แชร์

ทำไม

ที่ประชุมชาวยุทธ์จากสำนักต่างๆ ทั่วยุทธภพที่ต่างมารวมตัวกันที่ เรือนอารักขาหน้าถ้ำที่ผนึกจอมมารฉูฉางพร้อมกับร่างเหี่ยวแห้งไร้ดวงจิต

“จอมมารฉูฉางเหิมเกริม เข่นฆ่าชาวบ้านจับตัวดื่มเลือดสูบเนื้อล้มตายนับไม่ถ้วน ยิ่งนานวันยิ่งแผ่ขยายอำนาจจนน่ากลัว สามปีมานี้เกินที่จะทนแล้ว”

หวังต้าฉินนั่งในแถวรอฟังเหล่าปรมาจารย์หารือกัน

“เดิมเป็น ท่านปรมาจารย์กงล้งที่สละร่างผนึกจอมมารไว้ ว่าคราวนี้กลับมาอีกครั้งกับผนึกร่างกับศิษย์ของสำนักเกาซิ่งจี้โม่ยิ่งเพิ่มความเหิมเกริม”

“เห็นที่จะต้องรวบรวมผู้กล้าจัดการจอมมารเสีย หากยิ่งนานวันยิ่ง จะมีพลังแก่กล้า”

ป้อก้านออกความเห็น

“ปรมาจารย์หนุ่มปู้ตานซิน ได้ข่าวว่าออกตามล่าจอมมารฉูฉางถึงสามปีมานี้ยังไม่อาจโค่นล้มจอมมารลงได้ ไหนหลายคนต่างยกย่องให้เป็นยอดปรมาจารย์”

เสียง เหน็บจากปรมาจารย์อาวุโสเง็กเต็กที่เคยไปช่วงชิงป้ายสำนัก เกาซิ่ง

“ใช่ๆๆ ”หลายเสียงเห็นพ้อง

“ ปรมาจารย์อาวุโสเง็กเต็กท่านไม่แยกแยะถูกผิดชั่วดี เอาความแค้นส่วนตัวมา พูดจาให้ผู้อื่นเข้าใจอาจารย์ข้าผิดไป ตอนนี้อาจารย์กำลังหาทางกำจัดจอมมารสืบหาเคล็ดวิชาทั่วหล้า หาได้นิ่งดูดายไม่ อีกอย่างเมื่อครั้งที่ปีศาจพรายน้ำอาละวาดข้าก็เห็นว่าพวกท่านทุกคนล้วนแต่มีฝีมือ แต่ไม่มีใครยอมเสียสละเวลาออกมากำจัดปีศาจพรายน้ำแม้แต่คนเดียว มีเพียงอาจารย์ข้ายอมสละเวลาลงเขามาเพื่อกำจัดปีศาจพรายน้ำทั้งๆ ที่พวกท่านก็อยู่นี่ไม่จำเป็นต้องขึ้นเขาลงเขาด้วยซ้ำไป”

“อะแฮ๋ม”

ป้อก้านรู้สึกร้อนท้องเหมือนตุ๊กแกเมื่อหวังต้าฉิน พูดขึ้นแต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร เหล่าปรมาจารย์ต่างพร้อมใจกันทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้เมื่อคำพูดแทงใจดำ

“เอาอย่างนี้ พวกเราสมควรจะหาทางออกร่วมกัน ในเมื่อปู้ตานซินไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เราก็ควรจะหาทางที่จะกำจัดจอมมาร มิใช่เอาเวลาไปกล่าวโทษกันไปมา”ป้อก้าน ปรามคนทั้งหมด หวังต้าฉินประสานมือ

“ขอบคุณอาจารย์ลุง ข้ามาครั้งนี้ในนามตัวแทนของเกาซิ่ง ทั้งที่ความจริงข้าเชื่อเหลือเกินว่าถึงเวลาไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่อาจารย์จะต้องจัดการได้อย่างแน่นอนเช่นนั้นข้าลาเสียตรงนี้”

ประสานมือจากไป เหล่าปรมาจารย์ต่างซุบซิบนินทาตามหลัง แต่ทว่าหวังต้าฉินหาสนใจไม่ในเมื่อเขารักและศรัทธาอาจารย์อย่างที่สุดไม่ว่าใครจะกล่าวโทษอาจารย์ว่าอย่างไรในใจเขาก็ยังเชื่อมั่นในอาจารย์

กลางป่า มุ่งหน้ายังแดนใต้ปู้ตานซินหยุดยืนมองท้องน้ำตวัดคันเบ็ดตกปลา ลงไปในน้ำ ส่วนตัวเขาเอนหลังพิงต้นไม้ใหญ่หลับตานิ่ง ภายในม่านตาหลี่ลงนั้นภาพเด่นชัดตรงหน้ารูปร่างอรชรของหยางหว่านที่ก้าวเดินด้วยความมั่นคงมาหยุดยืนตรงหน้าแม้ใบหน้าจะถูกปิดบังด้วยหน้ากากโลหะตั้งแต่หน้าผากลงมาถึงปลายจมูกแต่ ปู้ตานซินจำหยางหว่านได้ขึ้นใจ ผุดลุกขึ้นยืน ยิ้มด้วยความดีใจ

“หยางหว่าน”หยางหว่านยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง ปู้ตานซินสุดจะหักห้ามความคิดถึง สวมกอดร่างบางไว้แนบอก

“ในที่สุดเจ้าก็มา ในที่สุดข้าก็หาเจ้าเจอ”

“สวบ” ปู้ตานซินดวงตาเหลือถลน อ้อมกอดที่รัดแน่นกลับคลายออกในทันที

“ทำไม หยางหว่านทำไม เจ้าจึงทำร้ายข้า ”

หยางหว่านอ้าปากค้างดึงมีดออกจากหน้าอกข้างซ้ายของปู้ตานซิน ความทรงจำ ครั้งเก่าก่อนไหลทะลักราวกับเขื่อนแตก

“อาจารย์ กล้าทำไม่กล้ารับหรือไร”ปู้ตานซินเหลือบตามองหยางหว่าน รวบร่างบางไว้ในอ้อมแขนกดริมฝีปากปิดปากบางไว้แนบแน่น

“ข้าจะพูดเรื่องนี้กับศิษย์พี่ป้อก้านในยามรุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ ทันทีที่เจอเขาข้าจะสู่ขอเจ้ากับเขาในทันที”

“ใครบอกว่าข้าอยากแต่งกับอาจารย์”

“แต่ข้าอยากแต่งกับเจ้า”มองสบตากลมโตด้วยแววตามุ่งมั่น แม้สีหน้าจะเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดใดก็ตาม

หยางหว่านนิ่งงันจ้องมองหยดเลือดที่หน้าอกของปู้ตานซิน กับแววตาที่เจ็บปวดอย่างที่สุดที่จ้องมองมายังหยางหว่าน

อาจารย์ร่างสูง กุมหน้าอกข้างซ้ายก่อนจะล้มตึงหมดสติไปในทันที หยางหว่าน มองมือของตัวเองที่เปรอะเปื้อนเลือด ด้วยหัวใจแกว่งไกว

“อาจารย์….อาจารย์”เริ่นเจิน หอบเอาร่างไร้สติของปู้ตานซินหนีไปเริ่นเจินสัมผัสได้ว่าเขาไม่อาจต่อกรกับ กระบี่เจียงเฉียงผู้นี้การหลบหนีคือหนทางที่ดีที่สุดในตอนนี้

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status