่าการที่เราต้องอยู่ใกล้ๆเขา เราไม่อยากเป็นเครื่องมือระบายอารมณ์ของเขาอีก” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ “มิ้น แน่ใจนะว่าไม่ได้รักนายคนนั้นเข้าแล้ว” นาธานเห็นแววตา น้ำเสียงของเพื่อนที่คบกันมานาน เขาเริ่มไม่แน่ในว่ามินรญาหนีเพราะเกลียดหรือหนีเพราะรัก
แบบนี้ เขาได้แต่กำมือแน่นมองมินรญาด้วยสายตาที่เกี้ยวกราด ทำเอาหญิงสาวหายใจติดๆขัด น้ำตามันไหลออกมาคลอสองตา เธอทั้งกลัวทั้งโกรธกับคำพูดของเขา “วันหลังเราคงได้พบกันอีกนะครับ คุณนาธาน คุณมินรญา” ภูวนนท์พูดทิ้งท้ายเมื่อมินตราลุกขึ้นมาคล้องแขนเขาดึงกลับไปนั่งที่เดิม เพราะกลัวทั้งคู่จะมีเรื่องกันเสียก่อน “พี่ภูคะ มันอะไรกันคะนี่ ผิงกลัวจะมีเรื่องกันจังเลย ตกลงพี่รู้จักหรือเคยทะเลาะกับสองคนนี้มาก่อนเหรอคะ” “กลับกันเถอะผมไม่อยากกินแล้ว กินไม่ลง” ภูวนนท์ไม่ตอบคำถามแต่กลับลุกเดินนำดาราสาวไปรอที่รถที่จอดอยู่ด้านหลังของร้าน “นาธานทำไมพูดกับเขาแบบนั้น” มินรญากล้าละสายตาจากโต๊ะเมื่อร่างหนาที่เธอคุ้นเคยเดินพ้นจากโต๊ะเดินออกไปนอกประตูร้านแล้ว “แบบไหน ที่บอกเป็นแฟนเธอ หรือที่บอกว่าเขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน มิยรญาเธอเปลี่ยนไปมาก จากผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง เก่ง ไม่กลัวใคร แต่วันนี้เธอกลับเป็นมินรญาที่สงบเสงี่ยม มีแต่ความกลัว มิ้นเธอต้องคุยกับตัวเองให้ดี ว่าจริงๆแล้วใจเธอต้องการอะไรกันแน่” นาธานเริ่มแน่ใจ ว่าเพื่อนรักของเขามอบหัวใจใ
บทที่16มันเรียกว่าความรักใช่ไหม “คุณภู คุณมาที่ได้ยังไง”ยังไม่ทันที่มินรญาจะถามจบ ร่างหนาใช้ฝ่ามือที่แข็งแรงดันประตูห้องเข้ามาและกดล็อคห้องทันที “ก็ไม่ได้ยากอะไร สามีจะตามหาภรรยามันเป็นเรื่องง่ายๆ” “คุณภู คุณออกไปที่นี่ห้องฉัน ไม่ใช่บ้านของคุณ คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาโดยที่เจ้าของห้องยังไม่อนุญาต”หญิงสาวเดินมาเกรี้ยวกราดชายหนุ่มที่เดินมานั่งบนโซฟารับแขกตัวใหม่ “สิทธิ์ของความเป็นผัวอย่างไร”ภูวนนท์ทำหน้านิ่งตอบอย่างไม่รู้สึกอะไร “คำก็ผัว สองคำก็ผัว ไอ้ที่นอนกันไม่กี่ครั้ง อย่ามาเรียกตัวเองว่าผัวเลย คุณมันก็แค่ผู้ชายที่ชอบรังแกผู้หญิง ถ้าคุณไม่ออกไป ฉันไปเอง” มือหนาชุดร่างบางที่กำลังหันหลังเพื่อเดินออกนอกห้อง เขาฉุดมือเธออย่างแรงจนตัวแทบปลิว ร่างน้อยตกลงบนตักของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว “มันอยู่ไหน” ผู้บุกรุกส่งเสียงถามคำรามข้างหูคนที่นอนตัวเกร็งอยู่บนตัก “คุณหมายถึงใคร” มินรญาไม่เข้าใจว่า มัน ของเขาคือใคร “ก็ไอ้นาธาน แฟนเธอไง มันอยู่ไหน ผมจะได้บอกมัน ว่าแฟนมันแต่เป็นเมียผม”
“ท้อง” อยู่ดีๆคำว่าท้องก็ผลุดขึ้นในหัวของมินรญา เธอมีอะไรกับเขาถึงสองครั้งโดยไม่ได้ป้องกัน และนี่ก็เกินกำหนดที่ประจำเดือนเธอจะต้องมา “คุณคืนนี้คุณจะไหม...” หญิงสาวกระซิบถามคนข้างๆแบบไม่กล้าพูดตรงๆ “อะไร คุณพูดอะไรมินรญา ผมฟังไม่รู้เรื่อง” เสียงคนถามที่เบาโดนเสียงพ่อค้าแม่ค้าในตลาดกลบเสียงหมด “คืนนี้คุณจะนอนกับฉันไหมคะ” “นอนสิ ก็เราตกลงกันแล้ว หรือคุณจะไล่ให้ผมไปนอนที่อื่น” ภูวนนท์ทำท่าสงสัย “ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้หมายความถึงนอนแบบนั้น” หญิงสาวเริ่มหน้าแดง “อ๋อ..คุณถามทำไม หรือคุณมีอะไรจะทำให้ผมแปลกใจ” ชายหนุ่มก้มหน้าลงมาใกล้ๆคนตัวเล็กกว่าเพื่อหยอกเธอที่กำลังหน้าแดงเพราะเขินอาย “ฉันกลัวท้อง ประจำเดือน็ยังไม่มา ครั้งนี้เราก็ควรจะป้องกัน” หญิงสาวรวบรวมความกล้า เพราะเธอคงไม่กล้าไปซื้อถุงยางอนามัยเองแน่ๆ “เข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมจัดการเอง” ภูวนนท์เอื้อมือมาโอบเอวหญิงสาวเข้ามาเดินใกล้ๆกับเขา ร้านขายยาตั้งอยู่อีกฝั่งของถนน มินรญาเลยขอรออยู่ฝั่งนี้เพราะไม่อยากข้ามไปซื้อกับเขา เธอไม่