จะกลับไปแก้ไขสิ่งใดได้ ตัวเจ้าก็เพียงกลับไปหลงกลรักของนางเช่นเดิม
“อาจารย์ เรากำลังจะไปที่ไหนกัน”
“หยางหว่านเจ้ารั้งอยู่กับบิดาเจ้า เสร็จเรื่องแล้วอาจารย์จะรับเจ้ากลับขึ้นเขา”น้ำเสียงเรียบเฉยไม่มีสีหน้าแสดงความกังวลหรือรู้สึกเช่นไร
“แต่”
“หยางหว่านมีบางอย่าง พลาดไป”
“ไม่เป็นไรศิษย์ตั้งใจ ร่วมเดินทางอยู่แล้ว”
“เจ้า ไม่ได้อยากร่วมเดินทางแค่เพียงอยากพบจี้โม่ เช่นนั้นเป็นข้าที่พาเขากลับมาหาเจ้าเอง”
“อืม ศิษย์น้องจี้โม่ลงเขามานานแล้ว ข้ากำลังคิดถึงเขาพอดี อาจารย์กำลังจะตามเขากลับขึ้นเขาใช่หรือไม่”
ดวงตาใสซื่อ แม้ปู้ตานซินจะพยายามคิดว่านางเป็นเช่นนี้ประจำอยู่แล้ว แต่ก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้ หยางหว่านแสดงความดีใจเมื่อพูดถึงจี้โม่
“รั้งอยู่กับบิดาเจ้า ข้าสัญญาจะพาเขากลับมา”
จี้โม่ เร้นกายในถ้ำน้ำแข็ง ที่เคยเป็นที่ซ่อนกายของฉูฉาง ร่างฉูฉางที่ถูกผนึกนั้น กลับกลายเป็นเพียงร่างที่ไร้วิญญาณรอวันเหี่ยวแห้ง ร่างกายของจี้โม่กลับ ทรงพลังมีลมปราณและกำลังวังชามากกว่าผู้ใด
“ฆ่าปู้ตานซินเสีย ข้าจึงจะปล่อยเจ้า”ใบหน้าผลัดเปลี่ยนไปมาระหว่างใบหน้าของฉูฉางกับจี้โม่ จี้โม่กล้ำกลืนความเจ็บปวดเหมือนมีเข็มนับแสนนับล้านทิ่มแทงไปทั่วกาย
“ยอมรับดวงจิตของข้า เจ้าจึงไม่ต้องเจ็บปวด” เสียงพูดของฉูฉางดังออกมาแต่ริมฝีปากของจี้โม่หาได้ขยับไม่
“ไม่ไม่มีทาง ข้าไม่มีทางทำร้ายอาจารย์”
“เจ้าโง่ เจ้าเป็นดวงจิตของข้า หากไม่ใช่ข้า เจ้าเช่นไรจะได้ มีตัวตน”
“ข้าคือจี้โม่ ข้าคือจี้โม่”
ร่างสั่นสะท้านกระตุกขึ้นลงด้วยต่อต้านดวงจิตของฉูฉางที่แข็งแกร่งกว่า
“ข้าแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม หากยังไม่ยอมรับข้าเจ้าจะไม่มีตัวตนอีกต่อไปข้าจะทำลายดวงจิตเจ้าเสีย แล้วจะครอบครองร่างกายของเจ้าทั้งหมด”
“เจ้ามารร้าย อาจารย์จะต้องจัดการกับเจ้า”
“555สี่พันปี เขาแค่เพียงผนึกข้า แต่ไม่มีทางที่จะหยุดข้าได้ ข้าแค่เพียงสั่งสมพลังและฝึกตนในผนึกของกงล้ง ดีเสียอีกข้าจึงมีเวลาถึงสี่พันปีก้าวหน้ากว่าปรมาจารย์ของเจ้า ที่เอาเวลาวุ่นวายแต่เรื่องรักใคร่ ลืมเลือนไปว่าข้ายังอยู่ตรงนี้ ฉะนั้นข้าจึงได้เปรียบเขา เวลาสี่พันปีทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้น ครั้งนี้อย่างไรเสียฟูเหยี่ยนหยางหว่านนางกับข้าจะต้องได้ครองคู่กันไปชั่วกาล"
“ข้าไม่มีทางให้เจ้าทำร้ายศิษย์พี่”
“เจ้าโง่ เจ้าหลงกลปู้ตานซิน เขาเพียงแค่เก็บเจ้ามาเลี้ยงเพื่อให้เจ้ากับนางลืมรักที่มีต่อกันเสีย จี้โม่หยางหว่านเป็นของเจ้าเป็นของข้า หาใช่ของกงล้งหรือปู้ตานซิน เราสองคนมีดวงใจดวงเดียวกัน...กำจัดเขาเสีย แล้วเจ้าจะต้องขอบคุณข้าหลังจากนั้น พาข้าไปพบนาง ข้าทนคิดถึงนางไม่ไหวสี่พันปีช่างเนิ่นนาน”
จี้โม่ก้าวเดินไปตามดวงจิตของฉูฉางหาเป็นตัวเองไม่ แม้จะขัดขืนแต่ร่างกายก็ไม่อำนวยเหมือนหุ่นกระบอกที่ถูกชักใยไว้เบื้องหลัง
หลงตั๋วนอนไร้สติอยู่บนแท่นนอน หลินอี้หลิวปาดน้ำตาด้วยความรู้สึกสงสาร
“ศิษย์ของท่าน ละเมิดกฎลักลอบเข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง ไท่จือเข้าไปขวางจึงถูกจอมมารฉูฉางทำร้าย”ปู้ตานซิน แค่เพียงพยักหน้ารับรู้
“ท่านปรมาจารย์เดิมพวกเราทำตามกฎเคร่งครัดไม่คิดว่าศิษย์ของท่านลงจากเขามาไม่นาน กลับทำให้เกิดเรื่องร้ายไท่จือเป็นตายเท่ากัน ไม่แน่ว่าไม่อาจเอาชีวิตรอดได้ ศิษย์ของท่านกลัวความผิดหนีหายไป ดีที่จอมมารฉูฉางยังอยู่ในผนึกเช่นเดิม”
ปู้ตานซินอยากจะบอกเหลือเกินว่า ฉูฉางนั้นไม่ได้อยู๋ในถ้ำแล้ว นั่นเพียงแค่ร่างที่เขาสละไว้ เพื่อเกาะยึดร่างใหม่ที่มีดวงจิตเดียวกันของจี้โม่
“ข้าจะช่วยไท่จือเอง ฝ่าบาทโปรดวางใจ”
คำพูดว่าโปรดวางใจ ของปู้ตานซิน แม้ใครได้ยินก็คงคิดเป็นจริงจังไปเสียทุกคนแต่ภายในใจใครกันจะรู้ว่าปู้ตานซินรับปากไปเช่นนั้น แล้วภายในใจรู้สึกว่ามันหนักหนาเหลือเกิน ตอนนี้เขาไม่ควรจะช่วยใครเพียงเก็บกายใจไว้ต่อสู้กับฉูฉางเป็นพอ ฉูฉางกับจี้โม่ที่ผนึกดวงจิตร่วมร่างเป็นหนึ่ง จะต่อกรง่ายดายปู้ตานซินก็คงไม่ต้องเป็นกังวลเพียงนี้
หวนคืน
“กงล้ง เจ้ากับข้าสิ้นวาสนาต่อกันแล้ว อย่าได้คิดพลิกชะตา เปลี่ยนวาสนาเลย”
“ฟูเหยี่ยนหยางหว่าน เจ้าเป็นของข้าและจะต้องเป็นของข้าตลอดไปเห็นแก่ความรักของเราในครั้งก่อน เจ้ากับข้าเป็นผัวเมียกันแล้ว แต่เจ้ากลับมอบร่างทอดกายให้กับฉูฉางได้อีกอย่างนั้นหรือ”
“ข้ามีลูกของเขาอยู่ในครรภ์ กงล้งปล่อยข้าไปเสีย ข้ากับฉูฉางสัญญาจะไม่กลับมาที่นี่อีก ท่านเป็นถึงปรมาจารย์อีกทั้งยังหนุ่มแน่นคาดว่าไม่นานจะต้องพบรักแท้”“รักแท้ของข้ามีเพียงเจ้าฟูเหยี่ยน หยางหว่าน”“ท่านแค่เพียงรู้สึกเสียดาย รู้สึกว่าฉูฉางเหนือกว่าท่าน เพราะข้าเลือกเขา หากนานไปท่านก็จะรู้ว่า ยังมีหญิงอื่นที่คู่ควรท่าน ข้าหาคู่ควรไม่ปล่อยข้าไปเสีย”“ไม่ไม่...ไม่มีทาง" โถมร่างเข้าใส่กอดจูบพัลวัน ร่างเล็กของหยางหว่านไม่อาจต่อต้านขัดขืน“ได้โปรดกงล้งปล่อยข้าไปเสีย”“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้ารักฉูฉาง เจ้าแค่เพียงหาใครสักคนแทนที่ข้า ในเมื่อมีข้าแล้วเขาก็หมดประโยชน์”หยางหว่านหลับตาลงช้าๆ ไล่หยาดน้ำตาเมื่อร่างใหญ่เปลือยเปล่ากอดรัดอยู่บนแท่นนอน บทรักเร่าร้อนกลายเป็นอ่อนหวานอ่อนโยน ไม่อาจต่อสู้ขัดขืนยอมให้เข้าครอบครองร่างกายแม้จะบอกว่าไม่เต็มใจ แต่ภายในใจกับไม่อาจต้านทาน ไฟเสน่หาทั้งๆ ที่ในครรภ์มีเลือดเนื้อเชื้อไขของฉูฉางในนั้น สะอื้นไห้ปานจะขาดใจ กงล้งจูบซับน้ำตากอดรวบร่างบาง ด้วยความรักดั่งดวงใจ“ข้าไม่เคยลืมเจ้า ข้าไม่เคยไม่รักเจ้าฟูเหยี่ยนหยางหว่าน ลืมฉูฉางเสีย แล้วอยู่กับข้า ข้ารับรองจะรักและดูแลเ
“จี้โม่ ช้าไปแล้วจี้โม่แอบเข้าไปในถ้ำที่ผนึกจอมมารฉูฉาง ตอนนี้หนีหายไปไม่มีผู้ใดพบเห็น”“ศิษย์พี่ท่านว่ามีความเป็นไปได้เพียงใด ที่จี้โม่จะเป็นผู้ทำร้ายปู้ตานซิน”ป้อก้านส่ายหน้าไปมา“จี้โม่ จะต่อกรกับปู้ตานซินที่เป็นอาจารย์ได้อย่างไร นอกจาก…จะได้พลังมารจากจอมมารฉูฉาง”“ศิษย์พี่ อย่างนั้นแสดงว่าปู้ตานซินรู้เรื่องนี้ดี”“ปิดสำนักสร้างค่ายกล ป้องกันสำนักไว้ ข้าจำต้องช่วยปู้ตานซินเสียเดี๋ยวนี้ หากจี่โม่หรือจอมมารฉูฉางมาตามหาปู้ตานซินที่นี่เกรงว่าเราไม่อาจปกป้องเขา”“ท่านพ่อจะช่วยอาจารย์ได้อย่างไร”หยางหว่านสีหน้าเป็นกังวล“ข้าจะต้องถ่ายลมปราณบางส่วนให้เขา อาจพอให้อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นแต่อาจไม่สามารถช่วยได้มากด้วยความที่ปู้ตานซินเป็นถึงปรมาจารย์ลมปราณของเขาสูงส่งกว่าข้าไม่น้อย หากจะให้เขาดีขึ้นจนเป็นปกติจะต้องใช้ลมปราณของ พวกเราถึงสองคน”ป้อคุนรีบออกตัว“ศิษย์พี่ หากจอมมารมาที่นี่เราสองคนไม่มีใครเหลือพลังลมปราณเกรงว่า สำนักป้อหยางของเราจะราบเป็นหน้ากลอง”ป้อก้านพยักหน้าแม้จะห่วงปู้ตานซินแค่ไหนแต่ก็ห่วงสำนักที่สร้างมากับมือมากกว่า“เช่นนั้นให้ข้าถ่ายลมปราณให้เขาเพียงคนเดียวส่วนเจ้าระหว่างนี้
“อาจารย์ ก่อนหน้านั้นข้าไม่ได้สติอาจารย์ทำเรื่องใดก็ไม่ต้องเสียสละรับผิดชอบในตัวเข้าก็ได้ ถือเสียว่าเรื่องนี้มิได้เกิดขึ้นมาก่อน”แกล้งพูด หยั่งเชิงดูว่าปู้ตานซินจะเป็นบุรุษที่เป็นบุรุษจริงๆหรือไม่เสียที เสียแล้วหยางหว่านในเมื่อปู้ตานซินหลับตาลงช้าๆบีบรัดดวงจิตเข้าไปอ่านใจที่ภายในนั้นมีแต่ความคิดอยากให้อาจารย์แสดงความรักใคร่ในนั้น ปูู้ตานซินยิ้ม กว้างก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ สมใจแล้วมิใช่หรือ“เช่นนั้นยามนี้ยามที่เจ้ามีสติสมบูรณ์ข้าจัดการ เจ้าเสียให้เจ้าได้รับรู้ว่าเป็นของข้าแล้ว อย่างไม่อาจปฏิเสธ” ก้มลงรั้งร่างบางลงบนแท่นนอนกดริมฝีปากบดเบียดเร่าร้อนด้วยไฟสวาทไม่อาจมอดดับลงง่ายๆในเมื่อปู้ตานซิน ในใจเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟแห่งรัก“อะ อาจารย์”“ข้าต้องการเจ้าหย่างหว่าน อย่าบอกว่าเจ้าไม่ต้องการข้าอย่าได้ปากแข็งอีกเลย ใจเราสองตรงกันเพียงนี้ เป็นของข้าเสียแล้วอย่าบอกว่าเจ้าไม่ได้รับรู้ม้น ว่าข้าต้องการเจ้าแค่ไหน อาจารย์ต่อแต่นี้จะรักเจ้าเพียงคนเดียวไม่เกรงว่าจะต้องเจอเรื่องราวเลวร้ายหรือทุกอย่างจะซ้ำรอยเดิม ขอเพียงให้ได้อยู่กับเจ้าได้มีเจ้าข้างกายไก้กอดจูบเจ้าก็พอแล้ว” ปลดแกะอาภรณ์ทั้งที่เพิ่งจะสวม
“ข้าจะไปตามท่านพ่อ”หยางหว่านแอบดีใจที่ปู้ตานซิน กล้าที่จะสู่ขอหยางหว่านกับป้อก้าน เช่นนั้นแสดงว่าอาจารย์มีใจให้กับหยางหว่านเช่นเดียวกับที่หยางหว่านเฝ้าชื่นชมและแอบหวังว่าสักวันจะได้เคียงข้างปู้ตานซินดึงมือบางไว้ ก่อนจะลุกจากแท่นนอนกำมือของหยางหว่านไว้แน่นพาเดินออกจากห้องตั้งใจจะไปพบกับป้อก้าน พูดจาสู่ขอหยางหว่านทันที“ปู้ตานซิน จี่โม๋มีดวงจิตของจอมมารฉูฉางอยู่ในนั้น กำลังมาที่นี่” ป้อคุนหันหน้าหันหลังวิ่งเข้ามาในห้อง“มีวิธีไหนกำจัดดวงจิตมารให้กับจี้โม่ได้บ้าง ปู้ตานซินเจ้าเป็นถึงปรมาจารย์”ปู้ตานซินถอนหายใจ“ศิษย์พี่ บางอย่างปรมาจารย์ก็ใช่จะสามารถช่วยได้ ข้าเองเป็นปรมาจารย์แต่ก็ยังเป็นมนุษย์”“จี้โม๋เป็นลูกชายคนเดียวของข้า อีกทั้งยังเป็นศิษย์ของเจ้า ปู้ตานซินเจ้านำเขาไปเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเด็ก แต่กลับยอมให้เขากลายเป็นมาร จิตใจเจ้าทำด้วยอะไรเจ้ายอมได้หรือที่ต้องเห็นจี้โม่เข้าสู่ด้านมืด เพียงเพราะเจ้าไม่อาจช่วยเหลือเขาได้”“ศิษย์พี่ข้าจนใจ”เอ่ยปากได้เพียงแค่นั้น ก็รู้สึกถึงแรงกระแทกอย่างจังที่ลำตัว จี้โม่ซัดฝ่ามือเข้าใส่ปู้ตานซิน ไม่พูดพร่ำทำเพลง แม้จะไม่ถึงกับล้มลงไปกองกับพื้นแต่ร่างส
“อืมการเดินทางเรียบร้อยดีหรือไม่”เริ่นเจินยิ้มกว้างประสานมือคารวะหวังต้าฉินด้วยความยินดีอย่างยิ่ง“อาจารย์ตั้งแต่อาจารย์ลงเขามา อาจารย์ลุงทั้งสองก็แวะเวียนที่สำนักเกาซิ่งอบรมสั่งสอนพวกเราแทนอาจารย์ อีกทั้งยังได้ดูแลสำนักแทนข้า วันนี้ข้าจึงลงมาที่นี่ได้”“ดีแล้วครั้งนั้นถ้าไม่ได้ศิษย์พี่ทั้งสองข้าก็คงแย่ ฟื้นตัวมาเพียงนี้เพราะศิษย์พี่ป้อก้านกับป้อคุน ที่ช่วยกันถ่ายลมปราณจนข้าแข็งแรงดีศิษย์พี่ป้อคุนเข้าใจข้า ข้าก็พอใจแล้ว จะว่าไปจอมมารฉูฉางรวมร่างกับจี้โม่นับว่าเป็นความผิดของข้าเป็นเพราะข้าคาดไม่ถึงว่าจี้โม่จะเป็นดวงจิตมารของฉูฉางอวตารมาเกิด”“อาจารย์พรรคมารของฉูฉางเหิมเกริม สองปีมานี่ออกจับตัวผู้คนไปสังเวยผู้คนล้มตาย เหล่าสำนักต่างๆล้วนหาวิธีกำจัดจอมมาร แต่ไม่เป็นผลยิ่งเพิ่มจำนวนศิษย์เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้พรรคมาร สังหารผู้คนมากมายเพื่อให้คงกระพัน อาจารย์เราจะทำอย่างไรดี”“สามปีมานี้ข้าตามหา หยางหว่านทั่วปฐพีแต่ไม่เคยตามทันนางเชื่อกันว่ามีเคล็ดวิชาหนึ่งที่สามารถเร้นกายได้รวดเร็ว ข้ามป่าเขาได้ราวกับขี้เมฆข้ามฟ้า ฉูฉางอาจ ถ่ายทอดเคล็ดวิชานั้นให้กับนาง ใช้นางให้จับตัวผู้คนไปให้กับฉูฉาง
“รสดีมากเริ่นเจิน เจ้าไม่รีบกินพร้อมกันเสีย”“ข้าบอกให้ท่านลุกขึ้นมาสู้กับข้า”“สั่งมาเพิ่มอีกจาน อาหารจานนี้รสดีที่สุด”เริ่นเจิน ตะโกนสั่งอาหาร“นี่ท่านไม่ได้ยินหรือว่าแกล้งไม่ได้ยิน”แผดเสียงก้องโรงเต๊๊ยม กระแทกจอกสุราหกเรี่ยราด เหล่าผู้คนต่างรีบหาที่ซ่อนตัวเพื่อรอดูการประลอง หาทำเลที่มองเห็นได้ชัดและไม่เผลอโดนลูกหลง“สุราเพิ่มอีกเหยือก เจ้าก็ดื่มเสียด้วยกัน เดินทางรอนแรมในป่าเขามานานมื้อนี้ถือว่าเป็นมื้อพิเศษ”“ท่าน”ใช้มีดสั้นในมือปามายังปู้ตานซิน ตรงเป้าไม่มีพลาดแต่ทว่ามือเรียวดังมือหญิงสาวกับคว้าด้ามมีดที่ลอยละลิ่วเข้าใส่เขาวางลงบนโต๊ะข้างกายไม่สะทกสะท้าน และไม่แม้แต่จะเหลือบตามองแต่กลับคว้าดามมีดได้พอเหมาะพอดี ผู้คนต่างปรบมือกึกก้อง เจวียนจิ่วหยาถลาเข้าคว้าอาวุธประจำกายปู้ตานซินกลับใช้ตะเกียบในมือตีไปที่หลังมืออย่างแรง“โอ๊ย เจ็บ”เริ่นเจินอมยิ้ม อดที่จะสงสารเจวียนจิ่วหยาไม่ได้คงเจ็บน่าดูอาจารย์หาใช่คนที่ออมมือไม่ เห็นได้ชัดว่าคลำหลังมือปรอยๆ แล้วยังเป็นรอยตะเกียบเป็นริ้วสีแดงขึ้นมาทันที“แม่นางน้อย อาจารย์ข้าไม่มีเวลาเล่นสนุกกับท่านหรอก เราสองคนเดินทางรอนแรมกว่าจะมีโอกาสได้กิน
“ข้าไม่ไป”“ข้ากับอาจารย์ไม่ต้อนรับเจ้า” เอาตัวเข้าขวางไว้เมื่อปู้ตานซินเดินไปข้างหน้าแล้วเจวียนจิ่วหยาทำท่าจะเดินตาม“ข้าจะบอกอะไรให้ พูดแล้วจะหาว่าคุย ข้าสืบเรื่องราวของท่านมาทั้งหมดแล้ว รู้อะไรไหม ข้ากับกระบี่เจียงเฉียงเราสองคนเป็นดั่งพี่น้อง ตอนนี้ท่านทั้งสองตามรอยนางข้าสามารถพาท่านตามจนพบนางได้ไม่ยาก” ปู้ตานซิน หยุดก้าวเดิน“อาจารย์ นางบอกว่าจะพาเราตามหากระบี่เจียงเฉียง”“ไล่นางไปเสีย”“ดะดะเดี๋ยวข้าจะบอกอะไรให้ กระบี่เจียงเฉียง นางใช้เคล็ดวิชาที่ท่านจอมมารถ่ายทอดในการหลบหลีกเร้นกาย"กอดอกทำสีหน้า อมภูมิ“แล้วข้าก็เป็นคนผู้หนึ่งที่สามารถใช้เคล็ดวิชาในการหากระบี่เจียงเฉียงได้ตลอดเวลา”กอดอกด้วยท่าที่หยิ่งผยอง“ไล่นางไปเสีย”“เอ้า จริงๆ นะข้าไม่ได้โกหก”“เจ้าไปเสีย”เริ่นเจินไล่ เจวียนจิ่วหยาเงื้อไม้เงื้อมือด้วยความเคยตัว“ข้าจะหักนิ้วท่านเสีย ข้อหากล้าปฏิเสธข้า”คว้ามือปู้ตานซิน ตั้งจะจะหักนิ้วเหมือนที่เคยทำกับคนอื่น แต่ทว่าไม่ว่าจะออกแรงอย่างไรก็ไม่อาจ หักนิ้วของปู้ตานซินได้ปู้ตานซินผลักร่างบางลงไปกองกับพื้น คราวนี้เริ่นเจินไม่รับไว้เหมือนคราวก่อนลงไปนั่งกับพื้นก้นจ่ำเบ้า ดึงมีดสั
ที่ประชุมชาวยุทธ์จากสำนักต่างๆ ทั่วยุทธภพที่ต่างมารวมตัวกันที่ เรือนอารักขาหน้าถ้ำที่ผนึกจอมมารฉูฉางพร้อมกับร่างเหี่ยวแห้งไร้ดวงจิต“จอมมารฉูฉางเหิมเกริม เข่นฆ่าชาวบ้านจับตัวดื่มเลือดสูบเนื้อล้มตายนับไม่ถ้วน ยิ่งนานวันยิ่งแผ่ขยายอำนาจจนน่ากลัว สามปีมานี้เกินที่จะทนแล้ว”หวังต้าฉินนั่งในแถวรอฟังเหล่าปรมาจารย์หารือกัน“เดิมเป็น ท่านปรมาจารย์กงล้งที่สละร่างผนึกจอมมารไว้ ว่าคราวนี้กลับมาอีกครั้งกับผนึกร่างกับศิษย์ของสำนักเกาซิ่งจี้โม่ยิ่งเพิ่มความเหิมเกริม”“เห็นที่จะต้องรวบรวมผู้กล้าจัดการจอมมารเสีย หากยิ่งนานวันยิ่ง จะมีพลังแก่กล้า”ป้อก้านออกความเห็น“ปรมาจารย์หนุ่มปู้ตานซิน ได้ข่าวว่าออกตามล่าจอมมารฉูฉางถึงสามปีมานี้ยังไม่อาจโค่นล้มจอมมารลงได้ ไหนหลายคนต่างยกย่องให้เป็นยอดปรมาจารย์”เสียง เหน็บจากปรมาจารย์อาวุโสเง็กเต็กที่เคยไปช่วงชิงป้ายสำนัก เกาซิ่ง“ใช่ๆๆ ”หลายเสียงเห็นพ้อง“ ปรมาจารย์อาวุโสเง็กเต็กท่านไม่แยกแยะถูกผิดชั่วดี เอาความแค้นส่วนตัวมา พูดจาให้ผู้อื่นเข้าใจอาจารย์ข้าผิดไป ตอนนี้อาจารย์กำลังหาทางกำจัดจอมมารสืบหาเคล็ดวิชาทั่วหล้า หาได้นิ่งดูดายไม่ อีกอย่างเมื่อครั้งที่ปีศาจพ