ฟ้ารุ่งรู้สึกตัวเองมีค่าตัวที่สูงมากหลังจากได้รับรู้หน้าที่ และนำมาเทียบกับค่าตอบแทนที่เธอได้ หน้าที่ทำกับข้าวเป็นงานที่เธอถนัดมาก แต่ระยะหลังเธอก็ไม่ได้เข้าครัวนานแล้วเพราะใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง จึงเลือกที่จะกินอยู่อย่างง่ายๆเอา
พยาบาลเรียกตัวเธอไปสอนวิธีการดูแลคนป่วย ฟ้ารุ่งเธอมีมารดาเป็นพยาบาลจึงไม่ยากที่เรียนรู้ และเธอก็ยินดีที่จะได้ดูแลภรรยาของคนที่มีพระคุณกับเธอ
เมนูอาหารมื้อแรกที่แม่ครัวคนใหม่เลือกที่จะทำ ก็เกิดจากการสอบถามจากยิ้มสาวใช้ของบ้านถึงเมนูโปรดของคนในบ้าน
“หนูทำกับข้าวไม่ได้เรื่องเลย โดนคุณภูบ่นประจำ ฝากน้าด้วยนะคะ” ยังโชคดีอยู่บ้างที่เธอถูกเรียกว่าน้านึกว่าจะกลายเป็นป้าซะแล้วฟ้ารุ่งยิ้มในใจ
“แม่ครัวคนใหม่ของคุณพ่อฝีมือใช้ได้เลยนะครับ” ภูวนนท์กินอาหารจนเกลี้ยงจานเพราะถูกปากกับรสมือของแม่ครัวคนใหม่
“เมื่อเย็นแม่ของลูกกินข้าวต้มได้เกือบหมดถ้วยเลย” ปกติอภิรดีจะกินข้าวเย็นเพียงไม่กี่คำ เพราะหล่อนไม่ชอบกินข้าวต้ม แต่ด้วยรสชาติที่ถูกใจวันนี้เลยกินได้มาก
คืนแรกในบ้านหลังใหญ่ที่มีสมาชิกหลายคนอาศัยอยู่ ฟ้ารุ่งคุยเรื่องราวต่างๆให้ลูกสาวได้รับรู้ผ่านทางเฟสบุ๊ค นานแล้วที่เธอใช้ชีวิตตัวคนเดียว วันนี้เธอรู้สึกไม่เหงามีอะไรให้เธอทำมากมาย ชีวิตดูมีค่าขึ้นเยอะ
‘ แม่คะ...มิ้นจะรีบหาเงินมาใช้เขาให้ได้ แม่ถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องทำนะ มิ้นเป็นห่วง ’
ความเป็นห่วงถูกส่งมาจากปารีส มินรญาลูกสาวคนเดียวของเธอไม่เคยทำให้เธอต้องผิดหวัง ถึงแม้ความใกล้ชิดในฐานะแม่กับลูกจะมีน้อยมาก เธอส่งให้ลูกไปอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่เลิกกับสามี เพราะฟ้ารุ่งรู้ตัวเธอดีว่าความรับผิดชอบและความรู้สึกของเธอตอนนั้นไม่ดีพอที่จะดูแลใคร โรงเรียนประจำจะทำให้ลูกของเธอเข้มแข็งและแข็งแกร่งได้ บ่อยครั้งที่เธอแอบไปดูมินรญาโดยที่ลูกสาวของเธอไม่รู้ตัว เพราะฟ้ารุ่งอยากให้ลูกเข้มแข็ง และมันก็ทำให้ลูกสาวของเธอเป็นหญิงสาวที่แข็งแกร่งได้จริงๆ
เช้านี้กับตำแหน่งแม่ครัว กับข้าวถูกเรียงรายบนโต๊ะอาหาร ข้าวผัดไข่คนป่วยกินจนหมดจาน คนป้อนแอบยิ้มดีใจที่ภรรยาของเขากินเยอะมาสองมือแล้ว ตั้งแต่มีแม่ครัวคนใหม่ ไม่ใช่แค่อภิรดีแต่ทั้งเขาและภูวนนท์ต่างก็เจริญอาหารกันน่าดูช่วงนี้
“น้ารุ่งครับ เย็นนี้ผมจะพาแขกมากินข้าวที่บ้านหนึ่งคนนะครับ” ภูวนนท์นัดหมายกับชิดจันทร์จะมากินข้าวที่บ้านของเขาในช่วงเย็น
“อาหารอร่อยมากๆเลยค่ะ”
ชิดจันทร์ออกปากชมฝีมือทำกับข้าวของแม่ครัวคนใหม่ ฟ้ารุ่งเธอมีความสุขและภูมิใจทุกครั้งที่ได้ยิ้มรอยยิ้มของคนที่ได้กินฝีมือของเธอ
หลังอาหารเย็นภูวนนท์พาชิดจันทร์ไปเรือนหลังเล็กที่เป็นมุมโปรดของเขา พรุ่งนี้เขานัดช่างให้มาดูว่าจะซ่อมแซมปรับปรุงในส่วนไหนบ้าง เพราะเขาตั้งใจจะทำเรือนหลังเล็กให้เป็นเรือนหอของเขากับชิดจันทร์
“ช่วงนี้งานเป็นอย่างไรบ้างคะ” หญิงสาวชวนภูวนนท์คุยเพราะไม่อยากให้เขาถามถึงเรื่องที่ขอเธอแต่งงาน กลัวจะทำให้บรรยากาศเสีย
“กำลังยุ่งอยู่เลยครับ กำลังจะเปิดโครงการใหม่ เป็นโครงการบ้านสำหรับคนรายได้ปานกลาง ช่วงนี้บางวันก็ให้คุณพ่อไปช่วยดูหน้างานให้”
“เอยล่ะครับ... ที่โรงแรมเป็นอย่างไรบ้างช่วงนี้” ครอบครัวของเอยนอกจากพ่อปลัดกระทรวงแม่ของเอยก็ทำธุรกิจโรงแรมที่เชียงใหม่และภูเก็ต
“พรุ่งนี้เอยกับคุณแม่จะบินไปเชียงใหม่ ไปดูความเรียบร้อยและเตรียมปรับปรุงแผนงานช่วงฤดูท่องเที่ยวค่ะ จะอยู่ที่นั่นพักใหญ่ๆนะคะ” ชิดจันทร์มากินข้าวเย็นที่บ้านของภูวนนท์เพราะตั้งใจจะมาบอกเรื่องที่ต้องไปอยู่เชียงใหม่สักพัก
“ทำไมไปนานจัง คิดถึงแย่เลย” ชายหนุ่มไม่พูดเปล่า ดึงตัวหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอด และหอมแกล้มจนแทบแกล้มของชิดจันทร์แดงช้ำ
“เอย...เจ็บแล้วนะ” ใบหน้าแดงของชิดจันทร์เป็นหลักฐานว่าเขาทำรุนแรงเกินไป
“ก็มันจะเก็บไว้เวลาที่คิดถึง อยากไปนานเอง กลับมาก็จะหอมแบบนี้อีก” ชายหนุ่มทำหน้าทะเล้น ล้อเลียนหญิงสาวที่หน้ามุ่ยเพราะเจ็บที่แกล้มทั้งสองข้าง
ไม่ใช่แค่ภูวนนท์รู้สึกว่าทำไมต้องไปอยู่ที่นั่นหลายวันขนาดนั้น เพราะปกติแล้วคุณนายโฉมเฉลาไม่เคยจะยอมทิ้งสามีไปไหนนานๆ การไปครั้งนี้ต้องมีอะไรมากกว่าการไปดูแลกิจการที่เชียงใหม่แน่ๆ
จวนจะค่ำมากแล้วชิดจันทร์จึงขอตัวกลับบ้าน โดยไม่ยอมให้ภูวนนท์ไปส่งที่บ้านขอให้ส่งแต่เพียงหน้าปากซอยทางเข้าหมู่บ้าน แต่ภูวนนท์ก็พอจะคลาดเดาได้ว่า ชิดจันทร์คงยังไม่พร้อมที่จะให้เขาและมารดาของเธอได้เจอกันในเวลานี้
ความจริงแล้ววันนี้ภูวนนท์ตั้งใจจะถามถึงเรื่องที่เขาขอเธอแต่งงานแต่เห็นจากท่าทีที่ชิดจันทร์พยายามหาเรื่องคุย ก็คิดว่าเธอยังคงไม่พร้อมที่จะให้คำตอบในเรื่องแต่งงาน เร่งรัดเอาคำตอบก็คงจะมีแต่ต้องช้ำใจแน่ๆ
“พรุ่งนี้คิดหรือยังจะทำอะไรให้อภิรดีกิน” กฤษฎาเข้ามาทักทายฟ้ารุ่งที่กำลังวุ่นวายกับการทำความสะอาดห้องครัว
“ต้มยำปลาค่ะ” เมื่อเช้าเธอออกไปตลาดแต่เช้าเพื่อหาซื้อปลามาเตรียมไว้ คนป่วยกินปลาน่าจะมีประโยชน์ที่สุดฟ้ารุ่งคิดแบบนี้
“อืม...แต่อย่าให้รสจัดนะ”
พูดเพียงเท่านี้แล้วกฤษฎาก็เดินกลับออกไป ความจริงเขาอยากชวนฟ้ารุ่งคุยนานๆแต่ด้วยสถานภาพเจ้านายกับสาวใช้ เขาไม่ควรจะมายืนคุยสองต่อสองกับเธอแบบนี้จะทำให้เสียทั้งเธอและเขา
กว่าจะได้เข้านอนก็เกือบสี่ทุ่ม ฟ้ารุ่งเก็บล้างครัวให้สะอาดเพื่อเตรียมสำหรับทำอาหารในพรุ่งนี้เช้า จากชีวิตสาวสวยเดินไปเดินมาอวดความสวยไปวันๆ แต่วันนี้เธอมีหน้าที่ต้องดูแลอาหารให้กับทุกคนในบ้านนี้ กลางวันคอยพลิกตัวให้คนป่วย ถึงมันจะเหนื่อยหน่อยแต่มันก็ทำให้ฟ้ารุ่งรู้สึกคุณค่าของการได้เกิดมาเป็นคน
ก่อนเข้านอนเธอแวะเข้าไปดูอภิรดี เพื่อมีอะไรที่เธอพอจะช่วยได้ ภาพที่อยู่ตรงหน้ากฤษฎากำลังพยุงภรรยาให้ลุกขึ้นเพื่อดื่มน้ำผลไม้ พรุ่งนี้ตื่นมาจะได้ไม่ท้องผูก การดูแลเอาอกเอาใจของสามีที่แสดงต่อภรรยาที่เขารักอย่างทะนุถนอมเป็นภาพชินตาแต่ไม่ชินใจที่ฟ้ารุ่งได้เห็นตลอดเวลาที่เขาได้ก้าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบ้านวิรชโลธร
ชีวิตของเธอมีแต่ความโดดเดี่ยวเลิกกับสามีได้ไม่นานก็มาเสียพ่อกับแม่ไป เธอไม่เคยสัมผัสกับคำว่าครอบครัวมานานจนเธอเองก็จำไม่ได้ว่านานมากแค่ไหน ฟ้ารุ่งได้แต่หวังว่าสักวันเธอคงเจอคนที่รักเธอและพร้อมจะดูแลเธอไปจนแก่เฒ่า ไม่ใช่เข้ามาหวังแค่เพียงตัวก็จากไป
บทที่3 ดูแล “พรุ่งนี้น้องจะปิดเทอมแล้วนะ” กฤษฎาบอกลูกชายที่กำลังนอนเล่นบนโซฟาข้างๆมารดา “ไม่ต้องกลับไปเรียนแล้วใช่ไหมครับ” พราวพลอยเธอถูกส่งให้ไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติตั้งแต่เด็กๆ เพราะช่วงนั้นกฤษฎาโหมทำงานหนัก อภิรดีก็ต้องคอยตามไปช่วยตลอด ทั้งคู่ไม่มีเวลาดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ภูวนนท์เป็นเด็กผู้ชายยังไม่ค่อยเป็นห่วง พราวพลอยเลยถูกส่งไปเรียนโรงเรียนประจำเพียงคนเดียว “ไม่ต้อง เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว กลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาดีกว่า” เป็นคำตอบที่คนถามได้ยินแล้วก็สุขใจ ถึงแม้พราวพลอยและภูวนนท์จะมีเวลาที่อยู่ด้วยกันไม่มากนัก แต่สำหรับพี่ชายคนนี้เธอคือแก้วตาดวงใจของเขาเลย เพราะพราวพลอยเป็นเด็กสาวที่สดใส น่ารัก และมีน้ำใจกับทุกๆคน “เรามีงานเลี้ยงต้อนรับยายพลอยกันดีไหมครับพ่อ” ตั้งแต่มารดาของเขาป่วยหนัก ภูวนนท์ก็ไม่เคยเห็นบ้านหลังนี้มีงานเลี้ยงรื่นเริงเลยสักครั้ง คราวนี้คงเป็นโอกาสที่ดี มารดาของเขาเองก็คงอยากให้บ้านหลังนี้ได้มีความรื่นเริงบ้าง เพราะก่อนที่แม่ของเขาจะล้มป่วย อภิรดีชอ
“การพนันใช่ไหม” นาธานพอรู้มาบ้างว่าฟ้ารุ่งติดการพนัน “ใช่...แต่แม่บอกว่าจะเลิก ไม่กลับไปยุ่งกับมันอีก” “อีกแล้ว เลิกอีกแล้ว” นาธานทำเสียงให้เพื่อนสาวของเขารู้ว่าเขาไม่เชื่อในสิ่งที่มารดาของเธอบอก “แต่เธอทำถูกแล้ว อย่างไรเขาก็แม่ เงินเราก็เหมือนเงินแม่ พระคุณที่ทำให้เราเกิดมายิ่งใหญ่จนคิดเป็นมูลค่าไม่ได้หรอก” มินรญาโผเข้ากอดเพื่อนชาย ใบหน้าขาวคมซบลงกับอกกว้าง เขาเป็นมากกว่าเพื่อนๆจริงๆ ทุกๆครั้งที่เธอมีทุกข์ใดๆก็ตาม ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะเป็นที่พักพิงให้เธอไม่ได้ “ขอบคุณนะที่อยู่ข้างๆกัน และเข้าใจเรามาตลอด ขอบคุณจริงๆ” น้ำใสๆไหลออกจากดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยที่กำลังสับสนกับความคิดกับตัวเอง มินรญาตัดสินใจกับเส้นทางชีวิตของตัวเองได้แล้ว เธอคงต้องหาโอกาสเหมาะๆ บอกให้พ่อของเธอรู้ และหวังว่าเขาคงเข้าใจและไม่คัดค้านเธอ เพราะถ้ามีการคัดค้านมินรญาเองก็ไม่เชื่อใจตัวเองเหมือนกัน ว่าตัวเธอเองจะไม่เปลี่ยนแปลงความคิด เพราะในหัวใจส่วนลึก เธอก็รักอิมรานและแคโรลีนมากเหมือนกัน “งานอะไรคะนี่” พราวพ
“ดีจ๊ะ เห็นทุกคนมีความสุข น้าก็พลอยสุขไปด้วย” คนป่วยตอบช้าๆอย่างเหนื่อยๆด้วยรอยยิ้ม ภูวนนท์พาชิดจันทร์เดินมานั่งที่โต๊ะอาหารกลางสนามหญ้า อาหารมากมายถูกจัดวางอย่างสวยงาม พราวพลอยเลือกเปิดเพลงที่ดูรื่นเริงมีความสุข สมกับบรรยากาศที่มีแต่รอยยิ้ม อาหารมากมายยังวางเรียงอยู่เหมือนเดิม เพราะพราวพลอยตักอาหารไปนั่งกินกับแม่และพ่อของเธอที่ชานบ้าน ส่วนชิดจันทร์และภูวนนท์นั่งคุยกันเพียงลำพังอยู่ที่โต๊ะกลางสนาม เสียงโทรศัพท์ทำให้ชิดจันทร์ต้องขอตัวเดินห่างออกไปจากแฟนหนุ่ม ภูวนนท์รู้สึกแปลกใจ ทำไมชิดจันทร์ต้องเดินออกไปคุยโทรศัพท์ไกลจากเขา ตั้งแต่คบกันมาเขากับชิดจันทร์ไม่เคยมีความลับต่อกัน รวมทั้งเรื่องที่แม่ของเธอไม่ชอบเขา ภูวนนท์คิดไม่ออกถึงเหตุผลที่แฟนสาวลุกเดินไกลออกไปหลังจากมีโทรศัพท์เข้ามา แต่ด้วยมารยาทก็คงทำได้แค่เพียงนั่งรออยู่ที่เดิม “ภูคะ ดึกแล้วเอยขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ” ยังไม่ทันที่ภูวนนท์จะเอ่ยถามอะไร ชิดจันทร์ก็เป็นคนพูดก่อนเมื่อเดินถึงโต๊ะอาหาร เธอมาถึงที่นี่ยังไม่ถึงชั่วโมง อาหารที่จัดวางไว้เธอก็ยังไม่ได้กินสักอย่าง ท่าทางเร่งร
“เหม...ดื่มเหล้ากัน” เหมราชเพื่อนสนิทคนเดียวของภูวนนท์ เขาเป็นชายโสดที่พร้อมจะว่างเสมอ ถ้าภูวนนท์โทรชวนมากินเหล้า “เครียดอะไรอีกล่ะไอ้ภู” ปลายสายรู้ใจคนโทรมา “สมกับเป็นเพื่อนรัก เดี๋ยวเล่าให้ฟัง ฉันไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนว่ะ” ภูวนนท์ไม่ได้พักอยู่บ้านหลังเดียวกับกฤษฎาและอภิรดี แต่อยู่ในรั้วเดียวกัน การชวนเพื่อนมานั่งดื่มที่บ้าน จึงเป็นเรื่องที่เขาไม่ต้องขออนุญาตใครก่อน และเขาก็มักจะชวนเหมราชอยู่บ่อยๆ เพียงไม่กี่นาที เหมราชก็พาตัวเองมาถึงบ้านของเกลอคนสนิท เพราะเวลานี้เริ่มดึกแล้ว รถไม่ติด เขาเตรียมเสื้อผ้ามานอนที่นี่ด้วยเลย เพราะทำเช่นนี้เป็นประจำ “ไหนเล่าให้ฟังสิ คนอย่างคุณภูมีเรื่องอะไรทุกข์ใจ” เหมราชไม่รอคนนั่งรอเล่า เขาขอจู่โจมถามก่อนเลยด้วยความอยากรู้ ภูวนนท์บอกเล่าเรื่องราวของความสงสัยที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ จนต้องโทรตามเพื่อนคนสนิทมาดื่มเพื่อขอคำปรึกษา แค่ได้ยินว่าเป็นเรื่องของชิดจันทร์ก็ทำเอาเหมราชให้ความสนใจอย่างเห็นได้ชัด “นี่นายกำลังคิดว่า เอยมีคนอื่นเหรอ บ้า! ไปแล้ว” เหมราชตะคอกใส่หน้าภูวนนท์
บทที่4สูญเสีย “หากมันคือความต้องการของลูก พ่อก็ไม่ห้าม” มินรญาตัดสินใจ คุยถึงอนาคตที่เธอคิดไว้ แล้วทุกอย่างก็เป็นเหมือนที่เธอคาดการณ์ พ่อและแม่เลี้ยงของเธอ เข้าใจและเห็นด้วยกับการที่เธอตัดสินใจจะกลับไปดูแม่ ที่อยู่ที่เมืองไทยเพียงคนเดียว “ลูกตั้งใจว่าจะไปสมัครงานตามร้านเสื้อผ้า เขาคงอยากรับลูกอยู่ เพราะดีกรีความเป็นนักเรียนนอก ลูกจะขอเงินเดือนไม่มากนัก ขอให้มีงานทำก็พอ” มินรญาตั้งใจแบบที่พูด เพราะเธอไม่อยากรบกวนเงินของบิดาอีกแล้ว “โอ้! ไม่ๆ ถ้าจะไปเมืองไทยแล้วต้องไปเป็นลูกจ้างเขาแบบนั้นแม่ไม่ยอม” แคโรลีนเธอเป็นแค่แม่เลี้ยงของมินรญาก็จริง แต่เธอรักและห่วงลูกเลี้ยงคนนี้เหมือนลูกแท้ๆ เพราะเธอและอิมรานไม่สามารถมีลูกด้วยกันได้ และหญิงสาวก็ทำให้เธอตกหลุมรักอย่างสุดหัวใจ เธอจึงแทนตัวเองว่าแม่ทุกคำ “ทำไมล่ะคะ ทำไมมิ้นจะไปเป็นลูกจ้างใครไม่ได้ มิ้นไม่ได้มีเงินมีทองมากมาย” “แต่! พ่อมี และทุกอย่างของพ่อก็คือของลูก” อิมรานยืนพูดอย่างเอาจริง “ร้านเสื้อผ้าของเรายังไม่มีสาขาที่เมืองไทย เคยมีอยู่แค่สาขาเดียว แต่ก็ปิดตัวลง
“มาหาข้าวกิน...ฟังดูแล้วกระดากหูจัง” ภูวนนท์ส่ายหัวไม่เชื่อในสิ่งที่เพื่อนพูดแต่ก็ดึงแขนเพื่อน เดินนำไปบ้านใหญ่เพื่อกินอาหารเช้า“จัดเพิ่มอีกหนึ่งที่นะครับน้าฟ้ารุ่ง”ภูวนนท์และเหมราชมาถึงโต๊ะอาหารก่อนคนอื่น ฟ้ารุ่งกำลังจัดเตรียมทุกอย่างบนโต๊ะให้เรียบร้อย ก่อนที่ทุกคนจะลงมาพร้อมเพียงกัน“นายนั่งรอที่นี่แหละ เราขอไปหาแม่เดี๋ยวมา” ทุกเช้าภูวนนท์จะเข้ามาคุยกับมารดาก่อนกินข้าวทุกเช้าภูวนนท์เดินหันหลังไปยังไม่พ้นประตู พราวพลอยก็เดินลงมาจากห้องนอนชั้นบน ผมที่ยาวสวยถึงกางหลัง กับชุดกระโปรงสีขาวยาว ทำให้เธอดูเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัว“สวัสดีค่ะ” พราวพลอยทักทายเพื่อนพี่ชายยังไม่ทันที่เหมราชจะกล่าวทักทาย น้องสาวคนสวยของภูวนนท์ เสียงโวยวายเอะอะ ดังออกมาจากห้องนอนของอภิรดี กฤษฎาวิ่งลงบันไดมุ่งตรงไปตามเสียงนั้น ทุกคนต่างพากันวิ่งตามด้วยความตกใจภาพที่อยู่ตรงหน้าของทุกคน ภูวนนท์สวมกอดมารดา เขย่าร่างที่ไร้วิญญาณ เสียงสะอื้นดังลั่นห้อง กฤษฎาเดินตรงเข้าไปกอดภรรยาด้วยใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตา เรี่ยวแรงมันแทบจะไม่มีพอที่จะพาร่างกายของเขาเข้าไปถึงเตียงคนป่วยได้“คุณทำไมไม่รอผม ผมอาบน้ำนานไปใช่ไหม ผมไม่ควรทิ้
“ไม่ได้มาหลายปี เปลี่ยนไปหมด”มินรญาเดินทางมาเมืองไทย โดยที่ไม่ยอมส่งข่าวบอกมารดาล่วงหน้า เขากะไว้ว่าพรุ่งนี้เช้าค่อยเข้าไปหาแม่ ที่บ้านที่มารดาของเธอเคยให้ที่อยู่ไว้ คืนนี้หญิงสาวเลยออกมาเดินเล่นที่สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อยู่ใกล้กับโรงแรมที่เธอพัก แต่สายตาก็เธอก็ไปสะดุดกับภาพของผู้ชายตรงหน้า“นี่คุณจะทำอะไร”มินรญากระโดดคว้าตัวชายหนุ่มที่กำลังจะกระโดดลงจากสะพานด้วยความตกใจ เธอไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอกระโดดคว้าตัวเขา แต่เธอรู้แค่ว่าเธอต้องทำ“ปล่อย บอกให้ปล่อย” ภูวนนท์ตะโกนใส่หน้าคนที่กระโดดคว้าเขา“ผู้ชายอะไรว่ะ ขี้แพ้ชะมัด เสียแรงเกิดเป็นคน มีเรื่องอะไรถึงกับจะต้องฆ่าตัวตาย” มินรญาก็ตะโกนใส่หน้ากลับไปด้วยเสียงที่ดังกว่า“แล้วมายุ่งอะไรด้วย ปล่อย โดดลงไปจะได้ตายๆซะ” ถึงจะดิ้นแค่ไหนแต่หญิงสาวก็กอดเขาไว้แน่นเหมือนกัน“เอาสิ ถ้าคุณโดด ฉันก็โดด จะให้มาปล่อยให้คนตายไปต่อหน้าทำไม่ได้หรอก เอาโดดเลย จะได้ตายกันทั้งคู่” มินรญาเปลี่ยนจากห้ามเป็นทำท่าจะกระโดดตาม“บ้า! เธอมันบ้า” ภูวนนท์ค่อยๆนั่งลงหลังพิงสะพาน“จะบ้าไปแล้วไง จะมาตายอะไรกับผม รู้จักกันหรือก็เปล่า” ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวอย่างง
บทที่5ไร้หัวใจ “ไปไหนมาทั้งคืนล่ะภู” เหมราชนั่งรอเขาอยู่ที่โต๊ะหน้าสนามบ้านหลังเล็ก “นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่โทรมาก่อน” ภูวนนท์ไม่ตอบตรงคำถาม “นายไปไหนมา ทุกคนเขาเป็นห่วง เขาโทรหากันไม่รู้กี่สายนายก็ไม่ยอมรับ พราวพลอยก็มานั่งรอนายที่นี่ตั้งแต่เช้า เพิ่งจะกลับเข้าไปบ้าน ไปดูพ่อนายเมื่อสักพักนี่เอง” เหมราชบ่นตามหลังเพื่อนซี้ที่เดินนำหน้าเข้าบ้าน “นายรู้ไหมเหม เอยไม่มาสวดศพแม่เราเมื่อคืน ” “เออ! รู้แล้ว ก็มองอยู่ว่าไม่เห็นเลย เรื่องแค่นี้ เอยอาจจะติดธุระสำคัญ หรือไม่แม่ของเอยก็คงไม่ยอมให้มา คิดมากไปไหม” “พอสวดศพเสร็จ เราเลยขับรถไปหาเอยที่บ้าน แต่เราแวะซื้อของที่หน้าหมู่บ้านก่อน เราเจอเอยกับผู้ชายคนอื่น” พูดได้เพียงเท่านี้ ภูวนนท์ก็หยุดลง เสียงมันแหบลง หัวใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะ “เพื่อนกันมั้ง หรือไม่ก็ญาติๆของเอยหรือเปล่า” เหมราชยังมองทุกอย่างในแง่ดี “เราเดินเข้าไปหา เอยแนะนำว่าผู้ชายคนนั้นคือแฟนเธอ และ...แนะนำว่าเราคือเพื่อนสนิท”น้ำตาที่ก่อนหน้านี้พยายามจะเก็บมันไว้ไม่ให้เพื่อนได้เห็น แต่มั