“นางเป็นของข้ามาก่อน”
“แก้ตัวไปก็ไม่มีประโยชน์ ความแค้นของเราสองคนวันนี้จักต้องสะสางให้หมดไป แต่บอกไว้ก่อนปู้ตานซินข้าดื่มเลือดสูบเนื้อมานาน เคล็ดวิชาสุดยอดนี้ทำให้ข้าเหนือกว่าเจ้าสิบปี ความจริงไม่อาจเปิดเผยแต่เมื่อเห็นว่า เจ้ากำลังจะตายคนตายจึงเป็นคนที่เก็บความลับได้ดีที่สุด”
“หากเป็นความลับของเจ้า ถึงข้าตายไปข้าก็จะขอเหยียนหลัวหวางกลับมาเปิดโปงมันเสีย”
“ยังไม่เปลี่ยน กงล้งเจ้าเป็นคนที่อ่อนนอกแข็งใน วาจาแม้ไม่ยี่หระแต่ทว่าน้ำใจงาม ข้าชอบเจ้าเสียจริง เช่นนั้นข้าช่วยให้เจ้าพบเหยียนหลัวหวางได้เร็วขึ้น”
ซัดฝ่ามือเข้าใส่ทันทีแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ปู้ตานซินโดนฝ่ามือเข้าเต็มเปาร่างลอยไปชนเข้ากับผนังถ้ำ แต่ยังคงแบกร่างหยางหว่านไว้ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ
วางร่างบางของหยางหว่านลงบนพื้นฉูฉางรวบรวมพลังลมปราณซัดฝ่ามือเข้าใส่อีกครั้ง เลือดสดๆถูกพ่นออกมาจากปากของปู้ตานซิน
“เจ้าก็ไม่เปลี่ยนฉูฉาง ชอบฉวยโอกาสอย่างไรก็ยังอย่างนั้น” กระอักเลือดออกมาจากปาก
“ข้าบอกแล้วอีกสิบปีกว่าเจ้าจะชนะข้า”
จ้องเขม็งมาที่ปู้ตานซินความทรงจำบางส่วนของหยางหว่านกลับคืนมา อาจารย์ที่ตบตูดนอน อาจารย์ที่เคยโอบอุ้มด้วยสองมืออบอุ่น อาจารย์ที่หยางหว่านอยากจะกอดในทุกครั้งที่พบหน้า แต่ติดที่ใบหน้าเฉยชานั้น อาจารย์ที่กลิ่นกายหอมจนคุ้นชิน อาจารย์ที่หยางหว่านหลงใหลได้ปลื้มและใฝ่ฝันว่าจะได้เคียงข้างตลอดไป
“ถึงเวลาบอกลาหยางหว่านแล้ว ฆ่าเจ้าเสร็จแล้วข้าจะลบความทรงจำนางเสียใหม่ แล้วก็เคียงคู่กับนางตลอดไป ปู้ตานซินเจ้าไม่มีทางได้พบนางอีก”
หยางหว่านน้ำตาร่วงริน พยายามขยับกายแต่ไม่เป็นผลปู้ตานซินยิ้ม หยางหว่านหลับตาไล่หยาดน้ำตา ก่อนที่ฝ่ามือทรงพลังของฉูฉางจะซัดเข้าใส่ปู้ตานซินอีกครั้ง ตอนนี้เองที่ปู้ตานซินซัดฝ่ามือกลับเข้าใส่ร่างของฉูฉางที่เข้ามาใกล้ ทั้งคู่ ลอยละลิ่ว ไปปะทะกับผนังถ้ำแรงกระแทกไม่ต่างกัน
“ไม่น่าเชื่อเจ้าทำข้าเจ็บได้ด้วยฝีมือของเจ้าเพียงเท่านี้ ทำข้าที่ฝึกฝนมาถึงสี่พันปีบาดเจ็บได้นับว่าฝีมือเจ้า ไม่เลว"
ฉูฉางกระอักเลือดสดๆ ออกมา ใบหน้าเปลี่ยนไปมาระหว่างใบหน้าของจี้โม่กับ ฉูฉาง
“อาจารย์ท่านหนีไป ท่านหนีไปเสีย จอมมารสำเร็จวิชาคงกะพันแล้ว อาจารย์ท่านฆ่าเข้าไม่ตายหรอก”จี้โม๋พยายามฝืนดวงจิตมารกลายเป็นจี้โม๋ที่ออกมาเตือนอาจารย์
ปู้ตานซินยิ้มอย่างน้อยจี้โม๋ก็ไม่ได้มีจิตมารเสียทั้งหมดยังห่วงใยเขาซึ่งเป็นอาจารย์
“เจ้าโง่ เป็นถึงดวงจิตมารอวตารของข้า กลับเห็นว่าศัตรูเป็นมิตรยิ่งกว่าข้าอย่างนั้นหรือ”
“อาจารย์หนีไป อาจารย์”ตะโกนก้องก่อนที่จะถูกฉูฉางกลืนดวงจิตทุรนทุราย
“จี้โม่ อาจารย์นับถือเจ้าแม้จะเป็นจิตมารของจอมมารเจ้ายังมีจิตใจคุณธรรม”
“อาจารย์ท่านดูแลเลี้ยงดูข้ามา”ปู้ต้านซินยิ้มเขาทำสำเร้จแล้วอย่างน้อยการมาครั้งนี้จี้โม๋ก็ไม่ได้เห็นเขาเป็นศัตรู
“หุบปาก”ขยับกายลุกขึ้นทั้งๆที่อ่อนแรงไม่น้อยแต่จอมมารฉูฉางหาใช่คนที่จะแสดงความอ่อนแอให้ใครได้เห็น เขากับปู้ตานซินไม่ต่างกันตรงจุดนี้
“กงล้ง อย่าได้พบกันอีกเลย”
รวบรวมกำลังอีกครั้ง แม้จะรู้สึกว่าร่างกายแทบแหลกสลาย พลังฝ่ามือของปู้ตานซินร้ายกาจอย่างไม่อาจปฏิเสธ แม้เขาจะเก่งกล้าเพียงใดก็ยังรู้สึกว่าเจ็บปวด
ปู้ตานซินเองก็รวบรวมพลังลมปราณให้เป็นเกราะกำบังตัวด้านหน้า ลำแสงสีแดงพวยพุ่งออกจากฝ่ามือสองข้างของฉูฉาง สีแดงประดุจเปลวเพลิง ปะทะกับเกราะกำบังกายของปู้ตานซิน แต่ไม่สามารถทำอันตรายได้ ฉูฉางแสยะยิ้มสูดลมหายใจเข้าลึกสุดลึก
“ถึงตายข้าก็จะให้เจ้าตายไปพร้อมกัน”
ขยับตัว ถอยหลังซัดฝ่ามืออีกครั้ง คราวนี้ปู้ตานซินที่บาดเจ็บไม่อาจรับมือพลังฝ่ามือได้ เกราะกำบังสลายหายไปพร้อมกับร่างที่ลอยละลิ่ว กระอักเลือดสีเข้มออกมา แสดงว่าภายในบอบช้ำอย่างมาก หยางหว่านพยายามกำมือจิกมือตัวเองเจ็บใจที่ไม่อาจช่วยเหลืออาจารย์ได้
ท่ามกลางแรงฝ่ามือนั้น ร่างของเจวียนจิ่วหยาทะยานลงมา ดึงร่างที่กำลังจะหมดเรี่ยวแรงของปู้ตานซิน หอบเอาร่างของปู้ตานซิน ใช้เคล็ดวิชาเร้นกายพาปู้ตานซินจากไป ลำแสงสีแดงกระแทกเข้ากับผนังถ้ำเสียงกำปะนาทราวฟ้าจะถล่ม ผนังถ้ำแหลกละเอียดในพริบตา ร่างสูงของฉูฉางทรุดลงไปกองกับพื้น ใบหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเหี่ยวย่น ดวงตาอ่อนแสงในทันที หยางหว่านหลับตาลงช้าๆ ดีใจที่เจวียนจิ่วหยามาช่วยปู้ตานซินได้ทัน
ปู้ตานซินกระอักเลือดสดๆออกมาอีกครั้ง เจวียนจิ่วหยามองด้วยสายตาเป็นห่วงเมื่อไม่อาจแบกรับร่างที่หนักอึ้งนั้นได้ ปู้ตานซินเซถลาลงไปนอนหงายกับพื้น“ตาม หวังต้าฉินมีเพียงลมปราณของ เกาซิ่งจึงจะช่วยข้าได้”"แล้วแล้วข้าต้องตาม หวังต้าฉินได้ที่ไหน”“นางมารน้อย สำนักเกาซิ่งเจ้าจะต้องขึ้นเขาไป มีเพียงหยางหว่านข้าหมายถึง กระบี่เจียงเฉียงจึงจะฝ่าด่านค่ายกลของข้า ขึ้นเขาไปได้”“ไม่มีคนอื่นอีกแล้วหรือ นอกจากศิษย์พี่”“เริ่นเจิน เพิ่งจะเป็นศิษย์ข้าแค่เพียง สามปีไม่อาจขึ้นลงเขาได้ตามใจนอกจากข้าจะพาเขาขึ้นไป”“แต่ข้า”“ตาม ป้อก้านกับป้อคุน เจ้าสำนักป้อหยางที่นั่นจะพบกับคนทั้งสองไหว้วานให้เขาขึ้นเขา พาหวังต้าฉินลงมา”“ข้าตามเริ่นเจินให้มาดูแลท่าน ส่วนข้ายินดีไปทำตามสิ่งที่ท่านขอให้ช่วย”เริ่นเจิน ร้อนรนเหมือนไฟลนก้นเมื่อเห็นว่าปู้ตานซินบาดเจ็บสาหัสยิ่งนักร่างกายไม่อาจขยับได้ แม้จะพูดพูดคุยได้บ้างแต่กับกระอักเลือดสดๆ ออกมาเป็นระยะ“อาจารย์ให้ข้าถ่ายลมปราณให้ท่านจะดีไหม”“ลมปราณของเจ้าไม่ได้มีพอที่จะช่วยเหลือผู้ใด เริ่นเจินอาจารย์ยังไม่ตายง่ายๆ หรอกวางใจได้ พอศิษย์พี่ใหญ่เจ้ามาเขาจะถ่ายลมปราณ20ปีของเขาให้
“555เจ้าเด็กเมื่อวานซืน ดูรึว่าจะสามารถฆ่าข้าได้ไหม” ฝืนใจลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ รวบรวมลมปราณ เพื่อฟื้นฟูกำลังของตัวเอง ข่มขู่เริ่นเจินที่ลอบกลืนน้ำลายลงคอ“ก็ได้ ถ้าอาจารย์ไม่สั่งให้ข้ามาช่วยศิษย์พี่หยางหว่าน ข้าไม่มีทางละเว้นชีวิตเจ้า”“ฉูฉางหลับตาลง จะกังวลไปไย ปู้ตานซินตายเขาก็ค่อยพานางกลับคืน ลบความทรงจำนางเสีย ตอนนี้หากเผยความอ่อนแอให้ศิษย์ของปู้ตานซินรู้ว่าเขาแทบจะทรงกายไม่ไหวไม่เหลือลมปราณแม้เพียงสักนิด มีหวังเหล่าจอมยุทธ์ฝ่ายคุณธรรมต้องรวมหัวกันมากำจัดเขาแน่ๆเริ่นเจินไม่ได้คลายจุดที่อาจารย์สกัดหยางหว่านไว้ หอบเอาร่างบาง ขึ้นบนบ่าพากลับไปหาปู้ตานซิน“คลายจุดให้นางเสีย”“อาจารย์ไม่กลัวว่าศิษย์พี่จะทำร้ายอาจารย์หรือไร”“คลายจุดให้นางแล้วเจ้าออกไปเสีย”“อาจารย์หากศิษย์พี่….ทำร้ายอาจารย์อีกเล่า”ยิ้มเศร้าๆ“นางจะไม่ทำอย่างนั้น นางจะไม่มีทางทำอย่างนั้น”แม้จะลังเลกับสิ่งที่พูดแต่ เขามั่นใจว่าหยางหว่านจะไม่มีทางทำร้ายเขาอีกแล้วเริ่นเจิ่นคลายจุดที่สะกัดไว้“อาจารย์”หยางหว่านคุกเข่าลงตรงหน้าปู้ตานซิน“ข้าขอโทษข้าผิดเอง ข้าไม่อาจอยู่ ...กับเจ้าได้แล้วไม่อาจดูแลเจ้า ”ปู้ตานซินยิ้ม“อาจารย
เริ่นเจิน เดินนำหวังต้าฉินและเจวียนจิ่วหยาเข้ามา เจวียนจิ่วหยามองหยางหว่านที่ซบลงบนอกกว้างของปู้ตานซินด้วยความงงงันหวังต้าฉินถลาเข้าพยุงปู้ต้านซินให้ลุกขึ้น สีหน้าแสงความกังวลไม่น้อย“อาจารย์ท่านบาดเจ็บสาหัสข้าไม่เคยจะเห็นว่าอาจารย์ต้องมาเป็นแบบนี้มาก่อน”หวังต้าฉิน ขมวดคิ้วด้วยความหนักใจ ปู้ตานซินยิ้มเศร้าๆ“ครั้งนี้คงต้องอาศัยเจ้าแล้วต้าฉินข้าเองไม่อยากให้ใครเห็นข้าในแบบนี้”“อาจารย์ศิษย์พร้อมถ่ายลมปราณ”“พวกเจ้าออกไปก่อน ข้าจะต้องอาศัยหวังต้าฉินที่มีลมปราณยี่สิบปีของสำนักเกาซิ่งถ่ายลมปราณให้ข้า ระหว่างนี้ห้ามใครรบกวนเด็ดขาด อีกทั้งเริ่นเจินเจ้าคุ้มครองศิษย์พี่หยางหว่านของเจ้าด้วย”“อาจารย์ ข้าอยากอยู่กับท่านที่นี่”“หยางหว่าน แล้วเราจะได้พบกันใหม่เจ้าออกไปก่อน”“อาจารย์ข้ารอท่าน รอท่านเสมอ”ปู้ตานซินยิ้มเป็นยิ้มที่พยายามฝืนอย่างเต็มที่ในเมื่อตอนนี้ร่างใกล้จะสลายไปเต็มทีแล้วคนอื่นออกไปจนสิ้นเหลือเพียงหวังต้าฉินเท่านั้น“อาจารย์มาเถอิข้าพร้อมแ้ลวช้าไปไม่ดีแน่”หวังต้าฉินกุลีกุจอ“ไม่มีการถ่ายลมปราณไม่มีอะไรที่ช่วยได้ อาจารย์ไม่อาจทนพิษบาดแผลคงจะต้องสละร่างเสียที”“อาจารย์” หวังต้าฉิน
“ศิษย์น้องหยางหว่านอาจารย์ให้ข้าผนึกเจ้าเสีย”“ศิษย์พี่ต้าฉิน หยางหว่านไร้คำกล่าวใดหากไร้ซึ่งอาจารย์ข้าก็ไม่อาจมีชีวิต”“ข้าเสียใจไม่น้อยไปกว่าเจ้าแต่ด้วยคำสั่งเสียของอาจารย์นับต่อแต่นี้เจ้าจงอยู่ในผนึกรอเพื่อจอมมารฉูฉางที่กำลังจะฟื้นกำลังขึ้นมาไม่อาจหาเจ้าจนพบ ข้ากับเหล่าจอมยุทธ์คงต้องเผชิญชะตากรรมกันเพียงลำพังต่อแต่นี้ อีกกี่ปีจึงจะมีผู้ที่สามารถผนึกฉูฉางไว้ได้อีก”“ไม่สู้ข้าตายไปเลยไม่ดีกว่าหรือ ที่จะต้องกลายเป็นมารเช่นเดียวกับฉูฉาง”หยางหว่านพูดขึ้นดังๆ“ครั้งนั้นเป็นเพราะจอมมาร ใช้วิชาสลายความจำของเจ้า จึงทำให้เจ้า ทำผิดพลาดไปช่วยคัดคนบริสุทธิ์ให้จอมมารดื่มเลือดสูบเนื้อ”“ควรเป็นข้าที่ต้องตาย คนเช่นอาจารย์ไม่ควรที่จะต้องมาสละร่าง ศิษย์พี่ท่านฆ่าข้าเสียอย่าต้องใช้ลมปราณของท่านโดยเปล่าประโยชน์เพื่อผนึกข้าอีกเลย”“หยางหว่าน อาจารย์ให้ผนึกเจ้าเพื่อที่รอคอยว่าอาจารย์จะหวนคืนอีกครั้ง”หยางหว่านหลับตาไล่หยาดน้ำตา“ศิษย์พี่ อาจารย์ให้ท่านมาล่อหลอกข้าใช่หรือไม่ หยางหว่านมิใช่เด็กสี่ขวบเช่นตอนที่พบอาจารย์ในครั้งแรก ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่า อาจารย์ไม่มีทางหวนคืนท่านฆ่าข้าเสียจึงดี ข้าคือสาเหตุทั้ง
“หากท่านพบอาจารย์ ช่วยบอกอาจารย์ด้วยว่า ...ข้าขอโทษและขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”รอยยิ้ม หม่นหมองของเจวียนจิ่วหยาที่หยางหว่านไม่เคยเห็นมาก่อน หยางหว่านโอบรอบตัวของเจวียนจิ่วหยา“เราสองคนต่างเป็นคนที่หวังดีต่อท่านปรมาจารย์ปู้ตานซิน ศิษย์พี่ท่านคงไม่ว่าหากข้าจะบอกว่าข้าเองก็ชอบท่านปรมาจารย์ปู้ตานซินเช่นกันแต่เมื่อข้าเห็นว่าท่านร้องไห้ปานจะขาดใจ เมื่อท่านปรมาจารย์จากไปถึงได้เข้าใจว่าถึงข้าจะชอบท่านปรมาจารย์เพียงใดก็คงไม่เท่ากับที่ท่านรักท่านปรมาจารย์ปู้ตานซิน” หยางหว่านยิ้มบางๆ“ข้ายินดีหากพบอาจารย์จะเร่งบอกเขาตามที่เจ้าต้องการ”“เริ่นเจินเจ้าเดินทางพร้อมกับศิษย์พี่เพื่อพบกับอาจารย์ปู่กกก๋ง ศิษย์พี่ข้าลาแล้ว”หยางหว่านและเริ่นเจิน ประสานมือตรงหน้าหวังต้าฉิน“ศิษย์น้อง ศิษย์น้องหลงตั๋วได้ส่งคนของเขาให้ติดตามเจ้าไปในครั้งนี้ด้วย”หลงตั๋วยิ้มอยู่ไม่ห่าง“ศิษย์น้องเจ้าไม่น่าต้องลำบาก”“ศิษย์พี่เกรงใจไปแล้วความจริงข้าอยากติดตามท่าน ผิดที่ชายาเอกของข้ากำลังตั้งครรภ์จึงไม่อาจช่วยแบ่งเบาท่านได้ ข้าเพียงแต่หวังว่าท่านจะพบอาจารย์ปู่โดยเร็ว”คนมาส่งพร้อมหน้า คนกำลังจะจากไปก็พร้อมแล้ว จี้โม๋ยิ้มในร่างของฉ
“เคล็ดวิชาท่องกาลเวลา ในยุทธภพนี้มีข้า ปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงและอาจารย์เจ้าเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้ ปู้ตานซินแต่เดิมมีเคล็ดวิชาอ่านใจผู้คน แต่เขาเก็บงำเป็นความลับแต่เมื่อเขาสละร่างไปแล้ว ข้าจึงไม่จำเป็นต้องรักษาความลับให้เขาอีกต่อไป ข้ากับปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงได้เคล็ดวิชาจากอาจารย์มาต่างกันออกไป เคล็ดวิชาของข้า ที่จะมอบให้เจ้าคือเคล็ดวิชาเปลี่ยนใจผู้คน” (จำได้ไหมตอนที่กกก๋งไปคุยกับปู้ตานซิน ทีแรกปู้ตานซินไม่อยากย้อนไปในตอนที่ต้นเรื่องเขากับฉูฉางแต่ท่านปรมาจารย์กกก๋งใช้เคล็ดวิชาเปลี่ยนใจคนกับปู้ตานซิน)“อาจารย์ปู่ท่าน จะถ่ายทอดเคล็ดวิชาทั้งสองให้ข้าได้หรือไม่”ปรมาจารย์กกก๋งหลับตาลงช้าๆ“อาจารย์เจ้าสละร่างไปแล้ว เคล็ดวิชาท่องกาลเวลาข้าไม่อาจถ่ายทอดให้ได้ทั้งหมดเจ้าจะต้องศึกษาเองเพียงลำพัง แม้แต่บิดาเจ้าป้อก้านยังไม่อาจได้ไปครอบครอง เจ้าแน่ใจหรือว่าจะสามารถสำเร็จเคล็ดวิชาได้ ส่วนเคล็ดวิชาเปลี่ยนใจคนนั้น ตอนนี้ข้าไร้ผู้สืบทอดจึงอาจจะยอมมอบมันให้เจ้าเพื่อสืบทอดต่อไป”“ตกลงข้ายินดีให้เจ้าไปด้วย”หยางหว่านใช้เคล็ดวิชาเปลี่ยนใจกับกวงเสี่ยวอึ้ง หยางหว่านบ่นเบาๆ“เจ้ายังอ่อนหัดนักกวงเสี่ยวอึ้งเ
กวงเสี่ยวอึ้งเอ๊ยกวงเสี่ยวอึ้งเจ้าพลาดเสียแล้ว มาครั้งนี้หยางหว่านจะจับให้มั่นคั้นให้ตายเสียจะได้ไม่ต้องผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา“เจ้ามีนางร่วมเดินทาง ข้าเองก็มีนางมารน้อยผู้หนึ่งร่วมเดินทางเช่นกัน”หยางหว่านเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นว่า ร่างบางของอีกคนในอาภรณ์ของบุรุษนั่นคือเจวียนจิ่วหยานั่นเอง“เจวียนจิ่วหยาคารวะท่านพี่ทั้งสองข้าเองตั้งใจท่องยุทธภพกับฉูฉางท่านนี้”“ข้าเองก็ยากที่จะสลัดนางหลุดได้เช่นกัน กวงเสี่ยวอึ้งเราสองคนล้วนมีชะตากรรมเดียวกัน นางมารนี่ตามข้าไม่หยุด”หยางหว่านยิ้มเคล็ดวิชาเปลี่ยนใจคงจะต้องได้ใช้ในอีกไม่นานนี้ในเมื่อตอนนี้ฉูฉางไม่ได้มีใจให้กับเจวียนจิ่วหยาแต่ก่อนจะใช้ต้องอาศัยลิขิตสวรรค์ดูก่อนจึงดี และกวงเสี่ยวอึ้งเองในใจเขาคิดเช่นไร หยางหว่านไม่อาจรู้ได้คงต้องรอให้สวรรค์เป็นผู้กำหนดต่อจากนี้สามปีผ่านไป“กงล้ง ฉูฉางสำเร็จเคล็ดวิชาของสำนักกระบี่ฟ้าแล้วหวังว่าเจ้าทั้งสองจะนำเคล็ดวิชาเหล่านี้ ไปสืบทอดให้กับศิษย์น้องรุ่นต่อๆ ไป”“น้อมคำสั่งอาจารย์”ทั้งสองประสานมือพร้อมกันก่อนจะหันมายิ้มให้กันทั้งคู่“ข้า เพื่อจะบอกกับท่านกงล้งว่าข้ามาถึงเวลาที่ต้องบอกลา เพื่อที่จะใช้โอกาสนี้ท่
“อาจารย์อา..อาจารย์อา...จะต้องตบตูด หยางหว่านให้หลับไปไม่อย่างนั้นข้าก็จะนอนไม่หลับ”หยางหว่านในวัยสี่ขวบพูดเจื้อยแจ้ว“ข้ารู้แล้ว ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาข้ารู้แล้วว่าจะต้องตบตูดให้พวกเจ้านอนกันเสีย พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าสองคนชมสำนักเกาซิ่ง”จี้โม๋น้อยยิ้มหวาน“อาจารย์อา ข้าเพิ่งจะพบกับศิษย์พี่ เจวียนจิ่วหยา นางอายุอานามไม่ต่างจากเรา อาจารย์ยอมให้นางดื่มน้ำสาบานเป็นสหายข้าสองคนจะได้ไหม”ปู้ตานซินยิ้มลูบหัวจี้โม่กับหยางหว่านพร้อมกันเบาๆ“มานี่เพื่อศึกษาเคล็ดวิชา อาจารย์ไม่ได้พาพวกเจ้ามากักขังเสียหน่อย แค่เพียงดื่มน้ำร่วมสาบานเป็นสหาย ไม่ได้ฆ่าคนวางเพลิง พรุ่งนี้ให้ศิษย์พี่หวังต้าฉินจัดการเรื่องนี้ให้พวกเจ้าทั้งสามคน”“อาจารย์ศิษย์น้องจี้โม๋ ดื่มน้ำสาบานเป็นสหายกับเจวียนจิ่วหยา ข้าหยางหว่านอยากดื่มน้ำสาบานเป็น ภรรยาอาจารย์คอยดูแลอาจารย์ต่อจากนี้จะดีไหม”ปู้ตานซินยิ้ม ก้มลงจุมพิตหน้าผากของ หยางหว่านเบาๆ นี่เขาเลี้ยงต้อยศิษย์ไว้เพื่อเป็นภรรยาหรือไร“ได้สิอาจารย์มัดจำไว้ด้วยจูบนี้ที่หน้าผากเจ้า อีกสิบปีจึงแต่งเป็นภรรยาอาจารย์จะดีไหม”หยางหว่านยิ้ม จี้โม๋เบ้ปากอมยิ้ม ปู้ตานซินถอนหายใจเอนกายลงพิง