Share

ก้าวเดิน

หลุดออกมาจากด่านค่ายกล สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดด้านล่างอากาศบริสุทธิ์ไม่น้อย อาภรณ์ชุดดำที่สวมใส่ทำให้องอาจน่ามอง ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะต้องเผชิญมันอย่างเด็ดเดี่ยวและตั้งใจเหมือนเมื่อสี่พันปีที่ผ่านมา

“พลั๊ก..."ร่างบอบบางของใครบางคนกระเด็นออกมาชนร่างเขาเข้าเต็มแรง ปู้ตานซินคว้าเอวกิ่วไว้แน่น

“อะ อาจารย์”หยางหว่านนั้นเอง นางบุกบั่นฝ่าค่ายกลลงเขามา แต่เขาเพียงแค่โบกมือค่ายกลก็พร้อมจะเปิดอ้า แต่หยางหว่านนางจะใช้ความสามารถทั้งหมดผ่าด่านค่ายกลลงเขา

“กลับขึ้นไปเสีย”

“อาจารย์จะบ้าหรือ ข้าเพิ่งจะผ่าด่านค่ายกลลงมาแสนจะยากลำบากอาจารย์กลับบอกว่าให้กลับขึ้นไป”ช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนอุ้มไว้ทั้งตัว จะห่างนางกับอยากใกล้ คิดถึงรสจูบและรอยกอด

“อาจารย์ท่านจะทำอะไร”เมินหน้าไม่มองหยางหว่านในอ้อมแขน

“อาจารย์จะทำอะไร”เสียงเข้ม

“ข้าจะพาเจ้ากลับไปส่งที่บนเขา”หยางหว่านดิ้น หลุดจากอ้อมแขนลงมายืนจ้องหน้าปู้ตานซิน

“อาจารย์ ต้องเป็นข้าที่โกรธอาจารย์เพราะอาจารย์...จูบข้า”

ปู้ตานซินถอนหายใจ หันหลังเดินหนี หยางหวานเดินมายืนเผชิญหน้าเขย่งตัวขึ้นจุมพิตที่ปากของปู้ตานซินอย่างจงใจ

“หายกัน อาจารย์จูบข้า ข้าจูบอาจารย์ต่อไปห้ามโกรธหยางหว่าน”

ปู้ตานซินตกตะลึงเลิกคิ้วสูงแต่กลับตวัดอ้อมแขนกอดรวบร่างบางกดริมฝีปากกับปากบางด้วยความเร่าร้อนรุนแรง หยางหว่านเซแซดๆร่างอ่อนระทวยกับรสจูบของอาจารย์ที่ตั้งใจให้หวานจนหยางหว่านแทบจะละลายในอ้อมกอด

“ยัง ข้าจูบเจ้าสองครั้งเจ้าจูบข้าเพียงแค่ครั้งเดียว”

หยางหว่านเบ้ปาก แต่ร่างบางกับซบที่อกของอาจารย์ยกมือขึ้นกอดรอบเอวหนา

“แล้ว...ต้องให้จูบคืนหรือไม่ แล้วอาจารย์อยากให้จูบคืนหรือไม่”ภายใต้ร่มไม้ใบหนา ปู้ตานซินผลักร่างบางให้ล้มลงไปบนพื้นหญ้านุ่มโน้มตัวลงจุมพิต หยางหว่านที่มองเขาด้วยสายตา ชื่นชม

“เจ้าต้องการอย่างนั้นหรือ เจ้าจะไม่เสียใจที่จูบข้าอย่างนั้นหรือ”กดริมฝีปากอีกครั้งคราวนี้หวานฉ่ำจนอีกคนแทบสำลัก ถอนริมฝีปากออกช้าๆ หยิบปอยผมที่ละใบหน้าออกสบตาหวานฉ่ำมากความหมาย

“อะอาจารย์ หยางหว่าน แค่เพียงพูดเย้าอาจารย์เล่น”

“คราวหลัง จำไว้ว่าอย่าเย้าข้าแบบนี้อีก อาจารย์ล้วนถือเป็นจริงจัง เจ้าเคยเห็นข้าพูดเล่นหรือไร”

หยางหว่านหลบตาคม ก้มมองแผงอกกว้างที่แสนจะอบอุ่นนั้น

“กลับขึ้นไปบนเขา ข้าจะไปส่งเจ้า รอข้าที่นั่น ข้าจัดการเรื่องเร่งด่วนเสร็จแล้วจึงจะกลับขึ้นเขา” ดึงมือหยางหว่านให้ลุกขึ้น แต่อีกคนขืนตัวไว้

“อาจารย์ไม่..หยางหว่านอุตส่าห์ดั้นด้นตามท่านมา จะใจร้ายไม่ให้หยางหว่านไปด้วยหรือไร”

“อันตราย มันอันตรายเหลือเกิน”ความจริงที่ไม่อาจพูด คือเขาไม่อยากให้ ฉูฉางเห็นว่าหยางหว่านอยู่กับเขา

“อาจารย์”น้ำเสียงออดอ้อนดึงมือไว้เสีย ปู้ตานซินถอนหายใจยาว จะปกป้องนางได้อย่างไรถึงฉูฉางจะไม่ฆ่านาง แต่ฉูฉางก็จะต้องหาทางครอบครองนางเสีย

หวนคืน

“ท่านเจ้าสำนัก จอมมารฉูฉาง สูบเนื้อดื่มเลือดชาวบ้านและเหล่าจอมยุทธ์เพื่อเพิ่มพลังมาร เรื่องเล่าขานว่ากันว่ายิ่งฉูฉางดื่มเลือดสูบเนื้อจอมยุทธ์ที่เก่งกล้ายิ่งจะเพิ่มพลังให้กับเขา อาจารย์ท่านจะมานิ่งเฉยอย่างนี้ไม่ได้”

ศิษย์สำนักกระบี่ฟ้าพูดขึ้นด้วยความร้อนรน

“อาจารย์”

“เขาเพียงแค่ต้องการเอาชนะข้า อีกอย่างเพื่อเป็นอมตะเขายินดีปล่อยดวงจิตให้เป็นมาร เพื่อหวังจะได้มีร่างกายคงความอ่อนเยาว์ และเก่งกาจเหนือใคร เจ้าดูแลสำนักให้ดี ข้าจะไปจัดการกับจอมมารฉูฉาง หากว่าข้าพลาดพลั้งไป ให้เจ้านำร่างของข้ามา เก็บรักษาไว้ที่สำนัก ตามหาร่างของฟูเหยี่ยนหยางหว่านที่จอมมารฉูฉางเก็บรักษาไว้ จนกว่าจะถึงยามที่มีสุริยคลาสแล้วค่อยจุดไฟเผาร่างข้ากับฟูเหยี่ยนหยางหว่านให้มอดไหม้เป็นจุลไปพร้อมกัน”ปรมาจารย์กงกล้งสั่งเสียกับลูกศิษย์

“อาจารย์อาจารย์จะสละร่างอย่างนั้นหรือ”

“การผนึกจอมมาร มีเพียงการสละร่างก็เท่านั้น อย่าได้ห่วงเลย”

“อาจารย์เช่นนั้นศิษย์ขอติดตามอาจารย์ ศิษย์เป็นห่วงอาจารย์เหลือเกิน”

“ไม่มีใครช่วยข้าได้ทุกอย่างล้วนเป็นสวรรค์กำหนดไว้แล้ว เจ้าดูแลสำนักและทำตามที่ข้าสั่งไว้ก็พอ จำไว้ต้องหาร่างนางให้พบแล้วนำมาเผาไปเสียพร้อมกันกับข้าในวันสุริยคลาสเพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณนางให้ไปเกิดใหม่ มิใช่ต้องถูกฉูฉางกักขังอยู่อย่างนี้”ศิษย์เอก ปาดน้ำตา

“ศิษย์น้อมรับคำสั่ง อาจารย์ท่านจะยอมสละร่างจริงหรือ”

“การผนึกฉูฉางต้องใช้ลมปราณมหาศาล อีกทั้งเคล็ดวิชาที่ข้ามีทั้งหมด เกรงว่าอาจน้อยไป มีเพียงสิ่งเดียวที่จะช่วยทุกคนไว้ได้หากขืนปล่อยให้จอมมารสูบเนื้อดื่มเลือดต่อไปผู้คนยิ่งล้มตาย อย่าเสียใจไปอาจารย์จะต้องกลับมาอีกครั้งให้จงได้”

ศิษย์เอก ทรุดกายคุกเข่าลงกับพื้น ปรมาจารย์กลงล้ง เขม่นมองไปที่ขอบฟ้า หน้าที่ผนึกฉูฉางเป็นเขาเอง เพราะเขาเป็นผู้ปลุกจิตมารในตัวของฉูฉาง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status