“ข้ามีเคล็ดวิชาหลากหลาย แค่เพียงเร้นกายง่ายดายกว่าสิ่งใด”
“ท่านไปเสียไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าท่านเสีย”ปู้ตานซินยิ้ม
“หากข้าจะบอกว่าข้าอ่านใจเจ้าได้เล่า”หยางหว่านถอยห่างไปเรื่อยๆ อีกคนกลับสาวเท้าเข้ามาใกล้
“ไม่มีผู้ใดมีเคล็ดวิชาแบบนั้นมาก่อน ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีเคล็ดวิชาอ่านใจข้าไม่เชื่อในใจข้ามีแต่จะคิดฆ่าท่าน”
ปู้ตานซินยิ้ม เขาไม่เคยเอ่ยปากบอกใครว่าเขาสามารถอ่านใจคนออก ตามที่ปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงกำชับมา จึงเป็นเพียงเรื่องเล่าขาน หยางหว่านก่อนหน้านั้นเขาก็ใช้เคล้ดวิชานี้กับนางก็หลายหน แต่นางไม่เคยระแคะระคายแม้แต่น้อย
“เจ้าเป็นห่วงข้ากลัวว่าจะถูกจอมมารฉูฉางพบเข้า แล้วยังดีใจที่ข้ารอดชีวิตจากคมมีดของเจ้า ข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก”พูดไปยิ้มไป
หยางหว่านอ้าปากค้าง ในใจนางคิดอย่างนั้นไม่ผิดเพี้ยน
“ที่นี่เขาหนึ่งแสนคนชั่ว เช่นไรท่านจะหนีรอดไปได้”หยางหว่านถอยไปชิดติดผนังห้องไม่อาจถอยหนีได้อีกแล้ว ปู้ตานซินอมยิ้ม
“ยอมรับมาแล้วหรือว่าเจ้าห่วงข้า ดีใจเสียจริงเจ้าห่วงข้าเพียงนั้น กลัวว่าข้าจะพบกับอันตราย”หยางหว่านค้อนเสียวงใหญ่คนอะไรหลงตัวเองยิ่งนัก
“ข้าไม่...อุ๊ป”ปากบางโดนปิดสนิทแน่นบดเบียดอ่อนหวานอ่อนโยน อ้อมแขนใหญ่โอบรอบลำตัวไว้ไม่ให้ดิ้นรน
ภาพความทรงจำในวันที่ ปู้ตานซินช่วยชีวิตหยางหว่านบนแท่นนอนหมุนวนมา ในความคิดคำนึง แต่กลับคิดว่าเป็นการบังคับขืนใจ อย่างที่ฉูฉางเคยบอกว่าปู้ตานซินย่ำยีหยางหว่านแล้วโยนร่างลงไปก้นเหว แต่ทำไมกลับรู้สึกว่ารสจูบนั้นหวานยิ่งนัก
“ฆ่าจะฆ่าท่านเสีย”
“ในใจเจ้าสั่นไหว กับรสจูบของข้า”
“ไม่มีทาง”ดิ้นรนออกจากอ้อมกอดของปู้ตานซิน
“ข้าหล่อเหลาเพียงนี้ มีหรือว่าใจเจ้าไม่สั่นไหว”ยังดิ้นรนปู้ตานซินตรึงร่างบางไว้ ติดผนังถ้ำจ้องมองสายตาหวานซึ้ง
"หยุดพูดได้แล้วยิ่งพูดข้าก็ยิ่งรักเจ้า แล้วใจเจ้าก็จะยิ่งต้องสั่นไหวเพราะรสจูบของข้า”ขบเม้มริมปากเบาๆ หยางหว่าน ทำตาโตด้วยไม่อาจบังคับใจตัวเองให้หยุดเต้นรัว
“ท่านขึ้นมาถึง บนเขาหนึ่งแสนคนชั่วคิดว่าจะสามารถกลับลงไปง่ายๆ หรือไร”เปลี่ยนเรื่องพูดเสียง่ายดาย
“หากข้าจะมี ...กระบี่เจียงเฉียงติดมือลงไปด้วย... เกรงว่าจะไม่มีใครกล้าทำร้ายข้า”
“ข้ามศพข้าไปไห้ได้ก่อน”
พูดทั้งๆ ที่แขนสองข้างถูกตรึงไว้ไม่อาจช่วยเหลือตัวเอง ตากลมโตก็เอาแต่จ้องริมฝีปากสีแดงที่ ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าพร้อมที่จะขบเม้มริมฝีปากบางของหยางหว่าน
“ขึ้นเขามาครั้งนี้ถือว่าเป็นกำไร ได้กอดรัดหญิงงาม ได้จุมพิตหญิงงามแล้วยังได้นางกลับไปกกกอด”
“ไม่มีทาง”ปู้ตานซินยิ้ม
“แต่ข้าว่าเจ้าแพ้ แก่ข้าแล้ว”
กดริมฝีปากอีกครั้งคราวนี้รสจูบหวานฉ่ำจนจะละลายหยางหว่านให้กลายเป็นของเหลว มือใหญ่ปล่อยมือบางที่ตรึงไว้ กอดรวบซอกซอนเขาไปในร่มผ้าลูบไล้เอวคอดกิ่ว หยางหว่านใจเต้นรัว ทว่ากลับรู้สึกไร้เรี่ยวแรงแม้มือสองข้างจะเป็นอิสระแต่ใจกับไม่ยอมต่อต้าน ภาพความทรงจำที่ถูกลบไปหวนคืนวนเวียนในหัว
“อาจารย์”
“แค่เพียงจูบของข้าก็เรียกความทรงจำเจ้ากลับมาหากได้ร่วมแท่นนอนเกรงว่าความทรงจำของเจ้าจะต้องกลับมาอย่างสมบูรณ์” กดริมฝีปากบดจูบอ่อนหวานอีกครั้ง
จูบจนหนำใจเขาต้องทนคิดถึงหยางหว่านถึงสามปีจะให้ปล่อยง่ายๆก็ไม่อาจ ปล่อยริมฝีปากให้เป็นอิสระ อีกคนเซถลา ปู้ตานซินยิ้มกอดรวบร่างบางแนบอกเขา
“หากเจ้าอยากตามหาความทรงจำที่หายไปของเจ้า ไปกับข้าเถิดกระบี่เจียงเฉียง”หยางหว่านเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาที่รู้สึกว่าคุ้นเคยคุ้นชิน เคยไหม? รู้สึกดีกับบางคนทั้งๆ ที่จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยเจอเขาที่ไหน
สกัดจุดหยางหว่านแบกร่างบางขึ้นบ่าดุจนางเป็นเพียงปุยนุ่นบางเบา
“ปู้ตานซิน มาหาที่ตายถึงที่นี่”เสียงแหบพร่าของ ฉูฉางดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากที่ใม่ได้ขยับ
“อาจารย์พาหยางหว่านหนีไป”เสียงห่วงใยของจี้โม่
“อย่าขวางข้าฉูฉาง ดีชั่วเราสองคนล้วนรู้แก่ใจ”
“ถูกผิดดีชั่วเป็นเจ้าที่ตัดสินหรือไร ข้าเดิมเป็นคนดีอย่างที่จอมยุทธ์ฝ่ายคุณธรรม เป็นผู้บัญญัติขึ้นมา แต่ในเมื่อเจ้ากลับสร้างแผลในใจ สิ่งที่ข้าทำข้าในตอนนี้จึงเรียกมันว่า ดีบ้างไม่ได้หรือ”
“เจ้าดื่มเลือดสูบเนื้อผู้คนเพื่อคงกระพัน อีกทั้งยังเข้าสู่ด้านมืด ดึงจิตใจฝ่ายมารออกมายังคิดว่าเจ้าเป็นฝ่ายดีอีกหรือ”
“เจ้าก็ไม่ต่างกัน กงล้งสิ่งที่เจ้าทำ รู้ทั้งรู้ว่านางเป็นของข้าเจ้ายังกล้าสมสู่กับนางคนชั่วช้าที่สุดเท่านั้นจึงจะทำได้”
“นางเป็นของข้ามาก่อน”“แก้ตัวไปก็ไม่มีประโยชน์ ความแค้นของเราสองคนวันนี้จักต้องสะสางให้หมดไป แต่บอกไว้ก่อนปู้ตานซินข้าดื่มเลือดสูบเนื้อมานาน เคล็ดวิชาสุดยอดนี้ทำให้ข้าเหนือกว่าเจ้าสิบปี ความจริงไม่อาจเปิดเผยแต่เมื่อเห็นว่า เจ้ากำลังจะตายคนตายจึงเป็นคนที่เก็บความลับได้ดีที่สุด”“หากเป็นความลับของเจ้า ถึงข้าตายไปข้าก็จะขอเหยียนหลัวหวางกลับมาเปิดโปงมันเสีย”“ยังไม่เปลี่ยน กงล้งเจ้าเป็นคนที่อ่อนนอกแข็งใน วาจาแม้ไม่ยี่หระแต่ทว่าน้ำใจงาม ข้าชอบเจ้าเสียจริง เช่นนั้นข้าช่วยให้เจ้าพบเหยียนหลัวหวางได้เร็วขึ้น”ซัดฝ่ามือเข้าใส่ทันทีแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ปู้ตานซินโดนฝ่ามือเข้าเต็มเปาร่างลอยไปชนเข้ากับผนังถ้ำ แต่ยังคงแบกร่างหยางหว่านไว้ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บวางร่างบางของหยางหว่านลงบนพื้นฉูฉางรวบรวมพลังลมปราณซัดฝ่ามือเข้าใส่อีกครั้ง เลือดสดๆถูกพ่นออกมาจากปากของปู้ตานซิน“เจ้าก็ไม่เปลี่ยนฉูฉาง ชอบฉวยโอกาสอย่างไรก็ยังอย่างนั้น” กระอักเลือดออกมาจากปาก“ข้าบอกแล้วอีกสิบปีกว่าเจ้าจะชนะข้า”จ้องเขม็งมาที่ปู้ตานซินความทรงจำบางส่วนของหยางหว่านกลับคืนมา อาจารย์ที่ตบตูดนอน อาจารย์ที่เคยโอบอุ้มด้วยสองมืออบอุ่น อา
ปู้ตานซินกระอักเลือดสดๆออกมาอีกครั้ง เจวียนจิ่วหยามองด้วยสายตาเป็นห่วงเมื่อไม่อาจแบกรับร่างที่หนักอึ้งนั้นได้ ปู้ตานซินเซถลาลงไปนอนหงายกับพื้น“ตาม หวังต้าฉินมีเพียงลมปราณของ เกาซิ่งจึงจะช่วยข้าได้”"แล้วแล้วข้าต้องตาม หวังต้าฉินได้ที่ไหน”“นางมารน้อย สำนักเกาซิ่งเจ้าจะต้องขึ้นเขาไป มีเพียงหยางหว่านข้าหมายถึง กระบี่เจียงเฉียงจึงจะฝ่าด่านค่ายกลของข้า ขึ้นเขาไปได้”“ไม่มีคนอื่นอีกแล้วหรือ นอกจากศิษย์พี่”“เริ่นเจิน เพิ่งจะเป็นศิษย์ข้าแค่เพียง สามปีไม่อาจขึ้นลงเขาได้ตามใจนอกจากข้าจะพาเขาขึ้นไป”“แต่ข้า”“ตาม ป้อก้านกับป้อคุน เจ้าสำนักป้อหยางที่นั่นจะพบกับคนทั้งสองไหว้วานให้เขาขึ้นเขา พาหวังต้าฉินลงมา”“ข้าตามเริ่นเจินให้มาดูแลท่าน ส่วนข้ายินดีไปทำตามสิ่งที่ท่านขอให้ช่วย”เริ่นเจิน ร้อนรนเหมือนไฟลนก้นเมื่อเห็นว่าปู้ตานซินบาดเจ็บสาหัสยิ่งนักร่างกายไม่อาจขยับได้ แม้จะพูดพูดคุยได้บ้างแต่กับกระอักเลือดสดๆ ออกมาเป็นระยะ“อาจารย์ให้ข้าถ่ายลมปราณให้ท่านจะดีไหม”“ลมปราณของเจ้าไม่ได้มีพอที่จะช่วยเหลือผู้ใด เริ่นเจินอาจารย์ยังไม่ตายง่ายๆ หรอกวางใจได้ พอศิษย์พี่ใหญ่เจ้ามาเขาจะถ่ายลมปราณ20ปีของเขาให้
“555เจ้าเด็กเมื่อวานซืน ดูรึว่าจะสามารถฆ่าข้าได้ไหม” ฝืนใจลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ รวบรวมลมปราณ เพื่อฟื้นฟูกำลังของตัวเอง ข่มขู่เริ่นเจินที่ลอบกลืนน้ำลายลงคอ“ก็ได้ ถ้าอาจารย์ไม่สั่งให้ข้ามาช่วยศิษย์พี่หยางหว่าน ข้าไม่มีทางละเว้นชีวิตเจ้า”“ฉูฉางหลับตาลง จะกังวลไปไย ปู้ตานซินตายเขาก็ค่อยพานางกลับคืน ลบความทรงจำนางเสีย ตอนนี้หากเผยความอ่อนแอให้ศิษย์ของปู้ตานซินรู้ว่าเขาแทบจะทรงกายไม่ไหวไม่เหลือลมปราณแม้เพียงสักนิด มีหวังเหล่าจอมยุทธ์ฝ่ายคุณธรรมต้องรวมหัวกันมากำจัดเขาแน่ๆเริ่นเจินไม่ได้คลายจุดที่อาจารย์สกัดหยางหว่านไว้ หอบเอาร่างบาง ขึ้นบนบ่าพากลับไปหาปู้ตานซิน“คลายจุดให้นางเสีย”“อาจารย์ไม่กลัวว่าศิษย์พี่จะทำร้ายอาจารย์หรือไร”“คลายจุดให้นางแล้วเจ้าออกไปเสีย”“อาจารย์หากศิษย์พี่….ทำร้ายอาจารย์อีกเล่า”ยิ้มเศร้าๆ“นางจะไม่ทำอย่างนั้น นางจะไม่มีทางทำอย่างนั้น”แม้จะลังเลกับสิ่งที่พูดแต่ เขามั่นใจว่าหยางหว่านจะไม่มีทางทำร้ายเขาอีกแล้วเริ่นเจิ่นคลายจุดที่สะกัดไว้“อาจารย์”หยางหว่านคุกเข่าลงตรงหน้าปู้ตานซิน“ข้าขอโทษข้าผิดเอง ข้าไม่อาจอยู่ ...กับเจ้าได้แล้วไม่อาจดูแลเจ้า ”ปู้ตานซินยิ้ม“อาจารย
เริ่นเจิน เดินนำหวังต้าฉินและเจวียนจิ่วหยาเข้ามา เจวียนจิ่วหยามองหยางหว่านที่ซบลงบนอกกว้างของปู้ตานซินด้วยความงงงันหวังต้าฉินถลาเข้าพยุงปู้ต้านซินให้ลุกขึ้น สีหน้าแสงความกังวลไม่น้อย“อาจารย์ท่านบาดเจ็บสาหัสข้าไม่เคยจะเห็นว่าอาจารย์ต้องมาเป็นแบบนี้มาก่อน”หวังต้าฉิน ขมวดคิ้วด้วยความหนักใจ ปู้ตานซินยิ้มเศร้าๆ“ครั้งนี้คงต้องอาศัยเจ้าแล้วต้าฉินข้าเองไม่อยากให้ใครเห็นข้าในแบบนี้”“อาจารย์ศิษย์พร้อมถ่ายลมปราณ”“พวกเจ้าออกไปก่อน ข้าจะต้องอาศัยหวังต้าฉินที่มีลมปราณยี่สิบปีของสำนักเกาซิ่งถ่ายลมปราณให้ข้า ระหว่างนี้ห้ามใครรบกวนเด็ดขาด อีกทั้งเริ่นเจินเจ้าคุ้มครองศิษย์พี่หยางหว่านของเจ้าด้วย”“อาจารย์ ข้าอยากอยู่กับท่านที่นี่”“หยางหว่าน แล้วเราจะได้พบกันใหม่เจ้าออกไปก่อน”“อาจารย์ข้ารอท่าน รอท่านเสมอ”ปู้ตานซินยิ้มเป็นยิ้มที่พยายามฝืนอย่างเต็มที่ในเมื่อตอนนี้ร่างใกล้จะสลายไปเต็มทีแล้วคนอื่นออกไปจนสิ้นเหลือเพียงหวังต้าฉินเท่านั้น“อาจารย์มาเถอิข้าพร้อมแ้ลวช้าไปไม่ดีแน่”หวังต้าฉินกุลีกุจอ“ไม่มีการถ่ายลมปราณไม่มีอะไรที่ช่วยได้ อาจารย์ไม่อาจทนพิษบาดแผลคงจะต้องสละร่างเสียที”“อาจารย์” หวังต้าฉิน
“ศิษย์น้องหยางหว่านอาจารย์ให้ข้าผนึกเจ้าเสีย”“ศิษย์พี่ต้าฉิน หยางหว่านไร้คำกล่าวใดหากไร้ซึ่งอาจารย์ข้าก็ไม่อาจมีชีวิต”“ข้าเสียใจไม่น้อยไปกว่าเจ้าแต่ด้วยคำสั่งเสียของอาจารย์นับต่อแต่นี้เจ้าจงอยู่ในผนึกรอเพื่อจอมมารฉูฉางที่กำลังจะฟื้นกำลังขึ้นมาไม่อาจหาเจ้าจนพบ ข้ากับเหล่าจอมยุทธ์คงต้องเผชิญชะตากรรมกันเพียงลำพังต่อแต่นี้ อีกกี่ปีจึงจะมีผู้ที่สามารถผนึกฉูฉางไว้ได้อีก”“ไม่สู้ข้าตายไปเลยไม่ดีกว่าหรือ ที่จะต้องกลายเป็นมารเช่นเดียวกับฉูฉาง”หยางหว่านพูดขึ้นดังๆ“ครั้งนั้นเป็นเพราะจอมมาร ใช้วิชาสลายความจำของเจ้า จึงทำให้เจ้า ทำผิดพลาดไปช่วยคัดคนบริสุทธิ์ให้จอมมารดื่มเลือดสูบเนื้อ”“ควรเป็นข้าที่ต้องตาย คนเช่นอาจารย์ไม่ควรที่จะต้องมาสละร่าง ศิษย์พี่ท่านฆ่าข้าเสียอย่าต้องใช้ลมปราณของท่านโดยเปล่าประโยชน์เพื่อผนึกข้าอีกเลย”“หยางหว่าน อาจารย์ให้ผนึกเจ้าเพื่อที่รอคอยว่าอาจารย์จะหวนคืนอีกครั้ง”หยางหว่านหลับตาไล่หยาดน้ำตา“ศิษย์พี่ อาจารย์ให้ท่านมาล่อหลอกข้าใช่หรือไม่ หยางหว่านมิใช่เด็กสี่ขวบเช่นตอนที่พบอาจารย์ในครั้งแรก ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่า อาจารย์ไม่มีทางหวนคืนท่านฆ่าข้าเสียจึงดี ข้าคือสาเหตุทั้ง
“หากท่านพบอาจารย์ ช่วยบอกอาจารย์ด้วยว่า ...ข้าขอโทษและขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”รอยยิ้ม หม่นหมองของเจวียนจิ่วหยาที่หยางหว่านไม่เคยเห็นมาก่อน หยางหว่านโอบรอบตัวของเจวียนจิ่วหยา“เราสองคนต่างเป็นคนที่หวังดีต่อท่านปรมาจารย์ปู้ตานซิน ศิษย์พี่ท่านคงไม่ว่าหากข้าจะบอกว่าข้าเองก็ชอบท่านปรมาจารย์ปู้ตานซินเช่นกันแต่เมื่อข้าเห็นว่าท่านร้องไห้ปานจะขาดใจ เมื่อท่านปรมาจารย์จากไปถึงได้เข้าใจว่าถึงข้าจะชอบท่านปรมาจารย์เพียงใดก็คงไม่เท่ากับที่ท่านรักท่านปรมาจารย์ปู้ตานซิน” หยางหว่านยิ้มบางๆ“ข้ายินดีหากพบอาจารย์จะเร่งบอกเขาตามที่เจ้าต้องการ”“เริ่นเจินเจ้าเดินทางพร้อมกับศิษย์พี่เพื่อพบกับอาจารย์ปู่กกก๋ง ศิษย์พี่ข้าลาแล้ว”หยางหว่านและเริ่นเจิน ประสานมือตรงหน้าหวังต้าฉิน“ศิษย์น้อง ศิษย์น้องหลงตั๋วได้ส่งคนของเขาให้ติดตามเจ้าไปในครั้งนี้ด้วย”หลงตั๋วยิ้มอยู่ไม่ห่าง“ศิษย์น้องเจ้าไม่น่าต้องลำบาก”“ศิษย์พี่เกรงใจไปแล้วความจริงข้าอยากติดตามท่าน ผิดที่ชายาเอกของข้ากำลังตั้งครรภ์จึงไม่อาจช่วยแบ่งเบาท่านได้ ข้าเพียงแต่หวังว่าท่านจะพบอาจารย์ปู่โดยเร็ว”คนมาส่งพร้อมหน้า คนกำลังจะจากไปก็พร้อมแล้ว จี้โม๋ยิ้มในร่างของฉ
“เคล็ดวิชาท่องกาลเวลา ในยุทธภพนี้มีข้า ปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงและอาจารย์เจ้าเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้ ปู้ตานซินแต่เดิมมีเคล็ดวิชาอ่านใจผู้คน แต่เขาเก็บงำเป็นความลับแต่เมื่อเขาสละร่างไปแล้ว ข้าจึงไม่จำเป็นต้องรักษาความลับให้เขาอีกต่อไป ข้ากับปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงได้เคล็ดวิชาจากอาจารย์มาต่างกันออกไป เคล็ดวิชาของข้า ที่จะมอบให้เจ้าคือเคล็ดวิชาเปลี่ยนใจผู้คน” (จำได้ไหมตอนที่กกก๋งไปคุยกับปู้ตานซิน ทีแรกปู้ตานซินไม่อยากย้อนไปในตอนที่ต้นเรื่องเขากับฉูฉางแต่ท่านปรมาจารย์กกก๋งใช้เคล็ดวิชาเปลี่ยนใจคนกับปู้ตานซิน)“อาจารย์ปู่ท่าน จะถ่ายทอดเคล็ดวิชาทั้งสองให้ข้าได้หรือไม่”ปรมาจารย์กกก๋งหลับตาลงช้าๆ“อาจารย์เจ้าสละร่างไปแล้ว เคล็ดวิชาท่องกาลเวลาข้าไม่อาจถ่ายทอดให้ได้ทั้งหมดเจ้าจะต้องศึกษาเองเพียงลำพัง แม้แต่บิดาเจ้าป้อก้านยังไม่อาจได้ไปครอบครอง เจ้าแน่ใจหรือว่าจะสามารถสำเร็จเคล็ดวิชาได้ ส่วนเคล็ดวิชาเปลี่ยนใจคนนั้น ตอนนี้ข้าไร้ผู้สืบทอดจึงอาจจะยอมมอบมันให้เจ้าเพื่อสืบทอดต่อไป”“ตกลงข้ายินดีให้เจ้าไปด้วย”หยางหว่านใช้เคล็ดวิชาเปลี่ยนใจกับกวงเสี่ยวอึ้ง หยางหว่านบ่นเบาๆ“เจ้ายังอ่อนหัดนักกวงเสี่ยวอึ้งเ
กวงเสี่ยวอึ้งเอ๊ยกวงเสี่ยวอึ้งเจ้าพลาดเสียแล้ว มาครั้งนี้หยางหว่านจะจับให้มั่นคั้นให้ตายเสียจะได้ไม่ต้องผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา“เจ้ามีนางร่วมเดินทาง ข้าเองก็มีนางมารน้อยผู้หนึ่งร่วมเดินทางเช่นกัน”หยางหว่านเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นว่า ร่างบางของอีกคนในอาภรณ์ของบุรุษนั่นคือเจวียนจิ่วหยานั่นเอง“เจวียนจิ่วหยาคารวะท่านพี่ทั้งสองข้าเองตั้งใจท่องยุทธภพกับฉูฉางท่านนี้”“ข้าเองก็ยากที่จะสลัดนางหลุดได้เช่นกัน กวงเสี่ยวอึ้งเราสองคนล้วนมีชะตากรรมเดียวกัน นางมารนี่ตามข้าไม่หยุด”หยางหว่านยิ้มเคล็ดวิชาเปลี่ยนใจคงจะต้องได้ใช้ในอีกไม่นานนี้ในเมื่อตอนนี้ฉูฉางไม่ได้มีใจให้กับเจวียนจิ่วหยาแต่ก่อนจะใช้ต้องอาศัยลิขิตสวรรค์ดูก่อนจึงดี และกวงเสี่ยวอึ้งเองในใจเขาคิดเช่นไร หยางหว่านไม่อาจรู้ได้คงต้องรอให้สวรรค์เป็นผู้กำหนดต่อจากนี้สามปีผ่านไป“กงล้ง ฉูฉางสำเร็จเคล็ดวิชาของสำนักกระบี่ฟ้าแล้วหวังว่าเจ้าทั้งสองจะนำเคล็ดวิชาเหล่านี้ ไปสืบทอดให้กับศิษย์น้องรุ่นต่อๆ ไป”“น้อมคำสั่งอาจารย์”ทั้งสองประสานมือพร้อมกันก่อนจะหันมายิ้มให้กันทั้งคู่“ข้า เพื่อจะบอกกับท่านกงล้งว่าข้ามาถึงเวลาที่ต้องบอกลา เพื่อที่จะใช้โอกาสนี้ท่