“เจ้าอยากให้ข้า..ลองพิสูจน์ดูไหมว่าการดื่มฮ่วยซัวฝีมือของจูจ้านกับพวกเจ้าที่วางแผนการให้ข้าดื่มจะส่งผลดีต่อข้าเพียงใด”
หยางหว่านยิ้มเบี่ยงตัวหลบเอามือยันอกกว้างไว้
ปู้ตานซินอมยิ้ม ปล่อยมือ
“ไม่อยากรู้ก็ไปเสีย”
“อาจารย์ท่านแกล้งข้า ไหนใครเขาบอกว่าอาจารย์มีเคล็ดวิชาอ่านใจเช่นไรจึงไม่รู้ว่าหยางหว่านจริงใจแค่ไหน”
คว้ากิ่งไผ่ตวัดมือเพียงพริบตากิ่งไผ่แหลมจ่อที่คอหอยของหยางหว่าน
“ใครกันช่างเอาเรื่องโกหกเหล่านั้นไปเล่าให้เจ้าฟัง หยางหว่านเจ้าเป็นศิษย์เกาซิ่งเพียงหนึ่งในสองที่ข้าวางใจ สิบปีที่ผ่านมาฝึกฝนจนสำเร็จวิชาของเกาซิ่งมีเพียงเจ้ากับจี้โม่ที่ข้าจะวางใจให้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก เช่นนั้นสิ่งที่เจ้าควรคิดถึงอันดับแรกคือการมุ่งมั่นที่จะฝึกตน และทำทุกวิถีทางให้ข้าวางใจมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้เจ้า เลิกเล่นสนุกอย่างที่ผ่านมาได้แล้ว”
ดวงตาที่มองไปยังหยางหว่านมีแววตำหนิชัดเจน
“อาจารย์ อาจารย์ใจร้ายที่สุด”
วิ่งออกจากตรงนั้นไปด้วยความรู้สึกหลากหลายในใจทั้งน้อยใจและเสียใจที่ถูกตำหนิและโมโหที่อาจารย์มองตัวเองเป็นเด็กเล่นสนุก ปู้ตานซินถอนหายใจ ถ้อยคำที่เขานำมันออกมาปกปิดความเขินอายที่ใกล้ชิดหยางหว่าน แล้วยังเรื่องวิชาอ่านใจนั่นอีกทำให้หย่างหว่านมองเขาผิดไป แต่เรื่องเคล็ดโวิชาไม่อาจเปิดเผยทำไมเขาจะไม่รู้เขารู้สึกตัวดีทุกอย่าง
ฟาดกิ่งไผ่ลงไปบนก่อไผ่ทั้งกอจน กอไผ่สูงตะหง่านล้มลงกับพื้นแหลกลาญ ปู้ตานซิน ถอนหายใจอีกครั้งก้าวข้ากลับเข้าไปในห้อง นั่งลงสงบสติอารมณ์
พลาดอีกแล้ว หรืออดีตไม่ช่วยอะไรเลยหรือไร
ถ้ำหินผนึกจอมมารฉูฉาง
“ท่านจอมยุทธ์จอมมารฉูฉางถูกผนึกอยู่ในนั้น แต่ห้ามเข้าไปด้านในเป็นอันขาด”
“เพราะอะไร เพราะเรื่องเล่าเกินจริงนั้นอย่างนั้นหรือ”
มีหรือจี้โม่จะไม่เคยได้ยินเรื่องเล่าของจอมมารฉูฉางมาก่อน ในเมื่อก่อนลงเขาศิษย์พี่ทั้งหลายต่างผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง
“แค่เพียงจอมมาร ที่พลาดท่าให้กับท่านปรมาจารย์กงล้ง จะสามารถสะกดคน ดูดพลังหรือเปลี่ยนยอดฝีมือให้กลายเป็นมารอย่างเขาได้หรือ”
จี้โม่มีหลายอย่างที่ปู้ตานซินมีและมีหลายอย่างที่ปู้ตานซินไม่มี หนึ่งในนั้นคือ ความทะนงตน
“ท่านจอมยุทธ์ เราทั้งหมดฝากความหวังไว้กับเหล่าปรมาจารย์จึงเชื่อฟังคำเตือนของเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลาย”หนึ่งในนั้นพูดเตือน
“อืม ข้าจะเข้าไปข้างใน มัวแต่เฝ้ารอเวลาเช่นนี้ เหมือนกับพวกเราทั้งหมดต่างเกรงกลัวจอมมารฉูฉางผู้นั้นเสียเต็มประดา ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าด้วยยอดฝีมือทั้งหมดนี้จะไม่สามารถเอาชนะจอมมารฉูฉางนั้นได้”ปรามาสคนอื่นคิดว่าการ เฝ้าสังเกตการณ์เป็นเพียงการขลาดเขลา
“ฝ่าบาทไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปข้างในใกล้เกินกว่าที่จอมมารฉูฉางจะสัมผัสได้”
หากจี้โม่รู้ว่าปู้ตานซินเองยังไม่กล้าปรากฏตัวให้จอมมารฉูฉางเห็น จะคิดว่าอาจารย์เป็นคนขลาดเขลาเช่นกัน
จี้โม่มาพร้อมกับความมั่นใจหารู้ไม่ว่า ความมั่นใจนั้นจะพาให้เขาต้องจดจำเรื่องราวต่อจากนี้ไปจนหมดลมหายใจ
“ก็ได้ข้าไม่เข้าไป หากฝ่าบาทสั่งห้ามเพียงนั้น"สะกดกลั้นอารมณ์คุกรุ่นภายในให้เย็นเยียบอย่างที่เคยเห็นปู้ตานซินทำ
จอมมารฉูฉางลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
"กงล้งข้ารอเจ้ามาหลายพันปี แต่ไร้วี่แววเริ่มกลัวข้าแล้วใช่ไหมถึงได้ ไม่ยอมปรากฏกายวันนี้ ข้าสัมผัสได้ถึงดวงจิตมารของคนผู้หนึ่ง 5555 เกรงว่าเจ้าจะต้องรับศึกสองด้านเสียแล้วกงล้ง รอวันที่จะทวงคืนความแค้นกับเจ้า555555555”ลมปราณที่ถูกผนึกไว้ กลับไหลเวียนกลับคืนมาอีกครั้ง กำลังวังชาที่ถดถอยกลับเพิ่มพูน
ฟ้าลั่น ครื้นๆ เหมือนจะตอบรับจอมมารฉูฉางได้อย่างดี เหล่ายอดฝีมือล้วนขนลุกขนพองสัมผัสได้ ถึงไอเย็นยะเยือกราวเข้าใกล้ภูเขาน้ำแข็ง
“ตั้งใจส่งศิษย์มา เพื่อการนี้หรือไรศิษย์ไม่มีทางจะเหนือกว่าอาจารย์”
ส่งศิษย์มาเพื่อหยั่งเชิงจอมมารหารู้ไม่ว่า จอมมารฉูฉางไม่เลือกคนแค่เพียงมีดวงจิตมารเขาก็พร้อม จะใช้งาน
ปรมาจารย์อาวุโส นำเส็งกกก๋งลืมตาขึ้น
“คงต้องไปเยือน สำนักเกาซิ่งดูสักครั้ง”
ก้าวขาออกจากถ้ำหิน ภัยของยุทธภพครั้งนี้ไม่อาจดูดาย แม้จะผนึกฉูฉางได้อีกครั้งทว่ากับบังเกิด จอมมารขึ้นใหม่ไม่รู้จักจบสิ้น
ดวงจิตมารมีอยุ่ในทุกผู้คน หากใครสามารถข่มไว้ได้ล้วนดี
แต่หากคนผู้นั้นเปิดใจยอมรับมันเสีย ยิ่งเท่ากับเพิ่มพลังให้ฝ่ายมารเข้าครอบงำจิตใจ
ปู้ตานซินปิดตัวเองไม่รับมันพยายามกลับมาแก้ไขด้วยตัวเขาเอง มีจิตใจคุณธรรมจึงยากที่ดวงจิตมารจะเข้าครอบงำแม้จะหลงใหลไปเพียงชั่วครู่ชั่วคราวทว่าสลัดทิ้งจนสิ้นไป นับว่ากล้าหาญไม่น้อย แต่ปู้ตานซินกับคาดไม่ถึงส่งศิษย์เอกที่มีดวงจิตมารเข้าใกล้จอมมารฉูฉางเสียแล้วยากจะแก้ไขเห็นที่นำเล็งกกก๋ง จะไม่อาจดูดายสำนักเกาซิ่งหวังต้าฉิน ถือพัดในมือเดินสำรวจตรวจตรา ศิษย์น้องที่กำลังร่ายรำเพลงกระบี่บ้างก็รวบรวมลมปราณทั้งบุกและตั้งรับ สิบกว่าปีมานี้อาจารย์แทบจะไม่ออกมาดูการฝึกสอนแค่เพียงจัดให้มีการประลองในแต่ละเดือนเฟ้นหาสุดยอดในบรรดาศิษย์แต่ละรุ่น ด่านค่ายกลของอาจารย์ล้วนพลิกผันไม่แน่นอน วันดีคืนดีก็ให้เขาพาศิษย์น้องทั้งหลายเข้าสู่ค่ายกลเพื่อที่จะฟันฝ่าออกมาเหมือนการลับคมมีด อีกทั้งยังสร้างความสามัคคี“จอมยุทธ์”เสียงแหบแห้งเรียกหวังต้าฉินจากด้านหลังร่างสูงหันมองนำเส็งกกก๋ง ด้วยสายตาฉงนสนเท่ห์ดวงตามืดบอด 🤢🤢🤢🤢🤢มือเหี่ยวใช้คลำไปตามทางแทนดวงตาไม้เท้าโค้งงอเขี่ยมาที่ตัว หวังต้าฉินเบาๆ“อาวุโส”“ข้าหลงทางมา หลายวันไม่มีสิ่งใดตกถึงท้อง”หวังต้าฉินใช่โง่งมเพียงอมยิ้มในหน้า ตามืดบอดทว่ารู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ อ
“อาจารย์ท่านจะช่วยศิษย์ต่อกรกับจอมมารในครั้งนี้หรือไม่”“ ข้าจะสละร่างในอีกห้าปีต่อจากนี้ คงไม่ทันได้ช่วยผ่อนหนักเบาช่วยเจ้า แต่ในคืนเดือนเพ็ญเดือนสือเอ้อเยว่ในปีที่สี่ ให้เจ้าลงเขาไปพบข้าเพื่อข้าจะถ่ายทอดเคล็ดวิชา”“เรื่องนี้จอมมารฉูฉางจะรับรู้และได้ยินที่เราพูดกันทั้งหมด พลังของเขากล้าแกร่งอยู่ในผนึกยังสามารถดึงพลังลมปราณมาใช้ เพียงแต่ไม่สามารถออกมา เรื่องราวระหว่างท่านปรมาจารย์กงล้งกับจอมมารฉูฉางเมื่อสี่พันปีก่อนเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครรู้แน่ชัด มีเพียงจอมมารกับเจ้าเท่านั้นที่รู้เรื่องราวเหล่านี้ดี ปู้ตานซินข้าหวังว่าเจ้าจะใช้เคล็ดวิชาท่องกาลเวลากลับไปยังความขัดแย้งนั้นเพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไปแก้ไขได้ถูก”“ศิษย์น้อมบัญชา อาจารย์อา อาจารย์ที่ผ่านมาครั้งนั้น ปรมาจารย์กงล้งสละร่าง ครั้งนี้ข้าจำเป็นต้องทำแบบนั้นหรือไม่”“เกรงว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น เจ้าเท่ากับมีศัตรูถึงสอง ครั้งนี้คงหนีไม่พ้นเช่นกัน”หยางหว่านก้าวขาเข้ามา พร้อมกับจอกชาและกาน้ำร้อนในมือกกก๋ง ถอนหายใจส่ายหน้าไปมา“เรื่องรักใคร่หากยากสลัดทิ้งไป ย่อมส่งผลเสียมากมายตามมา”“อาจารย์ปู่ อาจารย์”ย่อตัวลงช้าๆ“หยางหว่าน อาจารย์ปู่มอบกร
“ความจริงคือข้าไม่เคยรู้ว่ามาก่อนว่ารองเจ้าสำนักกระบี่ฟ้ากงล้ง จะเป็นคนเดียวกับ กวงเสี่ยวอึ้งที่ข้าเคยรู้จัก..และมอบใจให้ ข้าเพียงแต่อยากมาช่วยพูดให้ท่านวางใจว่าฉูฉางจะวางมือด้วยไร้กังวล เขากลัวว่าสหายผู้หนึ่งจะเป็นกังวลเพราะเขา”พูดความจริงไร้การเสแสร้ง“ไม่จริง”ดึงรั้งร่างบางเข้าใกล้กดริมฝีปากบดเบียดอย่างบ้าคลั่ง ฟูเหยี่ยนหยางหว่านสะบัดฝ่ามือลงบนแก้มของกงล้งอย่างแรง“ไหนท่านบอกว่า ท่านตั้งใจฝึกตนเพื่อจะได้ เป็นสุดยอดฝีมือ แล้วยังมาสนใจข้าทำไมกัน เรื่องที่ท่านพูดล้วนปลิ้นปล้อนไม่จริงไปเสียทุกอย่าง ในใจไม่รู้สึกอะไรในเมื่อท่านสูญเสียข้าไป ท่านจึงรู้ว่าแค่เพียงเสียดาย หาได้เสียใจ”“ไม่ หยางหว่านข้ารักเจ้า ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไป หากเจ้าจะไปกับฉูฉางข้าจะฆ่าเขาเสีย”“คนรักกันจากกัน ไม่เจ็บซ้ำเท่ากับคนที่ไม่รักต้องอยู่ใกล้ตา ปล่อยข้ากับฉูฉางไปเสียท่านปรมาจารย์อย่าได้แค้นเคืองเราทั้งสองคนเลย”“เจ้าพูดเองคนรักกันจากกันไม่เจ็บซ้ำเท่าคนไม่รักกันใกล้กัน เช่นนั้นเจ้ากับฉูฉางคงไม่รู้สึกอะไรหากต้องจากกัน”สกัดจุดฟูเหยี่ยนหยางหว่านจนตัวแข็งทือ หอบเอาร่างบางจากไป“ข้าจะผนึกเจ้าจนกว่าฉูฉางจะเลิกตามหาเจ
“เจ้าเด็กโง่ หากมิใช่ดวงจิตอวตารของข้า เจ้าคิดว่าจะเข้ามาในนี้ได้ง่ายดายอย่างนั้นหรือต้องมีดวงจิตมารแอบแฝง จึงมองข้ามเรื่องคุณธรรมเสียสิ้น”“ใครกำหนดกันว่า สิ่งไหนคือคุณธรรมสิ่งไหนคือจิตมาร”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ปลดปล่อยข้าสิแล้วเจ้าจะเข้าใจทุกอย่าง”คำพูดก้องในหัวของ จี้โม๋เหมือนเสียงสะท้อนในหุบเหวลึก ยกมือขึ้นอุดหูเสีย“โอหังเกินไปแล้ว เพียงแค่จอมมารปลายแถว ข้าเป็นถึงศิษย์เอกของท่านปรมาจารย์ปู้ตานซิน เจ้ากล้าโอหังกับข้าหรือ”ซัดฝ่ามือใส่ผนึก บางอย่างหมุนวนเข้าที่เดิม ทั้งพละกำลังและลมปราณที่รวบรวม คล้ายดังลมปราณของปู้ตานซินเมื่อก่อนหน้านั้น ผนึกสีฟ้าใสปริแตกเป็นรอยร้าวยาวเหยียด“ขอบใจที่ทำลายผนึกเพื่อข้า สมกับที่ข้ารอคอยเจ้ามาเนิ่นนาน เจ้ากับข้าไม่ต่างกัน เรารักมั่นกับนางผู้เดียว”“เจ้าหมายถึงเรื่องใดกัน”“จี้โม๋ อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่ได้มีใจให้กับฟูเหยี่ยน หยางหว่าน”“หยางหว่าน เจ้าตั้งใจจะทำอะไร”“นางเกิดมาเพื่อเป็นของข้าและเจ้า”หลงตั๋วขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าองครักษ์ที่เฝ้าถ้ำต่างถูกสกัดจุดจนสิ้น คลายจุดที่สะกัดออกเสีย“ใครกันทำเรื่องเช่นนี้”“ไท่จือ ศิษย์พี่ของท่านจี้โม่เร้นกายเข้าไปข้างใน
หลุดออกมาจากด่านค่ายกล สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดด้านล่างอากาศบริสุทธิ์ไม่น้อย อาภรณ์ชุดดำที่สวมใส่ทำให้องอาจน่ามอง ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะต้องเผชิญมันอย่างเด็ดเดี่ยวและตั้งใจเหมือนเมื่อสี่พันปีที่ผ่านมา“พลั๊ก..."ร่างบอบบางของใครบางคนกระเด็นออกมาชนร่างเขาเข้าเต็มแรง ปู้ตานซินคว้าเอวกิ่วไว้แน่น“อะ อาจารย์”หยางหว่านนั้นเอง นางบุกบั่นฝ่าค่ายกลลงเขามา แต่เขาเพียงแค่โบกมือค่ายกลก็พร้อมจะเปิดอ้า แต่หยางหว่านนางจะใช้ความสามารถทั้งหมดผ่าด่านค่ายกลลงเขา“กลับขึ้นไปเสีย”“อาจารย์จะบ้าหรือ ข้าเพิ่งจะผ่าด่านค่ายกลลงมาแสนจะยากลำบากอาจารย์กลับบอกว่าให้กลับขึ้นไป”ช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนอุ้มไว้ทั้งตัว จะห่างนางกับอยากใกล้ คิดถึงรสจูบและรอยกอด“อาจารย์ท่านจะทำอะไร”เมินหน้าไม่มองหยางหว่านในอ้อมแขน“อาจารย์จะทำอะไร”เสียงเข้ม“ข้าจะพาเจ้ากลับไปส่งที่บนเขา”หยางหว่านดิ้น หลุดจากอ้อมแขนลงมายืนจ้องหน้าปู้ตานซิน“อาจารย์ ต้องเป็นข้าที่โกรธอาจารย์เพราะอาจารย์...จูบข้า”ปู้ตานซินถอนหายใจ หันหลังเดินหนี หยางหวานเดินมายืนเผชิญหน้าเขย่งตัวขึ้นจุมพิตที่ปากของปู้ตานซินอย่างจงใจ“หายกัน อาจารย์จูบข้า ข้าจูบอาจ
จะกลับไปแก้ไขสิ่งใดได้ ตัวเจ้าก็เพียงกลับไปหลงกลรักของนางเช่นเดิม“อาจารย์ เรากำลังจะไปที่ไหนกัน”“หยางหว่านเจ้ารั้งอยู่กับบิดาเจ้า เสร็จเรื่องแล้วอาจารย์จะรับเจ้ากลับขึ้นเขา”น้ำเสียงเรียบเฉยไม่มีสีหน้าแสดงความกังวลหรือรู้สึกเช่นไร“แต่”“หยางหว่านมีบางอย่าง พลาดไป”“ไม่เป็นไรศิษย์ตั้งใจ ร่วมเดินทางอยู่แล้ว”“เจ้า ไม่ได้อยากร่วมเดินทางแค่เพียงอยากพบจี้โม่ เช่นนั้นเป็นข้าที่พาเขากลับมาหาเจ้าเอง”“อืม ศิษย์น้องจี้โม่ลงเขามานานแล้ว ข้ากำลังคิดถึงเขาพอดี อาจารย์กำลังจะตามเขากลับขึ้นเขาใช่หรือไม่”ดวงตาใสซื่อ แม้ปู้ตานซินจะพยายามคิดว่านางเป็นเช่นนี้ประจำอยู่แล้ว แต่ก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้ หยางหว่านแสดงความดีใจเมื่อพูดถึงจี้โม่“รั้งอยู่กับบิดาเจ้า ข้าสัญญาจะพาเขากลับมา”จี้โม่ เร้นกายในถ้ำน้ำแข็ง ที่เคยเป็นที่ซ่อนกายของฉูฉาง ร่างฉูฉางที่ถูกผนึกนั้น กลับกลายเป็นเพียงร่างที่ไร้วิญญาณรอวันเหี่ยวแห้ง ร่างกายของจี้โม่กลับ ทรงพลังมีลมปราณและกำลังวังชามากกว่าผู้ใด“ฆ่าปู้ตานซินเสีย ข้าจึงจะปล่อยเจ้า”ใบหน้าผลัดเปลี่ยนไปมาระหว่างใบหน้าของฉูฉางกับจี้โม่ จี้โม่กล้ำกลืนความเจ็บปวดเหมือนมีเข็มนับแสนนับล้
“ข้ามีลูกของเขาอยู่ในครรภ์ กงล้งปล่อยข้าไปเสีย ข้ากับฉูฉางสัญญาจะไม่กลับมาที่นี่อีก ท่านเป็นถึงปรมาจารย์อีกทั้งยังหนุ่มแน่นคาดว่าไม่นานจะต้องพบรักแท้”“รักแท้ของข้ามีเพียงเจ้าฟูเหยี่ยน หยางหว่าน”“ท่านแค่เพียงรู้สึกเสียดาย รู้สึกว่าฉูฉางเหนือกว่าท่าน เพราะข้าเลือกเขา หากนานไปท่านก็จะรู้ว่า ยังมีหญิงอื่นที่คู่ควรท่าน ข้าหาคู่ควรไม่ปล่อยข้าไปเสีย”“ไม่ไม่...ไม่มีทาง" โถมร่างเข้าใส่กอดจูบพัลวัน ร่างเล็กของหยางหว่านไม่อาจต่อต้านขัดขืน“ได้โปรดกงล้งปล่อยข้าไปเสีย”“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้ารักฉูฉาง เจ้าแค่เพียงหาใครสักคนแทนที่ข้า ในเมื่อมีข้าแล้วเขาก็หมดประโยชน์”หยางหว่านหลับตาลงช้าๆ ไล่หยาดน้ำตาเมื่อร่างใหญ่เปลือยเปล่ากอดรัดอยู่บนแท่นนอน บทรักเร่าร้อนกลายเป็นอ่อนหวานอ่อนโยน ไม่อาจต่อสู้ขัดขืนยอมให้เข้าครอบครองร่างกายแม้จะบอกว่าไม่เต็มใจ แต่ภายในใจกับไม่อาจต้านทาน ไฟเสน่หาทั้งๆ ที่ในครรภ์มีเลือดเนื้อเชื้อไขของฉูฉางในนั้น สะอื้นไห้ปานจะขาดใจ กงล้งจูบซับน้ำตากอดรวบร่างบาง ด้วยความรักดั่งดวงใจ“ข้าไม่เคยลืมเจ้า ข้าไม่เคยไม่รักเจ้าฟูเหยี่ยนหยางหว่าน ลืมฉูฉางเสีย แล้วอยู่กับข้า ข้ารับรองจะรักและดูแลเ
“จี้โม่ ช้าไปแล้วจี้โม่แอบเข้าไปในถ้ำที่ผนึกจอมมารฉูฉาง ตอนนี้หนีหายไปไม่มีผู้ใดพบเห็น”“ศิษย์พี่ท่านว่ามีความเป็นไปได้เพียงใด ที่จี้โม่จะเป็นผู้ทำร้ายปู้ตานซิน”ป้อก้านส่ายหน้าไปมา“จี้โม่ จะต่อกรกับปู้ตานซินที่เป็นอาจารย์ได้อย่างไร นอกจาก…จะได้พลังมารจากจอมมารฉูฉาง”“ศิษย์พี่ อย่างนั้นแสดงว่าปู้ตานซินรู้เรื่องนี้ดี”“ปิดสำนักสร้างค่ายกล ป้องกันสำนักไว้ ข้าจำต้องช่วยปู้ตานซินเสียเดี๋ยวนี้ หากจี่โม่หรือจอมมารฉูฉางมาตามหาปู้ตานซินที่นี่เกรงว่าเราไม่อาจปกป้องเขา”“ท่านพ่อจะช่วยอาจารย์ได้อย่างไร”หยางหว่านสีหน้าเป็นกังวล“ข้าจะต้องถ่ายลมปราณบางส่วนให้เขา อาจพอให้อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นแต่อาจไม่สามารถช่วยได้มากด้วยความที่ปู้ตานซินเป็นถึงปรมาจารย์ลมปราณของเขาสูงส่งกว่าข้าไม่น้อย หากจะให้เขาดีขึ้นจนเป็นปกติจะต้องใช้ลมปราณของ พวกเราถึงสองคน”ป้อคุนรีบออกตัว“ศิษย์พี่ หากจอมมารมาที่นี่เราสองคนไม่มีใครเหลือพลังลมปราณเกรงว่า สำนักป้อหยางของเราจะราบเป็นหน้ากลอง”ป้อก้านพยักหน้าแม้จะห่วงปู้ตานซินแค่ไหนแต่ก็ห่วงสำนักที่สร้างมากับมือมากกว่า“เช่นนั้นให้ข้าถ่ายลมปราณให้เขาเพียงคนเดียวส่วนเจ้าระหว่างนี้