“ความจริงคือข้าไม่เคยรู้ว่ามาก่อนว่ารองเจ้าสำนักกระบี่ฟ้ากงล้ง จะเป็นคนเดียวกับ กวงเสี่ยวอึ้งที่ข้าเคยรู้จัก..และมอบใจให้ ข้าเพียงแต่อยากมาช่วยพูดให้ท่านวางใจว่าฉูฉางจะวางมือด้วยไร้กังวล เขากลัวว่าสหายผู้หนึ่งจะเป็นกังวลเพราะเขา”พูดความจริงไร้การเสแสร้ง
“ไม่จริง”ดึงรั้งร่างบางเข้าใกล้กดริมฝีปากบดเบียดอย่างบ้าคลั่ง ฟูเหยี่ยนหยางหว่านสะบัดฝ่ามือลงบนแก้มของกงล้งอย่างแรง
“ไหนท่านบอกว่า ท่านตั้งใจฝึกตนเพื่อจะได้ เป็นสุดยอดฝีมือ แล้วยังมาสนใจข้าทำไมกัน เรื่องที่ท่านพูดล้วนปลิ้นปล้อนไม่จริงไปเสียทุกอย่าง ในใจไม่รู้สึกอะไรในเมื่อท่านสูญเสียข้าไป ท่านจึงรู้ว่าแค่เพียงเสียดาย หาได้เสียใจ”
“ไม่ หยางหว่านข้ารักเจ้า ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไป หากเจ้าจะไปกับฉูฉางข้าจะฆ่าเขาเสีย”
“คนรักกันจากกัน ไม่เจ็บซ้ำเท่ากับคนที่ไม่รักต้องอยู่ใกล้ตา ปล่อยข้ากับฉูฉางไปเสียท่านปรมาจารย์อย่าได้แค้นเคืองเราทั้งสองคนเลย”
“เจ้าพูดเองคนรักกันจากกันไม่เจ็บซ้ำเท่าคนไม่รักกันใกล้กัน เช่นนั้นเจ้ากับฉูฉางคงไม่รู้สึกอะไรหากต้องจากกัน”สกัดจุดฟูเหยี่ยนหยางหว่านจนตัวแข็งทือ หอบเอาร่างบางจากไป
“ข้าจะผนึกเจ้าจนกว่าฉูฉางจะเลิกตามหาเจ้า เจ้าจะต้องอยู่กับข้าที่นี่ตลอดไป”ณ.ถ้ำน้ำแข็ง ที่เป็นที่เร้นกายของกงล้ง หามีผู้ใดเคยย่างกรายเข้ามาไม่
“กินเนื้อมนุษย์สูบเลือดเนื้อของมนุษย์ ทำให้ตัวเองเยาว์วัยไม่มีวันแก่เฒ่านานเข้าไม่เหลือความเป็นมนุษย์กลายร่างเป็นมาร อยู่ยงคงกระพัน เพื่อรอว่าสักวันข้าจะสามารถค้นหาเคล็ดวิชาที่จะนำเจ้ากลับมา”
ฉูฉางกอดร่างไร้วิญญาณของฟูเหยี่ยนหยางหว่าน ร้องไห้ปานจะขาดใจ
“ข้าไม่มีทางอภัยให้เจ้ากงล้งปรมาจารย์ถ้อยไร้ซึ่งศีลธรรม ขัดขวางความรักของผู้อื่นเพื่อตัวเอง ปากบอกมีคุณธรรมแต่ใจต่ำช้าโสมม”
กงล้ง เอื้อมมือหมายจะเพียงสัมผัสหยางหว่านอย่างที่เขาตั้งใจ แต่ฝ่ามือของฉูฉางกับซัดเข้าที่ยอดอกจนกระอักเลือดสดๆ ออกมาเขาหาได้โต้ตอบไม่ ความอาดูรสูญเสียที่เขารู้สึกมากเกินกว่าจะมีชีวิต
“เจ้าไปเสีย กงล้งวันนี้ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่หากพบกันอีกครั้งแม้แลกด้วยชีวิตข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้ามีชีวิตอยู่อีกต่อไป”
อุ้มร่างบางของฟูเหยี่ยนหยางหว่านในอ้อมแขนพาเดินหายลับไปกับตา
เขาบีบบังคับนางให้ตาย นางฆ่าเขาไม่ใช่เรื่องแปลก
ปู้ตานซินหลับตาไล่ยาดน้ำตา เขาถึงกับหลั่งน้ำตาให้กับภาพในอดีตเมื่อสี่พันปีที่ผ่านมา
“อาจารย์ฮ่วยซั่วเคี้ยวกับซีโครงหมูวันนี้หยางหว่านแน่ใจว่าเป็นคนลงมือเคี่ยวเองกับมือ”
เสียงสดใสร่าเริงของหยางหว่าน ปลุกให้ปู้ตานซินตื่นจากการหวนคืน
“เจ้าไปเสีย”
เรื่องราวบอบช้ำในอดีต ยิ่งตอกย้ำให้ปู้ตานซินรับรู้ว่าเป็นเขาที่ทำให้หยางหว่านเจ็บซ้ำมาตลอด สมควรแล้วที่ต่อมานางจะทำให้เขาเจ็บซ้ำบ้างก็ไม่ผิด แล้วเขาจะกลับมาทำไมกลับมาแก้ไขสิ่งใด ในเมื่อสมควรแล้วที่นางจะคู่ควรกับดวงจิตอวตารของฉูฉางอย่างจี้โม่
“อาจารย์เมื่อวานยังพูดกับหยางหว่านดีดี วันนี้เช่นไรบึ้งตึง ขับถ่ายไม่สะดวกหรือไรหรือว่ามีสิ่งใดรุมเร้าภายในใจ”ยกอ่างน้ำสำหรับล้างหน้าเข้ามาด้านใน แล้วหันไปเก็บกวาดข้าวของที่รกเรื้อไม่สนในคำไล่ ของปู้ตานซิน
“ศิษย์พี่บอกข้าว่า อาจารย์เดิมไม่ใช่คนแบบนี้ อาจารย์ล้วนไม่เคยหงุดหงิดอารมณ์เสีย อาจเป็นเพราะหยางหว่านทำเรื่องให้อาจารย์ไม่พอใจ ปกติอาจารย์แม้ไม่ยิ้มหัวทว่าไม่เคยโกรธเกรี้ยว”
ลุกขึ้นจากแท่นนอนสาวเท้ามายังหยางหว่านกระชากร่างบางเพียงเบาๆ จนล้มลงบนแท่นนอน ทาบทับไว้เสียทั้งตัว ตาคมจ้องมองดวงหน้างดงามนั้น
“อะอะอะอาจารย์”ก้มลงบดริมฝีปากกับริมฝีปากบางอย่างอ่อนหวาน แทนคำขอโทษ ที่เขาเคยทำเรื่องไม่ดีกับหยางหว่านมาก่อนลืมไปว่านางหาได้รับรู้เรื่องราวทุกอย่างอย่างที่เขารับรู้ไม่
เจ็บปวดเจ็บช้ำแต่นางไม่เคยรับรู้เรื่องราวที่เขาเจ็บช้ำนั้นแม้แต่น้อย ร่างอ่อนระทวย ในอ้อมแขนเมื่อรสจูบที่อาจารย์หนุ่มมอบให้ช่างหอมหวานจนไม่อยากให้สะดุดหยุดลง
“อา...จารย์”ปู้ตานซิน สะดุ้งกับเสียงพร่ำเรียก ผงกศีษะลุกขึ้นจากแท่นนอนหยางหว่านแสนเสียดายรสจูบเหลือเกิน
“ไปเสีย ข้าทำกับเจ้าเพียงนี้ไปเสียหยางหว่าน หากยังเข้ามาอีกข้าอาจจะทำมากไปกว่านี้”
จูบเขาแล้วยังมาไล่คนอะไร หยางหว่านน้อยใจเสียใจจะมีวันไหนที่ไม่น้อยอกน้อยใจกับอาจารย์หนุ่มผู้หล่อเหลา
จี้โม่สกัดจุดเหล่าองครักษ์ปลายแถวที่เฝ้าถ้ำน้ำแข็งอยู่นั้นอย่างง่ายดายเร้นกายเข้าไปด้านใน ทันที
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่าในที่สุดดวงจิตอวตารที่ข้าเพียรสร้างมานานก็กลับมาหาข้าแล้ว”
“จอมมารเจ้าหมายถึงเรื่องใดกัน”
“เจ้าเด็กโง่ หากมิใช่ดวงจิตอวตารของข้า เจ้าคิดว่าจะเข้ามาในนี้ได้ง่ายดายอย่างนั้นหรือต้องมีดวงจิตมารแอบแฝง จึงมองข้ามเรื่องคุณธรรมเสียสิ้น”“ใครกำหนดกันว่า สิ่งไหนคือคุณธรรมสิ่งไหนคือจิตมาร”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ปลดปล่อยข้าสิแล้วเจ้าจะเข้าใจทุกอย่าง”คำพูดก้องในหัวของ จี้โม๋เหมือนเสียงสะท้อนในหุบเหวลึก ยกมือขึ้นอุดหูเสีย“โอหังเกินไปแล้ว เพียงแค่จอมมารปลายแถว ข้าเป็นถึงศิษย์เอกของท่านปรมาจารย์ปู้ตานซิน เจ้ากล้าโอหังกับข้าหรือ”ซัดฝ่ามือใส่ผนึก บางอย่างหมุนวนเข้าที่เดิม ทั้งพละกำลังและลมปราณที่รวบรวม คล้ายดังลมปราณของปู้ตานซินเมื่อก่อนหน้านั้น ผนึกสีฟ้าใสปริแตกเป็นรอยร้าวยาวเหยียด“ขอบใจที่ทำลายผนึกเพื่อข้า สมกับที่ข้ารอคอยเจ้ามาเนิ่นนาน เจ้ากับข้าไม่ต่างกัน เรารักมั่นกับนางผู้เดียว”“เจ้าหมายถึงเรื่องใดกัน”“จี้โม๋ อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่ได้มีใจให้กับฟูเหยี่ยน หยางหว่าน”“หยางหว่าน เจ้าตั้งใจจะทำอะไร”“นางเกิดมาเพื่อเป็นของข้าและเจ้า”หลงตั๋วขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าองครักษ์ที่เฝ้าถ้ำต่างถูกสกัดจุดจนสิ้น คลายจุดที่สะกัดออกเสีย“ใครกันทำเรื่องเช่นนี้”“ไท่จือ ศิษย์พี่ของท่านจี้โม่เร้นกายเข้าไปข้างใน
หลุดออกมาจากด่านค่ายกล สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดด้านล่างอากาศบริสุทธิ์ไม่น้อย อาภรณ์ชุดดำที่สวมใส่ทำให้องอาจน่ามอง ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะต้องเผชิญมันอย่างเด็ดเดี่ยวและตั้งใจเหมือนเมื่อสี่พันปีที่ผ่านมา“พลั๊ก..."ร่างบอบบางของใครบางคนกระเด็นออกมาชนร่างเขาเข้าเต็มแรง ปู้ตานซินคว้าเอวกิ่วไว้แน่น“อะ อาจารย์”หยางหว่านนั้นเอง นางบุกบั่นฝ่าค่ายกลลงเขามา แต่เขาเพียงแค่โบกมือค่ายกลก็พร้อมจะเปิดอ้า แต่หยางหว่านนางจะใช้ความสามารถทั้งหมดผ่าด่านค่ายกลลงเขา“กลับขึ้นไปเสีย”“อาจารย์จะบ้าหรือ ข้าเพิ่งจะผ่าด่านค่ายกลลงมาแสนจะยากลำบากอาจารย์กลับบอกว่าให้กลับขึ้นไป”ช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนอุ้มไว้ทั้งตัว จะห่างนางกับอยากใกล้ คิดถึงรสจูบและรอยกอด“อาจารย์ท่านจะทำอะไร”เมินหน้าไม่มองหยางหว่านในอ้อมแขน“อาจารย์จะทำอะไร”เสียงเข้ม“ข้าจะพาเจ้ากลับไปส่งที่บนเขา”หยางหว่านดิ้น หลุดจากอ้อมแขนลงมายืนจ้องหน้าปู้ตานซิน“อาจารย์ ต้องเป็นข้าที่โกรธอาจารย์เพราะอาจารย์...จูบข้า”ปู้ตานซินถอนหายใจ หันหลังเดินหนี หยางหวานเดินมายืนเผชิญหน้าเขย่งตัวขึ้นจุมพิตที่ปากของปู้ตานซินอย่างจงใจ“หายกัน อาจารย์จูบข้า ข้าจูบอาจ
จะกลับไปแก้ไขสิ่งใดได้ ตัวเจ้าก็เพียงกลับไปหลงกลรักของนางเช่นเดิม“อาจารย์ เรากำลังจะไปที่ไหนกัน”“หยางหว่านเจ้ารั้งอยู่กับบิดาเจ้า เสร็จเรื่องแล้วอาจารย์จะรับเจ้ากลับขึ้นเขา”น้ำเสียงเรียบเฉยไม่มีสีหน้าแสดงความกังวลหรือรู้สึกเช่นไร“แต่”“หยางหว่านมีบางอย่าง พลาดไป”“ไม่เป็นไรศิษย์ตั้งใจ ร่วมเดินทางอยู่แล้ว”“เจ้า ไม่ได้อยากร่วมเดินทางแค่เพียงอยากพบจี้โม่ เช่นนั้นเป็นข้าที่พาเขากลับมาหาเจ้าเอง”“อืม ศิษย์น้องจี้โม่ลงเขามานานแล้ว ข้ากำลังคิดถึงเขาพอดี อาจารย์กำลังจะตามเขากลับขึ้นเขาใช่หรือไม่”ดวงตาใสซื่อ แม้ปู้ตานซินจะพยายามคิดว่านางเป็นเช่นนี้ประจำอยู่แล้ว แต่ก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้ หยางหว่านแสดงความดีใจเมื่อพูดถึงจี้โม่“รั้งอยู่กับบิดาเจ้า ข้าสัญญาจะพาเขากลับมา”จี้โม่ เร้นกายในถ้ำน้ำแข็ง ที่เคยเป็นที่ซ่อนกายของฉูฉาง ร่างฉูฉางที่ถูกผนึกนั้น กลับกลายเป็นเพียงร่างที่ไร้วิญญาณรอวันเหี่ยวแห้ง ร่างกายของจี้โม่กลับ ทรงพลังมีลมปราณและกำลังวังชามากกว่าผู้ใด“ฆ่าปู้ตานซินเสีย ข้าจึงจะปล่อยเจ้า”ใบหน้าผลัดเปลี่ยนไปมาระหว่างใบหน้าของฉูฉางกับจี้โม่ จี้โม่กล้ำกลืนความเจ็บปวดเหมือนมีเข็มนับแสนนับล้
“ข้ามีลูกของเขาอยู่ในครรภ์ กงล้งปล่อยข้าไปเสีย ข้ากับฉูฉางสัญญาจะไม่กลับมาที่นี่อีก ท่านเป็นถึงปรมาจารย์อีกทั้งยังหนุ่มแน่นคาดว่าไม่นานจะต้องพบรักแท้”“รักแท้ของข้ามีเพียงเจ้าฟูเหยี่ยน หยางหว่าน”“ท่านแค่เพียงรู้สึกเสียดาย รู้สึกว่าฉูฉางเหนือกว่าท่าน เพราะข้าเลือกเขา หากนานไปท่านก็จะรู้ว่า ยังมีหญิงอื่นที่คู่ควรท่าน ข้าหาคู่ควรไม่ปล่อยข้าไปเสีย”“ไม่ไม่...ไม่มีทาง" โถมร่างเข้าใส่กอดจูบพัลวัน ร่างเล็กของหยางหว่านไม่อาจต่อต้านขัดขืน“ได้โปรดกงล้งปล่อยข้าไปเสีย”“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้ารักฉูฉาง เจ้าแค่เพียงหาใครสักคนแทนที่ข้า ในเมื่อมีข้าแล้วเขาก็หมดประโยชน์”หยางหว่านหลับตาลงช้าๆ ไล่หยาดน้ำตาเมื่อร่างใหญ่เปลือยเปล่ากอดรัดอยู่บนแท่นนอน บทรักเร่าร้อนกลายเป็นอ่อนหวานอ่อนโยน ไม่อาจต่อสู้ขัดขืนยอมให้เข้าครอบครองร่างกายแม้จะบอกว่าไม่เต็มใจ แต่ภายในใจกับไม่อาจต้านทาน ไฟเสน่หาทั้งๆ ที่ในครรภ์มีเลือดเนื้อเชื้อไขของฉูฉางในนั้น สะอื้นไห้ปานจะขาดใจ กงล้งจูบซับน้ำตากอดรวบร่างบาง ด้วยความรักดั่งดวงใจ“ข้าไม่เคยลืมเจ้า ข้าไม่เคยไม่รักเจ้าฟูเหยี่ยนหยางหว่าน ลืมฉูฉางเสีย แล้วอยู่กับข้า ข้ารับรองจะรักและดูแลเ
“จี้โม่ ช้าไปแล้วจี้โม่แอบเข้าไปในถ้ำที่ผนึกจอมมารฉูฉาง ตอนนี้หนีหายไปไม่มีผู้ใดพบเห็น”“ศิษย์พี่ท่านว่ามีความเป็นไปได้เพียงใด ที่จี้โม่จะเป็นผู้ทำร้ายปู้ตานซิน”ป้อก้านส่ายหน้าไปมา“จี้โม่ จะต่อกรกับปู้ตานซินที่เป็นอาจารย์ได้อย่างไร นอกจาก…จะได้พลังมารจากจอมมารฉูฉาง”“ศิษย์พี่ อย่างนั้นแสดงว่าปู้ตานซินรู้เรื่องนี้ดี”“ปิดสำนักสร้างค่ายกล ป้องกันสำนักไว้ ข้าจำต้องช่วยปู้ตานซินเสียเดี๋ยวนี้ หากจี่โม่หรือจอมมารฉูฉางมาตามหาปู้ตานซินที่นี่เกรงว่าเราไม่อาจปกป้องเขา”“ท่านพ่อจะช่วยอาจารย์ได้อย่างไร”หยางหว่านสีหน้าเป็นกังวล“ข้าจะต้องถ่ายลมปราณบางส่วนให้เขา อาจพอให้อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นแต่อาจไม่สามารถช่วยได้มากด้วยความที่ปู้ตานซินเป็นถึงปรมาจารย์ลมปราณของเขาสูงส่งกว่าข้าไม่น้อย หากจะให้เขาดีขึ้นจนเป็นปกติจะต้องใช้ลมปราณของ พวกเราถึงสองคน”ป้อคุนรีบออกตัว“ศิษย์พี่ หากจอมมารมาที่นี่เราสองคนไม่มีใครเหลือพลังลมปราณเกรงว่า สำนักป้อหยางของเราจะราบเป็นหน้ากลอง”ป้อก้านพยักหน้าแม้จะห่วงปู้ตานซินแค่ไหนแต่ก็ห่วงสำนักที่สร้างมากับมือมากกว่า“เช่นนั้นให้ข้าถ่ายลมปราณให้เขาเพียงคนเดียวส่วนเจ้าระหว่างนี้
“อาจารย์ ก่อนหน้านั้นข้าไม่ได้สติอาจารย์ทำเรื่องใดก็ไม่ต้องเสียสละรับผิดชอบในตัวเข้าก็ได้ ถือเสียว่าเรื่องนี้มิได้เกิดขึ้นมาก่อน”แกล้งพูด หยั่งเชิงดูว่าปู้ตานซินจะเป็นบุรุษที่เป็นบุรุษจริงๆหรือไม่เสียที เสียแล้วหยางหว่านในเมื่อปู้ตานซินหลับตาลงช้าๆบีบรัดดวงจิตเข้าไปอ่านใจที่ภายในนั้นมีแต่ความคิดอยากให้อาจารย์แสดงความรักใคร่ในนั้น ปูู้ตานซินยิ้ม กว้างก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ สมใจแล้วมิใช่หรือ“เช่นนั้นยามนี้ยามที่เจ้ามีสติสมบูรณ์ข้าจัดการ เจ้าเสียให้เจ้าได้รับรู้ว่าเป็นของข้าแล้ว อย่างไม่อาจปฏิเสธ” ก้มลงรั้งร่างบางลงบนแท่นนอนกดริมฝีปากบดเบียดเร่าร้อนด้วยไฟสวาทไม่อาจมอดดับลงง่ายๆในเมื่อปู้ตานซิน ในใจเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟแห่งรัก“อะ อาจารย์”“ข้าต้องการเจ้าหย่างหว่าน อย่าบอกว่าเจ้าไม่ต้องการข้าอย่าได้ปากแข็งอีกเลย ใจเราสองตรงกันเพียงนี้ เป็นของข้าเสียแล้วอย่าบอกว่าเจ้าไม่ได้รับรู้ม้น ว่าข้าต้องการเจ้าแค่ไหน อาจารย์ต่อแต่นี้จะรักเจ้าเพียงคนเดียวไม่เกรงว่าจะต้องเจอเรื่องราวเลวร้ายหรือทุกอย่างจะซ้ำรอยเดิม ขอเพียงให้ได้อยู่กับเจ้าได้มีเจ้าข้างกายไก้กอดจูบเจ้าก็พอแล้ว” ปลดแกะอาภรณ์ทั้งที่เพิ่งจะสวม
“ข้าจะไปตามท่านพ่อ”หยางหว่านแอบดีใจที่ปู้ตานซิน กล้าที่จะสู่ขอหยางหว่านกับป้อก้าน เช่นนั้นแสดงว่าอาจารย์มีใจให้กับหยางหว่านเช่นเดียวกับที่หยางหว่านเฝ้าชื่นชมและแอบหวังว่าสักวันจะได้เคียงข้างปู้ตานซินดึงมือบางไว้ ก่อนจะลุกจากแท่นนอนกำมือของหยางหว่านไว้แน่นพาเดินออกจากห้องตั้งใจจะไปพบกับป้อก้าน พูดจาสู่ขอหยางหว่านทันที“ปู้ตานซิน จี่โม๋มีดวงจิตของจอมมารฉูฉางอยู่ในนั้น กำลังมาที่นี่” ป้อคุนหันหน้าหันหลังวิ่งเข้ามาในห้อง“มีวิธีไหนกำจัดดวงจิตมารให้กับจี้โม่ได้บ้าง ปู้ตานซินเจ้าเป็นถึงปรมาจารย์”ปู้ตานซินถอนหายใจ“ศิษย์พี่ บางอย่างปรมาจารย์ก็ใช่จะสามารถช่วยได้ ข้าเองเป็นปรมาจารย์แต่ก็ยังเป็นมนุษย์”“จี้โม๋เป็นลูกชายคนเดียวของข้า อีกทั้งยังเป็นศิษย์ของเจ้า ปู้ตานซินเจ้านำเขาไปเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเด็ก แต่กลับยอมให้เขากลายเป็นมาร จิตใจเจ้าทำด้วยอะไรเจ้ายอมได้หรือที่ต้องเห็นจี้โม่เข้าสู่ด้านมืด เพียงเพราะเจ้าไม่อาจช่วยเหลือเขาได้”“ศิษย์พี่ข้าจนใจ”เอ่ยปากได้เพียงแค่นั้น ก็รู้สึกถึงแรงกระแทกอย่างจังที่ลำตัว จี้โม่ซัดฝ่ามือเข้าใส่ปู้ตานซิน ไม่พูดพร่ำทำเพลง แม้จะไม่ถึงกับล้มลงไปกองกับพื้นแต่ร่างส
“อืมการเดินทางเรียบร้อยดีหรือไม่”เริ่นเจินยิ้มกว้างประสานมือคารวะหวังต้าฉินด้วยความยินดีอย่างยิ่ง“อาจารย์ตั้งแต่อาจารย์ลงเขามา อาจารย์ลุงทั้งสองก็แวะเวียนที่สำนักเกาซิ่งอบรมสั่งสอนพวกเราแทนอาจารย์ อีกทั้งยังได้ดูแลสำนักแทนข้า วันนี้ข้าจึงลงมาที่นี่ได้”“ดีแล้วครั้งนั้นถ้าไม่ได้ศิษย์พี่ทั้งสองข้าก็คงแย่ ฟื้นตัวมาเพียงนี้เพราะศิษย์พี่ป้อก้านกับป้อคุน ที่ช่วยกันถ่ายลมปราณจนข้าแข็งแรงดีศิษย์พี่ป้อคุนเข้าใจข้า ข้าก็พอใจแล้ว จะว่าไปจอมมารฉูฉางรวมร่างกับจี้โม่นับว่าเป็นความผิดของข้าเป็นเพราะข้าคาดไม่ถึงว่าจี้โม่จะเป็นดวงจิตมารของฉูฉางอวตารมาเกิด”“อาจารย์พรรคมารของฉูฉางเหิมเกริม สองปีมานี่ออกจับตัวผู้คนไปสังเวยผู้คนล้มตาย เหล่าสำนักต่างๆล้วนหาวิธีกำจัดจอมมาร แต่ไม่เป็นผลยิ่งเพิ่มจำนวนศิษย์เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้พรรคมาร สังหารผู้คนมากมายเพื่อให้คงกระพัน อาจารย์เราจะทำอย่างไรดี”“สามปีมานี้ข้าตามหา หยางหว่านทั่วปฐพีแต่ไม่เคยตามทันนางเชื่อกันว่ามีเคล็ดวิชาหนึ่งที่สามารถเร้นกายได้รวดเร็ว ข้ามป่าเขาได้ราวกับขี้เมฆข้ามฟ้า ฉูฉางอาจ ถ่ายทอดเคล็ดวิชานั้นให้กับนาง ใช้นางให้จับตัวผู้คนไปให้กับฉูฉาง