แชร์

เจวียนจิ่วหยา

“อืมการเดินทางเรียบร้อยดีหรือไม่”เริ่นเจินยิ้มกว้างประสานมือคารวะหวังต้าฉินด้วยความยินดีอย่างยิ่ง

“อาจารย์ตั้งแต่อาจารย์ลงเขามา อาจารย์ลุงทั้งสองก็แวะเวียนที่สำนักเกาซิ่งอบรมสั่งสอนพวกเราแทนอาจารย์ อีกทั้งยังได้ดูแลสำนักแทนข้า วันนี้ข้าจึงลงมาที่นี่ได้”

“ดีแล้วครั้งนั้นถ้าไม่ได้ศิษย์พี่ทั้งสองข้าก็คงแย่ ฟื้นตัวมาเพียงนี้เพราะศิษย์พี่ป้อก้านกับป้อคุน ที่ช่วยกันถ่ายลมปราณจนข้าแข็งแรงดีศิษย์พี่ป้อคุนเข้าใจข้า ข้าก็พอใจแล้ว จะว่าไปจอมมารฉูฉางรวมร่างกับจี้โม่นับว่าเป็นความผิดของข้าเป็นเพราะข้าคาดไม่ถึงว่าจี้โม่จะเป็นดวงจิตมารของฉูฉางอวตารมาเกิด”

“อาจารย์พรรคมารของฉูฉางเหิมเกริม สองปีมานี่ออกจับตัวผู้คนไปสังเวยผู้คนล้มตาย เหล่าสำนักต่างๆล้วนหาวิธีกำจัดจอมมาร แต่ไม่เป็นผลยิ่งเพิ่มจำนวนศิษย์เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้พรรคมาร สังหารผู้คนมากมายเพื่อให้คงกระพัน อาจารย์เราจะทำอย่างไรดี”

“สามปีมานี้ข้าตามหา หยางหว่านทั่วปฐพีแต่ไม่เคยตามทันนางเชื่อกันว่ามีเคล็ดวิชาหนึ่งที่สามารถเร้นกายได้รวดเร็ว ข้ามป่าเขาได้ราวกับขี้เมฆข้ามฟ้า ฉูฉางอาจ ถ่ายทอดเคล็ดวิชานั้นให้กับนาง ใช้นางให้จับตัวผู้คนไปให้กับฉูฉางเพื่อเขาจะได้ ดื่มเลือดสูบเนื้อ อยู่ยงคงกระพัน เช่นนั้นการกำจัดจอมมารฉูฉางยากยิ่งต้องรอให้ ถึงสองปี เพื่อรวบรวมเคล็ดวิชาให้ครบทั้งห้าเพื่อกำจัดฉูฉาง”

“อีกสองปีเชียวหรืออาจารย์”

“อีกแค่เพียงสองปี”

“อาจารย์จอมมารจะยิ่งไม่แข็งแกร่งขึ้นหรือไร”จะบอกว่า เขาไร้หนทางก็น่าอายไปหน่อย ปู้ตานซินเพียงแค่รอเวลาให้ปรมาจารย์กกก๋งสละร่างมอบเคล็ดวิชา เขาจึงจะ สามารถเอาชนะฉูฉางได้ เพียงแค่อาศัยฝึกตนให้มากเพื่อจะได้ ต่อกรกับฉูฉางให้ได้หากพบกันอีกครั้ง

“กาลเวลาย่อมเคี่ยวกรำให้บางอย่างตกตะกอน”คำพูดที่กลั่นกรองออกมา

“อาจารย์ ลึกซึ้งยิ่งนักศิษย์เข้าใจแล้ว สิ่งใดที่อาจารย์ตัดสินใจและทำลงไปมักถูกต้องเสมอ”

เข้าใจว่าอย่างไร จะเข้าใจว่าเขาต้องการขอเวลากระมั้ง หวังต้าฉินยังคงเป็นหวังต้าฉินเป็นที่เชื่อมั่นในอาจารย์มากกว่าใคร อย่างไรเสียเขาก็มองว่าปู้ตานซินจะไม่มีทางเพลี่ยงพล้ำเป็นแน่

หวังต้าฉินจากไป ปู้ตานซินก้าวเดินนำเริ่นเจินยังโรงเตี๊ยมแห่งเดียวในตงเปียน

“สั่งสุราอาหาร คืนนี้เราจะพักที่นี่”

“เสี่ยวเอ้อ จัดอาหารอย่างดีมาที่นี่พร้อมทั้งสุราเลิศรส”เริ่นเจินตะโกนสั่งอาหาร ปู้ตานซินนั่งลงกอดอกหลับตานิ่ง อาหารถูกนำมาวางบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่มีคนมากมายในร้าน

“อาจารย์”เริ่นเจินส่งตะเกียบให้ อย่างนอบน้อม

“อะไรกัน มาทีหลังได้ก่อนพวกเจ้าสองคนถือดีอย่างไร นึกว่าเป็นฮ่องเต้หรืออย่างไรถึง มีคนปรนนิบัติดีกว่าพวกข้า”

มือใหญ่รินสุราใส่จอกตรงหน้าปู้ตานซิน ก่อนจะยกจอกสุรากระดกลงคอทันที ปู้ตานซินยังนิ่ง ส่วนเริ่นเจินอ้าปากค้างรอดูว่าอาจารย์จะตอบโต้อย่างไร 

“เจ้าโง่”

หญิงงามนางหนึ่งใบหน้าหมดจด คะเนอายุคงไม่เกินสิบแปดปี แต่ทว่ากับสวมอาภรณ์พรางตัวสีดำ ขลับด้วยสีแดงรอบชายกระโปรงมองดูน่าเกรงขาม คว้ามือใหญ่ของคนที่นางเรียกว่าเจ้าโง่ บิดอย่างแรงจนได้ยินเสียงนิ้วหักดังกึกๆ

“โอ๊ยย ปล่อยข้านางหนู”

“เจ้าวางท่าใหญ่โต รู้หรือไม่ว่าที่นี่เป็นเขตที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคมาร”ชายร่างใหญ่ร้องโอดโอ๊ยด้วยความเจ็บปวดทรุดกายลงแต่มือยังถูกกำไว้ด้วยมือเรียวบางของ แม่นางน้อยผู้ลึกลับ เหมือนเพิ่งจะนึกได้

“นายหญิง แม่นางได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย”

“ข้าจะหักนิ้วเจ้าเสีย แถวนี้เป็นถิ่นที่พรรคมารของเราดูแลอยู่ คนผู้นี้เป็นของข้าแล้วห้ามเจ้าแตะต้องเขาอีก ข้าเจอเขาแล้วปรมาจารย์ปู้ตานซิน เป็นหน้าที่ข้าที่จะฆ่าเขาด้วยตัวเอง”ปู้ตานซิน หลับตานั่งนิ่งดุจเดิม

“แม่นางน้อยท่านจะทำกับเขาแบบนั้นไม่ได้ เขาไม่ได้ทำร้ายข้ากับอาจารย์เสียหน่อยแยกแยะผิดถูกด้วย เขาแค่เพียงรู้เท่าไม่ถึงการณ์”

เริ่นเจินเอ่ยปากทักท้วง ปู้ตานซินนั่งนิ่งเป็นหุ่นไม้

เจวียนจิ่วหยาบิดมือคนผู้นั้น ก่อนจะผลักร่างใหญ่ด้วยแรงทั้งหมดให้ออกห่างจากตรงนั้น คนร่างใหญ่รีบยกมือมากุมมือข้างที่หักก่อนจะลนลานจากไป

“ข้าเจวียนจิ่วหยา ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใดสั่งสอน”นั่งลงตรงหน้าปู้ตานซิน

“ในที่สุดข้าก็เจอท่าน ปรมาจารย์ปู้ตานซินที่ท่านประมุขพูดเสมอว่าใครก็ตามที่สามารถสังหารปู้ตานซินได้จะยอมยกให้เป็นศิษย์เอก 555ในที่สุดข้าก็พบท่านก่อนใคร”

แววตาสุขสมใบหน้ายิ่งงามสดใส

ปู้ตานซิน ลืมตาใช้ตะเกียบในมือคีบอาหารใส่ปาก เริ่นเจินรินสุรากับชาอย่างละจอกตรงหน้า

“ข้าขอท้าประลองกับท่านลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” ลุกขึ้นไปยืนจังก้าในมือมีมีดสั้นอาวุธคู่กายที่คมกริบ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status