ในค่ำคืนที่ความมืดเข้าปกคลุม ผนังห้องสลัวของห้องชุดหรูที่เต็มไปด้วยความเงียบสงัด บรรยากาศเย็นยะเยือกในยามดึก ตัดกับแสงไฟสีอ่อนจากหน้าต่างบานสูงที่ปล่อยเงาสะท้อนเป็นเส้นยาวลงบนพื้นหินอ่อน เซบาสเตียน นั่งอยู่ที่มุมหนึ่งในห้อง ร่างสูงสง่างามเอนตัวลงกับเก้าอี้หนังอย่างผ่อนคลาย พลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างเชื่องช้า เขามองแสงไฟที่พร่ามัวผ่านแก้วใส เหมือนจะพิจารณาทุกแง่มุมของมันด้วยความรื่นรมย์ที่ยากจะเข้าใจ
เสียงเพลงคลาสสิกแผ่วเบาดังจากลำโพงในมุมห้อง ดนตรีที่เขาเลือกเสมอในยามที่ต้องการอยู่กับความคิดตนเอง บทเพลงที่ทำให้เขารู้สึกถึงความเงียบสงบ ทว่าแฝงไว้ด้วยแรงดึงดูดทางอารมณ์ที่ยากจะต้านทาน เขาสูดลมหายใจยาว พลางปล่อยความคิดลอยไปกับเสียงเพลง แต่ลึกๆ แล้ว เขารู้ดีว่าสิ่งที่ทำให้เขาพึงพอใจ ไม่ใช่เสียงดนตรีเหล่านั้น หากแต่เป็นความคาดหวัง ความท้าทายที่กำลังรอเขาอยู่ในอนาคต ความลึกลับที่เขาเตรียมไว้—เส้นทางที่เขาวางไว้ให้ผู้ที่อยู่ภายใต้เกมของเขาเดินตาม ดวงตาคมกริบของเซบาสเตียนเหลือบมองออกไปยังเมืองที่ส่องแสงไฟยามค่ำคืน จากหน้าต่างสูงของห้องชุดที่หรูหรา ทุกสิ่งที่เห็นด้านล่างช่างไร้ค่าและเต็มไปด้วยความวุ่นวายสำหรับเขา แต่ในสายตาของเซบาสเตียน เมืองนี้ไม่ต่างจากกระดานหมากรุกขนาดใหญ่ ผู้คนที่เคลื่อนไหวไปมาคือเบี้ยที่เขาสามารถวางแผนควบคุมและบงการได้ตามใจเขา ริมฝีปากของเขายกขึ้นเล็กน้อยเมื่อคิดถึงแผนการที่ถูกวางไว้อย่างรอบคอบ หญิงสาวในชุดเดรสขาวบริสุทธิ์ รออยู่ที่ปลายทาง เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังเดินเข้าสู่เกมที่เขาออกแบบมาอย่างแยบยล ทุกคำพูด ทุกการกระทำ จะถูกเซบาสเตียนควบคุมเหมือนเชิดหุ่น แม้จะรู้สึกผิดบาปเพียงใด เขาก็ไม่อาจหยุดตัวเองได้ เพราะการเป็นผู้ล่าที่เหนือกว่าทำให้เขารู้สึกถึงชีวิต ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เป็นสายที่เขาคาดไว้แล้วว่าจะมา เซบาสเตียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นแนบหู แต่ไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่ยิ้มบาง ๆ ขณะฟังเสียงปลายสายที่รายงานผลล่าสุดจากแผนการของเขา การรายงานที่รวบรวมรายละเอียดทุกขั้นตอน บอกถึงการเคลื่อนไหวและอารมณ์ของเหยื่อทุกคนที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเขา เขารู้สึกถึงความพึงพอใจที่เจือปนไปกับความสงสัยในตัวเอง ความรู้สึกที่แม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ให้ความรู้สึกเหมือนการหลุดพ้นจากกรอบทางสังคม และทำให้เขาเข้าใกล้การค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง เสียงดนตรีในห้องค่อยๆ เงียบลง เซบาสเตียนวางโทรศัพท์ลงอย่างใจเย็น ปิดเปลือกตาลงและสูดลมหายใจลึก รู้สึกถึงความล้ำค่าของช่วงเวลานี้ เหมือนโลกทั้งใบสงบลงเพื่อเปิดทางให้เขาเพียงคนเดียว บทเพลงของเขาเพิ่งเริ่มบรรเลง—และครั้งนี้ เขามั่นใจว่าจะเป็นผลงานที่สวยงามและสะเทือนใจยิ่งกว่าเคย เซบาสเตียนลืมตาขึ้นพร้อมรอยยิ้มเย็นชา ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวม เสียงดนตรีคลาสสิกเริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้งด้วยทำนองที่เปี่ยมด้วยความอลังการ ราวกับซิมโฟนีที่เขาเป็นผู้ควบคุม ทุกเครื่องดนตรีทุกโน้ตต้องบรรเลงตามการเคลื่อนไหวของเขา และในค่ำคืนนี้—เขาคือผู้กำหนดท่วงทำนองทุกสายใยที่ผูกมัดชีวิตของคนรอบข้าง เขาก้าวออกจากห้อง ทิ้งความมืดมิดและความเยือกเย็นไว้เบื้องหลัง ความท้าทายที่รออยู่ทำให้เขารู้สึกถึงอิสระที่หายาก ราวกับได้กำจัดทุกสิ่งที่คอยรั้งตัวเขาไว้ เบื้องหน้าเขาคือเหยื่อรายใหม่ที่ยังไม่รู้ชะตากรรมที่รออยู่ ขณะที่เดินผ่านผู้คนในล็อบบี้ เซบาสเตียนเพียงแค่พยักหน้าให้เจ้าหน้าที่และพนักงานที่จำเขาได้ในฐานะบุคคลที่สมบูรณ์แบบ มองเผินๆ เขาดูเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์ มีรสนิยมและความสุภาพเป็นที่ประทับใจ แต่ไม่มีใครรู้ว่าในความสมบูรณ์แบบนี้มีความลึกลับที่ชวนขนลุกซ่อนอยู่ เขาขึ้นรถที่จอดรออยู่ เสียงเครื่องยนต์เริ่มทำงาน แสงไฟข้างถนนส่องผ่านหน้าต่างกระทบใบหน้า ทำให้เงาของเขาดูเข้มขลังและเยือกเย็น การเดินทางสู่เป้าหมายเริ่มต้นขึ้น เซบาสเตียนรู้ดีว่าการล่าในครั้งนี้จะนำพาเขาไปสู่ความรู้สึกที่เขาตามหา—การควบคุม ความเป็นเจ้าของ และความรู้สึกที่เขาค้นหาในใจตนเองมาตลอด ในค่ำคืนนี้ ไม่มีสิ่งใดจะหลุดพ้นจากมือของเขาได้รถยนต์หรูแล่นไปตามถนนที่มืดมิดไร้ผู้คน เซบาสเตียนนั่งเงียบ ๆ ปล่อยให้บรรยากาศอันหนาวเหน็บและเสียงเครื่องยนต์กลบความเงียบสงัดภายในรถ ความตื่นเต้นในใจเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เขากุมพวงมาลัยแน่น สูดหายใจลึก ทิ้งความคิดทุกอย่างไว้เบื้องหลัง และจดจ่อกับเกมที่กำลังจะเริ่มขึ้น
เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง แสงไฟจ้าในโรงแรมหรูหราอีกแห่งที่เพิ่งมาถึงทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูไร้ที่ติ เขาก้าวลงจากรถด้วยท่าทีสง่างาม เดินผ่านลอบบี้โดยไม่ใส่ใจสายตาของผู้คนที่หันมามอง ใบหน้าที่สงบเยือกเย็นและรอยยิ้มบางเบาแสดงถึงความมั่นใจและเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นซ่อนความลับอันดำมืดที่ไม่มีใครอาจคาดเดาได้ เขาเดินเข้าสู่ห้องสวีทที่จองไว้ แสงไฟอ่อนโยนที่ตกแต่งห้องด้วยสไตล์หรูหรา ขับเน้นความสลัวของบรรยากาศ เซบาสเตียนหันไปหานาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ แสงนาฬิกาบอกเวลาที่เขารอคอยใกล้จะมาถึง เขาทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง เมืองใหญ่ที่อยู่เบื้องล่างนั้นดูเหมือนเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ในโลกของเขา ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้น เซบาสเตียนหันกลับมา สายตาของเขาทอประกายเย็นเยียบ พลางลุกขึ้นเดินไปที่ประตู เปิดออกด้วยท่าทีสุภาพแต่ทรงอำนาจ หญิงสาวในชุดขาวที่เขารอคอยยืนอยู่เบื้องหน้า แววตาของเธอเต็มไปด้วยความประหม่าผสมกับความสนใจในเสน่ห์อันเยือกเย็นของเขา แต่เธอไม่รู้เลยว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา เซบาสเตียนเชื้อเชิญให้เธอเข้ามาในห้องด้วยท่าทีที่อบอุ่น คำพูดที่นุ่มนวลแต่ทรงพลังของเขาทำให้เธอรู้สึกไว้วางใจและยอมก้าวเข้าสู่โลกของเขาโดยไม่รู้ตัว แม้ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่คำพูดของเขาอบอุ่นและเป็นกันเอง เขาสร้างภาพลวงที่สมบูรณ์แบบ ให้เธอรู้สึกปลอดภัยในกับดักที่เขาวางไว้อย่างแยบยล เสียงเพลงคลาสสิกเริ่มบรรเลงอีกครั้งเป็นฉากหลัง ทำนองแผ่วเบานำพาความสงบเยือกเย็นเข้าสู่ห้อง และในขณะนั้น เซบาสเตียนก็รู้สึกถึงความสุขอันแท้จริง ความพึงพอใจที่หาได้ยากจากโลกภายนอก เขารู้สึกเหมือนได้ครอบครองทุกสิ่งในมือ เหมือนผู้ควบคุมวงซิมโฟนีในค่ำคืนนี้ที่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องอย่างลังเล ดวงตาของเธอพยายามสำรวจบรรยากาศรอบตัว ในขณะที่เซบาสเตียนปิดประตูช้า ๆ เขาก้าวเข้าไปใกล้เธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “คุณไม่ต้องกังวล” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและเยือกเย็น “อยู่กับผม…ที่นี่คุณจะปลอดภัย” เธอพยักหน้าเล็กน้อย พลางยิ้มกลับอย่างประหม่า แม้ในใจจะรู้สึกแปลก ๆ แต่เสน่ห์ที่เขาปลดปล่อยออกมาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดโดยไม่อาจต้านทาน เซบาสเตียนเดินไปหยิบแก้วไวน์ส่งให้เธอ ขณะที่เธอรับแก้วไวน์มา เขาก็เอ่ยขึ้นว่า “คุณเคยคิดไหมว่า…การได้ควบคุมบางสิ่งบางอย่างมันรู้สึกอย่างไร?” เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง ราวกับกำลังสำรวจจิตใจของเธอ เธอหัวเราะเบา ๆ ตอบกลับอย่างเล่น ๆ “ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนั้นเลยค่ะ คงเพราะไม่ใช่คนที่ต้องการควบคุมอะไรใคร ๆ” เซบาสเตียนยิ้มเล็กน้อย “นั่นแหละ ที่ทำให้คุณพิเศษ คุณบริสุทธิ์มากกว่าที่คุณคิด” หญิงสาวยิ้มตอบกลับ รู้สึกเหมือนถูกยกย่อง แต่ยังไม่รู้ว่าคำพูดของเขาแฝงนัยยะที่ชวนให้หวาดหวั่น เธอจิบไวน์อย่างระมัดระวัง ไม่ทันสังเกตถึงประกายเยือกเย็นในสายตาของเขาที่สะท้อนอยู่ในแสงไฟสลัว “คุณรู้ไหม” เขาเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล “บางครั้งผมรู้สึกว่า…การที่เราได้ครอบครองใครสักคน มันก็เหมือนกับการได้ครอบครองทั้งโลก” หญิงสาวมองเขาด้วยความสงสัย “ฟังดู…เข้มข้นนะคะ” เซบาสเตียนยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มที่ดูสุภาพ แต่แฝงความลึกลับ “บางทีเราทุกคนต่างก็มองหาคนที่เข้าใจเรา คนที่เราสามารถ…ครอบครองได้อย่างแท้จริง” เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้ กระซิบเสียงแผ่วเบาที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความเยือกเย็นของลมหายใจเขา “คืนนี้…ผมอยากให้คุณเป็นคนนั้น” หญิงสาวจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา ความรู้สึกหวั่นใจเริ่มก่อตัวขึ้นในใจอย่างไม่อาจอธิบายได้ เธอรู้สึกเหมือนถูกสะกดจิต ถูกดึงดูดเข้าสู่โลกที่มืดมนและเยือกเย็น แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลย เซบาสเตียนยิ้มเบา ๆ ราวกับกำลังสนุกกับเกมที่เขาเป็นผู้วางแผนทุกอย่าง และรู้ดีว่า…เธออยู่ในมือของเขาเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวหายใจลึก มองเขาอย่างครุ่นคิด ขณะที่เซบาสเตียนยังคงจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่แฝงความลึกลับและเสน่ห์ราวกับมีกระแสไฟฟ้าดึงดูด “คุณดูเหมือนคนที่มีเรื่องราวในใจมากมาย” เธอกล่าวขึ้นเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ระคนด้วยความสงสัยและความสนใจ เซบาสเตียนหัวเราะเบา ๆ เสียงหัวเราะที่ฟังดูนุ่มนวลแต่เจือความลึกลับ “บางทีนะครับ…บางเรื่องก็เก็บไว้ให้รู้เฉพาะเราเองจะดีกว่า” เขาขยับเข้ามาใกล้เธออีกนิด พลางยกมือขึ้นจับเส้นผมของเธอเบา ๆ ปลายนิ้วไล้ลงบนเส้นผมราวกับเธอเป็นสิ่งมีค่า เธอรู้สึกถึงสัมผัสอันแผ่วเบาแต่ทรงพลัง จนทำให้หัวใจเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว เซบาสเตียนยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงที่ชวนฝัน “ความลับเหล่านั้น บางครั้งมันก็สวยงามกว่าความจริงทั้งหมด” เธอมองเขาอย่างหลงใหล รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เธออยากรู้จักให้ลึกซึ้ง แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ เป็นความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน เซบาสเตียนหยิบแก้วไวน์ของเธอออกจากมือ แล้วมองเธอด้วยสายตาที่เยือกเย็น เขาพูดขึ้นด้วยเสียงที่นุ่มนวลแต่แฝงความเย็นชา “คุณรู้ไหมครับ…บางครั้งความกลัวนั่นแหละที่ทำให้เรารู้สึกมีชีวิต มันเป็นเครื่องเตือนว่าเรายังมีหัวใจ” เธอกลืนน้ำลายช้า ๆ ไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไร จึงได้แต่พยักหน้าเบา ๆ ขณะที่หัวใจเต้นแรง เซบาสเตียนโน้มตัวเข้าไปใกล้ ริมฝีปากของเขาแทบจะกระซิบที่หูของเธอ “คุณอยากลองสัมผัสความกลัวนั้นไหม…ความรู้สึกที่จะทำให้คุณรู้ว่าคุณมีชีวิตอยู่จริง ๆ?” หญิงสาวหายใจสั่น เธอรู้ดีว่าเธอกำลังจะเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่อาจจะเกินกว่าที่เธอเคยพบเจอมาก่อน แต่ในตอนนี้ เธอกลับไม่อาจละสายตาหรือปฏิเสธเขาได้ ความรู้สึกของเธอถูกดึงเข้าสู่เส้นทางที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและอันตรายราวกับติดอยู่ในกับดักที่เขาวางไว้อย่างชาญฉลาด เซบาสเตียนยิ้มอีกครั้ง คราวนี้เป็นรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันเบา ๆ ที่เขาเก็บไว้ในใจขณะกุมอำนาจทุกอย่างในมือ “งั้นเรามาเริ่มกันเลย…ความกลัวที่คุณจะไม่มีวันลืม”ห้องพักที่หรูหราในโรงแรมเต็มไปด้วยความเงียบงัน ราวกับเสียงทุกเสียงถูกกลืนหายไปในความมืด หญิงสาวในชุดขาวนั่งอยู่บนโซฟา มองไปรอบ ๆ ด้วยความกังวลแฝงอยู่ในดวงตา แต่สายตาของเธอกลับสะกดจ้องที่เซบาสเตียน ผู้ชายที่ยืนอยู่ในเงามืด สายตาของเขามืดลึกและเยือกเย็น ราวกับว่ากำลังสังเกตเธอจากมุมหนึ่งของห้อง ดวงตาของเขาดูนิ่งสนิทแต่มีประกายที่เธออ่านไม่ออกเซบาสเตียนเดินเข้ามาใกล้ช้า ๆ ราวกับนักล่าที่กำลังจ้องเหยื่อ เขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์อีกใบ ยื่นให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าเงียบ ๆ น้ำเสียงนุ่มนวลของเขากลับทำให้เธอรู้สึกถึงความหนาวเหน็บที่เล็ดลอดออกมาจากทุกคำ“คุณเคยรู้สึกไหมว่า…คุณถูกจับจ้องอยู่ตลอดเวลา?”หญิงสาวรับแก้วไวน์มาอย่างลังเล หัวใจเต้นแรงจนเธอแทบได้ยินเสียงของตัวเอง เธอจิบไวน์เล็กน้อย พยายามคุมสติ แต่กลับรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองจากทุกมุมรอบตัว“ทำไมคุณถึงถามแบบนั้นคะ?” เธอกล่าวออกมาเบา ๆเซบาสเตียนยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มที่เย็นเยียบแต่ทรงพลัง “เพราะบางครั้ง…การที่เรารู้ว่าใครบางคนจับตาดูเราอยู่ มันก็ทำให้เราเริ่มสงสัยว่า...เราอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยจริงหรือไม่”หญิงสาวรู้สึกถึงความหนาวเห
ห้องพักที่หรูหราในโรงแรมเต็มไปด้วยความเงียบงัน ราวกับเสียงทุกเสียงถูกกลืนหายไปในความมืด หญิงสาวในชุดขาวนั่งอยู่บนโซฟา มองไปรอบ ๆ ด้วยความกังวลแฝงอยู่ในดวงตา แต่สายตาของเธอกลับสะกดจ้องที่เซบาสเตียน ผู้ชายที่ยืนอยู่ในเงามืด สายตาของเขามืดลึกและเยือกเย็น ราวกับว่ากำลังสังเกตเธอจากมุมหนึ่งของห้อง ดวงตาของเขาดูนิ่งสนิทแต่มีประกายที่เธออ่านไม่ออกเซบาสเตียนเดินเข้ามาใกล้ช้า ๆ ราวกับนักล่าที่กำลังจ้องเหยื่อ เขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์อีกใบ ยื่นให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าเงียบ ๆ น้ำเสียงนุ่มนวลของเขากลับทำให้เธอรู้สึกถึงความหนาวเหน็บที่เล็ดลอดออกมาจากทุกคำ“คุณเคยรู้สึกไหมว่า…คุณถูกจับจ้องอยู่ตลอดเวลา?”หญิงสาวรับแก้วไวน์มาอย่างลังเล หัวใจเต้นแรงจนเธอแทบได้ยินเสียงของตัวเอง เธอจิบไวน์เล็กน้อย พยายามคุมสติ แต่กลับรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองจากทุกมุมรอบตัว“ทำไมคุณถึงถามแบบนั้นคะ?” เธอกล่าวออกมาเบา ๆเซบาสเตียนยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มที่เย็นเยียบแต่ทรงพลัง “เพราะบางครั้ง…การที่เรารู้ว่าใครบางคนจับตาดูเราอยู่ มันก็ทำให้เราเริ่มสงสัยว่า...เราอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยจริงหรือไม่”หญิงสาวรู้สึกถึงความหนาวเห
ในค่ำคืนที่ความมืดเข้าปกคลุม ผนังห้องสลัวของห้องชุดหรูที่เต็มไปด้วยความเงียบสงัด บรรยากาศเย็นยะเยือกในยามดึก ตัดกับแสงไฟสีอ่อนจากหน้าต่างบานสูงที่ปล่อยเงาสะท้อนเป็นเส้นยาวลงบนพื้นหินอ่อน เซบาสเตียน นั่งอยู่ที่มุมหนึ่งในห้อง ร่างสูงสง่างามเอนตัวลงกับเก้าอี้หนังอย่างผ่อนคลาย พลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างเชื่องช้า เขามองแสงไฟที่พร่ามัวผ่านแก้วใส เหมือนจะพิจารณาทุกแง่มุมของมันด้วยความรื่นรมย์ที่ยากจะเข้าใจเสียงเพลงคลาสสิกแผ่วเบาดังจากลำโพงในมุมห้อง ดนตรีที่เขาเลือกเสมอในยามที่ต้องการอยู่กับความคิดตนเอง บทเพลงที่ทำให้เขารู้สึกถึงความเงียบสงบ ทว่าแฝงไว้ด้วยแรงดึงดูดทางอารมณ์ที่ยากจะต้านทาน เขาสูดลมหายใจยาว พลางปล่อยความคิดลอยไปกับเสียงเพลง แต่ลึกๆ แล้ว เขารู้ดีว่าสิ่งที่ทำให้เขาพึงพอใจ ไม่ใช่เสียงดนตรีเหล่านั้น หากแต่เป็นความคาดหวัง ความท้าทายที่กำลังรอเขาอยู่ในอนาคต ความลึกลับที่เขาเตรียมไว้—เส้นทางที่เขาวางไว้ให้ผู้ที่อยู่ภายใต้เกมของเขาเดินตามดวงตาคมกริบของเซบาสเตียนเหลือบมองออกไปยังเมืองที่ส่องแสงไฟยามค่ำคืน จากหน้าต่างสูงของห้องชุดที่หรูหรา ทุกสิ่งที่เห็นด้านล่างช่างไร้ค่าและเต็มไปด้ว