“ข้าไม่ไป”
“ข้ากับอาจารย์ไม่ต้อนรับเจ้า” เอาตัวเข้าขวางไว้เมื่อปู้ตานซินเดินไปข้างหน้าแล้วเจวียนจิ่วหยาทำท่าจะเดินตาม
“ข้าจะบอกอะไรให้ พูดแล้วจะหาว่าคุย ข้าสืบเรื่องราวของท่านมาทั้งหมดแล้ว รู้อะไรไหม ข้ากับกระบี่เจียงเฉียงเราสองคนเป็นดั่งพี่น้อง ตอนนี้ท่านทั้งสองตามรอยนางข้าสามารถพาท่านตามจนพบนางได้ไม่ยาก” ปู้ตานซิน หยุดก้าวเดิน
“อาจารย์ นางบอกว่าจะพาเราตามหากระบี่เจียงเฉียง”
“ไล่นางไปเสีย”
“ดะดะเดี๋ยวข้าจะบอกอะไรให้ กระบี่เจียงเฉียง นางใช้เคล็ดวิชาที่ท่านจอมมารถ่ายทอดในการหลบหลีกเร้นกาย"กอดอกทำสีหน้า อมภูมิ
“แล้วข้าก็เป็นคนผู้หนึ่งที่สามารถใช้เคล็ดวิชาในการหากระบี่เจียงเฉียงได้ตลอดเวลา”กอดอกด้วยท่าที่หยิ่งผยอง
“ไล่นางไปเสีย”
“เอ้า จริงๆ นะข้าไม่ได้โกหก”
“เจ้าไปเสีย”เริ่นเจินไล่ เจวียนจิ่วหยาเงื้อไม้เงื้อมือด้วยความเคยตัว
“ข้าจะหักนิ้วท่านเสีย ข้อหากล้าปฏิเสธข้า”
คว้ามือปู้ตานซิน ตั้งจะจะหักนิ้วเหมือนที่เคยทำกับคนอื่น แต่ทว่าไม่ว่าจะออกแรงอย่างไรก็ไม่อาจ หักนิ้วของปู้ตานซินได้
ปู้ตานซินผลักร่างบางลงไปกองกับพื้น คราวนี้เริ่นเจินไม่รับไว้เหมือนคราวก่อน
ลงไปนั่งกับพื้นก้นจ่ำเบ้า ดึงมีดสั้นออกมาปาเข้าใส่กระต่ายป่าเพื่อระบายโทสะ ปู้ตานซินใช้วิชาแยกร่างไวกว่าแสง คว้าเอาตัวกระต่ายน้อยมาไว้ในอ้อมแขน
“ข้าเกลียดท่าน”
“ข้าก็ไม่ได้ชอบเจ้า ออกจะไม่พอใจด้วยซ้ำที่มีใครมาวุ่นวายกับข้า ไปเสียก่อนที่ข้าจะโมโหและสั่งสอนเจ้ามากกว่านี้”
“ไม่มีทาง”
ปู้ตานซินเดินหนี เจวียนจิ่วหยาวิ่งตามเอื้อมมือกระชากไหล่กว้างให้หันมาก่อนจะล้มลงไปทั้งคู่
หุบเขาหนึ่งแสนคนชั่ว
ที่ตั้งของ พรรคมารที่ฉูฉางหรือจี้โม่ก่อตั้งขึ้นรับเฉพาะคนโฉดชั่ว ไร้คนคบหาต่างกันกับเขาตงกุ้ยและสำนักเกาซิ่งโดยสิ้นเชิง หากใครไม่มีที่พำนักด้วยความชั่วช้าจนผู้คนปฏิเสธ เพียงยินยอมเรียกฉูฉางว่าท่านประมุขก็ล้วนแต่อาศัยพักพิงบนเขาได้ง่ายดาย
“กระบี่เจียงเฉียง เพิ่งจะกลับจากแดนใต้ ท่านประมุขเรียกนางมานี่หรือไม่”ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติแต่แววตาดุดันน่ากลัว ปลายเล็บแหลมคมฝังคมมีดคมกริบกรีดนิ้วบนหินจนเกิดประกายไฟ
“ตามนาง” เสียงก้องกังวานดุจเสียงสะท้อนที่เส้นเสียงเป็นทั้งของจี้โม่และฉูฉางปนเปกันไป
กระบี่เจียงเฉียงเดินมาหน้าแท่นนั่งประสานมือตรงหน้า
“ท่านประมุข”ภายใต้หน้ากากสีทองกับดวงตาที่ไร้ซึ่งความอ่อนโยนของหยางหว่าน มนุษย์สำหรับเจียงเฉียงคือเลือดและเนื้อสำหรับท่านประมุข
“เจ้าจับคนมาให้ข้า ดื้มเลือดสูบเนื้อเสียมากมายลองให้เจ้าดื่มเลือดพวกมันบ้างเหตุใดจึงกล้าปฏิเสธ”
“ศิษย์ อยากจะเก่งกาจเช่นอาจารย์ ทว่าเมื่อได้กลิ่นเลือดเนื้อผู้คนเหตุใดจึงคลื่นเหียนวิงเวียนทุกครั้งไป”
“เจียงเฉียงอย่าลืมเจ้าเป็นหนี้บุญคุณข้า พ่อแม่เจ้าถูกปรมาจารย์ปู้ตานซินฆ่าตาย เจ้าหากข้าช่วยไม่ทัน มีหรือจะสามารถรักษาชีวิตไว้”
“ศิษย์ทราบดี ศิษย์สำนึกบุญคุณอาจารย์เป็นอย่างมาก แต่จะให้ดื่มเลือดสูบเนื้อ คงต้องรอให้เจียงเฉียง หาวิธีแก้ไขอาการคลื่นเหียน”
“การดื่มกินเลือดเนื้อมนุษย์ล้วนเป็นสุดยอดเคล็ดวิชา”
“เจียงเฉียงทราบแล้ว ศิษย์จะพยายาม”ฉูฉางเดินลงจากแท่นนั่งยกแขนขึ้นโอบรอบไหล่บาง
“ข้าก่อตั้งพรรคมารมีเจ้าเคียงบ่าเคียงไหล่ ปู้ตานซินผู้นั้นสังหารพ่อกับแม่ของเจ้า อีกทั้งยังย่ำยีความสาวของเจ้าจนสิ้น อีกทั้งยังคิดจะฆ่าเจ้า โยนร่างของเจ้าลงไปที่หุบเหวลึก ครั้งนี้ถึงเวลาที่ข้าจะปล่อยเจ้าไปพบกับปู้ตานซินผู้นั้นแล้ว”
ยกมือขึ้นลูบแก้มเนียนเบาๆ เจียงเฉียงไม่มีท่าทีขัดขืนแต่ในใจกลับรู้สึกไม่สู้ชอบใจนัก นางถูกสอนมาตลอดว่าท่านประมุขเป็นเหมือนบิดา ท่านประมุขเป็นทุกสิ่งและท่านประมุข คือคนสำคัญจึงได้แต่นิ่งเฉยเสีย
“ท่านประมุข ข้ารอเวลานี้มานาน รอวันที่ท่านจะยอมให้ข้าได้ชำระแค้น”
“เจ้าแน่ใจใช่ไหมว่าจะไม่ออมมือ”ดวงตาเยือกเย็นกับใบหน้าเฉยชา
“ข้าจะฆ่าเขาทันที ที่พบหน้าแค่นี้พอจะการันตีได้หรือไม่ว่าข้าจะไม่ออมมือ”
ฉูฉางยิ้มมุมปากแน่ใจว่าเจียงเฉียงจะไม่มีทางที่จะจำปู้ตานซินได้ในเมื่อเขาลบความทรงจำนางไปหมดแล้ว
“ปู้ตานซิน มักถูกพูดถึงว่าสูงส่งบริสุทธิ์ เจียงเฉียงหากเขาไม่ยอมลงมือกับเจ้า ข้าขอให้เจ้าฆ่าเขาก่อนที่จะถามคำถามใดใด”
“ท่านประมุขวางใจ ข้าพร้อมจะฆ่าเขาแล้ว"
ที่ประชุมชาวยุทธ์จากสำนักต่างๆ ทั่วยุทธภพที่ต่างมารวมตัวกันที่ เรือนอารักขาหน้าถ้ำที่ผนึกจอมมารฉูฉางพร้อมกับร่างเหี่ยวแห้งไร้ดวงจิต“จอมมารฉูฉางเหิมเกริม เข่นฆ่าชาวบ้านจับตัวดื่มเลือดสูบเนื้อล้มตายนับไม่ถ้วน ยิ่งนานวันยิ่งแผ่ขยายอำนาจจนน่ากลัว สามปีมานี้เกินที่จะทนแล้ว”หวังต้าฉินนั่งในแถวรอฟังเหล่าปรมาจารย์หารือกัน“เดิมเป็น ท่านปรมาจารย์กงล้งที่สละร่างผนึกจอมมารไว้ ว่าคราวนี้กลับมาอีกครั้งกับผนึกร่างกับศิษย์ของสำนักเกาซิ่งจี้โม่ยิ่งเพิ่มความเหิมเกริม”“เห็นที่จะต้องรวบรวมผู้กล้าจัดการจอมมารเสีย หากยิ่งนานวันยิ่ง จะมีพลังแก่กล้า”ป้อก้านออกความเห็น“ปรมาจารย์หนุ่มปู้ตานซิน ได้ข่าวว่าออกตามล่าจอมมารฉูฉางถึงสามปีมานี้ยังไม่อาจโค่นล้มจอมมารลงได้ ไหนหลายคนต่างยกย่องให้เป็นยอดปรมาจารย์”เสียง เหน็บจากปรมาจารย์อาวุโสเง็กเต็กที่เคยไปช่วงชิงป้ายสำนัก เกาซิ่ง“ใช่ๆๆ ”หลายเสียงเห็นพ้อง“ ปรมาจารย์อาวุโสเง็กเต็กท่านไม่แยกแยะถูกผิดชั่วดี เอาความแค้นส่วนตัวมา พูดจาให้ผู้อื่นเข้าใจอาจารย์ข้าผิดไป ตอนนี้อาจารย์กำลังหาทางกำจัดจอมมารสืบหาเคล็ดวิชาทั่วหล้า หาได้นิ่งดูดายไม่ อีกอย่างเมื่อครั้งที่ปีศาจพ
“ ศิษย์พี่” เจวียนจิ่วหยาดึงมือหยางหว่าน เมื่อเห็นว่าอีกคนตะลึงตาค้าง“ข้าทำอะไรลงไป”หลุดคำพูดจากใจออกมา“ศิษย์พี่ท่านทำได้แล้ว ท่านจอมมารจะต้องชื่นชมท่าน”เจวียนจิ่วหยากืนน้ำลายลงคอช้าๆ ในใจรู้สึกเหมือนหัวใจถูกตัดเฉือนออกไป ปากกับใจไม่ตรงกัน หันหน้าหันหลังมอง เริ่นเจินที่หอบร่างปู้ตานซินหายลับไปกับตา“กลับขึ้นเขาหนึ่งแสนคนชั่วกันก่อนดีกว่า ข้าพาท่านไป”เจวียนจิ่วหยาถูกสอนมาตลอดว่าหยางหว่านเป็นเสมือนนายหญิงเป็นรองเพียงท่านจอมมารเพียงคนเดียวจึงต้องเคารพและให้ความช่วยเหลือหยางหว่านทุกอย่างไม่ว่านางจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม ตั้งแต่ขึ้นไปอาศัยอยู่บนเขาหนึ่งแสนคนชั่ว ในตอนที่บิดามารดาขายนางให้กับพ่อค้าทาส เจียนจิ่วหยาใช้มีดแทงยอดอกของพ่อค้าทาส ที่กำลังจะทำมิดีมิร้ายเจวียนจิ่วหยาจนต้องหนีขึ้นมาบนเขาเมื่อมีคนตามจับตัว ตั้งแต่นั้นมาการชิงลงมือก่อนจึงเป็นคติประจำตัว หยางหว่านเป็นดังพี่สาวที่คอยสั่งสอนดูแล หลายครั้งที่ท้ังคู่ร่ายรำกระบี่ด้วยกัน หลายครั้งที่ทั้งคู่ร่ำสุราด้วยกัน“ข้า ทำไมรู้สึกเจ็บปวด”น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอ เจ็บที่ใจจนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้“ศิษย์พี่ ท่านเพียงแค่ยังไม่เคยลงมือ
“ในที่สุดเจ้าก็ทำได้ กระบี่เจียงเฉียง ข้ามองเจ้าไม่ผิดไปจริงๆ ”ฉูฉางในร่างของจี้โม๋แสดงความพึงพอใจ“ท่านประมุข แล้วทำไมข้าถึงรู้สึก ถึงรู้สึกว่าข้าเสียใจที่ทำร้ายเขา”สับสนจน ไม่อาจปิดบังความรู้สึกภายในจิตใจเผยความนัยออกมาโดยที่ฉูฉางไม่ต้องใช้วิชาอ่านใจเช่นเดียวกับปู้ตานซิน“เป็นธรรมดา เจ้ากับเขารู้จักกันมาก่อน แค่เพียงรู้สึกเสียใจก็เป็นเรื่องธรรมดา”“ข้าๆ”“ หากเขาตาย ข้าเตรียมรางวัลใหญ่สำหรับเจ้า”“อาจารย์ ข้าขอกลับไปแดนใต้ช่วยคัดคนให้อาจารย์เหมือนเดิมดีกว่า”ฉูฉางยิ้มเปล่งเสียง ออกมาดังๆ“ต่อไปเป็นหน้าที่ของเจวียนจิ่วหยา ที่จะทำเรื่องนี้แทนเจ้าหยางหว่านเจ้าควรจะเอาเวลาที่เหลืออยู่ที่นี่ เป็นคนของข้า”“ท่านประมุข หมายความว่าอย่างไร”“หยางหว่านข้ารอเวลานี้มานาน สี่พันปีเพื่อให้ได้พบเจ้าอีกครั้ง”“ท่านมุข หยางหว่านไม่อาจ ทำตามที่อาจารย์กล่าว”“เจ้าเหตุใดถึงปฏิเสธข้าหรือว่า”หลับตาลงช้าๆ สำรวจลมปราณที่อ่อนแรงของปู้ตานซินได้ในทันที“กระบี่เจียงเฉียงข้ารับรู้ได้ว่าเขายังไม่ตาย เจ้าใจดีเกินไปตั้งใจออมมือปล่อยให้ปู้ตานซินรอดชีวิตหรือไร”ส่งเสียงดังกังวานเหมือน เสียงสะท้อนในหุบเขา“หยางหว่านหน
กงล้งซัดฝ่ามือเข้าใส่ฉูฉางจนกระเด็นไปติดผนังถ้ำกระอักเลือดสดๆออกมา ก่อนที่เขาจะฉุดมือหยางหว่านออกจากถ้ำไปหยางหว่านสะบัดแขนอย่างแรงจนหลุดจากการเกาะกุมวิ่งถลาไปหอบร่างอ่อนแรงของฉูฉาง ที่วรยุทธ์ของเขาไม่มีทางสู้กงล้งได้“เจ้าสงสารมันหรือมีใจให้มัน หยางหว่านไปกับข้าเสียไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเขาเสีย”“อย่าทำแบบนั้นกงล้ง เขาเป็นสหายของท่าน”“เจ้าผิดแล้ว ข้ากับเขาขาดกัน ตั้งแต่วันที่ข้าพบเจ้ามากับเขาในวันนั้น”“ท่านจะทำแบบนี้ไม่ได้ เขาบาดเจ็บสาหัส ให้ข้าพาเขาไปรักษาก่อน”ฉูฉางลืมตาขึ้นมา ในอ้อมกอดของหยางหว่าน“ข้ายอมตายอย่าได้ขอร้องเขาอีกเลย หากเขาต้องการตัวเจ้าจะต้องฆ่าข้าเสียก่อน”ฉูฉางส่งเสียงลอดไรฟัน“ได้ ข้าจะไม่ทำให้เจ้า ผิดหวัง”รวบรวมลมปราณ ขั้นสูงสุดไว้ที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง ซัดฝ่ามือเข้าใส่ฉูฉาง แต่ลืมว่าหยางหว่านนั่งอยู่ที่นั่นด้วยหยางหว่านหอบร่างไร้เรี่ยวแรงของฉูฉางอยู่ “เจ้าเลือกเองฉูฉางข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว”ซัดฝ่ามือเข้าใส่ ฉูฉางที่ไม่อาจหลบหลีก หยางหว่าน ผลักร่างสูงของฉูฉางให้เซถลา ลมปราณสูงสุดจากฝ่ามือของกงล้งซัดเข้าที่หน้าอกของหยางหว่านเต็มแรง ริมฝีปากบางพ่นเลือดสดๆออกมา กงล้งอ้าป
“ข้ามีเคล็ดวิชาหลากหลาย แค่เพียงเร้นกายง่ายดายกว่าสิ่งใด”“ท่านไปเสียไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าท่านเสีย”ปู้ตานซินยิ้ม“หากข้าจะบอกว่าข้าอ่านใจเจ้าได้เล่า”หยางหว่านถอยห่างไปเรื่อยๆ อีกคนกลับสาวเท้าเข้ามาใกล้“ไม่มีผู้ใดมีเคล็ดวิชาแบบนั้นมาก่อน ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีเคล็ดวิชาอ่านใจข้าไม่เชื่อในใจข้ามีแต่จะคิดฆ่าท่าน”ปู้ตานซินยิ้ม เขาไม่เคยเอ่ยปากบอกใครว่าเขาสามารถอ่านใจคนออก ตามที่ปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงกำชับมา จึงเป็นเพียงเรื่องเล่าขาน หยางหว่านก่อนหน้านั้นเขาก็ใช้เคล้ดวิชานี้กับนางก็หลายหน แต่นางไม่เคยระแคะระคายแม้แต่น้อย“เจ้าเป็นห่วงข้ากลัวว่าจะถูกจอมมารฉูฉางพบเข้า แล้วยังดีใจที่ข้ารอดชีวิตจากคมมีดของเจ้า ข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก”พูดไปยิ้มไปหยางหว่านอ้าปากค้าง ในใจนางคิดอย่างนั้นไม่ผิดเพี้ยน“ที่นี่เขาหนึ่งแสนคนชั่ว เช่นไรท่านจะหนีรอดไปได้”หยางหว่านถอยไปชิดติดผนังห้องไม่อาจถอยหนีได้อีกแล้ว ปู้ตานซินอมยิ้ม“ยอมรับมาแล้วหรือว่าเจ้าห่วงข้า ดีใจเสียจริงเจ้าห่วงข้าเพียงนั้น กลัวว่าข้าจะพบกับอันตราย”หยางหว่านค้อนเสียวงใหญ่คนอะไรหลงตัวเองยิ่งนัก“ข้าไม่...อุ๊ป”ปากบางโดนปิดสนิทแน่นบดเบียดอ่อนหวา
“นางเป็นของข้ามาก่อน”“แก้ตัวไปก็ไม่มีประโยชน์ ความแค้นของเราสองคนวันนี้จักต้องสะสางให้หมดไป แต่บอกไว้ก่อนปู้ตานซินข้าดื่มเลือดสูบเนื้อมานาน เคล็ดวิชาสุดยอดนี้ทำให้ข้าเหนือกว่าเจ้าสิบปี ความจริงไม่อาจเปิดเผยแต่เมื่อเห็นว่า เจ้ากำลังจะตายคนตายจึงเป็นคนที่เก็บความลับได้ดีที่สุด”“หากเป็นความลับของเจ้า ถึงข้าตายไปข้าก็จะขอเหยียนหลัวหวางกลับมาเปิดโปงมันเสีย”“ยังไม่เปลี่ยน กงล้งเจ้าเป็นคนที่อ่อนนอกแข็งใน วาจาแม้ไม่ยี่หระแต่ทว่าน้ำใจงาม ข้าชอบเจ้าเสียจริง เช่นนั้นข้าช่วยให้เจ้าพบเหยียนหลัวหวางได้เร็วขึ้น”ซัดฝ่ามือเข้าใส่ทันทีแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ปู้ตานซินโดนฝ่ามือเข้าเต็มเปาร่างลอยไปชนเข้ากับผนังถ้ำ แต่ยังคงแบกร่างหยางหว่านไว้ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บวางร่างบางของหยางหว่านลงบนพื้นฉูฉางรวบรวมพลังลมปราณซัดฝ่ามือเข้าใส่อีกครั้ง เลือดสดๆถูกพ่นออกมาจากปากของปู้ตานซิน“เจ้าก็ไม่เปลี่ยนฉูฉาง ชอบฉวยโอกาสอย่างไรก็ยังอย่างนั้น” กระอักเลือดออกมาจากปาก“ข้าบอกแล้วอีกสิบปีกว่าเจ้าจะชนะข้า”จ้องเขม็งมาที่ปู้ตานซินความทรงจำบางส่วนของหยางหว่านกลับคืนมา อาจารย์ที่ตบตูดนอน อาจารย์ที่เคยโอบอุ้มด้วยสองมืออบอุ่น อา
ปู้ตานซินกระอักเลือดสดๆออกมาอีกครั้ง เจวียนจิ่วหยามองด้วยสายตาเป็นห่วงเมื่อไม่อาจแบกรับร่างที่หนักอึ้งนั้นได้ ปู้ตานซินเซถลาลงไปนอนหงายกับพื้น“ตาม หวังต้าฉินมีเพียงลมปราณของ เกาซิ่งจึงจะช่วยข้าได้”"แล้วแล้วข้าต้องตาม หวังต้าฉินได้ที่ไหน”“นางมารน้อย สำนักเกาซิ่งเจ้าจะต้องขึ้นเขาไป มีเพียงหยางหว่านข้าหมายถึง กระบี่เจียงเฉียงจึงจะฝ่าด่านค่ายกลของข้า ขึ้นเขาไปได้”“ไม่มีคนอื่นอีกแล้วหรือ นอกจากศิษย์พี่”“เริ่นเจิน เพิ่งจะเป็นศิษย์ข้าแค่เพียง สามปีไม่อาจขึ้นลงเขาได้ตามใจนอกจากข้าจะพาเขาขึ้นไป”“แต่ข้า”“ตาม ป้อก้านกับป้อคุน เจ้าสำนักป้อหยางที่นั่นจะพบกับคนทั้งสองไหว้วานให้เขาขึ้นเขา พาหวังต้าฉินลงมา”“ข้าตามเริ่นเจินให้มาดูแลท่าน ส่วนข้ายินดีไปทำตามสิ่งที่ท่านขอให้ช่วย”เริ่นเจิน ร้อนรนเหมือนไฟลนก้นเมื่อเห็นว่าปู้ตานซินบาดเจ็บสาหัสยิ่งนักร่างกายไม่อาจขยับได้ แม้จะพูดพูดคุยได้บ้างแต่กับกระอักเลือดสดๆ ออกมาเป็นระยะ“อาจารย์ให้ข้าถ่ายลมปราณให้ท่านจะดีไหม”“ลมปราณของเจ้าไม่ได้มีพอที่จะช่วยเหลือผู้ใด เริ่นเจินอาจารย์ยังไม่ตายง่ายๆ หรอกวางใจได้ พอศิษย์พี่ใหญ่เจ้ามาเขาจะถ่ายลมปราณ20ปีของเขาให้
“555เจ้าเด็กเมื่อวานซืน ดูรึว่าจะสามารถฆ่าข้าได้ไหม” ฝืนใจลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ รวบรวมลมปราณ เพื่อฟื้นฟูกำลังของตัวเอง ข่มขู่เริ่นเจินที่ลอบกลืนน้ำลายลงคอ“ก็ได้ ถ้าอาจารย์ไม่สั่งให้ข้ามาช่วยศิษย์พี่หยางหว่าน ข้าไม่มีทางละเว้นชีวิตเจ้า”“ฉูฉางหลับตาลง จะกังวลไปไย ปู้ตานซินตายเขาก็ค่อยพานางกลับคืน ลบความทรงจำนางเสีย ตอนนี้หากเผยความอ่อนแอให้ศิษย์ของปู้ตานซินรู้ว่าเขาแทบจะทรงกายไม่ไหวไม่เหลือลมปราณแม้เพียงสักนิด มีหวังเหล่าจอมยุทธ์ฝ่ายคุณธรรมต้องรวมหัวกันมากำจัดเขาแน่ๆเริ่นเจินไม่ได้คลายจุดที่อาจารย์สกัดหยางหว่านไว้ หอบเอาร่างบาง ขึ้นบนบ่าพากลับไปหาปู้ตานซิน“คลายจุดให้นางเสีย”“อาจารย์ไม่กลัวว่าศิษย์พี่จะทำร้ายอาจารย์หรือไร”“คลายจุดให้นางแล้วเจ้าออกไปเสีย”“อาจารย์หากศิษย์พี่….ทำร้ายอาจารย์อีกเล่า”ยิ้มเศร้าๆ“นางจะไม่ทำอย่างนั้น นางจะไม่มีทางทำอย่างนั้น”แม้จะลังเลกับสิ่งที่พูดแต่ เขามั่นใจว่าหยางหว่านจะไม่มีทางทำร้ายเขาอีกแล้วเริ่นเจิ่นคลายจุดที่สะกัดไว้“อาจารย์”หยางหว่านคุกเข่าลงตรงหน้าปู้ตานซิน“ข้าขอโทษข้าผิดเอง ข้าไม่อาจอยู่ ...กับเจ้าได้แล้วไม่อาจดูแลเจ้า ”ปู้ตานซินยิ้ม“อาจารย