Share

ดูแล(3)

“ดีจ๊ะ เห็นทุกคนมีความสุข น้าก็พลอยสุขไปด้วย” คนป่วยตอบช้าๆอย่างเหนื่อยๆด้วยรอยยิ้ม

            ภูวนนท์พาชิดจันทร์เดินมานั่งที่โต๊ะอาหารกลางสนามหญ้า อาหารมากมายถูกจัดวางอย่างสวยงาม พราวพลอยเลือกเปิดเพลงที่ดูรื่นเริงมีความสุข สมกับบรรยากาศที่มีแต่รอยยิ้ม

            อาหารมากมายยังวางเรียงอยู่เหมือนเดิม เพราะพราวพลอยตักอาหารไปนั่งกินกับแม่และพ่อของเธอที่ชานบ้าน ส่วนชิดจันทร์และภูวนนท์นั่งคุยกันเพียงลำพังอยู่ที่โต๊ะกลางสนาม เสียงโทรศัพท์ทำให้ชิดจันทร์ต้องขอตัวเดินห่างออกไปจากแฟนหนุ่ม

            ภูวนนท์รู้สึกแปลกใจ ทำไมชิดจันทร์ต้องเดินออกไปคุยโทรศัพท์ไกลจากเขา ตั้งแต่คบกันมาเขากับชิดจันทร์ไม่เคยมีความลับต่อกัน รวมทั้งเรื่องที่แม่ของเธอไม่ชอบเขา ภูวนนท์คิดไม่ออกถึงเหตุผลที่แฟนสาวลุกเดินไกลออกไปหลังจากมีโทรศัพท์เข้ามา แต่ด้วยมารยาทก็คงทำได้แค่เพียงนั่งรออยู่ที่เดิม

            “ภูคะ ดึกแล้วเอยขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ”

            ยังไม่ทันที่ภูวนนท์จะเอ่ยถามอะไร ชิดจันทร์ก็เป็นคนพูดก่อนเมื่อเดินถึงโต๊ะอาหาร เธอมาถึงที่นี่ยังไม่ถึงชั่วโมง อาหารที่จัดวางไว้เธอก็ยังไม่ได้กินสักอย่าง ท่าทางเร่งรีบของชิดจันทร์ ทำให้คนที่คบกันมาเกือบสิบปี สัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างมาทำให้เธอเปลี่ยนไป

            “เอย คุณเพิ่งมาถึงเองนะ อาหารก็ยังไม่ได้กิน เดี๋ยวผมขับรถไปส่งคุณที่บ้านก็ได้” ภูวนนท์พยายามหาคำพูดเพื่อมารั้งชิดจันทร์ไว้

          “เอยเพิ่งกินข้าวกับคุณแม่มา ไม่ค่อยสบายเลยอยากกลับไปกินยานอนแล้วค่ะ” ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สีหน้านิ่งเฉย อยากที่จะค้นหาความรู้สึกที่แท้จริงในสายตาที่ราบเรียบ

            “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปส่งที่รถ”

            ภายในหัวใจของชายหนุ่ม มันรุกโชนเป็นไฟ เพราะความคุ้นเคย เขารู้ว่าสิ่งที่แฟนสาวพูดไม่ใช่ความจริง แต่ด้วยท่าทางที่แสนจะผู้ดีของชิดจันทร์ เขาจึงต้องยอมแกล้งเชื่อและเข้าใจตามที่เธอบอก

          งานเลี้ยงจบลง พราวพลอยทำหน้าที่ดูแลมารดาก่อนเข้านอน มีฟ้ารุ่งช่วยเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เพราะสาวน้อยตัวเล็กเกินไปที่จะยกคนป่วยได้

            “พรุ่งนี้ค่อยเก็บก็ได้ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”

            กฤษฎาออกมาเดินสูดอากาศก่อนเข้านอน เห็นฟ้ารุ่งยังยุ่งกับการเก็บกวาดบริเวณที่จัดงาน เขาคิดว่าเวลานี้ทุกคนคงพากันเข้านอนหมดแล้ว โดยเฉพาะสาวใช้คนใหม่ ที่เหนื่อยตั้งแต่เช้าเพราะต้องทำอาหารและจัดเตรียมสถานที่

            “ใกล้เสร็จแล้วค่ะ ทิ้งไว้เดี๋ยวมดจะมา” ฟ้ารุ่งตอบก่อนยกจานชามเดินเข้าครัวไป

          ทุกการกระทำของสาวใช้คนใหม่ อยู่ในสายตาของนายจ้างตลอดเวลา เพราะกฤษฎาคิดว่าในเมื่อเขาเป็นคนพาเธอเข้ามาทำงานในบ้าน เขาก็ต้องคอยสังเกตว่าจริงๆแล้ว เธอเป็นคนอย่างไร ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฟ้ารุ่งทำทุกอย่างได้เกินค่าจ้าง เธอดูแลอภิรดีเป็นอย่างดี งานบ้านก็ไม่ละเลย ยิ่งฝีมือการทำอาหาร ต้องถือว่าสุดยอดจริงๆ โดยเฉพาะอาหารที่ทำให้คนป่วยกิน อภิรดีกินได้มากกว่าทุกๆครั้งที่ยุ้ยสาวใช้คนเก่าทำเสียอีก แต่กฤษฎาก็ยังต้องขอดูกันนานาๆ เพราะคนเรามองกันแค่พักเดียว ไม่รู้ถึงภายใต้จิตใจหรอก

            ภูวนนท์กดโทรศัพท์โทรหาแฟนสาว เพราะเป็นห่วงที่ขับรถกลับบ้านเพียงคนเดียว แต่มันขึ้นว่าสายเรียกซ้อนตลอด เขาจึงตัดสินใจลองโทรหาทรายขวัญซึ่งเพื่อนของชิดจันทร์ดู เพราะเธอไม่น่าจะคุยกับใครนานนอกจากเพื่อนสนิทคนนี้

          “ทรายขวัญ พี่จะโทรถามว่าเอยเขาบ่นอยากได้อะไรไหม พี่ว่าจะเซอร์ไพรส์เอยสักหน่อย” ภูวนนท์ปดอย่างแนบเนียน

            วางสายจากทรายขวัญเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าที่เขาจะโทรติดปลายสาย หัวใจของเขามันเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็น เขากลัวว่าสิ่งที่คิดไว้มันจะเป็นจริง

            “ว่าไงคะภู เอยต้องขอโทษด้วย พอดีทรายมันทะเลาะกับแฟน เลยโทรมาระบายให้ฟัง”

            เสียงใสดูบริสุทธิ์ ปั้นคำโกหกเขาได้อย่างแนบเนียน แต่คนที่ฟังรู้ว่าทั้งหมดมันไม่ใช่ความจริง ภูวนนท์อยากจะตะคอกกลับไปว่าเขารู้ว่าเสียงใสนั้นกำลังโกหก แต่หัวใจมันกลับสั่งให้เขาแกล้งโง่ต่อไป เพราะความจริงบางอย่างมันอาจจะเจ็บปวดเกินกว่าเขาจะรับไว้ตอนนี้ได้

            “เอยก็ให้กำลังใจเพื่อนดีๆแล้วกัน ผมแค่เป็นห่วง เอยถึงบ้านแล้วก็รีบพักผ่อนกินยาแล้วรีบนอนเสีย”

            “ยาอะไรคะ” ชิดจันทร์ถามกลับอย่างงๆ เธอลืมสนิทเลย ว่าก่อนที่จะออกมาจากงานเลี้ยงเธอบอกเขาไว้ว่าอย่างไร

            “ก็เอยบอกกลับผมว่าไม่ค่อยสบาย”

            “อ๋อ...ใช่ค่ะ ที่เอยถาม คือหมายถึงว่าเอยจะกินยาอะไรดีเพราะเหมือนจะเป็นไข้”

            สนทนากันได้ไม่กี่นาที ภูวนนท์ก็ขอวางสาย ให้เหตุผลว่า ชิดจันทร์จะได้พักผ่อน แต่ความจริงแล้ว เขารู้สึกว่ายิ่งคุยกันนานเขาก็ยิ่งต้องฟังคำโกหก จึงวางสายก่อนดีกว่าพรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่

            ตั้งแต่เมื่อชิดจันทร์เดินทางไปเชียงใหม่กับมารดา เขาสังเกตได้ถึงความผิดปกติ เธอจะรับโทรศัพท์เขาก็เฉพาะเวลาที่ดึกแล้ว แต่ตอนนั้นเธอให้เหตุผลว่าไม่อยากคุยต่อหน้ามารดา ซึ่งภูวนนท์เองก็เชื่อในเหตุผลเพราะเขารู้อยู่ว่า แม่ของชิดจันทร์ไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status