เขากลับมาแล้ว The Death Painter ฆาตกรต่อเนื่องอัจฉริยะ ผู้ทิ้งศพเป็นงานศิลป์สุดสยอง ไม่มีร่องรอย ไม่มีคำบอกลา…มีเพียงความตายที่งดงามและน่าขนลุก
View Moreห้องพักที่หรูหราในโรงแรมเต็มไปด้วยความเงียบงัน ราวกับเสียงทุกเสียงถูกกลืนหายไปในความมืด หญิงสาวในชุดขาวนั่งอยู่บนโซฟา มองไปรอบ ๆ ด้วยความกังวลแฝงอยู่ในดวงตา แต่สายตาของเธอกลับสะกดจ้องที่เซบาสเตียน ผู้ชายที่ยืนอยู่ในเงามืด สายตาของเขามืดลึกและเยือกเย็น ราวกับว่ากำลังสังเกตเธอจากมุมหนึ่งของห้อง ดวงตาของเขาดูนิ่งสนิทแต่มีประกายที่เธออ่านไม่ออกเซบาสเตียนเดินเข้ามาใกล้ช้า ๆ ราวกับนักล่าที่กำลังจ้องเหยื่อ เขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์อีกใบ ยื่นให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าเงียบ ๆ น้ำเสียงนุ่มนวลของเขากลับทำให้เธอรู้สึกถึงความหนาวเหน็บที่เล็ดลอดออกมาจากทุกคำ“คุณเคยรู้สึกไหมว่า…คุณถูกจับจ้องอยู่ตลอดเวลา?”หญิงสาวรับแก้วไวน์มาอย่างลังเล หัวใจเต้นแรงจนเธอแทบได้ยินเสียงของตัวเอง เธอจิบไวน์เล็กน้อย พยายามคุมสติ แต่กลับรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองจากทุกมุมรอบตัว“ทำไมคุณถึงถามแบบนั้นคะ?” เธอกล่าวออกมาเบา ๆเซบาสเตียนยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มที่เย็นเยียบแต่ทรงพลัง “เพราะบางครั้ง…การที่เรารู้ว่าใครบางคนจับตาดูเราอยู่ มันก็ทำให้เราเริ่มสงสัยว่า...เราอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยจริงหรือไม่”หญิงสาวรู้สึกถึงความหนาวเห
ในค่ำคืนที่ความมืดเข้าปกคลุม ผนังห้องสลัวของห้องชุดหรูที่เต็มไปด้วยความเงียบสงัด บรรยากาศเย็นยะเยือกในยามดึก ตัดกับแสงไฟสีอ่อนจากหน้าต่างบานสูงที่ปล่อยเงาสะท้อนเป็นเส้นยาวลงบนพื้นหินอ่อน เซบาสเตียน นั่งอยู่ที่มุมหนึ่งในห้อง ร่างสูงสง่างามเอนตัวลงกับเก้าอี้หนังอย่างผ่อนคลาย พลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างเชื่องช้า เขามองแสงไฟที่พร่ามัวผ่านแก้วใส เหมือนจะพิจารณาทุกแง่มุมของมันด้วยความรื่นรมย์ที่ยากจะเข้าใจเสียงเพลงคลาสสิกแผ่วเบาดังจากลำโพงในมุมห้อง ดนตรีที่เขาเลือกเสมอในยามที่ต้องการอยู่กับความคิดตนเอง บทเพลงที่ทำให้เขารู้สึกถึงความเงียบสงบ ทว่าแฝงไว้ด้วยแรงดึงดูดทางอารมณ์ที่ยากจะต้านทาน เขาสูดลมหายใจยาว พลางปล่อยความคิดลอยไปกับเสียงเพลง แต่ลึกๆ แล้ว เขารู้ดีว่าสิ่งที่ทำให้เขาพึงพอใจ ไม่ใช่เสียงดนตรีเหล่านั้น หากแต่เป็นความคาดหวัง ความท้าทายที่กำลังรอเขาอยู่ในอนาคต ความลึกลับที่เขาเตรียมไว้—เส้นทางที่เขาวางไว้ให้ผู้ที่อยู่ภายใต้เกมของเขาเดินตามดวงตาคมกริบของเซบาสเตียนเหลือบมองออกไปยังเมืองที่ส่องแสงไฟยามค่ำคืน จากหน้าต่างสูงของห้องชุดที่หรูหรา ทุกสิ่งที่เห็นด้านล่างช่างไร้ค่าและเต็มไปด้ว
ในค่ำคืนที่ความมืดเข้าปกคลุม ผนังห้องสลัวของห้องชุดหรูที่เต็มไปด้วยความเงียบสงัด บรรยากาศเย็นยะเยือกในยามดึก ตัดกับแสงไฟสีอ่อนจากหน้าต่างบานสูงที่ปล่อยเงาสะท้อนเป็นเส้นยาวลงบนพื้นหินอ่อน เซบาสเตียน นั่งอยู่ที่มุมหนึ่งในห้อง ร่างสูงสง่างามเอนตัวลงกับเก้าอี้หนังอย่างผ่อนคลาย พลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างเชื่องช้า เขามองแสงไฟที่พร่ามัวผ่านแก้วใส เหมือนจะพิจารณาทุกแง่มุมของมันด้วยความรื่นรมย์ที่ยากจะเข้าใจเสียงเพลงคลาสสิกแผ่วเบาดังจากลำโพงในมุมห้อง ดนตรีที่เขาเลือกเสมอในยามที่ต้องการอยู่กับความคิดตนเอง บทเพลงที่ทำให้เขารู้สึกถึงความเงียบสงบ ทว่าแฝงไว้ด้วยแรงดึงดูดทางอารมณ์ที่ยากจะต้านทาน เขาสูดลมหายใจยาว พลางปล่อยความคิดลอยไปกับเสียงเพลง แต่ลึกๆ แล้ว เขารู้ดีว่าสิ่งที่ทำให้เขาพึงพอใจ ไม่ใช่เสียงดนตรีเหล่านั้น หากแต่เป็นความคาดหวัง ความท้าทายที่กำลังรอเขาอยู่ในอนาคต ความลึกลับที่เขาเตรียมไว้—เส้นทางที่เขาวางไว้ให้ผู้ที่อยู่ภายใต้เกมของเขาเดินตามดวงตาคมกริบของเซบาสเตียนเหลือบมองออกไปยังเมืองที่ส่องแสงไฟยามค่ำคืน จากหน้าต่างสูงของห้องชุดที่หรูหรา ทุกสิ่งที่เห็นด้านล่างช่างไร้ค่าและเต็มไปด้ว...
Comments